ได้ยินข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ ใน 3 จัดหวัดชายแดนใต้ทีไร ยิ่งเจ็บปวดใจครับ
ซึ่งเหตุการณ์ ก็จะเป็นในแนวทางรูปแบบเดิมๆ คือ ฝ่ายรัฐเป็นเป้าโจมตีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
และตบท้ายด้วยสูตรสำเร็จของโจรใต้ ก็คือ การสกัดกั้นการช่วยเหลือทางถนนโดยต้นไม้และตะปูเรือใบ
สิ่งเหล่านี้บ่งบอกอะไีรได้บ้างครับ และยิ่งในสถานการณ์เร่งด่วน จึงเป็นไปได้ยากที่ทางบก
จะแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ในเมื่อทางบกค่อนข้างมีปัญหาที่ซับซ้อน ทางอากาศ จึงเป็นสิ่งที่ฝ่ายรัฐ
ควรให้ความสำคัญ
AS550 Fennec ของ Eurocopter จำนวน 8 ลำ ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (54-57) วงเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท
เป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ ถึงเเม้จะช้าและจำนวนน้อยไปหน่อย
ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ในการตระเวนหาข่าว แจ้งเตือนภัย และสนับสนุ่นการช่วยเหลือ
ขอเพิ่มเติมอีกอย่างครับ ด้านกำลังใจ (ยิ่งมีเสียงอยู่บนหัว)
ปล.โพสครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ (โพสหายไปรอบนึง)
ระหว่าง ฮ. 8ลำ กับรถเกราะที่ลำเลียงทหารได้ ลาดตระเวณได้ นำไปแทนรถกระบะที่โดนระเบิดปลิวได้ ส่วนตัวเชียร์รถเกราะอยู่ดีครับ เพราะส่วนตัวคงไม่อยากรอให้ทหารโดนยิงตายหรือโดนระเบิดยกคันแล้วจึงมีอะไรออกมาไล่ล่า ถ้าจะลดการสุญเสียก็ลดตั้งแต่ตอนเกิดเหตุไปเลย
ส่วนตัวคิดว่าดี คนละอย่างแล้วแต่สถาณการณ์นะครับ ใช้ ฮ เปิดทางเข้าไปช่วยเหลือหรือบินติดตามก็ได้ หรือสนุบสนุนภาคพื้นก็ได้ รถหุ้มเกราะใช้ในการลาดตะเวน ถ้ามี 2 สิ่งนี้ ใช้งานร่วมกันละก็ ปกป้องได้อีกหลายชีวิตเลยครับ
รถเกราะชัยเสรี ทดสอบกับกระสุน7.62มม.สบายๆ เรียกว่าถ้าทหารในพื้นที่ใช้รถเกราะในการลาดตระเวณ เข้าพื้นที่ สิ่งที่จะทำลายรถเกราะได้คือระเบิดฝังใต้ถนน ถ้าโดนหนักๆแบบเรว่าคือพลในรถเจ็บสาหัส แต่หากไปเป็นคู่ก็ยังขับมาช่วยเหลือในขณะที่พลในรถสามารถยิงคุ้มกันจากภายในได้
ดีกว่ารถกระบะ เดินเท้า มอเตอร์ไซค์ ที่ทหารแทบไม่ได้แสดงฝีมือเลยด้วยซ้ำ
เป็นความคิดที่ดีครับ .. แต่ กว่าจะได้รับแจ้ง เวลาเกิดเหตุ ฮ. ต้องติดเครื่องสแตนด์บาย 3-5 นาที
กว่าจะบินไปถึงจุดเกิดเหตุ ใช้เวลาอีก 15 นาที .. โจรใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 2-5 นาที
.. บินไปถึงแล้ว ก็คงไม่เห็นอะไรแล้วล่ะครับ
ถ้างบ 1500 ล้าน .. เอาไปซื้อ UAV ซัก 100 ลำ พร้อมกับระบบลิ้งค์ ขอความช่วยเหลือ
จากฐานทหารต่างๆ ผมว่า มันจะมีประโยชน์มากกว่าน่ะ .. อีกอย่าง ในทางจิตวิทยา ถ้าผมเป็นโจร
มีเครื่องบิน UAV มาบินวนอยู่เหนือหัว ผมก็คงไม่กล้าก่อเหตุหรอกครับ เพราะไม่รู้ว่า UAV มันจะ
ติดกล้องความร้อนหรือเปล่า ..
อีกอย่าง ด้านกำลังใจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเรา ก็อุ่นใจขึ้นเยอะ ถ้ามี UAV มาบินคุ้มกันอยู่ตลอดเวลา
.. แถม UAV ก็กินน้ำมันน้อยมากๆไม่เปลืองงบด้วย การซ่อมบำรุงก็ไม่แพง โดนยิงร่วง รือ ร่วงเอง
ก็ไม่เสียหายอะไร ต่างจาก ฮ ถ้าโดนสอยด้วย RPG ตายสถานเดียว ราคา ฮ ก็ไม่ใช่ถูกๆ
.. สรุป มี UAV ซัก 100 ลำ ผลัดกันบินขึ้นลงตลอด 24 ชั่วโมง เอาแค่ จังหวัดละ 1 ลำ
ก็อุ่นใจเยอะแล้วครับ
ก็อย่างที่พูดครับ คุมอากาศได้ก็คุมพื้นดินได้
รถหุ้มเกราะคือการแก้ปัญหาที่พื้นฐานที่สุดแล้วครับ สนับสนุน จะเจอก็คงเจอแต่ระเบิด
ผมขอรถหุ้มเกราะก่อนแล้วกันครับอย่างน้อยๆก็ซื้อเวลายื้อชีวิตของทหารได้
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
เรื่องรถหุ่มเกราะยังไงก็เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกอยู่แล้วครับ แต่ด้วยจำนวน
ในการจัดกำลัง และความยืดหยุ่นต่างๆ จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พอเพียงทุกจุดครับ
ส่วน UAV ก็เป็นเครื่องมือที่ดีครับ ในการลาดตระเวนสังเกตุการณ์
จากด้านบน ...
แต่อย่างไรก็ตาม ผมไม่อยากให้คิดว่าสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องมี และทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบครับ
วิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ปัญหาคราวนี้ก็คือการใช้รถหุ้มเกราะFirstwin แทนรถมอเตอร์ไซต์ ผมก็อยากให้ทหารทุกท่าน ไม่อยากเอาเนื้อตัวเองไปหุ้มรถมอเตอร์ไซต์เลยครับ
ให้รถFirstwin หุ้มเนื้อพวกท่าน จะดีกว่านะครับ เป็นห่วงพวกท่านมากๆเลยครับ
ผมเห็นพี่น้องทหารกล้าในคลิปแล้วใจหาย..
ถ้าเรามีรถหุ้มเกราะ และ ฮ. บินสนับสนุนจะรักษาชีวิตผู้กล้าเหล่านี้ได้..
กรรม คลิป ทหารโดนยิงกายเป็นอะไรไป ต้องใส่ ลายเซ้นเต็มหน้าคลิปไปหมด
อันนี้น่าจะต้นฉบับ ไม่มีลายเซ้น ให้ลกตา
http://www.youtube.com/watch?v=F21SbzlAv-c&feature=player_embedded
"แยกปลาออกจากน้ำ"
คำถามคือถ้าปลากับน้ำมันดันเป็น "น้ำปลา" ละครับ
RIP แด่ เพื่อนนักรบที่สูญเสียทุกนาย
""แยกปลาออกจากน้ำ"
คำถามคือถ้าปลากับน้ำมันดันเป็น "น้ำปลา" ละครับ"
คำถามแบบนี้หมายถึงเห็นทุกคนเป็นศัตรู หรือ ไม่สามารถแยกออกว่าใครคือน้ำใครคือปลา ครับ
""แยกปลาออกจากน้ำ"
คำถามคือถ้าปลากับน้ำมันดันเป็น "น้ำปลา" ละครับ"
คำถามแบบนี้หมายถึงเห็นทุกคนเป็นศัตรู หรือ ไม่สามารถแยกออกว่าใครคือน้ำใครคือปลา ครับ
==============
... อยากได้คำตอบ แบบ ผู้ดี .. ที่พูดออกทีวี หรือ แบบบ้านๆ ที่พูดเรื่องจริงละครับ ...
ถ้าคุณอยากรู้เรื่องจริง ที่ไม่ใช่คำพูดเสแสร้งจากชาวบ้าน ผมแนะนำให้ไปแอบติดเครื่องดักฟังทุกบ้าน
แล้วเอามาเปิดฟังดู แล้วคุณจะรู้ว่าชาวบ้านคิดยังไง กับเจ้าหน้าที่ในสามชายแดนใต้ ..
ถ้าคุณได้ยินแล้ว คุณจะตกใจครับ .. ( ถ้าคุณแปล ภาษายาวี ออกน่ะ )
ความต้องการเร่งด่วนตอนนี้ผมว่า ควรจัดหารถหุ้มเกราะเป็นอันดับแรกครับเอาที่ผลิตในประเทสนี่ล่ะไม่ต้องของนอกหรอกครับ ทดสอบก็ผ่านแล้วเหลือแต่ใช้งานจริงเท่านั้นผ้ปฏิบัติงานเขาจะได้อุ่นใจว่าอย่างน้อยโดนยิงก้ไม่เป็นไรถ้าโดน IED ก็บาดาดเจ็บก็ยังดีกว่าต้องมาเสียชีวิตทั้งที่ยังไม่ได้ตอบโต้ หรือจะเบบเดิมคือจัดชุดร่วมทั้งรถจักรยานยนต์และรถเกราะเพื่อเสริมกันก็ได้
เรื่อง ฮ.ก๋จำเป็นครับแต่ระยะเวลาการจัดหากว่าจะได้มามันนาน นานกว่าการจัดหารถเกราะ ฮ.ลำหนึ่งติดอาวุธและอุปกรณ์ตรวจการณ์อย่างน้อยก็ 8-12ล้านเหรียญ ซึ่งซื้อรถเกราะได้อย่างน้อย ก็20 คัน
หรืออีกทางเลือกคือ UAV ขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ถ้าขนาดเล็กราคารวทั้งระบบน่าจะไม่เกิน 10-15 ล้านบาท ต่อ หนึ่งระบบ ขนาดกลาง 1ระบบก็ไม่น่าจะเกิน120ล้านบาทต่อหนึ่งระบบ (เป็นการประมาณการครับ)
เรื่อง ฮ.ผมว่าตัดทิ้งไปก่อนครับตอนนี้เอารถเกราะ+UAV ก่อนครับงบประมาณ 1500 ล้านบาทได้พร้อมกันเลย
สรุป วันนี้เราจะเอาอย่างไร จบ...
ต้องฟันธง.
ผมว่า เอารถเกราะก่อนน่าจะดีน่ะครับ เพราะโจรใต้ใช้เวลาปฎิบัติการแค่ไม่ไกี่นาที ก็เผ่นละ กว่า ฮ จะมาถึง หรือว่า uav ก็ตาม มันใช้เวลานานเกินไป ขนาดวิทยุขอกำลังสนับสนุนยังมาไม่ทันเลย เอารถหุ้มเกราะชัวสุดครับ ทหารไม่ตายหรืออาจออกมายิงสวนสักนัดสองนัดครับ
ผมว่าในขณะนี้ทุกรายการที่ท่านสมาชิกทุกคนเสนอน่าสนใจทั้งหมด ไม่ว่ายานเกราะ Firstwin ฮ.ติดอาวุธเบา UAV กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ๆที่ซ่อนพรางง่า่ยและภาพคมชัดกว่านี้ เพราะแต่ละรายการจะใช้งานเหมาะมต่างกัน เช่น
firstwin แทนรถกระบะ แต่เสนอเพิ่มรถหุ้มเกราะขนาดเล็กขนาด 2-4 คนนั่ง ติดตั้งปืน 12.7 มม.เพื่อการยิงสนับสนุน ทนแรงระเบิดจากใต้ท้องได้มาเสริม Firstwin เห็นด้วยกับไอเดียของท่าน speci
มอเตอร์ไซค์ ควรทดแทนด้วย ATV นั่่งเรียงกัน(หรือเคียงกัน) เวลาโดนเล่นงานแบบนี้จะได้หยุดรถโดยไม่ล้ม เห็นเกาหลีใต้ใช้ ATV แบบนั่ง "เคียงกัน" ในการลาดตระเวณ สามารถติดตั้งปืนกล 7.62 แบบ M-60 ได้
UAV แบบลาดตระเวณยาวนานเป็นสิบชม.ขึ้นไป ประจำสถานีตลอดในทุกพื้นที่ พูดง่ายๆเป็นตาบนฟากฟ้าแทนดาวเทียมที่มีราคาแพง ถ้ามีดีลแบบนี้หรือแบบเข้าตีฐานอีก ตาฟากฟ้านี้จะได้ติดตามกลุ่ทขจก.ว่าหนีเข้าบ้านใครกบดานที่บ้านใครได้ทันที ต้องยอมรับว่า UAV แบบบินโคตรทนและให้รายละเอียดสูงและติดตามเป้าบุคคลแบบรายตัวท่าทางจะจำเป็นซะแล้ว ของหรูแบบพวกมะกันใช้
ฮ.ลาดตระเวณโจมตีเบาแบบ AH-6J หรือแบบใกล้เคียง เหมาะสำหรับกรณีถูกตีฐานแบบ 2 ครั้งก่อนที่ฐานถูกล้อม 30-60 นาที เหมาะสมมากเพราะสามารถส่งกำลังไปช่วยภายใน 10 นาที บรรทุกทหารไป 4 นาย อำนาจการยิงพอๆกับรังปืนกล สามารถจะช่วยฐานของฝ่ายเราจะวงล้อมได้ทันทีโดยไม่ต้องรอหน่วยภาคพื้นดิน
กล้องวงจรปิดแบบซ่อนพรางได้และความคมชัดสูง รวมทั้งถ่ายภาพอินฟราเรดได้ คราวนี้ที่จับได้รวดเร็วทันทีต้องยอมรับว่าเป็นผลงานกล้องวงจรปิด แต่กล้องพวกนี้สังเกตเห็นง่าย โดนเผาทำลายไปหลายตัวแล้วครับ กล้องซ่อนพรางน่าจะเหมาะกับการไปติดตั้งณ.จุดที่เหมาะแก่การซุ่มวางระเบิด ซุ่มโจมตี และตามหมู่บ้านทั่วไปในเขตสีแดงแลพเหลือง ต้องติดตั้งโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวและหากล้องได้ยาก รวมทั้งกล้องต้องมีแบตตารี่อายุยาวนานและรับการซ่อมบำรุงน้อย สังเกตเห็นได้ยาก
ถ้าใครพยายามวางระเบิดตามถนนทุกครั้งที่ลาดตระเวณ กล้องพวกนี้จะจับภาพได้เสมอ ถ้าใครลอบกัดแล้ววิ่งเข้าบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง กล้องเหล่านี้ตามหมู่บ้านจะสามารถติดตามได้ว่าเข้าบ้านไหน ออกไปอีกหรือเปล่า และกล้องนี้ควรสามารถเชื่อมโยงกับ UAV แบบลาดตระเวณยาวนาน เพื่อติดตามได้ต่อเนื่อง
ระบบเน๊ตเวิร์คแบบติดตาม real time เมื่อหน่วยทหารโดนเล่นแบบนี้อีก จะได้ให้ตาบนฟากฟ้าและกล้องวงจรปิดเข้าติดตามและจับภาพในพื้นที่ได้ทันที แค่นายทหารในกลุ่มถูกเล่นงานปุ๊บ ทหารก็กดปุ่มฉุกเฉินเข้าศูนย์อำนวยการได้ทันที ให้บก.รับทราบทันทีและเอาระบบกล้องและตาฟากฟ้าเข้าติดตามแบบ real time
แหม......blackhawk-M สุดหรูสามารถจัดหามาได้แล้ว 13 ลำ ราคาเป็นหมื่นๆล้าน ของที่ว่าก็สามารถจัดหามาได้จริงไหมครับ
อย่าว่าผมสู่รู้เลยน่ะครับ ผมว่ามันต้องทำงานร่วมกันทั้งหมด
โจทย์คือ การหุ้มเกราะชุดลาดตระเวณ การเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงและเข้าช่วยภายใน 3 - 5 นาที
1.การลาดตระเวณและชุดคุ้มครองภาคพื้นต้องใช่รถหุ้มเกราะ สนับสนุนด้วยรถหุ้มเกราะติดอาวุธขนาดหนัก (เจ้าหน้าที่ไม่ควรใช้มอเตอร์ไซค์ หรือรถปิคอัพแบบธรรมดา)
2.การลาดตระเวณทางอากาศเป็น UAV ที่มีกล้องความร้อนบินลาดตระเวณ 24 ชั่วโมง เสริมด้วยกล้องวงจรปิดที่มีผู้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
3.การสนับสนุนทางอากาศโดย ฮ.ติดอาวุธ เตรียมพร้อมตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
4.ตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีเจ้าหน้าที่ควบคุมและสั่งการตลอด 24 ชั่วโมง ต้องรู้ว่าชุดลาดตระเวณไหนอยู่หรือปฏิบัติหน้าที่จากจุดไหนไปจุดไหน...
แค่นี้ครับ
ผมว่า ฮ.ขนาดMH-6 เหมาะกับการใช้ในบางกรณี
ส่วนตัวมองว่า นายทหารที่เคยรบกับผกค. เจอประสบการณ์เรื่องใช้ฮ.เข้าพื้นที่แล้วโดนยิงถล่มจนฮ.ลงจอดไม่ได้ เพราะฮ.ไม่ได้หุ้มเกราะกันกระสุน แถมฮ.เล็กๆอย่างMH-6 ถึงจะมีทหารนั้งฝั่งล่ะ2คนนอกเครื่องและติดอาวุธได้ แต่ทหารที่ไปกับเครื่องก็ไม่ได้รับการป้องกันเหมือนกัน เรียกว่าหากเป้าหมายมีที่กำบังที่ดีพอยิงสวนขึ้นมาฮ.แทบจะเป็นเป้าลอยฟ้าดีๆ เพราะสภาพพื้นที่ภาคใต้เป็นป่า ต้นยางสูง ซึ่งเวลาที่โจรตีฐานอย่างฐานพระองค์ดำ เป็นต้น ซึ่งอยู่ในป่ามีต้นไม้สูง ฮ.อาจจะมีประโยชน์ที่เข้าถึงได้ไว แต่ก็หาที่ลงจอดยากเช่นกัน ต้องบินสนับสนุนแต่ก็ต้องระวังไม่ให้โดนโจรที่อยู่ภาคพื้นที่มีที่กำบังยิงสวนขึ้นไป แล้วโจรที่เข้าตีฐานมากันที10-20คน เรียกว่า ฮ.มีจุดแข็งแต่ก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน
แต่อย่างที่เกิดบนถนน หากมีการวางเรือใบ ตัดต้นไม้ ฮ.เป็นตัวเลือกที่ดีมาก
อย่างUAV บินได้นานและเร็วกว่าฮ. แถมยิงมีเพดานบินสูง เสียงก็ไม่ดังเหมือนฮ. เรียกว่าพอจะติดตามโดยที่คนร้ายไม่รู้ตัวได้ดีกว่าฮ. หากพบว่าคนร้ายหนีไปที่ไหนคงไม่เกินความสามารถเจ้าหน้าที่ๆสามารถปิดล้อมได้ไว
http://www.youtube.com/watch?v=rAvnMYqj2c0
ลองเข้าไปดูนะครับ โดยเฉพาะ ที่นาทีที่ 1.45 จะเห็นใน clip ว่ามองทะลุต้นไม้ได้
ซึ่งผู้ก่อการร้ายภาคใต้บางครั้ง เเปลญวณไปผูกกับต้นไม้ ใช้เป็น ฐานลอย ในป่า ที่กว่าจะหาเจอ เดินป่ากันเป็นวันๆ แต่ถ้าใช้อันนี้ละก็ หนีไปไหนก็หาเจอ ไม่ว่าจะก่อเหตุซุ่มยิงใครแล้วหนีเข้าป่าข้างทาง ก็ยังหาได้
thermal imaging จาก helicopters ซึ่งใช้กันใน special operations และ local law enforcements ชั้นนำทั่วโลก (หรือ UAVs ซึ่งถ้าเป็นขนาดเล็กจะประหยัดน้ำมันเวลาขึ้นบินได้มากกว่า helicopters) (หรือ surveillance & recon satellite ซึ่งดีที่สุด เพราะ สามารถคุมพื้นที่ได้บริเวณกว้างมาก แถม ยังเฝ้าได้ตลอด 24 ชม.ด้วย)
อย่างไรก็ดี อย่าใช้แค่ อาวุธ เทคโนโลยี และ rules of laws จนลืมใช้ humanity (มนุษยธรรม),morality(จริยธรรม) & virtues (คุณธรรม) ละครับ