หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


บทสัมภาษณ์ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ เืองในวัน เรอดำน้ำ ท่านที่เชียร์ ทร. อยู่ ต้องอ่าน

โดยคุณ : kapooknet200 เมื่อวันที่ : 08/09/2012 22:38:15

- คำถามแรกอยากถามคำถามที่เชื่อว่าทุกคนถามกันมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาคือ มันเกิดอะไรขึ้นกับโครงการจัดหาเรือดำน้ำ U-206A?

เอาเข้าจริงคือ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ทางกองทัพเรือทำเรื่องเสนอไปแล้ว และเรื่องก็ผ่านขึ้นไปตามลำดับชั้น ซึ่งระหว่างทางมีการพิจารณาความเหมาะสมค่อนข้างมาก มากจริง ๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ล่าช้าจนเราตอบรับข้อเสนอของทางเยอรมันไม่ทันตามกำหนด

- อนาคตต่อไปของโครงการจัดหาเรือดำน้ำเป็นอย่างไร?

ตอนนี้ที่แน่นอนก็คือโครงการจัดหาเรือดำน้ำ U-206A ยุติไปแล้ว ในส่วนของกองเรือดำน้ำเองก็เลยเปลี่ยนไปจัดหาเครื่องฝึกห้องศูนย์ยุทธการของเรือดำน้ำ และจัดสร้างอาคารที่ทำการกองเรือดำน้ำเป็นการเตรียมตัวเอาไว้ นอกจากนั้นเราจะส่งนายทหารไปเข้ารับการฝึกศาสตร์และเทคโนโลยีของเรือดำน้ำที่ประเทศเยอรมันเพื่อเป็นพื้นฐานต่อไป

ซึ่งการส่งคนไปฝึกนั้นนอกจากจะไปรับความรู้เกี่ยวกับเรือดำน้ำแล้ว เราจะนำข้อมูลมาพิจารณาเปรียบเทียบเรือดำน้ำแบบต่างๆ เพื่อเตรียมการสำหรับการจัดหาเรือดำน้ำในอนาคต ซึ่งหมายถึงเราไม่ได้ส่งคนไปฝึกที่เยอรมันอย่างเดียว แต่จะส่งไปฝึกตามประเทศต่างๆ เช่น นอกจากเยอรมันแล้วเราจะส่งคนไปฝึกที่เกาหลีใต้ด้วย อินเดียก็น่าสนใจที่จะส่งคนไปฝึก ตรงนี้แล้วแต่ว่าประเทศใดจะเสนอให้เราไปฝึกด้วย เพราะข้อจำกัดคือเรื่องภาษา เพราะประเทศเยอรมันมีหลักสูตรภาษาอังกฤษ เนื่องจากเขาต้องฝึกให้กับหลายประเทศทั่วโลก ส่วนเกาหลีใต้ก็กำลังเตรียมหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อฝึกให้อินโดนิเซีย แต่สำหรับบางประเทศอย่างจีนซึ่งไม่มีหลักสูตรภาษาอังกฤษ เราก็อาจพิจารณาส่งนักเรียนนายเรือไปเรียนโรงเรียนนายเรือที่นั่น และพอจบมาก็ให้ฝึกกับเรือดำน้ำต่อเลย เพื่อลดอุปสรรคด้านภาษา

ตอนนี้ ที่ดำเนินการหมดก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้การจัดหาเรือดำน้ำในครั้งต่อไปใช้เวลาสั้นที่สุด โดยเราเน้นเตรียมคนเพราะคนสำคัญที่สุด

- จากที่โครงการที่ผ่านมาประสบความล้มเหลวและไม่เป็นไปตามแผน ตรงนี้จะทำให้มีช่องว่างของศักยภาพกำลังรบ (Capability Gap) ของกองทัพเรือไทยหรือไม่?

จริงๆ แล้วถ้าโครงการ U-206A ประสบความสำเร็จนั้นก็จะเป็นไปตามแผนพอดี แต่ตรงนี้มันมีที่มาที่ไปคือ ในครั้งแรกเป็นรัฐบาลเองที่เห็นว่าประเทศไทยควรจะมีเรือดำน้ำ จึงให้กองทัพเรือไปศึกษามาว่าจะมีแผนการจัดหาอย่างไร และใช้งบประมาณเท่าไหร่ โดยให้งบประมาณการศึกษาและเตรียมการมา 600 ล้านบาท 

กองทัพเรือจึงไปศึกษามาจนได้แผนการจัดหาเรือดำน้ำมือหนึ่งจำนวน 2 ลำ ใช้งบประมาณราว 5 หมื่นล้านบาท เป็นงบผูกพัน 7 ปี และนำเรื่องเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ แต่ให้ความเห็นว่างบประมาณค่อนข้างมากและผูกพันนานไป จึงให้ไปปรับแก้

ซึ่งประจวบเหมาะกับที่กองทัพเรือเยอรมันติดต่อเข้ามาว่า ทางกองทัพเรือเยอรมันจะปลดประจำการเรือดำน้ำ U-206A จึงอยากเสนอขายให้กองทัพเรือไทย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากเพราะใช้งบประมาณน้อยมาก แต่สุดท้ายก็เกิดปัญหาและความล่าช้าจนส่งเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติไม่ทัน

ปัจจุบันคงต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณ ซึ่งดูแผนงบประมาณแล้วคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปีนับจากนี้ เพราะต้องรอให้งบประมาณผูกพันโครงการอื่นของกองทัพเรือนั้นหมดก่อน ก็เหมือนเริ่มต้นใหม่

ถ้าได้งบประมาณจนสั่งซื้อได้แล้ว ก็ต้องรอจัดสร้างราว 4 ปี หลังจากนั้นก็ต้องรอทำการฝึก ซึ่งการฝึกนั้นใช้เวลา 2 ปีแต่เป็นการฝึกขั้นพื้นฐานเพื่อให้สามารถเดินเรือได้อย่างปลอดภัย (Safe to Sail) เท่านั้น แต่ยังรบไม่ได้ ถ้าจะรบได้ต้องฝึกเพิ่มอีกราว 2 ปี เช่น กองทัพเรือฝรั่งเศส ซึ่งกำหนดว่าลูกเรือของเรือดำน้ำจะพร้อมรบได้ต้องผ่านการฝึกเป็นจำนวน 6,000 ชั่วโมงทะเล ซึ่ง ก็คือ ประมาณ 4 ปี

แต่ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องเตรียมการ เพราะเรายังเชื่อว่าเรือดำน้ำเป็นเครื่องมือที่สำคัญและน่ากลัวไม่ว่าจะใหม่หรือเก่าแค่ไหน อย่างเช่น เรือดำน้ำเกาหลีเหนือซึ่งเก่าและล้าสมัยมาก ก็ยังสามารถจมเรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำของเกาหลีใต้ที่ทันสมัยได้โดยที่เกาหลีใต้ไม่รู้ตัวเลย หรือการที่เรือดำน้ำของจีนสามารถโผล่ขึ้นมากลางกองเรือบรรทุกเครื่องบิน Kitty Hawk ของสหรัฐอเมริกาได้โดยสหรัฐอเมริกาไม่รู้ตัว จนทำให้สหรัฐอเมริกาต้องไปเช่าเรือดำน้ำของสวีเดนมาฝึกค้นหาเรือดำน้ำ ซึ่งสุดท้ายก็ไม่สามารถค้นหาเจอได้เลยแม้จะมีเทคโนโลยีทันสมัยก็ตาม

- เครื่องฝึก (Simulator) ที่จะจัดหามีลักษณะอย่างไร?

เป็นเครื่องฝึกการทำงานในห้องศูนย์ยุทธการของเรือดำน้ำซึ่งจะตั้งอยู่ที่กองเรือดำน้ำ เป็นการฝึกการปฏิบัติงานกับเรือดำน้ำทั้งการฝึกนำเรือ ฝึกขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ และฝึกทางยุทธวิธี กำลังรออนุมัติจัดหา โดยเป็นเครื่องฝึกที่ผลิตในประเทศเยอรมันโดยบริษัทไรน์เมทัล ราคา 190 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาพร้อมอาคารด้วย ซึ่งถือว่าไม่แพงนักสำหรับการได้ความรู้ด้านเรือดำน้ำ

การฝึกเป็นเรื่องที่ลำบากมากสำหรับเราเพราะเราไม่มีเรือดำน้ำ อย่างครั้งหนึ่งสหรัฐฯ ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์มาฝึกกับเรา ทางเราก็ดีใจเลยไปพูดว่า อยากให้ทางสหรัฐฯแสดงฝีมือให้เต็มที่ เราจะได้รู้ว่าเราจะหาเรือดำน้ำเจอไหม ถ้าไม่เจอเราจะได้บอกกับสังคมได้ว่าอุปกรณ์ที่เรามีนั้นไม่พอจริงๆ เลยจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ แต่ทางสหรัฐฯบอกว่าไม่ได้ เพราะมาครั้งนี้คือ ต้องการมาให้เราหาให้เจอ เนื่องจากต้องการฝึกคนของเราให้ชินกับอุปกรณ์ปราบเรือดำน้ำที่จัดหามาจากสหรัฐฯ

แต่แม้ขนาดตั้งใจให้หาเจอก็ยังลำบากมาก ขนาดให้เรือดำน้ำจอดนิ่งๆ ในอ่าวไทย และดำลงไปตรงๆ ให้เห็นกับตา แล้วเอาอุปกรณ์ตรวจจับไปหย่อนดู ก็ยังหาไม่เจอ ทั้งๆ ที่เห็นกับตาและเรือดำน้ำตั้งใจให้หาเจอ เพราะเรือมันลงไปลึกจนเข้าไปในโซนที่คลื่นเสียงจากผิวน้ำสะท้อนกลับหมดไม่ สามารถตรวจจับได้ แม้ว่าอุปกรณ์ตรวจจับจะเป็นอุปกรณ์ตรวจจับมาตรฐานเดียวกับที่สหรัฐฯใช้งานเช่นกัน แสดงให้เห็นว่า อากาศยานหรือเรือผิวน้ำนั้นไม่ว่าจะทันสมัยขนาดไหน ถึงจุดหนึ่งก็จะมีข้อจำกัดที่ทำยังไงก็หาเรือดำน้ำไม่เจอ จะมีแต่เรือดำน้ำเท่านั้นที่หาเรือดำน้ำด้วยกันเองเจอ

ส่วนการจัดหาเครื่องฝึกตรงนี้ก็คือการแบ่งงบประมาณที่ได้รับมา 600 ล้านบาท เป็น 3 ส่วน เพราะโครงการจัดหาเรือดำน้ำยุติไปแล้ว โดยแยกเป็นการสร้างอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งจะเป็นฐานทัพเรือดำน้ำในอนาคต การจัดซื้อเครื่องฝึก และการส่งคนไปฝึกอย่างที่กล่าวไป ในส่วนของอาคาร บก.กองเรือดำน้ำและอื่นๆ จะพยายามเร่งให้เสร็จทันวันเรือดำน้ำในปีหน้านี้ให้ได้ เพื่อให้เป็นโอกาสในการเปิดอาคารใหม่ไปในตัวด้วย

ในส่วนของคนที่ส่งไปฝึกหลังจากกลับมาแล้วจะมาถ่ายทอดความรู้ให้กับกองเรือดำน้ำ และอาจจะส่งไปประจำการในกองเรือต่างๆ โดยเฉพาะกองเรือฟริเกตที่มีภารกิจในการปราบเรือดำน้ำ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการปราบเรือดำน้ำจริง แต่ก็จะเรียกกลับมาทบทวนความรู้เป็นระยะๆ เพื่อสร้างองค์ความรู้และสร้างชุมชนนักดำเรือดำน้ำของไทยขึ้นมา โดยคาดว่าระหว่างนี้กำลังพลของกองเรือดำน้ำจะมีราวๆ 30-40 นาย และจะไม่เพิ่มขึ้นอีก

- ระหว่างนี้เรามีการเก็บข้อมูลสัญญาณ (Signature) ต่างๆ หรือไม่?

ตอนนี้ยังทำไม่ได้ ตอนนี้มีแต่กองเรือทุ่นระเบิดรับหน้าที่นี้ เพราะการเก็บข้อมูลสัญญาณต่างๆ ต้องใช้เรือดำน้ำในการเก็บ เรือผิวน้ำจะเก็บได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะเป็นเสียงที่ได้ยินจากบนผิวน้ำ ไม่ใช่ใต้น้ำ จึงไม่เหมือนกับเสียงที่ระบบตรวจจับของเรือดำน้ำจะได้ยิน และฐานข้อมูลพวกนี้ไม่มีขาย แต่ละประเทศต้องเก็บเอง จะมีขายก็พวกฐานข้อมูลเสียงและสัญญาณของพวกเรือพาณิชย์เท่านั้น

- เรือดำน้ำขนาดเล็กที่ทางกองทัพเรือวิจัยนั้นพอจะช่วยในการฝึกได้ไหม?

ตอนนี้ประโยชน์คืออาจใช้เป็นเป้าฝึกปราบเรือดำน้ำ แต่ตอนนี้เรือยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอจากปัจจัยหลายข้อ เช่น แบตเตอรี่ เนื่องจากกองทัพเรือมีข้อจำกัดคือ นักวิจัยจะต้องย้ายตำแหน่งอยู่เรื่อยๆ ไม่อยู่ติดที่ จึงทำให้งานวิจัยไม่ต่อเนื่อง และที่สำคัญคือ เรายังไม่มีองค์ความรู้เรื่องเรือดำน้ำเลย ตอนนี้จึงคาดหวังให้ทำการวิจัยต่อยอดไปเรื่อยๆ ก่อน โดยอาจจะใช้ในการฝึกควบคุมเรือดำน้ำ สำหรับเรือดำน้ำขนาดเล็กที่บรรทุกคนได้ 2-3 คน

- กลับมาที่เรื่องเรือดำน้ำ ไม่ทราบว่าเรือดำน้ำจากจีนน่าสนใจไหม?

ทางกองเรือดำน้ำก็ไปดูเรือดำน้ำที่จีนเช่นกัน แต่ทางจีนบอกว่าถ้าจะขายให้เราก็คงขายเรือชั้น Song ให้ไม่ได้ เพราะเราเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับสหรัฐ จึงกลัวว่าข้อมูลจะรั่วไหลได้ ถ้าจะขายให้ก็คงขายเรือที่ออกแบบให้ใหม่ ซึ่งก็จะเป็นรุ่นที่ดาวน์เกรดลงมาจากชั้น Song อีกทีหนึ่ง ทางเราก็กังวลเพราะถ้าออกแบบให้ใหม่นั้นจะทำให้เราเป็นผู้ใช้ประเทศเดียวโดย ยังไม่เคยมีใครใช้งานและพิสูจน์ประสิทธิภาพมาก่อน ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงได้ แม้กระทั่งจีนเองก็ยังไม่ใช้งานเองจึงยิ่งเสี่ยงมากขึ้น

- แล้วเรือ U-209 ของเกาหลีใต้เป็นอย่างไรบ้าง?

ทางเราก็ไปดูมาแล้วเช่นกัน ดูแล้วก็ OK เนื่องจากทางเยอรมันค่อนข้างควบคุมมาตรฐานการผลิตได้ดี ถ้าถามว่าตอนนี้ให้เอาเรือ U-209 ของเกาหลีใต้จะเอาไหม ก็ต้องตอบว่าเอาแล้ว ให้เอาก็ได้

- เรือที่สร้างในเกาหลีใต้มาตรฐานต่างจากเรือเยอรมันมากไหม?

ต่างบ้างแต่ไม่มาก เพราะเยอรมันดูแลควบคุมอยู่ อย่าง U-209 ก็ใช้ระบบอำนวยการรบแบบเดียวกับ U-206A ด้วยซ้ำ รุ่นเดียวกันเลย จะแตกต่างกันตรงที่เรือดำน้ำเยอรมันมีออปชั่นให้เลือกมากกว่าเท่านั้น พอไปเห็นแล้วก็น่าเสียดายที่เราไม่สามารถจัดหา U-206A ได้

- แปลว่า ณ วินาทีนี้ ถ้าจะให้เอา U-209 ก็ถือว่าไม่น่าเกลียด?

ถ้าคิดในแง่ดีก็คือแบบเรือ U-209 มีผู้ใช้มาก ถือว่าพิสูจน์ประสิทธิภาพมาแล้วทั้งการใช้งานปกติและการรบจริง ส่วนออปชั่นระบบต่างๆ ข้างในเราคงต้องเลือกเอาให้เหมาะกับเรา โดยเป็นระบบใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นของเกาหลีใต้

- ถามตรงๆ ว่า ถ้าพรุ่งนี้ให้ไปขออนุมัติจัดหา U-209 จากเกาหลีใต้เลยได้ไหม?

พอยอมรับได้ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร เรามั่นใจว่ามันใจว่าเราสามารถฝึกคนให้ทำงานกับเรือดำน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะแม้แต่ U-206A เราก็ยังมั่นใจว่าต่อให้เจอเรือดำน้ำที่ทันสมัยในอ่าวไทยเราก็สู้ได้แน่นอน เพราะ U-206A มีขนาดเล็ก ซึ่งจะได้เปรียบเรือดำน้ำขนาดใหญ่กว่าในน่านน้ำที่ไม่ลึกนัก อ่าวไทยลึกเฉลี่ย 40 เมตร เพราะเรืออย่าง Kilo ก็ดูแล้วอาจจะใหญ่ไปสักนิดสำหรับประเทศไทย ส่วนเรือชั้น Amor นั้นยังไม่มีคนใช้เลย ถ้าจะใช้ของรัสเซียคงจะเป็นชั้น Kilo มากกว่า

และน่านน้ำบ้านเราเป็นเขตที่น้ำไม่ลึกนัก ซึ่งจะมีเสียงรบกวนเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นไม่ว่าเรือเงียบขนาดไหนก็มีโอกาสหาเจอได้ แต่ก็ต้องใช้เรือดำน้ำด้วยกันเองในการหา เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน อุณหภูมิที่ผิวน้ำจะสูงกว่าด้านล่าง ซึ่งจะทำให้โซน่าร์ของเรือผิวน้ำเกิดหักเหจากอุณหภูมิที่ต่างกันจากทำให้ เกิด Shadow Zone ซึ่งเป็นข้อจำกัดทางฟิสิกส์ ทำให้ถ้าเรือดำน้ำไปอยู่ใน Shadow Zone เรือผิวน้ำหรืออากาศยานนั้นไม่ว่าจะทันสมัยแค่ไหนก็หาไม่เจอ

แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าผู้ใหญ่ตัดสินใจอะไรมาเราก็ต้องรับตรงนั้น และฝึกคนให้ใช้เรือที่มีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แบบสหรัฐอเมริกาที่เขาจะเน้นมากเรื่องการฝึกคน

- จริงๆ แล้วกองทัพเรือต้องการเรือดำน้ำกี่ลำ?

ความจริงมองไปข้างหน้า ถ้าจะจัดหาเรือดำน้ำมือหนึ่งใหม่จริงๆ อาจจะมีงบประมาณจัดหาได้ 2 ลำ จำนวน 2 ลำนี้คือพอปฏิบัติการได้ เพราะคำถามไม่ได้อยู่ที่ว่าต้องการมีเรือดำน้ำกี่ลำ แต่อยู่ที่ว่าต้องการมีเรือน้ำที่พร้อมออกปฏิบัติการในทะเลกี่ลำ โดยส่วนใหญ่แล้วเรือดำน้ำจะมีความพร้อมรบที่ 80% ดังนั้นถ้ามี 4 ลำก็รับประกันแน่ๆ ว่าจะมีเรือดำน้ำในทะเล 1-2 ลำ แต่ถ้ามี 2 ลำก็พอปฏิบัติการได้แต่อาจไม่ตลอดเวลา ส่วนถ้ามีแค่ลำเดียวนั้นแทบทำอะไรไม่ได้ ได้แค่ฝึกอย่างเดียว

- แล้วมุมมองของคนในกองทัพเรือเองนั้นเห็นด้วยกับการมีเรือดำน้ำหรือไม่?

เท่าที่สอบถามส่วนใหญ่เห็นด้วยแน่นอนว่าไทยควรมีเรือดำน้ำ แต่อาจจะแตกต่างกันที่ความคิด บ้างก็ว่าควรซื้อเรือดำน้ำมือสองมาฝึกก่อน บ้างก็ว่าควรซื้อเรือดำน้ำมือหนึ่งไปเลย ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นความเห็นที่หลากหลายซึ่งเกิดขึ้นได้

- คิดว่าสาธารณชนสนับสนุนให้กองทัพเรือมีเรือดำน้ำหรือไม่?

เราเชื่อว่าทิศทางดีขึ้น ประชาชนเข้าใจและสนับสนุนมากขึ้น ซึ่งความจริงนี่เป็นประโยชน์ประการหนึ่งที่ได้จากโครงการ U-206A เหมือนกัน

ถ้าเทียบระหว่างเรือดำน้ำกับเรือฟริเกตแล้วคนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าเรือดำน้ำแพง แต่ถ้าคำนวณการใช้งานตลอดช่วงอายุเรือดำน้ำมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าเรือฟริเกตด้วยซ้ำ ซึ่งข้อเท็จจริงตรงนี้ไม่ค่อยมีใครทราบกัน อีกทั้งในการจะหาเรือดำน้ำให้เจอ ต้องใช้เรือฟริเกต 2-3 ลำขึ้นไป รวมทั้งอากาศยานประจำเรืออีก ค่าใช้จ่ายจะยิ่งต่างกันมากขึ้นอีก

- หลังจากนี้จะเปิดโครงการเพื่อคัดเลือกแบบเรือที่เหมาะสมอีกครั้งเมื่อไหร่?

ความจริงตอนนี้มีข้อมูลอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลายๆ อย่างมากกว่าว่าจะให้เราจัดหาเมื่อไหร่ แต่ไม่ว่าจะจัดหาเรือแบบใดเราจะเน้นที่เหมาะสมกับเราและมีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งตอนนี้ตัวเลือกก็มีไม่มากนักเพราะมีไม่กี่ประเทศที่ผลิตเรือดำน้ำดีเซล ไฟฟ้าขาย มีแค่ฝรั่งเศส เยอรมัน เกาหลีใต้ รัสเซีย จีน ที่เป็นหลัก อย่างอู่ของสวีเดนก็ถูกทางเยอรมันซื้อไปแล้ว เกาหลีเองก็ต่อเรือที่มีพื้นฐานมาจากเยอรมัน 

- สุดท้าย อยากจะบอกอะไรกับประชาชนที่ติดตามโครงการนี้อยู่บ้าง?

ตรงนี้ต้องบอกว่าอยากให้ดูเวียดนามซึ่งวางแผนจัดหาเรือชั้น Kilo จากรัสเซียถึง 6 ลำ และปล่อยเรือลำแรกลงน้ำแล้วในปีนี้ ปีหน้าก็จะรับมอบเรือลำแรกแล้ว ซึ่งพอดีกับสถานการณ์ของเขาที่กำลังร้อนระอุในทะเลจีนใต้ ซึ่งทำให้เห็นว่าเขาวางแผนยุทธศาสตร์ได้ยอดเยี่ยมมากๆ สามารถสร้างกำลังเรือดำน้ำได้ทันเวลารับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นพอดี ในส่วนของเราก็จะดูเขาเป็นบทเรียนมาปรับปรุงโดยเฉพาะเรื่องการวางยุทธศาสตร์ ล่วงหน้า

อยากให้ทุกคนที่อยากให้ไทยมีเรือดำน้ำอย่าเพิ่งถอดใจ อยากให้ดูตัวอย่างตอนที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกซึ่งทรงพระราชหัตถเลขาถวายให้กองทัพเรือสยามจัดหาเรือดำน้ำ แต่ก็ต้องรอจนถึง 25 ปีกว่าสยามจะมีเรือดำน้ำ นั่นขนาดพระองค์ท่านเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังต้องใช้เวลานานขนาดนั้น ถ้าพวกเราจะลำบากกว่าพระองค์ท่านก็ไม่แปลก แต่เราก็ต้องพยายามต่อไป เรายังต้องเตรียมคน เพื่อให้วันหนึ่งเรือดำน้ำกลับมาสู่ราชนาวีไทยให้ได้

ปล. เสียใจกับท่านที่เชียร์เรือดำน้ำชั้น song ด้วยครับCry 

เคดิสเวป TAF ครับ

http://www.thaiarmedforce.com/taf-special/513-tafspecial641.html





ความคิดเห็นที่ 1


เท่าที่อ่านมา ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ สนใจเรือ เยอรมัน เป็นพิเศษ

ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ

โดยคุณ kapooknet200 เมื่อวันที่ 05/09/2012 20:16:21


ความคิดเห็นที่ 2


สรุปว่ายังไงซะ อนาคตไทยคงต้องใช้เรือดำน้ำที่เยอรมันมีเอี่ยวแน่นอน  อาจเป็น U209 เกาหลีที่ราคาน่าจะถูกที่สุด  และถ้าอุปกรณ์ภายในเหมือน U206A แล้ว  ผมก็เลยสนใจว่าระหว่างรองบประมาณเป็นหลายหมื่นล้านในอีกหลายปีข้างหน้า  ทำไม่เราไม่ลองจัดหา U206A ที่เหลืออีก 2 ลำอีกสักคร้ัง ราคาคงไม่ถึง 7000 ล้านแล้ว แก้ขัดไปก่อน แถมใช้คนประจำการน้อยกว่าด้วย  ถ้าเป็นผม  ผมจะบอกรัฐบาลไปเลยว่า ขอ U209 ใหม่หรือเก่าก้ได้ของเกาหลี 2 ลำ  และ U206A เก่า 2 ลำ  แบบนี้ถูกใจทุกฝ่าย

 ( เผอิญผมชอบของเก่ามาปรับปรุง คิดว่าถ้าได้ U209 เก่าของเกาหลี 2 ลำ น่าจะประมาณ 2 หมื่นล้าน กับ U206A 2 ลำ 4000 ล้าน  รวมกันก็ 2.4 หมื่นล้าน จ่ายใน 6-7 ปี น่าจะพอไหว )

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 05/09/2012 21:26:01


ความคิดเห็นที่ 3


ตอบ คำถามได้เสนาะหูมากๆครับ ไม่ทำลายน้ำใจคนที่อยากได้มือสอง

กับ พวกที่อยากใด้ของใหม่มือ 1

 

ผมก็เห็นด้วยกับท่าน rayong .. พบกันครึ่งทาง เอาทั้งมือหนึ่ง ทั้งมือสอง

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 05/09/2012 21:43:56


ความคิดเห็นที่ 4


ทำไมไม่ถาม  u214 ครับ ถามทำไม 209 เดียวก็ได้209หรอก อิอิ ผมอยากได้214 อิอิ

เสียดาย จริงๆๆจีนไม่ขายsongให้ เพราะละแวงอเมกา เฮ้อ.. สวีเดนก็มีแต่เก่าๆๆ เห็นว่าไม่มีอู่แล้วจิงหรอครับ รอa26 ก็คงไม่ไหวนานเกิน *-*

โดยคุณ cananac11 เมื่อวันที่ 05/09/2012 21:53:24


ความคิดเห็นที่ 5


สงสัยคงไม่มีโครงการจัดหาอีกนานเลย ท่านตอบเหมือนไม่มีกำหนด

โดยคุณ funmode77 เมื่อวันที่ 05/09/2012 21:55:58


ความคิดเห็นที่ 6


แถวบ้านเรามีแต่คนเล่นเรือดำน้ำกันหนักอย่างเวียดนามก็สั่งต่อเรือดำน้ำ kilo 636M 6 ลำ และจะส่งมอบภายในปีหน้านี้อย่างน้อย 1 ลำ

บ้านเราเองก็คงต้องจัดหาของหนักอย่าง U214 ไม่ก็ Scorpene

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 05/09/2012 22:15:55


ความคิดเห็นที่ 7


ในความเห็นผม...เรื่อง จีน ไม่ขายเรือชั้น Song ให้ เพราะ กลัว สหรัฐ เรื่องความลับจะรั่วไหล...น่าจะเป็นเรื่อง พราง ผู้ซื้อ มากกว่าครับ...

เลยบอกว่า ดาวน์เกรด เรือดำน้ำ เป็นเรือชั้นใหม่ให้...

เพราะถ้า มันเกิด ไม่สมประสิทธิภาพ หรือ ไม่ดีอย่างที่คิด...จะได้ไม่เสียชื่อมาถึงเรือชั้น Song...ที่ จีน ประจำการอยู่...

ดีแล้วครับ...ทั้งในแง่การเมืองระหว่างประเทศ และ ในแง่ประสิทธิภาพ...ไม่เอา เรือดำน้ำ จีน...ผมว่า ดีที่สุดแล้วครับ...

ตอนนี้ เรือดำน้ำจาก เกาหลีใต้...เลยมี ภาษี ดีที่สุด...

เสียดาย จากเงิน 7,000 ล้านบาท ต้องกลายเป็นต้องเสียเงินไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท...แล้วก็จะได้ เรือดำน้ำ ที่ประสิทธิภาพไม่ได้แตกต่างไปจาก Type-206A เท่าไหร่...และก็ได้จำนวน ไม่เกิน 2 ลำ...สภาพความพร้อมรบ อย่างเก่ง ไม่เกิน 50% จากความพร้อมรบ 80%...

และก็น่าสนใจ ในแบบท่าน rayong ว่า...เหมาเอา 2 ลำที่เหลือ พร้อม อะไหล่อีก 2 ลำ มาก่อน...

อาจจะใข้งบประมาณสัก 4,000 - 5,000 ล้านบาท...แล้วอีก 5 ปี ข้างหน้า จัดหา type-209 จาก เกาหลี อีก 2 ลำ...งบประมาณสัก 20,000 ล้านบาท...ทร. ก็จะมีเรือจำนวน 4 ลำ ครบเต็มประสิทธิภาพความพร้อมรบ 80% ก็จะเหมือนกับ ทร.โคลัมเบีย ที่มีประจำการ เรือดำน้ำ type-209 จำนวน 2 ลำ และ Type-206A1 จำนวน 2 ลำ...ซึ่งเกาหลีใต้ก็จะได้ order ของ ทร.ไทย ต่อจาก ทร.อินโดนีเซีย...

 

 

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 05/09/2012 22:16:16


ความคิดเห็นที่ 8


   ตกใจมากเพิ่งรู้ข่าว   KocKrum  ถูกซื้อไปแล้ว    ว่าจะเสนอให้ทร.หาบริษัทเอกชนไทยที่เหมาะ (ไม่อิตัลไทย ก็  อู่ต่อเรือกรุงเทพ)  ร่วมทุนกับสวีเดน  อดซะแล้ว     เสียวๆว่าเมื่อไหร่ที่  SAAB เจอปันญหาแบบเดียวกัน   อาจจะโดน  EADS  ซื้อไป   ความเป็นกลางของสวีเดนหายไปแล้วเอียงไปทางยุโรป

    แสดงว่าทร. ต้องการเรือเยอรมันเป็นหลัก   210 mod  มีโอกาสมากๆ    แต่ถ้าตามใจรัฐบาล   type-209/1400  AIP  มีลุ้น  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/09/2012 00:26:53


ความคิดเห็นที่ 9


   ขอตอบแบบขัดใจท่าน rayong  เลยครับว่าทำไมไม่ซื้อ type 206A มาสัก 2 ลำ ที่เหลือ     

    คำตอบตือ  มีคนไม่ต้องการให้ทร.มีเรือดำน้ำแม้แต่ลำเดียวครับ     เพราะ type 206A ที่จะซื้อทั้ง 6 ลำ  ใช้งบของทร.เอง    ไม่ได้ไปขอใครเพิ่มเติมก็ยังซื้อไม่ได้     A-17 รัฐบาลก็ Say yes  และเตรียมเงินไว้ตอนแรกแล้ว  ก็ยังซื้อไม่ได้ถูกเบรคหัวทิ่ม  

       แต่เอาเป็นว่าท่าทางรัฐบาลซีก.......คงจะให้ทร.จัดหาเรือดำน้ำ   แต่คงเป็นเรือเกาหลีมากกว่า    ยกเว้นมีสถานะการณ์บังคับที่อันตรายต่อประเทศมากสุดๆ   ก็อาจจะจัดหาเรือเยอรมันให้ทันที

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/09/2012 00:35:01


ความคิดเห็นที่ 10


ผมสรุปเอาเอง สั้นๆ

ทั้งทหาร และ พลเรือนไทย ทั้ง 70 ล้านคน

ทุกคน อยากให้ไทยมีเรือดำน้ำเหมือนกัน

แต่ แบ่งเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่พอใจกับเรือดำน้ำมือสอง

กับอีกฝ่าย ที่เห็นว่า ควรซื้อมือ 1 มาดีกว่า

อันนี้ ก็แล้วแต่เหตุผลส่วนตัวของแต่ละคน

.. แต่ ผมก็ดีใจ ที่คนไทยทั้ง 70 ล้านคน

อยากให้ไทยมีเรือดำน้ำมาประจำการ

ผมคิดว่า ถ้ารัฐบาลกล้าขัดใจประชาชนทั้ง 70 ล้านคน

คะแนนความนิยมก็จะลดลง

.. เชื่อได้เลย ว่า ภายใน 2-3 ปีนี้ เราจะได้รับอนุมัติเรือดำน้ำแน่นอน

ส้า ธุ .. ขอให้ได้มือ 1 ทีเถิด ( โดยส่วนตัว ชอบของมือหนึ่งมากกว่า อิอิ )

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 06/09/2012 03:37:49


ความคิดเห็นที่ 11


ยังไงก็ขอให้ได้มาครับ สนับสนุนให้ ทร. ของเรามีเรือดำน้ำครับเพื่อนบ้านเขามีกันเกือบหมดแล้ว อีกไม่นนพม่าก็คงมีแล้มถ้าเมื่อไหร่กัมพูชามีเรือดำน้ำเราคงต้องเดินตามหลังเขาแน่ วอนไปถึงผู้เกี่ยวข้องได้มองยุทธศาสตร์ให้มากครับ เพราะอำนาจต่อรองไม่ได้อยู่ที่เงินเพียงอย่างเดียวการที่เราเตรียมพร้อมไว้คือสิ่งที่ดี การมีอาวุธก็เหมือนการซื้อประกันเมื่อถึงยามจำเป็นก็สามารถใช้ได้เลย

อย่ามัวแต่วัดกำลังภายในอยู่ไม่ใช่หนังจีนกำลังภายใน

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 06/09/2012 09:21:33


ความคิดเห็นที่ 12


ผมก็ไม่ค่อยปลื้มเรือ U-209 สักเท่าไหร่เลย เพราะสเปกมันก็ไม่ได้ต่างจาก U-206a มากนัก แถมราคาก็แพงกว่าหลายเท่าตัว อยากถามว่าเราจะรอถึงเมื่อไหร่ ?

โดยคุณ funmode77 เมื่อวันที่ 06/09/2012 11:40:09


ความคิดเห็นที่ 13


ไม่อยากได้ 209 เพราะต้องจ่ายแพงแบบซื้อเรือใหม่แต่เป็นเรือที่ตกรุ่นไปนานแล้ว

ไม่อยากได้กิโล เพราะเป็นระบบรัสเซียและขนาดมันก็ใหญ่ไปหน่อยสำหรับอ่าวไทย

ไม่อยากได้เรือจีนเพราะกลัวปัญหาคุณภาพ แต่กลายเป็นว่าจีนไม่ขายรุ่นใหม่(ซ่ง)ให้

อยากได้ 214 แต่เงินเรามีไม่พอ สงสัยวาสนาทร.ไทยคงมีตัวเลือกเหลือแค่อันแรก

ซึ่งยังไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ 

โดยคุณ chaisoi3 เมื่อวันที่ 06/09/2012 14:36:53


ความคิดเห็นที่ 14


ผบ กองเรือดำน้ำท่านนี้เป็นนักเรียนนายเรือเยอรมันครับ นี่ก็เป็นเหตุผลนึงว่าทำไมถึงชอบเรือดำน้ำเยอรมันเป็นพิเศษครับ หลายๆคนอาจจะบอกว่าไม่เห็นเกี่ยวเลยที่ท่านชอบเรือดำน้ำเยอรมัน แต่ขอลองให้นึกดูว่าไปเรียนมา่ห้าปี ก็ได้ซึมซับหลายๆอย่างมาจาก ทร.เยอรมันแน่นอนครับโดยเฉพาะเรื่องเรือดำน้ำ จริงๆ ทร.เองก็ส่งทหารเรือไปเรียนหลักสูตรเรือดำน้ำเรื่อยๆอยู่แล้วครับ เพียงแต่เราไม่มีเรือดำน้ำเท่านั้นเองครับ ส่วนเรื่องเรือดำน้ำมือหนึ่งนั้นก็ไม่แน่นะครับว่าจะได้ซื้อ บางทีมันมีหลายสิ่งหลายอย่างครับที่ทำให้เราซื้อเรือดำน้ำไม่ได้ แต่ถ้าได้จริงๆ โอกาสน่าจะเป็นเรือจากเกาหลีครับ แต่คงได้เรือแบบ 209 ไม่ได้เรือที่ใหม่กว่านั้นอย่าง 212 หรือ 214 ที่ทางเกาหลีกำลังเริ่มต่อเช่นเดียวกันครับ ส่วนเรือดำน้ำจากรัสเซียเชื่อว่าเกิดยากครับพอๆกับเรือดำน้ำฝรั่งเศษเหมือนกัน

โดยคุณ Spineker เมื่อวันที่ 06/09/2012 16:24:11


ความคิดเห็นที่ 15


funmode77  อี3ปีครับ รองบผูกพัน หมดก่อน

โดยคุณ kapooknet200 เมื่อวันที่ 06/09/2012 17:24:02


ความคิดเห็นที่ 16


    จะรุ่นไหนจากเกาหลีหรือเยอรมันก็ขอให้มาซะทีเหอะ   ถ้าเป็นของเกาหลี   อีกไม่กี่ปีเกาหลีคงพัฒนา AIP และ โซน่าร์ข้างลำตัวแล้วเสร็จ   ก็ Ok   ก็บอกเองว่าคงอีกหลายปีอยู่กว่าจะเริ่มโครงการอีกครั้ง    แต่คงไม่น่าจะเกิน 5 ปีข้างหน้า     ถึงตอนนั้นจะเรือเกาหลีก็เกาหลี    ซื้อมันทีเดียวยกกองเรือไปเลย   จะเอา type 206A ที่เหลืออีกสองลำมาเป็นเรือฝึกด้วยก็ได้

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 08/09/2012 22:38:15