ที่เห็นในคลิปข้างบนเนี่ยแหละครับ คือเจ้า k9 รถถังอัตตาจร สุดเท่จากแดนโสมขาว เจาตัวนี้นะครับ เริ่มโครงการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1989 (ปีผมเกิดเรย—“) โดยพัฒนาบนพื้นฐานของ KH 179 และสามารถใช้กระสุนและชิ้นส่วนร่วมกับ M109A2 paladin (ตัวนี้ไทยมีครับ) ได้ เห็ฯไหมครับว่าหน้าตาเจ้า K9 Thunder เนี่ย คล้ายๆกับ เป็นM109a2 ในเวอร์ชัน ตาตี่ ผิวเหลือง ผมดำ แบบเอเชียหรือ เอเชียน ลุคส์ อิอิ
ตัวต้นแบบแรก ออกมาให้ทดลองในปี 1996 ครับ หลังจากนั้นเพียง2ปี ในปี1998 สัญญาในการให้สิทธิ์ในการผลิต แก่ บริษัท SAMSUNG AEROSPACE INDUSTRIES (SSA) หรือ SAMSUNG Techwin ในปัจจุบัน และในปี 1999 K9 Thunder ล็อตแรก ประจำการในกองทัพบกเกาหลีใต้
สำหรับความสามารถของมัน K9 มีความสามารถที่เหนือกว่า paladin ตัวที่เป็นพื้นฐานอยู่มาก ทั้งความคล่องแคล่วและรวดเร็วในการเคลื่อนที่ จากพลังขับเคลื่อน กว่า 1000 แรงม้า ใช้อุปกรณ์ที่สามารถหาทดแทนได้ และ สามาารถส่งขายได้ทั่วโลกด้วยความกว้างปากลำกล้องที่เป็นมาตรฐาน 155 มม( ถ้าเป็นปืนใหญ่จากจีนส่วนใหญ่เป็นปืนใหญ่กระสุนวิถีราบ ไม่ใช่วิธีโค้ง และมีความกว้างปากลำกล้องที่ 120-130mm) ตัวรถหุ้มด้วยเกราะหนา 14.5 มม โดยการประกอบใช้ชิ้นส่วนเครื่องยนตร์และเกียร์จากภายในเกาหลีเอง และได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศของเกาหลี ภายใต้คำแนะนำในการวางระบบเครื่องยนตร์ ระบบนำทาง และระบบขับเคลื่อน จาก ต่างประเทศ
K9 สามารถที่จะทำการยิง ในขณะอยู่กับที่ภายในเวลา สามสิบวินาที และ ขณะเคลื่อนที่ 60 วินาที โดยสามารถทำการยิงโดยการเปลี่ยนข้อมูลเพียงเล็กน้อยทำให้อำนวยการยิงได้ง่าย โดยในระบบ ของk9 จะมีรถหุ้มเกราะบรรทุกกระสุนแบบ K10 ด้วย สำหรับ K9 สามารถทำการยิงได้ ด้วยความสามารถมากกว่า M109A2 ถึง สามเท่าตัว
K9 มีระยะยิงสูงสุดที่ประมาณ 40 km และ ความเร็วสูงสุดที่ 67 km/h สามารถทำการยิงอัตโนมัติได้ มีอัตรา อยู่ที่ 6-8 นัดต่อนาที ทำให้จัดอยู่ในปืนใหญ่ระดับท็อปของโลก
ปัจจุบันกองทัพบกเกาหลีได้ว่าจ้างให้ผู้ผลิต ผลิต K9 และ K10 ไปจนถึงปี 2012 และปัจจุบัน k9 ได้ถูฏส่งออกไปยังประเทศอื่นแล้ว โดยประเทศแรกคือ ตุรกีในปี 2004 ซึ่งต่อมา ตุรกี ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตเอง ซึ่งมีเป้าหมายที่ 300 กระบอกในปี 2011 ซึ่งปัจจุบัน k9 มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดปืนใหญ่ ของโลกอยู่ที่ 21.76%
เมื่อวันที่ 23 พย.ที่ เกาหลีใต้โดนโจมตีที่เกาะยอนเปียง k9 ที่ประจำที่เกาะ ยอนเปียงได้ยิงตอบโต้ไปเช่นกัน
เพื่อนๆ คิดยังไงตัวนี้มั่งครับ หุหุ
Credit >>ที่นี่ครับ<<
ส่วนแบ่ง 21% คิดจากไหนครับ
มันคือ M-109 เวอรชั่นเกาหลี ที่ใช้ระบบอำนวยการรบ, ระบบควบคุมการยิงพัฒนาเองของ SAMSUNG ครับ ซึ่งเร็วกว่า รุ่นใหม่กว่า Paladin
แต่ระยะยิง อัตราความเร็วในการยิง ไม่ได้แตกต่างจาก M-109 เลยครับ
ผมรอโครงการร่วมทุนรับจ้างผลิต BTR-3E1 กับยูเครนก่อนครับ ถ้าดีลนั้นทำได้และประสบความสำเร็จด้วยดี การจะก๊อปปี้ M-109 แล้วมาพัฒนาต่อยอดเองก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ เพราะมีโรงงานผลิตเองแล้ว ถ้าจะซื้อขากเกาหลีใต้ รอสิ่งที่ผมบอกดีกว่าครับ เพราะ K-9 ก็ทันสมัยกว่า M-109 แค่เครื่องยนต์และระบบควบคุมการยิงเท่านั้น ก็ถ้าโครงการนั้นทำได้ เราผลิต M-109 ก๊อปปี้ได้ก็เท่ากับว่าเราสามารถผลิตรถคุณภาพใกล้เคียงเกาหลีใต้ได้ในราคาที่ย่อมเยากว่า
แต่ถ้าจะซื้อของใหม่นำเข้าแบบหรูๆ สู้ระบบอัตราจรรุ่นใหม่ๆที่ทั้งอเมริกาและยุโรปเข็นออกมาไม่ได้แน่ๆ เอาแบบหรูไปเลยสัก 1-2 กองร้อย เอามาก๊อปปี้ครับ ก๊อปสถานเดียว
เห็นด้วยทุกอย่าง กับท่าน neosiamese2
ชั่วโมงนี้ ไทยเราต้องการบริษัทที่เข้ามาร่วมทุนผลิตเท่านั้น ที่เราจะซื้ออาวุธของเจ้านั้น
ปัจจุบัน มีหลายประเทศเป็นผู้ผลิต การแข่งขันก็สูงขึ้น ต่างจากอดีตที่ผู้ซื้อไม่มีโอกาศต่อรอง
ถ้าเกาหลีใต้อยากขายรถถัง ก็ต้องรับข้อเสนอการร่วมทุนผลิตกับไทย เหมือนที่รัสเซียจะทำ
เพราะ บ้านเราเป็นเมืองร้อน เกาหลีเป็นเมืองหนาว ภูมิประเทศก็แตกต่างกันชัดเจน
เราต้องการให้มาผลิตที่ไทยเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพบ้านเรา..
อย่างเรือดำน้ำก็เหมือนกัน ดูจากหลายๆความเห็นว่าให้ร่วมทุนกับสวีเดนให้มาต่อเรือดำน้ำที่ไทย
.. ทุกประเทศ ต้องการองค์ความรู้ด้านการผลิตอาวุธครับ ไม่มีใครนอนรอเป็นแค่ผู้ใช้ไปตลอดชาติหรอกครับ
พักหลังอาวุธที่ผลิตในเกาหลีใต้นี่ ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อมากเท่าใด เพราะโฆษณาซะเก่งกาจโอเวอร์ฮีทเกินเหตุ ทั้งๆที่พื้นฐานก็ไม่ได้ต่างจากอาวุธในรุ่นเดียวกันเท่าใด ซึ่งของตรุกรีเขาก็ว่าt-155 ของเขาก็มีดีไม่แพ้ชาติใดเหมือนกัน
เดี๋ยวนี้น้อยชาติจะพัฒนาโดดๆครับยกเว้นอเมริากและรัสเซีย จีน ที่เหลือเป็นการจับมือรวมเอาข้อดีของแต่ล่ะชาติมารวมกัน เช่นอินเดียพัฒนาปืนใหญ่อัตราจรโดยตัวปืนได้รับความร่วมมือจากแอฟริกาใต้ เยอรมันพัฒนาปืนโดยร่วมกับกระสุนของสวีเดนและฝรั่งเศส
อย่างไทยเราหากจะพัฒนาปืนใหญ่เอง ไปหาตัวรถจากเยอรมันหรือยูเครน ส่วนปืนไปหาจากอิสราเอลหรือแอฟริกาใต้ เรียกว่าเร็วกว่าพัฒนาเองเป็นไปไหนๆเพราะประเทศเหล่านี้มีการพัฒนาอาวุธมาก่อน ร่นเวลาลงไปได้เยอะเลยนั้นเอง ซึ่งในจุดนี้ที่เราทำได้คือการประกอบระดับโรงงาน ก่อนพัฒนามาเรื่องการผลิตเหล็กชนิดหล่อกระบอกปืนใหญ่ได้เป็นต้น
เหมือนที่เราืทำอัตราจรล้อยางอยู่ หาตัวรถสำเร็จรูปมาแล้วก็หาปืนกับระบบอำนวยการรบที่มีให้เลือกทำเองหรือสำเร็จรูปมาใส่ลงไปก็ได้ของดีๆมาประจำการแล้ว
ลายพรางเหมือนกันเด๊ะเลย
แล้วมีโอกาสแค่ไหนนะครับที่ไทยจะเริ่มซื้อปืนใหญ่อัตราจรที่บรรจุกระสุนเองอัตโนมัติครับ หรือว่าตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นครับ
ส่วนตัวผมอยากให้โครงการปืนใหญ่อัตาจรที่กองทัพบกวิจัยอยู่ได้ทำการผลิตจริงจังก่อนครับ หากจะให้ผลิตเองในประเทศ ส่วนปืนใหญ่อัตาจรที่ตั้งบนแคร่ตินตะขาบลักษณะนั้น่าจะยังไม่พร้อมในเรื่องตัวรถที่จะผลิตในประเทศไทยเพราะเรายังไม่มีพื้นฐานทำรถแบบนี้ ต่างจากเกาหลีที่มีประสปการณ์ในการผลิตรถถังมาและหลายๆเทคโนโลยีก็เป็นการพัฒนาของเขาเอง นอกเสียจากว่าเราซื้อมาแล้วตกลงร่วมผลิตชิ้นส่วนประกอบบางชิ้นในประเทศครับแล้วเรียนรู้เทคโนโลยีไปเรื่อยจนพอมีขีดความสามารถในการผลิตแล้วค่อยลงมือประกอบในประเทศโดยให้เขาร่วมลงทุนกับเราด้วยครับ
พอดีแว้วๆมาว่าเราแอบไปดูโสมขาวมา
ผลิตจรวดหลายลำกล้องน่าจะคุ้มเเละง่ายกว่านะครับ