หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เจอมาจากเว็บปากีสถานครับเกี่ยวกับแบบเรือดำน้ำชั้นหยวนของจีนและเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ที่ผลิตเพื่อกองทัพเรือไทย???

โดยคุณ : Batnight เมื่อวันที่ : 28/08/2012 10:57:48

It is an export version of the Yuan。

Both the LHD and the S20 are obviously vying for adoption by the Royal Thai Navy。

China will most probably have an larger version of the LHD for her own use。





ความคิดเห็นที่ 1


เหหหหหหหหหหหหหหหหห

(ผมว่าน่าจะแค่นำแบบมาเสนอขายมั๊งคับ แต่นอกจากเรือดำน้ำเราไม่น่าจะมีโครงการเรือLHDนี่หน่า)

โดยคุณ pc1 เมื่อวันที่ 22/08/2012 20:06:27


ความคิดเห็นที่ 2


LHD   จะมาเพิ่มอีกทำไมอ่ะครับ  มีเรือหลวงจักรีนฤเบศร อยู่แล้วน่าจะเอางบไปจัดหาMH-60S อีก4ลำและก็ติดตั้งระบบแบบครบsetและก็อัพS-70Bให้ ฟรูออฟชั่นไปเลย  ส่วนเรือดำน้ำS20   นี้มันชั้นอะไรเหรอครับ มาใหม่หรือเอามาจากชั้นSong  

โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 22/08/2012 20:06:52


ความคิดเห็นที่ 3


ตอนผมเจอก็งงเช่นกันครับเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแต่ดูแล้วน่าจะมีลุ้นเรื่องเรือดำน้ำนี่แหละครับ

นี่คือสเป็คเรือครับเป็นชั้นซ่งรุ่นปรับปรุงพิเศษเพื่อเสนอกองทัพเรือไทยครับ(ในเว็บเค้าว่ากันแบบนี้ครับ)

Displacement 1,700 tons surfaced, 2,250 tons (dived)
Length 75 meters / 246 ft
Beam 8.4 meters / 27.6 ft
Draft 17.5 ft
Speed 12-15 kts (surfaced) 22 kts (dived)
Crew 60 (10 officers)
Propulsion Deisel-electric 2 or 3 MTU Deisels 1 Shafts
Torpedoes 6 - 21 in (533 mm) tubes, YJ-8 missiles
Mines in lieu of torpedoes
ESM Type 921-A radar warning
Radars Surface search I-Band
Sonars Bow-mounted passive/active search and attack, Flank array passive search
โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 22/08/2012 20:25:09


ความคิดเห็นที่ 4


http://forum.pakistanidefence.com/index.php?showtopic=91900

โดยคุณ neodonut เมื่อวันที่ 22/08/2012 20:44:07


ความคิดเห็นที่ 5


ผมว่านะครับตอนนี้ผมอยากให้ ทร เรามีเรือดำน้ำนะครับแบบไหนก็ได้แบบใหม่ถอดด้าม ยิ่งดี ส่วนความสามารถของเรือยังไม่ต้องไปเน้นมากครับ อยากให้ ทร ของเรามีประสพการณื กับเรือดำน้ำ ให้มากพอเสียก่อนๆที่จะตามชาติอื่นเขาไม่ทันนะครับ

โดยคุณ doomss เมื่อวันที่ 22/08/2012 20:55:03


ความคิดเห็นที่ 6


ส่วนตัวมองว่าขนาด 1700 tons ของมันโตเกินไปสำหรับทะเลด้านอ่าวไทย  ถ้าจะให้เหมาะสมกับอ่าวไทยต้องไม่เกิน 1200 tons หรือไม่ก็ต้องพวก Mini Submarine ( แต่ตอนนี้ Mini Submarine ยังอยู่ในช่วงวิจัยกันทังนั้น )

โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 22/08/2012 21:19:37


ความคิดเห็นที่ 7


..

ความเหมือนที่แตกต่าง


.


โดยคุณ tongsrp เมื่อวันที่ 22/08/2012 21:33:12


ความคิดเห็นที่ 8


ของจีนบางอย่างก็น่าใช้นะครับ

Z-9


Z-10


AWAC






โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 22/08/2012 21:39:50


ความคิดเห็นที่ 9


   เขาเห็นว่าเรายังต้องการเรือ LPD อีกลำ คงอยากลองเสนอ LHD มาบ้าง  เผื่อทร.เกิดเปลี่ยนใจอยากจะมาใช้ LHD บ้าง    แต่เรือดำน้ำเหมาะกับฝั่งอันดามันมากกว่านะครับ    เพราะมันใหญ่ไปหน่อย   ยกเว้นเอาไว้ขู่เพื่อนบ้านว่าข้าก็มีนะ  อย่าให้มันเกินกว่านี้ 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 22/08/2012 21:48:37


ความคิดเห็นที่ 10


เพิ่มครับ

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 22/08/2012 21:54:33


ความคิดเห็นที่ 11


รูปไม่ขึ้นแฮะ

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 22/08/2012 21:56:56


ความคิดเห็นที่ 12


ได้ข่าวว่าเรือดำน้ำรุ่นS-20 ที่เสนอไทยมีระบบAIPด้วยครับ

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 22/08/2012 21:58:57


ความคิดเห็นที่ 13


เจอประโยคที่ว่า

 

It is the CG of a model said to be on exhibition in Thailand

 

เชาบอกว่าเป็นงานแสดงในไทย น่าจะเป็นงาน Thailand Defense นะครับ

โดยคุณ Banyat เมื่อวันที่ 22/08/2012 23:33:44


ความคิดเห็นที่ 14


S20 นี่ถ้ามี AIP และราคาต่ำสักไม่เกินหมื่นล้าน  ถึงจะใหญ่ไปนิดก็น่าสนใจไว้ฝั่งอันดามัน 1 อ่าวไทยอีก 1  ส่วนถ้ามีเงินเหลือจะเอา mini Submarine จากไหนมาก็ไม่มีปัญหา     ส่วนที่ว่า 1700 ตันมันใหญ่ แต่ยังไงก็ยังเล็กกว่าของสหรัฐที่มาร่วมซ้อมปราบเรือดำน้ำกับ ทร. ที่ผ่านมาไม่นานนี้ ครับ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 23/08/2012 00:38:27


ความคิดเห็นที่ 15


ท่า ซื้อเรือดำน้ำของจีนมา  เพื่อนบ้านเรา กับ อเมกา จะทำไงกะเรานี้ 

โดยคุณ cananac11 เมื่อวันที่ 23/08/2012 01:48:00


ความคิดเห็นที่ 16


ไทย นโยบายเป็นกลาง  ดังนั้นจะจัดหาจากใครก็ได้ ทำตัวปกติเข้าไว้ แต่อย่าทำตัวเป็นศัตรูกับเขาก็แล้วกัน  อดีตไทยก็จัดหาอาวุธทั้งจากจีนและสหรัฐ  ตุรกีก็เป็นอีกตัวอย่างที่จัดหาจากจีนและสหรัฐ   และอีกเหตุผลคือสหรัฐไม่มีเรือดำน้ำดีเซลขาย  และ S20 ก็ไม่ได้ดีกว่าของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย หรือ เวียดนาม   สรุปก็แค่ถ่วงดุลอำนาจทางทะเลให้กลับมาอยู่ในจุดเดิมในอดีต หรือไม่ให้เสียเปรียบมากกว่าเดิมเท่านั้น

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 23/08/2012 02:21:45


ความคิดเห็นที่ 17


เอา เรือดำน้ำรุ่น  S 20 มาลองใช้ ลองฝึกดูก่อน ซัก 5-6 ปี

หลังจากนั้น ก็ เอารุ่น ท็อป อย่างรุ่น  Type 094 ใช้พลังงานนิวเคลียร์ มาเลย

อิอิ

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 23/08/2012 03:31:49


ความคิดเห็นที่ 18


http://forum.pakistanidefence.com/index.php?showtopic=99690

 

เห็นช่วงนี้ ปากีสถาน ยกยอปอปั้น จีน กันยกใหญ่

ทั้งในเว็บ ทั้งในยูทูบ ผมอ่านแล้ว ก็ ฮาดี ..

ลึกๆ ก็คงคล้ายๆสุภาสิต ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่

แขก กะ เจ๊ก .. ลูกไม้แพรวพราว  กันทั้งคู่

.. ไม่รู้ เจ๊ก กะ แขก ใครจะเสียเหลี่ยมก่อนกัน  55++

 

 

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 23/08/2012 04:01:29


ความคิดเห็นที่ 19


    จากเวปที่คุณไปเอาข่าวมา  เขาว่าจีนจะต่อใช้เองเบิ้มๆแบบนี้   กว้างกว่า wasp ของเมกานะผมว่า   ไอ้ที่เอามายั่วน้ำลายเราเขาเอารุ่นรองลงมาโชว์ 



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 23/08/2012 12:08:34


ความคิดเห็นที่ 20


    เอาไปดูให้เต็มอิ่มอีก   รุ่นใหญ่ของเขาน่ะจะราว 40,000 ตันได้    รุ่นรองที่เสนอให้เราก็น่าจะประมาณ 20,000 ตัน  พอๆกับ DOKDO   ราคาเรือจากจีนไม่น่าจะแพงนะ   รุ่นมหานิยมเลย LHD/LHA  เอามาใช้ยกพลขึ้นบกก็ได้   sea control ก็ได้  แบบออสเตเลียกับสเปนอิตาลีทำ    เอ้าเชียร์   ภาพแรกรุ่นใหญ่  ภาพสองรุ่นรอง



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 23/08/2012 12:17:28


ความคิดเห็นที่ 21


  Type 081 LHD

A 22,000-tonne landing helicopter dock (LHD) under development in China has sparked alarm in defense circles in Taiwan, with some analysts saying the ship could cause a “strategic shift” in the Taiwan Strait.

The design, first unveiled by state-owned China Shipbuilding Industry Co (CSIC, 中國船舶重工集團公司) — the country’s largest shipbuilding conglomerate — at the Defense and Security 2012 exhibition in Bangkok in early March, is believed to be the Type 081 LHD that defense enthusiasts have been expecting for years.

According to Jane’s Defence Weekly, CSIC confirmed the existence of a Type 081 program in 2007, but at the time it refused to disclose further details. The design phase of the vessel was reportedly completed in 2006, with engineering design beginning soon afterwards.

The 211m long LHD will be capable of carrying an impressive eight helicopters on deck, with hangar space for four more, or for hovercraft. It will also have capacity to accommodate 1,068 marines and will be equipped with phased-array radar, four short-range air-defense launchers and anti-submarine warfare capability.

Its operational range is expected to be 7,000 nautical miles (13,000km), with an endurance of up to 30 days at sea.

The Type 081 was reportedly inspired by the Mistral-class amphibious assault ship operated by the French Navy. Some analysts have also pointed to similarities with the 18,000-tonne Hyuga-class helicopter carrier used by the Japan Maritime Self-Defense Force since 2009.

Defense analysts say CSIC is fully capable of building the LHD, especially following the experience gained by Chinese shipbuilders with three 20,000-tonne Type 071 Yuzhao-class amphibious transport docks, the last of which was launched in September, with a fourth rumored to be on the way. Despite having a similar displacement to the Type 081, the Type 071 can only accommodate two Z-8 heavy transport helicopters.

Assuming that the timeframe for construction of the Type 081 is similar to that for the Type 071, the first Type 081 could be launched as early as 2014. China’s first Type 071 was launched in December 2006, two years after the model was first unveiled.

Some reports indicate that the People’s Liberation Army Navy might be seeking to acquire as many as three Type 081s for its operations.

The Chinese government has yet to confirm whether CSIC has begun construction of the Type 081.

Given its ability to carry various types of helicopters — Z-8 and Z-9 transport and Z-10 attack helicopters, among others — a large number of marines and landing craft, analysts are saying that the Type 081 would greatly enhance the Chinese navy’s ability to launch humanitarian operations as well as project force beyond its shores, a reflection of the strategic choices made by the Chinese navy in recent years.

It would also play a key, possibly game-changing role in any amphibious assault on Taiwan or against other adversaries in the South China Sea.

 

  ยังกะว่างาน defence ที่กรุงเทพ  เป็นการเปิดตัว  Type 081 อย่างเป็นทางการไงไม่รู้แฮะ  


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 23/08/2012 12:35:51


ความคิดเห็นที่ 22


    ถ้าจะซื้อ  ไปขอให้เขาทำสกีจัมพ์(เอาของเราไปก็อปก็ได้)  ทำดาดฟ้าเฉียงพร้อมลวดหยุด   Sea gripen ขึ้นลงได้สบาย  55555.....แถมขนนาวิกได้กว่า 1000 นาย    เห็นในเวปนี้เองบอกว่า  มาเลย์นี่ต้องหันมามองเลยล่ะ (คงกลัวว่าเราเกิดอยากจะได้ขึ้นมา)   แหมคงรู้กันไปทั่วแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 23/08/2012 12:45:02


ความคิดเห็นที่ 23


    รุ่นใหญ่ของเขาดูจากรูปน่าจะยาวประมาณ 240-250 เมตร   กว้างประมาณ 40-50 เมตร  ระวางน่าจะอยู่ในช่วง 35,000-40,000 ตัน   เกือบเท่าชั้น wasp เลย    แหมทำดาดฟ้าเฉียง  ต่อกสีจัมพ์ ลวดหยุด ก็ถูกใจผมเลย     แต่จากข่าว  ทร.จีนน่าจะต่อรุ่นรองเข้าประจำการในปี 2014 หลังจากได้ type 071 จำนวน 3 ลำ   ทั้งไต้หวันเวียตนาม  ฟิลิปปินส์ คงเต้นไม่หยอกเชียว  

   แล้วทร.ไทยว่าไงครับ ...........  ดูท่าทางกลุ่มอำนาจทางการเมืองใหม่จะถูกชะตาคุณมากกว่าเพื่อนเลยน่ะ     เล็งๆไว้  ชอบพี่ใหญ่หรือน้องรองก็เตรียมไปสู่ขอกันนะ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 23/08/2012 12:59:28


ความคิดเห็นที่ 24


ถ้าทร.สนใจ LHD จากจีนจริงๆ  LPD ชั้นอ่างทองลำที่ 2 จะได้เกิดหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป ถ้าได้มาจริงๆ น่าสนใจขึ้นมาก แต่เรื่องเรือดำน้ำ S20 ถ้าจะมาคงจะยากเพราะ ................

โดยคุณ FatBoy เมื่อวันที่ 23/08/2012 13:47:52


ความคิดเห็นที่ 25


จากประสบการณ์ของ ทร. ที่มีต่อเรือจีนไม่ค่อยดีนักครับ ไม่ว่าจะเป็นเรือชั้นนเรศวร ชั้นปัตตานี ซึ่งมีปัญหาในการใช้งาน การอินทริเกรดระบบ ความเรียบร้อยในการประกอบ ฯ  ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะได้เข้าประจำการ จนสุดท้าย ทร.ยอมจ่ายแพงกว่า เพื่อซื้อความสบายใจ เช่นการต่อเรือ LPD ที่สิงค์โปร์ ถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าเรือจีน แต่ไม่ต้องมาปวดหัวกับปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 23/08/2012 14:38:23


ความคิดเห็นที่ 26


จากประสพการณ์การใช้ยุทธโธปกรณ์ของกองทัพเรือที่มีจากจีนโดยฉะเพาะเรือผมว่าทางทัพเรือคงไม่น่าจะเอานะครับ...ดูอย่างเรือ โอพีวี ถ้าซื้อจากจีนก็ได้แต่เลือกที่จะต่อเองเพื่อเรียนรู้ ผมว่าเราอาจจะได้เห็นเรือ LPD ลำที่สองที่ต่อในประเทศครับหวังเหลือเกินครับว่าอยากให้เป็นอย่างที่ผมคิด

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 23/08/2012 22:27:06


ความคิดเห็นที่ 27


จีนคงเป็นที่แรกที่จะสามรถระบายสินค้าเกษตรที่กำลังล้นสต๊อกได้

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 24/08/2012 01:37:08


ความคิดเห็นที่ 28


เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของอเมริกามาฝึกในอ่าวไทยได้ ยังมีเรือดำน้ำดีเซลที่ใหญ่จนใช้ในประเทศไทยไม่ได้หรือ?

อีกอย่างที่ไม่มีใครพูดกันจริงๆจังๆซะที

เรือดำน้ำเป็นอาวุธเชิงรุก ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังให้กองทัพเรือเอามาใช้ในอ่าวไทย เพราะมันเหมะกับอ่าวของเพื่อนบ้านมากกว่า

 

 

 

 

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 24/08/2012 11:15:03


ความคิดเห็นที่ 29


หลายท่านมักจะกล่าวว่าเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ของอเมริกามาฝึกในอ่าวไทยยังได้ และสามารถปฏิบัติการในอ่าวไทยส่วนตัวมองว่าได้  แต่ได้ทุกพื้นที่ของอ่าวไทยได้หรือเปล่าคำตอบคือไม่ พื้นที่ของอ่าวไทยถ้าเทียบกับพื้นราบมันก็มีเนินหรือสันดอนเยอะมาก ที่เรือ ดำน้ำนิวเคลียร์ของอเมริกาเข้ามาได้เขาเรียกว่าร่องนำ้ลึกซึ่งอ่าวไทยตอนบ นี้ร่องนำ้ลึกน้อยมาก บางครั้งการเดินเรือสินค้ามากกว่าหมื่นตันขึ้นยังต้องรอระดับน้ำในการเข้ามา ในอ่าวไทย  ถ้าเรือดำน้ำมีขนาดใหญ่ปฏิบัติในอ่าวไทยดูจากฟ้ามันก็เหมือนมีเงาอยู่ในน้ำ  ส่วนตัวเคยทำงานในเรือสินค้าก็เคยเจอปัญหาร่องน้ำมาเหมือนกัน

โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 24/08/2012 16:22:04


ความคิดเห็นที่ 30


อ่า ผมพอจะเข้าใจเหตุผลนะครับ แต่ถ้าเราบอกว่า "เรือดำน้ำเป็นอาวุธเชิงรุก" หละก็ ผมว่าโอกาสจะได้ซื้อจะยากมากเลยครับ ฝ่ายงบประมาณจะถามทันทีว่า "แล้วคุณมีโครงการจะบุกรุกใครหรือ ถ้าไม่มีจะซื้อมาทำไม"

ฝ่ายงบประมาณและฝ่ายการเมือง ค่อนข้างเข้าใจเรื่องทำนองนี้ยากครับ วันหนึ่งผมไปนั่งฟังเขาอภิปรายงบประมาณ มีกรมหนึ่งขอซื้อ "รถดับไฟป่า" ส.ส. ท่านหนึ่ง ถามว่า กรมท่านไม่ใช่ กรมป่าไม้ จะเอารถดับไฟป่าไปทำไม อธิบดีกรมนั้นอธิบายว่า รถดับไฟป่าหมายความว่า รถดับเพลิงที่สามารถดับไฟที่ไหม้เป็นวงกว้างได้ดี เช่น ไฟที่ไหม้ลามทุ่งเวลาที่มีการจุดไฟเผานาข้าวก็สามารถใช้รถชนิดนี้เข้าไปดับ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านเรือนประชาชนได้ ส.ส. ท่านนั้น จึงกล่าวว่า "ไฟลามทุ่งไม่ใช่ไฟป่านี่ครับ ท่านขอซื้อรถผิดประเภท ไม่ให้ ขอตัดงบในส่วนนี้ครับ" (โอ๊ยยย นั่งฟังอยู่ อยากโดดเอาหัวโขกกำแพง)  

เล่านอกเรื่อง แต่อยากส่อให้เห้นว่า ถ้าเราบอกว่า เรือชนิดนี้ใช้เชิงรุก ฝ่ายการเมือง ฝ่ายที่ดูแลงบประมาณ จะเข้าใจไปอีกทางหนึ่งทันที เข้าใจไปทางไหนก็ไม่รู้แหละ แต่จะสรุปว่า "ไม่จำเป็น" และจะไม่ยอมให้ซื้อง่ายๆแน่ๆ เลยครับ 

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 24/08/2012 16:28:09


ความคิดเห็นที่ 31


หลายท่านมักกล่าวว่าเรือดำน้ำถ้าดำน้ำในอ่าวไทยจะมองเห็นเป็นเงาๆว่าไปนั้น. ตลกแล้วครับ. คุณคิดว่าอ่าวไทยมีพื้นที่เท่าไหร่ครับ แล้วเรือดำน้ำมีขนาดเท่าไหร่ลองคำนวนดูครับ. ให้เอาเรือดำน้ำไปวางไว้สักแห่งในอ่าวไทยโดยไม่บอกว่าตรงไหนคุณคิดว่าเขาจะใช้เวลาหากันเท่าไหร่กี่วันถึงจะเจอเงาที่คุณว่า ต้องใช้เครื่องบินกี่เครื่อง ถึงจะครอบคลุมพื้นที่ค้นหา มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะครับ ขนาดเครื่องบินโดยสารตกลงทะเลจำกัดพื้นที่ค้นหาทั้งเครื่องทั้งเรือยังหากันแทบตาย พูดนะง่ายครับมองเห็นเป็นเงา คนพูดเคยเห็นเองหรือเปท่าก็ไม่รู้. อยากรู้ไปถามนักบินพีสามขอาเราสิครับว่าเจอเงาบ้างมั้ย. เสียขวดทุกราย
โดยคุณ speci เมื่อวันที่ 24/08/2012 17:22:41


ความคิดเห็นที่ 32


ผมว่าก็พูดกันเกินไปครับ ถ้าอ่าวไทยเรือดำน้ำเข้าไม่ได้ แล้วไอ้เรือดำน้ำเมกาที่โดนยิงจม แล้วเพิ่งค้นหาเจอเมื่อ2-3ปีมานี่มันมานอนแอ้งแม้งก้นอ่าวไทยได้อย่างไร อ่าวไทยประกอบด้วยจุดที่ลึกตั้งแต่ 10 เมตร ถึง 80 เมตร จุุดที่ระดับความลึก 70- 80 เมตร คือบริเวณที่ติดกับพื้นที่พิพาทและเส้นเขตแดนทางทะเลของไทย กัมพูชา เวียดนาม เราคงไม่คิดจะเอาเรือดำน้ำมาใช้ในระดับความลึก10-40 เมตรหรอกนะครับ อีกอย่างแท่นแก๊สธรรมชาติก็อยุ่ในระดับความลึก 40-70 เมตร ในอ่าวไทย ถ้าข้าศึกจะใช้เรือดำน้ำโจมตีย่อมทำได้ ดังนัันเรือดำน้ำจะสามารถใช้ป้องกันและทำการรบในระดับความลึกบริเวณเขตแดนทางทะเล และผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้พอดีทีระดับความลึก 40-80 เมตรทางด้านอ่าวไทย และ ทางอันดามันไม่ต้องพูดถึง ปฎิบัติการได้สบายๆ จุดที่ลึกของฝั่งอันดามัน คือที่ชายร่องไกล่ทวีปที่ลึกตั้ง 200-300 เมตร เรือดำน้ำดีเซล หรือแม้แต่เรือดำน้ำนิวเคลียร์ สามารถทำการรบได้สบายๆอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้เรือดำน้ำป้องกันแค่อ่าวไทยที่เดียว อย่าลืมว่าฝั่งอันดามันก็สำคัญเช่นกัน ข้าศึกก้สามารถขึ้นบกหรือโจมตีเราจากฝั่งอันดามันได้เหมือนกัน การมีอาวุธเชิงรุก บางทีก็ไม่จำเป็นต้องใช้รุกเสมอไป แต่มีไว้เพื่อป้องปรามข้าศึกให้คิดให้หนักที่จะโจมตีเราเพราะเราสามารถเปลี่ยนจากรับ เป็นรุกได้ทันที ก็มีแค่นี้แหละครับ ส่วนเรื่องความลึกในอ่าวไทย ถ้าในเมื่อระดับความลึก 10-40 เมตร เราใช้เรือดำน้ำไม่ได้ ข้าศึกก็ใช้เรือดำน้ำเข้าโจมตีเราไม่ได้เช่นเดียวกัน แล้วเราก็สามารถใช้เรือผิวน้ำเข้าไล่ล่าได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น การระวังป้องกันที่ดีทีสุดคือ 10-40 เมตร ก็ให้เป็นหน้าที่การล่าทำลายของเรือผิวน้ำไป ส่วนระดับ40-80 เมตรก็ให้เป็นหน้าที่ของเรือดำน้ำในการล่าและลาดตระเวณไป น่าจะเหมาะสมกว่าครับ ผมก็เป็นนักตกปลา และไปตกปลาแถวแท่นขุดเจาะหลักแก๊สกลางทะเลบ่อยๆ ก็พอจะรู้ระดับน้ำที่นั่นอยู่บ้าง เอาเป็นว่ามันพอที่จะให้เรือดำน้ำวิ่งได้อย่างสบายใจแล้วกันครับ

เส้นบอกระดับความลึก ไล่มาตั้งแต่เส้นแรกที่ติดแผ่นดินคือระดับความลึกที่ 1-10 ไล่ลงไปจนถึงเส้นสุดท้ายที่70-85


โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 24/08/2012 17:24:30


ความคิดเห็นที่ 33


   ขอขอบคุณน้องแชมป์สำหรับภาพนะครับ   เรื่องนี้เคยเถียงกันอย่างเคร่งเครียดใน wing21 มาก่อนโดยเอาหลักวิชาการมาเถียงกัน  รูปคล้ายๆที่น้องแชมป์ลงก็เคยเห็น    มีสมาชิกระดับเซียนๆมาเถียงแสดงข้อมูลกันแบบถึงลูกถึงคน  สรุปได้ว่า

    เรือดำน้ำสามารถปฎิบัติการในอ่าวไทยได้จริง    แต่ควรเป็นเรือดำน้ำที่มีขนาดเล็กแถวๆ 1000 ตัน  จะมีประสอทธิภาพครับ     ใหญ่กว่านั้นก็สามารถเข้ามาได้แต่ไม่สะดวกในการปฎิบัติการครับ

   สำหรับท่าน speci  ผมเคยอ่านนิตยสารด้านยุโธปกร์ต่างประเทศ   เขาบอกว่าเรือดำน้ำนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ร่วมหมื่นตันนี่ไม่ควรปฎิบัติงานในเขตน้ำตื้นครับ   และในสภาวะที่น้ำทะเลในบางครั้งที่ใสจัดมีตะกอนนั้น   เครื่องบิปราบเรือดำน้ำสามารถเห็นเงาตะคุ่มๆในน้ำได้ถึงระดับเกือบร้อยเมตรทีเดียว

   แต่ฝั่งอ่าวไทยตะกอนเยอะครับ   แต่เรือดำน้ำใหญ่ขนาดนั้นถ้าอยู่ตื้นกว่า 100 เมตรผบ.เรือเขาก็ไม่อยากเสี่ยงครับ   แลพการเดินเรือก็เป็นไปอย่างยากลำบากกว่าในเขตน้ำลึกด้วย   แค้พลาดตัวเรือไปครูดกับหินโสโครกในเขตน้ำตื้นก็แย่แล้วครับ   ไหนจะสงครามทุ่นระเบอดที่สามารถกระทำได้โดยง่ายจากฝ่ายตั้งรับ  

    ทุ่นระเบิดดักเรือดำน้ำมีหลายชนิดครับ   ตื้นขนาดนี้ง่ายแก่ฝ่ายเราในสงครามทุ่นระเบิดดักเนือดำน้ำมากครับ  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 24/08/2012 21:52:09


ความคิดเห็นที่ 34


   แต่ก็ต้องยอมรับอีกข้อว่าฝ่ายเราเองก็อ่อนในเรื่องสงครามทุ่นระเบิดด้วยเช่นกัน   จริงๆถ้าในเรื่องนี้เราควรจะต้องปรับปรุงทั้งในเรื่องสงครามทุ่นระเบิดและสงครามเรือดำน้ำในเขตน้ำตื้น   และต้องพึ่งพาเรือสมุทรศาสตร์เพื่อทำแผนที่อ่าวไทยทุกตารางนิ้ว   นับเป็นข่าวดีที่เราได้จัดหาและเข้าประจำการเรือสมุทรศาสตร์ที่ดีที่สุดแบบหนึ่งในเอเชีย     และตลอดเวลาเรือลำนี้ก็จัดทำแผนที่ใต้ท้องทะเลอ่าวไทยมาโดยตลอด     หวังว่าภายในไม่กี่ปีเราคงรู้ทุกจุดในอ่าวไทยอย่างละเอียดทุกตารางนิ้ว     ที่เหลือก็จัดหายุทโธปกรณ์ที่เหมาะสมกับสงครามทุ่นระเบิดและสงครามเรือดำน้ำในเขตน้ำตื้นครับ  

     ส่วนเรือบรรทุกบ.  หรือ เรือ LHA/LHD กึ่งเรือ sea control   จะจำเป็นเมื่อเราต้องตัดคลองกระครับ     การตั้งรับนอกน่านน้ำเพื่อรักษาคลองน่าจะเป็นการการันตีถึงการรักษาเส้นทางเดินเรือผ่านคลองกระ      ถ้าโครงการตัดคลองกระยังคงมีต่อไป   เรือตระกูลบรรทุกบ.ก็ยังคงมีความจำเป็นเสมอครับ         แต่จะกล้าตัดหรือเปล่าเท่านั้น    เพราะคนที่กระโดดเข้ามาสนุกกับมันด้วยก็มหาอำนาจทั้งนั้น

ถ้ากล้าตัดคลองกระ  ก็ต้องกล้าจัดหากำลังทางทะเลระดับนั้นมารักษาคลอง   รับรองว่ากระทบสมดุลทางทหารในภูมิภาค   แล้วเรื่องยุ่งๆก็จะบังเกิด   จะกล้าฝ่าฟันปัญหา  หรือ จะกล้วหัวหด ก็ต้องเลือกกันล่ะครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 24/08/2012 22:06:27


ความคิดเห็นที่ 35


    และด้วยเหตุผลข้างต้น   ทุกครั้งที่ทร.จะจัดหาเรือดำน้ำจะเห็นว่าทำไมมันต้องมีตัวเลือกเป็น

U-206A   500 กว่าตัน

type 209 รุ่นเล็ก   1200 ตัน

A-17    1400-1500  ตัน

AMUR 950    มีระวาง 900-1100 ตัน  

     จะเห็นว่าระวางขับน้ำต่ำกว่า 1500 ตันและป้วนเปี้ยนแถวๆ 1000 ตัน ทั้งหมด      ส่วนแมงป่องทะเล  1600-1800 ตัน   ย่อมสามารถปฎิบัติการในเขตอ่าวไทยได้   โดยน่าจะอยู่ในเกณ์ที่ดีพอใช้   และสามารถปฎิบัติงานในเขตน้ำลึกแถบเบอร์เนียวเหนือ ได้ในระดับดีพอใช้    ทางเขาจึงเลือกรุ่นนี้ไงครับ    

   S-20  สามารถปฎิบัติงานในเขตอ่าวไทยได้ครับ   แต่ดูจะใหญ่ไปหน่อยสำหรับความลึกในระดับนี้    ถ้าฝั่งอันดามันนี่ OK เลยครับ    เห็นเกาหลีกำลังพัฒนาสร้างเรือ Midgad submarine ขนาดแค่ 500-600 ตันเพื่อประจำการเกือบ 20 ลำ    น่าสนใจนะครับ    น่าจะพิจารณาไว้บ้างก็ดี    เพราะเขาเองก็มีเขตน้ำตื้นเพื่อต้องเฝ้าตรวจและเพื่อทำสงครามเรือดำน้ำเหมือนกัน    ราคาน่าจะไม่แพงและคุณภาพน่าจะดีกว่าของจีน    ส่วนอันดามันผมชอบ Kilo ครับ   โดยเฉพาะรุ่นติดตั้ง VLS เพื่อยิง Bhramos  แต่อินเดียก็มีรุ่นนี้อยู่ด้วย   ดังนั้นก็อาจจะจบที่เรือเยอรมัน


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 24/08/2012 22:29:21


ความคิดเห็นที่ 36


    และแม้ว่าสเปกของ midget submarine จะดูด้อยกว่าเรือดำน้ำที่มีขนาดใหญ่กว่า 1500 ตันมากพอควร     แต่ในน้ำตื้นมากๆ  มันก็เคยโชว์ที่เด็ดสะระตี่มาแล้ว   เรือของเกาหลีเหนือไงครับ   จมเรือคอร์เวตชั้นดีของเกาหลีใต้โดยที่ตัวเองเล็ดลอดเข้ามายิง "หมู่เรือคอร์เวต"  โดยที่เป้าไม่รู้ตัว    ยิงเสร็จแล้วก็สามารถฉากหนีไปได้โดยที่เรือข้าศึกลำที่เหลือยังงงอยู่เลยว่าเพื่อนถูกจมด้วยอะไร   ยังไปไล่ยิงฝูงนกด้วยคิดว่าเป็นเครื่องบินที่บินเข้ามาในระดับต่ำ    กว่าจะรู้ชัดเจนก็ต้องกู้เรือที่จมขึ้นมาถึงได้หายสงสัย    เพราะมันจมด้วยตอร์ปิโด 

     เรือเกาหลีเหนือนี่กิ๊กก๊อกนะครับ    เทียบเรือชั้น  U-206A ไม่ได้เลย    ส่วนเรือ midget แบบใหม่ของเกาหลี   น่าจะใช้เทคโนโลยีที่เกาหลีใต้ได้รับมาจากเยอรมันอีกที   แม้ไม่ได้เจ๋งเลอเลิศ    แต่น่าจะถือว่าเป็น midget ที่ทันสมัยที่สุดแบบหนึ่งของโลกก็ว่าได้แล้วนะครับ   ราคาน่าจะไม่กี่พันล้านบาท    เบาสบายสำหรับทร.ที่จะจัดซื้อทั้งกองเรือ 6 ลำ  

   ขอโทษจริงๆที่จำชื่อรุ่นไม่ได้   ต้องไปลองหาดู   เห็นเพื่อนใน TFC เคยลงเอาไว้    เดี๋ยวจะไปขุดโครงการมาบอกเล่า


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 24/08/2012 22:40:23


ความคิดเห็นที่ 37


ในใจก็แอบเชียร์เจ้าตัวนี้อยู่เหมือน Andrasta/SMX-23  มันย่อขนาด scorpine ลง 70%

http://en.dcnsgroup.com/naval/produits/andrasta/

 

 

 

 

Length: 50 m
Surface displacement: 900 metric tons บางเว็บบอกว่า 855 ton เอามาดำผุดดำว่ายทั่งสองฝั่งก็คงดี
Speed when submerged: > 15 knots
Submerged endurance: 5 days
Depth of immersion: > 200 m
Operational distance: > 3000 nautical miles
Crew: 21 members

น่าจะซื้อเอามาฝึกให้ชำนานก่อนที่สำคัญมัน low-cost   แล้วค่อยขยับเป็นรุ่นโต เอาประมาณว่าขี่ นิสสันมาร์ส ไปก่อนโตขึ้นจะเป็นเบนซ์

http://www.pakarmedforces.com/2010/10/pn-mini-submarine-fleet.html

โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 24/08/2012 23:47:35


ความคิดเห็นที่ 38


      ใช่เลย!.......ประมาณนี้แหล่ะครับท่านหลวง   เล็กกว่า AMUR 950 หน่อยนึง   อำนาขการยิงต่ำกว่าพอสมควร   แต่น่าจะซ่อนพรางตัวเองดีกว่าอาเมอร์   เรือแบบนี้แหล่ะครับเหมาะกับอ่าวไทยเจ้าปัฒหา   แต่ midget นี่ต้องมีระวางน้อยกว่า 500 ตัน    แต่ราคาครึ่งหนึ่งของแมงป่องทะเล  ก็ราวๆ 10,000 ล้านบาท!

ออ.....เจอแล้วเรือเกาหลีใต้   จัดอยู่ใน midget ได้แบบคาบเส้น   KS-550A  ถ้าเขาผลิตมาใช้งานเมื่อไร่   น่าจะมีหลายรุ่น   อาจจะมีรุ่นใหญ่กว่านี้แต่ไม่เกิน 1000 ตันด้วย   ราคาน่าจะแค่ครึ่งเดียวของฝรั่งเศส



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 00:09:39


ความคิดเห็นที่ 39


    พิมพ์ผิดอีกแล้ว  KS-500A ไม่ใช่ 550   แต่สเปกเรือดำลึกเกินกว่าความต้องการไปมาก  ล่อซะตั้ง 250 เมตร   แค่ 150 เมตร  ก็เพียงพอแล้วครับ   เดี๋ยวถ้าเขาเริ่มเข้าประจำการ  ผู้ผลิตคงออกรุ่นย่อยมาให้เลือกเองล่ะครับ    แต่เรือฝรั่งเศสนี่ดูมีชาติตระกูลดีนะครับ   แต่ของเกาหลีน่าจะราคาไม่ถึงครึ่งของฝรั่งเศส   ผมว่าดีพอสำหรับน้ำตื้นอย่างเราแล้วล่ะครับ   ยกเว้นเราจะไปไล่ล่าแมงป่องทะเลนอกรั้วบ้านเรา    แบบนี้คงต้องใหญ่กว่านี้เท่าตัว      ฝั่งอันดามันค่อยหาสัก 2000-3000 ตัน  เหมาะสม   ถ้าตัดคลองกระ   เราจะสามารถนำเรือดำน้ำที่เหมาะสมกับฝั่งอันดามันไปซ่านอกบ้านที่ฝั่งอ่าวไทยได้ครับ    หรือดอดเอาเรือมินิไปลองของน้ำตื้นเขตพม่าก็ได้ด้วย

   KSS-500A  มาทดแทน KSS-1 Dolgorae   class ครับ     


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 00:20:24


ความคิดเห็นที่ 40


   แต่ถ้าชอบของหรูและยังยึดติดเรือเยอรมัน   และต้องการเล็กๆ  ก็นี่เลยครับ

    210 mod class 

ข้อมมูลจากเวปนี้  http://s3.zetaboards.com/Defense_Philippines/topic/831248/8/    

 เห็นว่าเป็นเรือย่อส่วนของ 212/214  แต่เอาพื้นฐานมาจาก  Ula class  ของนอรเวย์   และเอาสเปกบางส่วนจาก 209 มาด้วย     ราคาน่าจะครึ่งเดียวของ 212/214   คงประมาณ  12,000 ล้านบาทต่อลำได้ครับ    ขนาดพอๆกับ AMUR 950

      แต่ราคานี่คงกลืนน้ำลายเอื๊อกเลย.............




โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 00:28:42


ความคิดเห็นที่ 41


    ข้อมูลสเปกเรือ 210 mod class

Dimensions: 56 m length, 1,000 tons submerged
Crew: 15 men crew in two-shift, 21 men in three-shift operation; additional bunkspace reserved
Endurance: 30 days target
Construction: Single-hull, HY80 steel; small sail for signature reduction
Propulsion: Diesel-electric; 2x improved MTU 12V 396 diesel; Permasyn electric engine
Signature Reduction Features: X-Rudder configuration, Skew-Back propeller
Armament: 8x 533mm torpedo tubes; x14 torpedoes; missile launch or mine capability installable on customer demand
Sail installations: optical periscope, telescoping communications mast, telescoping radar mast, two-man diver chamber (SOF); additional space reserved

เครดิตเวป   http://www.network54.com/Forum/211833/thread/1231528114/HDW+Introduces+Type+210mod+Submarine

   เห็นว่าอินโดนีเซียสนใจมันมาก   กะเอามาชน AMUR 950  SMX-23  S-1000 โดยตรงเลย  

 

   อีกทางเลือกหนึ่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาคือ S-1000  โครงการร่วมสามชาติ   รัสเซีย  อิตาลี และอินเดีย 

ข้อมูลตามวิกิพีเดียเลยครับ   http://en.wikipedia.org/wiki/S1000_class_submarines

   จริงเรายังไม่ได้ u-206A ตอนนี้ก็ถือว่าไม่เลวนะครับ    ถ้าวันข้างหน้าการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงและแนวนโยบายเดิมเกี่ยวกับกองทัพถูกยกเลิกไป    เรือ mini sub เหล่านี้กำลังลงแข่งขันในตลาดกันอย่างดุเดือดเลยครับ   ตัวเลือกท่าจะเยอะ   ราคาน่าสนใจกว่า  เหมาะสมกับเรากว่ามาก

    ในบอร์ด wing 21 และ TFC ยุคแรกๆจะคุยกันในเชิงวิชาการแบบนี้ครับ   หาข้อมูลมาอ้างอิงถกเถียงกันแบบนักวิชาการมากกว่าการกระแน๊ะกระแหน๋กัน    ผมชอบแนวๆนี้ครับท่านหลวง.....



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 00:57:36


ความคิดเห็นที่ 42


Sea Dagger
L - 16 - 20m depending on configuration
Kockums follow-on from the Spiggen, the Sea Dagger is a drawing board concept for a modular midget submarine series which, by swapping out the core section, can be configured in various roles:
1) Attack sub armed with two lightweight torpedoes or mines
2) Swimmer delivery vehicle (Autonomous SDV)
3) Surveillance sub
4) Training (/target) sub
Although not unique for a midget submarine, the Sea Dagger is distinctive in appearance because it lacks the familiar sail.

 

 

ไหนๆก็อุดหนุนน้องกิ๊ฟไปแล้ว แล้วจะอุดหนุนเจ้านี้คงไม่ว่ากัน  แต่มันเล็กไปหน่อย สัญชาติสวีเดน

โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 25/08/2012 01:05:04


ความคิดเห็นที่ 43


    Sea drager เป็นเรือดำน้ำสำหรับใช้ในการฝึกการล่าเรือดำน้ำและใช้ในการส่งหน่วยปฎิบัติการพิเศษขึ้นฝั่งฝ่ายตรงข้ามครับ    ไม่ได้ถูกออกแบบมาทำการรบในสงครามเรือดำน้ำโดยตรง   คิดว่าเทคโนโลยีที่ทร.พยายามสะสมอีกไม่นานคงจะสามารถพัฒนาเรือที่ใช้ในภาระกิจแบบนี้ได้เอง

    มามองกันต่อที่เรือชั้น  210 mod class  กันต่อนะครับ

เรือชั้นนี้นำเอาระบบขับเคลื่อนแบบที่ใช้ใน 212/214 มาใช้   คือ  PERMASYN propulsion motor  ซึ่งเป็น motor สำหรับระบบขับเคลื่อนที่เงียบและมีประสิทธิภาพ ยี่ห้อ siemens  หรูอ่ะครับ    ย่อมสามารถใช้ระบบ fuel cell  ใน AIP  ได้    หมายถึงว่าเรือชั้นนี้น่าจะใช้ระบบ  AIP ที่ทันสมัยที่สุดในโลกครับ

    เทียบกับมอเตอร์ไซอร์แล้วกัน   ใครเคยเห็นมอไซค์ที่ใช้มอเตอร์วิ่งผ่านหน้ามาแล้วครับ    เงียบกรบยังกะจักรยาน นั่นล่ะครับเทียบได้กับเรือที่ใช้ระบบ Fuel cell / PERMASYN motor    ส่วนมอไซค์แบบสถุตเตอร์ทั่วๆไป   เสียงไม่ดังประหยัดน้ำมันเล็กสะดวก  ก็เทียบได้กับ เรือดำน้ำดีเซลขนาด 2000 +- 500 ตัน ทั่วไปครับ    และมอไซค์สปอต  1000 cc.  อันนี้แรง  เสียงดัง   เทียบได้กับเครื่องยนต์นิวเคลียร์ของเรือดำน้ำนิวเคลียร์

    เรือชั้นนี้น่าจะใช้ระบบ AIP ซึ่งทำให้มันสามารถดำน้ำได้นานโดยไม่ต้องโผล่มาดูดอากาศ   น่าจะพอๆกับ 212/214   เพราะใช้เทคโนโลยีเดียวกัน   ดังนั้นมันก็กลายเป็นเรือดำน้ำนิวเคลียร์จิ๋วไปเลย    ระบบโซน่าร์ก็เจ๋ง     จากสเปกนี่กล้าบอกได้เลยว่าถ้าทร.ซื้อมาใช้งาน  แมงป่องทะเลหนาวแน่ๆครับ    อย่าว่าแต่แมงป่องทะเลเลย    ต่อให้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ทะลึ่งเข้ามาในเขตอ่าวไทย   ก็อาจจะโดนสอยเอาง่ายๆ  เพราะเสียงดังกว่า  ใหญ่เทอะทะสำหรับน้ำตื้น   ซ่อนพรางตัวได้ยากกว่า   ถือว่าเสียเปรียบเรือแบบนี้มาก     แม้แต่เรือเอจีสชุดใหญ่ที่ว่าเจ๋งๆราคา 60,000 ล้านก็เถอะ   จมเอาง่ายๆ    ขนาดเรือ คอตลิน ของออสเตเลียที่ว่าเสียงดังๆ   เรือ เอจีสยังหาไม่เจอ    แล้วเรือ AIP ใช้ระบบ  fuel cell เงียบกริบและเล็กจิ๋วแบบนี้ล่ะ    งมเข็มในมหาสมุทรของแท้เลยครับ 

   ถ้าจะเอาหรูเจ๋ง  ผมสนับสนุนรุ่นนี้ครับ    แต่ถ้าจะเอาจำนวนมากคุ้มค่า best buy  สนับสนุนเรือเกาหลี KS-500A หรือเรือในซีรี่ย์นี้ครับ     เครดิตข้อมมูล PERMASYN จากเวปนี้ครับ

http://www.industry.siemens.com/industrysolutions/global/en/marine/default/propulsion/permasyn/pages/default.aspx



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 10:39:06


ความคิดเห็นที่ 44


    โอ้วขออภัย  เรือ 210 mod ใช้เครื่องดีเซล MTU  แหมเห็นใช้เครื่องมอเตอร์แบบเดียวกันนึกว่าใช้ ระบบ AIP เหมือนกันได้    แหมผมว่าน่าจะสามารถอับเกรดใช้ AIP ได้นะเพราะ type 209 1200 ใหญ่กว่านี้ 100 ตันยังติดตั้งได้เลย    แต่คงจ่ายแพงขึ้นพอควร    แต่ถ้าไหนๆจะซื้อแพงและประสิทธิภาพน็อคเรือดำน้ำนิวเคลียร์ได้ (เฉพาะเขตน้ำตื้น)    ก็น่าลงทุนครับ    แค่ระบบโซน่าร์ก็สุดหรูแล้ว  ทั้งโซน่าร์หัวเรือ  โซน่าร์ active และ passive ข้างตัวเรือ   หรูยังกะเรือดำน้ำนิวเคลียร์   ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าดีไม่แพ้เรือดำน้ำนิวเคลียร์    ขาดแต่ AIP ถ้ามีก็วัดกันได้เลย 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 10:59:20


ความคิดเห็นที่ 45


เครื่องยนต์ของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ เงียบกว่าเรือดำน้ำดีเซลล์ เเน่นอนครับ พูดง่ายๆเลย เรือดำน้ำนิวเคียร์คือโรงไฟฟ้านิวเคลียร เเบบย่อส่วน ซึ่งมันไม่มี ลูกสูบที่จะเคลื่อนที่ขึ้นลง ไม่มีการจุดระเบิด เหมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ดีเซลล์

ซึ่งมันไม่มีอะไรที่สามารถขยับได้ จะมีก็เเต่ ส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าครับ ที่เป็น เพลา เพื่อที่จะรับไอน้ำจาก เตาปฏิกรณ์ เพลานั้นก็ต่อเข้ากำเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ง่ายๆเลยครับ ที่ซับซ้อนที่สุดก็คงจะเป็น ส่วนของเตาปฏิกรณ์เท่านั้น

โดยคุณ kapooknet200 เมื่อวันที่ 25/08/2012 17:43:01


ความคิดเห็นที่ 46


เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่าหลายท่านหลงประเด็นเรื่องขนาด ซึ่งเรือดำน้ำส่วนใหญ่ก็เดินทางผิวน้ำเวลาไม่มีความจำเป็นต้องอำพรางหรืออยู่ในภาระกิจซึ่งอ่าวไทยไม่น่ามีปัญหาใด

ที่ว่ากองทัพมักจะยก206Aเป็นตัวตั่งตั่งแต่สมัย ยังต้องซื้อมือหนึ่ง ประเด็นมันคือเรื่องเงิน ครับไม่ใช่ทัพเรือจะต้องการเล็กๆครับ

โดยคุณ Joke1oo เมื่อวันที่ 25/08/2012 18:15:23


ความคิดเห็นที่ 47


    ในฐานะที่จบทางฟิสิกส์มา(และเรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์มาด้วยเช่นกัน)    มีวิชาที่ต้องลงคือ นิวเคลียร์ฟิสิกส์นะครับ   ท่องแม่ 935 จนเอียน    ต้องเรียนเรื่องเตาปฎิกรณืนิวเคลียร์แบบพอรู้มาบ้างขอยืนยันว่าเสียงจากเครื่องยนต์เรือดำน้ำขับเคลื่อนนิวเคลียร์นี่เสียงดังฟังชัดครับ   

หลักการอย่างหยาบๆในเตาปฎิกรณืแบบหล่อเย็นด้วยน้ำนะครับ     เขาจะเอาแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ ไปแช่ในน้ำแล้วยิงด้วยนิวตรอนเพื่อให้เกิดปฎิกิรกยา  และมีแท่ง control rod อยู่ระหว่างแท่งเชื้อเพลิงสมัยผมเรียนก็ต้องแท่งกราไฟต์ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแล้วเพราะกราไฟต์มันติดไฟ   เพื่อควบคุมปฎิกิรอยาตามต้องการ  

   ความร้อนจากปฎิกิริยานิวเคลียร์จะถูกถ่ายเทโดยน้ำที่อยู่ารอบๆตัวมัน(น้ำส่วนนี้จะเป็นระบบปิดไม่ไหลออกสู่ภายนอกเพราะเปื้อนกัมตภาพรังสี  และมันจะอยู่ภายใต้แรงกดันที่สูง  อุณหภูมิจะสูงเกิน 100 องศาแต่จะไม่กลายเป็นไอเพราะอยู่ภายใต้แรงดันมากกว่า 1 บรรยากาศมากๆ)     แล้วน้ำร้อนนี้จะไหลไปยังส่วนแลกเปลี่ยนความร้อนกับท่อน้ำอีกส่วนซึ่งน้ำในส่วนใหม่นี้จะไม่สัมผัสหรือผสมกับน้ำส่วนที่อยู่กับแกนนิวเคลียร์    ความร้อนที่ได้จะสูงจนต้มน้ำเดือด  และไอน้ำแรงสูงนี่แหล่ะครับจะไปปั่นเทอร์ไบท์สำหรับระบบขับเคลื่อนเรือ    ส่วนเคลื่อนไหวที่สร้างเสียงดังแบบสนั่นหวั่นไหวก็คือ เทอร์ไบท์นี่แหล่ะครับ

    มันจะดังยิ่งกว่าเครื่องยนต์ดีเซลมากเลยนะครับ    ยังไงก็ลองหาข้อมูลหลักการทำงานของเครื่องยนต์นิวเคลียร์ดูก่อนดีกว่านะ    

    ส่วนเครื่องยนต์ fuel cell จะไม่มีส่วนเคลื่อนไหวใดๆนอกจากแกนเพลาของใบพัด    เพราะอาศัยหลักการแลกเปลี่ยนอิเลคตรอนระหว่างแมมเบรน  และได้กระแสไฟฟ้ามาเลยโดยตรง   ไม่ต้องไปใช้เทอร์ไบท์ใดๆมาปั่นอีก   จึงเงียบกริบ     

     เรือดำน้ำนิวเคลียร์ได้เปรียบที่มีพลังงานจำนวนมากจากเชื้อเพลิง   สามารถสร้างพลังในการขับเคลื่อนที่สูงมาก  ผลิตไฟฟ้าให้แก่ระบบไฟฟ้าของเรือขนาดใหญ่ทั้งลำ   ไม่ต้องพึ่งอากาศภายนอก   ดังนั้นมันจึงเหนือกว่าในเรื่องระยะทางและความเร็ว    แต่ความเงียบนี่แย่ที่สุด  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 21:15:26


ความคิดเห็นที่ 48


    และระยะเวลาที่ดำอยู่ใต้น้ำนานมากเท่าที่ลูกเรือจะทนได้   ส่วนมากก็จะใช้เวลาในการดำประมาณ 3-4 เดือน  โดยไม่ต้องโผล่ออก   ซึ่งเรือดำน้ำดีเซลทำไม่ได้   ต้องโผล่ขึ้นมาชาร์ทแบตตารี่และดูดอากาศเพื่อเปลี่ยนถ่ายอากาศทุกๆ 5-6 วัน   ทำให้มันถูกตรวจพบได้ง่ายในช่วงเวลานั้น   นั่นคือมันซ่อนพรางตัวจากการถูกพบได้น้อยกว่าเรือที่ดำได้โดยไม่ต้องโผล่  

    เรือระบบ Air independent propulsion (AIP)  ที่ใช้ระบบ fuel cell ( fuel cell จะแบบไหนก็แล้วแต่  มีหลายระบบ)     ชื่อมันก็บอกแล้วว่ามันเป็นระบบที่ไม่ต้องพึ่งพาอากาศจากภายนอก  ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องขึ้นไปดูดอากาศเลย   เรือดำน้ำระบบ AIP (ใช้เครืื่อง Fuel cell)  สามารถดำอยู่ใต้น้ำได้นานเกือบถึง 3 สัปดาห์ได้ (เดี๋ยวนี้ไม่รู้พัฒนาไปเกินเดือนแล้วก็ได้)    ดังนั้นมันจึงอยู่ใต้น้ำได้นานเกือยเท่าระยะปฎิบัติงานในการออกทะเลแต่ละครั้ง   ทำให้มันไม่เสียเปรียบเรือดำน้ำนิวเคลียร์อีกต่อไป 

    ถ้าเรือดีเซลและ AIP ห่วยกว่าเรืนิวเคลียร์จริง   ทำไมหลายๆครั้งในการซ้อมรบ   เรือดีเซลจึงสามารถผ่านทั้งเรือคุ้มกัน Aegis ทั้งเรือดำน้ำนิวเคลียร์ที่ทำการคุ้มกันมันไปได้ละครับ  ตัวอย่างการซ้อมรบระหว่าง NATO ที่เรือชั้น A-17 ฝ่าเรือคุ้มกันเข้าไปจมเรือบรรทุกบ. พลังงานนิวเคลียร์ได้   จนอเมริกาเองต้องเช่าเรือดำน้ำดีเซลของสวีเดนไปทำการศึกษาเลย

      จากเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม  ราคามันจึงแพงมาก    แต่มันก็ถูกจำกัดที่ขนาดที่เล็กของมันทำให้มันปฎิบัติการได้แต่ละครั้ง  30-45 วันเท่านั้น   ผิดกับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 21:32:53


ความคิดเห็นที่ 49


     555555.......เรือดำน้ำเวลาปกติที่ไม่มีความจำเป็น  เรือดำน้ำจะเดินทางบนผิวน้ำ   ไอ้ผมก็เพิ่งเคยได้ยินก็วันนี้แหละครับ................

    โดยปกติเท่าที่รู้มา   เรือดำน้ำต้องซ่อนพรางตัวเองให้ดีที่สุด   แบบว่าถ้าไม่จำเป็นไม่ว่าเวลาไหนก็ต้องดำอยู่ใต้น้ำเสมอถึงจะถูกสิครับ    ที่คุณพูดมันตรงข้ามกับความเป็นจริงเลย     แล้วเขาจะสร้างเครื่องยนต์นิวเคลียร์เพื่อให้มันดำใต้น้ำได้นาน 3-4 เดือนไปเพื่ออะไรล่ะครับถ้าเวลาไม่จำเป็นก็แล่นบนผิวน้ำเอา...........ผมว่าคุณหาข้อมูลหลักการทำงานของเรือดำน้ำและหลักนิยมในสงครามเรือดำน้ำมาก่อนดีกว่าครับ    พูดไม่ออกอ่ะ

     ส่วนเรื่องขนาดน่ะ   คุณลองเลี้ยงปลาสวายตัวเอ๊บๆ  ในอ่างตื้นๆดูสิครับ   จะเข้าใจว่าทำไมขนาดของเรือถึงจำเป็น   ไม่มีหลงประเด็นอะไรกันหรอกครับ    

   มีอยู่อันที่ท่านพูดได้ถูกต้องครับ    เงิน   กำลังเป็นปัญหาของกองทัพเรือจริงๆ


 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 21:48:55


ความคิดเห็นที่ 50


   เสียงจากเทอร์ไบท์นั้นดังขนาดไหน.......ลองเอาแผ่นพลาสติกแบนๆเรียวๆมาเป่าลมดูครับ   มันจะมีเสียงหวิว  ซึ่งมาจากการเสียดสีกับการสั่นสะเทือนของตัวแผ่นพลาสติกแบนๆอันนั้น     แล้วคุณลองจินตนาการดูสิครับ    กังหันเทอร์ไบท์ 1 ตัว  มีใบพัดเทอร์ไมท์แบบที่ว่านี่เป็นร้อยๆพันๆใบพัด   และถูกเป่าด้วยแรงดันจากไอน้ำแรงชนิดที่เรียกว่าเป่ารถกระบะกระเด้ง   มันจะสร้างเสียงได้ดังขนาดไหน    นอกจากนี้การหมุนรอบตุวเองของชุดเทอร์อย่างเร็วจี๋ (ต่อให้มันมีระะบบแบริ่งแบบแม่เหล็กแรงสูงก็เถอะ)   มันจะสั่นสะเทื่อนจากการหมุนรอบตัวเองขนาดไหน   ถ้าไม่มีอุปกรณืป้องกันเสียงและอุปกรณ์หักล้างคลื่นเสียง (บับกับปฎิบับ หักล้างยอดแอมปิจูดเป็นศูนย์ได้  ถ้าเฟสและขนาดตรงกันแบบเป๊ะๆ)   รับรองว่าคุณนั่งฟังอยู่ข้างๆน่ะ  หูแทบแตกเลยครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/08/2012 22:08:16


ความคิดเห็นที่ 51


ขอโทษครับพอดีข้อมูลการเดินเรือบนผิวน้ำของเรือดำน้ำมันอย่างที่คุณ neosiamese2 คือผม บอกข้อมูลเรื่องเดินทางระยะสั้นเพื่อเข้าอู่แห้งหรือท่าเรือบางจุดด้วยผิวน้าไม่ใช่ช่วงเวลาสำคัญทางภาระกิจ ซึ่งถ้าใครคิดว่าอยู่ใต้น้ำตลอดเป็นหลัก. มันคงเป็นเรือนิวเครียร์ที่มีขีปนาวุธสำคัญมากกว่าครับ

โดยคุณ Joke1oo เมื่อวันที่ 26/08/2012 15:55:35


ความคิดเห็นที่ 52


ผมเองก็มีความรู้เรือดำน้ำแค่ผ่านๆตา

แต่จากการเปรียบเทียบ(ผ่านๆตา)

 

เรือดำน้ำสมัยก่อน จะมีความเร็วบนผิวน้ำมากกว่า ความเร็วขณะดำน้ำ (ไหนจะขึ้นผิวน้ำสูดอากาศ ชาร์ตแบตฯอีก)

แต่สมัยนี้ มีความเร็วขณะดำมากกว่าแล้ว (เรื่องปลีกย่อย แต่สำคัญ คุณneosiamese2  ก็ได้อธิบายไปเยอะแล้ว)

โดยคุณ Maceus เมื่อวันที่ 26/08/2012 20:55:18


ความคิดเห็นที่ 53


    ที่กองทัพเรือไทยเต้นเป็นเจ้าเข้าและต้องการเรือดำน้ำดีเซลที่ใช้ระบบ AIP เพราะมาเลย์จัดหาแมงป่องทะเลเข้าประจำการ 2 ลำ  และเป็นเรือที่ใช้ระบบ AIP มีระบบโซน่าร์ระบบเดินเรือและใช้อาวุธระดับเดียวกับเรือดำน้ำนิวเคลียร์เลยครับ    มันก็คือ  เรือดำน้ำนิวเคลียร์ย่อส่วนดีๆนี่เองแถมเงียบกว่าด้วย 

   แค่ 2 ลำนี่หนักสาหัสสำหรับเราเลยครับ   จักกรี911นี่อยู่ในสภาพที่อาจจะถูกจมเอาง่ายๆทีเดียวถ้าต้องเผชิญหน้ากันตรงๆ     เราจึงต้องมีเรือดำน้ำระบบ AIP เหมือนกัน   และต้องพัฒนาสงครามทุ่นระเบิดอย่างเร่งด่วนครับ    แต่ราคาของเรือประเภทนี้สูงมาก   แมงป่องทะเลนี่ลำละเกือบ 20,000 ล้านบาท

ถ้าเราจัดหา 210 mod class มาแล้วขออ๊อปชั่น AIP ผมว่าราคาไม่หนี 15,000 ล้านบาทครับ  4 -6 ลำก็ไม่น้อยกว่า  60,000 - 90,000  ล้านบาท     แต่ก็เท่ากับว่าได้เรือดำน้ำนิวเคลียร์จิ๋วมาใช้งาน 1 กองเรือ   ใครจะซี้ซั้วเข้ามายากมากครับ   แม้แต่เรือ Aegis และ  เรือดำน้ำนิวเคลียร์ขนาดใหญ่


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 26/08/2012 22:04:40


ความคิดเห็นที่ 54


ถึงรุ่นที่เป็นข่าว งบ1หมื่นล้านจะไม่ได้มาครอง แต่ก็ถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงอยู่ดี

อยากให้หารุ่นที่งบไม่เกิน1หมื่นล้านมาเทียบก่อน คิดว่าน่าจะดีกว่า

ถ้ามากกว่านี้ ถึงแม้จะนิดๆหน่อยๆ โอกาสได้มาก็ยิ่งลดลง

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับทัพเรือภายใน 2ปีนี้

โดยคุณ Maceus เมื่อวันที่ 26/08/2012 22:58:53


ความคิดเห็นที่ 55


ขอสั้นๆเรื่องเดียวครับ ข้อเท็จจริง(Fact) บางเรื่องต้องทราบให้แน่ชัดและไม่ถกเถียงกันอีก เช่น ด.นิวเคลียร์มีเสียงดังกว่า ด.ดีเซล ไฟฟ้า หลายเท่า ที่ดังดังเพราะปั๊มน้ำหล่อเย็นครับ อย่างที่ท่าน neosiamese2 ท่านว่าไว้นะครับเสียงมันคนละเรื่องเลยครับ ถ้ายิ่ง ด.นิวเคลียร์เข้ามาปฏิบัติการใกล้ฝั่งละก็โดน ด.ดีเซลจมได้ง่ายๆนะครับ อีกเรื่องคือ ด.เล็กใหญ่ต่างกัน แต่ตอร์ปิโดขนาดเดียวกันนะครับ อาจมีจำนวนน้อยกว่า  แต่ยุทธวิธีเรือดำน้ำคงไม่วิ่งไล่ตามขบวนคอนวอยเป็นวันๆเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว

โดยคุณ sboot เมื่อวันที่ 27/08/2012 08:39:44


ความคิดเห็นที่ 56


จากเรือ LPD ไหงกลายมาเป็นเรื่องเรือดำน้ำไปได้ ประเทศที่สร้างเรือด. เก่งๆ เช่น HDW ของเยอรมัน DCNS บ.รว่มทุนระหว่างฝรั่งเศส-สเปน Rubin จากรัสเซีย

Kockums จากสวีเดนครับ

ในส่วนเรือดำน้ำระบบ AIP (Air Independent Propulsion ) ที่ขึ้นชื่อหน่อยก็เรือจากนาโต้ ส่วนเรือรัสเซีย, จีน ยังมีปัญหาในแง่ความปลอดภัยของระบบ

ไม่สามารถนำเข้าประจำการได้ แต่ทั้งนี้ ถึงเรือด. ที่ไม่ติดตั้งระบบ AIP ก็สามารถปฎิบัติการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ว่ามีงบประมาณเพียงพอสำหรับระบบนี้หรือไม่ ทั้งนี้เรือหลายรุ่นสามารถอัพเกรดติดตั้งระบบ AIP เพิ่มในภายหลังได้ (ตัดบล็อกเรือออก แล้วนำระบบใส่เสริมเข้าไป โดยตัวเรืออาจยาวขึ้น)

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 27/08/2012 10:07:28


ความคิดเห็นที่ 57


    แถมอันสุดท้ายครับ   ถ้าใครคิดว่างั้นเราต้องปรับปรุงระบบต่อต้านไล่ล่าเรือดำน้ำให้แก่จักรีดีที่สุดแล้ว   เพราะกองเรือดำน้ำเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สองถูกฝ่ายอเมริกันและพวกกวาดเรียบเพราะมีเรือบรรทุกบ.ปราบเรือดำน้ำ    ซึ่งตอนนี้เรามีเรียบร้อย   ก็ต้องตอบว่าจริงครับนับเป็นความโชคดีของเราที่มีเรือบรรรทุกบ.สกีจัมพ์อยู่ที่สามารถปรับเป็นเรือบรรทุกบ.ปราบเรือดำน้ำได้ทันที    แต่ยุทธวิธีต่อต้านเรือดำน้ำด้วยอากาศยานกำลังจะกลายเป็นระบบที่ล้าหลังไปแล้วด้วยระบบ Sub SAM ครับ

    แมงป่องทะเลนั้นอีกไม่นานคงได้ใช้  Sub SAM ที่พัฒนาจากจรวด MICA น่ะครับ   ยิงจากท่อตอร์ปิโด  ขึ้นผิวน้ำแล้วเปิดระบบค้นหาที่หัว seeker  ฮ.ปราบเรือดำน้ำนี่จะกลายเป็นเป้าชั้นดีให้ยิงเลยทีเดียวเชียว    เพราะอยู่ๆจรวดต่อต้านอากาศยานพุ่งขึ้นจากน้ำในระยะไม่กี่กิโลหรือระดับแค่ไม่กี่ร้อยเมตร   ถูกสอยทันทีครับไม่มีโอกาสหลบหนี

  ส่วนระบบของเยอรมันจะใช้จรวดที่พัฒนาขึ้นใหม่   IDAS มีขนาดใกล้เคียง AIM-9    แต่มันพิเศษกว่าระบบ  MICA sub sam  ตรงที่มันสามารถยิงฐานเรด้าร์และเรด้าร์ประจำเรือได้   เพื่อเปิดฉากทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของเรือและฐานบนบก   เพื่อให้ฝูงบินผ่านเข้ามาโจมตีแบบสบายๆครับ

   เรือดำน้ำดีเซลสมัยนี้   โคตรน่ากลัวเลย    ผมเป็นผบ.เรือ Aegis และ ด.นิวเคลียร์นี่คิดหนักจริงๆ





โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/08/2012 11:39:46


ความคิดเห็นที่ 58


       เพิ่มเติมภาพระบบ IDAS ครับ เห็นในรูปตกลงในท่อตอร์ปิโด 1 ท่อยิงน่าจะติดตั้งได้ 2-4 ลูกได้มั๊ง   ระยะยิง 20 กิโลเมตร    สามารถล่ะระบบgifhkiNxit ฤำเรห ในระยะเผาชนได้    CIWs ทำงานแทบไม่ทัน     ถ้าเราซื้อเรือเยอรมันโดยตรง   เราอาจจะจัดหาระบบ IDAS  มาเพิ่มเติมทีหลังได้ครับ     ถ้าเราซื้อ  Type 209/1400 AIP จากเกาหลี   ผมไม่แน่ใจว่ามันจะใช้ระบบ IDAS ได้หรือไม่ครับ





โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/08/2012 11:48:49


ความคิดเห็นที่ 59


ผมว่าเรือดำน้ำ จำเป็นครับ ถ้าคิดว่า ดำฝั่งอ่าวไทยไม่ได้ ก็ จอดไว้ฝั่งอันดามันซิ่  ทัพเรือภาค ๓ ก็อยู่ฝั่งอันดามัน แต่ผมว่า อ่าวไทยก็ดำได้ อย่าไปดำ ลึกนักซิ่ พอออก ทะเลเปิด น้ำลึกๆ ค่อยดำกันให้ลึก เรือเค้าไว้รบนอกประเทศอยู่แล้ว คงไม่มีใคร มาดำชายฝั่งกระมัง

โดยคุณ uuhotu เมื่อวันที่ 27/08/2012 14:57:09


ความคิดเห็นที่ 60


โครงการเรือดำน้ำ อีกนานครับ มาลุ้นโครงการเพิ่มชีดความสามารถ ฮ.ปราบเรือผิวน้ำแบบที่ 1 ดีกว่าครับ งานนี้อาจกลายเป็น ASW แบบที่ 2 ด้วยครับ  แต่ทั้งนี้รอยืยันเรื่องการจัดหา lynx ลำที่ 3 และ 4 ก่อน   หากไม่มีการผิดคาดหลังโยกย้ายในเดือนตุลานี้ ถ้า Lynx ลำที่ 3 และ 4 เกิด โครงการขั้นต้นก็ผ่านครับ ( เพราะงบรวมอยู่ในโครงการปรับปรุงเรือชุดนเรศวร ระยะที่ 2 และ 3 อยู่แล้ว)   แต่หาก Lynx ไม่ได้เกิด งานนี้ มีลดชั้นเป็นฮ.ลำเลียง เพราะ ฮ. จากยุโรปรายใหม่ และ ฮ.จีน แข่งขันกันน่าดูตอนนี้ แต่ลุ้นตุลลาคมนี้ก่อน แน่นนอนกว่า

โดยคุณ FatBoy เมื่อวันที่ 27/08/2012 15:47:59


ความคิดเห็นที่ 61


อ่านข่าว วงในของท่าน Fatboy แล้ว เหนื่อย ๆ ยังไงไม่รุ๊....

เหมือน เปลี่ยนหัวทีนึง ก็เปลี่ยนแนวจัดหาทีนึง....

เหมือนกับไม่มีหลักที่ชัดเจน...

ถ้าจะต้อง ปรับปรุง Lynx เป็น ASW ก็น่าจะต้องปรับปรุง หรือถ้าจะจัดหาเพิ่มเติมอีก 2 ลำ ก็น่าจะต้องจัดหา...หรือจะจัดหา Z-9 หรือ AW-109 ก็ต้องจัดหา...ไม่ว่า ใตร จะขึ้นเป็น หัวเรือใหญ่ คนใหม่....เพราะน่าจะเป็นสิ่ง ฝ่ายยุทธการ เป็นผู้พิจารณาเห็นถึงความเหมาะสมแล้ว...

แต่ดูเหมือน ต้องรอดู หัวเรือใหญ่คนใหม่ก่อน อีก...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 27/08/2012 21:48:31


ความคิดเห็นที่ 62


    ท่าทางโผมันจะยุ่งจริงๆนะป๋า   แต่ไม่พูดถึงดีกว่า   แต่ว่าในส่วนทร.ดูเหมือนวุ่นวายน้อยที่สุดแล้ว  และทร.ก็ไม่ค่อยจะยุ่งกับฝ่ายการเมืองไม่ว่าฝ่ายไหนอยู่แล้ว   ผมว่าโโครงการน่าจะเดินต่อไปตามสถาณการที่สมควร  แม้จะเปลี่ยนหัวเรือใหม่ก็ตาม  ได้แต่หวังว่าคงไม่สะดุดอีก  เพราะสภาพปัจจุบันกองเรือก็จะเป็นรองเขาอยู่รอมร่อแล้ว.........เหนื่อยแทนจริงๆด้วยอีกคนครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/08/2012 10:57:48