หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ข่าว GT200

โดยคุณ : f18-superhornet เมื่อวันที่ : 25/07/2012 02:34:13

จีที 200

บทบรรณาธิการ ข่าวสด

  สำนัก ข่าว บีบีซีŽ รายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตำรวจอังกฤษนำตัวนายจิม แม็กคอร์มิก นักธุรกิจวัย 55 ปี เจ้าของบริษัทเอทีเอสซี (ATSC) ขึ้นศาลด้วยข้อหาฉ้อโกง

  หลังผลการสืบสวนพบว่า อุปกรณ์ตรวจระเบิด รุ่น เอดีอี 651Ž หรือที่รู้จักในชื่อ จีที 200Ž ซึ่งบริษัทเอทีเอสซีส่งออกไปขายยังประเทศต่างๆ กว่า 20 ชาติ ตรวจจับวัตถุระเบิดไม่ได้จริงตามที่กล่าวอ้าง

  ทั้งนี้ผู้ผลิตจีที 200 อ้างว่าเครื่องมือดังกล่าวสามารถตรวจจับวัตถุที่ต้องการค้นหา ไม่ว่าจะเป็นระเบิด กระสุนปืน ยาเสพติด หรือแม้กระทั่งงาช้าง ด้วยสนามแม่เหล็ก

  และไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ เพราะใช้พลังงานจากไฟฟ้าสถิตในร่างกายมนุษย์แทน


  นประเทศไทย คำโฆษณาข้างต้นตรงข้ามกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างสิ้นเชิง

  โดยในการพิสูจน์ของผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะพบว่า เครื่องจีที 200 ตรวจหาระเบิดได้ถูกต้องเพียง 4 ใน 20 ครั้ง หรือเท่ากับการเดาสุ่มเท่านั้น

  ไม่สอดคล้องอย่างยิ่งกับราคาขายที่สูงถึงเครื่องละประมาณ 500,000-1,000,000 บาท และในกองทัพไทยมีการจัดซื้อมาใช้อย่างต่ำ 757 เครื่อง ยังไม่นับที่จัดซื้อมาใช้ในหน่วยงานอื่นๆ

  คำถามก็คือเมื่อการ ลวงโลกŽ ของเครื่องมือดังกล่าวถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ โดยหน่วยงานของประเทศที่เป็นต้นตอผู้ผลิตเอง

  รัฐบาลหรือทางการไทยจะมีท่าทีอย่างไรต่อเรื่องดังกล่าว


  ระเด็นแรก จะยังคงใช้เครื่องมือดังกล่าวในการตรวจจับสิ่งผิดกฎหมายหรือวัตถุระเบิดต่อไปอีกหรือไม่

  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของวัตถุระเบิดซึ่งหากเกิดความผิดพลาดแล้ว ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับชีวิตทั้งของประชาชนและเจ้าหน้าที่

  ประเด็นต่อมา เมื่อหน่วยงานต่างประเทศจับกุมผู้ผลิตในข้อหาหลอกลวงต้มตุ๋น ทางการไทยจะดำเนินการอย่างไรกับการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องมือดังกล่าว ที่มีผู้ทักท้วงเอาไว้แต่ต้น แต่ก็ยังดึงดันจะจัดซื้อกันจงได้

  เพราะเงินที่ใช้จัดซื้อไปนั้นไม่ใช่เงินส่วนตัวของใคร แต่เป็นเงินภาษีอากรประชาชน

  ที่ผู้ดูแลจะทำเป็นนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้



 

Share 











ความคิดเห็นที่ 1


อยากทราบว่าปัจจุบันยังมีการใช้งาน GT200 ในประเทศไทย หรือไม่ ?????

 

 

เรื่องเก่าๆ แต่อ่านทีไร ยังรู้สึกแย่ๆทุกที  ที่เอามาโพสน์เพราะอยากเน้นย้ำ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อยๆ

 

ที่มา สำนักข่าวผู้จัดการ

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเรียก 13 หน่วยงาน รวมทั้งกองทัพ ที่จัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 และ ALFA 6 เข้าชี้แจงหลังสรุปผลสอบพบไม่สามารถตรวจวัตถุระเบิดได้จริง จัดซื้อของไม่ได้คุณภาพ ราคาแพงเกินจริงว่า เรื่องนี้ก็ต้องว่ากันไป ซึ่งเป็นเรื่องของดีเอสไอ เราคงไปห้ามเข้าไม่ได้
       
       อย่างไรก็ตาม เครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ที่เคยใช้ในพื้นที่ภาคใต้นั้น อย่าพูดว่าใช้งานไม่ได้ ตนบอกว่ามันใช้ได้ และที่ผ่านมาก็สามารถตรวจพบวัตถุระเบิดหลายครั้ง เจอระเบิดหนึ่งครั้งก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าเครื่อง GT200 สามารถใช้งานได้จริง และมีข้อพิสูจน์แล้ว ส่วนที่ทางดีเอสไอระบุว่าใช้งานไม่ได้นั้น ขอให้ถามผู้ที่ใช้งานบ้าง ที่ผ่านมาหากของใช้งานไม่ได้จริง ตนอยากถามว่าแล้วใครจะจัดซื้อ เมื่อจัดซื้อมาแล้วก็ไม่มีใครว่า เราก็มั่นใจว่าสามารถใช้งานหาวัตถุระเบิดได้ อีกทั้งกลุ่มผู้ไม่หวังดีในขณะนั้นรู้สึกกลัว ต้องให้เครดิตกันด้วย
       
       “อย่านำผลในวันนี้มาคิดย้อนหลัง เวลานั้นซื้อมาเขาจะรู้หรือไม่ว่าใช้งานไม่ได้จริง เพราะฉะนั้นต้องดูเหตุการณ์ในเวลานั้นด้วย ขณะนี้อะไรที่ใช้ได้ก็ใช้ไป ทั้งนี้หน่วยงานแรกที่ใช้คือกองทัพอากาศ โดยนำมาให้ทดลองใช้ ซึ่งผมก็จำได้ว่าทางกองทัพอากาศเคยนำไปโชว์ให้ผู้นำเหล่าทัพในสมัยนั้นดู ระหว่างในการประชุมเหล่าทัพ ที่กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ ในสมัยที่ผมเป็นเสนาธิการกองทัพอากาศ แต่มันคงไม่ 100 ทั้ง 100 เมื่อผู้ใช้พอใจจึงดำเนินการจัดซื้อมาใช้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาในการตรวจวัตถุระเบิดก็พบเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้ เราก็ต้องรับฟังว่าหลอกลวงหรือไม่ ที่ผ่านมาจากการทำงานเมื่อถามหน่วยที่นำไปใช้ปฏิบัติก็ระบุว่าสามารถใช้งาน ได้จริง ที่บอกว่ามันเป็นของไม่ดี และไม่ใช่ของจริง แต่ที่ผ่านมาเครื่อง GT200 สามารถนำมาใช้งานได้ เราก็ต้องเข้าใจ”
       
       ส่วนจะมีการดำเนินการตรวจสอบเรื่องราคาที่แต่ละหน่วยงานซื้อมาในราคา ที่ไม่เท่ากันหรือไม่นั้น พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ต้องมีเหตุผลว่าทำไมถึงซื้อมาในราคาที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องของการสอบสวน ตนไม่ขอเกี่ยวข้อง ในส่วน ป.ป.ช.ก็ดำเนินการตรวจสอบไป
       
       เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบจากทางหน่วยหรือไม่ว่าขณะนี้เครื่องตรวจ วัตถุระเบิด GT200 สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนได้ให้แนวทางว่าหากเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 สามารถใช้งานได้ โดยผู้ที่ใช้งานมีความมั่นใจ หากไม่มั่นใจเขาคงไม่นำมาใช้งาน เพราะเราไม่ได้บังคับให้เขาใช้ แต่พอมีเรื่องเกิดขึ้นเขาก็ไม่นำมาใช้งานแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้ไม่ใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 แล้วจะนำอะไรมาใช้แทนนั้น รมว.กลาโหมกล่าวว่า เครื่องมือที่จะนำมาทดแทนนั้น ทางกระทรวงกลาโหมก็ดูอยู่ตลอดเวลาและตนก็หาอยู่เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
       
       “เรื่องนี้เท่าที่ทราบมันก็แปลกอยู่อย่างหนึ่งว่า เครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 สามารถหาระเบิดที่อยู่ในระยะไกลได้ แต่ในส่วนที่อยู่ใกล้ก็มี แต่ถ้าเป็นพื้นที่ใหญ่ๆ กว้างๆ คงต้องใช้เวลานาน ไม่ใช่ว่าใช้ 100 ครั้งแล้วไม่ได้ผลทั้ง 100 ครั้ง คงไม่มีใครซื้อมาหรอก เพราะเราลองด้วยตัวของเราเองและมันก็สามารถใช้งานได้ สุดท้ายมาบอกว่าไม่สามารถใช้งานได้ก็ไม่ต้องใช้แล้ว”

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก panorama.am, blogspot.com

          จับเจ้าของบริษัทขาย จีที 200 หลังใช้ตรวจระเบิดไม่ได้จริง ด้าน ประยุทธ์ ยัน กองทัพสั่งซื้อมาใช้งาน เพราะใช้ได้ผล ยังใช้งานได้อยู่ หากทดสอบแล้วใช้ไม่ได้ ก็ต้องหาเครื่องมืออื่นมาให้ใช้แทน

          เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ผู้ผลิตเครื่องตรวจจับระเบิด จีที 200 ถูกตำรวจอังกฤษจับกุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวง เพราะเครื่องตรวจจับระเบิด จีที 200 นั้นไม่สามารถตรวจจับระเบิดได้จริง

          รายงานระบุว่า ผู้ผลิตเครื่องตรวจจับระเบิดรายนี้ คือ นายจิม แม็คคอร์มิค วัย 55 ปี เจ้าของบริษัท ATSC ผู้ผลิตอุปกรณ์ จีที 200 ที่อ้างว่าสามารถตรวจจับวัตถุระเบิดได้ โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้มีการส่งออกเครื่องจีที 200 ไปยังประเทศต่าง ๆ กว่า 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงอิรัก อัฟกานิสถาน และไทย แต่หลังจากที่หลายประเทศได้สั่งเครื่อง จีที 200 เข้าไปใช้ ปรากฎว่าทางการหลายประเทศได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเครื่องจีที 200 เป็นเครื่องตรวจจับระเบิดลวงโลก เพราะมันไม่สามารถตรวจจับระเบิดได้จริง ขณะที่ทางอังกฤษเองก็ได้มีการเปิดโปงอุปกรณ์ลวงโลกชิ้นนี้ไปเมื่อปี 2553 ซึ่งนับตั้งแต่นั้น ทางการอังกฤษก็ได้สั่งระงับการส่งออกเครื่องจีที 200 สู่อิรักและอัฟกานิสถาน ก่อนจะร่วมมือกับตำรวจนานาชาติในการรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดนายจิม และในที่สุดก็ได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวงให้กับนายจิมดังกล่าว ซึ่งนายจิมก็ได้มาขึ้นศาลในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ด้านโฆษกตำรวจเมืองซัมเมอร์เซ็ต ได้กล่าวว่า นายจิมถูกตั้งข้อหาถึง 6 กระทงด้วยกัน ทั้งผลิตอุปกรณ์ปลอม และหลอกลวงผู้บริโภค

          ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา อุปกรณ์ตรวจจับระเบิด จีที 200 ได้ถูกส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอิรัก ที่ทางการเสียงบประมาณไปกว่า 3 พันล้านบาทในการสั่งซื้อจีที 200 เข้าไปใช้งานในกรุงแบกแดด ก่อนจะพบว่าภายในตัวเครื่องจีที 200 นี้ ไม่มีกลไกใด ๆ เลย

          เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ได้สั่งนำเข้าเครื่องตรวจจับระเบิด จีที 200 ในปี 2552 เพื่อใช้งานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่แล้วหลังจากที่มีการตรวจสอบพบว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ที่ไร้ประสิทธิภาพ เพราะสามารถตรวจหาวัตถุระเบิดซีโฟร์ได้ถูกต้องเพียง 4 ครั้ง จาก 20 ครั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในตอนนั้น ก็ได้มีการยกเลิกการจัดซื้อ จีที 200 เพิ่มเติม ขณะที่ประเด็นเรื่องประสิทธิภาพของอุปกรณ์ดังกล่าว ก็ได้กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ที่ใคร ๆ ก็ออกมาพูดถึงกันหนาหูมากในขณะนั้น

          ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (13 กรกฎาคม) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ออกมากล่าวถึงกรณีนี้ ว่า เป็นเรื่องที่ทางต่างประเทศต้องว่ากันไป ไม่ควรเอาเรื่องเก่ามาปนกับเรื่องใหม่ ส่วนจะฟ้องร้องบริษัทที่ขายจีที 200 ให้หรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของรัฐบาล

          อย่าง ไรก็ตามได้ม พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาทุกเหล่าทัพของกองทัพไทยใช้จีที 200 เพราะทดสอบแล้วว่าใช้ตรวจสอบวัตถุระเบิดได้ผลจริง และสมัยนั้นก็เป็นเครื่องมือเดียวที่ใช้งานได้อยู่ กองทัพไม่มีเจตนาไปซื้อของที่ใช้ไม่า และก็ไม่ได้มาแก้ตัวแทนบริษัท เพราะผิดก็คือผิด หากไม่ดีก็ต้องไปทดสอบกัน ทั้งนี้ หากพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า ใช้ไม่ได้ก็คือไม่ได้ เรื่องนี้ก็จบได้ หากทดสอบแล้วใช้ไม่ได้ก็ต้องไปหาอย่างอื่นมาให้ใช้ แต่วันนี้ยังไม่มีอะไรมาให้ใช้เลย กำลังพลก็ไม่มีความปลอดภัย



โดยคุณ f18-superhornet เมื่อวันที่ 21/07/2012 09:04:31


ความคิดเห็นที่ 2


กลัวจะพาเข้าเรื่องการเมืองอีกแล้วน่ะสิครับ เว็บเราเคยถึงกับต้องปิดการแสดงความเห็นเรื่องจีที200 และเรือเหาะไปเลยทีเดียว

ได้ฟังข่าวอังกฤษก็ดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตจีที200ข้อหาหลอกลวงแล้วครับ

ละไว้ในฐานที่เข้าใจแค่นี้ละครับ ว่าใช้ได้จริงหรือไม่จริง เหอะๆ

อยากให้จัดหาเครื่องมือที่มันใช้ได้จริงๆมาเสียทีครับ อย่างพวกตรวจโลหะอาวุธนี่ใช้ตรวจระเบิดได้ไหมหว่า

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 21/07/2012 17:24:47


ความคิดเห็นที่ 3


ซื้อ ของพลาด จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คนเรามันมีโอกาศทำผิดกันได้ครับรวมถึงกองทัพด้วย แต่ที่น่าขำที่สุดคือมันดันมีคนไม่ยอมออกมารับผิด แถมดันออกมายืนยันว่ามันใช้งานได้จริงประสิทธิภาพตรงตามต้องการอีก ไม่รู้มันเอาอะไรไปคิดน่าขำอะประเทศไทย

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 21/07/2012 18:23:39


ความคิดเห็นที่ 4


GT200 เป็นเครื่องมือตรวจจับที่แม่นยำ 100 %
ตรวจจับคนทุจริต 100%

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 22/07/2012 00:02:42


ความคิดเห็นที่ 5


พูดกับจิ๊กโก๋ อัณฑพาล นี่จะยากอยู่สักหน่อย......................อั๊วะไม่ผิด อั๊วะทำดีแล้ว อั๊วะทำเยี่ยงผู้กล้า ไม่เสียสละทุ่มเทแล้วอย่าเห่า................. เอ๋า.................... งั้นก็ถูกครับ......งถูกก็ถูก ดีแล้ว ออกแสงเปล่งรัศมีเลยครับ................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 23/07/2012 12:52:07


ความคิดเห็นที่ 6


สุวรรณภูมินี่อีกอัน................. มันจะอะไรกันนักหนากับผลประโยช์   จะให้ชาติชิบหายต่่อหน้าต่อตาเพราะความเห็นแก่ตัวเหรอ..................... รันเวย์ยุบห้าเซนต์ยาวแค่ศอก มันทำยังกะสนามบินจะพังทั้งหมด.........................  ได้ยินแว่วๆ จะมีบางสายการบินย้ายมาลงดอนเมืองอีกแล้ว...............................เช็ด.... พูดแล้วจี๊ด........................แล้วดูดอนเมืองซิ  แท็กซี่เวย์ยุบร้าวแตกแหกเป็นเขิบ เห็นกันทุกคน ทั้งวันเด็ก วันผู้ใหญ่ เดินดูกันเห็นกันทุกคน   ทำมัยมันไม่อันตราย วะครับ......................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 23/07/2012 12:59:49


ความคิดเห็นที่ 7


GT200 มันก็ไม่ต่างจากเหล็กงอสองอันที่ใช้หาน้ำบาดาลที่เราก็ผลิตได้ แต่ทำไมไปซื้อมาได้อันละเกือบสองล้าน เหล็กงอสองอันราคาแค่ไม่ถึงร้อยบาท

เรื่องรันเวย์ยุบลึก 5 เซ็นต์ ยาวแค่ศอกถ้าเครื่องร่อนลงแล้วตกหลุมลึก5เซ็นต์ยาวหนึ่งศอก อืม! อาจจะตายยกลำนา สร้างมาได้กี่ปีเองพังซะแล้ว T_T

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 24/07/2012 09:44:29


ความคิดเห็นที่ 8


สนามบินที่ไหนๆก็ชำรุดก็สึกหรอ.............ก็ซ่อม................. แน่ใจมั๊ยหล่ะว่าดอนเมืองไม่ยุบไม่พัง ชางฮี นารีตะ  เครื่องลงวันหลายร้อย ทำมัยจะไม่มีชำรุด....................ง ว่าแต่จะโฟกัสหรือเปล่า  ชำรุดเขาก็ซ่อม   ว่าแต่ไอ้จุดประสงค์ที่จะทำเป็นเรื่องนี่มันคืออะไร.....................จำได้ ตอนใช้งานใหม่ๆ แบบเร่งด่วนไม่มีการเทสต์รัน หลังคา ทางเชื่อมรั่วฝนย้อย  แท้กซี่เวย์ร้าว ............... ก็มันรีบยังไม่เทสต์คอมมิสชั่นนิ่งมันก็ต้องเจอปัยหาเป็นธรรมดา............งแล้วถึงทุกวันนี้เป็นยังไง ก็ใช้ได้ดีแฮปปี้    ............... รันเวย์ยุบห้าเวนต์ยาวศอก   เขาใช้เวลาซ่อมสิบห้านาที จริงอยู่ทำเอาหลายสายการบินไปลงที่อื่น นั่นต้องโทาการบริหารเมนเทนแน้นซ์...........................  ผมว่าไอ้ความอิจฉาตาร้อนนี่ บางทีมันก็นำความขำขันมาสู่ผู้ชมทั่วเวทีเหมือนกันนะ   บ้านเอื้ออาทร สุวรรภูมิ รถไฟฟ้า ย้ายเมืองหลวง  ปราบหวยยาบ้า ล้างมาเฟีย...................ถ้าเป็นผมจะขอเพิ่มอีกข้อ.............จัดสรรแบ่งบันที่ทำกิน ไอ้เศรษฐีคนไหนมันที่เยอะๆ  มา  มาแบ่งคนอื่นเค้ามั่ง.....................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 24/07/2012 13:01:26


ความคิดเห็นที่ 9


ใครอยู่เบื้องหลังการจัดซื้อก็ต้องกลัวความผิด...เป็นธรรมดา.....................

หรือใครไม่กลัว ?..............................................................

สงสัยจริง DSI จะกล้าเปล่า น้า.........           (ชัวร์.....ไม่กล้า....หรอก..)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 25/07/2012 02:07:10


ความคิดเห็นที่ 10


น่าจะจับคนขาย...มาขึ้นศาล  ข้อหาหลอกลวง  ให้เสียทรัพย์

หรือข้อหาฉ่อโกง  ต่อหน่วยงานราชการ  มีวัตถุพยานอยู่หลายร้อยอัน

ความผิดน่าจะพอๆ  กับพวกค้ายาเสบติดรายใหญ่นะครับ ควรลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว

แต่...เอ...ทำไม  ต้องไปปกป้องมันด้วย  (ควรประหารชีวิตดีกว่า  เป็นการฆ่าตัดตอนไปเลย)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 25/07/2012 02:34:13