ผอ.ทอ.สั่งเครื่องบิน ซี130-เอยู 23 ลาดตระเวนชายแดนใต้
ได้ข่าวว่าจะเป็นเครื่อง DA-42 นะครับ ส่วน AU-23 มีประจำการในพื้นที่อยู่แล้ว
O_O ใช้ C-130 หรอครับ ใช้ในภารกิจแบบไหนกันครับเนี้ย - -"
เอ้า อ่านผิดนึกว่า AC130
อิอิ
ผมรู้สึกดีใจ ที่ ทอ. ลงไปเพิ่มบทบาทในสามชายแดนใต้อย่างเต็มตัว
c-130 .... มันใหญ่ ไปป่ะครับ กินน้ำมันเยอะด้วย..
ถ้า เครื่องบินเล็ก อย่างที่ ท่านกบ เคยเสนอ ผมเห็นด้วยอย่างมาก
..
แต่ ถ้าให้ดีกว่านี้ ทอ. ของบ ซื้อ UAV ซัก 12 ลำ ( ภารกิจเร่งด่วน )
พร้อมกับ วางระบบลิงค์ การขอความช่วยเหลือ จาก ทบ. หรือ หน่วย
ลาดตระเวณภาคพื้น หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
อ้อ .. ถ้า อยากจะ ใช้วิธี ลาดตระเวณ ที่ถูกที่สุด ผมขอแนะนำ เป็น พารามอเตอร์
ราคา ต่อเครื่อง ประมาณ 1 แสนบาท .. ติดรอบที่นั่งเป็นเกราะกันกระสุน ใช้เงินอีก 1 แสน
รวมเป็น 2 แสนบาท ... พารามอเตอร์ 1000 ชุด แค่ 200 ล้านบาท..
.. บินลาดตระเวณ แบ่งเป็นหน่วยละ 6 นาย .. 2 นายแรก บินสูง อีก สองนาย บินต่ำ
และ ตามมาในชุดสุดท้าย บินระวังหลัง .. จะเป็นอะไรที่เพอร์เฟคมากๆ
หรือ .. ถ้าอยากตื่นเต้น ก็ ขับเจ้าตัวนี้ ลาดตระเวณก็ได้ 55++
ท่าน Soda77
แล้วถ้าพารามอเตอร์หุ้มเกราะโดนยิ่งร่มรั่ว จนพรุนล่ะครับท่าน
ใคร เคยเล่นเกม battle field บ้าง มันจะมีเครื่องมือให้ผู้บังคับบัญชา เช่น กล้องจากดาวเทียมสแกน(ติดอินฟราเรทด้วยเพื่อใช้ตอนกลางคืน) , UAV และ ปืนใหญ่
จากที่ผมมองแล้วว่าปัญหาทางภาคใต้ควรจะจำกัดพื่นที่ที่ก่อเหตุ และเครื่องมือที่สำคัญ ก็คือ กล้องจากดาวเทียมสแกนจำกัด พื่นที่ก่อน เห็นตรงไหนน่าสงสัย ให้ UAV
ติดตาม ติดอาวุธให้ UAVด้วย วิธีที่นี้สามารถ จำกัดพื่นที่ได้ประสิทธิภาพมาก อยากให้ ลงทุนเครื่องมือพวกนี้ ใช้คนน้อยแต่ได้ประสิทธิภาพมาก ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ
ทหาร เสียตังหน่อย แต่คุ้มค่าเหลือเกิน คิดถึงใจเขาใจเรา ถ้าลูกเราไปเป็นทหาร เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้เขาปลอดภัยที่สุด ยอมลงทุนหน่อยครับ
ตอบ ท่าน Topper0011
พอจะทราบมาว่า .. ร่มรุ่นใหม่ๆ เวลาโดนยิง เป็นรูเท่าหัวกระสุน มันไม่เป็นไรนี่ครับ
หรือ ถ้ามันรั่วจริงๆ มันก็ไม่ได้ตกทันทีเหมือนนกปีกหักน่ะ
ร่มรุ่นใหม่ๆ เขาเย็บเป็นร่องๆ หากร่องใหนเป็นรู มันก็ไม่แหกไปทั้งฝืนทันที สามารถ
ที่จะประคองร่มหลบหนีไปได้หลายร้อยเมตร .. โจรมันไม่กล้าตามไปหรอกครับ
ถ้ามันตามไปจริงๆ มันก็โง่เต็มทีแล้วล่ะ .. อิอิ
อย่าง ถังน้ำมันเครื่องบินรบ เวลาโดนยิง มันก็จะอุดรูรั่วเองอัตโนมัติ หรือ ล้อรถรุ่นใหม่ๆ
มันก็จะมีสารบางอย่าง มาอุดรอยรั่วเอง ( รูเล็กๆ แบบ เหยียบตะปู )
ส่วนอันนี้ เป็นของเยอรมัน .. ผมก็กล้านั่ง แต่ ถ้าเป็นของจีน
แบบคลิปบน .. ผมไม่เอาด้วยคน โอกาศเละเป็นแตงโมเยอะมากไ
เห็นด้วยกับสมาชิกหลายๆท่านนะครับที่ จะนำ UAV มาบินตรวจสอบเส้นทางความปลอดภัยให้ทหารชุดคุ้มกัน
พร้อมกับพัฒนา UAV เพื่อใช้ในภาระกิจอื่นๆไปด้วย
และถ้ามีหน่วยติมตามเป้าหมายแบบเคลื่อนที่เร็วติดกล้องFLIR Systems จังหวัดละ2-3 ชุดก็น่าจะช่วยใด้เยอะ
ที่ดูมาหลายๆ คลิบนะครับ ผมว่า ช่วงเวลาที่ปฏิบัติการของฝ่ายไม่หวังดีนั้นสั้นมาก
เน้นให้ไว ไว้ก่อน ไม่สำเร็จก็ทิ้งไป การออกติดตาม น่าจะลำบากหน่อยสำหรับอากาศยาน เมื่อ ฝ่ายไม่หวังดีได้ทำการหลบหนีไปแล้ว
ผมไม่ข้องใจเรื่องการติดตามนะครับ แต่ข้องใจเรื่อง การย้ายพิกัด จากพิกัดที่บินอยู่ ไปยังพื้นที่เกิดเหตุ จะทันการหรือไม่
ในกรณีนี้ถ้าฝ่ายไม่หวังดีเขาเห็น หรือรู้ว่า มี อากาศยานอยู่แถวๆนั้น ก็เลี่ยงที่จะลงมือ แต่ถ้าไม่มี เขาก็สอยเลย อย่างที่ทำๆอยู่
คำถามคือ จะทำอย่างไร ให้ทำการตรวจการและพร้อมเข้าสู่พื้นที่ให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเขาเข้าไปในหมู่บ้านได้ก่อนที่ อากาศยานจะตามเจอ ก็เป็นอันว่า หนีได้
ส่วนตัวเชื่อว่า กำลังทางอากาศช่วยอะไรไม่ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ครับ
C-130 คงเป็นภารกิจลำเลียง ซึ่งปกติก็ใช้อยู่แล้วนี่ครับ ส่วนการลาดตระเวณทางอากาศ ผมเห็นด้วยกับผู้กอง FW-190 ว่ามันไม่ได้ช่วยทั้งหมด และเรื่องของฝ่ายตรงข้ามเราไม่รู้ว่าใคร การที่มีความคิดจะเอา UAV ติดอาวุธขึ้นไปยิงนั้นเป็นความคิดที่ผิด เราแยกไม่ออก ถ้าเกิดพลาดไปถูกชาวบ้านที่บริสุทธิ์ยิ่งเป็นประเด็น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียด ปกติเรามี UAV ใช้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นศัตรูที่แบ่งไม่ได้ ไม่เหมือนกับเรื่องการพิพาททางชายแดนที่ผ่านมา ที่แยกได้ว่าเป็นศัตรู แต่นี่แยกไม่ได้ครับ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเอา UAV ติดอาวุธ แนวร่วมโจรใต้อยู่กับชาวบ้านไม่ได้ตั้งค่ายในป่า ที่จะถล่มครับ มันอาจจะมีอะไรหลายอย่างที่กองทัพทำอยู่แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เราคนอยู่วงนอกคงได้แต่เอาใจช่วย ซึ่งคงใช้เวลาพอสมควรครับ
การเข้าสู่พื้นที่ของชุดคุ้มกันทางอากาศอาจจะรักษาชีวิตของทหารชุดคุ้มครองภาคพื้นที่เกิดเหตุ ใด้ไม่มากก็น้อย
อุปสรรคเข้าถึงที่เกิดเหตุทางภาคพื้น ไม่ว่าตะปูเรือใบ ต้นไม้ที่โดนตัดลงมาขวางทาง ระเบิด หรือการดักซุ่มยิงก่อนถึงที่เกิดเหตุ มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเพิ่มขึ้นด้วยกันทั้งนั้น ชุดคุ้มครองทางอากาศจะสถาปนาพื้นที่ความปลอดภัยใด้กว้างกว่า
อีกอย่างคือ อยากให้มีทุกชุดคุ้มครองติดตัวคือ ระบบส่งข้อมูลฉุกเฉินแบบฉับพลัน ไม่ว่าจะเป็นแบบปุ่มกด หรือรับข้อมูลแบบเสียง ทั้งระเบิด/เสียงปืน เชื่อมต่อ GPRS/GPS Tracker ส่งตรงเข้ากองบัญชาการ ขึ้นเสียงและแผนที่จุดเกิดเหตุ ชุดคุ้มครองทางอากาศเข้าถึงเร็ว ความสูญเสียก็น่าจะน้อยลง...
อ่านเจอพอดี .. ขนาดเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ รู้จริงทุกอย่าง
http://topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2011/11/M11320780/M11320780.html
http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12439385/U12439385.html
ชุดเคลื่อนย้ายทางอากาศ แค่หาพื้นที่ LZ,DZ สำหรับวางแผนเผชิญเหตุให้คลอบคลุมทั้งหมด ก็แย่แล้วละครับ นี่ยังไม่นับปัจจัยอื่นอีกบานนน
การวางแผนทางทหารมันมีปัจจัยการคิดทางทหารอยู่ครับ การวางแผนทางทหารโดยไม่ทราบปัจจัยต่างๆ หรือไม่ครบถ้วน มันวางแผนละเอียดไม่ได้ครับ รวมถึงยังต้องมีการวิเคราะห์ในทุกหนทางการปฏิบัติอีก ว่าหนทางไหนเหมาะสมและมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด เช่น เทียบกันในเรื่อง กำลังพล,ยุทธวิธี,ส่งกำลัง,กิจการพลเรือน เทียบในที่นี้หมายถึง ทุกหัวข้อต้องได้คะแนนใกล้เคียงกัน จะโด่อยู่อย่างเดียวไม่ได้ เช่น หนทางปฏิบัตินี้ คิดในแง่ยุทธการสุดแสนเพอร์เฟ็ค ไร้ที่ติ แต่กลับกัน ในเรื่อง การกำลังพลเป็นศูนย์ การส่งกำลังทำไม่ได้ แบบนี้ก็ถือว่าเป็นหนทางปฏิบัติที่แย่ครับ