Mthai News ลุย! ชำแหละ ขบวนการ “ชายแดนใต้” สุดเน่าเฟะ! บึ้มบังหน้า หวังกำไรธุรกิจเถื่อนพ่วงหนุนโจร
คนไทยทั้งประเทศ…..คงแปลกใจไม่น้อย….กับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ที่เป็นปัญหาเรื้อรังระดับชาติในทุกยุคทุกสมัย จนปัจจุบันไม่มีแม้วี่แววว่า ความรุนแรงรวมทั้งการสร้างสถานการณ์จะลดน้อยถอยลง นั่นจึงเป็นคำถามที่ว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่กันแน่ หรือเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธุรกิจเถื่อน โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน เส้นทางการเงิน ฟอกเงิน ร้านค้าทอง ร้านเอกชน มีส่วนเกี่ยวข้องโยงใยพัวพันเป็นระบบ โดยมีเงินสะพัดนับพันล้านบาท แต่กลับก่อเหตุบังหน้าด้วยช่องทางความไม่สงบที่มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็น ของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ยังคงเหลือและต้องการอำนาจรวมทั้งแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่
หากย้อนดูจริง ๆ แล้วพบว่า เครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงข้ามชาติมีด้วยกัน 4 เครือข่าย ทั้ง เครือข่าย นาย อุสมาน สะแลงแมง , เครือข่าย นาย มะรอมมือลี แวแซ หรือ มะโคลัมเบีย , เครือข่าย นาย ยุสรี เปาะดาโอ๊ะ , เครือข่าย นาย ไซดี ยูโซ๊ะ กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเหล่านี้ ยังใช้มาตรการทางภาษีและกฎหมายฟอกเงิน โดยมีกลุ่มผู้ให้การสนับสนุนในการจำหน่าย จ่ายโอนและทำธุรกรรมอำพราง
จากการจับกุมเครือข่าย นาย อัสรี ยูโซ๊ะ พร้อมยาบ้านับหมื่นเม็ด เฮโรอีน 2 บิกส์ เมื่อ 13 ก.ย.55 ที่ อ.สุไหงโก-ลก ตรวจพบ แผ่นบันทึกข้อมูล ที่มีคลิปวีดีโอ เพลงปลุกใจรัฐปัตตานีและคลิปวีดีโอ ฆ่าตัดคอ ทหารตำรวจ เมื่อปี 2550 จำนวน 3 คลิป
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุม นาย มะรอมือลี แวแซ ใช้บัตรประชาชนมาเลเซีย ชื่อ มะรอมือลี วันฮัดซัน เครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส การตรวจค้น พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค มีข้อมูลการผลิตและจัดหา เชื้อประทุไฟฟ้าและฝักแคระเบิดแบบต่างๆ หลายแบบ
พร้อมยอมรับว่า ตนให้การสนับสนุน กลุ่มก่อเหตุรุนแรง กลุ่มของนาย ซุรี มะอารง ผบ.ร้อย เขตปฏิบัติการ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี และอ.แว้ง จ.นาราธิวาส ซึ่งมีแหล่งพักพิงอยู่ที่โรงเรียนสอนอ่านคัมภีร์อัลกูรอาน ในพื้นที่ ต.ปาเสมัสรัฐกลันตัน ประเทศเพื่อนบ้าน ในลักษณะของเงินบริจาคบำรุงโรงเรียน ครั้งละหลายแสนบาท หลายครั้งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เป็นต้น
การค้าน้ำมันเชื้อเพลิงหนีภาษี (น้ำมันเถื่อน) ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาหนักใจของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งทั้ง 2 ขบวนการ ก็มีความเกี่ยวเนื่อง โดยส่งเงินสนับสนุนให้แก่แกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพื่อใช้ในการก่อการร้าย ทั้งวางระเบิด วางเพลิง ฆ่าเจ้าหน้าที่ และประชาชนรายวัน
เส้นทางน้ำมันเถื่อนนั้น ถูกขนนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย วันละไม่ต่ำกว่า 200 เที่ยว ผ่าน อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ และ อ.แว้ง จ.นราธิวาส รวมทั้งผ่านมาจากชายแดนปาดังเบซาร์ ชายแดนบ้านสำนักขาม อ.สะเดา และจากชายทะเล จ.สงขลา และที่มาจาก อ.ควนโดน อ.เมือง จ.สตูล
โดยเฉพาะแล้วช่วงเวลากลางคืน รถบรรทุกน้ำมันเถื่อนจะขนน้ำมันกันตลอดทั้งคืน ตลาดน้ำมันเถื่อนขยายไปไกลถึง จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งในอดีตตลาดน้ำมันเถื่อนมีวงจรอยู่แค่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น
และสิ่งที่เห็นกันอยู่ใน จ.สงขลา จ.สตูล และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในทุกตรอก ทุกซอย และทุกถนนหลวง เต็มไปด้วยปั๊มน้ำมันเถื่อน และปั๊มน้ำมันขวด น้ำมันแกลลอนเต็มไปหมด และสิ่งที่น่าตกใจคือผู้คนจำนวนมากต่างหลั่งไหลมายึดอาชีพค้าน้ำมันเถื่อนด้วยการลงทุนดาวน์รถ กระบะเพื่อใช้บรรทุกน้ำมันเถื่อนส่งขายให้ลูกค้า ส่วนคนเมือง คนในชุมชนตั้งโต๊ะ ตั้งเต็นท์ และตั้งปั๊มหลอดขายน้ำมันเถื่อนเป็นอาชีพ
จากหลักฐาน การจับกุมน้ำมันเถื่อนของ กอ.รมน.ภาค 4 พบว่า หจก.อามานะบริการ ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีนาย มนัส ตาฮีร์ เป็นเจ้าของบริษัทอัลฟาตอนีอินเตอร์เทรดกรุ๊ปและ หจก.ตะลุโบ ปิโตรเลี่ยม ที่ อ.เมืองปัตตานี
ที่มี นาย มะรอยี ยูนุธ์ เป็นเจ้าของ พบหลักฐานการจ่ายเงินให้กับกลุ่มก่อเหตุรุนแรง โดยผ่านองค์กรทางการกุศล เช่น การบริจาคให้กับชมรมอีหม่ามรือเสาะและมัสยิดอีกหลายแห่งในพื้นที่ จ.ปัตตานี และจ.นราธิวาส และบางส่วนจ่ายเงินผ่านเครือข่ายชมรม โรงเรียนตาดีกา โดยอำพรางเป็นเงินบริจาคให้เด็กกำพร้า เป็นต้น
แต่น้ำมันเถื่อนก็เถื่อนสมชื่อ เมื่อเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่า มีการนำน้ำมันเถื่อนมาผสมสารเคมี และผสมสีให้มีสีใกล้เคียงกับน้ำมันที่มีจำหน่ายทั่วไป แล้วนำไปขายหลายแห่งในพื้นที่ จังหวัดยะลา และนราธิวาส
จากเส้นทางของน้ำมันเถื่อนแล้ว จึงทำให้อดมองอดคิดไม่ได้เลยว่า เจ้าหน้าที่รัฐกำลังร่วมกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนมีผลประโยชน์ร่วมกันหรือไม่ ซึ่งข่าวจากสายข่าวหลุดว่า ขบวนการน้ำมันเถื่อนได้ดำเนินการซื้อเจ้าหน้าที่ไว้เป็นพวก มีการจ่ายส่วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ไฟเขียว ซึ่งน้ำมันเถื่อน 1 ลิตร กำไร 22 บาท หักส่วย เจ้าหน้าที่รัฐ 8 บาท ที่เหลือเป็นกำไรอีก 12 บาท ซึ่งถือว่าเป็นกำไรที่มากที่สุดในบรรดาสินค้าหนีภาษีศุลกากร
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเครือข่ายค้าของเถื่อนทั้งหมด เมื่อถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบุกยึดสิ่งผิดกฏหมายได้ ก็จะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ฆ่าเจ้าหน้าที่รวมทั้งประชาชน
ทั้งหมดทั้งมวล จึงเป็นปัญหารวมทั้งช่องทาง ของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง ที่ได้รับเงินสนับสนุน ผ่านกิจกรรมทางศาสนา องค์กรการกุศลและกิจกรรมอำพรางอื่น ๆ จากเครือข่ายค้าน้ำมันเถื่อน เครือข่ายยาเสพติด และการทุจริตงบประมาณของรัฐในรูปแบบต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
นั่นจึงเป็นประเด็นที่น่าจับตามองว่า การเปลี่ยนรูปแบบการดูแลพื้นที่ ของรัฐบาลชุดนี้ ที่มีการปรับเปลี่ยนทั้งหน่วยงานและเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เข้าไปเพิ่มในพื้นที่นั้น จะสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลนี้ได้จริงหรือไม่
มันแปลกๆตั้งแต่ตรงที่ชุดเดิมดูแววทำงานไม่รุ่ง
พอจะตั้งชุดเข้าไปประสานงาน ตรวจสอบ สนับสนุน จากส่วนกลางก็ดันบอกไม่เอา
แล้วอยู่ดีๆก็วีนขึ้นซะอย่างงั้น ประมานว่า งานตู คนอื่นไม่เกี่ยว
ตีโพยตีพายแล้วก็ขู่จะลาออก งืมมม น่าคิดนะ ถ้าคนใหญ่คนโตในพื้นที่ เป็นยังงั้นจริงๆ
ส่วนตัวเดินทางไปส่งสินค้าที่สามสี่จังหวัดตอนล่างจากจะนะถึงระแงะอาทิตย์ละ 2 ครั้งเติมน้ำมันลิตร 24-25 บาท สำหรับน้ำมันดีเซล แต่มันไม่ใช่น้ำมันเถื่อนจากมาเล มันเป็นน้ำมันจากบ้านเราที่เหลือจาก......... ถ้าตอนใกล้สิ้นเดือนก็ราคาถูกหน่อย
ส่วนตัวไม่ชอบใช้น้ำมันเถื่อนจากมาเลเพราะมันจะผสมโซเวน เวลาชะลอรถเครื่องจะดับ ถ้าเครื่องเบนชินจะมีเสียงดังบังๆ จากท่อเป็นระยะ
ถึงได้บองยังงัยล่ะครับว่าการเมืองต้องแก้ที่การเมือง
การเมือง...ก็ได้ครับ
การเมืองแบบไหนคิดเอาเองนะครับ
สถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้เริ่มมาประมาณปีพ.ศ.24XX(ก่อน246X)
สมัยนั้นประเทศไทยยังไม่มี Head of government เลยครับ
(ขอให้เข้าใจด้วยนะครับว่าทำไมต้องพยายามอ้อมค้อม)
จะโทษใครได้อะครับ ภาคใต้เรา Promotion ของรัฐบาลเรามันเยอะนี้ครับ Pro ลดโทษ ยกโทษ เกือบทั้งนั้น แถมใครเป็นแนวร่วมก่อการยังมี Pro พิเศษลดให้อีกเพียบ ชนิดโทษประหารยังเดินตัวปลิวมาอยู่บ้านสบายๆได้เลยอะครับ(ประมาณว่าโดยดุแล้วนะจ๊ะ คราวหลังอย่าทำอีกนะ) เท่าเป็นภาคอื่นๆติดคุกกันหัวโตอะ ไม่ก็ประหาร เป็นผู้ร้าย 3 จ.ใต้มันดีจริงๆ โอ้ พระเจ้ายอด มันจอร์จมาก
น้ำมันเถื่อนมีผลประโยชน์ทั้งสองผ่าน ครับ
สร้างถนนเส้นหนึ่งใช้น้ำมันไปเท่าไร ใช้จริงเท่าไร เบิกเหลือเท่าไร เขียนใบเสร็จไม่เห็นของเท่าไร ไม่รวมของเหลือจากลาดตะ..... ตังเข้ากระเป๋าใคร
ส่วนตัวเคยคุยกับชาวบ้านทั่งไทยพุทธและไทยมุสลืม ในพื้นที่ส่วนมากจะบอกว่าเรื่องนี้ทั้งคู่ไม่ยอมให้จบ งบประมาณที่ตกไป 1ใน 4 ของประเทศ คนที่ได้อานิสงส์และพวกต้นน้ำได้กันเต็มๆ ส่วนพวก ขจก ก็ได้ตังค่าจ่างให้หยุดก่อเหตุอีกต่อ ถ้าเงียบไปเลยมันคงไม่ดี มันก็ต้องมีเสียงดังปังบ้างงบถึงลงไป บ้างครังก็หักหลังกันเองเงินมา 100 ถึงมือ ขจก 40 ตอนแรกๆ ขจก ไม่รู้ว่างบมีเท่าไร พอตอนหลังผึ่งมารู้ว่างบมาเท่าไรถึงมือตัวเองเท่าไร ก็เลยยิงถล่มบ้านคนกลางที่มาเจรจาต่อลองกัน
ส่วนตัวก็ไม่ได้ปักใจเชื่อในคำพูดชาวบ้านเท่าไร แต่ตอนนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
ถึงจะฟังแล้วไม่น่าเชื่อแต่ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังครับ
สรุป
ส่วนกลางต้องเด็ดขาดกว่านี้ คนในพื้นที่ก็ต้องจริงใจกว่านี้(ไอ้งั่งที่ไหนก็คิดได้)
หดหู่ใจครับ
ผมใส่อารมณ์กับตัวเองครับ
ถ้าไม่เห็นว่าไม่เหมาะสม กรุณาลบให้ด้วยครับ
ไม่เป็นไรครับ ท่าน Maceus การเมืองของเราช่วงนี้เป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ย่อมจะต้องวุ่นวายเป็นธรรมดา แต่ว่าพอเริ่มลงตัวแล้ว หวังฝ่ายที่มีชัยต้องเร่งจัดการซะให้ราบคาบแบบไม่ให้ฟื้นตัวอีกเลย เพราะยังไงก็อยากตัดคลองกระอยู่แล้วนี่ เรื่องชายแดนใต้ต้องจบจึงจะสามารถตัดคลองได้ จึงจะสามารถควบคุมเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกเอาไว้ดังใจได้ ถ้าแค่เรื่องชายแดนใต้ยังจัดการไม่ได้ อย่าหวังว่าจะจัดการดูแลควบคุมคลองกระที่ยุ่งยากกว่านี้ได้ เพราะเรื่องคลองกระจะดึงเอามหาอำนาจมายุ่งเกี่ยวด้วยเต็มที่ ยากกว่านี้เยอะ นี่แค่เพื่อนบ้านชาติเล็กๆนะครับยังขนาดนี้
ขอบคุณมากเลยครับ ที่เข้าใจ
อยากได้ข่าวในพื้นที่(วงใน)มาศึกษาอีก...
ถ้าไม่เป็นการพาดพิงถึงบุคคล ช่วยเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ