หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ข่าวใหญ่ แผนสหรัฐฯ ส่งฝูงบิน B-1 คุมทะเลจีนใต้

โดยคุณ : Zicmainter เมื่อวันที่ : 29/07/2012 16:25:10

ข่าวใหญ่ แผนสหรัฐฯ ส่งฝูงบิน B-1 คุมทะเลจีนใต้


เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer กำลังลงจอดที่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ในภาพแฟ้มที่ไม่ได้ระบุวันถ่ายบริษัทร็อคเวล (เป็นส่วนหนึ่งของโบอิ้งในปัจจุบัน) สื่อในสหรัฐฯ รายงานว่ากองทัพอากาศสหรัฐมีแผนการจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ทัน สมัยที่สุดในโลกรุ่นนี้ประจำการที่เกาะกวมในแปซิฟิก เพื่อคุมสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ สื่อทั้งในจีนและเวียดนามติดตามข่าวนี้กันอย่างตื่นเต้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- การกลับคืนสู่เอเชียของสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่จะมีการเคลื่อนเรือรบราว 60% เข้ามาเท่านั้นหากยังเป็นการกลับมาพร้อมขีดหมายสำคัญใหม่ๆ จำนวนมาก และ ครั้งนี้กองทัพอากาศกำลังจะเข้าไปมีบทบาทสำคัญอีกครั้งหนึ่งเช่นเมื่อครั้ง สงครามในเวียดนาม เพียงแต่ครั้งนี้ภารกิจต่างกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีแผนการจะให้ฝูงบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ B-1B “Lancer” หันหน้าเข้าทะเลจีนใต้ด้วย


       สื่อหลายสำนักทั้งของจีนและเวียดนามต่างรายงานข่าวความเคลื่อนไหวนี้ อย่างครึกโครมในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างรายงานของยูเอสเอทูเดย์ (USA Today) หนังสือพิมพ์รายวันที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในสหรัฐฯ
       
       ต่างไปจากสงครามเวียดนามที่สหรัฐฯ ใช้ไทยกับฟิลิปปินส์เป็นฐานทัพหลักของเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ B-52 ในภารกิจโจมตีทิ้งระเบิดตัดเส้นทางลำเลียงขนส่งของฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหนือที่มุ่งลงสู่ภาคใต้ แต่คราวนี้ B-1B "แลนเซอร์" จะใช้ฐานทัพที่เกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นศูนย์ปฏิบัติการ
       
       นี่คือเครื่องบินทิ้งระเบิดคนละยุคสมัยกับ B-52 และไม่อาจจะเทียบกันได้ทั้งในด้านสมรรถนะ รัศมีปฏิบัติการและความสามารถในการโจมตีทำลายฝ่ายข้าศึก รวมทั้งภารกิจแตกต่างกันอีกด้วย
       
       สหรัฐฯ ยังไม่ได้ประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่ยูเอสเอทูเดย์กล่าวว่า B-1B อาจจะเข้าไปมีบทบาทสำคัญในทะเลจีนใต้ น่านน้ำแห่งความขัดแย้ง และ "จุดเดือด" แห่งล่าสุดในแผนที่โลก ซึ่งในกรณีที่เกิดสงครามที่สหรัฐฯ กับพันธมิตรถูกข่มขู่ เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุด
       
       ในสงครามอิรักและอัฟกานิสถานสหรัฐฯ ใช้ทหารบกกับกำลังนาวิกโยธินเป็นกำลังปฏิบัติการหลัก โดยมีเรือรบของกองทัพเรือในอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดียสนับสนุนการโจม ตีทางอากาศ แต่ในย่านทะเลจีนใต้กองทัพอากาศจะเข้าไปมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุนกองทัพเรือ
       
       สหรัฐฯ ยังไม่ได้ประกาศว่า B-1B จะเข้าไปมีบทบาทอย่างไรบ้าง แต่นักวิเคราะห์ของจีนมองล่วงหน้าไปไกลแล้ว
       
       "ต่อไปนี้ภารกิจของเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-1 จะไม่ใช่เขตภูเขาในอัฟกานิสถานอีกแล้ว หากเป็นเป้าหมายจีนทั้งในทะเลและแผ่นดินใหญ่" นักวิเคราะห์คนหนึ่งของสื่อกลาโหม ChinaDefence.Com กล่าว ทั้งยังชี้ให้เห็นว่า บี-1 เป็นภัยข่มขู่ใหญ่โตที่สุดสำหรับกองเรือพิฆาตและเรือบรรทุกเครื่องบินจีนใน อนาคต
       
       การเปิดเผยเรื่องนี้มีขึ้นในช่วงที่การเผชิญหน้าระหว่างจีนกับ ฟิลิปปินส์ตึงเครียดหนัก และถ้าหากเกิดการต่อสู้รุนแรงทางเรือระหว่างสองประเทศ ก็อาจจะเลี่ยงไม่พ้นที่สหรัฐฯ จะเข้าแทรกแซงโดยตรง ตามสนธิสัญญาพันธไมตรีที่เซ็นกับฟิลิปปินส์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
       เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B กำลังจะเข้าสนับสนุนภารกิจของกองทัพเรือที่ 7 ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อพิทักษ์คาบสมุทรเกาหลี และ รักษาเส้นทางเดินเรือเสรีทะเลจีนใต้ ในบรรดา 6 หรือ 7 ภารกิจ
       
       นักวิเคราะห์กลาโหมจีนได้เรียกร้องให้ทางการคอมมิวนิสต์ต้องคิดค้น พัฒนาอาวุธต่อสู้อากาศยานที่ประสิทธิภาพสูงสามารถรับมือกับ B-1B ที่บินในความเร็วสูงกว่า 1,400 กม.ต่อชั่วโมง เพื่อป้องกันเรือพิฆาตกับเรือบรรทุกเครื่องบินในอนาคต

 

 
                                                     ที่ฐานทัพอากาศโคโลราโด

                                  ในงาน Avalon Airshow 2011

 

                                                               ปฏิบัติการปูพรม

 เครื่องบิน B-1B บรรทุกอาวุธต่างๆ ได้น้ำหนักรวมเกือบ 4 ตัน มากที่สุดในบรรดาเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สหรัฐฯ เคยประดิษฐ์คิดค้นนำเข้าประจำการ นอกจากนั้นยังปฏิบัติการได้ทั้งในเพดานบินต่ำและสูงมากด้วยความเร็วเกือบ 3 เท่าเสียง มีระบบป้องกันตัวเองรอบด้าน
       
       แม้จะมีขนาดใหญ่โตมหึมา แต่ B-1B ใช้คนประจำบนเครื่องเพียง 4 คน เป็นนักบินกับผู้ช่วย ช่างเทคนิคกับเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบอาวุธ ปฏิบัติการอย่างเป็นอิสระ ในทุกสภาพอากาศ ไปได้ในทุกที่และทุกเวลา ไม่ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือใดๆ จากภาคพื้นดิน ไม่ต้องเติมน้ำมันกลางหาว
       
       ปัจจุบัน B-1B เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติการระยะไกลของกองทัพอากาศ สามารถบินไป "หย่อน" ทั้งอาวุธนำวิถี ทั้งอาวุธที่ควบคุมความแม่นย้ำ และอาวุธทั่วไป ได้ในทุกหนแห่งทั่วโลก
       
       นักวิเคราะห์ของจีนกล่าวอีกว่า B-1B สามารถใช้เกาะกวมเป็นฐานในการปฏิบัติการทั่วเอเชียแปซิฟิกได้ ปัจจุบันยังสามารถติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางได้ แต่อาวุธทางยุทธวิธีที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าก็คือ AGM-158A JASSM ขีปนาวุธสำหรับโจมตีเป้าหมายทั้งบนบกและทางทะเล
       
       ตามข้อมูลของเว็บไซต์ข่าวกลาโหม ขีปนาวุธ AGM-158A เป็นจรวดร่อนแบบ "สเตลธ์" ติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่อต้านการรบกวนโดยเรดาร์ มีระบบนำทางด้วยอิฟราเรด ยากแก่การตรวจจับ เป็นอาวุธก้าวหน้าล้ำยุคมากที่สุดอีกชนิดหนึ่ง
       
       ทันทีที่ปล่อยออกไปจรวดจะทำจะงานอย่างเป็นอิสระตามโปรแกรมที่ตั้ง ล่วงหน้า มันจะกางปีเล็กทั้งสองข้างออกโดยอัตโนมัติ และมีแพนหาง เช่นเดียวกับเครื่องบิน สำหรับควบคุมการ "ร่อน" ด้วยความเร็วสูง
       
       เมื่อเข้าใกล้เป้าหมาย จรวดจะวิ่งเข้าหาด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “การเลือกอย่างสุขุม” (Standoff Missile) ก่อนพุ่งเข้าใส่ในตำแหน่งเหมาะที่สุด เพื่อการทำลายที่ได้ผลสูงสุดด้วยหัวรบบรรจุวัตถุระเบิดเข้มข้นแบบ WDU-42/B น้ำหนัก 1,000 ปอนด์ (450 กก.)
       
       ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก เคยมีการนำภาพ "สมาร์ตมิสไซล์" ชนิดหนึ่งออกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ผู้ชมทั่วโลกรู้สึกทึ่งที่มันสามารถร่อนเข้าทางหน้าต่างเพื่อทำลายอาคารทั้ง หลังจากภายใน หรือ วิ่งเข้าปากถ้ำเพื่อระเบิดปากทางเข้า และนั่นก็คือขีปนาวุธ AGM-158A ที่โลกได้รู้จักเป็นครั้งแรก
       
       ปัจจุบัน AGA-158A ติดตั้งในเครื่องบินรบหลายรุ่น รวมทั้งในตระกูล F-18 "ฮอร์เน็ต" และ “ซูเปอร์ฮอร์เน็ต” บนเรือบรรทุกเครื่องบิน และ F-35 "ไล้ต์นิง” เครื่องบินรบยุคที่ 5 "สเตลธ์" ก้าวหน้าที่สุดของค่ายสหรัฐฯ ในขณะนี้ แต่ B-1B ติดขีปนาวุธชนิดนี้ถึง 24 ลูกเป็นมาตรฐาน มากพอสำหรับทำลายเรือรบทั้งกองในทะเลจีนใต้
       
       นอกจากนั้นตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมาสหรัฐฯ ยังได้พัฒนาให้มีสมรรถนะสูงยิ่งขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ขับเคลื่อน กลายเป็น AGM-158B เพิ่มระยะปฏิบัติการขึ้นเป็น 600 ไมล์ หรือ 1,000 กม. และ ในปัจจุบันกองทัพอากาศสหรัฐฯ มี B-1B ประจำการถึง 60 ลำ โดยยังไม่ต้องพูดถึง B-2 กับ B-52.

                                AGM-158A จรวดร่อน "สเตลธ์" มฤตยูจากห้วงหาว

                                จรวดร่อนโทมาฮอว์ค มฤตยูจากท้องทะเล

 

ที่มา : http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000089887





ความคิดเห็นที่ 1


เรื่องน้ำหนักบรรทุกสงสัยพิมพ์ตก

โดยคุณ Banyat เมื่อวันที่ 22/07/2012 15:41:51


ความคิดเห็นที่ 2


ความโลภของคนไม่สิ้นสุดจริงๆ

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 22/07/2012 17:42:25


ความคิดเห็นที่ 3


ข่าวใหญ่ที่ไหนกัน คนเขียนข่าวคงไม่รู้ว่า ที่กวมมี B2 ประจำการอยู่แล้ว การเอา B1 ไปประจำการก็เป็นไปได้สองอย่าง

คือสับเปลี่ยนกำลังพล หรือ เสริมกำลังพล ต้องรอดูก่อนว่าจะเอา B2 ไปไว้ไหน

เพราะถ้าเทียบกันแล้าระหว่าง B1 กับ B2 ผมว่า B2 น่ากลัวกว่า จะอยู่จะไปไม่มีใครรู้ใครเห็น แต่ B1 ยังพอมองเห็นกัน

ได้อยู่ 

โดยคุณ viggen เมื่อวันที่ 22/07/2012 18:04:41


ความคิดเห็นที่ 4


สำนักข่าวนี่  เขียนข่าวเวอร์ประจำ 

 

รัสเซียก็มี TU 160 เผลอๆเจ๋งกว่าด้วยซ้ำ ออกข่าวซะเหมือนกับไม่มีใครสู้ได้ 

โดยคุณ end เมื่อวันที่ 22/07/2012 18:53:48


ความคิดเห็นที่ 5


อเมริกาย้ายกำลังจากโอกินาว่าไปกวม ส่วนหนึ่งอ้างว่าเป็นการลดแรงกดดันจากคนญี่ปุ่น อีกส่วนน่าจะมาคุมเชิงแถบทะเลจีนใต้ ด้วยมั้งก็ว่ากันไปครับ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 22/07/2012 21:34:44


ความคิดเห็นที่ 6


ผมว่า B-1 มาอยู่ที่กวมนานแล้วนะ  ทีม ทร.ที่เอา บ.F-27  2 ลำบินไปยิงอาวุธปล่อยนำวิถี ฮาร์พูนกับสหรัฐฯที่เกาะกวมเมื่อปี2547 เห็นด้วยตาตัวเอง มันแท๊กซี่ผ่านหน้าโรงเก็บ บ.ที่เป็นที่ทำพิธีเปิด -ปิดการฝึก เสียงดังสนั่น(ดังมากจริงๆ) พอมีคนยกกล้องจะถ่าย ทหารอเมริกันร้องห้ามกันใหญ่ บอกว่าอย่าให้เขาเดือดร้อนไปด้วยนะ  ที่กวมยังมี B-52 อีกหลายลำจอดอยู่ เป็นไปได้ว่าตอนนั้นเพิ่งขยายสนามบินอาจเพิ่งเอาไปทดสอบการใช้งานที่นั่น  แต่นี่มันหลายปีมาแล้วนะครับ เขาน่าจะเอาไปประจำการอยู่นานแล้ว เพิ่งออกข่าวหรือเปล่า เรือดำน้ำนิวเคลียร์ก็มีจอดอยู่ พวกเรายังได้มีโอกาสลงไปเยี่ยมชมที่ท่า ต่อไปกวมน่าจะเป็นฐานทัพที่มีความสำคัญมาก เพราะใช้ที่ฟิลิปปินส์ไม่ได้แล้ว ที่สิงคโปร์ก็มีแค่ส่งกำลังบำรุง และจอดเรือชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

โดยคุณ sboot เมื่อวันที่ 22/07/2012 22:35:59


ความคิดเห็นที่ 7


ผมคิดว่า .. อเมริกา ระแวงจีนมากเกินไป  การแสดงตัวต่อต้านจีนแบบนี้ไม่ดีเลย

ศัตรูตัวหลักของอเมริกา ไม่ใช่จีน .. แต่ เป็นประเทศในตะวันออกกลางหลายๆประเทศ

อย่าง อิหร่าน  หรือ ปากีสถาน หรือ อัฟกานิสถาน นี่เขาประกาศเลย ว่าจะโจมตีอเมริกาทุกรูปแบบ

ถ้าเมื่อไหร่ ประเทศเหล่านี้ มีหัวรบนิวเคลียร์พิสัยไกล อเมริกาก็จะโดนส่องทันที

.. ผมไม่เคยเห็น คนจีนไปก่อการร้ายในอเมริกา ทั้งๆที่คนจีนในอเมริกามีเป็นล้านคน

ถ้า อเมริกาฉลาดกว่านี้ซักนิด ยอมจับมือเป็นพันธมิตรกับจีน ผลมันจะออกมาอีกแบบ

.. แต่ คงเป็นไปได้ยาก เพราะอเมริกา คลั่งประชาธิปไตย ส่วนจีนเป็นคอมมิวนิสต์ แตกต่างกันสุดขั้ว

ว่าแต่ .. เครื่องบิน B-1B นี่นอกจากจะลำใหญ่มากๆ ยังความเร็วสูงอีกต่างหาก

สวีเดน น่าจะเอา กริพเพน ไปขยายขนาดให้ใหญ่แบบนี้ ติด 4 เครื่องยนต์ คุณภาพคงไกล้เคียงกัน

แล้วเราก็ ซื้อมาซัก 2 ลำ   ..  

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 23/07/2012 19:20:56


ความคิดเห็นที่ 8


ทะเลเดือดอีกครั้ง

โดยคุณ Nora_033 เมื่อวันที่ 29/07/2012 16:25:10