หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ปตอ.อัตราจร 2012

โดยคุณ : MIG31 เมื่อวันที่ : 12/07/2012 01:58:10

Oto Melara 76mm.-Draco อิตาลี

จัดว่าเป็นปตอ.อัตราจรขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกมาถึงในช่วงสงครามเย็นจะมีปตอ.ZSU-57มม.ของรัสเซียอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีใครผลิตออกมาอีกเลยเนื่องจากอัตราการยิงที่ช้ามาก ซึ่งปตอ.ขนาดใหญ่จะมีประสิทธิภาพสูงแค่ไหน ถ้าเป็นทางเรือนับว่าปกติ เพราะปืนเรือ76-127มม.สามารถยิงเป้าหมายได้ทั้งภาคพื้นและอากาศด้วยอัตราการยิงสูง(ขนาดของรัสเซียAK-130 ลำกล้อง130มม.ยังยิงเป้าหมายทางอากาศได้ถึง15ก.ม.)

อิตาลีจึงพัฒนาปืน76มม. มาเป็นอัตราจรติดตั้งบนยานเกราะ ด้วยการนำปืน76/62 ซึ่งเป็นปืนเรือที่มีชื่อเสียงมากมาติดตั้งบนยานเกราะล้อยางCentruro-8x8 โครงการนี้พัฒนามาตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่1980แล้วล่ะ

อัตราการยิงสูงสุด100นัด/นาที กระสุนพร้อมยิง12นัดด้วยระบบสายพานและมีกระสุนอีก24นัดในแม็กกาซีนบรรจุอัตโนมัติ ระยะยิงทางราบ3ก.ม. เป้าหมายทางอากาศ15ก.ม.ที่ได้จากการกำหนดพิกัดด้วยเรดาห์ พลประจำรถ3นาย

ความน่าสนใจคือคลื่นเรดาห์เกาะติดเป้าหมายของ กาลิเลโอ K-bandและชุดส่งคลื่นวิทยุ เมื่อใช้กับกระสุนปืนDART ที่มีความเร็วลำกล้องสูง เมื่อกระสุนถูกยิงออกไปตัวกระสุนจะมีคอมพิวเตอร์รับคลื่นวิทยุจากตัวป้อมเพื่อปรับวิธีกระสุนเพื่อให้ใกล้เป้าหมายและทำการจุดระเบิดเมื่อกระสุนอยู่ใกล้เป้าหมาย

 

THALES&NEXTER 40มม.CTAS ฝรั่งเศส


คือนำป้อมปืน40มม.CTA อัตราการยิงสูง200นัด/นาที มาติดตั้งบนรถเพื่อใช้คู่กับเรดาห์Ground Master ในภารกิจป้องกันอากาศยานระดับต่ำจำพวกUAVและกระสุนปืนใหญ่ ลูกระเบิด พัฒนาส่งมอบให้ซาอุฯ ซึ่งในชุดยิงจะมีรถเรดาห์ ปืนปตอ. แซมพิสัยใกล้โครตาล-เอ็นจี และแซมระยะไกลแอสเตอร์ เป็นต้น
หลังจากที่ดูไป2รุ่นใหญ่ๆ ปตอ.ไม่ล้าหลังอีกต่อไปเพราะไม่ได้พลปืนควบคุมการยิงแต่เป็นไฟฟ้ามาแทนทำให้ปตอ.สมัยใหม่ราคาไม่ต่างจากแซม ประมาณว่าเหมือนเอาระบบCIWSที่แพงๆบนเรือมาใส่รถ นั้นเอง







ความคิดเห็นที่ 1


จะว่าเป็นรายแรกก็ไม่ค่อยถูกครับ ..................... เยอรมันเคยลองเอา ถ. ลีโอพาร์ดหนึ่ง มาติด ปตอ.หลายแบบด้วยกัน   ออโต้เมลลาร่า สามนิ้วยิงเร็วก็เคยเอามาใส่ครับ....................... เท่าที่สังเกตุ นาโต้ ไม่ค่อยจะใช้พวก ปตอ.อัตาจร สักเท่าไหร่  คงเพราะมั่นใจในการครองอากาศมากๆ ผลของหลักนิยมนี้ ทำให้เห็นวิธีการรบสองแบบ แบบแรกก็คือ ไม่ค่อยมี ปตอ.อัตรจร ไปกับทหารราบ    ข้อที่สอง หลักนิยมการตั้งฐานปืนใหญ่  มีการทำคูค่าย มีปืนหลัปืนรอง รอบในรอบนอก (ฐานพญาตานี ตอนรบกะคอมมูนิต) ซึ่งแบบนี้ ถ้าการครองอากาศไม่ดีจริง กองทหารทั้งกอง หรือ  ฐานปืนใหญ่ทั้งฐาน ก็ละลายได้จากการโจมตีทางอากาศ..................................... ต่างจากหลักนิยมของ วอซอ  เหมือนเค้าจะรู้ว่า การครองอากาศเป็นรอง  ระบบป้องกันภัยอัตจร จะมีใช้มากๆ  ที่สำคัญคือหน่วยอาวุธสนับสนุนขนาดหนัก จะเป็นพวกยิงเร็วหนีเร็ว  ยกตัวอย่างเช่น จรวดเขมร  เราเองก้ได้อานิจสงค์จากการซื้อรถเกราะจีน คือได้ชุดจรวดมาใช้ในหน่วยปืนใหญ่ด้วย..................................................เรามักใช้หลักนิยมการรบตามไอ้กัน  ลูกพี่มีอะไร ลูกน้องก็บ้าเห่อไปด้วย   อย่างตอนนี้ โซเวียต ล่มสลาย  รถเกราะขนาดหนักสิ้นเปลือง ไอ้กันหันมาใช้ล้อยาง   พี่ไทยก็ล้อยางด้วย  ทั้งที่ภัยคุกคามของเราต่างจากไอ้กัน  เมื่อก่อนเป็นไงของเราก็เป็นงั้น................................ นี่เริ่มมาบ้าเห่อ อัตาจรยิงเร็ว  ก็ไปถอย ซีซาร์มานี่.......................คงเอาไว้ดวลกะเขมร(หรืออาจบ้า้ห่อตามมาเลย์) แต่ถ้าเปรียบมวยระหว่าง ซีซาร์ กับ จรวดเขมร ขอบอกเลยว่า เราเป็นรองเค้าห้าขุม  การจะเผด็จศึกฐานยิงได้ ต้องใช้การกดดันทางอากาศ  หรือไม่ก็ต้องเป็นจวดแบบเดียวกัน  .................... ตั้งป้อมแล้วยิงสวนกันคนละสามสิบสี่สิบตับ..............สนั่นหวั่นไหวกัมปนาทเลื่อนลั่นแล้วความอิ๊บอ๋ายก็ตามมา....................


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 25/06/2012 18:05:38


ความคิดเห็นที่ 2


Oerlikon Contraves Skyranger

ใช้ปืนขนาด 35 มม. ติดตั้งบนยานเกราะล้อยาง 8*8 Boxer  ระยะหวังผล 4 กม

 

LvKv 90

ติดตั้งระบบตรวจจับและควบคุมการยิงบนยานเกราะสายพานแบบ CV9040 ติดปืนขนาด 40มม  ระยะหวังผล 4 กม ระยะยิงไกลสุด 12 กม.

 


โดยคุณ Banyat เมื่อวันที่ 25/06/2012 19:36:11


ความคิดเห็นที่ 3


ปืนใหญ่สนามกับระบบจรวดหลายลำกล้อง ออกแบบมาคนละวัตถุประสงค์ จะจับมาชนกัน ต้องมีปัจจัยเพิ่ม

แต่ที่รู้ ที่ผ่านมาที่ว่าจลก.เขมรเป็นต่อ 5 ขุม  สงสัยจะขุมนรกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ  เพราะด้วยปัจจัยด้านอื่นที่บวกเพิ่มเข้าไปก็ยังไม่เห็นว่าจะเป็นต่อเลยครับ

จริงๆ ซีซ่า ก็ไม่ใช่พระเอกหลัก แค่เป็นตัวแทนรับถ้วย  เอาแค่หนูเล็ก 105 ก็กวาด ถ.ป้ายแดงมาแล้วละครับ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 25/06/2012 22:49:20


ความคิดเห็นที่ 4


อยากถาม บรรดาท่านทหารในเว็บนี้ .. ระหว่าง ตีนตะขาบ  กะ  ล้อยาง  มันมีข้อดี ข้อเสีย ยังไงบ้างครับ

แล้ว ระหว่างสองอย่างนี้ ท่านนายทหารที่ใช้งานอยู่น่าจะรู้ข้อดีข้อเสียดีที่สุด และ ต้องการแบบใหนมากกว่า

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 26/06/2012 05:42:39


ความคิดเห็นที่ 5


จริงหรือครับท่าน เอฟดับบลิว................ ร้อยห้านี่รึ ที่เด็ดชีพ ที-55   ..................................... เห็นทีเขมรต้องส่งเสธฯ ไปเรียนตำรารบจากจีนมาใหม่แล้วกระมัง.............................  ที่ทราบ เอฟ-๑๖ เราขยับ สยายปีกขยันบินกันจังช่วงนั้น สงสัยคงตามคำขอมหาห้าขัน ที่ยังไงก็มองไม่เห็นศิลแปด  ก็ขยับกันแรง จนชนกันเองร่วงไปสองไม่ใช่รึ............................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/06/2012 08:27:35


ความคิดเห็นที่ 6


ใช้ ปืนใหญ่ 155mm  กับ  ซีซ่าร์  ก็คงพอแล้วมั่งครับ  BM21  มันไม่นำวิถีตกไม่เป็นที่  แต่155mm ของเราก็แม่น  ไม่ต้องพูดถึงซีซ่าเลยเพราะใช้ระบบควบคุม

Computerในการยิง  แต่ก็ดีได้ออกโรงจริงๆๆบ้าง

โดยคุณ willium เมื่อวันที่ 26/06/2012 15:19:36


ความคิดเห็นที่ 7


ข่าวฝั่งไหน.................... ที่ฟังอยู่ทุกวันนี้ก็เห็นมีอยู่ฝั่งเดียว  ฟังกันจนฉลาด กินหญ้าหมดกันเป็นทุ่งแล้ว...............................

 

ถ้าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวก็อย่าแรงเลยครับ คนไทยทั้งนั้น พูดเหมือนจะรู้..? เห็นมาจริงๆเหรอครับหรือแค่ความคิดเห็นส่วนตัว


โดยคุณ acheron เมื่อวันที่ 26/06/2012 15:43:51


ความคิดเห็นที่ 8


ผม ว่า ความเห็นที่หลากหลายมันดีจะตายไปนะครับ ถ้าเข้ามาแล้วมีแต่คนชมกองทัพไทยมันโคตรจะเทพอย่างเดียวแล้วมันจะไปสนุกอะไร เพราะชีวิตจริงมันไม่เหมือนการวาดฝันอะครับ เรื่อง ปตอ.อัตราจร ยังไงผมว่ามันก็สู้จรวดแซมไม่ได้อะ(ดีกว่าอย่างเดียวก็ตรงกระสุนถูก) เพราะมันไม่ real time และต่อให้ทำมันให้ real time ได้แบบแซมมันก็จะแพงพอๆกับแซมอยู่ดี ไปๆมาๆ ก็ไม่เป็นที่นิยม ส่วนอีกอัน เรื่องการดวลกันของ ไทยกับเขมร(ลูกกรด VS ลูกซอง) คนส่วนใหญ่เห็นทหารไทยเราอุปกรณ์ครบกว่ากำลังรบเยอะกว่า(เฮียฮุนเซนยังบอก เรายิงไป 50000 นัดก็เห็นมีคนไทยเชื่อ)ก็ไม่แปลกที่คิดว่าเราเหนือกว่าซะ แต่ความคิดผมรบครั้งโน่นทหารปืนใหญ่ไทยเราเสียเปรียบกว่าหลายขุม(ไม่รู้ถึง 5 ขุมหรือเปล่า) อันแรกยิงกันทุกครั้งทหารปืนใหญ่ไทยไม่เคยเริ่มก่อน(จริงเพราะนักข่าว ไทยอยู่ฐานยิงด้วย) ปกติทหารปืนใหญ่เค้าจะยิงกันได้จะต้องมี พิสูจน์ทราบเป้า ทำการยิง ตรวจสอบการยิง เขมรเค้า ต้องรู้พิกัดไทยก่อนอยู่แล้วถึงจะยิงได้(ไม่ต้องมีเครื่องมือแพงๆแบบเรา ด้วย) แถมเค้ายิงได้เร็ว(ไงๆจรวดขวดน้ำตรูมันก็ยิงไม่แม่นอยู่แล้วซัดที่เดียวให้ หมดๆไป)และถอยตัวได้ก่อน ส่วนตรวจสอบการยิง 3,5,7,9 เค้าก็ดูได้(แต่จริงๆเค้าไม่สนใจหลอก) ถึงตอนนี้เมื่อจรวดลอยไปลอยมาบนท้องฟ้า ที่หลายคนคิดว่าฝ่ายเรา(พร้อมเครื่องขั้นเมพ)ตรวจจับและยิงสวนได้ในไม่ถึง นาที มันจะจริงอย่างที่ฝันกันหรือ มาดูเครื่องจับพิกัดจับลูกปืนใหญ่กัน ปกติความเร็วกระสุนจะคงที่จากปากกระบอกปืน จับตำแหน่งกระสุนในอากาศได้สองตำแหน่ง จะทราบตำแหน่งปืนที่ยิงได้ ถ้าเรียน ม.ปลายมาก็ประมาณนี้หละนะ แต่จริงๆเครื่องจับไม่ได้แม่นยำแบบสอบ ม.ปลาย(อันนี้ยกตัวอย่างลูกปืนใหญ่เพราะมีตัวแปรน้อยกว่าจรวดอีกนะ เพราะลูกปืนมันไม่ได้กำเนิดแรงขับเอง)ดังนั้นมีทางเลือกอยู่ 2 ทางคือยิงไปตามยถากรรมตามเครื่องบอก หรือพิสูจน์ทราบเป้าต่อด้วยตาคน เครื่องบิน... จากพิกัดคราวๆจากเครื่อง ซึงไทยไม่ส่งเครื่องบิน และไม่กล้ายิงสุ่มด้วย ก็เหลือแต่ลูกกระตาคนกว่าจะ หาเจอ(เปล่าวะ) คำนวน ส่งพิกัดให้ชุดยิง คิดว่าเวลาหมดหมดกี่นาทีอะ เขมรเข็น BMW-21 ออกไปหลับอีกตื่นยังทันเลย ถ้าให้คะแนน อัตราสังหารผมว่า พอๆกัน(คือยิงเป้าหมายหลักไม่ได้เหมือนกัน) เรื่อง cost ปืนใหญ่อัตตาจรกับไม่จรสุดไฮเทคเราแพงกว่า เรื่องจำนวนไม่ต้องพูดถึงเราขนกันมาแบบเต็มแม็กแต่ไม่ได้ยิง ของที่ถูกว่า คุณถาพน้อยกว่า จำนวนน้อยกว่า กดดันยับยั่ง ของที่แพงกว่า คุณภาพดีกว่า จำนวนมากกว่า ได้ ไม่เรียกเหนือกว่าจะให้เรียกอะไรอะครับ เทียบง่ายๆเหมือนเอาไรเฟิล.22(ติดกล้อง เลเซอร์ ขาทราย) กับ ลูกซองลูกปราย ไปไล่ยิงแมลงสาปในก่อหญ้าหลังบ้าน ต่างที่ว่าแมลงสาปมันมีปืนยิงสวนด้วย ส่วนใครที่มีเพื่อนๆเป็นทหารปืนใหญ่จรไม่จร ลองไปถามเพื่อนๆดูนะครับไอ้เครื่องขั้นเมพมันทำงานยังไงให้ทหารแนวหน้าเค้า ยังต้องเหนื่อยกันอยู่อะ



ปล.เรื่องอาวุธกองทัพไทยเราถึงอยู่แล้วครับ(มีไม่ถึงอยู่อย่างเีดียวอะ)


โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 26/06/2012 21:29:01


ความคิดเห็นที่ 9


เห็นด้วยกับคุณ กบ ล้านเปอร์เซ็นต์ เด็กรุ่นใหม่ ๆ มันโตมากับระบบนี้ อีกนานกว่าตาสว่าง คิดได้เอง คงต้องรออายุสัก 40 up โน่น เออ ฝากถาม ท่าน กบ หน่อย ไอ้  จรวด สปาดา ของ ทบ. ตกลงมันเคยได้ยิงทดสอบสักครั้ง เหรอ ปล่อยให้หมดอายุใช้งานไปเฉย ๆ ของเป็นพันล้านเลยน่ะ เสียดาย

โดยคุณ suriyon77 เมื่อวันที่ 26/06/2012 17:11:11


ความคิดเห็นที่ 10


จรวดเขมรที่ยิงมาเป็นเป็นสิบชุด โดนมั้งไม่โดนมั้ง(คุ้มมาก) กับซีซาร์ที่มีระบบคำนวนพิกัดการยิงด้วย COM และมีเรดาร์ตรวจจับวิถีการยิงของจรวดและปืนใหญ่มาของข้าศึกแบบที่ไทยโดยที่ร่มเกล้าโดนยิงสวนมาที่ตั้งจนย้ายปืนใหญ่แทบไม่ทัน เรื่องแค่นี้คงไม่ต้องมานั่งดูละครหลังข่าว ก็คงรู้ผลว่าอะไรเป็นอะไรนะครับ ถ้าของมันไม่ดีจริงก็ไม่สมควรซื้อมา ส่วนการกดดันทางอากาศถ้าทำจริงคงแนวข้าศึกราบทั้งแนว แต่เราไม่ได้ทำไงสงสัยกลัวเป็นต่อเค้ามากเกินไป

โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 26/06/2012 17:52:17


ความคิดเห็นที่ 11


ไม่รู้จะซื้อกริเพนมาให้เปลืองทำไม ในเมื่อพอเกิดสงครามจริงอย่าว่าแต่ F-16 เลย แค่ F-5T ก็ยังไม่ได้ใช้ ถ้าBM-21ดีจริงสู้เอาเงินไปซื้อตัวนี้ดีกว่า ถูกกว่าและน่าจะได้มาเพียบถ้าเทียบราคากับกริเพน ยิงข้ามกันไปข้ามกันมาให้หมู่บ้านริมชายแดนพินาศกันไป

โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 26/06/2012 18:22:00


ความคิดเห็นที่ 12


เอ...เราใช้ Counter battery radar ครับ  แล้วค่อยสวนด้วยซีซ่าร์  เพื่อนผมเป็นทหารปืนใหญ่ confirm ได้ครับว่าฝ่ายนู่นสูญเสียเยอะกว่าเราครับ 

โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 26/06/2012 19:02:19


ความคิดเห็นที่ 13


พี่น้องครับ ใจร่มๆ ครับ  คุยกันในด้านเทคโนโลยีทหารดีกว่าครับ


โดยคุณ freebird เมื่อวันที่ 26/06/2012 21:31:53


ความคิดเห็นที่ 14


ตัวนี้ กองทัพเรามีมั๊ย  ดูแล้วน่าจะใช้ง่ายน่ะ ยิ่งเอามาติดตั้งบนรถ 6 ล้อ คงจะคล่องตัวสูงมาก ใช้คนยิงคนเดียวก็พอ มีซัก 100 ชุด แหล่มเลย

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 26/06/2012 22:39:57


ความคิดเห็นที่ 15


น่าจะมีอีกหลายคอมเมนท์ที่ไม่ได้อ่าน หุหุ

จาก ปตอ. กำลังจะกลายเป็น ปืนใหญ่สนาม ระหว่างลำกล้องกับเครื่องส่ง

จริงๆแล้วระบบปืนใหญ่สนามมีหลายระบบ  แต่ส่วนมากคนทั่วไปจะมองแต่ระบบ อาวุธ-กระสุนอย่างเดียว  เพราะมันเป็นสิ่งที่นำธงลงไปปักยังเป้าหมาย   

พื้นฐานของการยิงปืนใหญ่สนามมี 3 ส่วนใหญ่คือ ผู้ตรวจการณ์หน้า ,ศูนย์อำนวยการยิง และส่วนยิง ซึ่งก็เปรียบเหมือน ตา,หู,จมูก,สมอง,แขนและขา   ส่วนไหนคลาดเคลื่อนก็ส่งผลต่อความแม่นยำและเวลาที่เสียไป

อุปกรณ์ทันสมัยจะช่วยให้ระบบปืนใหญ่สนามต่างๆส่งถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วและคลาดเคลื่อนน้อยลง หรือพูดง่ายๆเร็วและแม่นมากกว่าแมนนวล  แต่ เหนือสิ่งอื่นใดที่ลืมไปไม่ได้ นั่นคือ  “เป้าหมาย”  เพราะถ้าไม่มีเป้าหมายก็ไม่รู้จะยิงอะไร   แม้แต่ “ดิน,หิน,ทราย,กรวด,ต้นไม้ใบหญ้ายันแมลงสาป” เปล่าๆเพียงลำพังโดยที่อาจจะมีหรือไม่มีข้าศึกเลยก็ได้ก็ถือเป็น “เป้าหมาย” หากภารกิจการยิงนั้นมันถูกกำหนดให้เป็นเป้าหมาย  เช่น การยิงแบบ “ยิงข่มฉับพลัน” ซึ่งในบัญชีเป้าหมายไม่ได้หวังผลโดยตรงในการทำลายข้าศึกแต่มุ่งหวังในผลอย่างอื่น 

เมื่อเราเข้าใจขั้นต้นแล้วว่าอันดับแรกก่อนที่จะรันระบบปืนใหญ่สนามทั้งระบบเพื่อให้จบที่กระสุนกระทบเป้านั้น ก่อนอื่นมันต้องมี “เป้าหมาย”  ดังนั้นแล้ว “ระบบค้นหาเป้าหมาย” เพื่อกำหนดเป้าหมาย เป็นปัจจัยเริ่มแรกที่สำคัญอย่างยิ่ง  ซึ่งมันก็สามารถค้นหาเพื่อกำหนดได้หลายแบบทั้งด้วยเครื่องมือหรือแม้แต่สายตามนุษย์       ซึ่งตรงนี้เราเคยได้รับบทเรียนมาแล้วในการรบในอดีตซึ่งก็มีการปรับปรุงบ้างในบางจุดซึ่งมันก็ทำให้เห็นผลแล้วในการรบที่ผ่านมาถึงความแม่นยำกว่าในเรื่อง “การกำหนดเป้าหมาย”

 

ถ้าเราคุยกันระหว่าง ซีซาร์กับจลก.เขมร  เราก็คุยกันแค่ในมิติของระบบ  “อาวุธและกระสุน” เท่านั้น  ซึ่งถ้าคิดแค่มิตินี้ยังไง ซีซาร์ ก็ เหนือกว่า จลก.อย่าง BM21 อยู่หลายขุม มันก็เหมือนอย่างที่ท่านสมาชิกเปรียบเทียบไว้ว่าเหมือน คนหนึ่งถือเดี่ยวลูกกรด(ซีซาร์)พร้อมอุปกรณ์ช่วยเล็ง ปะทะ กับอีกคนหนึ่งถือลูกซอง(BM21)ใช้ลูกโอโอบั๊ค  ซึ่งทั้งคู่ยืนห่างกันที่ระยะ 100 เมตร โดยที่ระหว่างตรงกลางของทั้งคู่มีพักพวกของทั้ง2ฝ่ายกำลังประจัญบานต่อยกันอยู่    ฝ่ายที่มีเพื่อนถือลูกซองก็สามารถให้ช่วยยิงใส่อีกฝ่าย(ที่กำลังต่อยกันอยู่)ได้ ซึ่งตรงนี้ลูกซองได้เปรียบ  ในทางตรงกันข้ามฝ่ายที่โดนลูกซองยิงกวาดอยู่ก็สามารถขอให้เพื่อนที่ถือเดี่ยวลูกกรดช่วยยิงไอ้คนที่กำลังเอาลูกซองยิงใส่อยู่ได้เช่นกัน    และไอ้เดี่ยวลูกกรดก็คงจะไม่โง่พอที่จะปิดระยะเข้าไปยิง ก็เป่ามันตั้งแต่ระยะไกลนี่แหละถึงจะเล็กและน้อยกว่าแต่ก็ยิงไกลและแม่นกว่า    พอพลลูกซองโดนเป่าหรือโดนบีบให้ถอยห่างออกไปจนไม่สามารถช่วยเพื่อนตัวเองที่กำลังมะลุมมะตุ้มต่อยกันนัวเนียได้แต่กลับกันอีกฝ่ายสามารถให้พลเดี่ยวลูกกรดช่วยเป่าอีกฝ่ายที่กำลังเงื้อหมัดจะต่อยหรืออ้าปากจะกัดเพื่อนตัวเองที่จุดตะลุมบอลได้สบายใจแฮ    ถึงแม้พลลูกซองจะพยายามปิดระยะเข้าไปเพื่อหวังช่วยเพื่อนตัวเองกำจัดพลเดี่ยวลูกกรดฝ่ายตรงข้ามก็ยังยากเพราะมันหมายถึงต้องเข้าไปยังที่ที่เขากำลังประจัญบานกันอยู่ไหนกระสุนโอโอบั๊คจะบานจนหวังผลไม่ได้เผลอๆอาจจะพลาดท่าโดนTEENอีกฝ่ายที่แนวตะลุมบอลนั่นแหละ          ยังไงฝ่ายที่มีเดี่ยวลูกกรดคอยโควเว่อให้ก็ได้เปรียบฝ่ายที่มีลูกซองโควเว่ออยู่วันยังค่ำ   

 

นอกจากมีปัจจัยมิติอื่นเข้ามาเสริมเช่น ไอ้ปืนเดี่ยวลูกกรดเป็นปืนมีทะเบียนพร้อมถูกต้องตามกฎหมายด้วยใบ ป.4  อืมมมม ไม่พอ  แถมใบ ป.12 ให้ด้วยอีกใบ  กลับกันไอ้พลลูกซองดันเป็นปืนเถื่อน  ทีนี้ละครับหนังคนละม้วน  เดี่ยวลูกกรดเราจะยิงแต่ละทีก็ต้องคอยพะวงหลายเรื่องละครับ  ไหนจะหลักฐานในที่เกิดเหตุ  ไหนจะต้องมาพะวงเรื่องการตีความตามกฎหมายอีกว่าหากยิงไปแล้วจะเป็น “ควรแก่เหตุ”หรือไม่    แต่พลลูกซองเราสบายใจแฮ ตูปืนเถื่อน ยิงเสร็จ ทำลายหลักฐานง่าย ตรวจสอบยากอีกต่างหาก          จากปืนที่ได้เปรียบก็จะกลายเป็นเสียเปรียบทันทีหากปัจจัยอื่นคือ ทนาย ฝ่ายตนไม่ดีพอ จะทำอะไรก็ต้องอยู่ในขอบเขตจำกัดกลายเป็น สงครามจำกัดเขตไปเสียฉิบ อ้าว  เฮะ พูดเรื่องยกพวกตีกันด้วยกำลังกับอาวุธปืนอยู่ดีๆกลายเป็นสงครามได้ไงหว่า  ผิดเรื่องๆๆๆ  หุหุ         

 

ก็ลองพิจารณาครับว่าเราจะพูดกันเรื่องปืนอย่างเดียว หรือจะเอาเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวด้วย  หรือจะเอาเรื่องเล่าเช้านี้ว่า เมื่อคืนเด็กช่างกลตีกันแถมยิงกันด้วยลูกกรดกับลูกซอง จนเลยต่อไปที่เรื่องปัญหาสถาบันโรงเรียน ยัน ครอบครัว       ส่วนตัวก็ได้หลายเรื่องอยู่เพราะข่าวลือเยอะ 55555 แถมเป็นเด็กช่างกลสถาบันเดียวกันกับไอ้ที่ไปยกพวกตีกับเขาสียด้วยสิ  ถึงไม่ได้ไปร่วมตีกับเขาก็ตามแต่ไอ้พวกที่ไปตีกับเขามาก็กลับมาเล่าให้ฟังบ้างโม้บ้างตามเรื่องตามราวอย่าไปคิดมาก

 

วกกลับมาที่เรื่องระบบปืนใหญ่ต่อครับ  เมื่อมีการกำหนดเป้าหมาย สิ่งที่ตามมาก็คือ บัญชีเป้าหมาย และตามมาอีกก็คือ ลำดับความเร่งด่วนของแต่ละเป้าหมายที่เหมาะสมต่อภารกิจการยิงนั้นๆ    ทหารราบ ณ ขน-พร  เอ๊ย  ขนพร.(ขอบหน้าพื้นที่การรบ) ยังไงก็ต้องเหนื่อยเพราะถ้าเกี่ยวกับทหารปืนใหญ่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบค้นหาเป้าหมาย    ต่อให้เป็น ผตน.เหล่าปืนเลยก็ตาม สุดท้ายก็ต้องถามต่ออีกว่า เป็น ผตน.ของป.อะไร  ป.ช่วยโดยตรง หรือ ป.ช่วยส่วนรวม  ซึ่งการตอบสนองต่อคำขอยิงต่างกันรวมถึงรายละเอียดของความเร่งด่วนในการยิงของแผนการยิงสนับสนุน    ถ้าทหารราบในแนวหน้าดันตาดีเห็นเขมรกำลังเข็น BM21 อยู่  อันดับแรกถ้าทะลึ่งส่งคำขอไปยังกองร้อยซีซาร์เลยก็คงโดนสวนกลับมาเปิงแน่ว่า ของในอัตราตัวเองใช้หรือยัง(จริงๆมันก็ขอไปเลยไม่ได้อยู่แล้วข่ายวิทยุคนละข่ายเลย)  ก็คงต้องเหนื่อยพิจารณาถึงลักษณะเป้าและระยะว่าอาวุธยิงสนับสนุนในมือตัวเองพอที่จะกำจัดได้หรือไม่ตามลำดับของขนาดหน่วย  สุดท้ายถ้าไม่มีใครได้และเจ้าซีซาร์มันอยู่ในสายฯพอดี  ก็อาจจะได้ยิงถ้ามันยังเข็นอยู่นะ  แต่ถ้าร้อย.ร.นั้นโชคดียิ่งกว่าถูกหวยได้ร้อย.ซีซาร์มาขึ้นสมทบหรือควบคุมทางยุทธการก็อีกเรื่องหนึ่ง  ขอตรงได้เลย  

 

ถ้าบอกว่า   “ถ้าให้คะแนน อัตราสังหารผมว่า พอๆกัน(คือยิงเป้าหมายหลักไม่ได้เหมือนกัน) เรื่อง cost ปืนใหญ่อัตตาจรกับไม่จรสุดไฮเทคเราแพงกว่า เรื่องจำนวนไม่ต้องพูดถึงเราขนกันมาแบบเต็มแม็กแต่ไม่ได้ยิง ของที่ถูกว่า คุณถาพน้อยกว่า จำนวนน้อยกว่า กดดันยับยั่ง ของที่แพงกว่า คุณภาพดีกว่า จำนวนมากกว่า ได้ ไม่เรียกเหนือกว่าจะให้เรียกอะไรอะครับ”  คำถามคือที่ว่า เป้าหมายหลักคืออะไร  เพราะเป้าหมายหลักในแต่ละภารกิจยิงไม่เหมือนกัน   และที่บอกว่าขนมาเต็มแม็กแต่ไม่ได้ยิง ขอขยายความด้วยครับว่าอย่างไร  เพราะผมอาจจะเข้าใจไปถึง แม็กกาซีน M16 ขนาด 20 นัดของพลขับรยบ.ที่ลากปืนใหญ่มาเพราะมันก็ไม่ได้ยิงจริงๆซะด้วยสิ   และที่บอกว่า ของที่ถูกกว่า คุณภาพน้อยกว่า จำนวนน้อยกว่า กดดันยับยั่ง ของที่แพงกว่า คุณภาพดีกว่า จำนวนมากกว่า ได้ หมายถึงอย่างไร  เพราะที่เห็นมาเขายิง “อาวุธยิงสนับสนุน”เข้ามาก็เห็นเราตอบโต้กลับไปด้วย”อาวุธยิงสนับสนุน”ทุกครั้งเหมือนกัน  ที่ทราบมา “อาวุธยิงสนับสนุน”เราก็ไม่ได้หดหัวอยู่ในกระดองจนไม่ยิงกลับเสียด้วยสิ   หรือถ้าจะบอกว่า BM21 ยิงซัลโว ร้อย.ร.ของเรา อันนี้ก็ไม่รู้ว่าราคาเจ้า BM21กลุ่มนั้นกับราคารวมของ อาวุธประจำกายและประจำหน่วยทั้งร้อย.ร.อันไหนมันแพงกว่ากัน   กดดันน่าจะใช้เพราะมันยิงเข้ามาเพื่อภารกิจนี้นี่  ส่วนยับยั้งน่าจะไม่ใช่เพราะเราไม่ได้เข้าตี และก็ไม่ได้ถอนตัวออกจาก ขนพร.เสียด้วยสิ  และภารกิจยิงดังกล่าวมันก็ไม่ใช่ “การยิงต่อต้าน ป.และค.”(เพราะส่วนใหญ่ที่เราพูดกันจับป.สนามและจลก.มาชนกันมันคือภารกิจนี้)     ผมก็ไม่เห็นภารกิจ”ยิงต่อต้าน ป.และค.” ของฝ่ายตรงข้ามภารกิจไหนสำเร็จสักภารกิจ เพราะ ป.และค.เราก็ไม่เคยเงียบเสียง(หากมีการปะทะเกิดขึ้น)  ในทางตรงกันข้าม มีแต่ฝ่ายตรงข้ามที่เงียบเสียงไปเอง   ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่เห็นมีเสรีในการใช้อาวุธยิงสนับสนุนของตน  เพราะก็ไม่เห็นว่า ร้อย.ป.หรือร้อย.BM ฝ่ายตรงข้ามมาตั้งป้อมซัลโวถล่มจนละลายหรือบังคับให้ ร้อย.ร.ของเราถอนตัวออกจากที่มั่นตั้งรับได้สักครั้งเดียว   แล้วจะบอกว่า”ของที่ถูกกว่า คุณภาพน้อยกว่า จำนวนน้อยกว่า กดดันยับยั่ง ของที่แพงกว่า คุณภาพดีกว่า จำนวนมากกว่า ได้”  ได้อย่างไร

 

ที่บอกว่า “เทียบง่ายๆเหมือนเอาไรเฟิล.22(ติดกล้อง เลเซอร์ ขาทราย) กับ ลูกซองลูกปราย ไปไล่ยิงแมลงสาปในก่อหญ้าหลังบ้าน ต่างที่ว่าแมลงสาปมันมีปืนยิงสวนด้วย”  ต้องพิจารณาภารกิจครับ  ฝ่ายตรงข้ามคือ แมลงสาปมีปืน(แต่ไม่รู้ระยะยิงของปืนแมลงสาป)  ฝ่ายเรามี ไรเฟิลชนวนริมขนาด .22(ไม่รู้ LR หรือเปล่า) พร้อมกล้องเล็ง เลเซอร์และขาทราย และมีลูกซองกับกระสุนลูกปราย     การปฏิบัติ(สมมุติว่ากำหนดเป้าหมายได้แล้ว มองเห็นแล้วว่ามันอยู่ตรงไหน)  เพราะไม่รู้ว่าปืนแมลงสาปมันยิงไกลเท่าไหร่และเป็นปืนลักษณะไหน ขั้นแรกเอาไกลเข้าว่าก่อน(กลัวแมลงสาปมันสวนเอา) เอาไรเฟิล.22 ยิงจากระยะไกล(ถ้ากล้องมันเป็นกล้องเล็งกำลังขยายนะ) เท่าที่หวังผลได้  ถ้ายังไม่บรรลุภารกิจ  ค่อยวัดดวงปิดระยะเข้าไปอัดด้วยลูกซองในระยะใกล้  ถ้ายังอีกก็ตะลุมบอลเอาเท้ากระทืบมันเลย

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/06/2012 01:03:34


ความคิดเห็นที่ 16


ผมชอบตัวนี้นะ

กะตัวนี้

ของค่ายพี่หมี นี่ก็แจ่ม อิอิ 

โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 27/06/2012 01:26:12


ความคิดเห็นที่ 17


กลับมาเรื่อง ปตอ. ต่อครับ

ปตอ. เป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันภัยทางอากาศ และเช่นกัน อากาศยานรบจำพวก บข. ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันภัยทางอากาศ

จากที่ทราบกันผลพวงจากการรบในWW II ทำให้ฝ่ายโลกเสรีให้ความสำคัญกับการครองอากาศเป็นอย่างมาก  หลักนิยมจึงว่าที่การทำ AI (Air interdiction) หรือการขัดขวางทางอากาศ เป็นอันดับแรกเพื่อการครองอากาศ  หลังจากนั้นจึงว่ากันที่ภารกิจอื่น   จากแนวความคิดนี้จึงส่งผลต่อเครื่องมือ(อาวุธทำลาย)ในการป้องกันภัยทางอากาศขั้นต่อไปคือ บรรดา ปตอ.ทั้งหลาย  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคำว่า ปตอ.สำหรับ ทบ.นั้นครอบคลุมทั้ง ปตอ.ลำกล้อง หรือปืน และ ปตอ.ประเภทอาวุธปล่อย หรือ แซม SAM อย่างที่เราเข้าใจ   

ทำให้ฝ่ายโลกเสรียกการป้องกันภัยทางอากาศแบบเป็นพื้นที่ให้กับ อากาศยาน เป็นแม่งานหลัก เพราะมีความอ่อนตัวต่อภารกิจและคล่องตัวกว่า     ปตอ.ของฝ่ายโลกเสรีส่วนมากจึงเป็น ปตอ.แบบป้องกันเป็นจุด ระดับต่ำและระดับกลาง   ซึ่งมีทั้งแบบอยู่กับที่และอัตราจร  สำหรับป้องกันเป็นจุดให้กับที่ตั้งที่มีความสำคัญและหน่วยดำเนินกลยุทธ     SAM ป้องกันเป็นพื้นที่ระดับปานกลาง-สูง,สูง มีน้อยแบบมากหลักๆก็  Patriot   ซึ่งก็ปรับปรุงให้เป็นอาวุธนำวิถีต่อต้านขีปนาวุธทั้งทางยุทธวิธีและยุทธศาสตร์ด้วย

 

ในทางตรงกันข้ามฝ่ายโลกสังคมฯ ให้ความสำคัญกับระบบป้องกันภัยทางอากาศประเภท ปตอ. เป็นอย่างมาก และพัฒนาหลายแบบมากมาย ทั้งเป็นพื้นที่และเป็นจุด  ระดับต่ำ,ระดับกลาง,ระดับกลาง-สูง ไปจนถึงระดับสูง   อาจเป็นเพราะให้ความสำคัญกับการใช้กำลังภาคพื้นให้ได้แม้ไม่สามารถครองอากาศได้(ซึ่งตรงนี้แตกต่างชัดเจนจากฝ่ายโลกเสรีที่ก่อนการใช้กำลังภาคพื้นจำเป็นต้องครองอากาศให้ได้เสียก่อน) ด้วยปัจจัยเรื่องงบประมาณกับความคุ้มค่า   ตรงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าหมายถึง เกณฑ์เสี่ยงที่ยอมรับได้หากไม่สามารถครองอากาศได้เมื่อเทียบกับการทุ่มงบไปที่อากาศยานอย่างเดียว โดยใช้ ปตอ.มาเสริมช่องว่าง(ไม่ได้หมายถึงว่า ปตอ.จะสำคัญกว่าอากาศยานหรือทดแทนกันได้)

 

จากการต่อสู้ด้วยหลักนิยมแนวความคิดทั้ง2ฝ่ายต่างก็ได้วาดลวดลายมาหลายสมรภูมิ ทั้งสงครามตัวแทน หรือตัวแม่ลงเล่นเอง ก็หลายครั้ง ใหญ่ๆก็  สงครามเกาหลี,เวียดนาม,ยิว-อาหรับ,อัฟกานิสถาน      ซึ่งตรงนี้สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากคือ “การครองอากาศ” มีประโยชน์อย่างมากที่เอื้อต่อ”การปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี”อื่นๆ   แต่ผลแพ้-ชนะ ของสงครามเริ่มมีปัจจัยอื่นเข้ามาสอดแทรกมากขึ้นเรื่อยๆ  การครองอากาศจึงไม่ได้เป็นตัวชี้วัดผลแพ้-ชนะ อีกต่อไป หากเป็นตัวเสริมในการปฏิบัติการทางยุทธวิธีอื่นๆทั้งทางอากาศและภาคพื้น

เมื่อครั้ง WW IIและสงครามเกาหลี ปตอ. ทั้งหมดเป็น แบบลำกล้องและไม่มีระบบควบคุมการยิงที่แม่นยำมากนัก  ทำให้การป้องกันภัยทางอากาศโดยใช้ ปตอ.เป็นหลักไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เท่ากับการใช้เครื่องบินด้วยกัน   แต่พอเข้ายุค ปตอ. แบบอาวุธปล่อยนำวิถี(SAM) ซึ่งสงครามที่เห็นผลที่สุดคือ สงครามเวียดนาม  การป้องกันภัยทางอากาศด้วย ปตอ. จึงสร้างความเสียหายให้กับอากาศยานได้มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน       ฝ่ายโลกเสรีที่หลงไหลกับหลักนิยมการใช้อากาศยานเป็นหลักจึงเข้าสู่ภาวะกลับตัวไม่ได้  จึงต้องใช้มันต่อไป  แต่ปรับปรุงระบบของอากาศยานเพื่อต่อกรกับแซม ทั้ง ฮาร์ดคิล และซอร์ฟคิล และตามมาด้วยอากาศยานเฉพาะกิจสำหรับพิฆาตระบบป้องกันภัยทางอากาศประเภท ปตอ.ที่มีระบบควบคุมการยิงที่แม่นยำโดยเฉพาะสิ่งที่ตามมาเป็นเงาตามตัวคือ “เงิน” แต่อย่างว่านักรบเศรษฐีซะอย่างแค่นี้จิ๊บๆ

 

มาถึงตรงนี้ก็จะเกิดคำถามว่าระหว่าง บข.,บจ. กับ แซมและปตอ.ลำกล้องควบคุมการยิงด้วยเรดาร์อันไหนดีกว่ากัน  คำตอบคือ มันดีคนละอย่างเพราะมันคนละภารกิจครับ   ปตอ.เป็นได้แค่ เชิงรับ แต่ บข.,บจ. เป็นได้ทั้งเชิงรุกและรับ(ตรงนี้คิดที่ภารกิจป้องกันภัยทางอากาศเพียงอย่างเดียว)     ทั้งคู่ต้องเดินร่วมกัน สิ่งที่เป็นตัวตัดสินคือ แนวความคิดในยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ,ระดับภัยคุกคามและที่สำคัญที่สุด “เงิน”

 

ผลพวงจากยุคสงครามในยุคต่างเรื่องแนวความคิดของระบอบการปกครองประเทศซึ่งประเทศเรายึดถือตามแนวทางโลกเสรี   ดังนั้นหลักนิยมจึงลอกเขามา  หลักนิยม การ AI เพื่อครองอากาศจึงติดตัวเรามา ประกอบกับระบบแซมของโลกเสรีไม่มีให้เลือกมากนัก ณ ตอนนั้น  และการรบหลังจากนั้นเราไม่เคยโดนอากาศยานฝ่ายตรงข้ามโจมตีเลย   ทำให้แซมป้องกันเป็นพื้นที่ไม่ได้อยู่ในสายตาเรา    ยกภารกิจดังกล่าวให้อากาศยานเป็นหลัก     หากจะมองภัยคุกคามจากอากาศยาน ณ ตอนนั้นก็คงจะจริง เพราะ ภัยคุกคามไม่มีอากาศยานที่จะสามารถโจมตีแบบ ไฮ เดลิเวอรี่ ได้อย่างแม่นยำเลย รวมถึงจำนวนอากาศยานด้วย   ดังนั้นการใช้อากาศยานป้องกันภัยฯเป็นพื้นที่ เสริมด้วย ปตอ.ลำกล้อง และ แซมระดับต่ำกรณีที่อากาศยานไม่สามารถทำเที่ยวบินได้ ก็เป็นเหตุผลที่ฟังเข้าที

ณ ปัจจุบัน ภัยคุกคามจากอากาศยานที่สามารถทำ ไฮ เดลิเวอรี่ แม่นยำเริ่มมีแล้ว รวมถึงความทันสมัยและจำนวนอากาศยานก็ใกล้เคียงกัน  ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะปัดฝุ่นถึง SAM เป็นพื้นที่ระดับกลาง-สูง เข้ามาเสริม    เพราะปัจจุบันตัวเลือก SAM ดังกล่าวมีตลาดกว้างขึ้นกว่าเดิม   ปัจจุบันก็พยายามทดแทน SAM เป็นจุดระดับต่ำอยู่ ซึ่งแบบที่จัดหาก็มาจากโลกสังคมฯเดิม   ก็ได้แต่ลุ้นถึง SAM เป็นพื้นที่ระดับกลาง-สูง ต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่าจัดได้สัก 1-2 กองพันน่าจะเพียงพอ

 

กลับมาที่จุดที่แคบลงกว่าเดิม  ว่าด้วย ปตอ.แบบลำกล้องและอาวุธปล่อย    ทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อด้อยต่างกัน   ปตอ.ลำกล้อง มีความแม่นยำต่ำกว่า (ยกเว้นมีระบบควบคุมการยิง) ระยะยิงทางอากาศต่ำกว่า แต่ข้อดีคือ ความต่อเนื่องในการยิงและราคา(ทั้งจัดซื้อ,ปรนนิบัติบำรุง,ฝึกยิง)ถูกกว่า        อาวุธปล่อย ข้อดี มีความแม่นยำกว่า  ระยะยิงทางอากาศมากกว่า แต่ข้อเสียคือ ความต่อเนื่องในการยิงต่ำ  ราคาแพง และถูกรบกวนทั้งการโดนลวงและแจมมิ่งระบบ(ส่งผลถึงความแม่นยำ)ได้ง่ายกว่า

 

ดังนั้นการจะใช้แบบใดแบบหนึ่งเพียงแบบเดียวคงไม่ได้  แนวทางการใช้ผสมผสานกันจึงน่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสม  เลือกใช้ให้เหมาะสมกับภารกิจ     มาถึงตรงนี้ส่วนตัวยัง งง กับคำที่ว่า  SAM Site Real Time กว่า AAA(Anti Aircraft Artillery)  ที่ว่า Real time กว่าหมายถึงอย่างไร       ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ปตอ.แบบธรรมด๊าธรรมดา ใช้คนเล็งยิง(โดยเฉพาะอัตราจร)  ค้นหาและกำจัดยากกว่าพวกมี เรดาร์ควบคุมการยิง หรือ แซม ไซท์ เสียอีก(ยกเว้นพวก SAM MANPADS)   และก็เชื่อว่า ปตอ.ลำกล้องแบบมีเรดาร์ควบคุมการยิง หากเรดาร์ฯถูกกดดัน ก็ยังคงมีระบบสำรองที่ช่วยให้ทิศทาง และยังคงสามารถยิงได้ถึงอาจจะลดความแม่นยำลงแต่ด้วยปริมาณการยิงอย่างต่อเนื่องยังสามารถสร้างม่านกระสุนกดดันหรือบีบบังคับได้ เป้าลวงก็ไม่มีผล  ซึ่งตรงนี้ต่างจาก SAM โดยสิ้นเชิง เพราะถ้าหากถูกกดดันระบบควบคุมการยิง  การยิงแบบไร้การนำทางไม่สามารถสร้างม่านได้เท่า ปตอ.ลำกล้อง หรือพวกใช้เซนร์เซอร์ภาครับเช่น MANPADS บางแบบ(ซึ่งเป็นส่วนใหญ่) เป้าลวงก็ยังมีผลอยู่ถึงโชคในการยิงถูกเป้าหมาย   ดังนั้นการใช้งานผสมผสานเพื่อปิดช่องโหว่ของแต่ระบบจึงยังมีความจำเป็น    จึงไม่น่าแปลกที่จะมีความพยายามเพิ่มขนาดกว้างปากลำกล้องของ ปตอ.ลำกล้อง เพื่อเพิ่มระยะยิงให้ใกล้เคียง SAM (ประเภทระดับการยิงเดียวกัน) เพื่ออุดช่องว่างของSAM

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/06/2012 03:41:40


ความคิดเห็นที่ 18


อันนี้เป็นต่อซีซาร์ 460ขุม แต่เป็นรอง เอฟ-๑๖

<object width="640" height="480"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/tvntHazo6hE?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/tvntHazo6hE?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="640" height="480" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 09:20:09


ความคิดเห็นที่ 19


แป่ว ผิดสูตร

 

 

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 09:21:59


ความคิดเห็นที่ 20


ปืนใหญ่ต้องใช้ร่วมกับการครองอากาศ นั่นคือหลักนิยมไอ้กัน อันนี้ใครก็รู้.......................วอซอเน้นการป้องกันภัยทางอากาศ แซม หลายๆแซม มิก 21 23 25 31 ซู 15 27   ส่วนกองหน้ตัวทำ เป็นหัวหอกการรบใช้ยานเกราะ ที-55 62 72 80  มีหน่วยป้องกันภัยทางอากาศอัตจร  หน่วยยิงสนับสนุนหลักใช้แบบ เข้าเร็วออกเร็ว หนักไปทางจรวด............... แค่นี้เห็นยัง  บอล ยุโรป กะ บอลละติน    ถ้าพูดถึงความคลาสสิค มะกันแหล่ม แต่กุญแจสำคัญคือการครองอากาศ ดังเช่นมีนายพลท่านหนึ่ง จำชื่อไม่ได้(แต่ไม่น่าเป็นนายพลจำลอง) กล่าวว่า ถ้าเราครองอากาศไม่ได้เราก็ไม่ชนะสงคราม............................ แต่ถ้าพูดถึงความเป็นปัจเจก แบบวอซอดีกว่า มีความเป็นอ่อนตัวมากกว่า เหมาะในการรบแบบทุ่มเทสรรพกำลัง........................มีต่อ

 

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 09:36:04


ความคิดเห็นที่ 21


เรากับเขมรไม่น่าเป็นบอลถูกคู่ เพราะเรามีปืนใหญ่และการครองอากาศที่เข้มแข็ง  แต่เขมร มีจำนวนยานเกราะ และการป้องกันภัยทางอากาศที่น้อย(อากาศยาน และ ระบบพื้นดิน)..............................จรวดเขมร หรือแม้แต่ที-55 หมดโอกาสโชว์พาว เนื่องจากการกดดันทางอากาศ.................ดังนั้นการรบครั้งนี้ เข้าทางเรา..........................

แต่ถ้าจะวัดกันระหว่าจรวดกับซีซาร์ ผมว่ามีประเด็นที่พูดเยอะ.....................จริงๆแล้วต้องบอกว่าซีซาร์มันเป็นระบบกระเทย...................   ไอ้กันใช้ปืนใหญ่สองแบบ คือ ปืนลากจูงกับอัตจรแบบเอ็มหนึ่งศูนย์เก้า เอาไว้ซดแลกหมัดจรวดบีเอ็ม-๒๑ ของอิรัค และ เซิร์บ........................... ไอ้กันใช้ปืนใหญ่ตามเงื่อนไขและหลักนิยมขิงมัน มันมี เอฟ-๑๕ ๑๖ บินคุ้มกะลาหัว แล้วมันจะมี จรวดบ้าบอที่ไหน เข้ามาแยงระคายผิวมันได้ จริงป่ะ.............................. แต่พอมาพูถึงซีซาร์ เจ้านี่มันเกิดจากไอเดีย หรือการสนองความต้องการในทางเดียวกับจรวด คือ เข้าเร็ว ยิงเร็ว และหนีเร็ว..................... มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 09:53:16


ความคิดเห็นที่ 22


ครับ  ทีนี้เราลองมาสมมติดูซิ  สมมติ เรามีกำลังอยู่สามกองพัน เอ็ม-๖๐ หนึ่งกองพัน สนับสนุนด้วยซีซาร์หนึ่งกองพัน กับ ฝ่ายตรงข้ามีกำลังเท่ากัน มี ที-๕๕ สี่สิบคัน สนับสนุนด้วยจรวดอีกหนึ่งกองพัน   ไม่มีกำลังทางอากาศทั้งคู่   ตรึงกำลังห่างกันอยู่ห่างห้าสิบโล(นอกรัศมีปืน)....................... ท่านว่า มวยคู่นี้ใครน่าจะเป็นต่อ .................... กุญแจสำคัญ คือกำลังยานเกราะ และการยิงสนับสนุนด้วยอาวุธหนัก................. ยังไงผมว่า จรวดตับบรรทุกรถล้อยางวิ่งปุเลงๆเข้าออกรวดเร็ว แถมยิงได้เร็ววินาทีละสองนัด ยังไงก็น่าสยดสยอง กว่า ปืนใหญ่กระเทยยิงได้สองนัดต่อนาทีมากมายนัก แม้มันจะมีระยะยิงที่สั้นกว่าถึงครึ่งหนึ่งก็ตาม

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 10:04:10


ความคิดเห็นที่ 23


ขออภัย พิมพ์ตกเยอะ เนื้อความสรุปจับใจความยาก เนื่องจากพิมพ์มิหนิตมิตติ้งอยู่ด้วย ต้องแบ่งสมองเป็นสองภาค  ใจรักจริงขอบอก งานหลวงไม่ขาดงานราษฎร์มิได้เว้น............แหะๆๆ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 10:09:53


ความคิดเห็นที่ 24


ต่ออีหน่อย................... ผมลองอยากให้มองกลับไปที่การรบช่องบก  ครั้งนั้นเป็นมวยถูกคู่    เวียตนามใช้หลักนิยมแบบวอซอเต็มรูปแบบ กองหน้าตัวทำคือกองพลยานเกราะ  สนับสนุนด้วยหน่วยยิงจรวด  ครั้งนั้นเราเป็นรอง ห้าขุม เราต้องขุดแนวดักรถถังยาวเป็นสิบโล  การใช้กำลังทางอากาศยังพอทำได้ (เราสูญเสีย เอ-๓๗ ไปหลายเครื่อง)   แต่ครั้งนั้นเราชนะได้ด้วยการรบแบบจรยุทธ บวกกับการใช้การเมืองเข้าบีบ(ไข่)   จะเห็นว่าครั้งนั้น ปืนใหญ่ของเราก้ไม่ได้มีบทบาทอย่างเต็มที่............................ แต่ครั้งนั้น เวียตเอาจริง ต่างจากครั้งนี้ ที่หนักไปทางสงครามการเมือง สงครามสนองตัญหา(บางคน) มีคนโดนติดคุกเพราะเข้าไปแหย่ไข่มดแดงเอ้ยรังแตน  โสมน้ำหน้าแมร่ง....อยู่ดีไม่ว่าดี

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 10:18:01


ความคิดเห็นที่ 25


หมวดบอมมาที จัดเต็มๆยาวๆเลย ปล.ถ้าเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่านี้ก็อย่าโกรธผมนะครับ
โดยคุณ tawporn เมื่อวันที่ 27/06/2012 11:25:54


ความคิดเห็นที่ 26


ผมมองยังไงซีซ่าก็ยังเป็นต่อ เนื่องจากทั้ง 2 ยังไงก็เป็นล้อยางเหมือนกันเคลื่อนที่เร็วเหมือนกัน แต่ความแม่นยำซีว่ามากกว่าเยอะ แล้ว BM21 ยิงมาก็ได้ยินเสียงแต่ไกลแล้ว วิ่งหลบกันได้ BM21 เวลายิงต้องยิงเป็นกลุ่มถึงจะได้ผล แต่ซีซ่าแยกกันตีได้ดีกว่าเยอะแถมมัดเดียวจอด

โดยคุณ topza เมื่อวันที่ 27/06/2012 13:15:48


ความคิดเห็นที่ 27


ยังงัยผมก็ชอบปตอ.ของรัสเซียมากกว่าเพราะของพี่แกจัดหนักเหลือเกินมีทั้งจรวดและปืนกลขนาด30มม.ด้วย

ยิ่งระบบpantsir s-1ทีทั้งจรวดและปืนด้วยและยังสามารถนำไปติดได้ทั้งเรือรบ รถสายพาน รถบรรทุกก็ได้

ผมอยากให้กองทัพเราซื้อมาสัก20ระบบจัง

โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 27/06/2012 14:21:02


ความคิดเห็นที่ 28


อาวุธยิงสนับสนุนประเภท ปืนใหญ่สนามมี 2 แบบใหญ่คือ ปืนใหญ่ลำกล้องและเครื่องส่ง  ให้สั้นก็ขอใช้คำว่า ป. กับ จลก.(เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง) แทนละกันครับ

มาว่ากันที่ข้อดี,ข้อเสียคร่าวๆก่อนนะครับ

ป. ข้อดีคือ สามารถสนับสนุนการยิงได้อย่างต่อเนื่อง ในกรณีป.กระสุนวิถีโค้งจะเพิ่มเรื่องมุมการยิงที่เหมาะสมต่อเป้าหมาย,มีอัตราการคลาดเคลื่อนต่ำกว่า จลก.(.ในระยะยิงเดียวกัน) ข้อเสียคือ อัตราการยิงต่ำ(เมื่อเทียบกับ จลก.)

จลก. ข้อดีคือ อัตราการยิงสูง(ในห้วงระยะเวลาหนึ่ง) , ระยะยิงไกล(เมื่อเทียบกับแบบที่มีระยะยิงไกลสุดของ ป.และจลก.) ข้อเสียคือ  เมื่อยิงแล้วการบรรจุกระสุนใหม่ทำได้ช้า , อัตราคลาดเคลื่อนสูงกว่า ป. ,ไม่สามารถทำการยิงมุมสูง(ยิงหยอด)ได้

 

ด้วยข้อดีข้อเสียของทั้ง ป.และจลก. การเลือกใช้งานจึงพิจารณาให้เหมาะสมกับภารกิจการยิงนั้นๆ   ถ้ามีทั้ง ป.และจลก. ถ้าสามารถใช้งานสอดคล้องอุดช่องว่างของกันและกันได้จะเอื้อประโยชน์อย่างสูง

ด้วยข้อดีของ จลก. ในเรื่องอัตราการยิงในห้วงเวลาหนึ่ง  จึงเหมาะในการยิงบอมบ์บาร์ทปูพรมเป็นพื้นที่(ลดข้อเสียเรื่องความแม่นยำที่มีอยู่เดิม) จึงเหมาะในการยิงสนับสนุนในภารกิจ  เช่น การยิงเตรียม  การยิงต่อต้าน ป.และค.  การยิงข่มฉับพลัน ฯลฯ   แต่ข้อเสียคือ จะมีห้วงระยะเวลาที่ขาดหายไปในระหว่างโหลดกระสุนใหม่ทำให้ขาดการยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตรงนี้ใช้ ป. ได้

 

ป.อัตราจร  และ จลก.อัตราจร มีส่วนที่เหมือนกันคือ การเปลี่ยนที่ตั้งยิงใหม่ที่ทำได้เร็ว ลดโอกาสถูกสวนกลับ     เข้าเร็ว ยิงเร็ว ถอยเร็ว เหมือนกันแต่ที่ไม่เหมือนกันคือ

ป.อัตราจร 1วงรอบการทำงานคือ ทุกครั้งที่เข้าที่ตั้งยิงใหม่ “สามารถทำการยิง” ได้ทุกครั้ง  ในขณะที่จลก. 1วงรอบต้องเป็นไปในลักษณะ เข้าเพื่อยิง หนีเพื่อเติม(กระสุน) และถึงจะเข้าเพื่อยิงอีกครั้ง    จลก.มีอัตราการยิงที่สูงในห้วงระยะเวลาสั้นจริง แต่ขาดช่วงนานกว่า ป.  และการขนส่งกระสุนสิ้นเปลืองทรัพยากรกว่า  ในปริมาตรการบรรทุกเดียวกัน ขนกระสุน ป.ได้มากกว่า

 

มาว่ากันที่ข้อเสียของ จลก. อีกเรื่องคือ  เนื่องจาก จลก. ใช้ดินส่งขับดันแบบตายตัวไม่สามารถปรับส่วนบรรจุได้ ดังนั้น มุมยิงจึงตายตัวตามระยะนั้นๆ   ดังนั้นหากมีตัวช่วยที่สำคัญคือ กำแพงธรรมชาติ เช่น ภูเขาในพื้นที่แบบป่าภูเขา สามารถเอาตัวรอดจาก จลก.ได้ไม่ยาก  ด้วยการตั้งรับแบบลาดหลังเนินใช้เขาทั้งลูกเป็นฉากกำบัง  จลก.ยิงหยอดด้วยมุมยิงสูงไม่ได้    ยิงจนลิ้นห้อยก็ยากที่จะออนทาเก็ตแบบจังๆ  ไม่ชนเขาก็เลยข้ามหัวหมด     เช่นกัน การเลือกที่รวมพลหรือที่ตั้งยิงของป.ที่อยู่ในระยะยิงของจลก.ฝ่ายตรงข้าม ก็อาศัยประโยชน์จากภูมิประเทศดังกล่าวได้ด้วย เพราะป.วิถีโค้งยิงด้วยมุมยิงสูงได้   และภูมิประเทศตามแนวชายแดนของส่วนมากเป็นป่าภูเขาซะด้วยสิ

“ครับ  ทีนี้เราลองมาสมมติดูซิ  สมมติ เรามีกำลังอยู่สามกองพัน เอ็ม-๖๐ หนึ่งกองพัน สนับสนุนด้วยซีซาร์หนึ่งกองพัน กับ ฝ่ายตรงข้ามีกำลังเท่ากัน มี ที-๕๕ สี่สิบคัน สนับสนุนด้วยจรวดอีกหนึ่งกองพัน   ไม่มีกำลังทางอากาศทั้งคู่   ตรึงกำลังห่างกันอยู่ห่างห้าสิบโล(นอกรัศมีปืน)....................... ท่านว่า มวยคู่นี้ใครน่าจะเป็นต่อ .................... กุญแจสำคัญ คือกำลังยานเกราะ และการยิงสนับสนุนด้วยอาวุธหนัก................. ยังไงผมว่า จรวดตับบรรทุกรถล้อยางวิ่งปุเลงๆเข้าออกรวดเร็ว แถมยิงได้เร็ววินาทีละสองนัด ยังไงก็น่าสยดสยอง กว่า ปืนใหญ่กระเทยยิงได้สองนัดต่อนาทีมากมายนัก แม้มันจะมีระยะยิงที่สั้นกว่าถึงครึ่งหนึ่งก็ตาม”

จรวดของฝั่ง ที เบิ้ลห้า คือแบบอะไรครับ งั้นผมติ๊งต่างว่ามันคือ BM 21 ละกันครับ  ว่ากันตามสมมุติฐานข้างต้น  โดยปกติไม่นิยมนำหน่วยยานเกราะมาตั้งรับแบบยึดพื้นที่(คือนำมาวางที่หน้าแนว) จะนิยมตั้งรับแบบคล่องตัว คือสงวนไว้เป็นกองหนุน เข้าที่รวมพลอยู่ด้านหลัง    ติ๊งต่างว่าใช้หลักการนี้ทั้งคู่ เพราะทั้งคู่ตั้งห่างกัน 50 กิโลฯ  ก็น่าจะเข้าที่รวมพลด้วยกันทั้งคู่    และแนว ขนพร. อยู่ตรงไหน งั้นผมสมมุติเพิ่มให้โดยเอาย่านกลางเลยคือ 25 กิโลฯ   

สถานการณ์ต่อไป แล้วใครเข้าตีหรือตั้งรับ ตรงนี้ไม่รู้เพราะไม่ได้บอกมาให้  เพราะปกติการวางอาวุธยิงสนับสนุน  เข้าตี 1 ใน 3 ตั้งรับ 2 ใน 3   ถ้าดูตามสถานการณ์ข้างต้น กองพัน ชต. ของทั้งคู่ถ้าตั้งอยู่หลังแนว ถ. ของตนเอง  ชาตินี้ยังไงก็ไม่ได้สู้กันสักที เพราะยิงไม่ถึงทั้งคู่    งั้นเดี๋ยวผมทำให้มันสู้กันเองละกันนะครับ 5555    ยังไงซะ พัน.ป.ชต. ของทั้งคู่ต้องขยับไปด้านหน้า พัน.ถ. เพื่อยิงให้ถึง  และที่ ขนพร.ก็น่าจะมีกำลังของแต่ละฝ่ายตรึงอยู่แล้ว  เพราะถ้าบอกว่า พัน.ถ.ทั้งคู่เป็นกำลังใน ขนพร.ก็อาจจะฟังดูแปลกๆ เพราะการส่งอาวุธยิงสนับสนุนข้าม ขนพร.ไปเพื่อตั้งยิงมันดูทะแม่งๆ  

สรุป ภารกิจแรกคือ การยิงเป้าหมายตามบัญชีเป้าหมาย(เพราะรู้แล้วว่าที่รวมพล ถ. ฝ่ายตรงข้ามมันอยู่ตรงไหน) ลักษณะเป้าหมายเป็นเป้าหมายเป็นกลุ่มก้อนในที่รวมพล   และก็จะตามมาด้วยการยิงเป้าหมายตามเหตุการณ์  (เพราะถ้าฝ่ายไหนเริ่มยิงใส่ที่รวมพล ถ. ก่อน แน่นอนว่าต้องมีการยิงต่อต้านป.และค.) เป็นลักษณะยิงต่อต้านป.และค. ลักษณะเป้าหมายเป็นยานพาหนะเป็นกลุ่มก้อน

มาดูคุณลักษณะของอาวุธทั้ง 2 แบบคร่าวๆ

ซีซ่าร์   ยิงไกลสุดด้วยลูก BB ประมาณ 42 กิโล  เก็บและกางปืนในเวลาต่ำกว่า 1 นาที  อัตราการยิง ต่อเนื่อง 6-8นัดต่อนาที  สูงสุด 3 นัดใน 15 วินาที    กระสุนพร้อมยิงขั้นต้น 16 นัด

BM21 ยิงไกลสุด 21 กิโล พร้อมยิงใน 3 นาที เก็บและพร้อมเคลื่อนย้ายใน 2 นาที  โหลดกระสุนใหม่ใน 10 นาที  กระสุนพร้อมยิง 40 นัด  อัตรายิง 40 นัด ใน 20 วินาที

รถขนกระสุนสนับสนุน   สำหรับซีซ่าร์ไม่แน่ใจ  แต่น่าจะหลักร้อยขึ้น   สำหรับ BM21  60 นัด

ติ๊งต่างว่า รถขนกระสุน ไปรออยู่ ณ ที่ตั้งยิงแห่งใหม่     รถขนกระสุนสำหรับ ซีซาร์ คันเดียวส่งให้ได้ทั้งกองร้อยต่อ 1 ที่ตั้งยิง   สำหรับ BM21   1 ต่อ 1      BM 21   ย้ายได้ 2 ครั้ง ต้องวิ่งกลับไปยังตำบลจ่าย สป.5  ส่วนซีซ่าร์ย้ายได้เรื่อยๆ เป็นหลัก 10 ขึ้น

 

มาว่ากันที่การยิง  หากคิดตั้งยิง 2 ใน 3   ซีซ่าร์เหลือระยะยิงลึกเข้าไปได้หลังแนว ขนพร.ฝ่ายตรงข้ามอีก 14 กิโล   ส่วน BM 21 เหลือ 7 กิโล  ในทางกลับกันซีซ่าร์อยู่ห่างแนว ขนพร. 28 กิโล(ชะอุ้ย ทำไปทำมาดันอยู่หลัง พัน.ถ.M60 อีกนะเนี่ย) ส่วนBM21 อยู่ห่างแนว ขนพร.14 กิโล       ถ้าตั้งที่ระยะยิงดังกล่าว BM21 หมดปัญญายิงถึงทั้ง ที่รวมพล ถ.และที่ตั้งยิงอาวุธยิงสนับสนุน  ส่วนซีซ่าร์จนปัญญาสำหรับที่รวมพล ถ. แต่พอลุ้นกับที่ตั้งยิงของเจ้า BM21 นิดๆ

ปรับระยะมาเป็น 1ใน3   ซีซ่าร์ตั้งห่าง ขนพร. 14 กิโล ยิงลึกเข้าไปได้อีก 28 กิโล  BM21 ตั้งห่าง ขนพร. 7 กิโล ยิงลึกเข้าไปได้อีก 14 กิโล    มาถึงตรงนี้  ซีซ่าร์กวาดได้หมดทั้ง ที่รวมพล ถ. และที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุน  ส่วน BM21  ที่รวมพล ถ. ลืมมันทิ้งไปได้เลย(เพราะขนาดไปตั้งยิงบน ขนพร.ก็ยังไม่ถึงเลย) แต่ที่ตั้งยิงอาวุธยิงสนับสนุนพอมีลุ้นภายใน 3 ยก(แต่ซีซ่าร์ เกิน 12 ยกแน่ๆ)

ตรงนี้ยังไม่ได้พูดถึงการวาดระยะยิงเป็นวงกลมนะครับ  เพราะมันมีกว้างด้านหน้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เอาหยาบๆไปก่อน     

 

ซีซ่าร์ตั้งยิงเริ่มแรก 2 กองร้อย ยิงทำลายที่รวมพล 1 กองร้อยเตรียมต่อต้าน ป.และค.   2 กองร้อย 12 กระบอก  ยิงหาผลในการยิงครั้งแรก  กระสุน 192 นัดจะปลิวออกไปภายในเวลาประมาณ 3 นาที(ตัดเวลาเคลื่อนย้ายและเตรียมกระสุนออก) หรือถ้าจะซัลโวทั้งกองพันก็คิดเป็นกระสุน 288 นัด ในเวลาน้อยกว่า 3 นาที  ถ้าคิดเป็นน้ำหนัก TNT  นัดละ 40 กิโล  192 นัดก็ 7680 กิโล  หรือเกือบๆ 8 ตัน   ถ้าทั้งกองพันก็ประมาณ 11 ตันครึ่ง

ในทางกลับกัน BM21 ทั้งกองพันยิงต่อต้าน ป.และค.  จรวดทั้ง 720 ลูกจะปลิวออกไปหมดภายในเวลา 3 นาที 20 วิ(ตัดเวลาเคลื่อนย้ายและเตรียมกระสุนออก)  คิดเป็นน้ำหนัก TNT ลูกละ 20 กิโลก็ ประมาณ 14 ตันครึ่ง  

 

ท่านว่า  “มวยคู่นี้  ใครจะเป็นต่อ”

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/06/2012 15:11:39


ความคิดเห็นที่ 29


"ปล.ถ้าเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่านี้ก็อย่าโกรธผมนะครับ"

ผมสงสัยว่าผมจะไปโกรธท่าน  tawporn  ในเรื่องอะไรครับ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/06/2012 15:14:27


ความคิดเห็นที่ 30


มันส์จริงๆกระทู้นี้ เป็นการถกกันระหว่างทหารและกูรู อาจจะมีคนมาคอยหยอดให้ดราม่ากันเล็กน้อย เสพความรู้ไว้ก่อนติดตามตอนต่อไป

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 27/06/2012 16:23:13


ความคิดเห็นที่ 31


เท่าที่ผมอ่านฉากการรบของท่านเอฟดับบลิว  ท่านใช้จุดเด่นเรื่องระยะยิงเข้ามาเป็นตัวแปรอย่างเดียว มันจะไม่เสียของไปหน่อยหรือท่าน..........................ปืนใหญ่ร้อยห้าบห้า หนึ่งลูก หัวกระสุนหนักไม่เกินสี่สิบโล    ถ้ามันยิงเข้าเป้าแล้วจังหนับ หยุดชงักป็อกปลายคางเหมือนพี่ไมค์ตอนโดนหมัดอีแวนเดอร์ เห็นทีเราคงไม่แพ้สมรภูมิร่มเกล้ากระมังคับ..........................   ธรรมชาติของผู้ตกเป็นรองเรื่องพิสัย มันต้องตั้งการ์ดครับ  ชกสั้นกว่าแล้วดันยื่นหน้ามันก็ต้องโดนน็อค แถมสมน้ำหน้ามันด้วย.........................  ที่ท่านเขียนมา ราวดังกับว่า กระสุนดุ้นเขื่องตกลงตรงไหน ปานดังปรมณูที่นั่น ต้องแหลกราญเป็นแถว.............................   ปล่าวครับ....................ทหารหลบในคูเหลตนับลูกปืนท่านสนุกสนาน   และผมเอง ก็คงไม่ส่งหน่วยจรวด ฝ่าดงเท้าเข้าไปโซ้ยท่านดอก  จริงๆ บ่อได้ง่าว.....................  ด้วยกำลังสามกองพัน การเข้าจุดรวมพลเพื่อออกตี สงสัยว่าก็ง่าวไม่แพ้กัน.......................การรบครั้งนี้ ทั้งยุทธวิธี และยุทโธปกรณ์ มันเข้าทางแล้ว ...................ท่านต้องรบแบบอเมริกา ส่วนผมรบแบบโซเวียต........................ท่านต้องยิงปูพรม และเคลื่อนกำลังยานเกราะเพื่อปิดระยะ....................... การเคลื่อนที่ออกจากที่ตั้งเพื่อรบโดยวิธีรุก  น่าจะเข้าทางหน่วยจรวดของผม................... การรบครั้งนี้ การข่าวจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับท่าน   เพราะจรวดของผมคงไม่ยิงเปะปะเผากระสุนเหมือนหน่วยปืนใหญ่  การเคลื่อนเข้าที่ตั้งยิงเร็วและหนีเร็วเป็นกลยุทธ...................... ผมเชื่อว่าที่ระยะยี่สิบกิโลเมตร จรวดบีเอ็มหนึ่งกองร้อย น่าจะมีเวลาดำเนินกลยุทธในการเข้าที่ตั้งเตรียมยิงและยิงด้วยอัตราความชุกสูงสุด พร้อมหนีเอาตัวรอด ก่อนที่ปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่แนวหลังของทั่นจะลั่นไกกระสุนนัดแรกออกมา.....................หน่วยยานเกราะของท่านไม่มีทางผ่านจรวดของผมได้แน่นอนรับประกัน  ...................... แหม่ว่าแต่ผมขอเบิก ร้อยสามสิบมาซักกองพันได้มั๊ย จะได้ขอผันตัวเป็นฝ่ายรุกได้บ้าง...............................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 27/06/2012 17:12:15


ความคิดเห็นที่ 32


ตามท่านAkulaละครับว่าจะเข้ามาดู ปตอ อิตาลี ไหงไปโผล่แถวศรีษเกศได้หว่าอิๆ แต่ก็ดีครับแบบนี้คนอ่านได้กำไรผมก็ชอบแนวนี้(อย่าเอาเรื่องการเมืองเรื่องสีๆมาแทรกก็พอครับ)เหมือนกลับไปอ่านหนังสือสมรภูมิสมัยก่อนเลยแฮะๆ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 27/06/2012 17:15:51


ความคิดเห็นที่ 33


ที่ผมเขียนก็รวมๆอะครับมั่วบ้างไรบ้างก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องลูกกรดลูกซองนั้นผมสมมุติให้คนที่เคยยิงปืนยิงสัตว์เค้าจะได้รู้ฟิวเท่านั้น ถ้าจะเทียบอะไรไปไกลๆขนาดนั้นผมว่ามันก็แปลกๆอะ แล้วผมก็เขียนชัดนะครับว่า "เรื่องการดวลกันของ ไทยกับเขมร" จะมาสรุปในแง่ ของระบบ  “อาวุธและกระสุน” เท่านั้น ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดด้วยอะครับ แต่ถ้าพูดถึงการเลือกใช้งานในกรณีไทยเขมร ว่าอันไหนใช้งานได้มีประสิทธิภาพกว่ากันก็ยังพอไหว มาอันแรกเลยนะครับ "คำถามคือที่ว่า เป้าหมายหลักคืออะไร" เท้าความถึงเขมรได้สิทธิเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อนเสมอนะครับ(คือเราแค่ยิงตอบโต้ยับยั่งฐานยิงเค้าเท่านั้นเองอะครับ ไม่ใช่จะถือโอกาสยิงอะไรก็ได้ที่เรารู้ตำแหน่ง ตัวอย่าง ทหารเขมรยิงปืนกลใส่ทหารเราใช่ว่าเราจะร้องขอปืนใหญ่ยิงถล่มทหารเขมรได้นะครับ ก็ต้องใช้ปืนตัวเองยิงกลับไปได้เท่านั้น) ต่อให้ทหารเราเห็นเขมรเข็น BM-21 ผ่านหน้าเราก็ยิงมันไม่ได้ครับถ้ามันไม่ยิงเราก่อน กลับมาคำว่า เป้าหมายหลัก ครับ คำนี้มันตรงตัวอยู่แล้ว ผมก็งงตัวเองว่าจะมาแปลไทยเป็นไทยอีกทำไม สรุปมันก็คือ BM-21 นั้นแหละครับ ไม่ได้จะแปลว่าเราต้องยิงเป้าหมายหลักก่อนเสมอไปนะ(ก็คำสั่งเรายิงตอบโต้ยับยั่งฐานยิงข้าศึก ส่วนทางเขมรเค้าเจออะไรก็ยิงหมดแหละ) เกิดถ้าในบัญชีเป้าหมายมี BMW อยู่แต่ถูก BMX ยิง(มาจากไหนไม่รู้ในบัญชีก็ไม่มีเข้ามายิง)จะมีใครมันบือไปมั่วยิงแต่ BMW อะครับ(อยู่ที่เดิมเปล่าก็ไม่รู้) ส่วนบัญชีเป้าหมายมันจะมีอะไรอยู่คิดว่าเค้าไม่ต้องตรวจสอบอีกทีหรือครับก่อนจะยิง ตัวอย่าง มีแมงสาปอยู่พิกัด X เวลา X ในบัญชี คิดว่าตอนนี้มันจะอยู่ที่เดิมไหมอะ จริงๆบัญชีเป้าหมายมันมีไว้ประมาณตำแหน่งเป้าหรือคาดคะเนทิศทางตำแหน่งเป้า(ไม่ใช้หลับหูหลับตายิงไปเลื่อยตามลิสต์ซะเมื่อไร) ส่วนเรื่องทหารเราจะไปยิง ก้อนหินดินทรายอะไรยังไงผมก็ไม่รู้หลอก แต่จะมาให้คะแนนยิงพื้นเก่งมันก็แปลกๆนะ ทางเขมรผมเชื่อว่าเค้ายิงสนับสนุนการเข้าตีของทหารราบครับ ก็มีเป้าอยู่ที่ทหารราบฝ่ายเรา กับปืนใหญ่(ทหารราบเราก็ตายจริงๆนี้ครับ ปืนใหญ่ก็ย้ายตำแหน่งกันซะนี้ครับ เอ่อแถมชาวบ้านด้วย) ผมเลยให้คะแนนเท่ากันในด้านการสังหาร ส่วนเรื่อง "และที่บอกว่าขนมาเต็มแม็กแต่ไม่ได้ยิง ขอขยายความด้วยครับว่าอย่างไร  เพราะผมอาจจะเข้าใจไปถึง แม็กกาซีน M16 ขนาด 20 นัดของพลขับรยบ.ที่ลากปืนใหญ่มาเพราะมันก็ไม่ได้ยิงจริงๆซะด้วยสิ" ต้องแปลไทยเป็นไทยเดิมอีกแหละ(ภาษาวัยรุ่นอะครับใจปะ) ขนมาเต็มแม็ก ก็แปลว่าขนมาเยอะที่สุดที่จะขนมาได้อะครับ ปืนใหญ่อะครับไม่ใช่ เอ็ม-16 นะครับ แล้วส่วนเรื่องไม่ได้ยิง ก็อ่านย้อนบทความของคุณ FW190 ดูนะครับว่าจะมีใครรอให้อยู่ยิง กับกรณีไทยไม่เคยยิงเค้าก่อน ยังมีอีกอัน "ของที่ถูกกว่า คุณภาพน้อยกว่า จำนวนน้อยกว่า กดดันยับยั่ง ของที่แพงกว่า คุณภาพดีกว่า จำนวนมากกว่า ได้ หมายถึงอย่างไร" กดดัน เรื่องนี้คิดว่าเข้าใจกันแล้ว เห็นจะไม่เข้าใจกันตรง ยับยั่ง นี้อะ มันแปลง่ายๆเลยอะครับว่า หยุด หรือระงับ อะไรก็ว่ากันไป(ปกติเกิดกับทั้งสองฝ่ายหละครับ แต่มันน่าจะเป็นไปตามจำนวนและคุณภาพของอาวุธ) มาดูตัวอย่างสมมุติกันดีกว่า มี BM-21 อยู่ 1 กอง ยิงใส่ ปืนใหญ่ข้าศึก 1 กองจาก 3 กอง จนกองนั้นย้ายตำแหน่ง อีก 2 กองก็ยังอยู่ที่เดิมยิงใส่ BM-21 ตามปกติ ถามว่า BM-21 ยิงยับยั่ง ปืนใหญ่ 1 กองได้หรือไม่(กำลังวิ่งๆอยู่อะคิดว่ายิงได้ไหมหละ ถ้าตอนนั้นมีทหารราบเข้าตีก็เสมือนมีปืนใหญ่อยู่แค่ 2 กองจริงไหม) ถ้าคิดว่าแค่เรายิงสวนกลับไปได้แล้ว เป็นอันยับยั่นอะไรตรูไม่ได้เลยคิดว่า อัฟกัน อิรัก ลิเบีย เค้าก็คงไม่แพ้หลอก(รบกันเค้าก็ยิงสวนกันทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่ปฎิวัติซะหน่อยอะ)  อีกอัน "มีแต่ฝ่ายตรงข้ามที่เงียบเสียงไปเอง   ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่เห็นมีเสรีในการใช้อาวุธยิงสนับสนุนของตน" ก็แน่หละครับถึงเขมรเค้าจะใช้หน่วยรบแค่หน่วยเดียวในการโจมตี ตัดสินใจง่ายเลย(ผบ.สูงสุดสั่งหยุดยิงมันยังไม่ฟังเลย)ยังไงเค้าก็ยังเป็นทหารนะครับยังต้องฟัง ผบ.เค้าบ้าง ที่เค้ายิงแล้วหยุด แล้วก็ยิงใหม่ เพราะระยะเวลาการโหลดกระสุนมันต่างกันครับ BM-21 เค้ายิงเร็ว ถอนตัวเร็ว แต่โหลดกระสุนนาน ต่างจากปืนใหญ่ที่ ยิงช้าเพราะโหลดกระสุนระหว่างยิง ถอนตัวช้า แต่ยิงได้เลื่อยๆ จะมาดีใจที่เห็นเค้าโจมตีมาแล้วหยุด(นัยว่าฝีมือตรู) แล้วก็มายิงเราใหม่ คิดว่ามันแปลกๆไหมอะ นี้ยังไม่รวมพวกเล็งยิงก้อนหินดินทรายนะ สรุป ผลก็อย่างเห็นๆ ข่าวไทยเราฆ่าเป็นแสน ข่าวเขมรเค้าฆ่าเป็นล้าน(จริงๆผลการรบของสงคราม(ถ้าไม่ใช้รบพิเศษอะ)ดูกันได้จาก การยึดครองรักษาพื้นที่ควบคลุม หรือก็คือพื้นที่ฝ่ายเรานั้นแหละ) แต่ที่ดูได้จริงๆเลยแบบสบายๆเลย คือพื้นที่ควบคุมครับ กับวิสัยทัศน์ผู้นำกองทัพ(ใครอยากรู้ก็ย้อนกลับไปดูตามเว็บแล้วกัน ปลื้มใจซะ)

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 27/06/2012 17:29:23


ความคิดเห็นที่ 34


ซวยแล้วมีกระทู้เพิ่มมาตั้งแต่ตอนไหน ผมตอบกระทู้บนๆนะครับ

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 27/06/2012 17:36:28


ความคิดเห็นที่ 35


ขนาดอาฟกันสมัยพันธมิตรฝ่ายเหนือรบกับตาเรบันเขามีBM 21 เวลายิงเขาจะยิงทีละ1นัดเพราะเขารู้ประสิทธิภาพว่ามันไม่ค่อยแม่นเวลายิงเป็นชุดมันจะกระจายคนทิศคนละทางไม่ลงที่เดียวกันหมดแถวเปลืองอีกต่างหาก และที่ไทยซัดกับเขมรจนจบเขมรเหลือแค่ ค.62 เท่านั้นที่ยังคงยิงได้นอกนั้นโดนซันโวหมด  สรุปเขมรรู้ที่ตั้งแต่ยิงไม่แม่นแถมเสียBM21ไปจำนวนหนึ่งโดนยูเยวีจับได้ ปืนใหญ่ไม่ต้องพูดถึง ปรสอีจำนวนหนึ่ง รถถัง  ต้องเกณคน4000คนมาอุดแต่ไม่ยิงเพราะรู้ว่าผลเป็นยังไงรอยูเย็นมาช่วยเพราะรู้ว่าสู้ไปมีแต่เสีย ถ้าเราสูญเสียมากป่านี้สื่อไทยเล่นกันคงรู้ว่าสื่อไทยตัวขุดคุ้ยเลยแถมญาติพี่น้องทหารที่เสียชีวิตก็คงเรียกร้องกันระนาว

โดยคุณ skudetto เมื่อวันที่ 27/06/2012 17:49:06


ความคิดเห็นที่ 36


อ่านแล้วหลายคนพูดยังกับอยู่ในเหตุการณ์ รู้ถึงขั้นจำนวนกระสุนที่ใช้ จำนวนทหารที่ตายของแต่ละฝ่าย

ไม่เว่อร์กันไปหน่อยเหรอครับ (ใครเป็นใครก็เดากัน ไม่ยาก)

 

อารมณ์ประมาณพันธุ์ทิพย์ ฮา

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 27/06/2012 18:21:38


ความคิดเห็นที่ 37


อ่านแล้วปวดตาวุ้ย  เว้นวรรคหน่อยสิท่าน potmon

ผมสรุปเป็นข้อๆเลยละกัน

  1. ที่ผมถามถึง”เป้าหมายหลัก” เพราะจะสื่อว่า ในแต่ละภารกิจการยิงเป้าหมายหลักไม่เหมือนกัน ถ้าบอก BM21 คือเป้าหมายหลักมันก็อีกภารกิจยิงหนึ่ง  , T 55 มันก็เป็นเป้าหมายหลักของอีกภารกิจยิงหนึ่ง , ทหารราบหนึ่งกองร้อย มันก็เป็นเป้าหมายหลักของอีกภารกิจหนึ่ง ,ที่บังคับการกองพัน มันก็เป็นเป้าหมายหลักของอีกภารกิจหนึ่ง    แล้วคุณมามัวแต่บอกว่า BM21 คือเป้าหมายหลักอย่างเดียว แล้วบอกว่าเราทำลายเป้าหมายหลักไม่ได้ มันก็เป็นการเจาะจงที่แคบไปสักหน่อย   แล้วมาเหมาในภาพรวม        ข้อเท็จจริงเลยคือ อาวุธยิงสนับสนุนเรา ป.และค.  ไม่มีสูญเสีย  นั่นหมายถึงเป้าหมายหลักใน การยิงต่อต้าน ป.และค. ของฝ่ายตรงข้ามเป็น ศูนย์     ส่วนข่าวลือก็คือ T 55  1 กองร้อย(-) กลายเป็นเศษเหล็ก   ป.และจลก.อีกหลายระบบ ทหาราบไม่ต้องนับ   อันนี้ที่ข่าวลือคือยืนยันด้วยภาพจาก UAV     
  2. และกรุณาเข้าใจด้วยว่า ไอ้เรื่องใครยิงก่อนยิงหลังนะ มันเป็นกลไกและจุดยืนตามแผนการป้องกันประเทศ  ลำดับการใช้กำลังตอบโต้ตามลำดับภัยคุกคาม   ตรงนี้จุดยืนเราก็อย่างที่ทราบว่า เราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มเป็นฝ่ายรุกราน ดังนั้น ฝ่ายตรงข้ามยิงเข้ามาก่อน แล้วเราตอบโต้กลับตามลำดับภัยคุกคามมันก็เป็นเรื่องปกติ ด้วยอาวุธทุกอย่างที่มี ยิงตามสถานการณ์      ถ้าภาวะที่ไม่ได้อยู่ในช่วงการปะทะถ้าเห็นเขมรเข็น BM21 ต่อหน้าต่อตา ยิงไม่ได้ มันก็ถูกแล้วนี่ครับ  แต่ที่ได้คือ  เรื่องของการปรับปรุงบัญชีเป้าหมายให้เป็น Real Time มากที่สุด   แต่ถ้ามันเป็นช่วงปะทะกันอยู่โดนแน่ครับ ด้วยอาวุธตามลำดับ
  3. บัญชีเป้าหมาย สำหรับ การยิงตามแผน นั้น มีการปรับปรุงตลอดเวลาเพื่อให้เป็น Real Time ที่สุด   ถ้าเกิดว่าต้องมีการยิงตามแผนเกิดขึ้น ก็จะว่ากันตามบัญชีเป้าหมาย  แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ก็จะยิงตามเหตุการณ์

ข่าวลือว่า   ฝ่ายตรงข้ามซัลโวBM21 ใส่ที่มั่นตั้งรับเรา  ในขั้นต้น เราเข้าใจผิดว่า เป็นการยิงจาก ปถ.(ปืนใหญ่รถถัง) ที่อยู่ในบัญชีเป้าหมาย  เราก็ตอบโต้ด้วยการยิงตามแผน ผลไอ้ร้อย.ถ.ป้ายแดงก็รับส้มแทน BM21 ไป   ขั้นต่อไปเมื่อกำหนด เป้าหมายได้ ก็ยิงกลับตาม แผนการยิงตามเหตุการณ์ ก็กดดัน(หรือทำร้ายได้) จน BM21 หยุดยิง   ก็ไม่รู้ว่ามันเป็น BMW หรือ BMX

    4.    ที่ผมเปรียบเปรยถึง ก้อนหิน ดิน หญ้า ฯลฯ นั้น ก็เพราะจะชี้ว่า  แต่ภารกิจยิงไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ เอ๊ะอะ จะเอาแต่ BM21 มาพูดอย่างเดียว แล้วเอาการยิงในภารกิจอื่นเข้าไปเกี่ยวเสียทุกเรื่อง   ขนาดปืนเล็ก ยังมีการยิง 2 แบบใหญ่ เลย คือ ยิงทำลาย(หรือฆ่าให้ตายนั่นแหละ) กับยิงกดเพื่ออำนวยในการยิงประกอบการเคลื่อนที่เลยครับ

    5.    พึ่งรู้แฮะว่า ป.สนามของเราป้อนกระสุนด้วยแม็กฯซะด้วย  ภาษาวัยรุ่นผมไม่ค่อยจะเข้าใจหรอกครับ  อ่านแล้วปวดตา  ปวดสมอง    ท่อนท้ายๆขี้เกียจพิมพ์ต่อแล้ว    สุดท้าย ขอใช้คำเต็มละกันเพราะถ้าใช้คำย่อ อาจจะเข้าใจผิด   คือให้รอง คิด  วิเคราะห์  แยกแยะ ดีๆนะครับ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/06/2012 18:41:37


ความคิดเห็นที่ 38


มาต่อกับคุณ กบ ดีกว่า มันส์กว่าเยอะ

  1. ก็เพราะไม่ใช่เพราะฤทธิ์เดชของระบบอาวุธยิงสนับสนุน ที่ยิงได้แม่นยำหรือครับที่ทำให้เราได้รับบทเรียนจากร่มเกล้า  ครั้งนั้นถ้าจำไม่ผิดก็มีแต่เฉพาะ ป. นะครับ  จลก.ไม่มี
  2. ผมถึงถามไงครับว่า ฝ่ายไหนเข้าตี ฝ่ายไหนตั้งรับครับ    ในเมื่อ ป.ผมเสียเปรียบเรื่องอัตราการยิงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ป.ผมได้เปรียบเรื่องระยะยิง  แล้วจะไม่ให้ผมนำข้อได้เปรียบของผมมาใช้ได้ไง จริงหรือไม่ครับ
  3. ท่านบอกว่า หน่วยดำเนินกลยุทธของทั้ง 2 ฝ่าย ที่เป็นพัน.ถ. อยู่ห่างกันตั้ง 50 กิโล   ถ้าในหลักความเป็นจริงก็เป็นไปได้  แต่มันต้องมีแนว ขนพร. ที่มีทหารราบยันกันอยู่ตรงไหนแน่ๆใน50กิโลนั้น ผมเลยเอาย่านกลางซะเลย    หรือจะด้วนๆ ไม่มีทหารราบเข้ามาเอี่ยวเลยมีแต่พัน.ถ.กับพัน.ป.ล้วนๆเลยก็ได้ครับ    อยู่ห่างขนาดนั้นยังไงก็คือ การเข้าที่รวมพลครับ  หรือท่านจะปรับรูปขบวนผ่านแนวออกตีตั้งแต่ห่างจากข้าศึกตั้ง 50 กิโล   ที่รวมพล กับ จุดรวมพล นี่คนละความหมายเลยละครับ    การเข้าที่รวมพลมันก็เหมือนการตั้งรับแบบวงรอบอย่างหนึ่งครับ   ยังไงซะก่อนจะผ่านแนวออกตีมันก็ต้องมีการเข้าที่รวมพลเกิดขึ้นก่อนแน่นอน
  4. ที่ผมอธิบายข้างต้นนู้น ไม่ได้เป็นภารกิจการยิงเตรียมก่อนการเข้าตีแต่อย่างใด  แต่จากสถานการณ์เฉพาะที่ท่านกำหนดมา  ผมเข้าใจว่ามันคือที่รวมพล(จะเรียกตั้งรับก็ได้เพราะมันเป็นการตั้งรับวงรอบ)     และถ้าผมเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนละก็(การยิงก่อนการเข้าตี  ไม่ใช่การยิงเตรียมนะครับ คนละอย่าง) ผมก็ต้องใช้อำนาจการยิงของ ป.ซีซ่าร์ กะเทยของผม โดยใช้ข้อได้เปรียบในเรื่องระยะยิง(เพราะก็คงไม่โง่ที่จะปิดระยะเข้าไปในระยะที่โดนสวนได้)     ยิงใส่ที่รวมพลของท่าน เพื่อ  ทำลาย ลิดรอน บีบบังคับให้ย้ายที่    ซึ่งด้วยระยะยิงที่มากกว่า  ไทม์ เฟส ไลน์ ของผมก็มากกว่า  มีเวลาเหลือเฟือที่จะยิงหาผล ตัดสินใจ และถอนตัวหาก ร้อย.BM จะพยายามเข้ามาต่อต้าน     เมื่อพัน.ถ.ท่านเข้าที่ตั้งแห่งใหม่  ผมก็ใช่มุขเดิม  ยิง ทำลายและลิดรอนต่อไป  โดยที่ พัน.BM ของท่านทำอะไรไม่ได้เลย  เพราะยิงไม่ถึง  หรือหากจะพยายามปิดระยะเข้ามาละก็ โดนดักซุ่มไม่รู้ด้วยนะ(เอาละฟะตรู ใช้รถถังซุ่มโจมตีก็คราวนี้ละ)     ซ้ำเดิมเป็นวงรอบอยู่อย่างนี้  พลรถถังท่านก็ต้องมัวพะวงแต่นับลูกกระสุน และเคลื่อนย้ายหน่วยเข้าที่ตั้งแห่งใหม่ไปเรื่อยๆ ในขณะที่พลรถถังผม นอนตีพุงดูบอลยูโรกะคุยเฟสบุคกับทางบ้านได้ทุกคืน(พรางไฟด้วยเดี๋ยวโดนจับได้)     ลืมไปอีกเรื่อง  ยิงตอนกลางคืนด้วย  เพราะ ป.ผมยิงลูกส่องสว่างได้(BM21ไม่น่าจะยิงได้)   และเมื่อกำลังท่านลดลงและเหนื่อยล้าไปเรื่อยๆ เมื่อวัน ว เวลา น เข้าตีถูกกำหนด   พัน.ถ.ผมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว(อย่าลืมนะครับเป้าหมายที่มีอัตราการเคลื่อนที่สูง  หากเคลื่อนที่อยู่  อาวุธยิงสนับสนุนจะยิงทำลายได้ยาก  ยกเว้นมันอยู่กับที่เป็นกลุ่มก้อน) ปรับรูปขบวน ณ แนวออกตี    ทีนี้ละการยิงเตรียมจะเกิดขึ้น แต่คราวนี้ไม่ใช่ชนวนกระทบแตกไวแล้ว  จะกลายเป็น แตกอากาศเพื่อบีบให้ ถ.ท่านต้องปิดป้อมลดการตรวจการณ์ลง(ในขณะที่ ถ.ผมเปิดป้อมวิ่งเย็นสบาย เพราะ BM ยิงแตกอากาศไม่ได้)  ผสมด้วย(กรณีเข้าตีกลางวัน) กระสุนควันฟอสฟอรัสขาว(ทำฉากควันและเผาไหม้) เพื่อทำม่านขวัญบังตา ผตน.ท่าน หรือถ้าแจ๊กพ็อตก็อาจจะเผาทั้งเป็น ถ. สักคันสองคัน(เช่นกันในทางตรงกันข้าม BM21ท่านยิงฉากควัน กัน ผตน.ผมไม่ได้เลย)     ม่านควันไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม เพราะ M60A3(ไม่เอา A1มาแน่ๆ) มีอุปกรณ์ช่วยยิงผ่านม่านควันอยู่แล้ว      มาถึงตรงนี้ก็ไม่รู้ว่า BM21 ท่านจะทันได้ยิงตับ 2  ตับ 3 หรือไม่    และ หน่วย ป. ผมก็สามารถแบ่งแยกไว้คอยสำหรับยิงต่อต้าน ป.และค. ได้ ในขณะที่ BM ท่านทำอะไรหน่วยยิงสนับสนุนผมไม่ได้เลย เพราะยิงไม่ถึง  ยิ่งถ้าเป็นกลางคืน ผมยิ่งได้เปรียบหนักเลย เพราะ ป.กะเทยผมส่องสว่างสนามรบได้ แถม ถ.ผมมีกล้องเทอมอลสำหรับยิงในเวลากลางคืนเสียด้วยสิ      มาถึงตรงนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า พัน.จลก.ท่านจะหยุด ถ.ผมได้หรือไม่
  5. ลำดับความเร่งด่วนในการกำหนดเป้าหมาย ถ้าตามสถานการณ์เฉพาะข้างต้น ผมคงให้ความสำคัญกับกลุ่ม ถ. มากกว่า กลุ่ม จลก.ของท่าน   ( ผมแค่เพียงวางฉากกำบังเป็นกองรักษาด่านรบในระยะยิงของ จลก.ท่านพอแล้ว)  เพราะผมเลือกยิงได้ในระยะที่ จลก. ต่อต้านได้ยาก(อย่าลืมว่า ป.กะเทยผมก็มีล้อวิ่งได้เหมือน จลก.ท่าน)   และเลือกเวลากลางคืนเป็นหลักด้วยข้อได้เปรียบในเรื่องการส่องสว่างสนามรบของผม   หรืออาจจะเจออีกแบบด้วยลูกคลัสเตอร์บอมบ์ เอ๊ย ลูกทวิประสงค์(มันมีหัวรบย่อยต่อต้านยานเกราะด้วยนะ) ยิงโปรย เพื่อบีบบังคับให้ท่านใช้พื้นที่นั้นไม่ได้   ยิงคลุมสักกองร้อยละ 6 ตร.กม. ต่อคืนก็น่าจะพอ(เอ ฟังคุ้นๆเหมือนเคยไปยิงโปรยที่ไหนนะ)   BM มีหรือเปล่าก็ไม่รู้แฮะ  อืม หรือจะยิงโปรยใบปลิวโฆณาชวนเชื่อ แจกบ้านแถมที่ดินหากพลรถถังท่านนายไหนอยากแปลพักดี     หรือจะยิงโปรยตะปูเรือใบให้พลประจำ BM ต้องเปลี่ยนยางเล่นดีหว่า   ผมไม่ได้เผากระสุนเล่นนะ แค่เลือกแบบของลูกกระสุนให้มันเหมาะกับภารกิจก็เท่านั้น ว่าแต่ BM มีแบบลูกจรวดให้เลือกหรือเปล่าครับ
  6. หัวรบ BM 1 นัดมีน้ำหนักดินระเบิดน้อยกว่าลูกปืนใหญ่ 155 เท่าตัว BM 1 คัน 40 นัด  เท่ากับลูกปืนใหญ่ผม 20 นัด  ตรรกะง่ายๆ ของท่านยิงหมดใน 3 นาที 20 วิ ของผมยิงในเวลาพอๆกับท่านได้ประมาณ 20 นัด(คิดที่อัตราการยิงสูงสุด 3 นัด 15 วินาที)  ของผมน้อยกว่าก็จริง แต่แต่ละนัด จุก กว่า ดินระเบิดปริมาณรวมเท่าๆกัน   แถมไม่ยิงหว่านแหหมดในรอบเดียว  ของผมยิงเป็นจุดได้ดีกว่า  ยิงเป็นพื้นที่ก็ได้ไม่ต่าง   ยิ่งถ้าเสมอจนต่อเวลาออกไปอีก ผมว่า ป.กะเทยยิ่งได้เปรียบ ให้BMโหลดกระสุนใหม่ตรงที่เดิมเลย  เวลาโหลด 10 นาที ยิง อีก 20 วิ ลองคิดดูว่าในเวลาเท่านั้น ป.กะเทยผมซัลโวได้อีกกี่นัด ลดเป็นการยิงในอัตราต่อเนื่อง 6-8 นัดต่อนาทีเลยได้ประมาณ 60-80 นัด  มากกว่าจรวดตับใหม่ของท่านอีก จำนวนดินระเบิดยิ่งเท่าทวี       นี่ยังไม่นับคะแนนพิศวาสจากกรรมการด้วย ชนวนแตกอากาศ อีกนะครับ
โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/06/2012 20:03:51


ความคิดเห็นที่ 39


ชะอุ้ย ลืมเว้นวรรค ข้ออภัยหากอ่านลำบากครับ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/06/2012 20:04:50


ความคิดเห็นที่ 40


เมื่อแนวทางของกระทู้มาแนวนี้ ผมก็ขอเล่าให้ฟังนิดนึงนะครับ

ผมได้มีโอกาสฟังจากปากของนายทหารปืนใหญ่จังหวัดลพบุรีกองพันหนึ่ง(ขอไม่เอ่ยนาม) ที่ได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในในเหตุการณ์ที่ชายแดนไทย-เขมรที่ผ่านมา  

เรื่องรถถัง T-55 ถูกยิงทำลายหลายๆคัน รวมถึงทำลายBM-21ได้ด้วย เป็นเรื่องจริง เพราะทหารปืนใหญ่ฝ่ายเราใช้ทั้ง UAV , ใช้เรดาห์ค้นหาเป้าหมาย และคำนวนพิกัดเพื่อยิงสวน, รวมถึงผู้ตรวจการณ์หน้าแทรกซึมไประบุพิกัดได้อย่างชัดเจน รวมถึงเล็กพริกขี้หนูอย่างปรส. ที่ไม่มีใครพูดถึงเลย เมื่อระบุพิกัดชัดเจนแล้วก็จัดหนัก จัดเต็ม 

ใช่ครับ ลูกปืนใหญ่ 105 ลูกเดียวถ้ายิงไม่ลงตรงเป๊ะๆ มันน็อคยานเกราะอย่างรถถังไม่ได้ 

แต่ยิงจริงๆ เค้าก็ยิงจนเป้าหมายโดนถล่มราบนั่นแหละครับถึงจะหยุดยิง 

อีกอย่างหนึ่งคือเราได้เปรียบในสภาพภูมิศาสตร์หลายๆจุดด้วย ทำให้หลายๆครั้งเราเห็นพวกนั้นก่อน 

ฝ่ายเราตั้งฐานปืนใหญ่หลายฐานมาก นี่ยังไม่นับอัตราจรนะ ผมได้มีโอกาสดูคลิปที่นายทหารท่านนี้ถ่ายตอนตั้งฐานมา แบบว่า ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่ที่ผมเห็นในคลิปมันจะตั้งฐานยิงปืนใหญ่ 105 ได้ (ทหารไทยซุ่มเก่งมาก)

แต่เขมรหาไม่เจอ เลยแอบให้ชาวบ้านมาหาพิกัด  

ในข่าวที่จับสายลับได้ พวกนั้นนั่นแหละที่มาตามหาฐานปืนใหญ่เรา

เขมรมียิงสวนมาบ้าง แต่ก็ไม่ทันเรา เราก็ย้ายปืนหนีแล้ว วิธีนี้ทำให้เขมรเป็นรองเราตลอด เราสามารถคุมเกมได้ตลอดเวลา แถมเรายังยิงสวนเข้าเป้าได้หลายอีก 

จรวดbm-21 ของเขมรส่วนใหญ่ยิงสุ่มกวนโอ้ยอย่างเดียว  ลงหลังคาชาวบ้านซะเยอะ แล้วคอยดูนักข่าวไทยรายงานในtvว่าไปตกตรงไหน เวลาเท่าไหร่ ทำได้เเค่นี้จริงๆ

แต่ที่นายทหารปืนใหญ่ท่านนี้ชื่นชมจริงๆคือปืนใหญ่ซีซ่า ที่ใช้กระสุนต่อระยะ ทำให้มีระยะยิง 40-50 ก.ม.+ โดยมีความรุนแรงและมียังความแม่นยำสูงมาก จะพูดชื่นชมประมาณว่าเป็นพระเอกงานนี้ ท่านประทับใจมาก รวมถึงเด็กวัยรุ่นแถวๆนั้นที่มาช่วยขนลูกปืนใหญ่105ด้วย ลูกนึงหนัก 40 กว่าโล มาทีละหลายๆคันรถ มีให้ยิงเหลือเฟือขนาดทหารยังขนกันไม่ไหว ต้องให้เด็กวัยรุ่นหนุ่มๆแถวนั้นมาช่วยขนเลย แล้วรูปแบบที่เขมรใช้ในการรบกับเรามันจะไปเหลืออะไรครับ 

ความจริงอยากเล่าให้ลงรายละเอียดมากกว่านี้ แต่คงไม่เหมาะ 

ปืนใหญ่คือราชาแห่งสนามรบ 

โดยคุณ min_linkin เมื่อวันที่ 27/06/2012 20:51:08


ความคิดเห็นที่ 41


กรรม ถูกลบความเห็นเลย สงสัยจะสุ่มเสี่ยงมากไป ขออภัย วมต. ด้วยครับ

โดยคุณ Mazda เมื่อวันที่ 28/06/2012 02:11:08


ความคิดเห็นที่ 42


ถ้าข่าวเป็นจริง  เราเผด็จศึกเขมรได้ด้วยความได้เปรียบเชิงปริมาณสิครับ................ถ้าท่านเล่นขนปืนใหญ่ไปเท่ากับจำนวนรถถังข้าศึก ท่านก็เป็นต่อด้านปริมาณเข้าไปแล้วถึงสามหนึ่ง  แล้วท่านจะมาบอกว่าเก่งกว่าได้ยังไง ?   ผมเชื่อว่าการรบครั้งนี้เราขนปืนใหญ่เข้าไปมหาศาล จำนวนการยิงในรอบไม่กี่วันผลาญกระสุนเป็นหมื่นนัด ท่านย้ายเข้าไปหลายกองพันหลายกรม  อันนี้ข่าวไม่เคยปรากฏ ไม่เคยเห็นภาพปืนใหญ่เลย จะมีก็เห็นรถถังวิ่งเข้าไปเท่านั้น แน่นอนอันนี้คงต้องเป็นความลับสุดยอด.....................เขมรมีรถถังอยู่ราวสองร้อย หรือถ้าจัดแบบนาโต้ก็คงได้สี่กองพัน ถ้าท่านเล่นขนปืนใหญ่ไปสักสี่กรม หรือสักสองร้อย มันก็ป้อมปืนนวโลนดีๆนี่กระมังครับ.......................... ถ้าเล่นกันดุ้นๆแบบแฟร์ๆ เขมรมีจำนวนที-55 ด้วยจำนวนหน่วยที่เท่ากันคือ สี่กรม หรือ สัก ห้าร้อย ถ้างี้ก็น่าจะสูสี จำนวนสูญเสียกับความสำเร็จในการเข้าตีคงพอรับได้ อาจเหมือนสงครามดวลกันระหว่างปืนใหญ่กับรถถัง กรณี ท่านนายพล รอมเม่น ก็ได้...................มีต่อ เด๋วต่อกันเรื่อง จรวดกะท่านเอฟดับบลิว

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 28/06/2012 09:43:18


ความคิดเห็นที่ 43


ในสงครามร่มเกล้าปืนใหญ่เราไม่แม่นหรืออย่างไรครับ.....................เห็นทุกเนินเตียนเป็นเขาหัวโล้น ไม่ทราบโดนร้อยห้า ร้อยห้าบห้าเข้าไปกี่ห่า คงไม่แม่นเฉพาะยี่ห้อซีซาร์กระมังครับ....................ที่กล่าวมานี้คืออยากให้ลองพิจารณาอำนาจการทำลายล้าง กรณีข้าศึกอยู่ในที่ตั้งกันบังมิดชิด............................. คราวนี้มาต่อ กณีเกมส์ของเรา...............

ผมให้เส้นเขตแดนเป็นจุดกึ่งกลาง เราอยู่ห่างจากแนวเขตแดนคนละยีบห้า นั่นเป็นแนวตั้งรับของท่านและผม แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ที่ท่านต้องใช้ระยะยิงที่ได้เปรียบในการริดรอนกำลังของผม.........................ในด้านผม กองพันทหารราบทั้งสาม กระจายกันอยู่บนเนินต่างๆในคูเหลตที่มิดชิด   ส่วนจรวดบีเอ็มกับรถถังของผมไม่ต้องพูด ผมคงเข้าที่ซ่อนลับไม่เปิดเผยที่ตั้งให้เป็นเป้าลูกยาวท่านดอก.................................... การยิงปืนใหญ่วิถีโค้งไม่เห็นที่ตั้งใช้การเล็งจำลอง  ท่านต้องรู้พิกัด ทั้งมวล งานข่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  .....................แต่ ท่านมี ดาวเทียม ยูเอวีสอดแนมอยู่ด้านบน  เช่นนี้ย่อมได้เปรียบเป็นอันมาก   การเคลื่อนย้ายที่ตั้งของพันถอ และ พันจอของผมคงก็อยู่ในการเกาะความเคลื่อนไหวท่านอย่างจดจ่อ  แหม่มีของไฮเทค  อันนี้ลางหายนะเริ่มปรากฏ แต่ยังไงก็ตามเพื่อความอยู่รอด การซ่อนพลางและการเคลื่อนย้ายที่ตั้งเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้เพื่อชัยชนะ................. ในขณะเดียวกัน ทั่วบริเวณการรบย่อมมีหน่วยสอดแนมทั้งสองฝ่ายกระจายหาข่าวกันยั๊วะเยี๊ยะ  การยิงปืนใหญ่เพื่อหวังผลต่อที่ตั้งกองทหารราบน่าจะมีความแม่นยำ เพราะท่านคงส่ง ผตน.เกาะติดเช็คความแม่นอยู่ไม่ไกลนัก.................................. ระหว่างนั้นแน่นอนที่สุด หน่วยยานเกราะของท่านต้องเคลื่อนที่เพื่อปิดระยะ แต่ก็ยังรั้งรอไว้เชิงที่จะไม่สุ่มเสี่ยงเข้าที่ตั้งในระยะยิงของจรวดผม ลูกยาวของท่านก็เริ่มขยับปิดระยะเข้ามาด้วยเช่นกัน   การเคลื่อนไหวของท่านอยู่ในการติดตามของผมตลอดเวลา.................................

ผมชักเริ่มร้อนแล้ว  กำลังยานเกราะท่าน สามกองร้อยรถถังท่านกระจาย  เข้าจุดรวมพล ทำท่าจะรุกข้ามเส้นเข้ามา.......มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 28/06/2012 10:00:30


ความคิดเห็นที่ 44


อคติในใจคน ทำให้ดันทุรังไปเรื่อย ประเด็นจริงๆมันไม่ได้มาจาก ซีซ่าร์ หรือ BM-21 หรอก

โดยคุณ poisonremain เมื่อวันที่ 28/06/2012 10:14:44


ความคิดเห็นที่ 45


ผมคิดว่ายุทธวิธีการรบรูปแบบต่างๆ และอาวุธแต่ละประเภทก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดอยู่ในตัวมันเอง ขึ้นอยู่ที่การเลือกใช้ยุทธวิธีกับอาวุธแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพภูมิศาสตร์มากกว่านะครับ 

 

 

โดยคุณ min_linkin เมื่อวันที่ 28/06/2012 10:43:28


ความคิดเห็นที่ 46


แหม่..........กรณีนี้จะดีมาก ถ้ามผมมีปืนใหญ่ร้อยสามสิบสักแม้เพียงกองร้อยกดดันปืนใหญ่ท่าน  เช่นนั้น พันถอ พัน จอ ของผม คงได้ใช้โอกาสความเป็นต่อ แต่ดันเขียนโจทย์ ร่างรัฐธรรมนวยบีบตัวเอง ตอนนี้ต้องหาวิธี เค้นความได้เปรียบออกมาใช้ให้ได้.................... แต่อย่าลืมนะครับ หนึ่งกองพันซีซาร์ของท่าน ๑๘ กระบอกติดภารกิจยิงกดดัน  ท่านมีหน้าปะทะด้วยสามกองร้อยรถถัง ขณะที่ผมมีหน้าปะทะขนาดเดียวกับกัน  บีเอ็มผม ยกเลิกภารกิจยิงกดดัน แต่ตอนนี้กำลังจะเป็นหมัดเด็ดเพื่อน็อคพันถ.ของท่าน  ผมใช้กำลังส่วนนี้ตามภากิจที่ไดรับออกแบบ คือโจมตีโฉบฉวยแบบหวังผล เข้าเร็วออกเร็ว .................มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 28/06/2012 11:03:21


ความคิดเห็นที่ 47


การยิงรบกวนของท่าน ยังคงสร้างความวุ่นวายอยู่ไม่น้อย ตอนนี้ท่านคงหมดลูกปืนไปแล้วสักสองกุรุด ...............กองร้อยถ.และ จ. ของผมเห็นทีต้องเริ่มขยับออกบ้างแล้ว  การเคลื่อนที่เข้าที่ตั้งใหม่ ในภูมิประเทศที่กว้างขวาง ด้วยจำนวนการยิงหวังผลจากปืนใหญ่สิบแปดกระบอกต่อหกกองร้อยที่มีอัตราเคลื่อนที่ร้อยเปอร์เซนต์ การยักย้ายถ่ายทำเลน่าจะอยู่ในสถานการที่ทำได้แต่คงต้องวุ่นวายในการหาที่ตั้งใหม่บ่อยๆ ตราบที่การข่าวของท่านดำเนินไปอย่างเข้มข้น.......................   การกระจายออกด้วยกลุ่มก้อนปริมาณน้อย น่าจะเป็นผลดีกว่าการรวมกลุ่มเพื่อรวบอำนาจการยิงกลุ่มใหญ่ๆ   ถึงตอนนี้ปืนใหญ่ท่านอาจต้องรับบทบาทจับปูใส่กระด้ง ความอยู่รอดของผมคือการเคลื่อนที่ตามประสามวยสั้น คือถ้ายืนอยู่เฉยๆก็คงถูกน็อค.....................................มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 28/06/2012 11:21:11


ความคิดเห็นที่ 48


ป๊าดดดดด ...  กระทู้นี้ยาวมาก  ขอบคุณทุกท่าน ทุกความเห็น น่ะครับ

ผมมองว่า เป็นการเสวนา มากกว่าความขัดแย้ง .. ทำให้คนนอกอย่างเราได้มีความรู้เพิ่มขึ้น

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 28/06/2012 12:25:55


ความคิดเห็นที่ 49


ตอนที่ไทย รบกับเขมร .. เท่าที่ผมทราบ งานนี้เราชนะในสนามรบทุกครั้ง ทหารไทยสามารถละลายข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก

แต่ ถ้าฟังจากข่าวสาร ไม่ว่าทั้งสื่อไทย หรือ สื่อต่างชาติ .. ผมว่า วิธีการสร้างข่าว หรือ กระจายข่าว ผมคิดว่า ผู้นำไทย

เป็นรอง ฮุนเซน ทุกด้าน .. ผมเห็น ฮุนเซน แหกปากร้องประกาศทุกครั้งที่รบกัน เช่น พอลอบยิงไทยเสร็จ ก็ ประกาศว่าทหารไทยยิงก่อน

พอทหารไทยตอบโต้ไปหนักๆ ก็ แหกปากบอกชาวโลกว่าไทยใช้ระเบิดพวง  ..  และ ที่แหกปากร้องอีกนานับประการ

แต่ ทุกครั้งที่ ฮุนเซน แหกปากฟ้อง สำนักข่าว ทั้งไทย และ ต่างประเทศ พากันลงข่าวฮุนเซนกันหมดเลย กลายเป็นว่า

ฮุนเซนพูดก่อน  แล้ว ฝ่ายไทยค่อยพูดแก้ตัว ซึ่ง ดูแล้วน้ำหนักฝ่ายไทยเหลือเพียงนิดเดียว

.. เคยได้ยินว่า วิธีรบน้ำลาย แบบที่ฮุนเซนใช้  เค้าเรียกว่า  Pro Active   ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ ว่ามันหมายความว่าอย่างไร เพราะผมไม่ใช่ทหาร

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 28/06/2012 12:40:16


ความคิดเห็นที่ 50


อย่ามองว่าเราเป็นคุณพระ ซื่อใสบริสุทธิ์นักสิครับ................... ไทยนี่แหล่ะ ลูกเล่นแพรวพราวที่สุดแล้ว ไม่งั้นจะรอดปากเหยี่ยวค่าปฏิกรรมสงครามมาได้หรือครับ............... พม่าต้องย้ายเมืองหลวงใหม่ หามิกมาใช้เป็นฝูง ก็ไม่ใช่ลูกอึนตอนท่านสุรยุทธเหรอครับ

มาต่อเรื่องจรวด ผมไปกินข้าวนั่งเงียบจนเพื่อนๆมันแปลกใจ จริงๆ ตอนนี้ผมกำลังเป็นเสธฯหน้าคอม พวกมันไม่รู้..............................ต่อเลยนะครับ.................การกระจายออกเพื่อความอยู่รอดของพันจอ ไม่ทำให้ผมสูญเสียอำนาจการยิงไปเท่าใดนัก จรวดสามารถประสานการยิงจากคนละที่ได้หากแต่ผลการยิงอาจกระจายออกไปบ้างแต่ก็คงพอรับได้..........................ถึงเวลานี้รถถังของท่าน แยกออกเป็นสามกองร้อย น่าจะรุกคืบเข้ามามาก รถถังผมยังหลบอยู่ในที่กันบัง  แต่กองพันปืนใหญ่สิบแปดลำของท่านที่ตั้งหลักยืนซดอยู่ คงไม่สามารถมั่นใจได้เต็มร้อยว่า จะไม่มีหน่วยจรวดเล็ดลอดเข้าไปพัวพันกับหน่วยยานเกราะท่าน....................เมื่อถึงตอนนั้น การเคลื่อนมาอีก คงเลี่ยงไม่ได้ที่ผมจะต้องเข้าแลก  สามร้อยถ.ของผมออกจากที่ตั้งเคลื่อนไปตามภูมิประเทศ    ......................... รถถังฝ่ายละห้าสิบคัน ออกจากที่ซ่อนรวมพล เริ่มปรับรูปขบวนเพื่อผ่านแนวออกตี  ปืนใหญ่ ของท่านระดมยิงสนับสนุนเป็นระยะ  ซึ่งน่าจะเป็นเวลาพอดีกับจรวดทั้งหมดของผม เข้าที่ตั้ง(ลับ) ระดมสาดจรวดตรงไปยังกองรถเกราะของท่าน แล้วถอนตัวออกอย่างเร่งด่วน  การย้ายที่ตั้งยิงทำได้อีกสองสามครั้ง    ตอนนี้ปืนใหญ่ของท่านต้องจับปูสองด้าน ทั้ง รถถัง และ จรวด .................... ถึงตรงนี้นี่แหละ  เป็นตัววัดแล้วว่า ปืนใหญ่ยิงเร็วสิบแปดกระบอก (ซึ่งเป็นผม คงไม่เลือกวิ่งปุเลงๆย้ายที่ตั้งให้เมื่อยตุ้ม ปักหลักซัดนี่แหล่ะ กระสงกระสุนก็กองไว้พะเนิน) กับจรวดหนึ่งกองพัน ที่ปล่อยไม้เด็ดหมดลำได้ไม่กี่นาที แต่ต้องย้ายที่ตั้งยิงใหม่ไปเรื่อยๆ ใครจะแน่กว่าใคร     จบ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 28/06/2012 13:44:44


ความคิดเห็นที่ 51


ชาวบ้านอย่างผม.....เลือกซีซาร์

 

มากกว่า BM21.........

ซีซาร์สู้ๆ ซีซาร์สู้ตาย ซีซาร์ไว้ลายสู้ตายสู้ๆ

........ฮิๆทหารจริงๆก็รู้อยู่ว่า ในคราวที่ผ่านมาใครเจ็บ(ก็ขแมร์ไงหละ....)

โดยคุณ jaidee เมื่อวันที่ 28/06/2012 14:05:40


ความคิดเห็นที่ 52


ถกกันมาตั้งยืดยาว ด้วยพื้นฐานของความรู้เเละหลักความน่าจะเป็นในใจของเเต่ละคน ถ้าจะต่อไปก็คงได้ไม่รู้จบ

สงครามจริงๆตัวแปรมีมากมายให้เปลี่ยนเเปลงตลอดเวลา

คนที่รู้ผลของการปะทะจริงๆก็พูดได้ไม่เต็มปาก

โดยคุณ parachutes เมื่อวันที่ 28/06/2012 14:07:18


ความคิดเห็นที่ 53


ถ้าอยากจะรู้ว่า ซีซ่าร์เป็นรอง BM 5ขุมจริงหรือไม่ ต้องดวลกันตัวต่อตัวถึงจะถูก เพิ่มให้อีกก็ได้แต่ละฝ่ายมีผู้ตรวจการหน้า หรือ UAV ให้สองฝ่ายรู้ที่ตั้งของแต่ล่ะฝ่ายตลอดเวลาแบบนี้ถึงจะเรียกว่า เปรียบเทียบกัน

โดยคุณ ranger เมื่อวันที่ 28/06/2012 14:40:44


ความคิดเห็นที่ 54


แหะๆ......ท่าน ถ้ายังงั้น ยังไง บีเอ็มก็ไม่เป็นต่อ โจทย์นี้ไม่ต้องซีซ่าร์หรอกท่าน ถ้ามีผตน หรือการติดตามเป้าหมายต่อเนื่องขนาดนี้ เอ็มหนึ่งเก้าแปดอยู่ในฐานบีเอ็มก็เข้าไม่ติดแล้ว.................  ................ ผมเอารถถังเข้ามาเกี่ยวด้วยก็เพื่อจะให้เห็นความเป็นต่อ ในเรื่องความชุกในการยิงของจรวดที่มากกว่าซีซาร์มากมายนัก  ซึ่งคอนเสป อาวุธทั้งสองเป็นประเภทเดียวกันคือ อาวุธโจมตีโฉบฉวย  ต่อเป้าหมาย  เอามาดวนกันเองมันก็แปลกๆ.............................................. หรือจะลองอย่างนี้  ทะเลทรายเวิ้งว้าง สองฝ่ายห่างกันยีบห้าโลทั้งคู่อยู่ในท่าเคลื่อนย้าย  เป่านกหวีด ซีซาร์กางฐาน บีเอ็มวิ่งรี่เข้าหา เข้ารัศมีระยะ กางฐานฟาดกัน ซีซาร์หนึ่งกระบอก บีเอ็มหนึ่งคัน..............................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 28/06/2012 15:14:39


ความคิดเห็นที่ 55


เป็นเรื่องที่ดีครับ จะได้ทราบถึงยุทธวิธี   วิธแก้เกมแบบต่างๆ   

อย่าลืมว่า ถ้ารบกัน เขาคงไม่บอกกันว่าจะขนอะไรไปที่ไหนเมื่อไหร่ ยังไง จริงไหมคับ  

แค่ขับเครื่องบินเล่นๆ ก็คิดกันไปไกลละ 

โดยคุณ hs3mmq เมื่อวันที่ 28/06/2012 16:56:22


ความคิดเห็นที่ 56


ผมว่าที่ได้เปรียบเพราะระบบการทำสงครามเราดีกว่าครับ การข่าวเราดีกว่า ระบุตำแหน่งได้ดีกว่า ด้วยหลายๆเงื่อนไขทำให้พระเอก เด่น เป็นของซีซ่าร์ โดยส่วนตัวผมให้เครดิตระบบการข่าวมากกว่า เช่น uav ผู้ตรวจการหน้า หรือระบบเรดาร์หาวิถีกระสุน ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถเดินเกมตามที่ได้เปรียบได้ ซึ่งถ้าเราการข่าวไม่ดี ตอนนี้พระเอกอาจเป็น BM21 ก็ได้ครับ

โดยคุณ nok43 เมื่อวันที่ 28/06/2012 17:10:23


ความคิดเห็นที่ 57


  สนุกจังครับ ได้ความรู้ดี  เสนอปักหมุดเลยครับ  (นี่ถ้าเราน่าแบ่งกันสองฝ่ายแล้ว  เสนอยุทธวิธีจำลองการรบกัน ท่าจะสนุกไม่ต่างจากหนังสงคราม)  นี่ถ้าเพิ่มโจทก์เข้าไปอีกหน่อย  ฝ่ายนู้นมี ปืนใหญ่ 130 เสริมอีกหน่อย ฝ่ายเรามี dti เพิ่มอีกสักคัน คงมันส์น่าดู เห้อๆ

โดยคุณ got เมื่อวันที่ 28/06/2012 17:14:59


ความคิดเห็นที่ 58


ถึงคุณ  FW190  นะครับ(ดูรายการ เจาะข่าวตื้น มากไปหน่อยเลยติดวอนเท้ามาด้วยเลย ไม่โกรธกันนะครับ)

1.ผม กล่าวเหตุการณ์ทั้งหมดในกรณีไทยเขมร นะครับ จริงๆผมก็งูๆปลาๆไปเลื่อยอะครับ เรื่องเป้าหมายหลัก เป้าหมายรอง มีภารกิจด้วย ก็ภารกิจหลักแล้วมันก็ต้องมีภารกิจรองด้วยอะดินะ จะมีรูปแบบไหนยังไงจะเรียกอะไรก็ตามแต่(ประมาณว่าผมยอมแพ้อะ งงศัพย์เล็กศัพย์น้อย จริงๆปกติคนธรรมดาเค้าอ่านกันก็น่าจะเข้าใจตรงกันอะนะ) เอาเป็นว่าขอถามซักหน่อยนะครับ  เอาเป็นสถานการณ์ที่เริ่มยิงกันแล้ว ปืนสนับสนุนยิงกันนัว สมมุติมีปืนใหญ่อยู่กองเดียวครับที่มีระยะยิงถึงและยิงได้ว่างั้น(รุ่นไหน อะไรก็แล้วแต่)ไม่มีการรบกวนจากข้าศึก หน่วยสอดแหน่มเจอ T-55 กับ BM-21 อยู่คนละที่ เจอพร้อมกัน จะยิงอะไรก่อนอะครับ? (ให้อยู่ในภารกิจยิงก้อนหินดินทรายด้วยก็ได้นะ แถมให้อัตราสัมฤทธิ์ผลเท่ากันด้วย แบบว่า BM-21 ติดเกราะจอดในภูมิประเทศเดียวกัน) ผมก็ไม่รู้ด้วยหลอกนะครับว่ามันจะมี ภารกิจยิง T-55 หรือภารกิจยิงก้อนหินดินทรายอะไรหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆกรณีไทยเขมร ฝ่ายเรา(กองทัพไทยอะ)มีภารกิจยึดครองรักษาพื้นที่ควบคุมใช่ไหมอะครับ(ฝ่าย เราอันนี้คือทหารทุกหน่วยที่ไปอยู่ตรงนั้นอะ ทุกคนที่ทำให้การสู้รบเดินต่อไปได้มี ภารกิจหลัก เป้าหมายหลัก หรือจุดมุ่งหมาย หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ คือรักษาพื้นที่ควบคุมใช่ไหมอะครับ ส่วนจะแยกย่อยกระจายการทำกิจกรรมใดๆให้ใครบ้างในรูปแบบภารกิจ ก็สุดแล้วแต่)จะรักษาพื้นที่ควบคุมยังไงก็ว่ากันไปตามกำลัง แต่ที่แน่ๆคือต้องทำให้มันเป็นพื้นที่ปลอดภัยอยู่ในการควบคุมจัดการของฝ่าย เรา  สรุปจากข่าวไม่ลือที่ทั่วทั้งโลกเค้าเห็นเหมือนกันหมดก็คือ มีเป้าหมายอยู่ 2 อันเด่นๆที่ก่ออันตรายแก่ฝ่ายเราคือ ที่เห็นๆก็ BM-21 มันทำให้พื้นที่ควบคุมฝ่ายเราไม่ปลอดภัยในวงกว้างเห็นๆอะ และทหารราบก็ด้วยแต่มันวงแคบๆในแนวหน้าหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นภัย(ความ สำคัญรองลงมาจาก BM-21 เพราะกองทัพไทยบอกเสมอว่าประชาชนต้องมาก่อน...มั่ง) ที่เหลือก็เป็นการสนับสนุนการรบ อีกอันคืออยากถามว่า ถ้า BM-21 มันไม่ใช่เป้าหมายหลักของฝ่ายเราที่มีหน้าที่รักษาพื้นที่ในกรณี ไทยเขมร แล้วจริงๆเป้าหมายหลักคืออะไรอะครับ?(ติงต่างว่าภารกิจคือการกระทำ แล้วเป้าหมายคือคนสัตว์สิ่งของ ถ้าภารกิจหลักของกองทัพในกรณีไทยเขมรคือรักษาพื้นที่ควบคุม แล้วเป้าหมายหลักคือทำลายยับยั่งภัยคุกครามที่มีต่อพื้นที่ควบคุมของเราใช่ ไหมอะครับ?) อีกอันอะ สมมุติว่า ผมมีภารกิจยิงก้อนหินดินทรายอยู่แล้ว เห็นรถบรรทุกระเบิด(พลีชีพของข้าศึก)วิ่งไปฐานทัพหรือพื้นที่ควบคุมของฝ่าย เราทั่งที่สามารถยิงได้ก็ปล่อยไปได้หรือครับ(ไม่ใช่ภารกิจตรูนิ) หรือติดต่อขอการสนับสนุนไม่ได้ก็ปล่อยไปอีกหรือครับ(ติดต่อแล้วไม่ได้ก็ถือ ว่าซวยไป) เพื่อนตาย ฐานแตก แต่ภารกิจสำเร็จคิดว่าคงไม่มีใครชมหลอกอะครับ(เหมือนเคยได้ยินคำคมในเรื่อง Saving... ตอนที่ไปตีลังปืนกลใต้ฐานเรดาห์ ที่หมอตายอะ ที่บอกว่า จุดหมายหลักก็คือชนะสงคราม น่าจะเหมือนกรณีข้อนี้อะ ไปเปรียบกับหนังมันก็แปลกๆแหะ)

2.จะ กลไกหรือจุดยืนหรืออะไรก็แล้วแต่อะ ครับ(เพราะผมพูดถึงกรณีไทยเขมรอยู่แล้ว) ทำให้เขมรได้เปรียบยิงเราก่อนเสมอ ผิดหรือครับ ก็ผมเขียนถึงกรณีไทยเขมรอะ

3.อันนี้ผมอยากถามอันอะครับ Real Time ที่สุดนี้ มันก่อนการยิงด้วยเปล่าอะครับ(แต่หลังคำสั่งยิงอะ)

4.เอ๊ะ อะก็ต้องพูดถึง BM-21 อะครับ เพราะผมเขียนชัดๆนะครับว่า ให้คะแนนในการสังหาร จะมาบอกว่าการยิงก้อนหินดินทรายจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่เป็นคะแนนสังหาร ด้วย มันก็แปลกๆใช่ไหมอะ(เหมือนเคยเขียนไปแล้วแหะ)

5.อันนี้ผมงงอะ เอาเป็นว่าผมเขียนไม่ได้ใจความเองก็แล้วกันอะครับ ภาษาอาจวัยรุ่นไปหน่อยขออภัยอะครับ

 

ปล.เห็น ท่าน กบ ยกมวยคู่ BM-21 แถม T-55 VS. Caesar แถม M-60A3(A1 ก็ไม่เอาเนอะ) ดูแล้วจะต่อให้ทาง BM-21 กับ T-55 มากไปอะเปล่าครับ(รุ่นปู่รังแกหลานชัดๆ)

อีกอัน ถ้าจำไม่ผิด ทหาร 3 จังหวัดใต้ของเรากับพวก ตชด. (ปี 54 มั่ง)เค้าเบิกปืนลูกซองไปหลายพันกระบอกเพราะนิยมพกปืนลูกซองไปด้วยทำไมอะ ครับ ใช่เพราะภูมิประเทศบ้านเรา เป็นป่าเป็นเขามีที่กำบังจากการตรวจการณ์ทางอากาศ และหน่วยทหารราบที่ดีหรือเปล่า ระยะในการปะทะจึงลดลงมาก(ประมาณเดินจะมาชนกันยังไม่รู้ตัว) จึงต้องใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพในระยะใกล้ และยิงสุ่มได้ดีกว่า(ตักกะWW2 ยิงเป็นกลุ่มกระสุน) ไม่ได้จะเทียบรถกับคนหลอกอะ แต่ถ้าเกิดกรณีพิสูจน์ทราบเป้าหมายไม่ได้แล้วทำไงอะ

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 28/06/2012 17:33:35


ความคิดเห็นที่ 59


อ่านสนุกดีครับ และได้ความรู้เยอะเลย มีต่ออีกหรือป่าวครับ
โดยคุณ juk เมื่อวันที่ 28/06/2012 17:40:45


ความคิดเห็นที่ 60


ที่ผมให้มีแค่ BM กับซีซ่าร์ก็แค่อยากให้เปรียบเทียบประสิทธิภาพกันจริงๆครับ อยากให้เห็นกันแล้วได้ยิงกันจริงเลยให้มี uav หรือผู้ตรวจการหน้าไม่งั้นก็คงเหมือนตาบอดชกกัน สิ่งที่จะเปรียบเทียบให้คะแนะก็มีประมาณนี้ครับ

1. ความแม่นยำ

2. อำนาจการทำลาย

3. ความคล่องตัว

4. ระยะยิง

กระสุนไม่จำกัด น้ำมันไม่จำกัด อัดกันเลย

อย่าว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะออกแบบมาคนละภาระกิจนะครับเพราะมีคนเปรียบแล้วข้างบน

โดยคุณ ranger เมื่อวันที่ 28/06/2012 18:15:48


ความคิดเห็นที่ 61


กระทู้ปตอ.ผมนะเนี้ยยย...

เอาเถอะขอมั่วด้วยคน

จะว่าจรวดหลายลำกล้องอย่างBM-21 มันไม่มีดีเลยก็ไม่ได้ มันมีข้อดีแต่บังเอิญว่า คนใช้มือไม่ถึง จรวดประเภทBM-21มีหลายประเทศพัฒนาเองแม้แต่ในกลุ่มนาโต้ก็ด้วย

แต่การจะเอามาดวลระหว่างปืนใหญ่กับจรวดในอัตรา1ต่อ1 ยังไงจรวดก็แพ้

เราๆท่านๆก็ทราบดีว่าจรวดลงกระจาย ยิ่งใช้รถยิงคันเดียวลูกจรวดจะตกกระจายมาก เพราะเดิมทีระบบ แกรด(BM-21)ถูกออกแบบให้ทำลายเป้าหมายกว้างๆด้วยการยิงระดับกองร้อย สามารถสร้างความเสียหายให้พื้นที่ขนาด1สนามฟุตบอล ใช้ยิงปูพรมเปิดทางให้บุกทะลวงหรือยิงสกัดเป้าหมายกลุ่มใหญ่ๆได้ดี ถ้าฝ่ายเราตั้งปืนใหญ่แบบที่เห็นๆกันคือเรียงกันเป็นแถว อยู่รวมกันเป็นหมู่ แกรดเหมาะกว่าปืนใหญ่เพราะสามารถถล่มในการยิงทีเดียวและทำการถอนตัวไปในที่สุด ในการรบครั้งที่ผ่านมาถ้าเขมรเอาจรวดไปปูพรมใส่แนวหน้าของเรา ไม่ได้เอามาไล่ยิงปืนใหญ่ เราคงเสียหายไปกว่านี้เยอะ เรียกว่าได้ผลดีในแง่ข่มขวัญเลยทีเดียว

แต่การจะเอาจรวดที่ยิงแบบเหวี่ยงแหเพียงไม่กี่คันรถมายิงให้โดนปืนใหญ่กระบอกเดียวหรือฐานเดียวแบบจังๆ โอกาสแทบเกิดได้ยากยิ่งหากขาดการให้ข้อมูลที่ชัดๆแล้วด้วย

ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเขมรใช้ แกรดยิงทีล่ะกี่คัน แต่รัสเซียใช้กองร้อยล่ะ6-8คันซัลโวในคราวเดียว จะเรียกได้ว่าเป็นอาวุธสิ้นเปลืองก็ว่าได้ จะใช้ได้ดีเมื่อทำการยิงในปริมาณมากๆนั้นเอง เป็นแบบรัสเซียๆที่ว่าปริมาณมีคุณภาพในตัวมันเอง

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 28/06/2012 19:29:12


ความคิดเห็นที่ 62


อีกเรื่องอยู่ที่ความพร้อมและการฝึกและการสนับสนุนที่ดี หากปืนใหญ่ไม่ได้มีการข่าวชี้เป้าที่ดีก็คงไม่ต่างกัน หรือคนใช้จรวดแต่นำไปใช้กับเป้าหมายถูกประเภทก็อาจสร้างความเสียหายได้มากกว่าปืนใหญ่

..ลองคิดดูบ้างว่าหาก เขมรจัดหาเรดาห์ค้นหาปืนใหญ่จากจีนบ้าง ไม่นับเรื่องความแม่นเวลายิงสวน พี่ไทยจะปวดหัวขนาดไหน

จรวดหลายำกล้องมันมีดีในการยิงคราวล่ะมากๆต่อเป้าหมายกลุ่มใหญ่ๆ เพราะมันยังมีดีถึงทำให้หลายๆชาติในนาโต้และนอกนาโต้หันมาพัฒนาคู่กับปทนใหญ่อัตราจร เช่นเยอรมัน อิสราเอล อิตาลี เกาหลีใต้ สเปน อเมริกาเองก็เหมือนกัน สุดท้ายอยู่ที่การนำไปใช้ต่อเป้าหมาย

ไอ้จะมาเทียบประสิทธิภาพระหว่างปืนใหญ่กับจรวดมันคงเทียบกันไม่ได้หรอก แต่ประสิทธิภาพในการทำลายเป้าหมายน่ะพอเทียบกันได้

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 28/06/2012 19:38:00


ความคิดเห็นที่ 63


 

อย่างในคลิป ถ้าปืนใหญ่โดนจับเป้าได้และโดน ระดับกองร้อยถล่มผมว่าปืนใหญ่ก็รอดยาก หรือนำไปถล่มแนวหน้าคงเสียหายหนักแน่นอน

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 28/06/2012 19:44:17


ความคิดเห็นที่ 64


มีทั้งสาระและไร้สาระในกระทู้เดียวมันจริงๆตอนแรกกะว่าจะมาอ่านข้อมูลปตอ.อัตตาจรต่อกรทู้ดันกลายพันธ์ซะงั้น ฮ่าๆ

 

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 28/06/2012 20:42:23


ความคิดเห็นที่ 65


ตอบคุณ potmon ครับ

  1. ถ้าอธิบายกันจริงๆเรื่องยาวครับ   เพราะมันมีสายการบังคับบัญชา   การจัดหน่วยเข้าทำการรบมีหลายรูปแบบ หลายส่วนและหลายระดับ    สำหรับตามหัวข้อกระทู้(ที่กลายพันธุ์จาก ปตอ. เป็น ป.สนาม) ว่ากันที่ ป.สนาม ซึ่งถือเป็นหน่วยสนับสนุนการรบ     การจัดหน่วยหลักๆมี3ส่วนใหญ่ๆคือ ส่วนบังคับบัญชา ส่วนตำเนินกลยุทธ และส่วนยิงสนับสนุน  ยิ่งหน่วยใหญ่ขึ้นเท่าไร ทั้ง 3 ส่วนหลักก็ยิ่งแตกแขนงมากขึ้นเท่านั้น  ป.สนามถือเป็นส่วนยิงสนับสนุน   ซึ่งการใช้งานอาวุธยิงสนับสนุนเช่น ป.สนามนั้นจะมีหลักการใช้ใหญ่ๆอยู่ 4 อย่าง คือ  ชต.(ช่วยโดยตรง) , พย.(เพิ่มการยิง), ชร.-พย.(ช่วยส่วนรวมและเพิ่มการยิง) และ ชร.(ช่วยส่วนรวม)  ซึ่งแต่ละแบบจะแตกต่างกันไป ทั้งการบังคับบัญชา  การตอบสนองต่อคำขอยิง ฯลฯ    ยกตัวอย่าง เช่น พัน.ป. กองพันหนึ่ง ถูกกำหนดให้ ชต.(ช่วยโดยตรง) กรม.ร. กรมหนึ่ง   ผู้การกรม.ร. นั้นมีอำนาจสั่งการ พัน.ป. กองพันนั้น(ภายใต้คำแนะนำของ ผบ.พัน.ป.)   พัน.ป. กองพันนั้นจะจัดส่ง ชุด ผตน. ไปประจำแต่ละร้อย.ร.ของ กรม.ร.นั้น(ผบ.ชุด ผตน.จะทำหน้าที่เป็น นยส. หรือ นายทหารยิงสนับสนุนให้กับ ร้อย.ร. มีหน้าที่วางแผนและเสนอแนะการใช้งานอาวุธยิงสนับสนุนทั้งมวลให้กับ ผบ.ร้อย.ร.นั้น)     การตอบสนองต่อคำขอยิงเร่งด่วนอันดับหนึ่งเลยคือ จาก ชุด ผตน.ของตัวเองที่ส่งไปอยู่กับ ร้อย.ร.  คำถามต่อมาว่าถ้ามันเกิดร้องขอพร้อมกันจะยิงให้ใครก่อน

 

แผนการรบจะมีอยู่ 2 แผนใหญ่ๆคือ แผนการยุทธ และ แผนการยิง(สนับสนุน)   ในแผนการยุทธจะมีการบอกหน่วยรองของตนว่า  ใครเป็น “ความพยายามหลัก”  ใครเป็น “ความพยายามสนับสนุน” ใครเป็น “กองหนุน”  เช่นกัน แผนการยิง สำหรับแผนการยุทธนั้นก็จะมีบอกถึงเรื่องลำดับความเร่งด่วนในการยิงว่าจะมอบให้ใครก่อน กรณีร้องขอพร้อมกัน   เช่น  ในแผนการยิง  มอบความเร่งด่วนให้กับ ร้อย.อวบ. 1 , 2 และ 3 ตามลำดับ    หาก ร้อย.1 และ ร้อย.2 ร้องขอมาพร้อมกัน   จะทำการยิงให้กับ ร้อย.1 ก่อน  ส่วน ร้อย.2 ต้องคอยจนกว่าภารกิจยิงให้ ร้อย.1 จะจบภารกิจ ร้อย.2ถึงจะได้รับการยิงสนับสนุน  ในระหว่างที่ ร้อย.2 คอย ร้อย.2 ต้องช่วยตัวเองหรือหาทางแก้ปัญหาอย่างอื่นไปก่อน    ตรงนี้ว่ากันที่การยิงจาก ป. อย่างเดียวนะครับ  จริงๆรายละเอียดมันเยอะกว่านี้ เพราะอาวุธยิงสนับสนุนในแต่ละขนาดของหน่วยมีหลายแบบ การพิจารณาเลือกใช้ก็ต้องดูองค์ประกอบอย่างอื่นอีกหลายอย่าง

 

“สมมุติมีปืนใหญ่อยู่กองเดียวครับที่มีระยะยิงถึงและยิงได้ว่างั้น(รุ่นไหน อะไรก็แล้วแต่)ไม่มีการรบกวนจากข้าศึก หน่วยสอดแหน่มเจอ T-55 กับ BM-21 อยู่คนละที่ เจอพร้อมกัน จะยิงอะไรก่อนอะครับ?”

กองนี่กองอะไรครับ งั้นผมให้เล็กสุด เป็น กองร้อยปืนใหญ่ แล้วกันนะครับ   จริงๆถ้าผมถามกลับนี่ยาวแน่ เพราะจะถามว่า ไอ้หน่วยสอดแนมที่ว่ามันหน่วยอะไร กำลังทำภารกิจอะไรอยู่  ขึ้นสายการบังคับบัญชากับใคร  ลำดับสายคำร้องขอการยิงเป็นเช่นไร เพราะมันต่างกันมาก  และที่ตรวจการณ์พบ T 55 กับ BM 21 นั้นมันเป็นหน่วยสอดแนมหน่วยเดียวกันเจอ 2 เป้า หรือ 2 หน่วยสอดแนมเจอ 2 เป้า(หน่วยละเป้า) เพราะมันเกี่ยวข้องกับที่ผมอธิบายข้างต้น       แต่เอาเป็นว่า ผมสมมุติต่อให้แล้วกัน   สมมุติว่าไอ้หน่วยสอดแนมนั้นมันผ่านกระบวนการการรายงานและร้องขอจนมาจบที่ส่วนที่ตกลงใจกำลังจะสั่ง ส่วนยิง  ให้ยิงละกัน

 

อันดับแรกก่อนว่าขนาด(หรือจำนวน) ก็มีผล   การกระทำของเป้า ณ ขนาดนั้นก็มีผล  เช่น  เจอ T 55  3 คันจอดรวมกันเป็นกลุ่มก้อน  และ BM21  1 คันอยู่ในพุ่มไม้  ลักษณะนี้ จอดอยู่เฉยๆทั้งคู่ แต่เป้า T 55 คุ้มค่ากว่าเพราะสามารถทำลายพร้อมกันได้มากกว่า  เขาก็เลือกที่จะส่งคำขอเพื่อยิง T 55 ก่อน       การกระทำของเป้าก็มีผล เช่น  พบ T 55  3  คันอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน  แต่ พบ BM 21  1 คันกำลังเตรียมยิง    ลักษณะนี้ T 55 มีมากกว่าก็จริง แต่มันอยู่เฉยๆ ส่วนไอ้เจ้า BM21 กำลังจะยิง  เขาก็เลือกที่จะส่งคำขอเพื่อยิง BM 21 ก่อน       ลักษณะภัยคุกคามของเป้าหมายต่อฝ่ายเรา ณ ขนาดนั้นก็มีผล เช่น พบ T 55  3 คันกำลังยิงใส่ที่มั่นในแนวหน้าของฝ่ายเรา กับ พบ BM 21  3 คันกำลังเตรียมยิง  ในเวลาเดียวกัน    ลักษณะนี้ด้วยระยะยิงของยุทโธปกรณ์ทั้ง 2 แบบ แน่นอนว่าไอ้เจ้า T 55 มันต้องอยู่ใกล้แนว ขนพร.ของเรามากกว่าเจ้า BM21   ดังนั้นจะพิจารณายิง BM21 ก่อน  ส่วน T 55 ปล่อยให้หน่วยที่กำลังเผชิญอยู่แก้ปัญหาไปก่อน(เพราะในระยะนั้นยังมีอาวุธแบบอื่นที่จัดการเจ้า T 55 ได้)          หรืออีกกรณี  หน่วยสอดแนมนั้นพบ   T 55  1 คัน  กำลังจะเข้ามารุมกินโต๊ะตัวเอง ในขณะที่ พบ BM 21  3 คันกำลังเตรียมยิง   ลักษณะนี้เป้าหมาย BM21 คุ้มค่ากว่า  แต่เชื่อว่า ไอ้หน่วยสอดแนมนั้นมันส่งหลักฐานยิง T 55 ก่อนแน่นอน  หลักฐานยิง BM21  ยังไม่ส่ง    ตรงนี้คือตัวอย่างคร่าวๆนะครับ 

 

สรุป คุณเข้าใจหรือยังว่าจะยิง  T 55 หรือ BM21 ก่อน และอะไรเป็นเป้าหมายหลัก(ในแง่ของส่วนที่เข้าทำการรบนะครับ ไม่ใช่ในแง่ของคุณ)

 

  1. ที่ผมบอกผมหมายถึงความได้เปรียบในเรื่องใครยิงใครก่อนนั้น มันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ในกระทู้นี้  เพราะมันมีปัจจัยอย่างอื่นอีกหลายด้าน   ถ้าพูดกันต่อไปก็ไม่พ้นการเมืองซึ่งขัดต่อกฎของเว็บอยู่แล้ว     ในทางทหารยังไงเราก็อยากที่จะเป็นฝ่ายยิงก่อน ถ้าในคำสั่งมันรองรับ  เป็นผมผมก็จะสั่งยิงก่อนถ้าพิจารณาแล้วว่าเป็นภัยคุกคามเด่นชัด  ถ้าในตัวคำสั่งให้อำนาจในการตัดสินใจ   เช่น  ยิงได้ทันทีเมื่อตรวจพบโดยไม่ต้องขออนุมัติ
  2. การพัฒนาบัญชีเป้าหมายให้Real Time ที่สุดในความหมายของผมคือ เป็นข่าวกรองล่าสุดที่ยืนยันแล้วครับ  ซึ่งกรณีนี้เป็นการยิงตามแผนการยิงที่วางไว้ล่วงหน้า ซึ่งเราพิสูจน์ทราบเรียบร้อยแล้ว  ถ้าสั่งยิงตามแผนก็จะยิงตามหลักฐานในบัญชีเป้าหมายนั้น  แต่หลังจากยิงไปแล้ว ถ้ามีการส่งแก้หลักฐานล่าสุดเข้ามาก็จะปรับแก้ตาม      บัญชีเป้าหมายเป็นไกด์ไลน์เบื้องต้น  แต่ถ้าเป็นการยิงในลักษณะที่มีผู้ส่งหลักฐานคำขอยิงมาให้ เพื่อยิง ตรงนี้ Real Time ที่สุด    งงไหมครับ
  3. แล้วคุณรู้หรือครับว่า ใครสังหารใครได้เท่าไร  และไม่ต้องถามผมกลับนะครับว่าผมรู้หรือไง  เพราะผมบอกไปแล้วว่าข่าวลือ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่    แต่ถ้าเป็นข้อเท็จจริงเลย คือ อาวุธยิงสนับสนุนเราไม่มีสูญเสียจากการโดนอาวุธยิงสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามยิงทำลาย     ผมไม่ได้บอกนะครับว่าผมนับการยิง หิน ดิน ทราย เป็นคะแนนสังหาร   ผมแค่อยากจะสื่อว่า เรามองที่ภารกิจอันดับแรกครับ  ก็เหมือนที่ผมบอกว่า ยิงจนเขาเงียบเสียง ตรงนี้ผมอาจจะพูดคลุมเครือไป  แต่ในความหมายของผมหมายความว่า เรายิงจน ผตน. ยืนยันว่าเป้าหมายถูกทำลาย,ล่าถอยจนสุดระยะยิงของเรา  เพราะทั้งคู่หมายถึง ภัยคุกคามจากเป้าหมายไม่มีแล้ว  เราจบภารกิจยิงนั้นแล้ว      ในทางเดียวกัน  หากเรายิงข่มฉับพลัน เพื่อเปิดโอกาสให้เราทำอะไรสักอย่าง ตรงนี้ถึงแม้จะสังหารอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าเราได้สิ่งที่เราต้องการในการเปิดโอกาสนั้น ก็ถือว่า สำเร็จภารกิจ เหมือนกัน

 

ก็ในเมื่อเขาไม่ได้กำหนดนี่ว่าเป็น M60 A อะไร  เรามีทั้ง A1 และ A3  ให้ผม 1 กองพัน ผมก็เลือก A3สิครับ เพราะมันมีระบบสำหรับยิงกลางคืน ผมจะโง่ไปเลือก A1 ทำไมละครับ  ถ้าคุณเลือกได้แล้วเลือก A1 ก็เรื่องของคุณสิครับ

 

ถ้าบอกว่าเลือกลูกซองเพราะจะเอามายิงสุ่ม ก็ คิดผิดแล้วละครับ    ปืนลูกซองมีข้อดีอย่างไรก็ใช้งานข้อดีของมันตามแต่ละภารกิจครับ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 29/06/2012 05:56:53


ความคิดเห็นที่ 66


อ่านไม่ทันหลายคำตอบ  แต่เชื่อว่าน่าจะมีคนสงสัยว่า  ในเมื่อรถถังมันมีเกราะหุ้มแล้วกระสุน ป. มันจะยิงทำลายได้หรือไม่         รถถังมีเกราะหุ้มจริงแต่ความหนาของเกราะในแต่ละส่วนไม่เท่ากัน  ความหนาที่ส่วนบนของตัวรถ หรือหลังคารถ เป็นส่วนที่บางมากเมื่อเทียบกับส่วนอื่น     กระสุน ป. ตกลงทำมุมชัน ดังนั้นเชื่อได้เลยว่ากระสุน ป.จะกระทบเป้าในลักษณะจิกหัวลงหลังคารถแน่ๆ   ไม่ได้พุ่งเข้าชนด้านหน้ารถที่มีเกราะหนาตรงๆ     สรุป ถ้า ถ.คันไหนโชคร้าย โดนห่ากระสุน ป. ตกใส่หลังคาก็เตรียมลากซากกลับได้เลย

 

จลก. ประเภท BM21 ยิงด้วยมุมยิงสูงไม่ได้  ถ้ามีภูมิประเทศที่ได้เปรียบเช่น ภูเขา  สามารถใช้การตั้งรับลาดหลังเนิน เพื่อใช้ภูเขาทั้งลูกเป็นบังเกอร์ได้   ยิงจนลิ้นห้อยก็ยากที่จะออนทาร์เก็ตเต็มๆ(แม้แต่ ป.เอง ถ้ายิงมุมสูงเพื่อหยอดลงลาดหลังเนินก็ยังต้องใช้ฝีมือสักหน่อย เพราะตรวจการณ์เพื่อปรับแก้ยาก  แต่มันก็ยังทำได้)

 

 

ที่ผมถือหางซีซ่าร์ในครั้งนี้ ไม่ได้บอกว่าผมไม่ชอบ จลก.  และจะเอาแต่ ป. อย่างเดียว    ส่วนตัวเห็นด้วยกับการมีทั้งคู่  เพราะสามารถใช้เพื่ออุดช่องว่างของกันและกันได้  เลือกความได้เปรียบให้เหมาะสม       ปัจจุบันเชื่อว่าเรากำลังปัดฝุ่น พัน.จลก. ขึ้นมาอีกครั้ง

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 29/06/2012 06:20:34


ความคิดเห็นที่ 67


ขอบคุณ คุณ FW190 มากได้ความรู้เยอะเลยและอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผล ผมก็เชื่อมั้นใน ปืนใหญ่มากกว่า ในเรื่องการยิงสนับสนุน ไม่งั้นหลายประเทศคงไม่เลือกใช้กันถ้าอย่างนั้นคงเลิกผลิตและพัฒนาปืนใหญ่แล้วมาใช้บั้งไฟยิงใส่กันแทนแล้ว หน้าที่ของทั้งสองคงเลือกใช้ในภาระกิจที่ต่างกันตามความเหมาะสม

โดยคุณ acheron เมื่อวันที่ 29/06/2012 14:36:00


ความคิดเห็นที่ 68


กระทู้กลายพันธ์ซะงั้น.... แต่ก็ได้ความรู้จากนายทหารอย่างนี้....ผมก็ว่ากระทู้นี้มีสาระมากมายทีเดียว ทำให้เห็นภาพตามที่เกิดขึ้นจริงและสามารถเป็นไปได้ บางครั้งผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรนักที่มีคนชอบเอาอาวุธที่ใช้ต่างภาระกิจและมีจุดเด่นต่างกันมาเปรียบมวยกัน เพราะอาวุธแต่ละอย่างต่างมีข้อดีและข้อด้อยของแต่ละอย่างต่างกันตามที่ท่าน FW109 ได้กล่าวไว้เเล้ว การจะฟันธงลงไปเลยว่าอันไหนดีกว่าอันไหน มันเหมือนกับคำถามโลกแตกไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง เปรียบเหมือนคอบอลวัยรุ่นที่ชอบเอา โรนัลโด้มาเทียบกับแมสซี่ว่าใครเก่งกว่ากัน ซึ่งมันก็เก่งทั้งคู่แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ วงการฟุตบอลขาดเขาทั้งสองคนไม่ได้นั่นแหละครับ 

โดยคุณ cardrock เมื่อวันที่ 29/06/2012 16:38:21


ความคิดเห็นที่ 69


สงสัยครับท่านfw109 เเล้ว จรก ที่ติดบนรถ type-85 จากจีนล่ะครับ ยุบไปเเล้วเหรอครับ ? หรือ ผมตกข่าว

โดยคุณ cardrock เมื่อวันที่ 29/06/2012 17:22:13


ความคิดเห็นที่ 70


ขอโทษด้วยครับผมชอบจำชื่อท่านผิดท่าน FW190 สงสัยหวยจะออก 109 เหอๆ

โดยคุณ cardrock เมื่อวันที่ 29/06/2012 17:25:25


ความคิดเห็นที่ 71


พี่กบสุดยอด ถ้าพี่เป็นนักการทหารให้ประเทศเรา กองทัพไทยคงมีกลยุทธการรบที่น่ากลัวมาก

โดยคุณ yotha เมื่อวันที่ 29/06/2012 19:00:03


ความคิดเห็นที่ 72


จริงๆผมว่า คำถามผมมันก็สมประกอบนะครับ(อาจไม่ชัดเจนตรงหน่วยสอดแหน่มนิดหน่อย ก็เอาเป็นตามที่ท่านว่าหละครับ แต่จริงๆทุกหน่วยก็ต้องส่งต่อให้กอง บก.อยู่แล้ว)แต่ท่านตอบ เหมือนคำถามผมมันไม่ครบ แล้วท่านก็ไปอธิบายในส่วนที่ไม่ครบนั้นซะคำถามผมหายไปเลยอะ อันนี้ครับคำถาม ตัวเต็มๆของผมอะ ในกรณีไทยเขมร

""เอาเป็นสถานการณ์ที่เริ่มยิงกันแล้ว ปืนสนับสนุนยิงกันนัว สมมุติมีปืนใหญ่อยู่กองเดียวครับที่มีระยะยิงถึงและยิงได้ว่างั้น(รุ่นไหน อะไรก็แล้วแต่)ไม่มีการรบกวนจากข้าศึก หน่วยสอดแหน่มเจอ T-55 กับ BM-21 อยู่คนละที่ เจอพร้อมกัน จะยิงอะไรก่อนอะครับ? (ให้อยู่ในภารกิจยิงก้อนหินดินทรายด้วยก็ได้นะ แถมให้อัตราสัมฤทธิ์ผลเท่ากันด้วย แบบว่า BM-21 ติดเกราะจอดในภูมิประเทศเดียวกัน)""

 ก๊อบมาก็เอามาให้ครบจิครับชาวบ้านเข้าใจผมผิดหมด  (จริงๆคำถามผมตอบแค่ T-55 หรือ BM-21 หรือ ก้อนหินดินทราย เท่านั้นเองอะ) ท่านทำให้ผมรู้สึกว่าท่านเอาคำตอบอธิบายแยกย่อยของอะไรก็ไม่รู้มา กลบคำถามผมอะ(เหมือนคำถามผมมันกากซะหาจุดตอบไม่ได้ซะงั้น) จริงๆคำถามนี้ผมตั้งใจจะชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายอันไหนมันมีความสำคัญมากว่ากัน ในรูปแบบ ปัจจัยต่างๆในกรณีไทยเขมร ก็เท่านั้น ท่านน่าจะตอบคำถามผมก่อน แล้วชี้ว่าทำไมเป็นแบบนั้น จะประกอบอธิบายขบวนการขั้นตอนในกองทัพไทยงั้นไงก็ว่ากันไปดิครับ

อันนี้ที่ท่านอธิบาย(ในส่วนที่ตรงกับคำถามผมนะ)

""อันดับแรกก่อนว่าขนาด(หรือจำนวน) ก็มีผล   การกระทำของเป้า ณ ขนาดนั้นก็มีผล  เช่น  เจอ T 55  3 คันจอดรวมกันเป็นกลุ่มก้อน  และ BM21  1 คันอยู่ในพุ่มไม้ ลักษณะนี้ จอดอยู่เฉยๆทั้งคู่ แต่เป้า T 55 คุ้มค่ากว่าเพราะสามารถทำลายพร้อมกันได้มากกว่า  เขาก็เลือกที่จะส่งคำขอเพื่อยิง T 55 ก่อน       การกระทำของเป้าก็มีผล เช่น  พบ T 55  3  คันอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน  แต่ พบ BM 21  1 คันกำลังเตรียมยิง    ลักษณะนี้ T 55 มีมากกว่าก็จริง แต่มันอยู่เฉยๆ ส่วนไอ้เจ้า BM21 กำลังจะยิง  เขาก็เลือกที่จะส่งคำขอเพื่อยิง BM 21 ก่อน       ลักษณะภัยคุกคามของเป้าหมายต่อฝ่ายเรา ณ ขนาดนั้นก็มีผล เช่น พบ T 55  3 คันกำลังยิงใส่ที่มั่นในแนวหน้าของฝ่ายเรา กับ พบ BM 21  3 คันกำลังเตรียมยิง  ในเวลาเดียวกัน    ลักษณะนี้ด้วยระยะยิงของยุทโธปกรณ์ทั้ง 2 แบบ แน่นอนว่าไอ้เจ้า T 55 มันต้องอยู่ใกล้แนว ขนพร.ของเรามากกว่าเจ้า BM21   ดังนั้นจะพิจารณายิง BM21 ก่อน  ส่วน T 55 ปล่อยให้หน่วยที่กำลังเผชิญอยู่แก้ปัญหาไปก่อน(เพราะในระยะนั้นยังมีอาวุธแบบอื่นที่จัดการเจ้า T 55 ได้)          หรืออีกกรณี  หน่วยสอดแนมนั้นพบ   T 55  1 คัน  กำลังจะเข้ามารุมกินโต๊ะตัวเอง ในขณะที่ พบ BM 21  3 คันกำลังเตรียมยิง   ลักษณะนี้เป้าหมาย BM21 คุ้มค่ากว่า  แต่เชื่อว่า ไอ้หน่วยสอดแนมนั้นมันส่งหลักฐานยิง T 55 ก่อนแน่นอน  หลักฐานยิง BM21  ยังไม่ส่ง    ตรงนี้คือตัวอย่างคร่าวๆนะครับ

สรุป คุณเข้าใจหรือยังว่าจะยิง  T 55 หรือ BM21 ก่อน และอะไรเป็นเป้าหมายหลัก(ในแง่ของส่วนที่เข้าทำการรบนะครับ ไม่ใช่ในแง่ของคุณ)"" เอามาไม่หมดมันเยอะบนก็ด้วยอะ

จริงๆผมได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยนะครับ แต่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรอะว่าท่านอธิบายมาคนละทางกันกับคำถามผมทำไม มาดูกันเป็นข้อๆนะ

1.ท่านบอกผมไม่ให้ขนาดของ T-55 กับ BM-21(เพราะมันจะมีผลในการตัดสินใจว่างั่น) โดยปกติการเปรียบเทียบระหว่างของ 2 อย่าง ไม่ให้หน่วยกำกับมา คนปกติเค้าก็จะให้หน่วยมันเท่ากันอยู่แล้วอะ 1 คัน กับ 1 คัน หรือ 3 คัน กับ 3 คัน หรือ 1 กอง กับ 1 กอง หรือ 1 ตัว กับ 1 ตัว ท่านจะไม่ใช้เซ้นส์ของสามัญชนบ้างเลยหรือครับ(ไม่ได้จะไม่ให้อธิบายนะ แต่คนธรรมดาเค้าอ่านกันก็เข้าใจอะครับ) เรื่องจำนวนเด๋วไปดู 3. นะ

2.เรื่องการกระทำของเป้าหมาย เท้าความว่าเป็นกรณีไทยเขมร(ไม่รวมข่าวลือนะครับ งั้นก็ว่ากันไปได้เลื่อยเปื่อยไม่ได้สาระอะครับ) T-55 ไม่มีการทำกิจกรรมใดๆแน่ชัด หรือก็คือมันไม่ได้ทำอะไร(ไม่ใช่ว่าตัวมันหมดคุณค่าในสนามรบนะ) ส่วน BM-21 ทำอะไรบ้างก็รู้ๆกันอยู่ แล้วในคำถามผมก็เขียนไว้นะครับว่า "เอาเป็นสถานการณ์ที่เริ่มยิงกันแล้ว ปืนสนับสนุนยิงกันนัว" แสดงว่า ฝ่ายเรายิงเค้าได้แล้ว และมีความเป็นได้ที่ไอ้ BM-21(ที่เจอ) มันจะทำการยิงด้วยจริงไหมครับ (เด๋วจะว่าผมเข้าข้าง BM-21 แต่ในกรณีไทยเขมรมันเป็นแบบนี้จริงๆ)

3.เห็นใช้คำว่า "คุ้มค่า" ใน "เช่น  เจอ T 55  3 คันจอดรวมกันเป็นกลุ่มก้อน  และ BM21  1 คันอยู่ในพุ่มไม้  ลักษณะนี้ จอดอยู่เฉยๆทั้งคู่ แต่เป้า T 55 คุ้มค่ากว่าเพราะสามารถทำลายพร้อมกันได้มากกว่า" แล้วถ้า T-55 3 คัน มันจอดห่างกันคันละ 50 เมตร หรือ 100 เมตร กับ BM-21 2 คัน ห่างกัน 2 เมตร อะครับ จะบอกจำนวนแง่เดียวก็ไม่ได้ใช่มะ แล้วจะไม่คิดเลยหรือว่ายิง T-55 กับ BM-21 อันไหนมันทำลายได้ง่ายกว่ากัน(T-55 ยิงโดนจังๆพังหรือเปล่าเหอะ แต่ BM-21 ยิงตกห่าง 10 เมตรยังพัง) แล้วยังปัจจัยมากมายอีกที่มีผลต่ออัตราสัมฤทธิ์ผลในการยิง ผมก็อุสาเขียนว่า "แถมให้อัตราสัมฤทธิ์ผลเท่ากันด้วย แบบว่า BM-21 ติดเกราะจอดในภูมิประเทศเดียวกัน" (จริงๆยิง BM-21 มันพังง่ายกว่าเยอะ ผมก็อุสาต่อให้มันติดเกราะด้วย ผมกลัวท่านจะอธิบายออกไปไกลอีกก็ยังไม่วาย) จริงๆเรื่อง ปริมาณ คุณสมบัติ(คุณภาพอะ) ที่ตั้ง หรือ ปัจจัยร้อยแปดพันเก้าในการยิงหวังผล ผมเขียนรวมๆเป็น "อัตราสัมฤทธิ์ผลในการยิง" ผิดหรือครับ  และผมก็ยังเขียนอีกประมาณว่า ปืนใหญ่อะ "รุ่นไหน อะไรก็แล้วแต่" ผมก็ต่อให้อีกอะ เพราะจริงๆปืนใหญ่ที่สามารถยิงทำลายรถถัง T-55 ได้ดีมีจำกัดกว่าพวกที่ยิงทำลาย BM-21 ได้อีกอะ ท่านก็ไม่เห็นอธิบาย จริงๆเรื่องนี้มันกว้างมากจะให้ผมตั้งคำถามให้มันครบทุกด้านมันเป็นไปไม่ได้หลอก



จริงๆผมถามไปหลายคำถาม(คุยกับท่านสนุกดี ได้ความรู้ด้วย ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปก็ตอบด้วยนะครับ ผมยังงงๆกับคำว่า เป้าหมาย(Market มุกๆ)อยู่เลยอะ) ผมว่าผมก็เขียนครบแล้วนะครับในส่วนคำถาม ท่านก็ตอบๆมาเถอะครับ ชาวบ้านเค้าจะได้คิดวิเคราะห์กันได้ด้วยอะครับ(ท่านตอบมาเหมือนคำถามผมมันกากมากซะหาจุดตอบไม่ได้ซะอย่างนั้นอะ)

ตอบ ท่านบ้างนะครับ

1. ก็ตามท่านเขียนหละครับ ผมเขียนกรณีไทยเขมร จะมีปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ที่มีผลต่อกรณีนี้ ผมก็เขียนไปเท่านั้นเอง ที่ไม่อธิบายก็เพราะไม่ควรอธิบายในนี้ก็เท่านั้นเองอะครับ

2. อันนี้หายงงแล้วครับขอบคุณมากครับ



3. อันนี้ผมรู้อะครับ ทหารราบชาวบ้านเราตายกี่คนจำไม่ได้ 3,5,7,9  กองทัพไทย บอกอะ แล้ว ปืนสนับสนุน รถถัง เราไม่สูญเสีย 3,5,7,9(จริงๆก็ไม่ได้บอกหลอกแต่ก็เหมือนบอก) กองทัพไทย บอกอีก ฝ่ายเขมรเค้าก็บอกนะ(เยอะเลย)แต่ผมไม่เชื่อ ผมเชื่อข่าวสากล ทหารราบชาวบ้านเขมรตายกี่คนจำไม่ได้ แต่เค้าก็ไม่บอกนะว่าฝ่ายเขมรสูญเสียปืนสนับสนุน แล้วข่าวลือเรื่อง ภาพจาก UAV เครื่องบิน อะไรก็แล้วแต่ ผมไม่เคยเห็นอะหรือผมตกข่าวไปเองก็ไม่รู้ใครมีก็โพสให้ดูที่นะครับ(T-55 พังจริงๆไม่ใช่จะเคลื่อนย้ายกันง่ายๆจริงปะ มีใครจับภาพได้มาผมก็เชื่อแล้ว) ผมเลยให้คะแนนสังหารเท่ากันมันแปลกมากเหรอ จริงๆกรณีไทยเขมรผมก็ไม่ได้เชื่อ ผู้นำกองทัพ เอ๋ย... กองทัพไทยอะ ซะหมทุกอย่างหลอกครับ เชื่อหมด ก็หมดกำลังใจรบกันพอดีสิ ฮาๆๆๆ

ปล. เรื่อง M-60A3 ผมก็หยอกไปอย่างนั้นเองหละครับ ผมก็อ่านกระทู้ ท่าน กบ กับ ท่านด้วย ทาง ท่าน กบ ดูจะสู้ไม่ค่อยจะไหว เห็นเครียดกันเลยหยอกเล่นๆอะ ส่วนเรื่องปืนลูกซองผมก็ยังงงอยู่อะมันสั้นไป

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 29/06/2012 23:59:12


ความคิดเห็นที่ 73


ถึงมันจะกลายพันธ์จากกระทู้ ปตอ อัตราจรไปหน่อย แต่ก็ได้ความรู้มากครับ

 

3.เห็นใช้คำว่า "คุ้มค่า" ใน "เช่น  เจอ T 55  3 คันจอดรวมกันเป็นกลุ่มก้อน  และ BM21  1 คันอยู่ในพุ่มไม้  ลักษณะนี้ จอดอยู่เฉยๆทั้งคู่ แต่เป้า T 55 คุ้มค่ากว่าเพราะสามารถทำลายพร้อมกันได้มากกว่า" แล้วถ้า T-55 3 คัน มันจอดห่างกันคันละ 50 เมตร หรือ 100 เมตร กับ BM-21 2 คัน ห่างกัน 2 เมตร อะครับ จะบอกจำนวนแง่เดียวก็ไม่ได้ใช่มะ แล้วจะไม่คิดเลยหรือว่ายิง T-55 กับ BM-21 อันไหนมันทำลายได้ง่ายกว่ากัน(T-55 ยิงโดนจังๆพังหรือเปล่าเหอะ แต่ BM-21 ยิงตกห่าง 10 เมตรยังพัง) แล้วยังปัจจัยมากมายอีกที่มีผลต่ออัตราสัมฤทธิ์ผลในการยิง ผมก็อุสาเขียนว่า "แถมให้อัตราสัมฤทธิ์ผลเท่ากันด้วย แบบว่า BM-21 ติดเกราะจอดในภูมิประเทศเดียวกัน" (จริงๆยิง BM-21 มันพังง่ายกว่าเยอะ ผมก็อุสาต่อให้มันติดเกราะด้วย ผมกลัวท่านจะอธิบายออกไปไกลอีกก็ยังไม่วาย) จริงๆเรื่อง ปริมาณ คุณสมบัติ(คุณภาพอะ) ที่ตั้ง หรือ ปัจจัยร้อยแปดพันเก้าในการยิงหวังผล ผมเขียนรวมๆเป็น "อัตราสัมฤทธิ์ผลในการยิง" ผิดหรือครับ  และผมก็ยังเขียนอีกประมาณว่า ปืนใหญ่อะ "รุ่นไหน อะไรก็แล้วแต่" ผมก็ต่อให้อีกอะ เพราะจริงๆปืนใหญ่ที่สามารถยิงทำลายรถถัง T-55 ได้ดีมีจำกัดกว่าพวกที่ยิงทำลาย BM-21 ได้อีกอะ ท่านก็ไม่เห็นอธิบาย จริงๆเรื่องนี้มันกว้างมากจะให้ผมตั้งคำถามให้มันครบทุกด้านมันเป็นไปไม่ได้หลอก

 

เอ่อคุณ potman ไอ้เรื่องจอดรวมกันเป็นกลุ่มก้อน กับ จอดแยกกันเป็นคันๆ ใช้ความคิดหน่อยครับ ว่าถ้ามันจอดห่างกันคันละ 50-100 เมตร เขายังเรียกว่าเป็นกลุ่มอยู่อีกเรอะครับ 

ผตน. เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่ารัศมีของกลุ่มลูกปืนมันมีเท่าไร ถ้าเขาวางไปแล้วมันครอบไอ้ T-55 ทั้ง 3 คันได้ ก็ยิงครับ ถ้าได้ 2 อาจจะไปยิง BM-21 แทนหรือก็ขึ้นกับปัจจัยต่างๆที่คุณ FW190 กล่าวไปครับ

โดยคุณ markrura เมื่อวันที่ 30/06/2012 00:50:23


ความคิดเห็นที่ 74


ผมว่าท่าน  potmon  จะมาให้ตอบแบบท่านต้องการมันจะเหมือนเป็นการเล่นคำซะมากกว่านะครับ อย่างเรื่องเป้าหมายระหว่างรถถังกับ bm21 ผมอ่านคำตอบของคุณ FW190 ก็จะประมาณว่าอยู่ที่ภารกิจยิงคืออะไร แล้ว อันไหนสำคัญก็อยู่ที่ดุลพินิจของคนขอยิงกับ ให้ที่มีอำนาจสั่งยิง ก็ประมาณนี้ ที่เหลือท่านก็ขยายความเอา จะให้ออกมาบอกเลยว่าถ้าเจอ รถถัง หรือ bm21 ต้องยิงอันนี้ก่อนอันนั้นก่อน มันบอกไม่ได้หรอกปัจจัยแวดล้อมมันมีเยอะ                       ในความเป็นจริง สงครามที่เกิดขึ้น ยอดสูญเสีย มันไม่เคยที่จะตรงกับความเป็นจริงซะหมดหรอก ถ้าอยากจะรู้กันจริงๆก็ต้องรอให้จบไปหลายสิบปีถึงจะแน่นอน อย่างเราๆท่านๆ ได้แต่รับข่าวสาร หาข้อมูลเอาเอง แล้วเอามาช่างน้ำหนักเอง อย่างเรื่องยอดสูญเสียของทหารไทย ประชาชนไทย ผมว่านักข่าวเกาะติดกันขนาดนั้น ยอดบาดเจ็บเสียชีวิตคงไม่ผิดไปเยอะหรอก อย่างมีข่าวลือว่าทหารตายไปเป็นร้อยๆ ประชาชนตายไปเป็นจำนวนมาก ถ้าเกิดขึ้นจริงทำไมญาติไม่ออกมาโวยวายกันล่ะครับ หยุดยิงมาเป็นปีแล้ว นี่ก็เห็นเงียบๆกัน ผมก็เชื่อว่าจำนวนคงไม่ผิดไปนัก ส่วนของเขมรก็ได้มีแต่ข่าวลือแหละครับ ส่วนตัวผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน

โดยคุณ palm555 เมื่อวันที่ 30/06/2012 00:59:46


ความคิดเห็นที่ 75


ผมว่าคุณFW190เขาก็ให้คำตอบที่เคลียร์และชัดเจนมากๆแล้วนะครับ

คำถามนี้มันชวนปวดหัวมากนะ

ผมว่าเหมือนเราโดนถามว่า ให้ทหารฝ่ายหนึ่งถือ AK 47 + พลยิง RPG 7 สู้กับอีกฝ่ายที่ทหารถือ M16 + พลยิงmM203 ประมาณนั้น

แล้วใครจะชนะ ??

อ้าว แล้วรบที่ไหน สภาพภูมิประเทศยังไง ทหารที่รบเก่งแค่ไหน มีประสบการณ์หรือหน้าใหม่ ฝึกจากที่ไหน ฝึกมายังไง แล้วมาเจอกันยังไง ระยะห่างเท่าไหร่ มีอุปสรรคหรือมีสิ่งกีดขวาง ขวางทางแนวยิงบ้างหรือไม่  แล้วใครเป็นคนสั่งการ  เอาให้ชัดเจน

ถ้าจะเปรียบเทียบเฉพาะด้านสมรรถนะของอาุวุธก็หาข้อมูลในกูเกิลก็ได้มีเยอะแยะให้เราเลือกอ่าน แล้วก็ทำตารางเปรียบเทียบกันไปเลย แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วนะครับ

แต่ถ้าถามว่าเอามารบกันแล้วใครจะชนะ

อ้าว แล้วจะรู้ได้ไงเล่า? 

ยกตัวอย่างแบบขำๆที่ผมเปรียบเทียบข้างบน ถ้ามองประสิทธิภาพ ทหารที่ถือ AK 47 กับพลยิง RPG 7  ดูมีภาษีดีกว่าใช่ไหมครับ ปืนAK 47 ที่ไว้ใจได้เสมอทุกสภาพอากาศ มีอำนาจการยิงรุนแรง กับ จรวด RPG 7 ที่มีความรุนแรงสูง 

แต่ถ้าอีกฝ่ายที่ถือ M16 กับพลยิงM203  

เป็นหน่วย SAS ที่ถูกฝึกมาอย่างดีล่ะ

น่าจะเข้าใจแล้วนะครับ (คอมเม้นต์ต่อไปอย่ากลายพันธุ์เป็นเรื่องปืนเล็กนะ ดักไว้ก่อน 5555 )

โดยคุณ min_linkin เมื่อวันที่ 30/06/2012 01:06:46


ความคิดเห็นที่ 76


อ่านจนปวดตาเลย ได้ความรู้เยอะเลยครับ จากกระทู้ ป.ต.อ. อัตตาจร เป็น ปืนใหญ่+จรวดหลายลำกล้อง

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 30/06/2012 08:48:28


ความคิดเห็นที่ 77


หน่วยสอดแหน่มหน้าตาเป็นยังไง เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 30/06/2012 15:54:16


ความคิดเห็นที่ 78


เรียนท่านประธาน(บอร์ด)ครับ กับท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ

ผม ขออนุญาตใช้สิทธิ์พาดพิงครับ ซึ่งท่าน palm555 , min_linkin  สิ่งที่ท่านพาดพิงอาจทำให้ผมเสียหายครับ(ว่าไปนั้น) ผมขอตอบในประเด็น ขบวนการคิด แนวปฎิบัติ และสังคม(คือนอกเรื่องการทหารไปนิดอะครับ แต่อยู่บนหลักเหตุและผล มีประโยชน์ต่อเพื่อนๆแน่นอนครับขออนุญาตนะครับ) เด๋วท่านสมาชิกจะเข้าใจสงสัยว่า ผมมีพฤติกรรมอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือไม่นะครับ(ไปๆมาๆดูแล้วมันไม่น่าจะฮาๆแหะมุกนี้ เอาแบบธรรมดีกว่า)

คำ ถามผมดูเหมือนจะยากไปหรือครับสำหรับผู้ใหญ่(ผมไปถามหลาน มันยังตอบได้เลยอะ)หรือเพราะเป็นผู้ใหญ่แล้วเลยตอบไม่เป็นครับ(คำถามช้อยส์ สามตัวเลือก เขียนอธิบายมาเป็น หน้าเชียว ไม่ยอมกา งง)คิดๆไปก็สนุกดีนะครับ เห็นความคิดผู้คนได้ในหลายแง่มุมดีในคำถามนี้และคำตอบ ท่านก็ไม่ต้องไปแปลกใจถ้าจะไปเจอคำตอบ ของ ผู้นำกองทัพ ที่ไม่มีความชัดเจนในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์(เรือ....) หรือนโยบายของกองทัพ หรือขั้นตอนการปฎิบัติงาน ทั้งที่เป็นคำถามง่ายๆแต่ตอบแบบเลี่ยงไป เลี่ยงมาจนคุณงง(YES NO ?) อะแฮม"ต้องรอดูความสำคัญก่อนหลังก่อน รอความเห็น ดุลพินิจจากผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในระหว่างพิจารณา ต้องปรึกษากันคณะก่อน ไม่ มีความคิดเห็น กำลังสอบสวน ต้องดูปัจจัยนี้ ปัจจัยนั้น ปัจจัยแวดล้อม ต้องเลื่อนการตัดสินใจไปชาติหน้าหละครับ" หรือจากฝั่งการเมือง ก็ไม่ต้องแปลกใจ ที่ท่านจะเห็นนัก ข่าวที่สัมภาษณ์ นักการเมือง แล้วเจอคำตอบจากคำถามที่ง่ายๆแบบ(YES NO ?)ในแบบครอบจักรวาล ตอบแบบเลี่ยงคำตอบได้ในทุกกรณี(สรุปตรูประชาชนจะ ได้รู้อะไรบ้างเนี่ย) "ต้องรอความเห็นจากคณะ...ก่อน ยังไม่มีการตัดสินใจ ดูลมฟ้าอากาศก่อน กำลังจะนำเข้าพิจารณา ต้องดูปัจจัยนี้ ปัจจัยนั้น ปัจจัยแวดล้อม ต้องรอแดดก่อน ต้องเลื่อนการตัดสินใจไปสมัยหน้า หรือหนักๆก็วนออกอ่าว ต่อให้เราฟังเป็น ชม.ก็ไม่ได้ใจความ" (นี้ยังไม่รวมพวกพนักงาน... ที่คุณไปขอให้ดำเนินการใดๆ หรือ ให้ช่วยอะไร  ก็จะได้คำตอบแบบเลี่ยงๆมาอีกจนทำคุณเซ็งอะ) ถ้านักการเมือง หรือ ผู้นำกองทัพ ไม่ได้เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่ หรือมาจากดาวอื่นหละก็ มันก็เป็นผลผลิตมาจากสังคมเรานี้ แหละครับ สังคมเราสร้างนักการเมืองแบบนี้ สังคมเราสร้างกองทัพแบบนี้ สังคมเราสร้างคนแบบนี้ และคนแบบนี้เท่านั้นแหละครับที่จะสร้างคน แบบเดียวกันได้ ตกลงว่าการมาชื่นชมคนตอบกระทู้ในบอร์ดแบบเลี่ยงคำถามไปเลี่ยงคำตอบมา มันดีหรือเปล่าครับ ตกลงว่าการมาตำหนิต่อว่า คนที่ต้องการคำตอบแบบ ตรงไปตรงมาจากคำถามในบอร์ด มันผิดไหมหละครับ คำตอบมันมีอยู่สองอย่างเท่านั้นแหละครับ คือ "ผิด" กับ "ไม่ผิด" ถ้าคุณคิดว่ามัน "ไม่ผิด" คุณก็ไม่ควรมาแปลก ใจนะครับ ที่การ "ตอบกระทู้ในบอร์ดแบบเลี่ยงคำถามไปเลี่ยงคำตอบมา" มันจะลุกลามใหญ่โตกลายเป็น " รมต.เลี่ยงการตอบอนุมัติเรือดำน้ำ หรือ กองทัพเลี่ยงการตอบกรณี GT-200 หรือ รบ.เลี่ยงการตอบกรณีการใช้อู่ตะเภา หรือ ... เลี่ยงการตอบการทุจริต...ฯลฯ " ถ้าเรื่องแบบนี้มันผิด มันมีสเกลบอกตรงไหน ด้วยเหรอครับ ว่ามันเริ่มผิดที่ เท่าไร ของแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องส่งสมครับ เหมือนโจรหละครับ ก่อนจะได้เป็นมหาโจร ก็ต้องเป็นโจรกระจอกมาก่อนอะครับ(ไม่ได้จะว่าใครนะครับ เปรียบเทียบให้เห็นภาพเฉยๆครับ ไม่รู้จะเอาอาชีพไหนมาเปรียบเทียบแล้วมันจะดูได้ใจความแบบนี้อะ จริงๆอันนี้ผมก็จำๆเค้ามาอีกที่อะครับ) ส่วนคนที่คิดว่า"ผิด" ยินดี ด้วยครับ เพราะคุณน่าจะเป็นบุคคลที่มีสุขภาพจิตดี ไม่มีความขัดแย้งในจิตใจ อายุยืนครับ สุดท้ายครับ "คิดดี ทำดี สังคมดี แต่ถ้า คิดเลว ทำเลว สังคมเลว" ผมอยากให้ไทยเป็นสังคม ที่ดีครับ อยากให้หลายๆคน ถึงจะไม่ช่วยแต่ก็อย่ามาถ่วงกันเลยนะครับ ผมขอแนะนำข้อเท็จจริงๆสั้นๆเท่านั้นนะครับ กราบขอพระคุณท่านประธานครับ(ฮาๆไปครับ)

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 30/06/2012 18:04:31


ความคิดเห็นที่ 79


หน่วยสอดแหน่ม หน่วยสอดแหนม ที่มาก็ประมาณลองไปดู(จะเอาคลิปมาลงเลยก็กลัวอะครับเพราะมันไม่ได้มีแค่เรื่องสอดแหน่มนาซาอย่างเดียวอะ ใครอยากรู้ก็เซิร์ทกูเกิ้ลกันดูนะครับคำนี้อะ)


เจาะข่าวตื้น 62 : สอดแหนมนาซา



นาทีที่ 10 ประมาณนี้อะครับ ผมก็ลืมไปบอร์ดนี้ผู้ใหญ่เยอะอะครับไม่ควรเขียนอะไรแปลกๆ (ฮาก็ไม่ฮาอีก เอาเป็นว่าผมเขียนผิดแล้วกันครับ ขอโทษนะครับ ผมจะพยายามเขียนให้ถูกต้องนะครับ)

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 30/06/2012 18:16:29


ความคิดเห็นที่ 80


ผมลองเอาคำถามคุณpotmonไปถามหลานดูมันถามกลับมาว่าแล้ว bm21ไปจอดทำอะไรอยู่ในพุ่มไม้ผมเลยถือวิสาสะตอบแทนท่านว่าแดดมันร้อนเขมรเค้ากลัวสีซีด

หลานมันพยักหน้าแล้วตอบผมว่างั้นหนูยิงT55ก่อน

ผมเลยถามต่อว่าทำมัย

เด็กมันเลยตอบมาว่า ยิงt55ก่อนเพราะยิงbm21ยังไงก็ไม่โดน

 ผมก็เลยถามอีกว่าทำมัยถึงจะยิงไม่โดนละครับ

หลานมันก็เลยย้อนกลับว่าอานี่โง่จัง จะยิงโดนได้ไงก็ต้นไม้มันบังอยู่อะ ?????? ^___^ 555555

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 30/06/2012 23:35:01


ความคิดเห็นที่ 81


บัว 4 เหล่าดั่งคำของพระพุทธเจ้าจริงๆ

 

คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

 

ทุติยำปิ  คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

ทุติยำปิ  คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

ทุติยำปิ  คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

 

ตะติยำปิ  คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

ตะติยำปิ  คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

ตะติยำปิ  คิด  วิเคราะห์   แยกแยะ

 

สาาาาาาาาา     ธุ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 01/07/2012 23:41:20


ความคิดเห็นที่ 82


นานๆทีเห็นหมวดบอม(หรือเป้นผู้กองแล้วหว่า)โพส ได้ความรู้ดีแถมยังมีฮา

โดยคุณ 9-o-6 เมื่อวันที่ 02/07/2012 09:32:24


ความคิดเห็นที่ 83


" ขอขอบพระคุณทุกคอมเม้นที่ทำให้ กระทู้นี้มียอดผู้ชม1หมื่นกว่าคน และอีก82คอมเม้น ทำให้เจ้าของกระทู้อย่างผมจดจำว่าครั้งนึงเคยตั้งกระทู้แล้วมีคนตอบ คนเข้าชมเยอะขนาดนั้น 555+ ถึงมันจะกลายพันธุ์จาก ปตอ.ไปปืนใหญ่ก็เถอะ แต่ก็ได้ความรู้มากมายถึงจะพยายามออกนอกลู่ แต่ก็ดึงเข้ามาจนได้ "

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 02/07/2012 15:30:59


ความคิดเห็นที่ 84


ตอบท่าน hinnoi


หลานคุณ hinnoi เก่งมากนะครับ "(เด็กเค้าถึงจะไม่มีความรู้อะไรก็ตอบได้อะครับใช้ความรู้ที่มีอยู่คิดวิเคราะห์แล้วก็ตอบ จะถูกจะผิดยังไง เค้าก็สามารถนำข้อเท็จจริงนี้  มาพัฒนาตัวเองต่อไปได้(คิดในทางกลับกันเด็กจะพัฒนาไม่ได้ถ้า ไม่มีคนมาบอกว่ามันถูกหรือผิด) ธรรมชาติของมนุษย์ในการพัฒนาหรือวิวัฒนาการณ์ทุกๆด้าน ก็มาจากการลองผิดลองถูกนี้หละครับรวมทั้งศาสนาก็ด้วย คนที่จำแนกผิดถูก หรือ ถ้าขนาดแค่เลือกตัวคำตอบ(จะถูกจะผิดก็ว่ากันไป)ยังไม่ได้ คิดว่าคงพัฒนายากอะ)" จริงๆคำถามที่ถามไป มันก็ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัวหลอกครับ(ขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ตอบ) ผมอาจว่าอย่างหนึ่ง หลานคุณอาจว่าอย่างหนึ่ง คุณอาจว่าอย่างหนึ่ง ก็ได้(จริงๆคุณ FW190 น่าจะตอบได้ดีที่สุดนะ) จริงๆก็ไม่มีใครผิดอะ ตอบกันเรื่องแค่นี้เองขำๆจะตายไป แต่ถ้าลองดูกับสถานการณ์นี้ สมมุติ ถ้าคุณมีกล้วยกับแอปเปิ้ลอยู่ในมือแล้วเดินเข้าไปหาหลาน แล้วถามหลานว่า ระหว่างกล้วยกับแอปเปิ้ลจะกินอันไหน หลานคุณตอบว่า กล้วยหรือแอปเปิ้ลก็แล้วแต่ คุณถามต่อว่าเพราะทำไมถึงเลือก ก็จะได้เหตุผลแบบเด็กๆปกติเค้าตอบมาครับ แต่ถ้าเกิดคุณถามหลาน ระหว่างกล้วยกับแอปเปิ้ลจะกินอันไหน แล้วหลานคุณตอบว่า เลือกไม่ได้ครับ(ขึ้นอยู่กับภารกิจ ในการใช้ชีวิต ฮาๆๆ) ต้องดูสถานการณ์และปัจจัยต่างๆก่อน แล้วหลานคุณก็สมมุติกรณีเกิดมีผู้ร้ายวิ่งเข้ามาจะทำร้ายจะเลือกกินกล้วยอะครับ เพราะจะเอาเปลือกไปทิ้งไว้หน้าทางเดินมัน ให้มันลื่นล้ม หรือสมมุติ ถ้าหลานเค้าอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือจะเลือกแอปเปิ้ลเพราะให้พลังงานสูงกว่ากล้วย(หลานคุณเทพไปแล้ว) อย่างนี้คุณต้องรีบพาหลานไปโรงพยาบาลแล้วอะครับเพราะหลานคุณประเมินสถานการณ์การใช้ชีวิตแบบปกติไม่ได้(หรือก็คือใช้เซ้นส์ของสามัญชนไม่ได้นั้นเอง)จริงเปล่าครับ ฉนั้นเด็กๆมาถามอะไรๆคุณก็ตอบๆไปเถอะครับเวลาจะทำให้เค้าเข้าใจเอง(พ่อแม่รุ่นๆเดียวกับผมกลัวลูกตัวเองถามครับ ในว่ากลัวจะตอบได้ไม่ดี เลยไม่ตอบเด็กซะงั้น)




ตอบท่าน FW190 นะครับ

ไม่น่าจะให้ต้องลำบากถึงพระพุทธเจ้าเลยนะครับกับเรื่องแค่นี้เอง(คำสอนของพระองค์กลายเป็นเครื่องมือของคนไม่ดีไปซะหมดอะแบบนี้)  จริงๆเรื่องบัว 4 เหล่าเค้าเอาไว้จำแนก การรับรู้ได้ ของคนนะครับ(ไม่ได้แปลว่าคนที่อยู่บัวเหล่าในต่มจะเป็นคนเลวนะ และก็ไม่ได้จะแปลว่าบัวเหล่าพ่นน้ำจะเป็นคนดีนะครับ) ไม่ใช่หลักคิดวิเคราะห์แบบที่ท่านเข้าใจนะครับท่าน เอาใกล้ๆตัว ถ้าขบวนการคิดวิเคราะห์แบบวิทยาศาสตร์เป็นแบบ เหตุไปหาผล หรือผลไปหาเหตุ โดยใช้ข้อเท็จจริงในการพิสูจน์(ตย.คือ แนวคิดการทดลองแบบวิทยาศาสตร์ 5 ข้ออะ) อย่างนั้นแล้ว ถ้าขบวนการคิดวิเคราะห์ของพระพุทธศาสนาเป็นแบบ ผลไปหาเหตุ หรือเหตุไปหาผล โดยใช้หลักเหตุผล(แบบพระพุทธศาสนา)ในการพิสูจน์(ตย.คือ อริยสัจ4) จะเห็นได้ว่า สองอย่างนี้ไม่ได้ไกลกันซักเท่าไร จริงๆจะมาต่อว่าผมหรือเสียดสีหรือจะอะไรก็แล้วแต่ ก็ไม่เห็นจะต้องเอาศาสนามาเกี่ยวข้องเลยนี้ครับ คุยกันในวงวิทยาศาสตร์มันก็ครอบคลุมได้หมดเหมือนกันอะครับ(แล้ว ทุติยำปิ ตะติยำปิ แปลว่าอะไรรู้กันหรือเปล่าอะครับ) เรื่องโดนด่าโดนต่อว่าโดนเสียดสีจากคนที่ไม่เห็นด้วยมันปกติจะตายไป(ผมก็ทำประจำอะ)เพราะโดนด่าบ่อยๆเลยทำให้รู้สึกตัวได้เหมือนกันจริงไหมครับ ถ้าจะว่ากันก็ตรงๆเลยครับ จะได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย


ตอบท่าน MIG31 นะครับ

ขอโทษด้วยนะครับผมออกเรื่องไปไกลแสนไกลเลยอะ จริงๆเรื่องระบบอาวุธ ของ ปืนใหญ่ กับ จรวด ผมพอเข้าใจตั้งแต่ที่ท่านเขียนแล้วอะ แต่ก็ยังยาวได้อีก



ปล.ว่างๆก็ลองตอบคำถามผมดูนะครับ(ดีว่าไปสวดอะไรแปลกๆอะนะ) ได้บุญครับให้ความรู้แก่ผู้อื่น

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 02/07/2012 22:01:12


ความคิดเห็นที่ 85


ทุติยัมปิ แปลตรงตัวว่า ครั้งที่สอง

ตะติยัมปิ แปลตรงตัวว่า ครั้งที่สามครับ

ปล. ผมถามนิดนะครับ ท่าน potmon ทำงานแล้วหรือยัง?? หวังว่าคงไม่ได้ล่วงเกิน ไม่ตอบก็ได้

โดยคุณ palm555 เมื่อวันที่ 03/07/2012 00:56:05


ความคิดเห็นที่ 86


ถ้าคุณ potmon ชอบตอบแบบง่ายๆ ตอบไปงั้นๆ ไม่ซี้เรียส ผิดถูกช่างหม่าม้า คุณอาจมาผิดเว็บ ไม่ใช่ว่าเว็บนี้ห้ามเฮฮาหรือพูดเล่น แต่การมาเถียงมั่วๆ เสร็จแล้วก็บอกชิลล์ๆนะตะเองมันไม่เวิร์คครับผม

เห็นคุณเมนท์ตอบเถียงไปเถียงมาแล้วก็จะมี ไม่รู้ล่ะ ผมก็ผิดบ้างถูกบ้าง ผมก็มั่วไปเลื่อยอ่ะครับ 

ผมก็งูๆปลาๆ

เอ่าแล้วจะมาถกกันทำไม ในเมื่อคุณจะมามั่วไป"เลื่อย" เพราะถ้าจะมั่วก็ถกไม่มีจบหรอกครับ

 

แล้วถามเรื่องทางทหาร พอมีนายทหารมาตอบให้แบบลึกๆไม่ชอบ ชอบตอบมั่วๆแบบหลาน งั้นเอาหลานคุณไปวางนโยบายกองทัพไหมครับ

 

เห็นคุณบอกอยากได้คำตอบแบบไม่ผิดก็ถูก ขาวหรือดำ ฟันธงกันไปเลย โลกความเป็นจริงมันมีที่ไหนเล่าครับ

 

แล้วคุณ fw 190 ที่บอกว่าบัวสี่เหล่าก็ไม่มีตรงไหนที่ว่าคุณเลวนี่ครับ ก็แค่เป็นคนที่สอนไม่ขึ้นแค่นั้นแหละครับ ไม่ได้เลวเลย

ไอ้ตะติยัมปินี่ก็ไม่ใช่ความรู้ขั้นสูงที่คนทั่วไปเขาไม่รู้กันซะหน่อย

 

แล้วพอคนมาเขียนโจมตีคุณก็จะมาเมนท์ประมาณว่า เออดีๆ ถกแลกเปลี่ยนกัน แหมได้ความรู้ท่านอื่นๆตรึมเลย แล้วก็เถียงกลับอย่างดื้อด้าน นัยว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น 

ถามจริงคนอื่นๆเขาตักเตือนคุณได้รับเข้าสมองรึเปล่า ไม่ใช่แค่ตอบว่าดีๆแล้วก็ยังเหมือนเดิมอีก 

 

ผมอยากจะบอกอีกอย่างว่ารายการโปรดของคุณอันได้แก่รายการเจาะข่าวตื้นนั้น อย่าเอามาเป็นการอ้างอิงเลยครับ ผมดูแล้วต้องยอมรับว่าฮาขี้แตก แต่ข้อมูลหลายๆด้านก็เป้นการชักนำให้เข้าใจผิดได้ง่ายๆเหมือนกัน

อย่างการบอกว่ารถเกราะยูเครยมันเป็นเซียงกงรึเปล่าเนี่ย เพราะซัพพลายเออร์หลายเจ้า บริษัทอื่นมันก็ผสมชิ้นส่วนจากหลายประเทศเหมือนกันทั้งนั้นล่ะครับ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 03/07/2012 07:44:12


ความคิดเห็นที่ 87


ตอบคุณ palm555 นะครับ

 

ผมก็ยังทำงานอยู่อะครับ แล้วถ้าไม่ได้ทำมันจะมีอะไรต่างออกไปเหรอครับ

 

 

 

ตอบคุณ toeytei

 

อัน แรกเลยผมงงกับคุณมากอะครับ ลำดับแรกเลยผมตั้งใจเข้าเว็บนี้อะครับ ผมมาในเว็บนี้เฮฮาเข้าว่าเป็นหลักอยู่แล้วครับ(ถ้าผมไม่รู้สึกว่าสนุกจะเข้า มาทำซากอะไรอะครับ แล้วสนุกของแต่ละคนเหมือนกันเหรอครับ) ส่วนใครจะเข้าเว็บนี้ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ใช้หน้าที่ผมจะไปเปรียบเทียบหรือ ต้องไปเลียนแบบ จะให้ไปเหมือนอย่างคนแบบคุณ หรือแบบที่คุณฝัน คิดว่าเป็นไปไม่ได้อะครับ(คิดว่ามันไม่ใช้หน้าที่ใครเลยด้วยซ้ำไป) ส่วนความเหมาะสมท่านประธาน(บอร์ด)ท่านดูแลอยู่แล้วอะครับ

 

เด๋วจะสงสัยกันเลยตอบทีละอันนะครับ


"ถ้า คุณ potmon ชอบตอบแบบง่ายๆ ตอบไปงั้นๆ ไม่ซี้เรียส ผิดถูกช่างหม่าม้า คุณอาจมาผิดเว็บ ไม่ใช่ว่าเว็บนี้ห้ามเฮฮาหรือพูดเล่น แต่การมาเถียงมั่วๆ เสร็จแล้วก็บอกชิลล์ๆนะตะเองมันไม่เวิร์คครับผม"

-ยืน ยันนะครับว่าผมเข้าถูกที่แล้ว ส่วนเรื่องตอบผิดตอบถูกผมก็ไม่ซีเรียสจริงๆนั้นหละ(ไม่ได้มีอาชีพเป็นนักการ เมืองซะหน่อย แล้วสุดท้ายตัวผมเองก็เป็นตัวกรองข้อมูลอยู่ดี) ผมมีความรู้เรื่องนั้นเท่าไร วิเคราะห์จากที่มีได้ยังไงบ้าง เห็นด้วยไม่เห็นด้วย ผมก็ตอบหรือแสดงความคิดเห็นไปตามที่ผมคิดก็เท่านั้นเอง(ถ้ามีองค์ความรู้ ใหม่ๆเข้ามาคำตอบจากเดิมอาจเปลี่ยนไปก็ได้)ไม่รู้คนเราจะมายึกยักกับแค่ความ คิดเห็นทำไม(หรือชอบมีพวกไม่ค่อยเต็มบาทมาค้านคนตอบตรงๆแบบนี้ก็ไม่รู้ ประหลาดจริงๆ)

 

ส่วนเรื่อง "แต่การมาเถียงมั่วๆ เสร็จแล้วก็บอกชิลล์ๆนะตะเองมันไม่เวิร์คครับผม"

คิด ว่าคุณอาจนั่งฝันกลางวันอยู่ก็เป็นได้ เพราะผมไม่เคยเขียนอะไรแบบนั้นอะครับ(มีจริงๆก็ก๊อบมาแปะซิครับ) แต่ผมเขียนประมาณไหน ก็ลองย้อนกลับไปอ่านกันเองนะครับ(จริงๆผมเขียนต่อว่าคนประมาณ คุณ toeytei ดักไว้แล้วก็ยังไม่วาย ไม่รู้เหนือรู้ใต้เกรียนเข้ามาอีก งงจริงๆ)

 

มาอันนี้บ้าง

 

"เห็นคุณเมนท์ตอบเถียงไปเถียงมาแล้วก็ จะมี ไม่รู้ล่ะ ผมก็ผิดบ้างถูกบ้าง ผมก็มั่วไปเลื่อยอ่ะครับ ผมก็งูๆปลาๆเอ่าแล้วจะมาถกกันทำไม ในเมื่อคุณจะมามั่วไป"เลื่อย" เพราะถ้าจะมั่วก็ถกไม่มีจบหรอกครับ"

 

คุณ นี้ไม่มีหัวคิดจริงๆนั้นแหละ ถ้าผมรู้จริงรู้ลึกรู้ทั้งหมด ผมจะมาถกกับคนในบอร์ดทำไมอะครับ แล้วต่อให้ผมรู้จริงรู้ลึกการถกเถียงกับผู้อื่นก็เป็นการตรวจสอบตรวจเช็ค องค์ความรู้ของตัวเองด้วย(ใครทำงานเป็นกลุ่มบ่อยๆก็จะรู้)จริงไหมครับ( ไม่ใช้เซ้นส์สามัญชนบ้างเลยคุณ toeytei เทพจริงๆ) ที่ผมบอกประมาณว่า ผิดบ้างถูกบ้าง หรือมั่ว หรืองูๆปลาๆ ก็เพราะผมไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆทั้งหมดนี้ครับ(แต่ผมยังมีสมองครับ ใช้เรื่องที่ใกล้เคียงจากความรู้ของผมเปรียบเทียบวิเคราะห์ได้) ส่วนคุณถ้าไม่รู้จริงรู้จังแล้วไม่แสดงความคิดเลย หรือไม่ใช้หัวคิดอะไรเลยก็เป็นเรื่องของคุณครับรสนิยมของคุณ ใครจะไปบังคับกันได้จริงไหมครับ

 

อันนี้ด้วย

 

"แล้วถามเรื่องทางทหาร พอมีนายทหารมาตอบให้แบบลึกๆไม่ชอบ ชอบตอบมั่วๆแบบหลาน งั้นเอาหลานคุณไปวางนโยบายกองทัพไหมครับ"

 

ใคร ว่าผมไม่ชอบอะครับ(งั้นจะเขียนกันยาวแบบนี้เหรอ) แค่ผมรู้สึกว่าคำตอบมันไม่โดนใจความคำถามผมก็เท่านั้นเอง ผิดหรือไงครับ ส่วนเรื่องผู้นำกองทัพให้เด็กไปเป็นก็ไม่เลวหละนะในความคิดผม(เด็กๆมีมุมดีๆ กว่าตอนเป็นผู้ใหญ่เยอะเหมือนกันนะ)

 

เด๋วค่อยมาต่อนะ

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 03/07/2012 21:11:19


ความคิดเห็นที่ 88


กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ดีนะครับ  อย่าให้มันออกนอกประเด็น จนกลายเป็นการโต้เถียงกันผ่านหน้าเว็ป  ถ้าดูแล้วมันบานปลายผมอาจจะต้องปิดกระทู้หรือไม่ก็ลบกระทู้นี้ครับ /ADMIN

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 03/07/2012 21:53:19


ความคิดเห็นที่ 89


ขอโทษนะครับกดไปแล้วพึ่งจะมาเห็น ก็ไม่ได้จะนอกประเด็นไปไกลอะครับแต่ก็ไปไกลจนได้ ขอโทษนะครับ

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 03/07/2012 22:50:40


ความคิดเห็นที่ 90


ปตอ อัตราจร5555 ออกทะเลไปใหนละ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 04/07/2012 15:13:08


ความคิดเห็นที่ 91


เอาด้วยอีกคน ตอนแรก อ่านมาเรื่อย แล้ว ตั้งใจจะไม่ แสดงความเห้น แต่ก็ ขออนุญาติ เลยก็แล้ว กันครับ  การเสนอความเห็น เมื่อมีมุมมอง และ คิดต่างกัน ก็ไม่แปลก และไม่ผิดอะไร ครับผม ว่าก็ดี เพื่อนๆ พี่ น้อง ทุกท่านก็ ใจเย็นๆ กัน ถกกันแรงๆ ก็ ไม่เป็นไร หรอกครับ และ ก็คงไม่เป็นการเครียสจนเกินไป(อย่า เอารูป หวิวๆมาโฟสนะ ผมไม่เห้นด้วย และขอความกรุณา อย่า เอา เวปตลกมาโฟส เช่น เจาะข่าวตื่น และ อื่นๆ) พยายาม อย่ากระแนะกระแหน เสียดสี ส่อเสียด ประชดประชน(ผมเชื่อว่า ทุกท่านทราบดี) ในเวปเรามีแต่คนที่โตๆ กันแล้ว เป้นผู้หลักผู้ใหญ่ ก็เยอะ  เมื่อผิด ก็ขอดทษกัน ว่ากล่าวตักเตือนกัน แค่นี้เวป เราก็ น่ารักและน่าอยุ่ เป้น แบบอย่างที่ดีให้ เวป อื่นๆ เอาไปพัฒนาตัวเอง  เพื่อบรรยากาศที่ดี และ น่าเข้ามาอ่าน เพื่อนแต่ละท่านที่ แสดงความเห้น ก็จะได้ ไม่ต้อง ทะเลอะกัน คนก้จะเข้ามาอ่านเรื่อยๆ และเยอะขึ้น

ควรมิควรแล้วจะพิจารณา

ปล.เวปภาพหวิว สวยงามผมก็ดู เวป ตลกทะเล้นผมก็ ดู แต่ผมว่าไม่ควรเอามาในนี้ ให้ มันอยู่ในที่ของมัน เราก็อยู่ในที่ของเรา แบบนี้ดีไหมครับผม  ขอบคุณครับ

 

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 04/07/2012 22:35:14


ความคิดเห็นที่ 92


ไม่ได้เข้ามาคุยด้วยหลายปี   เอาเป็นว่าคุณ FW190 โตขึ้นเยอะ ทั้งความรอบรู้และเหตุผล ทั้งวัยวุฒิ ดีใจด้วยครับ

และก็สงสารที่พยายามอธิบาย  รวมถึงขำด้วยที่ในที่สุดก็.....รู้    บัวสี่เหล่าที่ท่านโพสมานั่นบอกอะไรหลายประการ

ก็ขอให้ท่านเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน  เป็นทหารที่มีคุณภาพ  เป็นความหวังของแผ่นดิน  นะครับ

โดยคุณ นย เมื่อวันที่ 05/07/2012 00:59:21


ความคิดเห็นที่ 93


กลับมาอีกครั้งไปไกลซะแล้ว ตอนแรกกะว่าจะไม่อ่านข้อความที่นอกปรเด็น สุดท้ายก็ต้องอ่าน ใครมั่วใครไม่มั่ว ใครเป็นปทปรมะ ทุกคนในบอร์ดเห็นแล้วกับข้อความที่ได้อ่านมา เพียงแต่คนๆน้้นอาจจะยังไม่รู้ตัว ผมขอแนนำเพื่อนสมาชิกเลิกตอบโต้กันจะดีกว่านะครับ กระทู้จะได้ไม่ยาว

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 05/07/2012 01:22:46


ความคิดเห็นที่ 94


สวัสดีท่าน น.ย. ครับ อดไม่ได้ที่จะทักทาย ใช่ท่านที่เป็นสมาชิกตั้งแต่ วิง21 ไหมครับ ?

ถ้าใช่ก็ถือว่านานโขทีเดียวที่ไม่เคยเห็นท่านโพสใน วิง21 และ TFC อีกเลย

สบายดีนะครับ อยากเห็นคอมเม้นท์ท่านในที่นี้และที่ TAF อีกนะครับ...

 

สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ท่าน MIG31 และเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ คงได้รับคำตอบเรื่อง ปตอ.

อัตตาจร แล้วนะครับ เพิ่มเติมด้วยเกล็ดความรู้เรื่อง ป. และ จลก. ซึ่งก็น่าสนใจมิใช่น้อย ถ้า

มองเฉพาะเรื่องสาระของกระทู้ ถือได้ว่าสมาชิกได้ความรู้ไปเต็มๆ เรื่องอื่นก็ว่ากันไป สมาชิกส่วน

ใหญ่เลือกเสพย์เลือกอ่านกันได้เองอยู่แล้วครับ ไม่ต้องเป็นห่วง...

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 05/07/2012 13:46:47


ความคิดเห็นที่ 95


" อีก6คอมเม้นก็100แล้ว ว่ะ555+ "

กระทู้นี้เป็นความทรงจำที่ดีสำหรับตัวผมที่ตั้งกระทู้ครับ เรียกว่าขุดมาถกอย่างเมามันส์ ไม่มีไรอะไรมากผมอยากให้กระทู้คงอยู่ต่อไป ไม่อยากให้คนๆนึงมาทำให้กระทู้ผมโดนลบ เหมือนปลาตัวเดียวพาเน่าทั้งเข่ง  ถ้ายังมีมาให้เห็นอีกว่าตอบกระทู้ไม่เกิดประโยชน์ ผมคงต้องแจ้งลบความเห็นนั้นๆที่ม่มีสาระครับ ในฐานะที่เป็นเจ้าของกระทู้

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 05/07/2012 20:06:17


ความคิดเห็นที่ 96


สวัสดีครับ ท่านเสือใหญ่และสมาชิกทุกท่าน

ขอบคุณครับที่ยังจำกันได้  ผมสบายดีครับและได้เฝ้าติดตามอ่านมาตลอด  ที่ไม่โพสก็เพราะคิดว่า

ความรู้ของผมมันชักจะไม่ทันเทคโนโลยีสมัยใหม่แล้ว  แต่ก็มาเก็บความรู้จากทุกท่านอยู่เสมอครับ

โดยคุณ นย เมื่อวันที่ 06/07/2012 17:51:20


ความคิดเห็นที่ 97


ต้องสไตล์อังกฤษครับ

โดยคุณ Banyat เมื่อวันที่ 09/07/2012 20:28:24


ความคิดเห็นที่ 98


ผมแปลกใจอยู่ว่าทำไมไทยไม่คค่อยสนใจระบบป้องกันภัยทางอากาศ ผมว่าเราเป็นรองเพื่อนบ้านทุกชาติ

คิดอีกแง่หนึ่งประเทศย่านนี้หวั่นกรงศักยภาพเชิงรุกของ ทอ.?

โดยคุณ trai เมื่อวันที่ 11/07/2012 15:45:05


ความคิดเห็นที่ 99


เดาว่ากองทัพเราเค้าไว้ใจ ทอ.ว่าการครองอากาศเอาอยู่แน่ๆอยู่แล้วอะครับ(หรือเปล่าหว่า) คงไม่มีใครหลุดมาได้ไงๆกองทัพไทยก็เก่งสุดในแถบนี้อยู่แล้วอะนะ

 

ปล. จะร้อยแล้วอีกอันเดียวเอง


โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 11/07/2012 17:41:55


ความคิดเห็นที่ 100


แล้วประเทศใหนในย่านนี้ที่ใช้กำลังอากาศเข้าโจมตีเท่ากับ ทอ.(เวียดนามก็เถอะครับ)

ครบ๑๐๐แล้วคร๊าบบบคุณMIG31

โดยคุณ trai เมื่อวันที่ 11/07/2012 17:56:58


ความคิดเห็นที่ 101


กรรมกะจะมาโพสกระทู้ที่100ซักหน่อยพลาดเลย

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 11/07/2012 20:47:18


ความคิดเห็นที่ 102


ความเห็นส่วนตัวผิดถูกต้องขอโทษด้วย

ผมว่าจะเชิงรุกก็ไม่น่าใช้นะ เพราะเครื่องบินที่มีเป็นเครื่องยนต์เดียวหมดจะปฏิบัติการเชิงรุกยาก

กว่า2เครื่องยนต์ แบกน้อยกว่า และอีกหลายๆอย่าง ทางที่ดีมีจรวดป้องกันตัวเองไว้หน่อยดีกว่า

แต่ก็แปลกนะ จะเหมือนเชิงรุกจะใช่ก็ไม่ใช่ ยังไงกัน

โดยคุณ SkuLLPunK เมื่อวันที่ 11/07/2012 23:19:56


ความคิดเห็นที่ 103


ใช่ครับ ผมถึงอยากให้ทอ.มีจรวดร่อน ติดหัวรบไม่ต้องใหญ่เอาแค่ ๕๐๐ ปอนด์ รัศมีทำการประมาณ ๕๐๐ กม. เอาซัก๒๐๐ลูก saab แค่บินเรียบชายแดนก็สามารถล็อคเป้าได้ทั้งภูมิภาค ผมว่าแค่นี้แถวนี้คงหนาวกันหมด

โดยคุณ trai เมื่อวันที่ 12/07/2012 00:45:37


ความคิดเห็นที่ 104


99 100 101 แห้วหมดT T อ้าวตกลงจะไปเครื่องบินกันแล้วเหรอครับตามไม่ทันเลยอิๆ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 12/07/2012 01:07:20


ความคิดเห็นที่ 105


ยิ้มสะใจเหลือเกินครับคุณหินน้อย

โดยคุณ trai เมื่อวันที่ 12/07/2012 01:58:10