ขอชาวTFCช่วยโพสภาพอาวุธที่กองทัพไทยทำเอง ทั้งภาพและข้อมูลครับ
พอดีสนใจอาวุธที่กองทัพไทยเราทำเองครับ แต่หลายตัวก็วิจัยแล้วเงียบไปเลย ต้องขออภัยเจ้าของภาพด้วยครับ ผมเซฟมั่วๆ ไม่ได้บันทึกลิงค์ไว้ บางภาพก็มาจากเว็บเรานี่ละครับ
ความคิดเห็นที่ 1
โดยคุณ
tan02 เมื่อวันที่
18/08/2012 23:07:21
ความคิดเห็นที่ 2
รุ่นสร้างชาติ ภาพบ้างภาพไม่ต้องมีคำอธิบายแค่เห็นก็น้ำตาไหล บรรพบุรุษใช้มันปกป้องประเทศเพื่อให้ลูกหลานวันหน้า
ปล.คนเก่าๆ ภาพมันก็เลยเก่า
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
19/08/2012 01:49:24
ความคิดเห็นที่ 3
เขาบอกว่ามันคือ สตาร์ สเปน แต่ผลตในไทย
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
19/08/2012 01:54:17
ความคิดเห็นที่ 4
ขอ up อีกที ครั้งก่อนไม่ขึ้น
ปพ.95/03 ขนาด 11 มม. ที่ไทยทำด้วยมือทั้งกระบอก
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
19/08/2012 02:04:25
ความคิดเห็นที่ 5
อีตัวหนึ่ง เขาเรียกว่ารุ่งริ่งไพศาล เพราะเสียเงินมัดจำแต่ไม่ได้ปืน
Rung Paisarn RPS-001
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
19/08/2012 02:15:58
ความคิดเห็นที่ 6
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
19/08/2012 02:17:35
ความคิดเห็นที่ 7
คลิ๊ปของฝ่านตาลีบัน_ยาว30กว่านาทีเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
http://www.liveleak.com/view?i=c62091316c
โดยคุณ
monsoon เมื่อวันที่
19/08/2012 05:22:43
ความคิดเห็นที่ 8
ภาพของท่านหลวงขลังดีแท้ มองbackgrondแล้วรู้สึกตื้นตันใจ หาดูได้จากเวปใหนครับผมชอบภาพพวกนี้มาก (ทำงานโรงงานบางคนไม่ใส่รองเท้า สุดๆครับ)
โดยคุณ
pc1 เมื่อวันที่
19/08/2012 09:16:50
ความคิดเห็นที่ 9
ศวอ.ทอ.ทดสอบจรวด ขนาด ๑๒๗ มม.
ศวอ.ทอ.ทดสอบจรวด ขนาด ๑๒๗ มม.
รู้สึกเบื่อๆ งานวิจัยบ้านเรเยอะมากๆๆ เป็นกระสอบๆๆ สุดท้ายก็ทิ่งไป แล้วก็เขียนสรุปรายงานว่าได้องค์ความรู้ พูดสวยหรูว่า know how จบโครงการ เมื่อได้ตังได้ยศแล้วจะทำต่อไปทำไม
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
19/08/2012 11:09:54
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณท่านหลวงอาวุธวิเศษ มากครับ ภาพสร้างเครื่องบินเองนี่ ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
หลายโครงการวิจัยแล้วก็ไม่ได้ใช้เสียดายเหมือนกันครับ
ท่านอื่นพอจะมีอีกไหมครับ ช่วยๆกันหน่อยนะครับ
โดยคุณ
tan02 เมื่อวันที่
19/08/2012 14:48:59
ความคิดเห็นที่ 11
ช่วยครับ จากในเวปนี้แหล่ะ
Link
โดยคุณ
MIGGERS เมื่อวันที่
19/08/2012 19:35:15
ความคิดเห็นที่ 12
สุดยอดเลยครับท่านหลวงอาวุธวิเศษ ภาพที่ในโรงงานยังไม่เคยผ่านตาเลย
โดยคุณ worapon เมื่อวันที่
19/08/2012 20:29:49
ความคิดเห็นที่ 13
มีภาพอีกนิดหน่อย
ปล.คนเก่าๆ ภาพมันก็เลยเก่า ห้าม save ใคร save ข้อให้ท้องเสียวันแต่งงาน ใครที่แต่งแล้วก็ให้ถือว่าโมฆะ อิอิ อำกันเล่นๆๆ
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 00:12:57
ความคิดเห็นที่ 14
ขอ up อีกที ครั้งก่อนไม่ขึ้น
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 00:16:03
ความคิดเห็นที่ 15
โอ ... ดูในรูปแล้ว ยอมรับเลย ว่าเป็นช่างฝีมือจริงๆ
สมัยนั้น ยังไม่มีเครื่องเชื่อมไฟฟ้า จากที่ดูในรูป เป็นการนำเครื่องยนต์
เข้ามาประกอบโครงตัวเครื่องบินในไทย .. ใช้วิธี ตีแผ่นเหล็กขึ้นรูป
ขอบก็ ตีขึ้นตะเข็บ แล้วใช้ตะกั่วบัดกรีแนวตะเข็บ ( เห็นฆ้อนเผา ที่กำลังเชื่อม )
.. สุดยอดงานฝีมือจริงๆ ส่วนผมสอบตก การขึ้นตะเข็บนี่แหละ .. อิอิ
โดยคุณ
soda77 เมื่อวันที่
20/08/2012 05:48:01
ความคิดเห็นที่ 16
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:20:01
ความคิดเห็นที่ 17
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:20:37
ความคิดเห็นที่ 18
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:21:11
ความคิดเห็นที่ 19
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:21:48
ความคิดเห็นที่ 20
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:22:21
ความคิดเห็นที่ 21
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:24:21
ความคิดเห็นที่ 22
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:25:01
ความคิดเห็นที่ 23
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:25:42
ความคิดเห็นที่ 24
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:26:15
ความคิดเห็นที่ 25
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:26:47
ความคิดเห็นที่ 26
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:28:19
ความคิดเห็นที่ 27
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:28:48
ความคิดเห็นที่ 28
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:29:57
ความคิดเห็นที่ 29
ขอนญาตเจ้าของกระทู้ เนื่องจากมีภาพที่อยากใช้ได้ชมหลายภาพ
ผมรักเครื่องบินจริงๆ อิอิ
โดยคุณ
หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่
20/08/2012 10:49:21
ความคิดเห็นที่ 30
จัดเต็มได้เลยครับ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับภาพหายากครับ ^_^
โดยคุณ
tan02 เมื่อวันที่
20/08/2012 11:49:50
ความคิดเห็นที่ 31
พี่หลวงๆ .. เอาอีกๆๆๆ อิอิ
โดยคุณ
soda77 เมื่อวันที่
20/08/2012 22:18:36
ความคิดเห็นที่ 32
โดยคุณ snake เมื่อวันที่
21/08/2012 00:54:43
ความคิดเห็นที่ 33
เจอข้อมูลแล้วครับ..
1. ความเป็นมาของโครงการ : เมื่อปี พ.ศ.2521 ศอว.ทบ. ได้ทดลองสร้างรถเกราะขึ้น 1 คัน ตามแนวความคิดของ พล.อ.เจริญ พงษ์พานิช ซึ่งเป้น เสธ.ทหาร อยู่ในขณะนั้น โดยยึดถือแบบรูปร่าง COMMANDO SCOUT ของบริษัท คาดีแลค สหรัฐอเมริกา เป็นรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 130 แรงม้า และได้ทำการทดลองวิ่งเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ทั้งบนถนนและในภูมิประเทศ ต่อมาก็ได้ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ อีกหลายครั้ง จนถึงปี พ.ศ.2523 ศอว.ศอพท. ได้รับงบประมาณให้สร้างรถเกราะ ต้นแบบคันที่ 2 อีก 1 คัน โดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 150 แรงม้า รูปร่างใกล้เคียงกับคันแรก แต่มีขนาดใหญ่กว่าคันแรก ทาง ศอว.ศอพท. ได้ทดลองวิ่ง อยู่ประมาณ 1 ปี เป้นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ผลปรากฎว่ารถมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ไม่สมดุลย์กับขนาดของเครื่องล่าง เกิดการชำรุด ง่ายและมีข้อบกพร่องซ่อนเร้น ไม่คาดมาก่อนหลายประการ
2. มูลเหตุที่ขอให้ดำเนินการวิจัย : ในช่วงปี พ.ศ.2522 +- 2523 นั้น การสู้รบปราบปราม ผคก. ยังอยู่ในชั้นรุนแรง ฝ่ายทหารมักจะถูก ผกค. ซุ่มโจมตี ได้รับความเสียหายอยู่เสมอ ทำให้กำลังพลและยุทโธปกรณ์ต้องได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก พล.ท.สัมผัส พาสนยงภิญโญ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผบ.ศอว.ศอพท. อยู่ในขณะนั้น ได้มีแนวความคิดที่จะป้องกันและตอบโต้ฝ่าย ผกค. ที่คอยซุ่มโจมตีขบวนยานยนต์ของทหาร โดยการสร้างรถหุ้มเกราะขนาดเล็ก ๆ ขึ้น เพื่อเป้นการป้องกันและขวัญกำลังใจแก่ทหาร โดยขณะเคลื่อนพลด้วยยานยนต์ จากสถานการณ์และสภาพแวดล้อม ประกอบกับความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ที่ได้รับการสร้างรถเกราะ 2 คัน ต้นแบบที่ผ่านมา ศอว.ศอพท. จึงมั่นใจจะสร้างรถเกราะในแนวความคิดใหม่ขึ้นได้ และเพื่อให้มีการทดลองใช้จริงในสนามรบ โดยมุ่งหมายที่จะใช้รถตาม PILOT PROJECT ที่ปฏิบัติการจริง โดยให้หน่วยรบตามชายแดน เช่น ทหารราบใช้เป็นรถควบคุมขบวนเดินทาง หรือใช้เป็นรถเข้าปะทะทำการสู้รบโดยทันที ที่มีการชุ่มโจมตีเกิดขึ้น ณ จุดใดจุดหนึ่ง เพราะ การปฏิบัติในขณะนั้น เมื่อถูกโจมตีครั้งใด ขบวนรถทุกทหารไปช่วยก็ได้ใช้รถ ขนาด 1/4 ตัน หรือ 3/4 ตัน ที่ไม่มีเกราะหุ้ม ซึ่งทำให้ฝ่ายเราได้รับอันตรายจากการซุ่มโจมตีจากฝ่าย ตรงข้ามทุกครั้ง ซึ่ง ผกค. จะรู้เสมอว่า เมื่อซุ่มโจมตีที่จุดใดแล้ว ก็จะจัดเตรียมซุ่มโจมตี ขบวนรถที่จะยกกำลังหนุนมาช่วยไว้ก่อนได้เสมอ และฝ่ายเราก็เป็นอันตรายทุกครั้ง แต่ถ้าใช้รถเกราะที่สร้างมาให้บรรทุกทหารได้คันละ 4 - 5 นาย จะสามารถเข้าช่วยฝ่ายเดียวกัน ที่ถูกซุ่มโจมตีได้แน่นอน โดยตนเองไม่ต้องถูกซุ่มโจมตีพินาศไปเสียก่อน อย่างที่เป็นอยู่เสมอ
3. ความมุ่งหมายของโครงการ : เพื่อสร้างรถเกราะคอมมานโดสเก้าท์ จำนวน 5 คัน ให้หน่วยที่ออกปราบปราม ผคก. ใช้เป็น รถลาดตระเวนตามเส้นทาง เป็นรถคุ้มครองขบวนเดินทาง ใช้เป็นรถเข้าปะทะเมื่อถูกซุ่มโจมตี นอกจากนี้ยังใช้ป้องกันจุดสำคัญ และสถานที่สำคัญ ใช้ป้องกันสนามบิน ใช้เป้นฐานยิงในลักษณะต่าง ๆ เช่น การใช้เป็นฐานยิงเคลื่อนที่เร็วในการป้องกันสถานที่สำคัญ ๆ โดยติดตั้งอาวุธให้กับรถดังกล่าว มีอำนาจการยิงที่มีประสิทธิภาพ
4. ขอบเขตการวิจัย :
-
แบบรูป จะกำหนดให้มีขนาดเล็ก มีกำลังสูง สามารถบรรทุกทหาร พร้อมสัมภาระได้ 4 - 5 นาย
-
โครงสร้างรถใช้เหล็กเกราะแผ่นหนา 9.5 มม. เพื่อให้สามารถป้องกันกระสุนปืนเล็กได้
-
ติดตั้งอาวุธ ปก. เอ็ม 60 และ ปก.5.56 ให้กับรถ เพื่อให้มีอำนาจการยิงป้องกันตัวเอง และป้องกันผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
วัสดุ อุปกรณ์ ตลอดจนชิ้นส่วนที่นำมาสร้าง ต้องมีความคงทนต่อการใช้งานจัดหาง่าย และใช้ของที่ผลิตได้ในประเทศมาดำเนินการให้มากที่สุด เว้นของบางอย่างที่จำเป็นต้องจัดหาจากต่างประเทศ
-
ชิ้นส่วนทางแมคานิกส์ สำหรับใช้ในการสร้างที่จัดหาไม่ได้ หรือมีลักษณะพิเศษ จัดทำโดยเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคและช่างเทคนิคของ ศอว.ศอพท.
-
การประกอบ การสร้าง และการทดสอบ ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ ช่างเทคนิคและเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคของ ศอว.ศอพท. เว้นการทดสอบการใช้งานจากผู้ใช้นั้น ให้ ทบ. ดำเนินการ
-
เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ต้องง่าย สะดวกต่อการใช้งาน การส่งกำลัง และซ่อมบำรุงในอนาคต
5. ผลที่คาดว่าจะได้รับ : เมื่อดำเนินการสร้างรถเกราะคอมมานโดสเก้าท์ สำเร็จแล้ว มีผลที่คาดว่าจะได้รับ ดังนี้
-
หน่วยที่ออกปราบปราม ผกค. เช่น หน่วยทหารราบ จะมีรถเกราะใช้เป็นรถลาดตระเวนตามเส้นทาง รถคุ้มครองขบวนเดินทางใช้เป็นรถเคลื่อนที่เข้าจุดปะทะเมื่อถูกโจมตี และเป็นการลดอันตรายให้แก่ฝ่ายเราได้มาก เนื่องจากมีเกราะกำบัง
-
สามารถใช้รถเกราะฯ ป้องกันจุดหรือสถานที่สำคัญ และใช้เป็นฐานยิงที่มีเกราะกำบังในลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้เป็นฐานยิงเคลื่อนที่เร็ว
-
เจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคจะได้รับความรู้และประสบการณ์ทางเทคโนโลยี ในการสร้างรถเหกราะหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเชื่อมเหล็กเกราะซึ่งมีการเชื่อมผิดไปจากการเชื่อมเหล็กธรรมดา ซึ่งจะเป็นแนวทางในการสร้างรถเกราะชนิดอื่น ต่อไปได้
-
เป็นการฝึกบุคคลากร ของ ทบ. ให้มีความรู้ ความชำนาญ ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-
ประหยัดงบประมาณในการจัดหารถเกราะจากต่างประเทศ ซึ่งจัดหาได้ยาก และมีราคาแพง
ระยะเวลาดำเนินการ : ใช้ระยะวลาดำเนินการ 5 ปี (2523 - 2528)
คุณลักษณะเฉพาะ
พลประจำรถ |
4 |
นาย |
น้ำหนักพร้อมรบ |
7 |
ตัน |
ความกว้าง |
2,180 |
มม. |
ความยาว |
5,070 |
มม. |
ความสูงตัวรถ |
1,730 |
มม. |
ความหนาเกราะ |
9 |
มม. |
อาวุธ |
|
|
- ปก.93 ขนาด 0.50 นิ้ว (12.7 มม.)
|
1 |
กระบอก |
|
1 |
กระบอก |
สมรรถนะ |
|
|
|
105 |
กม./ชม. |
|
60 |
% |
- ความจุเชื้อเพลิง/ระยะปฏิบัติการ
|
150 |
ลิตร/335 กม. |
เครื่องยนต์ |
|
|
- Cummins 6 สูบดีเซลแบบ 378-C 4จังหวะ 145 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที
|
- เครื่องเปลี่ยนความเร็ว แบบ Synchromesh
|
|
|
|
โดยคุณ snake เมื่อวันที่
21/08/2012 01:18:59
ความคิดเห็นที่ 34
รถเกราะสายพานหุ้มเกราะขนาด 15 ตัน ( Infrantry Fighting Vehicle )
ความเป็นมาของโครงการ : เมื่อปี 2523 ทบ. มีนโยบายพึ่งตนเอง ศอว.ศอพท. ในฐานะหน่วยรับผิดชอบในการวิจัย และพัฒนาอาวุธ จึงมีแนวความคิดเห็น ที่จะเสริมสร้างกำลังทางยุทโธปกรณ์ ที่จัดหาได้ยากและมีราคาแพง เพื่อเตรียมเผชิญกับภาระ ที่เราไม่สามารถจะจัดซื้อจากต่างประเทศได้ หรือต่างประเทศไม่ยอมขายให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยานรบประเภทสายพาน ศอว.ศอพท. จึงได้เริ่มศึกษาหาข้อมูล ของยานสายพานจากประเทศต่าง ๆ มีความเห็นว่า มีความเป็นไปได้น่าจะทำการทดลองวิจัยและพัฒนาต่อไป จึงได้รายงาน ทบ. ขออนุมัติหลักการวิจัยและพัฒนาต้นแบบรถถังเบา ขนาด 10 – 15 ตัน ขึ้น 1 คัน และขออนุมัติให้ ศอว.ศอพท. เปิดงานการวิจัยและพัฒนาอาวุธ หรืออุปกรณ์ประกอบอาวุธ อุปกรณ์เพิ่มเติมของอาวุธ ที่จำเป็น ในหลักสากลของโลกได้เอง เช่นเดียวกับประเทศที่ได้อาวุธต่าง ๆ ตามกำลังงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน และขีดความสามารถทางเทคนิคของโรงงาน เพื่อเตรียมไว้เป็นต้นแบบต่อไป ซึ่ง ทบ. ได้อนุมัติหลักการให้ ศอว.ศอพท. ดำเนินการได้ เมื่อ ทบ. อนุมัติแล้ว ศอว.ศอพท. ได้ทำการวิจัยและพัฒนารถถังเบา ขนาด 12 ตัน เพื่อศึกษาความเป็นได้ 1 คัน โดยจัดซื้อเครื่องยนต์ดีเซล ยี่ห้อ ดีทรอย (DETROIT) 6 สูบ ขนาด 300 แรงม้า และระบบเครื่องส่งกำลังจากประเทศ ส่วนประกอบ รวมทั้ง วัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ ดำเนินการจัดหาในประเทศ ทั้งสิ้น ในขั้นต้นใช้เหล็กเหนียว (MILD STEEL) สร้างเป็นตัวถังแทนเหล็กเกราะ เนื่องจากการสร้างครั้งแรก ย่อมต้องการมีการปรับปรุงแก้ไขรูปแบบต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ศอว.ศอพท. ได้ทำการวิจัยและพัฒนารถดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งสำเร็จในอีกระดับหนึ่ง โดยมีเฉพาะตัวรถแต่ยังไม่มีป้อมปืน สามารถนำออกทดลองวิ่งได้เมื่อต้นปี พ.ศ. 2525
ความมุ่งหมายของการวิจัยและพัฒนา : เพื่อวิจัยและพัฒนายานสายพานหุ้มเกราะ IFV. ขนาด 15 ตัน ให้ได้ต้นแบบเพื่อนำไปสู่สายการผลิตขั้นใช้ภายในกองทัพ และเพื่อเตรียมเผชิญกับภาวะที่เราไม่สามารถจะจัดซื้อจากต่างประเทศได้ หรือต่างประเทศไม่ยอมขายให้ โดยกำหนดคุณลักษณะเบื้องต้นไว้ดังนี้
- สามารถบรรทุกทหารราบได้ 1 หมู่ พร้อมยุทโธปกรณ์ตามอัตรา
- มีความเร็วในการเคลื่อนที่ประมาณ 70 กม../ชม. บนถนน และ 40 กม./ชม. ในภูมิประเทศ
- มีเกราะป้องกันกระสุน ขนาด 7.60 มม.
- มีน้ำหนักไม่เกิน 15 ตัน และมีอัตราส่วนกำลัง/น้ำหนักประมาณ 22 แรงม้า/ตัน
- มีระยะปฏิบัติการประมาณ 450 กม.
- มีระบบการติดต่อสื่อสารและมีกล้องตรวจการณ์สามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ขอบเขตการวิจัยและพัฒนา :
- แบบรูป จะมีลักษณะคล้าย รถถัง TAM ของต่างประเทศ
- โครงสร้างตัวถัง ใช้เหล็กเหนียว (MILD STEEL) ในขั้นต้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและต้องการศึกษาความเป็นไปได้ก่อน
- สามารถติดตั้ง ปก. ขนาด 12.7 มม. (.50 นิ้ว) ได้
- ส่วนประกอบ วัสดุ – อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการวิจัย และพัฒนาต้องมีความคงทน ต่อการใช้งาน จัดหาได้ง่าย และใช้ของที่ผลิตได้ภายในประเทศ มาดำเนินการให้มากที่สุด เว้นส่วนรประกอบวัสดุ – อุปกรณ์ ที่จำเป็นที่ไม่มีภายในประเทศ จึงต้องจัดหาจากต่างประเทศ
- ชิ้นส่วนต่าง ๆ สำหรับใช้ในการวิจัยและพัฒนาที่จัดหาไม่ได้ หรือมีลักษณะพิเศษ จัดทำได้โดยช่างเทคนิค ของ ศอว.ศอพท.
- การวิจัยและพัฒนา การประกอบ การทดสอบ ดำเนินการโดยช่างเทคนิคและเจ้าหน้าที่ ศอว.ศอพท.
- เมื่อวิจัยและพัฒนาเสร็จแล้ว ต้องง่าย สะดวกต่อการใช้งานและการส่งบำรุงในอนาคต
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :
- ได้ต้นแบบสายพานหุ้มเกราะ IFV. ขนาด 15 ตัน 1 คัน
- ได้ข้อมูลทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับ การออกแบบ และการสร้างยานสายพาน ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นของอุตสาหกรรมสร้างยานรบขึ้นภายในประเทศ
- ทำให้ช่างเทคนิคของโรงงานได้รับความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ทางเทคโนโลยีของการออกแบบ การสร้าง การแก้ปัญหาข้อขัดข้องทางเทคนิคที่เกิดขึ้นในระหว่างทำการวิจัยฯ และทดสอบ รวมทั้งการใช้เครื่องจักรกล เครื่องมือเครื่องใช้ของโรงงานที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสม อันจะเป็นแนวทางนำไปสู่การวิจัยและพัฒนางานโครงการต่าง ๆ ต่อไปได้เป็นอย่างดี
- ทำให้ทราบแหล่งผลิต แหล่งจำหน่ายส่วนประกอบและวัสดุ - อุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในการ วิจัยและพัฒนายานสายพาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนายานสายพานหรือโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
- เมื่อวิจัยและพัฒนาสำเร็จผลสมความมุ่งหมายและตรงความต้องการของกองทัพ สามารถเปิดสายการผลิตขึ้นใช้ประจำการ จะทำให้ประหยัดงบประมาณในการจัดหายานสายพานหุ้มเกราะ IFV. ต่างประเทศ ซึ่งจัดหาได้ยากและมีราคาแพง
คุณลักษณะเฉพาะ
พลประจำรถ |
3 |
นาย |
น้ำหนักพร้อมรบ |
15 |
ตัน |
ความกว้าง |
2,890 |
มม. |
ความยาว |
5,900 |
มม. |
ความสูงตัวรถ |
1,210 |
มม. |
ความหนาเกราะ |
16 |
มม. |
อาวุธ |
|
|
- ปก.93 ขนาด 0.50 นิ้ว (12.7 มม.)
|
1 |
กระบอก |
|
1 |
กระบอก |
สมรรถนะ |
|
|
|
65 |
กม./ชม. |
- ข้ามสิ่งกีดขวางทางตั้งได้สูง
|
1 |
เมตร |
|
1 |
เมตร |
- ความจุเชื้อเพลิง/ระยะปฏิบัติการ
|
300 |
ลิตร/150 กม. |
เครื่องยนต์ |
|
|
- CUMMIN VTA-903T 8 สูบดีเซล 500 แรงม้า ที่ 2,600 รอบ/นาที
|
- เครื่องเปลี่ยนความเร็ว G.E. HMDT-500
|
|
|
|
|
|
|
รถเกราะสายพานหุ้มเกราะขนาด 15 ตัน ( Infrantry Fighting Vehicle )
โดยคุณ snake เมื่อวันที่
21/08/2012 01:22:50
ความคิดเห็นที่ 35
ขอบคุณท่านsnake สำหรับภาพรถเกราะเพิ่มเติมครับ ผมไม่เคยเห็นเลย เจอในเว็บก็มีภาพมุมเดียว แถมภาพเล็กๆด้วย
น่าเสียดายนะครับ หลายโครงการวิจัยแล้วประเมินมาผ่านการทดสอบ แต่ก็ไม่มีการผลิต หรือนำมาใช้จริงแต่อย่างใดครับ
หรือว่าประสิทธิภาพอาจไม่เทียบเท่าอาวุธที่ซื้อมาใช้ก็ได้ครับ
โดยคุณ
tan02 เมื่อวันที่
21/08/2012 12:27:58
ความคิดเห็นที่ 36
รสพ ของไทยนี้หน้าตาเหมือน Type 85 จัง ถ้าผลิตออกมาแล้วเอาไปแอบไว้กับพวก type 85 นี้ แทบไม่มีใครรู้เลยนะ
โดยคุณ markrura เมื่อวันที่
21/08/2012 17:24:58
ความคิดเห็นที่ 37
ผมว่าถ้านับจากวันที่สร้างเสร็จ...เริ่มแรกอาจไม่ดีนัก... จนถึงวันนี้ 30ปีกว่าแล้ว ถ้าได้รับการพัฒนา ปรับแต่งให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้ วันนี้คงจะไม่ได้เห็นเจ้า reva หรือ btr3 เป็นแน่แท้
เพราะตอนนั้น รถหุ้มเกราะ รถสายพาน สายพันธ์ไทยแท้ คงจะบรรจุอยู่ในทุกเหล่าทัพ...... แต่ฝันก็ต้องสลาย T T
*** มีเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถังฝีมือคนไทยด้วยน่ะครับ แต่ผมหารูปไม่เจอ รูปร่างคล้ายๆ rpg-29 ไม่ใช่ rpg-7 น่ะครับ
โดยคุณ snake เมื่อวันที่
21/08/2012 21:25:29
ความคิดเห็นที่ 38
โดยคุณ
Akula เมื่อวันที่
21/08/2012 22:23:12
ความคิดเห็นที่ 39
โดยคุณ
Akula เมื่อวันที่
21/08/2012 22:26:51
ความคิดเห็นที่ 40
เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง แบบ 25 ขนาด 73 มม. พร้อมลูกจรวด เข้าประจำการในกองทัพบกเมื่อปีพ.ศ. 2525 ปัจจุบันปลดประจำการหมดแล้ว
เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง แบบ 25
โดยคุณ กลับสู่สามัญ เมื่อวันที่
21/08/2012 22:38:53
ความคิดเห็นที่ 41
เครื่องบินฝึกแบบ 18 FANTRAINER รร.การบิน (กำแพงแสน)
18 ตุลาคม 2550 - 16:04:00
พ.ศ. ๒๕๒๕ กองทัพอากาศ กับ บริษัท ไรท์-ฟลุคซอยบาว จำกัด ประเทศสาธารณรัฐเยอรมัน ได้เริ่มโครงการผลิต เครื่องบินฝึก แฟนเทรนเนอร์ FT-400 โดยบริษัท RFB เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ สำหรับ ทอ. สร้างลำตัว ปีกโลหะ และชุดพวงหาง การประกอบเครื่องบินนั้น กองทัพอากาศเป็นผู้ประกอบเองที่โรงซ่อมดอนเมือง แฟน เทรนเนอร์ เป็นเครื่องบินฝึกสองที่นั่งเรียงกัน คุณลักษณะเป็นเครื่องบินไอพ่น ใช้ในภารกิจฝึกศิษย์การบิน กำหนดแบบเป็น เครื่องบินฝึกแบบที่ ๑๘ (บ.ฝ.๑๘) เคยประจำการในโรงเรียนการบิน และฝูง ๔๐๒ กองบิน ๔ ปัจจุบันปลดประจำการแล้วเนื่องจากเครื่องบินมีปัญหาประสบอุบัติเหตุบ่อย ครั้งจนกองทัพอากาศตัดสินใจปลดประจำการ
ขอขอบคุณ
พิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ
www.dmbcrtaf.thaigov.net/
ที่มาเว็ป PK_TEEM.blog
http://www.thaiblogonline.com/PK_TEEM.blog?PostID=3705
โดยคุณ
ThaiPc53 เมื่อวันที่
26/08/2012 03:14:08
ความคิดเห็นที่ 42
ท่านใดพอมีภาพหรือพอเคยได้ยินชื่อ จรวดพื้นสู่อากาศ ธูปะเตมีย์ ไหมครับ ค้นหาหลายครั้งเจอแต่จรวดเห่าฟ้า กับเจ้า งูกัปปะน้อย
โดยคุณ
ALPHA001 เมื่อวันที่
26/08/2012 09:39:01
ความคิดเห็นที่ 43
เรือตรวจการณ์
โดยคุณ uuhotu เมื่อวันที่
28/08/2012 08:01:41