หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สื่อจีนเกทับบลัฟแหลก J-10B เหนือ Su-30 เวียดนาม-อินเดียทุกทาง

โดยคุณ : kaypui42 เมื่อวันที่ : 22/06/2012 22:38:57


ภาพ จาก Wikipedia เครื่องบินรบเอนกประสงค์ J-10 "มังกรคะนอง" รุ่นแรก กำลังทะยานขึ้นจากสนามบินแห่งหนึ่งที่ไม่ได้ระบุชื่อและที่ตั้ง ทันทีที่แจ้งเกิดก็ได้เกิด และเป็นที่ฮือฮาเนื่องจากมีหน้าตาไปละม้ายคล้ายกับ F-16 ของสหรัฐฯ แต่ในวันนี้จีนได้ลบข้อครหาทั้งหมด พัฒนา J-10 จนถึงเวอร์ชั่น B1ซึ่งติดอุปกรณ์ใหม่เอี่ยมทั้งหมด แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลใดที่จู่ๆ สื่อของทางการก็นำเอาเครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งปัจจุบันเป็นกำลังหลักของกองอากาศ ไปเกทับบลัฟแหลก Su-30 ของรัสเซียที่เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซียและมาเลเซียมีประจำการในปัจจุบัน.
       .
       
ASTVผู้จัดการออนไลน์ – สื่อของทางการจีนได้ออกรายงานในสัปดาห์นี้ โดยนำเครื่องบินรบเอนกประสงค์ J-10 ไปเปรียบเทียบกับ Su-30 ของรัสเซีย ที่ประจำการในเวียดนาม อินเดีย รวมทั้งมาเลเซียกับอินโดนีเซียในปัจจุบัน อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยระบุว่าเครื่องบินรบของจีนที่ปรับปรุงขึ้นใหม่เหนือกว่าในทุกด้าน
       
       นิตยสารข่าวโกลบอลไทมส์ของจีนกล่าวในเว็บไซต์ว่า J-10B ที่พัฒนาใหม่ได้ติดอุปกรณ์และเครื่องมือใหม่ทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นระบบสงคราม อีเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมการบิน และเรดาร์ใหม่ที่สามารถสแกนเป้าหมายได้ไกลกว่า กว้างกว่ารุ่นเก่าและยังลดการสะท้อนเรดาร์ของข้าศึกลง ซึ่งทำให้ "ล่องหน" ได้มากกว่าเดิมอีกด้วย
       
       รายงานของสื่อจีนดูราวกับเป็นความพยามตอบโต้ข่าวในสื่อกลาโหมรัสเซีย ที่ออกมาสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า อินเดียมีปัญหากับการซื้อเครื่องบินรบราฟาล (Rafale) ลอตใหญ่จากฝรั่งศส และหันมาพัฒนา Su-30MKI โดยเพิ่มขีดความสามารถในการติดขีปนาวุธนิวเคลียร์
       
       สื่อรัสเซียรายงานปลายสัปดาห์ที่แล้วเช่นกันว่า เวียดนามกำลังเจรจาซื้อ Su-30 อีก 18 ลำ ทั้งหมดเป็น Su-30KN ที่พัฒนาใหม่ล่าสุด ล้ำหน้ากว่าทุกรุ่นในตระกูล Su-27/30 ในสงครามทางอากาศ ซึ่ง Su-30 รุ่นที่แล้วภายใต้รหัส MK2V เวียดนามเน้นสงครามทางทะเล คือการปราบเรือดำน้ำและทำลายเรือรบข้าศึก
       
       นักวิเคราะห์กลาโหมกล่าวว่า การจัดซื้อ Su-30KN ของเวียดนามสอดคล้องกับการเซ็นซื้อระบบป้องกันทางอากาศล้ำหน้าที่ผลิตในประ เทศเบลารุสอีก 20 ชุด นั่นคือ เตรียมรับมือกับ J-20 "สเตลธ์" ของจีน หากเกิดสงครามขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ไม่มีใครกล่าวถึง J-10 แต่อย่างไร
       
       ความเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ ยังมีขึ้นหลังจากสื่อออนไลน์ภาษาเวียดนามกับสื่อกลาโหมในรัสเซียปูดข่าวว่า ระบบเรดาร์ของเบลารุสที่เวียดนามใช้อยู่ในปัจจุบัน สามารถจับความเคลื่อนไหวของ J-20 ได้ระหว่างการฝึกซ้อมครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสื่อออนไลน์
       
       อย่างไรก็ตามโกบอลไทมส์ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ หากเน้นไปที่ขีดความสามารถใหม่ของ J-10B ซึ่งในปัจจุบันเป็นกำลังหลักของกองทัพอากาศ
       
       สำนักข่าวหว่านเกิว (Hoan Cau) สื่อออนไลน์ภาษาเวียดนามที่ปูดข่าวเรดาร์จับเครื่องบิน J-20 สัปดาห์ก่อนยอมรับว่า หากเทียบกับ J10A กับ J-11 แล้ว J-10B เป็นเครื่องบินรบสมรรถนะสูงสุดของจีนในปัจจุบัน และอาจจะเทียบชั้นราฟาลของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเครื่องบินรบยุค 4++ ได้อีกด้วย
       .


ภาพ จาก Wikipedia เครื่องบินรบเอนกประสงค์ J-10 ของกองทัพอากาศจีนอีกลำหนึ่ง ที่สนามบินแห่งหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ สื่อของทางการกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า J-10B1 ที่พัฒนาใหม่ล่าสุดเหนือกว่า Su-30 ทุกลำในย่านนี้ นักวิเคราะห์มองว่าสื่อของจีนกำลังพยายามตอบโต้ข่าวที่อินเดียหันมาพัฒนา Su-30 เพื่อให้ติดอาวุธนิวเคลียร์ได้ และเวียดนามกำลังเจรจาซื้อ Su-30KN อีก 18 ลำ เป็น "รุ่นท็อป" ของซีรีส์นี้จากรัสเซีย คราวนี้เพื่อสงครามทางอากาศโดยเฉพาะ.
       .
       จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบ J-10 ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2551 เครื่องต้นแบบออกมามีรูปร่างหน้าตาคล้าย F-16 ของสหรัฐฯ แทบจะทุกกระเบียด จากนั้นก็เริ่มพัฒนา J-10B เพิ่มขีดความสามารถในด้านต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรบ
       
       ขณะเดียวกันสื่อของจีนได้รายงานในสัปดาห์ต้นเดือนนี้ว่า การทดสอบเครื่องบิน J-15 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับเรือบรรทุกเครื่องบินนั้นได้งวดเข้ามาทุกที จนเกือบจะเดินสายการผลิตได้แล้ว การพัฒนาไปถึงขั้นที่ว่าระบบเรดาร์อะไรต่างๆ ของ J-15 มีประสิทธิภาพสูงกว่าของ Su-33 ต้นแบบอีกด้วย
       
       จีนซื้อโครง Su-33 ที่สหภาพโซเวียตเก่าทิ้งเอาไว้จากสาธารณรัฐยูเครนและนำไปพัฒนาเป็นเครื่อง ต้นแบบ J-15 ขณะเดียวกันก็ซื้อโครงเรือบรรทุกเครื่องบินวาร์แย็กซึ่งเป็นโครงต้นแบบเดียว กันกับเรือบรรทุกเครื่องบินแอดมิรัลคูซเน็ตซอฟของกองทัพเรือรัสเซียปัจจุบัน แต่โซเวียตสร้างยังไม่แล้วเสร็จและทิ้งเอาไว้ในยูเครน จีนนำไปทำขึ้นใหม่กลายเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของประเทศ
       
       จีนประกาศจะสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินของตนเองในระยะ 10-20 ปีข้างหน้า และพัฒนา J-15 เป็นการเตรียมรับอนาคต
       
       กองทัพเรืออินเดียเป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีเรือบรรทุกเครื่องบินที่ สร้างจากต้นแบบของโซเวียตเช่นกัน ด้วยความร่วมมือช่วยเหลือจากรัสเซีย ปัจจุบันเรือวิกรมดิฐย์ (INS Vigramaditya) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 อยู่ระหว่างออกแล่นทดสอบระบบต่างๆ ในทะเล
       
       แต่ต่างไปจากรัสเซียที่กำลังจะยกเลิก Su-33 และใช้่เครื่องบินรุ่นใหม่ประจำบนเรือคูซเน็ตซอฟ จีนกำลังพัฒนา "Su-33" เวอร์ชั่นของตนเอง อินเดียเลือกพัฒนามิก-29 (MiG-29) ที่ผลิตในประเทศ ประจำเรือบรรทุกเครื่องบินลำล่าสุด.


เครื่อง บินรบเอนกประสงค์ Su-30 ของกองทัพอากาศเวียดนาม ซึ่งสื่อออนไลน์ในจีนนำไปตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อต้นปีนี้ เพียงข้ามเดือนหลังได้รับจากรัสเซียลอตสุดท้าย 8 ลำที่สั่งซื้อในปี 2552 เจ้าหมายเลข ซึ่งลำที่ติดหมายเลข 8536 นี้เป็นลำที่สองในกลุ่ม Su-30MK2V ที่เวียดนามสั่งเพิ่มอ็อพชั่น เพื่อสงครามทางทะเลโดยเฉพาะ สื่อจีนรายงานในสัปดาห์นี้ J-10B "มังกรทะยาน" รุ่นที่พัฒนาล่าสุดของตนเหนือกว่าทุกทาง.
       


เครื่อง บินรบเอนกประสงค์ Su-30KN กำลังปล่อยจรวดนำวิถี Kh-29TE แบบอากาศสู่พื้นเพื่อทำลายเป้าหมายขนาดใหญ่ เช่นโรงงาน ถนน สะพานหรือรถไฟของฝ่ายข้าศึก นอกจากภารกิจหลักในการทำสงครามทางอากาศแล้ว Su-30 เวอร์ชั่นนี้ยังใช้ในภารกิจโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินด้วยเหมือนกัน สื่อในรัสเซียรายงานปลายสัปดาห์ที่แล้วว่าเวียดนามกำลังเจรจาซื้อจากรัสเซีย จำนวน 18 ลำ ซึ่งนักวิเคราะก์มองว่าเป็นการเตรียมรับมือ J-20 "สเตลธ์" ของจีน.
       


เครื่อง บิน Su-30MKI ของกองทัพอากาศอินเดีย 2 ลำ สื่อของจีนกล่าวว่า เครื่องบินรบรัสเซียตระกูล Su27/30 แพ้ J-10 รุ่นล่าสุดแบบหลุดลุ่ยทุกทาง แต่สื่อในรัสเซียรายงานก่อนหน้านี้ว่า อินเดียกำลังหันมาพัฒนา Su-30 รุ่นใหม่โดยขอลิขสิทธิ์ผลิตเองและเพิ่มขีดความสามารถให้ติดขีปนาวุธ นิวเคลียร์ได้.
       

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000076552

 





ความคิดเห็นที่ 1


J-10 กับ SU-30MKI นี่มันมวยคนล่ะรุ่นเลยนะนี่ เอามาเปรียบเทียบกันไปได้สื่อจีน ขนาดตอนฝึกที่อินเดีย F-15E เจอเข้าไปยังเหงื่อตกเลย

โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 22/06/2012 03:31:12


ความคิดเห็นที่ 2


ข่าวมั่วนั่งเทียนเขียน กำลังหลักทางอากาศของจีนก็ sU 30 มีมากกว่าของเวียดนามสามเท่า เอาข่าวสามสี่อย่างมาขย่ำรวมกันแล้วเขียนเป็นตุเป็นตะ อ่านแล้วไม่รู้จะคิดยังไงกับสำนักข่าวนี้

โดยคุณ nathekop เมื่อวันที่ 22/06/2012 08:33:09


ความคิดเห็นที่ 3


ผมว่า  ระหว่าง เวียดนาม กับ จีน  ..  ถ้ารบกันจริงๆ โดยไม่มี มือที่สาม   ผมว่า เวียดนามจะแพ้อย่างราบคาบภายใน ไม่เกิน 1 สัปดาห์

วิธีรบแบบกองโจร ที่เวียดนามภูมิใจหนักหนา  ผมว่า จีนก็มีวิธีรบแบบกองโจร คล้ายๆกัน .. แต่ จำนวน ทหาร และ อาวุธ จีนเหนือกว่าหลายเท่า

และจีน ก็ไม่ได้รบแบบกึ่งสู้กึ่งถอย แบบ อเมริกา  ที่ตอนมาแพ้เวียดนาม .. สภาพจิตใจ ความโหดเหี้ยม ก็พอๆกับทหารไทย

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 22/06/2012 09:16:43


ความคิดเห็นที่ 4


ข่าวจากสื่อเครือนี้มั่วมากครับ

จากผลการซ้อมรบระหว่าง J10B vs SU30 ของจีน ดูเหมือนจีนไม่ค่อยพอใจกับประสิทธิภาพของ J10 มากนักโดยเฉพาะเรื่องเรดาห์

โดยจีนมีแผนพัฒนาเรดาห์รุ่นใหม่  AESA สำหรับ J10B เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับ J10B

ในช่วงปีที่ผ่านมา SU30MK ของเวียดนามได้ทำการล็อกเป้าเครื่อง J10 ของจีน นับ 10 ครั้งจากการลาดตะเวณทางอากาศของทั้ง 2 ฝ่าย (ข่าวนี้รอการยืนยันอย่างเป็นทางการ)

vietnam-su-30-locked-j-10-10-times

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 22/06/2012 09:35:51


ความคิดเห็นที่ 5


อื่ม.....สำนักข่าวนี้ดีจริง ๆ http://hoancau.net/ 

 ขาวเนียน ๆ


โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 22/06/2012 10:32:48


ความคิดเห็นที่ 6


Rafale  ล่มที่อินเดียแล้วเหรอครับ

โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 22/06/2012 15:15:42


ความคิดเห็นที่ 7


สรุปสื่อจีนมั่วหรือสื่อเรามั่วครับ

โดยคุณ spooky เมื่อวันที่ 22/06/2012 22:38:57