กองทัพพม่าครอบครองขีปนาวุธทางยุทธวิธี Hwasong-6 จากเกาหลีเหนือจำนวน 11 เครื่องยิงในปี 2009 ขีปนาวุธ Hwasong-6 มีพิสัยยิงสูงสุด 700 กิโลเมตร ติดหัวรบหนัก 800 กิโลกรัม ระบบนำวิถีแบบใหม่ทำให้มันมีอัตราความคลาดเคลื่อนจากที่หมาย(เป้า) 50 เมตร หรือมีความแม่นยำขนาดที่ขีปนาวุธนี้จะตกห่างจากเป้าหมายในระยะไม่เกิน 50 เมตร หัวรบหนัก 800 กิโลกรัมนี้เป็นหัวรบตามแบบ และอาจเปลี่ยนเป็นหัวรบนิวเคลียร์ หัวรบเคมี หรือหัวรบชีวภาพ ก็ได้
ตามข้อมูลหลายแหล่ง เวียตนามมีขีปนาวุธแบบนี้เช่นกัน
ข่าวดีคือ กองทัพไทยไม่มีอาวุธชนิดใดที่สามารถป้องกันขีปนาวุธนี้ได้
ถ้าหากข่าวนี้เป็นจริงเรากำลังเสียเปรียบอย่างมากเลยครับ
ช่วยลบโพสก่อนหน้าด้วยนะครับ ผมกดผิด
ลับมาก !!! กองทัพไทย มีควายธนู ไว้สำหรับสกัดกั้นอาวุธชนิดนี้แล้ว
โพสบน เอาฮาครับ ..
โดยส่วนตัว ผมคิดว่า พม่าคงไม่ได้มองว่าไทยเป็นภัยคุกคาม เพราะ
เรากำลังจะเป็นคู่ค้า จะเห็นได้จากความร่วมมือในด้านต่างๆทางเศรฐกิจ
ยิ่ง ถ้าอองซาน ซูจี ขึ้นมาเป็นผู้นำพม่าเมื่อไหร่ ไทย กับ พม่า
จะกระชับความสัมพันธ์กันมากกว่านี้หลายเท่า เพราะ คนไทยเกือบทุกคน
รู้สึกไว้วางใจเกี่ยวกับท่าทีของ อองซาน ซูจี อย่างมาก
ผมมีเพื่อนเป็นชาวพม่า มันบอกว่า ปัจจุบัน คนพม่า ไม่ได้เกลียดคนไทย
เหมือนในอดีต .. อีกอย่าง เขารู้ว่า คนไทยนับถือ ความเป็นสุภาพบุรุษนักรบ
ของ บุเรงนอง ที่ท้ารบกับไทยแบบซึ่งๆหน้า ไม่เป็น อีแอบ แบบ พระยาละแวก..
.. ศัตรู ของพม่า ปัจจุบันน่าจะเป็น บังคลาเทศ มากกว่า ..
มันคือขีปนาวุธ ScudB รุ่นปรับปรุงเป็น ScudD เวอรชั่นเกาหลีเหนือ ความน่าเชื่อถือของระบบค่อนข้างต่ำ
AUE เคยซื้อ Hwasong-5 จำนวน 25 ลูกจากเกาหลีเหนือในปี 1989 แต่กองทัพไม่พอใจคุณภาพ จึงเก็บไว้ในคลังแสงโดยไม่นำออกมาใช้งาน
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องความแม่นยำของระบบนี้เท่าไหร่ ตัวเลขความคลาดเคลื่อน 50 เมตร เป็นไปได้น้อยมากครับ
เหจุจากนายพลพม่าเดินทางไปเปียงยางแบบลับๆในช่วงปี 2551 สิ่งที่พม่าได้หลังจากกลับมาคือ
ขีปนาวุธ อุโมงค์เก็บขีปนาวุธ เครื่องบิน โรงต่อ-ซ่อมบำรุงเรือรบ โปรแกรมแลกเปลี่ยนด้านภาษาระหว่างกองทัพ การฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
แลกกับเหมืองสกัดแร่ยูเรเนียมในพม่า ตราดใดที่พม่ายังไม่ติดหัวรบนิวเคลียร์ ดุลอำนาจยังคงเหมือนเดิม
รวมถึงท่าทีของพม่าที่เปิดประเทศมากขึ้น คิดว่าไม่น่าจะกังวลเท่าไหร่
เอ่ออ มาอ่านพิมพ์ผิดไปเยอะ พม่ากับเกาหลีเหนือมีข้อตกลงร่วมกันในปี 2545 (ไม่ใช่ 2551)
สิ่งที่ผมกลัวไม่ใช่เรื่องความผิดพลาด50เมตร
แต่เป็นถ้าหากมีการพัฒนาต่อให้ความผิดพลาดลดลงล่ะครับ อาจสัก 10 เมตร
แล้วหัวรบหนัก 800 กิโลเมตรล่ะครับ
SCUD นั้นเวียดนามมีใช้ตั้งแต่ยุคสงครามเย็นแล้วล่ะครับ ส่วนของพม่าไอ้คลาดเคลื่อน50เมตร นั้นไม่ใช่ปัญหาถ้าไม่ได้ยิงใส่เป้าหมายทางทหาร แต่ถ้าเป็นเป้าหมายพลเรือนเพื่อกดดันเหมือนอิรักทำกับยิวตอนสงครามอ่าวครั้งแรกล่ะก็ เสียหายหนักครับ
อีกอย่างถ้าหัวรบระเบิดแรงสูงคงไม่เท่าไร แต่ถ้าหัวรบนิวเคลียร์คงน่าเป็นห่วงกว่ามาก ถึงตอนนั้นเมกันคงเข้ามากดดันในแถวนี้แล้วล่ะ
และถึงตอนนั้นผมว่าต่างคนต่างมีขีปนาวุธไว้ป้องกันและคานอำนาจกันเอง เหมือนที่ไทยวางแผนพัฒนาไว้อยู่ นั้นแล
ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับความคิดที่ว่า 1.เวียดนาม มีนั้นมีนี่เพื่อคานอำนาจกับจีนมากกว่า (ตอนเราแย่งเขาวิหารกัน ส่งรถถังมาช่วยเขมรทำไม?)
2.พม่ามีนั้นมีนี่ไว้คานอำนาจกับบังคลาเทศมากกว่า
3.แม้กระทั้งประเทศลาว ที่ว่าบ้านพี่เมืองน้อง แต่สุดท้ายเป็นไง (เขาบอกว่าตู ไม่ใช้น้องใคร แป่ววว หน้าแหกไปตามๆกัน)
ผมว่าปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด พระท่านสอนอยู่เสมอๆว่า ความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความตาย สาธุ....
บอกไม่ถูกเลยครับ TT
ตามความเห็นของท่าน MIGGER ครับ...
มันจะเป็นว่า อาวุธมีอานุภาพทำลายล้างสูง แต่ ความแม่นยำ ไม่น่าเชื่อถือ...
มันจะสร้าง ผลเสียหาย มากกว่า อาวุธที่อานุภาพทำลายล้างสูง แต่มีความแม่นยำ...
โอกาส ความผิดพลาด มันจะมีเปอร์เซ็นต์ ที่น่าหวั่นไหว ครับ...
เช่น สมมติว่า พม่า มีการทดลอง ยิง ในทะเล....ถ้า เกิดความผิดพลาด ในแง่การนำวิถี หรือ ระบบขับเคลื่อน ที่จะทำให้มีการ หักเห ของระบบจรวด...
อาจจะส่งกระทบ ต่อการทำลายที่ไม่คาดฝัน....เช่น การหลงเข้ามาใน ฝั่งอาณาเขตไทย หรือ บังคลาเทศ หรือ อินเดีย หรือ น่านน้ำอินโดนีเซ๊ย แล้วสร้างความเสียหายเกิดขึ้น...
ดังนั้น ระบบอาวุธป้องกันภัย หรือ ต่อต้าน ควรจะมีประจำการใน ประเทศเพื่อนบ้านของ พม่า ครับ...
เพื่อป้องกันความผิดพลาดดังกล่าว...แม้ พม่า จะไม่มีเป้าหมายต่อประเทศไทย หรือ อินโดนีเซ๊ย หรือ อินเดีย หรือแม้แต่ บังคลาเทศ ก็ตามครับ...
และพม่า ก็ควรจะ ประกาศให้ ประเทศเพื่อนบ้าน ได้ทราบทุกครั้ง ที่มีการ ทดลองยิง...เพื่อให้เพื่อนบ้าน มีมาตรการป้องกันความผิดพลาด ที่อาจจะเกิดขึ้น...ซึ่งจะได้ ไม่ไปเป็นเหตุ ความเข้าใจผิด ส่งผลให้เกิดสงครามระหว่างกันได้...
ถ้ามันเป็นของประเทศอื่น มันก็เป็นได้แค่อาวุธดาดๆ ธรรมดาๆเท่านั้นแหละครับ ไม่มีผลกระทบกับเรา แต่ถ้าเป็นของไทยเมื่อไรหละก็มันจะกลายร่างเป็นอาวุธทำลายล้างสูงที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาทันทีอะครับ ฉนั้นก็น่าจะจัดหามาใช้หรือวิจัยบ้าง ก็ดีนะครับถ้าทำได้
ถ้าเขามี นั่นก็ย่อมส่งผลกระทบต่อเราไม่มากก็น้อยในฐานะที่มีพรมแดนติดกันครับ ส่วนการป้องกันนั้นถ้าไม่มีจรวดต่อต้านก็....เอ่อ..ผมจำได้เคยดูหนังเรื่อง ว้อ หรืออะไรซักอย่างที่มีหมามันไล่กัดคน แล้วมีตัวแสดงคนหนึ่งไปกับไปรษณีย์ ไปรษณีย์กลัวหมาจะกัดอย่างมาก เขาเลยถามไปรษณ๊ย์ว่า ถ้าหมามันกัดจะทำอย่างไร ไปรษณีตอบว่า ผมไม่ให้มันกัด นักแสดงคนนั้นก็ตอบว่า "นั่นไงอย่าให้มันกัด" คำตอบก็คงจะแบบเดียวกัน "อย่าให้เขายิง...."