การพัฒนาอาวุธต่าง ๆ ของ สหรัฐ...ที่มีความน่าเชื่อถือ...และความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี่กว่า มหาอำนาจอื่นๆ...ก็มาจาก ความกลัว และ วิตกจริต ของ สหรัฐ นี่แหล่ะครับ...

ประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐ ไม่ยอมรับความเสี่ยงใด ๆ ในเรื่องความมั่นคง...ซึ่งจะเห็นได้ง่าย ๆ จาก บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติที่มาลงทุนในประเทศไทย...ถ้าลองได้เข้าไปทำงาน ก็จะเห็นว่าเขาให้ความสำคัญเรื่อง ความลับ และผลประโยชน์ทับซ้อนของพนักงานที่มีต่อบริษัท เป็นสำคัญอันดับแรก...น่าจะเป็นพื้นฐานในแนวคิดของ สัญชาติ สหรัฐ ครับ...

ต้องเป็นเจ้านี้ แน่ๆเลย

อย่าไปดูถูก เทคโนโลยีของจีนนะครับ

ไม่ใช่ว่า เห็นสินค้าไอทีกะหลั่วๆของจีน ที่เอามาขายในไทย

แล้วทึกทักเอาเองว่า เทคโนโลยีของเขาโหลยไท่ยแบบนั้น

จากประสบการณ์ที่ผมเคยทำงานกับคนจีน ทำให้รู้ว่า คนจีน

มีความเชี่ยวชาญด้านซอร์ฟแวร์และฮาร์ดแวร์มากๆ

เขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงๆได้สบายๆ เพียงแต่ จีนหัวการค้า

เน้นวัสดุต่ำเพื่อลดต้นทุน เอามาขายในราคาถูก

.. แต่ ถ้าเกี่ยวกับการทหาร รัฐบาลจีนคงไม่เอาวัสดุด้อยคุณภาพ

มาผลิตแน่ๆ

อย่างอาวุธปืนประจำกาย ตระกูล Type 97 ( คล้ายๆ TAR 21 )

จีนผลิตใช้เอง เวลาเสีย จะซ่อม หรือ โยนทำลายทิ้งก็ได้

ไอโฟน ไอแพด หรือ ซีพียู ก็ผลิตในจีน องค์ความรู้ทุกอย่าง อยู่ในหัวคนจีนทั้งนั้น

หันกลับมามองคนไทย ถามว่า มีคนไทยซักคนมั๊ย ที่จะรู้ว่า สถาปัตยกรรม โครงสร้าง

ภายในซีพียู มีอะไรบ้าง ..

ณ.ปัจจุบัน DF-21D ยังเป็นรุ่นพัฒนาอยู่ครับ ยังไม่มีการยิงทดสอบใดๆทั้งสิ้น เราจึงได้แต่เพียงคาดการณ์ประสิทธิภาพของระบบ

กว่าที่ DF-21D จะพร้อมเข้าประจำการขั้นต้นในระดับต่ำก็อีก 3-4 ปี เลยคิดว่าเรื่องนี้สหรัฐระแวงจีนมากเกินไปหรือไม่

ในส่วนการวางแผนการป้องกันก็คงคล้ายๆกับการป้องกัน ICBM,IRBM ของระบบสหรัฐ คือโจมตีก่อน และทำลายในช่วงโคจร

แนวคิดถล่มกองเรือของจีนนี้ จะว่าอเมริกไม่เคยเจอก็ไม่ใช่ รัสเซียก็เคยพัฒนามาก่อนบ้างโดยยิงจากเรือดำน้ำแต่หยุดพัฒนาไปอันเนื่องจากการพัฒนาแซมประจำเรือชั้นเอจีสอย่างไทคอนเดอโรก้านั้น สามารถยิงทำลายขีปนาวุธที่กำลังโคจรได้ก่อนหัวรบจะทำงานซะอีก และการเกาะติดเป้าหมายยังต้องใช้เรือดำน้ำหรือเครื่องบินในการเกาะติดเป้าหมายเพื่ออัพเดทเป้าหมายเพื่อแก้การโคจรของหัวรบ ซึ่งดาวเทียมจะใช้ไม่ได้ถ้าเปิดศึกเต็มที่สอยดาวเทียมกันก่อน

รัสเซียเลยพัฒนาขีปนาวุธพวกSRBM ที่มีระยะยิง500ก.ม. ที่โคจรต่ำกว่าและเร็วกว่า และสามารถนำพาไปได้หลายๆนัดในเรือ เครื่องบิน เรือดำน้ำ สร้างโอกาสมากกว่าขีปนาวุธที่โคจรในระดับสูงมากๆ โดยSM-3ของอเมริกาสามารถยิงสกัดได้ในระดับความสูงก่อนหัวรบจะแยกตัวและหากอเมริกาวางกองเรือในญี่ปุ่น เกาะกวม หรือเขตพื้นที่ของอเมริกา โดยเฉพาะหากจะยิงถล่มโอกินาว่า ก็อาจจะมีเรือชั้นคองโกหรือระบบเรดาห์ป้องกันขีปนาวุธที่ญี่ปุ่นมีเรียงรายอยู่ตลอดแนวชายฝั่งช่วยอำนวยการยิงเพื่อทำลายขีปนาวุธจีนตั้งแต่ยังโคจรอยู่เลย

เพราะจะว่าไปเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและสหรัฐมีฐานเรดาห์ตรวจจับขีปนาวุธข้ามทวีปกระจายอยู่ทั่วสามารถแจ้งเตือนและเป็นกำแพงชั้นแรกในการป้องกันกองเรือเมริกา เช่นกองเรือเมริกาอยู่ในอาวาย แต่มีเรือที่ติดตั้งSM-3 ในทะเลญี่ปุ่นหรือ เกาะมิดเวย์ โดยใช้ข้อมูลเรดาห์จากที่ว่าไปข้างต้น สามารถยิงสกัดได้รายทางก่อนจะถึงกองเรือเมริกา

อนาคต DIT-1 จะมีสิทธิเจริญเติบโตกลายเป็นแบบเขาไหมครับ ถ้าเกิดเป็นได้จริง

ผมสงสัยว่าในช่วงทดสอบการยิง เราจะซ้อมยิงตรงไหนได้ในประเทศครับ เพราะระยะทาง

ของมันอาจจะตกไปใส่ประเทศข้างๆได้ รวมถึงประเทศเราไม่ได้ส่วนที่หันหน้าออกทางทะเลสากล

ไม่งั้นก็ซ้อมยิงออกไปกลางมหาสมุทรได้เลย ผมเดาว่าเราคงต้องไปขอยืมพื้นที่ประเทศอื่นเพื่อใช้ทดสอบแทน

soda77  ท่านก็พูดเกินไป สถาปัตยกรรม โครงสร้างภายในซีพียู นักเล่นคอมตัวยง เขารู้หมดและครับ อีกอย่าง บริษัท ที่ผลิด cpu เค้าก็เปิดเผยข้อมูลอยู่แล้ว จะมีก็แต่บ้างส่วนที่เป็นความลับของเขา คำพูดของท่านเหมือนโดนดูถูกยังไงไม่รู้

การทวนสัญญาณเรดาร์ ตามเกาะญี่ปุ่น ที่ ท่าน MIG31 อธิบาย มันทวนสัญญาณแจ้งเตือนกองเรือสหรัฐผ่านดาวเทียมไหมครับ

หรือว่าเป็นคลื่นวิทยุ เตือนกองเรือ สหรัฐครับ

ไม่แปลกที่พี่เค้าจะระเเวงไว้ก่อน ก็พี่เค้าตัดสินใจจะมาป้วนเปี้ยนเเถวนี้เพิ่มขึ้นเเล้วนิ ระวังไว้ก่อน

ผมเดาเอาว่า  ขีปนาวุธ ( DTI )  มันแบ่งเป็น  3  ส่วนใหญ่ๆ  คือ

1 ส่วนที่เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อน

2 ส่วนที่เป็น หัวระเบิด ( ติดหัวรบ )

3 ส่วนที่เป็นระบบนำวิถี ( เรดาห์ )

ดังนั้น ในการทดสอบยิง เราแค่ ไม่ติดหัวรบ ให้มันระเบิด

อาณาเขตทางทะเลของไทย กว้างใกลมาก เช่น ถ้าทดสอบยิง

จากฐาน ที่อู่ตะเภา ให้ไปตกในทะเล สงขลา ( ประมาณ 1500 กิโลเมตร )

ก็สามารถยิงทดสอบได้ตลอดเวลา  หากเป้าหมายผิดพลาด

ไปตกบนบก มันก็ไม่ระเบิด เพราะเรายังไม่ติดหัวรบ เพียงแต่ ว่ามันจะซวย

ไปตกบนหลังคาบ้านใครเท่านั้นเอง ..  แต่ ผมก็มั่นใจ ว่าระบบนำวิถีสมัยนี้

โอกาศพลาดเป้ายากมากๆ เพราะใช้ทั้ง ระบบ ดาวเทียม และ GPS

ความแม่นยำ แทบจะคิดเป็น ตารางนิ้ว ด้วยซ้ำ ..