หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ข่าวสวีเดนเล็งขายกริฟเฟนรุ่นใหม่ 300 ลำ

โดยคุณ : seaman เมื่อวันที่ : 20/09/2012 14:41:45

มีข่าวออกมา 2-3 วันแล้ว ในเวปเพื่อนบ้านก็มี เลยเก็บเอามาฝากครับ


บินรวมญาติ -- กริพเพน C ของทัพฟ้าไทยบินเข้าฝูงกับกริพเพน C และ D ของกองทัพอากาศสวีเดน สาธารณรัฐเช็ค ฮังการี แอฟริกาใต้ และของโรงเรียนทดสอบนักบินแห่งสหราชอาณาจักร (Empire Test Pilots’ School) ในภาพที่ไม่ได้ระบุวันถ่าย กลุ่มบริษัทผู้ผลิตกำลังเร่งทดสอบเพื่อผลิต Gripen NG ออกจำหน่ายโดยตั้งเป้า 300 ลำในระยะ 10 ปีข้างหน้า. -- Photo by Jamie Hunters/Copyright Saab AB.
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มบริษัทซาบ (Saab Group) ผู้ผลิตอากาศยานของสวีเดนตั้งเป้าจะส่งออกเครื่องบินรบ JAS-39 Gripen ยุคใหม่ให้ได้อย่างน้อย 30 ลำ ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ โดยเล็งเป้าหมายทั้งในยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชีย บริษัทรายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์ของกลุ่ม อ้างการเปิดเผยของนายเอ็ดดี เดอ ลา มอตต์ (Eddy de la Motte) ผู้อำนวยการฝ่ายาส่งออก

ปัจจุบัน กริพเพนมียอดขาย และยอดสั่งซื้อกว่า 240 ลำ และกำลังประจำการอยู่ใน 6 ประเทศ รวมทั้งกองทัพอากาศสวีเดน และไทยด้วย ส่วนอังกฤษ ซื้อกริพเพนสำหรับเป็นเครื่องบินฝึกนักบินของกองทัพอากาศแห่งสหราชอาณาจักร ประเทศอื่นๆ ได้แก่สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี และแอฟริกาใต้

รายงานยังระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวจำทำให้ Saab มีส่วนแบ่งราว 10% ในตลาดเครื่องบินรบโลก ขณะที่กลุ่มนี้กำลังเร่งทดสอบเพื่อผลิตกริพเพนยุคใหม่ที่เรียกว่า กริพเพนเอ็นจี (Gripen NG) หรือ New Generation หรือกริพเพน E/F และ MS21ชื่อเรียกทั่วไป

กริพเพน NG ติดเครื่องยนต์ทันสมัยล่าสุดที่พัฒนาต่อจากเครื่องยนต์ F414G ของ บริษัทเยเนอรัลอิเล็กทริก (General Electric) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้กับ F/A-18E/F “ซูเปอร์ฮอร์เน็ต” เครื่องบินรบอเนกประสงค์

กริพเพนรุ่นปัจจุบัน ติดเครื่องยนต์ Volvo-Flygmotor RM12 โดยบริษัทวอลโว่ ที่พัฒนาจาก F404-400 ของเยเนอรัลอิเล็กทริกภายใต้ลิขสิทธิ์ของวอลโว่ ทำให้ JAS-39 ทำความเร็วสูงสุดได้ 2,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรัศมีทำการราว 3,200 กม. เครื่องยนต์รุ่นใหม่จะทำให้กริพเพน NG เร็วขึ้น

กลุ่ม Saab กล่าวว่า เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายดังกล่าว กริพเพนยุคหน้าจะต้องมีทั้งรุ่นทั่วไป และรุ่นที่สามารถขึ้นลงเรือบรรทุกเครื่องบินอีกด้วย โดยกองทัพเรืออินเดีย กับกองทัพเรือบราซิลซึ่งต่างก็มีเรือบรรทุกเครื่องบิน อาจจะเป็นลูกค้ารายใหญ่

ไืทยเป็นชาติแรกในย่านเอเชียทีีมี JAS-39 ประจำการ อินเดียอาจจะเป็นประเทศต่อไป โดยอินเดียความสนใจ Gripen NG เพื่อใช้ประจำเรือบรรทุกเครื่องบินอีกลำหนึ่งซึ่งจะเป็นลำที่ 3 ในโครงการเพิ่มขยายขีดความสามารถของกองทัพเรือ ขณะเดียวกัน ก็มีแผนการจะปลดประจำการเรือบรรทุกเครื่องบินเก่าของอังกฤษที่ใช้งานมานาน และใช้ได้เฉพาะกับอากาศยานที่ขึ้นลงทางดิ่งได้เท่านั้น

เรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 คือเรือ “วิกรมทิตย์” (Vikramaditya) อยู่ระหว่างการทดสอบใช้งานจริง และทดสอบระบบอาวุธต่างๆ ในทะเลเหนือ รัสเซียมีกำหนดส่งมอบให้แก่อินเดียในปลายปีนี้ และอินเดียได้เลือกเครื่องบินมิก-29

สำหรับ JAS-39 เป็นเครื่องบินรบขนาดเล็ก ได้เปรียบเรื่องความคล่องตัว สามารถขึ้นลงได้บนทางวิ่งระยะสั้นๆ แม้กระทั่งบนทางหลวง ทำให้สามารถติดอาวุธใหม่ (Re-arm) ได้ในทุกที่ที่การสนับสนุนเข้าถึง โดยไม่จำเป็นต้องบินกลับฐานทัพ

เครื่องบินติดปืนใหญ่อากาศขนาด 27 มม. มีจุดติดอาวุธตามโครงลำตัว และใต้ปีกรวม 8 จุด ทั้งจรวดนำวิถีแบบอากาศสู่อากาศ และอากาศสู่พื้น รวมทั้ง “สมาร์ท บอมบ์” ด้วย เป็นเครื่องบินรบอเนกประสงค์ประสิทธิภาพสูงมากอีกรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน และมีชื่อเสียงในด้านค่าบำรุงรักษาที่ต่ำมากตลอดอายุใช้งาน ราคาจำหน่ายลำละ 40-60 ล้านดอลลาร์

การซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่เพื่อเข้าแทนที่ฝูงบิน F-5E ของกองทัพอากาศไทยมีการเตรียมการมายาวนาน และมีการพลิกผันมาตามยุคสมัย ก่อนจะลงตัวเป็นเครื่องบินรบของสวีเดน และในที่สุด 6 ลำแรกซึ่งเป็น Gripen C ที่นั่งเดียว และ Gripen D สองที่นั่ง ก็ส่งมอบให้ไทยในเดือน ก.พ.2553 พร้อมสัญญาซ่อมบำรุง ชิ้นส่วนอะไหล่ กับการสนับสนุนด้านต่างๆ เป็นเวลา 2 ปี อีก 6 ลำมีกำหนดส่งมอบปี 2556

การซื้อกริพเพนของไทยยังพ่วงเข้ากับระบบเตือนการณ์ล่วงหน้าทางอากาศ (Aerial Early Warning System) โดยเครื่องบิน Saab 340-AEW AWACS ติดระบบเรดาร์ตรวจการณ์ “อีรีอาย” (Erieye) ซึ่งส่งให้ไทยลำแรกตามกำหนดในเดือน ธ.ค.2553 และลำที่สองในปี 2556

กลุ่มซาบยังเป็นผู้ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารบนเรือหลวงจักรีนฤเบศให้แก่ราชนาวีไทยอีกด้วย เพื่อให้สามารถ “ซิงค์” หรือเชื่อมโยงระบบสื่อสาร ระบบบัญชาการ และอำนวยการเข้ากับฝูงบิน JAS-39 กริพเพนทั้ง 12 ลำได้ในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้เป็นรายงานใน Defenseindustrydaily.Com เว็บไซต์ข่าวอุตสาหกรรมกลาโหมยอดนิยมแห่งหนึ่ง

ซาบยังรายงานในเว็บไซต์ SaabGroup.Com คาดว่า ไทยอาจจะซื้อกริพเพนถึง 40 ลำในอนาคต.
.


JAS-39/D "กริพเพน" หนึ่งใน 6 ลำแรกของไทยไม่ได้ระบุวันถ่ายและไม่ทราบด้วยเหตุผลใดภาพนี้กำลังเป็น "ภาพยอดนิยม" ในเว็บไซต์ของ SaabGroup.Com ประจำสัปดาห์นี้ จนถึงวันอังคาร 18 ก.ย.นี้มีผู้เข้าชมกว่า 9,400 ครั้ง กลุ่มผู้ผลิตเครื่องบินของสวีเดนประกาศแผนการส่งออกกริพเพน "ยุคใหม่" หรือ Gripen NG ให้ได้ 300 ลำภายใน 10 ปีข้างหน้า อินเดียอาจจะเป็นลูกค้ารายต่อไป เป็นรายที่สองในย่านนี้ถัดจากไทย. -- Photo by Stefan Kalm/Copyright Saab AB.

กริพเพน NG บินคู่กับ กริพเพน D (หมายเลข 822) ในภาพที่ไม่ได้ระบุวันถ่าย กลุ่มผู้ผลิตเครื่องบินแห่งสวีเดนคือ SaabGroup ประกาศแผนจะส่งออก Gripen NG หรือ "กริพเพนยุคใหม่" ให้ได้ 300 ลำภายใน 10 ปี ทั้งรุ่นธรรมดาทั่วไปและรุ่นที่บินขึ้นลงเรือบรรทุกเครื่องบินได้ ซึ่งอินเดียอาจจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ในย่านนี้ และเป็นรายที่สองถัดจากไทย. -- Award Winning Photo by Jamie Hunters/Copyright Saab AB.

อวดโฉม -- พล.อ.ตันศรีดาโตะศรีบินดาอุด (Tan Sri Dato’Sri bin Daud) ผบ.ทอ.มาเลเซีย ต้อนรับนักบินในคณะของ น.อ.เอก ถาวรวัฒน์ จันทนาคม รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม Air Thamal 22/2012 ส่วนกองทัพอากาศ ที่ไปร่วมประชุมวางแผนขั้นต้น โอกาสนี้ ทอ.จัดส่ง JAS-39 C/D จำนวน 2 ลำ ไปเยือนกองทัพอากาศมาเลเซีย 5-9 ธ.ค. 2554 ที่เกาะลังกาวี กริพเพนขึ้นบินก็ง่ายลงก็สะดวก. -- ภาพ: Gripen.Rtaf.Mi.Th.
4


ขออวดหน่อย -- พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชการทหารอากาศ ต้อนรับ พล.อ.วินอองหล่าย (Win Aung Hlaing) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่าที่ไปเยี่ยมชมกิจการกองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ้านของ JAS-39 กับ Saab 340-AEW AWACS กองทัพอากาศไทย วันที่ 11 ม.ค.2555 ไทยเป็นประเทศแรกในย่านเอเชียที่ได้เป็นเจ้าของ JAS-39 แต่ไม่นานคงจะไม่เหงาแล้ว. -- ภาพ: Gripen.Rtaf.Mi.Th.
5


เครื่องบิน JAS-39/D กริพเพนของไทย ซึ่งประจำที่ฝูงบิน 701 กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ขึ้นบินเที่ยวแรกในประเทศไทยวันที่ 15 มี.ค.2554 พร้อมครูฝึกชาวสวีเดน เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ก่อนใครๆ ในย่านนี้ นักบินไทยไปฝึกในสวีเดนมาแล้วอย่างน้อย 2 รุ่น และยังจะต้องสร้างกับหลายคน บริษัท Saab Group แห่งสวีเดนคาดว่าไทยอาจจะซื้อเครื่องบินรบรุ่นนี้ถึง 40 ลำ. -- ภาพ: Gripen.Rtaf.Mi.Th.
6


เครื่องบิน JAS-39/D กริพเพนของไทย ขึ้นบินเที่ยวแรกในประเทศไทยที่กองบิน 7 สุราษฎร์ธานีวันที่ 15 มี.ค.2554 พร้อมครูฝึกชาวสวีเดน เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ก่อนใครๆ ในย่านนี้ นักบินไทยไปฝึกในสวีเดนมาแล้วอย่างน้อย 2 รุ่น และยังจะต้องสร้างกับหลายคน บริษัท Saab Group แห่งสวีเดนคาดว่าไทยอาจจะซื้อเครื่องบินรบรุ่นนี้ถึง 40 ลำ. -- ภาพ: Gripen.Rtaf.Mi.Th.
7


พิธีบรรจุเข้าประจำการ JAS-39C/D ทั้ง 6 ลำในลอตแรกกับ Saab 340 AEW/B จัดขึ้นที่กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี 7 ก.ค.2554 สวีเดนมีกำหนดส่งมอบกริพเพนอีก 6 ลำกับ Saab 340 AEW/B แบบเดียวกันนี้ให้ไทยอีกในปี 2556 บริษัทผู้ผลิตกล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า มีแผนการจะส่งออก Gripen NG หรือ กริพเพนยุคใหม่ได้ให้ถึง 300 ลำภาย ในระยะ 10 ปีข้างหน้า. -- ภาพ: Gripen.Rtaf.Mi.Th.
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000114857
2

จำนวนผลิตกริฟเฟนรุ่น C/D และฐานลูกค้า




ความคิดเห็นที่ 1


หลายๆคน รวมทั้งผมด้วย .. เคยคิดว่า สวีเดนจะมาตั้งฐานการผลิตกริฟเพนในไทย

ยูเครน มาตั้งฐานผลิตรถถังในไทย ..

 

...  ที่ผ่านมา เราคงคิดไปเองฝ่ายเดียว  ผมว่า ทั้งสวีเดน ทั้งยูเครน คงไม่ ออนซอน

กับเราดอก

 

ผมคิดว่า มีประเทศเดียว ที่พร้อมจะมาตั้งฐานผลิตยุทธภันฑ์ ทางทหาร คือ ญี่ปุ่น

ติดปัญหา คือ ไม่ทราบว่า ญี่ปุ่น สามารถผลิตอาวุธหรือเครื่องบินรบได้แล้วยัง

เท่าที่ทราบ ตอนที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม โดนห้ามผลิตอาวุธ มาถึงวันนี้ ญี่ปุ่นกำลังมีปัญหา

กับจีน และ เกาหลี .. ถ้าญี่ปุ่น ผลิตอาวุธ หรือ เครื่องบินได้ ผมคิดว่า เทคโนโลยีแปลกๆ

ฉบับญี่ปุ่นคงออกมาเพียบ ..  และเราคงเป็นฐานผลิตให้ญี่ปุ่นได้แน่นอน

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 19/09/2012 00:50:22


ความคิดเห็นที่ 2


กพ. 2553 ไวจังครับ ผมยังนึกว่าเพิ่งได้รับมอบเมื่อต้นปีนี้เอง

โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 19/09/2012 02:51:42


ความคิดเห็นที่ 3


ภาวนาให้เขาขายได้ตามเป้า กริฟเพนจะได้อยู่ยืดๆยาวๆ 

โดยคุณ Anuchon เมื่อวันที่ 19/09/2012 15:43:22


ความคิดเห็นที่ 4


ญี่ปุ่นไม่ได้ถูกห้ามผลิตครับ แต่ถูกห้ามผลิตบางประเภทครับ

เพราะจากที่เคยอ่านมารัฐบาลเค้าก็เลือกที่จะใช้อาวุธบางประเภทที่ผลิตในประเทศ

ถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าไปซื้อมา แต่เค้าเห็นว่าถ้าผลิตเองจะได้ความรู้ด้วย

และเมื่อไม่กี่เดือนก่อน รัฐสภาญี่ปุ่นก็ได้ผ่านกฎหมายที่จะส่งออกเครื่องยนต์เครื่องบินรบได้

โดยสหรัฐก็ได้ซื้อเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินรบ ไม่แน่ใจว่า F22 หรือเปล่า

เหตุผลก็เพื่อจะได้ลดต้นทุนครับ ผมจำได้คร่าวๆ ประมาณนี้

ส่วนในรายละเอียดขอเป็นคนที่แน่นกว่าผมมาตอบดีกว่าครับ

โดยคุณ bhm เมื่อวันที่ 19/09/2012 19:50:23


ความคิดเห็นที่ 5


ระวังนะครับ  เมื่อหัวเปลี่ยน อะไรๆมันก็เปลี่ยนได้ครับ หัวบางหัว หวังว่าน้องรักที่กำลังจะมาแทน จะคงนโยบายเดิมๆไว้ต่อ แต่อดีตมันสอนเราหลยครั้ง ว่าพอหมดอำนาจแล้ว อะไรๆมันก้เปลี่ยนแปลงได้ครับ

โดยคุณ FatBoy เมื่อวันที่ 20/09/2012 14:41:45