หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ข้อเท็จจริงของชาวบ้าน92คนที่ถูกทหารพม่าจับกุม

โดยคุณ : johnny เมื่อวันที่ : 09/08/2012 18:11:29





ความคิดเห็นที่ 1


ชาวบ้านออกมาเปิดเผยรายละเอียดของการไปทำกินบ้านอินทนินขวาง (ขออภัยที่บางส่วนเป็นเสียงในฟิมล์)
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 03/08/2012 19:37:53


ความคิดเห็นที่ 2


ผมวิเคราะห์ว่า  ผิดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย  คือ

1  ชาวบ้าน บุกเข้าไปทำกินในเขตพื้นที่ ทับซ้อน ซึ่งยังไม่ได้แบ่งเขตชัดเจน

   และ ในเขตพื้นที่ทับซ้อน เป็นพื้นที่ ที่ยังไม่มีกฏหมาย ทหารฝ่ายใหนชิงควม

   ได้เปรียบก่อน ย่อมเป็นผู้ชนะ .. เพื่อนผมที่เป็นชาวพม่า 3 คน เล่าให้ฟังว่า

    ทหารพม่า ก็มาจากคนยากจน ที่ตรงใหนที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ได้โดยที่

   ไม่ต้องออกแรง ก็จะใช้วิธียึดเอาดื้อๆแม้แต่ ประชาชนชาวพม่าเองก็ตาม

    ยิ่ง พื้นที่ตรงนั้น ชาวบ้านเข้าไปปรับปรุงพื้นที่เสร็จแล้ว ปลูกยางเสร็จแล้ว

    ทำถนนหนทางเสร็จแล้ว .. ถ้ายึดได้ ก็สบายแฮ ไม่ต้องออกแรงทำเองด้วยซ้ำ

    ชิงความได้เปรียบ บุกจับกุมก่อน ยัดข้อหาส่งเข้าคุก เท่ากับได้ตัวประกันไปในตัว

    ฝ่ายไทย ได้แต่มองตาปริบๆ พูดอะไรไม่ออก .. ครั้นจะโวยวาย ก็ยิ่งบานปลาย

    เพราะตัวประกันอยู่ในมือเขาแล้ว .. เปรียบเหมือนตอนที่เยอรมันยึดเครื่องบิน

    เป็นตัวประกัน .. เขาจะต่อรองอะไร เราก็ได้แต่ เออ ออ ตาม .. งานนี้ เสร็จพม่า

 

2  เหมือนที่กล่าวข้างบน  ทหารพม่า ใช้สูตรสำเร็จ แบบง่ายๆ บุกยึด จับกุม ยัดข้อหา

    รถแทรคเตอร์ รถสิบล้อ ข้าวของเครื่องใช้ พม่ายึดหมด แถมได้สวนยางที่รอกรีดขาย

    ไม่ต้องออกแรง .. มูลค่าทั้งหมด คร่าวๆ เกิน 500 ล้าน .. สบายใจเฉิบ

    เรื่องนี้ ต้องเอามาเป็นบทเรียน ในเขตแนวชายแดนทุกด้าน เจ้าหน้าที่ ต้องรีบแบ่งเขต

   ให้ชัดเจน ก่อนที่ชาวบ้านจะบุกรุกเข้าไปทำกิน ไม่เช่นนั้น .. เราจะโดนปล้นแบบนี้อีกเรื่อยๆ

   .. เอ่อ ขอบอกว่า คุกพม่าโหดสุดๆ ไม่มีหน่อมแหน้มแบบคุกไทยน่ะ ผู้ต้องขังไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง

    ใดๆทั้งสิ้น .. น้าของผมเคยไปติดคุกพม่า พูดว่า อยู่ในคุกพม่า 3 เดือน ยอมแลกกับมาติดคุก

   ในประเทศไทย ซัก 10 ปี ยังดีกว่า .. เอาเป็นว่า ถ้านั่งเลือกข้าวเปลือก ออกจากข้าวสวย

   คุณก็จะกินไม่อิ่ม ก็แล้วกัน .. 

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 04/08/2012 02:47:48


ความคิดเห็นที่ 3


เมื่อวานได้มีโอกาสไปคุยกับทหารพม่า เขาบอกว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้อยากขึ้นไปจับ แต่ทางทหารไทยมารบเร้าให้ขึ้นไปกวาดต้อนชาวบ้านลงมา เพราะเห็นว่ามีชาวบ้านไปอยู่กันเยอะเกิน กลัวว่าจะไปซ่องสุมทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายทหารไทยกลับไม่มาปฎิบัติการร่วม ปล่อยให้ทหารพม่าปฎิบัติการฝ่ายเดียว ทีนี้เมื่อผิดพลาดมีคนตาย ทหารพม่าเลยไม่ยอมเจรจา ยอดคนไทยที่ถูกจับก็ไม่ยอมบอก เพราะหวังว่าจะมีคนไทยเอาเงินมาไถ่ตัว แต่ทางทหารไทยบอกว่าอย่าไปเชื่อมิจฉาชีพ เลยยอดถูกจับกลายเป็น92คน เมื่อถึงเกาะสอง ความจริงยอดผู้ถูกจับมีทั้งหมด95คน แต่มีคนไปไถ่ตัวได้ระหว่างทาง3คน คนละ5หมื่น จริงๆทหารพม่ามักจะข้ามมาซื้อข้าวปลาอาหารฝั่งไทยประจำ ความสัมพันธ์กับชาวบ้านและ ต.ช.ด ค่อนข้างดี หากการเจรจาวันที่4ให้ ต.ช.ด เป็นผู้ประสานงานคิดว่าเรื่องคงจบง่ายกว่านี้ แต่ทหารกลัวเสียหน้า เลยไม่ยอมให้หน่วยงานอื่นเข้ามามีส่วนร่วม และบอกว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นเขตประกาศกฎอัยการศึกทหารมีอำนาจเต็มที่ เรื่องราวเลยบานปลายไปกันหมด
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 04/08/2012 09:46:55


ความคิดเห็นที่ 4


ฟังหูไว้หูครับ

โดยคุณ spooky เมื่อวันที่ 05/08/2012 07:18:09


ความคิดเห็นที่ 5


พื้นที่ตรงนั้นไม่ได้เป็นพื้นที่ทับซ้อนนะครับ ปักปันแล้ว โดยใช้คลองกระใน ซึ่งคือแม่น้ำสายบุรีเดิมเป็นเขตแดน ครับ แล้วที่หทารไทยรบเร้า ก็เพราะทหารไทยรู้ว่ามีการเข้าไปปลูกกํญชา แล้วส่งกลับมาขายในไทย โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว อย่างเกาะสมุย ภูเก็ต ไปดูได้ทหารกองกำลังเทพสตรี ( ร. 25 ) มีผลงานจับยาเสพติดมากแค่ไหน ส่วนที่มันวุ่นก็เพราะคนไทยพวกนั้นแห่ะที่ตั้งการใช้ชาวบ้านเป็นโล่ล้อมรอบพื้นที่ปลูกกัญชา แหล่ะที่ต้องการหลอกขายที่ดิน แล้วขายให้คนไทยที่ไม่รู้ว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่พม่า โดยชาวบ้านในพื้นที่เขารู้ดี ไม่มีใครเข้าไปสักคนเดียว มีแต่คนต่างถิ่น ผมว่าน่าจะจบได้แล้วประเด็นนี้ มันไม่เหมือนเขาพระวิหาร ที่ยังเป็นปัญหา

โดยคุณ heart2319 เมื่อวันที่ 05/08/2012 10:37:58


ความคิดเห็นที่ 6


ส่วนเทปนี้ผมเคยดูรายการสามมิติ (น่าจะเป็นช่วงเดียวกับที่เคยดู เป็นช่วงแรกๆของปัญหา) ซึ่งชาวบ้านที่พูดเพราะเป็นกลุ่มที่ถูกหลอกขายที่ก็นึกแต่ว่าแม่น้ำกระบุรีเป็นแนวเขตแดน แต่เขาใช้แนวแม่น้ำเดิมครับ ย้ำนะครับแนวแม่น้ำเดิม คือคลองกระในครับ

โดยคุณ heart2319 เมื่อวันที่ 05/08/2012 10:40:36


ความคิดเห็นที่ 7


ทหารไทยให้ข้อมูลกับสือมวลชนเรื่อง เป็นปฏิบัติการร่วมกับทหารพม่าในการจัดระเบียบชายแดน แต่วิธีการของทหารพม่าคือยิงทุกคนที่วิ่ง คนที่เสียชีวิตชื่อกร กำลังจะไปวิ่งไปหาภรรยา ถูกทหารพม่ายิง2นัด เข้าต้นขาหนึ่งนัด และกระเพาะปัสวะอีก1นัด ของตอนเย็นวันที่4มาเสียชีวิตตอนเช้าวันที่5เนื่องจากเสียเลือดเยอะ ทหารพม่าปล่อยให้ตายต่อหน้าภรรยาและคนไทยที่ถูกจับนับสิบคน และบังคับให้คนไทยฝังศพเขาข้างบ้านเขาที่เป็นร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์� ทหารพม่ารื้อค้นทรัพย์สินทั้งเงินสดและทองคำมูลค่านับล้านบาท และเมื่อมีคนเสียชีวิต ทหารพม่าจึงไม่ยอมเจรจาใดๆกับฝ่ายไทย นั่นทำให้กว่าทางไทยจะรู้ยอดผู้ถูกจับกุมก็ต่อเมื่อคนไทยถูกพามาที่จังหวัดเกาะสองแล้ว กัญชาที่ถูกจับได้เป็นเพียงชาวบ้านคนนึงปลูกไว้แลกเหล้าจำนวนไม่มาก รูปถ่ายในข่าวนั้นเป็นรูปถ่ายเมื่อ4ปีที่แล้วซึ่งตอนนั้นยังไม่ค่อยมีชาวบ้านอาศัยอยู่ หลังจากชาวบ้านเข้าไปทำสวนแล้วก็ไม่มีการปลูกกัญชาอีกเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในพื้นที่ทุกสัปดาห์ อาจจะมีหลงเหลือบ้างที่ชาวบ้านปลูกไว้ทำกับข้าวเท่านั้นเอง อาวุธที่ทหารพม่าจับได้พร้อมเจ้าของมีเพียง8กระบอกเป็นปืนสั้นกับปืนลูกซองเสีย6กระบอก ชาวบ้านทำกินกันมานานตั้ง6ปี ไม่เคยมีปัญหา หากชาวบ้านรู้ว่าเป็นแผ่นดินพม่าคงไม่มีใครกล้าเข้าไปทำกินแน่นอน แต่เนื่องจากไม่มีอะไรที่บอกว่าเป็นเขตแดน และที่ดินบริเวณนั้นเคยถูกนายทุนเข้าไปลักลอบตัดไม้ตั้งแต่ปี2532 และไม่เคยเสียเงินในการทำไม้ให้กับทางการพม่าสภาพป่าจึงไม่เหลือไม้ใหญ่มากนัก ผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ก็มาประชุมทุกเดือน ฮ.ของฝั่งไทยก็บินเข้าไปสำรวจหลายครั้งทำให้ชาวบ้านมั่นใจ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ขายที่ดินจนร่ำรวย วันที่4ทหารพม่าจับคนไทยตั้งแต่ตอนบ่าย ตกเย็นยังมีคนไทย8คนเดินผ่านหน่วยทหารไทยไปโดนทหารพม่าจับอีก วันที่5ผู้ใหญ่บ้านยังโทรไปให้ชาวบ้านโอนเงินแปดแสนค่าขายที่ดินมาให้อีก หลักฐานการโอนเงินชาวบ้านเขายังเก็บไว้ และทางเข้าหมู่บ้านอินทนินขวางจะต้องผ่านด่านทหาร,ด่านตำรวจ และหน่วยสันตินิมิตรของทหารอีก2หน่วย รถยนต์เครื่องจักรผ่านได้เฉยไม่มีการห้ามปราม เจ้าของที่ดินที่อินทนินขวางมีตั้งแต่ชาวบ้าน ครูอาจารย์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการการเมือง ต.ช.ด ตำรวจ ทหาร แล้วจะให้ชาวบ้านเชื่อได้อย่างไรว่าไม่ใช่แผ่นดินประเทศไทย
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 05/08/2012 10:44:49


ความคิดเห็นที่ 8


ที่ว่าปลูกกัญชาจำนวนมากนั้นเคยมีภาพถ่ายหรือข้อมูลอื่นที่ได้นอกจากภาพถ่ายเก่าๆหรือไม่ครับ หากมีการปลูกกัญชาจำนวนมากจริงทำไมไม่มีการสืบหาเจ้าของหรือจับเจ้าของได้ ตำรวจท้องที่ก็ขึ้นไปทุกสัปดาห์ทำไมไม่มีข้อมูลตรงนั้น ส่วนที่ ฉก.ร.๒๕ จับยาเสพติดได้ส่วนมากเป็นกระท่อมกับยาบ้า ไม่เคยเห็นจับกัญชาได้ครั้งละมากๆตามที่อ้างว่าบ้านอินทนินขวางปลูกกัญชานับพันไร่เลยสักครั้ง หากมีกัญชานับสิบๆตันตามที่กล่าวอ้าง คงไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่มาได่ตั้งหลายปีหรอกครับ หากมีกัญชาจำนวนมากจริงชาวบ้านต้องทราบสิว่ามันปลูกตรงใหน เคยไปถามชาวบ้านหรือเปล่า คนหลายร้อยคนเขาคงไม่ช่วยพวกค้ายาหรอกถ้ามันมีจริง ส่วนว่านายหน้าหลอกขายที่เคยไปถามชาวบ้านหรือยังว่าใครคือคนหลอก ใช่คนที่เป็นข่าวหรือเปล่า สังคมไทยชอบสรุปอะไรง่ายๆจากการเสพสื่อ
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 05/08/2012 10:56:10


ความคิดเห็นที่ 9


อ้อ อีกอย่างหนึ่ง ขั้นตอนการปักปันแผนที่นั้นเสร็จแล้วหรือครับ มีการลงหมุดGPS มีกรรมการชายแดนลงนามร่วมกันทั้ง2ประเทศแล้วหรือครับ เห็นหมู่บ้านคลองนัยที่อยู่ขนานกับบ้านอินทนินขวางทหารไทยย้ายคลองไปย้ายคลองมาระหว่าคลองทรายกับคลองนัยกันให้มั่ว การที่เราไปยอมรับอธิปไตยของทหารพม่า และยุยงส่งเริมให้ทหารพม่ามาปล้นฆ่าคนไทย โดยอ้างยาเสพติคแค่3กิโลกรัม นั้นมันไม่โหดร้ายกับคนที่ถูกจับถูกฆ่าเหรอครับ เขาก็คนไทยนะ!!!!
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 05/08/2012 11:10:09


ความคิดเห็นที่ 10


เท่าที่ฟังแถวๆนั้นเล่าให้ฟังนะครับ ส่วนใหญคนที่โดนจะมาจากต่างถิ่น...คนพื้นที่เขาไม่เข้าไปหรอกครับ

ต้องยอมรับความจริงเข้าไปบ้านเขาเขาก็จัดการตามแบบของเขา อยากได้ของถูก อยากรวยทางลัด ก็ซวยละครับ

อีกอย่างเรื่องกัญชานะ .โดนจับทีรายใหญ่ตลอด...เจ้าหน้าที่เขารู้ดี...คนพม่าเขาไม่โง่หรอกครับ เขาปล่อยให้คุณไปลงทุนลงแรง

พอจะเก็บเกี่ยวได้ เขาก็มารวบซะ....เป็นผมก็ทำแบบนี้ละ...โดยรวมๆข้อมูลที่ได้ ก็ตามที่โดยคุณ : heart2319 กล่าวละครับ

ตามที่ผมผ่านด่านถนนหลักสาย4ไประนอง..ก่อนถึงอ.กระบุรี.จะมีด่านทหารนะตรวจตลอดทั้งกลางวันกลางคืน...ฝนตกแดดออกตรวจถามทุกคัน

แต่ผ่านด่านตำรวจส่วนมากมีแต่ป้ายกับกรวยยางเป็นส่วนใหญ่....นี่คือเรื่องจริงที่ประสบพบเจอมา ล่าสุดไม่กี่วันนี่เอง^_^

โดยคุณ BC_1980 เมื่อวันที่ 05/08/2012 17:44:00


ความคิดเห็นที่ 11


คนในพื้นที่ไม่เข้า แล้วในรายชื่อคนที่ถูกจับก็มีคนระนองหลายคนนี่ครับ แล้วคนในพื้นที่หมู่ที่9ในกรัง ก็ไปขายที่ดินบริเวณนั้นกันตั้งหลายคนโดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน แต่พอเกิดปัญหาก็ออกมาปัดความรับผิดชอบกันหมดแต่คนที่ซื้อเขารู้ดีว่าไปซื้อกับใคร ส่วนกัญชานี่เขาจับใครได้ จับได้ครั้งละเท่าไหร่ ไม่เห็นมีข้อมูลว่ามาจากบ้านอินทนินขวาง เห็นแต่จับได้แต่ขี้ยาในจังหวัดทั้งนั้น การฟังคนอื่นพูดมาปากต่อผมว่าข้อมูลคงหล่นหายระหว่างทางบ้าง เพราะทหารพม่าจับกัญชาพร้อมคนปลูกไปได้แค่3กิโลกรัมเท่านั้นไม่ใช่10ตันอย่างที่ทางการไทยอ้าง ผมยืนยัน!!!!

โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 05/08/2012 19:30:20


ความคิดเห็นที่ 12


ขอโทษครับ ผมเขียนสั้นไปหน่อย คนในพื้นที่ไม่เข้าหมายถึงชาวบ้านทั่วๆไปที่ทำกินปกติเช่นเจ้าของสวนยาง ส่วนใหญ่เขาจะรู้ว่าการข้ามไปทำกินฝั่งพม่านั้นค่อนข้างเสี่ยง

ก่อนแบ่งปักเขตแดนกัน ชาวบ้านเขาก็ข้ามไปมา หลายท่านมีที่ดินอยู่ฝั่งนั้น ทำกิน ปลูกข้าว ทำไม้ซุง(นานมาแล้ว) แต่เมื่อบ้านอยู่ฝั่งไทยเป็นหลักส่วนมากก็ขายที่ดิน กันไป เพราะ เนื่องจากการปกครองบ้านเขาไม่เหมือนเรา ฝั่งนั้นบางทีคนมีอำนาจ(บางยุค) อยากได้เขาก็ยึดเอาดื้อๆ

แต่ในประเด็นนี้ ที่คนไทยถูกจับเราต้องแยกให้ออก ว่าที่เขาเข้าไปโดนจับนะ ฝั่งไหน ถ้าเป็นแผ่นดินของพม่า ก็สมควรโดนครับ เราต้องเคารพกฏหมายบ้านเขา

แต่ที่แน่ๆถามว่าคนฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ มีใครรู้เห็นเป็นใจไหม ก็น่าจะรู้ เพราะไปเป็นคณะ เครื่องจักรอีก สาวไส้ออกมาดีๆ น่าจะมีคนร่วมเยอะ เผลอๆกลุ่มคนที่พาไปก็อาจจะร่วมมือกับคนฝั่งพม่าที่มีอำนาจตอนนั้น...พอเปลี่ยนคน งานก็เข้าอาจเป็นได้  ไม่อยากให้เรื่องเงียบไปครับ จะได้ล้างบางสักที

แล้วต้องถามโดยเฉพาะพวกที่ถูกจับไป ถามว่าทำไมถึงถูกหลอกง่ายดายไม่รู้หรือว่าข้ามฝั่งไปแล้ว  ผมว่าคนที่ไปทำก็อาจจะรู้ทั้งรู้นะครับ ไปลึกขนาดนั้น ถ้าอยู่ในบ่้านเราก็เหมือเข้าป่าสงวนเลย...แต่ด้วยความอยากได้...ฯลฯ ก็เลยหลวมตัวไป

พูดถึงเรื่องป่าสงวน ด้านป่าไม้ฝั่งระนองก็ถูกรุกเข้าไปทำสวนยาง ปาล์มกันเยอะ พวกนี้ไปตัดไม้ ถางป่า ปลูกยางพารา ปาล์ม แล้วก็ขายต่อแบบเถื่อนๆไม่มีเอกสารสิทธ ใครหน้ามืดอยากได้ ก็เสียเงินไปทำ นานไปสักพักถ้ามีการตรวจสอบ คนซื้อก็เน่า ไอ้พวกตัดไม้ถางป่าก็ทำไป ..ส่วนใหญ่หลอกขายคนต่างถิ่น แต่คนในท้องถิ่นทำแบบแอบๆก็มี ..... 

โดยคุณ BC_1980 เมื่อวันที่ 06/08/2012 10:49:58


ความคิดเห็นที่ 13


ชาวบ้านแค้น จนท.รัฐร่วมนายหน้าหลอกซื้อที่ฝั่งพม่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการประสานติดต่อจากชาวบ้านจาก จ.สุราษฏร์ธานี,นครศรีธรรมราช,กระบี่,พัทลุง,ระนอง ที่เข้าไปซื้อที่ฝั่งประเทศพม่าและไม่ถูก จนท.ทหารพม่าจับกุมแจ้งว่าในวันที่ 8 ส.ค. 2555 นี้ทางชาวบ้านที่เข้าไปซื้อที่ในฝั่งประเทศพม่า ประมาณ 300 ครัวเรือน รวมถึงญาติผู้ถูกจับกุมอีกประมาณ 100 คน จะนัดรวมตัวกันอีกครั้งที่ จ.สุราษฏร์ธานี ก่อนที่จะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 9 ส.ค. 2555 เพื่อพบนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเอกสาร หลักฐาน และข้อมูลที่ชาวบ้านถูก จนท.รัฐหลายหน่วยงานร่วมกับแก๊งนายหน้าหลอกให้เข้าไปซื้อที่ดินในฝั่งประเทศพม่า รวมถึงการขอให้นายกรัฐมนตรีเร่งหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฝั่งไทย รวมถึงการให้รัฐเร่งหาทางเอาผิด จนท.รัฐและนายหน้าที่เป็นต้นเหตุสำคัญที่หลอกชาวบ้านให้เข้าใจผิดจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินการช่วย 92 คนไทยที่ถูกขังคุกอยู่ที่ จ.เกาะสอง หลังถูกตัดสินจำคุกคนละ 3 ปี 6 เดือน ล่าสุดทางนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง เปิดเผยว่าจากการที่ทางการพม่าได้ประสานมายัง จนท.ฝ่ายไทยเพื่อขอให้ส่งยาและเวชภัณฑ์นำไปให้ 92 คนไทยที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำบ้านเก้าไมล์ จ.เกาะสอง หลังพบชาวบ้านที่ถูกคุมขังมีอาการป่วยหลายราย รวมถึงกลุ่มชาวบ้านที่มีโรคประจำตัวทั้งความดัน เบาหวาน ภูมิแพ้ที่ต้องทานยาอย่างต่อเนื่องพบว่าหลายคนขาดยามาหลายวัน อาจจะทำให้โรคกำเริบเป็นอันตรายได้ ซึ่งในส่วนของทางการพม่าได้ช่วยเหลือในระดับหนึ่ง แต่พบว่ายาหลายตัวที่ไม่มีจะต้องขอสนับสนุนจากไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนองได้ประสานไปยังญาติผู้ที่ถูกคุมขังเพื่อรับทราบถึงโรคประจำตัวและยาที่แต่ละคนรับประทาน โดยให้ญาติระบุรายละเอียดรวมถึงตัวอย่างยา ซึ่งทาง จนท.สามารถติดต่อญาติและทราบรายละเอียดหลายรายจึงได้จัดยาทยอยนำส่งไปให้ จนท.ทางการพม่าเพื่อนำส่งมอบต่อให้กับชาวบ้านคนไทยที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำบ้านเก้าไมล์ต่อไป
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 06/08/2012 14:09:00


ความคิดเห็นที่ 14


คนไทย 92 คนที่ถูกทหารพม่าจับกุมเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดเกาะสอง เพื่อรอการพิจารณาในคดีมีอาวุธและยาเสพติดในครอบครองในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.) ทีมข่าวไทยพีบีเอสได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีผู้ที่ลักลอบเข้าไปทำกินในพม่าสูญหายไปในช่วงเวลาเดียวกันอีก 1คน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงยังไม่ยืนยันข้อมูลนี้ โดยครอบครัวพาโว รวมตัวกันที่หมู่บ้านแพรกแข้ง ตำบลสายใต้ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามหานายวงศกร พาโว น้องชายคนที่ 7 ที่หายตัวไปนานกว่า 1 เดือน หลังจากเข้าไปทำไร่และเปิดร้านค้าที่หมู่บ้านอินทนินขวาง ในพื้นที่จังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า พร้อมนางกัลยา กลับชัย ผู้เป็นภรรยา หลังจากทหารพม่าจับกุมคนไทย 92 คน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้ออกตามหาและติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆ พบว่า นางกัลยาตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา แต่ไม่พบรายชื่อนายวงศกร อยู่ในบัญชีผู้ถูกจับ ด้าน นายสมจิตร อินพนม ชาวตำบลปากจั่น อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ที่เข้าไปทำกินในพื้นที่จังหวัดเกาะสองและสามารถหลบหนีการจับกุมมาได้ ยืนยันว่า ก่อนที่ทหารพม่าจะเข้าจับกุมได้พบกับนายวงศกร ที่บ้านอินทนินขวางจริง ขณะที่ ชาวบ้าน อ้างว่าได้รับคำยืนยันจากนางกัลยา ภรรยาของนายวงศกรที่ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดเกาะสองว่า นายวงศกรเสียชีวิตระหว่างที่ทหารพม่าเข้าจับกุม แต่ข้อมูลนี้ยังไม่มีคำยืนยันจากหน่วยงานความมั่นคงของไทย ขณะนี้ศาลจังหวัดเกาะสองได้พิพากษาจำคุกคนไทย 92 คน ซึ่งรวมภรรยาของนายวงศกรเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน ฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนคดีมีอาวุธและมียาเสพติดในครอบครองนั้นศาลจังหวัดเกาะสองได้นัดพิจารณาคดีในวันที่ 6-7 สิงหาคมนี้
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 06/08/2012 14:13:18


ความคิดเห็นที่ 15


ทหารไทยเราช้าตลอดอะครับ(ไม่ได้มีความน่าเกรงขามเลยยซักนิดอะในสายตาเพื่อนบ้าน) ถ้าเป็นเรื่องยาเสพติดจริงๆก็น่าจะปฏิบัติการร่วมดิครับ แล้วก็น่าจะมุ่งประเด็นไปที่ยาเสพติด ไม่น่าจะจับคนในกรณีข้ามแดน(ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรใหญ่โตเลยเรื่องข้ามฝั่งไปมาเนี้ย เป็นเรื่องธรรมดามากของคนพื้นที่ตามชายแดน) จริงๆผมคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องนี้อะ แค่เอามาอ้างมากกว่า ส่วนถ้าเป็นเรื่องเขตแดน(จริงๆคิดว่าอันนี้) ทหารพม่าเค้ามีความจำเป็นต้องทำอะครับ(ใครมีบ้านหรือที่ดินที่ไม่ได้ใช้ทำ อะไรเยอะๆคงรู้ กับไอ้ทริกแสดงความเป็นเจ้าของโดยติดป้ายขายแต่ไม่ขายอะ)ขืน ปล่อยไปนานๆเข้าที่ดินตรงนั้นมันจะหายไปจริงๆนั้นเอง แต่ไม่น่าจะมีทำกันแบบนี้ น่าจะแจ้งเตือนให้ย้ายออกกันดีๆ(ถ้าเค้าเกรงใจเราซักนิดอะนะ) หรือขอให้ฝ่ายไทยร่วมมือในการขอคืนพื้นที่(ถ้าทหารเรามีความน่ากลัวซักนิดอะนะ เค้าน่าจะเกรงใจบ้าง)

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 06/08/2012 17:54:53


ความคิดเห็นที่ 16


by คนข่าวภูธร | 08.08.2012 สุราษฎร์-ทายาทเหยื่อคนไทยที่ถูกพม่าจับยันพ่อถูกยิงเสียชีวิตแม่ถูกจับวอนรัฐบาลช่วยเหลือขอเพียงกระดูกพ่อเพื่อทำพิธีทางศาสนา และให้แม่กลับบ้านปลอดภัย -ด.ช.ชญามร พาโว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านเขายาวราชพัฒนา อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวผ่านสื่อในระหว่างที่มาร่วมประชุมร่วมกับญาติคนไทยที่ถูกพม่าจับเพื่อให้รัฐบาลช่วยเหลือที่วัดทุ่งเซียด ม.6 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ว่านายพงศกร พาโว อายุ 44 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 75/4 ม.7 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร ถูกทหารพม่ายิงเสียชีวิตขณะที่ไปทำสวนยางในพื้นที่ชายแดนไทยพม่าและนางกัลยา พาโว อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่ถูกทหารจับไปพร้อมกับคนไทย 92 คนที่ถูกจับไปพร้อมกันเมื่อวันที่ 5 ก.ค. โดยอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือขอนำกระดูกของพ่อมาทำบุญ อยากให้แม่กลับมาอย่างปลอดภัย -โดย ด.ช.ชญามร กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่พ่อเสียชีวิต แม่ถูกจับ ไม่ได้พบหน้าใครอีกเลย ซึ่งกรณีที่พ่อเสียชีวิตก็ทราบจากเพื่อนของแม่ที่ไปเยี่ยมญาติที่คุกเกาะสอง ประเทศพม่า และแม่ได้เขียนจดหมายฝากกับเพื่อนให้มาบอกว่าไม่ต้องรอพ่อแล้ว พ่อถูกทหารพม่ายิงตอนไปจับ ซึ่งตอนนั้นพ่อพยายามวิ่งหนี จึงถูกทหารพม่ายิงต่อหน้าต่อตาแม่และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์หลายคน -ก่อนหน้านี้พ่อกับแม่ไปทำสวนยางในพื้นที่ดังกล่าวมาประมาณ 3 ปี ตนเองก็เคยไปและก่อนถูกจับกุมได้สร้างบ้าน มีรถยนต์2 คัน จยย.1 คันเพื่อใช้งานโดยอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านจำนวนมากและทราบว่าทรัพย์สินของพ่อถูกทหารพม่ายึดทั้งหมด �ตอนแรกไม่เชื่อว่าพ่อเสียชีวิต แม้ว่าก่อนหน้านี้จะฝันเห็นพ่อในสภาพที่ไม่ดี มีเลือดโชกทั้งตัว อยู่บ่อย ๆ และพี่สาวก็ฝันเหมือนกัน จนกระทั่งมาทราบจากจดหมายของแม่ จึงเชื่อว่าตายจริง อยากให้รัฐช่วยเหลือขอกระดูกมาทำศพ� ด.ช.ชยามร กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ -ขณะที่ในส่วนของกลุ่มญาติของคนไทยที่ถูกจับในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ,ชุมพร ได้ประชุมร่วมกันที่วัดทุ่งเซียดเพื่อยืนยันที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกลับมาอย่างปลอดภัย และขอให้รัฐบาลพิสูจน์พื้นที่ให้ชัดเจน ที่สำคัญให้รัฐบาลช่วยเหลือกรณีที่มีผู้เสียชีวิต ในขณะที่ทางทหารยืนยันว่าไม่มีเป็นการบิดเบีอนความจริง พร้อมทั้งมีการนำแผนที่ดาวเทียมที่คัดลอกมาจากเวปไซด์กูเกิล แสดงให้ที่ประชุมดู รวมทั้งภาพถ่ายที่มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมประชุมกับชาวบ้าน -นายจริง รักษายศ ตัวแทนชาวบ้านที่ญาติถูกทหารพม่าจับกุมรายหนึ่ง กล่าวว่าตอนนี้ยังยืนยันว่าพื้นที่ทำกินเป็นของไทย ไม่ได้บุกรุก เพียงแต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ให้ความกระจ่างกับชาวบ้านหรือข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งนี้รัฐบาลต้องเข้าไปดำเนินการอย่างเป็นธรรม +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โดยคุณ johnny เมื่อวันที่ 09/08/2012 18:11:29