หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อยากทราบว่า AU23 มีอะไรพอจะสู้โจรได้บ้างครับ

โดยคุณ : liverpool เมื่อวันที่ : 09/08/2012 11:12:58

คือได้ดูข่าวมาว่าท่านกลาโหมจะใช้เครื่องบินรุ่นนี้มาลาดตะเวนแถวๆ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เออ..เราฝึกครอปร้าโกล์กับพี่กันทุกปีถ้าจำไม่ผิดทำไมไม่ชวนพี่กันเปลี่ยนบรรยากาศไปฝึกแถว 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยการใช้กระสุนจริง โดยจำลองเทือกเขาบูโดเป็นที่หลบซ่อนของกลุ่มก่อความไม่สงบ  เหมือนดูหนังอยู่เรื่องหนึ่งครับที่มีทหารญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมแพ้สงคราม (สงครามโลกครั้งที่ 2) แล้วหนีขึ้นไปอยู่บนยอดเขาสู้กับทหารอเมริกา อย่างเมามันเลยครับ ขอนอกนิดหนึ่งอยากทราบจริง Au23 ว่ามีอะไรดี แล้วกองทัพมีเครื่องรุ่นนี้เยอะไหมครับ ขอบคุณครับ





ความคิดเห็นที่ 1


ชวนประเทศตอนบนของเราดีกว่า  สถานการจะได้หนาวจนไปถึงแหลมมารายู ไหนๆภาคใต้ร้อนมานานแล้ว

ในใจหวังอยากให้ บ.ทอ.6 ติด thermal image camera  +  กระเปราะ 7.62 mm  รวมๆแล้วน้ำหนักไม่มาก  ก็คงเพียงพอแล้วละ ในการรับมือ

แต่กลัวว่ากว่าจะขึ้นบินได้  กว่าจะถึงที่เกิดเหตุ นี้สิปัญหา 

 

เคยเห็นข่าวอังกฤษส่ง ฮ.โจมตี ตามล่า พวก ไอริส  ดูแล้วหน้าจะสะดวกกว่า

 

 

ยากจะเสนอทางแรกให้อีกทาง คือใช้ ฮ.เล็ก พวก Robinson  เอาไประจำศูยน์ย่อยต่างๆ ขึ้นลงสะดวกเร็วทันเหตุการ  อีกคนขับอีกคนสาด saw m249   ภารกิจเล็กแก้ต่างในเวทีโลกได้ว่าเราไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 03/08/2012 18:45:02


ความคิดเห็นที่ 2


มั่วตั้วไปหมดเรือเหาะไปไหนล่ะก็ใช้เข้าไปสิรถหุ้มเกราะซื้อมาตั้งนานส่งมอบได้กี่คันวู้วเอาแต่ว่านักการเมืองใครตรวจสอบทหารได้บ้างเอ่ยแต่ล่ะคนทรัพย์สินไม่ต้องห่วงเงินเดือนทหารทั้งชาติก็หามาไม่ได้หรอก ปปชไม่ตรวจสอบบ้างส่งแต่ผู้น้อยไปตายเสนาธิการทหารแบบนี้ใครก็เป็นได้ไม่ต้องจบนายร้อยหรอก

โดยคุณ warrock เมื่อวันที่ 03/08/2012 20:09:21


ความคิดเห็นที่ 3


ถ้าใครก็เป็นได้ แล้วทำไมไม่มาเป็นละครับ

ทำไมไม่สมัครสอบเพื่อเข้ามาเป็น  

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 03/08/2012 20:28:45


ความคิดเห็นที่ 4


    55555.....ชอบใจคำพูดของท่านหลวงอาวุธวิเศษครับ  เออจริงด้วย   ถ้าให้จีนมาซ้อมรบกับเราแบบคอปบร้าโกลด์ที่ 3 จังหวัดชายแดน   หนาวสะท้านไปทั้งแหลมมลายูจริงๆครับ   เพราะเหมือนบอกกลายๆว่าเองเจ้งเพราะทำสงครามแพ้พวกข้าเมื่อไร   คนจีน 21-22% ในแผ่นดินมันจะกลายมาเป็นผู้ปกครองโดยการสนับสนุนจากจีนแดงและไทย......55555....เออลืมนึกถึงจริงๆ  เป็นไอเดียที่ไม่เลว   

   แบ่งประเทศทางใต้ออกเป็นสองส่วน  ส่วนติดกับเราปกครองโดยคนจีนและอินเดีย  โดยจีนแดงสนับสนุน   ฝั่งตะวันออกก็ให้พวกเชื้อมลายูหอบลูกเต้าหนีไปอยู่แทน    ปกครองโดยคนเชื้อมาเลย์ไป  แล้วให้อินโดซึ่งเกลียดขี้หน้ากันอยู่แล้วคอยกดหัวให้.............เจ้าท่าแฮะ    

   จะว่าไปประเทศทางใต้นี้เป็นประเทศอกแตกและมีประวัติเรื่องความรุนแรงทางเชื้อชาติศาสนามาก่อน  และจำนวนประชากรต่างเชื้อชาติก็อยู่ในสมดุลที่อันตรายทีเดียว   จะว่าไปก็เล่นมันได้ไม่ยากนะนี่

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 03/08/2012 21:56:10


ความคิดเห็นที่ 5


neosiamese2 พูดได้ถูกใจ ขอบคุณนะ กำลังหนวกหูคำสวดของบางศาสนาอยู่เลยเริ่มตอนตี 4 ทุกวัน เขาเพิ่งมาสร้างเมื่อกลางปี(อ๊ะๆ ไม่ได้ระบุนะว่าศาสนาใด)

ขนาดบ้านอยู่ไกลกว่า 3 กิโลฯ ยังดูทีวีไม่รู้เรื่อง ในกรุงเทพนี่แหละแถวเขตสะพานสูง ไม่ไหวๆ

โดยคุณ yam เมื่อวันที่ 03/08/2012 23:18:51


ความคิดเห็นที่ 6


เห็นตามกับท่าน หลวงอาวุธวิเศษ

ในอดีต ในแหลมมลายู .. กลุ่ม จคม. ( โจรจีน คอมมิวนิสต์ ) เคยรบกับชาวมลายูมานาน

เท่าที่ผมเคยรับฟัง พวก มลายูจะหวาดกลัวพวก จคม. เป็นที่สุด เวลาเกิดปะทะกัน พวกมลายู

จะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ทุกครั้ง .. อีกอย่าง พวก จคม. นิยมผ่าท้องศัตรู แล้วเอาเครื่องในมาต้มกิน

ในอดีต แถบ อ.เบตง เป็นฐานที่มั่นหลักของฝ่าย จคม.  ปัจจุบัน ถ้าใครไปดู ก็จะเห็นว่า เบตง

ส่วนมากก็เป็นคนเชื้อสายจีนอยู่กันเป็นส่วนมาก และ ส่วนหนึ่ง ก็เข้าไปปักหลักอยู่ในประเทศมาเลเซีย

พวก จคม. ในอดีต ป่านนี้ อายุก็คงจะเลยหลัก 7 กันหมดแล้ว .. ถ้าที่ดังๆ ที่พวกเราพอจะรู้จัก

และเป็นระดับหัวหน้า คือ พวก แซ่ด่าน ..  ดูเผินๆ เหมือนกับว่า จคม. จะหมดฤทธิ์แล้ว แต่ เท่าที่รับรู้

พวกนี้ ก็ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับ ฝ่ายสนับสนุนที่อยู่ในประเทศจีน  ถ้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย

อยากจะพลิกเกมส์ โดยที่ไม่ต้องออกรบเอง ก็ใช้วิธีเหมือนที่ หลวงอาวุธวิเศษ  กล่าวก็ได้

ถ้าทำได้จริง .. เราอาจะต้องยอมให้ฝ่าย จคม. เอา อ.เบเตงเป็นฐานที่มั่นเหมือนเดิม

ทีนี้ พวกลูกหลาน จคม. ที่อยู่ในมาเลเซีย ก็จะหันกลับมาสนับสนุนบรรบุรุษ เพราะคนจีนในมาเลย์

ก็เป็นพลเมืองชั้นสองโดนกดขี่มาตลอดอยู่แล้ว .. งานนี้ คงสนุกแน่ๆ

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 04/08/2012 03:08:27


ความคิดเห็นที่ 7


ปล่อยงูเข้ามากินหนูที่บ้าน มั่นใจแล้วหรอคับว่ามันจะไม่แว้งมากัดเราเองนะ 

โดยคุณ biguvix เมื่อวันที่ 04/08/2012 16:03:50


ความคิดเห็นที่ 8


55+ ก่อนที่เราจะเอางูมาล่าหนูเราก็ต้องจัดการหาเชือกปอกล้วยเตรียมไว้ หรือฝูกคอมันไว้ก่อนสิครับถ้ามันแว้งกัดก็กระตุกเชือกมากระซิบข้างหู...ว่าจะเอาจริงเหรอ...(พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก)....^^

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 04/08/2012 20:35:01


ความคิดเห็นที่ 9


ความเห็นคุณ หลวงอาวุธวิเศษ น่าสนใจครับ

http://www.youtube.com/watch?v=rAvnMYqj2c0

ลองเข้าไปดูนะครับ โดยเฉพาะ ที่นาทีที่ 1.45 จะเห็นใน clip ว่ามองทะลุต้นไม้ได้

ซึ่งผู้ก่อการร้ายภาคใต้บางครั้ง เเปลญวณไปผูกกับต้นไม้ ใช้เป็น ฐานลอย ในป่า ที่กว่าจะหาเจอ เดินป่ากันเป็นวันๆ แต่ถ้าใช้อันนี้ละก็ หนีไปไหนก็หาเจอ ไม่ว่าจะก่อเหตุซุ่มยิงใครแล้วหนีเข้าป่าข้างทาง ก็ยังหาได้ thermal imaging จาก helicopters ซึ่งใช้กันใน special operations และ local law enforcements ชั้นนำทั่วโลก (หรือ UAVs ซึ่งถ้าเป็นขนาดเล็กจะประหยัดน้ำมันเวลาขึ้นบินได้มากกว่า helicopters) (หรือ surveillance & recon satellite ซึ่งดีที่สุด เพราะ สามารถคุมพื้นที่ได้บริเวณกว้างมาก แถม ยังเฝ้าได้ตลอด 24 ชม.ด้วย)

อย่างไรก็ดี อย่าลืม ว่า มี ปัญญา (wisdom) คือ มีอาวุธนะครับ

และ wisdom ก็ คือ อย่าใช้แต่ อาวุธ และ เทคโนโลยี และ rules of laws จนลืมใช้ humanity,morality & virtues ด้วย นะครับ

ใช้ทุกอย่าง ควบคู่กันไป

เพื่อ ช่วยนำวันติ คืนมาให้ ชาวบ้านภาคใต้ เพื่อให้พวกเขามาอนาคตดีขึ้น มี สันติ ความสุข ความเจริญ โดยเร็วครับ

โดยคุณ SurakijVuthikornpant เมื่อวันที่ 05/08/2012 00:15:44


ความคิดเห็นที่ 10


ข้างล่างภาคพื้นดิน แก้ปัญหาอย่างไรครับ ก่อนที่จะเอา au-23 ไปบินคุ้มครองภาคพื้นดิน

อันนี้ผมยังไม่พูดถึงอาวุธ ที่รัฐมีเหนือกว่านะครับ

เพราะดูแล้วมันเป็นปลายเหตุมากๆ ความคิดเห็นส่วนตัวครับ

เหมือนไม่มีใครอยากจะวิ่งเข้าไปเอาลูกเสือในถ้ำ แต่ให้อินทรีย์คอยข่มให้ยังไงก็ไม่รู้

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 06/08/2012 10:58:35


ความคิดเห็นที่ 11


ขอบคุณ ท่าน 


 : SurakijVuthikornpant   

ผมเห็นด้วยกับท่านเป็นอย่างยิ่งครับ

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 06/08/2012 11:01:34


ความคิดเห็นที่ 12


ผมเสนอในฐานะคนใต้ที่รู้จักนิสัยคนใต้ด้วยกันดี  ขอสรุปว่าที่ผ่านมาทางการไทยใช้มาตรการที่อ่อนเกินไปในการจัดการปัญหา คือใช้การเมืองมากๆ การทหารน้อย ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกได้เปรียบในการต่อรองอะไรหลายๆอย่างและเริ่มขยับเป้าหมายต่อรองให้มากขึ้นไปอีก จนบานปลาย   ทางที่ดีควรใช้งานด้านยุทธการให้มากเพื่อสร้างความสูญเสีย และสร้างแรงกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเสียเปรียบเพื่อบีบให้เกิดการเจรจา  ฝ่ายทางการก็เปิดช่องให้มีการเจรจาไว้ แต่ต้องอยู่ภายใต้งานยุทธการที่ต่อเนื่อง  ส่วนงานด้านชุมชนแนวร่วมก็จะทำได้ง่ายขึ้นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากแยกประเทศ ทุกวันนี้ที่เงียบเพราะความหวาดกลัวภัยจะมาถึงตัวเนื่องจากทางการไม่มีความแน่นอน รับประกันความปลอดภัยอะไรชาวบ้านไม่ได้

ตัวอย่างก็สมัย พล.เอก หาญ ลีลานนส์  , พล.โท  กิติ รัตนฉายา เป็นแม่ทัพภาค 4 (สะกดผิดก็ขออภัย) การทหารทำงานได้ผลมาก ทำให้งานการเมืองทำได้สะดวก

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 06/08/2012 15:59:49


ความคิดเห็นที่ 13


แนวทางในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่ยั่งยืนคือการปรับเปลี่ยนความคิดของฝ่ายเราก่อนครับ

ซึ่งบางความเห็นในข้างต้นนี่ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่แนวทางการแก้ไขปัญหาเลยครับ
แต่เป็นแนวทางการ "สร้างปัญหาให้มีเงื่อนไขเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น" มากกว่า
และนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มก่อไม่สงบที่ใช้ความรุนแรงอยู่ตอนนี้หรอกครับ

อีกอย่างคือต้องเลิกมองประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศรอบๆตัว
เป็น"ศัตรูด้านความมั่นคง" ไปเสียทุกเรื่องได้แล้วครับ
แนวทางที่ต้องทำคือการเพิ่มความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยซ้ำไปครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 09/08/2012 11:12:58