เมื่อวานนี้เนชั่นบอกว่า ครม.ได้อนุมัติให้กลาโหมให้ซื้อ ฮ. 10 ลำวงเงิน5หมื่นล้านบาทไม่รู้ว่าจะเป็นรุ่นใดครับโดยเสนอเป็นวาระจรอนุมัติกลับไม่มีในแถลงในมัติ ครม เลย
ตอนนี้ ก็มี ฮ. ทอ. CSAR กับ ฮ.ทบ. ที่มีความต้องการ แต่ไม่รู้ใครได้ .... จำนวนไม่มาก อาจจะหมายถึงรวมๆ กัน
วันก่อนมีข่าวปลดสายฟ้าแลบ วันนี้มีข่าวอนุมัติ ฮ.
ครม. เมื่อวานมีผู้แทน ทอ. ไปกันหลายท่านเลย เขาไปทำอะไรกันหว่า
เป็น ฮ. ประเภทไหนครับ 10 ลํา ห้าหมื่นล้าน
5 หมื่นล้าน...ถัวเฉลี่ย คร่าว ๆ ลำละ 5,000 ล้านบาท...ตัวเลขงบประมาณ น่าจะคลาดเคลื่อนไปหรือเปล่าครับ...
มีข่าวของ ผู้จัดการ ที่น่าจะถูกต้องมากกว่า
ครม.สนองกองทัพอากาศ อนุมัติหลักการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย จำนวน 4 ลำ วงเงินราว 4 พันล้านบาท จากประเทศฝรั่งเศส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 28 ส.ค. คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการตามที่กองทัพอากาศเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติจัดซื้อ เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย หรือยูโรคอปเตอร์ จำนวน 4 ลำ วงเงินงบประมาณกว่า 4 พันล้านบาท จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเดิมทีกองทัพอากาศขอจัดซื้อจำนวน 10 ลำ เสนอ ครม.เป็นวาระจรที่ 1 ขณะที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้เรียกเก็บเอกสารทันที
ทั้งนี้ โดยทั่วไปประเทศที่มีสนามบินสากลจะต้องมีการดูแลอย่างดี และมีข้อกำหนดอยู่ว่า กรณีที่เครื่องบินแอร์บัสเกิดอุบัติเหตุร่อนลงกลางทะเล จะต้องมีหน่วยกู้ภ้ยเข้าไปลำเลียงผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุ และที่ผ่านมาก็มีความพยายามผลักดันเรื่องนี้มาตลอด แต่ด้วยการลงทุนที่ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ทั้งในการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ การฝึกนักบิน บุคลากร หวั่นว่าจะกลายเป็นการใช้งบฯ ที่สูญเปล่า และที่ผ่านมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะอาศัยกำลัง เครื่องไม้เครื่องมือจากทางกองทัพเป็นส่วนใหญ่ในการเข้าช่วยเหลือ
EC-725
ไม่น่าจะพลาด
นั่นสิครับ 10 ลำ 50000 ล้าน ซื้อกริฟเพ่นได้ 1 ฝูงเลย
ถ้าจากฝรั่งเศษก็คงเป็น EC-725 หรือเปล่า เดาครับ
ตามลิงค์นี้บอก ห้าหมื่นล้าน ผมละตกใจเลย สิบลําห้าหมื่น
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=647534
ตัวเลขข้อมูลน่าจะผิดพลาดจริงๆแหล่ะครับ ถ้าตัวเลขไม่ผิดมันก็คงไม่ใช่แค่คอปเตอร์ 10 ลำแล้ว เพราะราคาขนาดนั้นซื้อ jas ได้ 24 เครื่องเลย
แล้วอีก 6 ลำ ล่ะครับ มีของทร.กับทบ.ด้วยแหง๋ ทร.ต้องการลิ้งอีก 2 ทบ. ก็น่าจะ UH-60 M เหมือนเดิมมั๊ง ดูรายละเอียดเมื่อข่าวออกมาอีกทีดีกว่าครับ
เจ๋งอ่ะ เออดี มาเเบบลับๆ ยังงี้เละดี ขืนมาเเบบเรือดำน้ำ ชาตินี้ไงก็ไม่ได้ เเต่ ลับเฉพาะเรืองดีๆ ก็พอน่ะ
ถ้าตามข่าวของ ผู้จัดการ คือ
ทอ.ขอจัดหา จำนวน 10 ลำ...แต่ในเบื้องต้น อนุมัติก่อน จำนวน 4 ลำ วงเงิน 4 พันล้านบาท ครับ....
สำหรับ เฮลิคอปเตอร์ วงเงิน 50,000 ล้านบาท อาจจะมาจาก...(ขอเดา)
โครงการ ฮ. CSAR ของ ทอ. จำนวน 16 ลำ ประมาณ 16,000 ล้านบาท (ครั้งนี้ขออนุมัติ 10 ลำ แต่ได้ 4 ลำ)
โครงการ ฮ.ท ของ ทบ. จำนวน 30 ลำ ประมาณ 30,000 ล้านบาท
โครงการ ฮ. ลำเลียงขนาดใหญ่ ทร. จำนวน 4 ลำ ประมาณ 4,000 ล้านบาท
รวม ฮ. ของทั้ง 3 เหล่า จะประมาณ 50,000 ล้านบาท
ดีครับ... ช่วยกัน คนไม้ ละมือ หากชาติเรา มีเสถียรภาพ งบ แค่นี้ จิ๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ
EC-725 ปูม้าน่าอร่อย.....ถึงจะออกแบบมานานแล้ว แต่ผ่านการปรับปรุงตลอด ราคาน่าสนใจนะครับ 1000 ล้านต่อลำ บรรทุกได้มากติดตั้งอะไรต่อมิอะไรได้เพียบกว่า UH-60M ที่ราคามหาโหด 1800 ล้าน ถึงแม้มันจะบินช้ากว่า ตัวหนาใหญ่กว่า แต่การันตีเรื่องการใช้งานมานานเป็นสิบๆปี ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นของฝรั่งเศสนะก็นะ..... 33 ลำของ UH-60M สามารถซื้อปูม้าเนื้ออร่อยไว้ใช้งานได้เกือบ 60 ลำ แบบนี้ผมไม่มีโวยครับ ม้าอากาศจะได้มีของดีเชื่อถือได้สูงใช้อย่างถ้วนหน้า ดูทอ.จะใช้เงินเป็นนะ
ฮ.ที่จัดหานี้ เป็นของ กองทัพอากาศ ในวัตถุประสงค์ Combat Serch And Rescue ครับ..หรือ CSAR...
คือ การค้นหา ช่วยเหลือ ทั้งในแนวรบ และ หลังแนวรบของข้าศึก...
และในขณะเดียวกัน ก็สามารถจะค้นหา และช่วยเหลือ ให้กับผู้ประสบภัยในสถานะการณ์ปกติ ด้วยครับ...
ถ้าจะมีการจัดหา แบบ S-70 ก็ต้องเป็นรุ่น HH-60 Pave Hawk ครับ...
ซึ่ง ไม่ใช่ การจัดหา ฮ.คุณลักษณะ ใช้งานทั่วไป ครับ...
ราคาก็จะต้องมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อลำ หรือ อาจจะใกล้เคียงลำละ 1,800 ล้านบาทต่อลำ...
ซึ่ง EC-725 มีหลายประเทศใช้ในวัตถุประสงค์ CSAR ก็อยู่ที่ ทอ. จะจัดหนัก กับเครื่องเครา EC-725 ขนาดไหนน่ะครับ...
ในตระกูล Sikorsky ที่ใช้งาน CSAR ก็จะเป็นรู่น HH-60G ถ้าเป็นใช้งาน SAR ก็เป็น HH-60J
และรู้สึกว่า HH-60G ก็มีใช้แค่ 2 ประเทศ คือ สหรัฐ กับ เกาหลีใต้
คุณลักษณะ CSAR
รูปไม่ขึ้น เอาใหม่ครับ
สินค้าประเภทนี้เป็นสินค้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูงมากครับ ดังนั้นแบรนเนมจึงสำคัญมากๆถึงมากที่สุด UH-60/S-70 เป็นเครื่องที่มหาอำนาจอันดับหนึ่งใช้งานและผ่านสมรภูมิมาทุกมุมโลก ดังนั้นความน่าเชื่อถือจึงได้สูงมาก ราคาขายจึงตั้งไว้แพงมหาโหด บอกเลยว่าแม้จะขายแค่ลำละ 900 ล้าน ทางผู้ผลิตเองก็คงมีกำไรอยู่ไม่น้อยทีเดียว เครื่องได้รับความน่าเชื่อถือสูงกว่า NH-90 ที่กลุ่มยุโรปนำเข้าใช้งาน แต่เครื่อง UH-60/S70 ผ่านการใช้งานจริงมาอย่างโชกโชน ถึงราคาขายจะใกล้เคียงกันและ NH-90 ออกแแบมาใหม่กว่าเป็นสิบปี แต่ยังไงยอดขายฮ. ตระกูล UH-60/S-70 ก็เหนือชั้นกว่ามาก
ส่วน EC-725 หรือ Super PUMA นั้นเป็นเครื่องที่ออกแบบมานานมากหลายสิบปีแล้ว แม้จะผ่านสมรภูมิมาไม่น้อยจนน่าเชื่อถือสูง แต่ประเทศผู้ผลิตเองก็ไม่ได้เป็นมหาอำนาจอันดับ 1 และแม้จะผ่านการปรับปรุงมาโดยตลอดก็ตาม เมื่อมีเครื่องตัวใหม่ที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงไม่แพ้กันออกมาขายแข่ง แน่นอนว่าเครื่องแบบ PUMA จะขายได้ก็ต้องมีราคาต่ำกว่าแน่นอนครับ 1000 ต่อลำ ทางผู้ผลิตยังสามารถมีกำไรอยู่ได้สบายๆ เพราะได้เปรียบที่ไม่มีต้นทุนวิจัยพัฒนาอะไรมากมายเพราะใช้โครงอากาศยานเดิมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในอดีตครับ
ในอุตสาหกรรมนี้ ความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้แพงที่สุดครับ ไม่เกี่ยวกับต้นทุนมากนัก ถึงต้องให้เครื่องของตัวเองออกสงครามให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
First win 4X4 ถ้าผ่านการใช้งานมาอย่างหนักในภาคใต้ และสามารถไปผ่านการใช้งานทั้งเขตทะเลทราย เขตหนาวเย็น ทุรกันดาร ความน่าเชื่อถือก็จะบังเกิด บารมีก็จะจับ แล้วจะสามารถขายได้จำนวนมากๆในราคาที่อาจจะแพงกว่านี้ เท่าตัวเลยก็ยังได้ครับ แบรนเนมสำคัญที่สุด
ถ้ากองทัพไม่ยึดติดแบรนเนมแล้วจัดหาอาวุธที่คุณภาพสูงน่าเชื่อถือไว้ใจได้ระดับหนึ่งที่เพียงพอ เราก็สามารถหาเครื่องตรงตามความต้องการได้ในราคาที่ถูกลงมากๆ หรือว่าถ้ามีพลังทางอุตสาหกรรมเพียงพอ กองทัพอาจจะสามารถสร้างเครื่องที่มีสเปกใกล้เคียงเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกได้ในราคาอาจจะแค่ 1/3 หรือ 1/4 ของราคาเครื่องต้นแบบที่โด่งดังได้ แต่ถ้าเราจะทำการส่งออกแข่ง ก็จะเกิดปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือนี่แหล่ะครับ แม้สเปกจะเหมือนกันหมด ก็ใช่ว่าเราจะขายได้ดีเท่าเขา ไม่นับเรื่องข้อกฎหมายระหว่างประเทศด้วยนะนี่
ในสายตาผม การที่ทบ.จัดหา BTR-3E1 เป็นตัวอย่างที่ดีครับ แม้ว่ารถของอเมริืกาและยุโรปดูจะมีความน่าเชื่อถือไว้วางใจมากกว่า เพราะรถของอเมริกาและยุโรปมักจะชนะในสงครามเสมอๆ ไม่ใช่ว่ารถค่ายรัสเซียยูเครนประจอก แต่ผู้ใช้มันเองก็มือไม่ถึงด้วยแหล่ะ เมื่อทบ.แก้จุดปัญหามันด้วยการใช้เครื่องของเบนซ์ เท่านี้มันก็ใช้งานได้ดีสมใจในราคาที่ถูกมากกว่ารถจากอเมริกาและยุโรปเท่าตัว เกราะสามารถพัฒนาเพื่อติดเสริมได้ในอนาคต ดีลแบบนี้ผมชอบถือว่าคุ้มค่าเงินครับ กองทัพจะได้มีความพร้อมสูงสุดบนเงินที่จ่ายออกไป ไม่ต้องยึดติดเบรนเนมมากมาย
EXOCET MM-38 เป็นตัวอย่างที่ดีอีกอันครับ ก่อนสงครามฟอร์คแลนด์ราคาขายไม่แพง แต่พอสงครามเกิดและทางอาร์เจนติน่าส่งมันไปจมเรือรบอังกฤษที่ทันสมัยได้และสร้างความเสียหายให้กองเรือเรืออังกฤษไม่น้อย ปีต่อมา ราคาขายของมันก็สูงขึ้นเกือบ 1 เท่าตัวหน้าตาเฉยทั้งๆที่สเปกเดิมทุกอย่างเลย และแพงมากขึ้นเมื่อมันถูกยิงจากเครื่องบินอิรักไปอัดเรือรบชั้น OHP ของอเมริกา เสียเกือบจมในอ่าวเปอร์เซีย ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรือรบของอิหร่าน
ถ้าเรายึดติดในเรื่องแบรนเนมมากไป เราก็ต้องจ่ายในราคามหาศาล ความพร้อมก็จะลดลงไป
ดูดีลของเกาหลีบ้าง F/A-50 ที่มีประสิทธิภาพสูงและย่อส่วนเครื่อง F-16 ที่น่าเชื่อถือได้สูงลงมา ทำให้ทอ.เกาหลีใต้สามารถจัดหาเครื่องบินขับไล่เบาในราคาแค่ 30 ล้านเหรียญต่อลำ โดยประสิทธิภาพเกือบเท่า Jas-39 ที่เราซื้อในราคาที่ต่างกันครึ่งต่อครึ่ง ทอ.เกาหลีเอามาแทน F-5 ที่มีนับร้อยเครื่องในลักษณะ ลำ/ลำ มันจะทำให้ทอ.เกาหลีมีความพร้อมสูงมากๆๆๆๆ ถ้าทอ.เกาหลีจัดหา Jas-39 แทน เขาก็จะจัดหามาได้แค่ครึ่งเดียวของที่ต้องการ นับเป็นทางเลือกที่ดีของเขา
ถ้าเราอยากดำรงความพร้อมได้สูงแบบเขา ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเอาแบบอย่างเกาหลีใต้ อาจจะออกแบบเครื่องหรืออาวุธใหม่โดยเอาแบบที่โด่งดังมาดัดแปลง เช่น F-16 F-5 เราต้องการเครื่องฝึก 40 เครื่อง เครื่องโจมตีเบา 50 เครื่อง ทร.ยังต้องการเครื่องโจมตีทางทะเลและประจำบนจักรี ถ้าเราเอาแบบอย่างเกาหลีใต้ ก็ควรที่จะออกแบบโดยใช้ต้นแบบจากเครื่อง F-5 F-16 Jas-39 แล้วลดขนาดลงมา ให้อยู่ในความต้องการของเรา อาจจะร่วมมือกับสวีเดนก็ได้ แล้วนำเข้าประจำการในกองทัพของเราก็ราวๆ 100 เครื่องเลยล่ะ มีสเกลการผลิตแล้ว ทำตลาดร่วมกันกับสวีเดน และถ้ายิงสวีเดนเอาเข้าประจำการด้วยจะยิ่งดี
หรือไม่ก็ยึดดีล BTR-3E1 ที่เราจะเริ่มต้นกับยูเครนมาเป็นดีลต้นแบบในอุตสาหกรรมผลิตอาวุธ อย่างนี้กองทัพของเราและเทคโนโลยีของประเทศเรา เศรษฐกิจของเราก็จะรุ่งเรืองไม่ด้อยกว่าเกาหลีใต้เลย
พิมพ์ตกไปวลีหนึ่ง ความหมายเปลี่ยนไปมาก
จาก " เราต้องการเครื่องฝึก 40 เครื่อง เครื่องโจมตีเบา 50 เครื่อง " ต้องเปลี่ยนเป็น " ในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า เราต้องการเครื่องฝึก 40 เครื่อง เครื่องโจมตีเบา 50 เครื่อง " ครับ ขอโทษด้วย
ตกใจหมด ฮ. 10ลำ เเพงกว่า ไต้ฟุนมือสอง 1ฝูง
EC725 เข้าวินครับ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กองทัพอากาศจัดหาเฮลิคอปเตอร์ EC725 จำนวน 4 ลำ
credit : http://www.thaiarmedforce.com/taf-military-news/55-rtaf-news/511-rtaf-buying-ec725.html
ผมคิดว่า S-92 ที่ขายแบบ ไม่มีระบบกู้ภัย เพราะมันต้องมี ค่าใช้จ่าย ในการติดตั้งและพัฒนาอีกจำนวนหนึ่ง มากกว่าครับ...
ซึ่ง คนขาย ก็คงจะมองว่า สำหรับ ดีล จำนวน 16 ลำ คงไม่คุ้มค่า...
ปัจจุบัน S-92 คงขายในลักษณะ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป เท่านั้น...ส่วน ผู้ซื้อ ต้องการ สเปคพิเศษ...ผู้ซื้อ ต้องรับผิดชอบในส่วนต้นทุนนั้นเอง โดย ผู้ขาย คงมีหน้าที่ในเรื่องให้ความร่วมมือเท่านั้น...
ฮ.ในภาระกิจ CSAR คงไม่ได้หมายถึง เฉพาะ ตัวลอก หรือ พื้นที่ภายใน เคบิน ที่รองรับภาระกิจ เท่านั้น...
น่าจะต้องหมายถึง รวมอุปกรณ์ เรดาร์, อุปกรณ์นำร่องสำหรับการบินในเวลากลางคืน, ระบบป้องกันการโจมตีจากอาวุธนำวิถี และการติดตั้งระบบอาวุธปืนต่าง ๆ ที่จำเป็น สำหรับภาระกิจ...
โดย S-92 ในปัจจุบัน ยังไม่มีระบบพวกนี้ติดตั้ง หรือ มีประเทศใด ใช้ในภาระกิจ CSAR...
CSAR จะคนละอย่างกับ SAR
CSAR คือ การค้นหาและช่วยเหลือในลักษณะ ระหว่างการทำสงคราม และการเข้าไป ช่วยเหลือในดินแดน หรือในแนวป้องกันของข้าศึก
SAR คือ การค้นหาและช่วยเหลือในลักษณะเหตุการณ์ปกติ หรือ การช่วยเหลือในลักษณะพื้นฐานโดยทั่วไป ในสภาวะสงคราม...
ในความเห็นส่วนตัวครับว่า ถ้า S-92 จะเป็น CSAR เต็มตัวคงจะไม่ได้ในราคานี้ครับ...
คราวนี้ คงต้องลุ้นต่อไปว่า EC-725 ของ ทอ. จะเป็น CSAR แบบคล้าย ๆ หรือแบบเต็มตัว หรือจะเป็นแค่ SAR...
50,000 ล้านไม่ผิดครับ แต่ไม่ใช่เฉพาะโครงการ ฮ.ค้นหาและกู้ภัยของกองทัพอากศ แต่รวมถึง ฮ.ปราบเรือดำน้ำแบบที่ 2 อีก 6 ลำ และโครงการเรือฟริเกตอีก 2 ลำครับ
ข่าววงใน ท่าน FatBoy ขอ เดา อีก
1. เรือฟริเกตสมรรถนะสูง 2 ลำ เท่ากับ 40,000 ล้านบาท
2. ฮ.ปราบ ด. จำนวน 6 ลำ เท่ากับ 6,000 ล้านบาท
3. ฮ.CSAR จำนวน 4 ลำ เท่ากับ 4,000 ล้านบาท
รวมทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท
ดังนั้น ตามข่าว ครม.เห็นชอบในหลักการ ฮ. 10 ลำ มูลค่า 50,000 ล้านบาท
ของเดาว่า
1. หลักการ เรือฟิตเกตสมรรถนะสูง จำนวน 2 ลำ ผ่านหลักการ เตรียมเรื่องได้โม้กันอีก แร่ะ...
2. เตรียมลุ้น ฮ.ปราบ ด. อีกจำนวน 6 ลำ...จะเป็น Super Lynx อีก 2 ลำ กับ Z-9 อีก 4 ลำ รึเปล่า ?
3. ฮ.CSAR ตามข่าวข้างต้น
หรือ ฮ. ปราบ ด.
อาจจะเป็น Eurocopter AS-565 จำนวน 6 ลำ ไปเลย....
ส่วน ซุปเปอร์ลิงซ์ ก็ไว้สำหรับใช้ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง....
AS-565 สำหรับ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ชั้น นเรศวร จำนวน 2 ลำ
AS-565 สำหรับ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ชั้น กระบุรี จำนวน 2 ลำ
AS-565 สำหรับ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ลำใหม่ จำนวน 2 ลำ
ขอโทษครับ พิมพิ์ตกหล่นไป 50,000 ล้าน ไม่ใช่เฉพาะโครงการ 3 โครงการดังกล่าว มีโครงการขอ ทบ.ด้วย ส่วนเรือฟริเกต 2 ลำ ราคาต่ำกว่าที่คุณ Juldas ลงไว้มากครับ แต่ยังไม่ได้อนุมัตินะครับ รอเสนอพิจารณา
ถ้าโครงการเรือฟรีเกตต่ำกว่าที่คุณjuldasประมาณ2ลำ 40000ล้านต่ำกว่านั้นมาก เราจะได้เรือประมาณไหนครับของจีนหรือเกาหลีใต้หรืออู่ในประเทศเพราะถ้าทางยุโปรราคามันสูงทั้งนั้นเลยครับ
อืมมมม...ใช่ ๆ...ครับ...ผมเบลอไปหน่อย 5 5 5...
ราคา 40,000 ล้านบาท นี่มัน โครงการ เรือดำน้ำ อ่ะนิ...
ถ้าเป็นเช่นนั้น เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ขนาด 4,000 ตัน...ตันละ 2 ล้านบาท...ก็น่าจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 8,000 ล้านบาท...รวม 2 ลำ ก็น่าจะประมาณ 16,000 ล้านบาท...
หรือไม่แน่ อาจจะเป็น OHP มือ 2 จำนวน 4 ลำ มูลค่าโครงการประมาณ 6,000 - 8,000 ล้านบาท
ถ้า 2 ลำ รวมระบบอาวุธด้วย 16,000 ล้าน นี่ตัวเลือกน้อยมากครับ ฟันธงเลยว่าได้กินของกิมจิ 3000 ตัน ชัวร์ป้าบ