ผมขอเริ่มก่อนน่ะครับ ( ไม่รู้ว่าจะวิเคราะห์ ถูกป่าว )
ผมมองว่า ปัญหาชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ของพม่า มันมีมานานแล้ว แต่ มันไม่ได้รุนแรงอะไรแบบทุกวันนี้
ตั้งแต่ มีข่าวเรื่องสร้าง ท่าเรือน้ำลึกทวาย บวกกับพม่าจะเป็นประชาธิปไตย .. ความรุนแรงก็ก่อตัวขึ้นทันที
มันมีกำลังภายในภายนอก มาสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงอะไรหรือเปล่า .. และ เท่าที่ดูข่าว ชาวมาเลย์ออกมาเต้นกับข่าวนี้
ผมว่า มันต้องมีอะไรแอบแฝงในความรุนแรงครั้งนี้แน่ๆ รวมทั้ง มีข่าวเกี่ยวกับกองทัพเรืออเมริกา เข้ามาในช่วงนี้ด้วย
หรือว่า สิงคโปร์ มาเลเซีย บังคลาเทศ .. จะเสียผลประโยชน์ หากท่าเรือน้ำลึกทวาย เกิดขึ้นจริงๆ
แล้วอเมริกา อาจจะเป็น ตาอยู่ มาฉวยชิ้นปลามันไปดื้อๆ โดยใช้กฏของตำรวจโลก เข้ามารักษาความสงบในพื้นที่
.. ขอวิเคราะห์ เท่านี้ก่อน คนชั่วๆอย่างผมคิดได้เท่านี้ พวกที่จะเสียผลประโยชน์ คงคิดก่อนหน้าผมไปหลายปีมั๊ง อิอิ
ผมก็คิดยังงั้นครับ ประเทศกำลังจะเจริญ แล้วดูจะรุ่งมากๆ
ถ้าปล่อยให้พุ่งแรงไป มันจะไปเกินหน้าเกินตาคนอื่น ต้องกวนหน้าดางขัดขาขัดแข้งไว้
เพราะถ้าปล่อยไห้เจริญ จะมีประเทศที่ได้ประโยชน์เต็มๆ สองสามประเทศ
แล้วก็เสียหายโดยตรงอีกสองสามประเทศ
แบ่งแยกและปกครอง (divide and rule) คือรูปแบบหนึ่งการวิธีการเข้าครอบครองชุมชน/เมืองหรือประเทศในสมัยล่าอณานิคม
อังกฤษใช้วิธีนี้ในการเข้ายึดครองอินเดีย และพม่า ด้วย (และพยามกระทำต่อสยามโดยการดึง รัฐฉาน ล้านนาและหัวเมืองมลายูออกจากสยาม ซึ่งก็ทำได้สำเร็จบางส่วน คือ ได้รัฐฉาน และหัวเมืองมลายูส่วนล่างคือ ไทรบุรี กลันตัน ตรังการนู ปะลิศ ไปได้)
ภาพแสดงระยะเวาลาใรการเช้ายึดครองพม่าของจักรวรรดิอังกฤษ
ภายแสดงหัวเมืองทั้งหลายของพม่า
ภาพแสดงเส้นทางลอจิสติกส์ของท่าเรือเมืองทวายที่เชื่อต่อโลกและอาเซี่ยน
จากภาพแรกจะเห็นว่ารัฐอรากัน เป็นรัฐแรกๆ ของพม่าที่โดนจักรวรรดิอังกฤษเข้ายึดครอง (ปี 1824-1826) เนื่องจากเป็นเมืองท่าความเชื่อมโยงทะเลกับทางเรือในอินเดียโดยตรง โดยอังกฤษได้บุกเบิการปลูกชาที่นี่เป็นแห่งแรกด้วย และได้นำแรงงานมุสลิมที่มีอยู่จำนวนมากในแค้วนเบงกอลของอินเดีย (ปัจจุบันคือบังคลาเทศ) มาทำงานในไร่ชาที่นี่ (ชาวยะไข่ในรัฐอรากันเรียกพวกนี้ว่า โรฮิงญา) หลังจักรวรรดิอังกฤษถอนตัวจากอินเดียและพม่าหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเป็นเหตุให้มีชาวโรฮิงญาตกค้างที่พม่าจำนวนมาก (ปัจุบันมีราวร้อยละ 20 ของประชากรในรัฐอรากัน หรือราว 730,000 คน จากประชากรในรัฐนี้ 3,800,000 คน)
ทั้งนี้ พม่าไม่เคยยอมรับว่าชาวดรฮิงญาเป็นประชากรของตน จึงทำให้ชาวโรฮิงญาอยู่ในแผ่นดินพม่าด้วยความยากลำบาก และทยอยหลบหนีไปขายแรงงานในประเทศเพือนบ้านของพม่าจำนวนมาก จนกลายเป็นปัญหาทั้งเรื่องสิทธิมุนษยชนและการต้าแรงงานเถื่อน อย่างที่พวกเราทราบกันดี
ปัญหานี้ต้องเชิญอังกฤษเจ้าของปัญหา มาช่วยออกความคิดด้วยจึงจะเหมาะ ลำพัง UN จะให้พม่ากับบังคลาเทศ ช่วยกันแก้ปัญหาควจะไม่สมประกอบแน่
นี่คือ ระเบิดเวลา ที่พวกล่าอาณานิคมทิ้งไว้ เพื่อการกลับเข้ามามีบทบาทของประเทศตนเองในอนาคต
พวกฝรั่งนี่เขาฉลาดกว่าพวกเรายอะนะครับอย่างได้ประมาทไป
ตัวอย่าง การแบ่งแยกและปกครองในที่อื่น ๆ ที่เจ้าอาณานิคม (อังกฤษ) ได้รับประโยชน์แบบเต้มๆ จนถึงปัจจุบันนี้ (BP Oil ได้ประโยชน์เต็มๆ)ได้แก่
1. อิรัค และคูเวต
2. มาเลเซีย และบรูไน
3. รัฐอาหรับอื่นๆ เช่น UAE เยเมน กาต้าร์
ภาพแสดงอาณาเขตจักรวรรดิอังกฤษ
เปิดวิกิดูไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอเกี่ยวกับกระทู้นี้พอดีครับ
Arakan uprising (Burma)
A sizable number of mujahideen are present and concentrated in the province of Arakan, Burma.[66] They were much more active before the 1962 coup detat by General Ne Win. Ne Win carried out some military operations targeting them over a period of two decades. The prominent one was "Operation King Dragon" which took place in 1978; as a result, many Muslims in the region fled to neighboring country Bangladesh as refugees. Nevertheless, the Burmese mujahideen are still active within the remote areas of Arakan.[67] Their associations with Bangladeshi mujahideen were significant but they have extended their networks to the international level and countries such as Pakistan, Malaysia, et al., during the recent years.[citation needed] They collect donations, and receive religious military training outside of Burma.
http://en.wikipedia.org/wiki/Foreign_mujahideen
แปลได้ว่า
การลุกฮือที่รัฐอราคาน (รัฐยะไข่ในปัจจุบัน)
ปัจจุบันมีกลุ่มมูจาฮีดีนขนาดใหญ่ในรัฐยะไข่ของพม่า พวกเขาเริ่มปฏิบัติการนานแล้ว ก่อนที่นายพลเนวินจะก่อนการรัฐประหาร ในปี1962 นายพลเนวินได้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กลุ่มมูจาฮีดีนมาตลอด2ทศวรรษ์ ที่โดดเด่นคือ ปฏิบัติการคิง ดราก้อน (ราชามังกร) ในปี1978 ทำให้มูจาฮีดีนและชาวมุสลิมในพม่าจำนวนมาก ต้องอพยพลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านบังคลาเทศ ถึงกระนั้นมูญาฮีดีนพม่าก็ยังคงปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของรัฐยะไข่ พวกเขายังร่วมมือกับมูจาฮีดีนบังคลาเทศ และเริ่มยกระดับเครือข่ายระหว่างประเทศเช่น ในปากีสถาน มาเลเซีย ฯลฯ พวกเขารวบรวมเงินบริจาค และฝึกอาวุธอยู่นอกประเทศพม่า
ถ้าเป็นตามข้อมูลนี้จริง สรุปได้ว่า บริเวณนี้มีความขัดแย้งมานานแล้ว พม่าก็ไม่เอา มูจาฮีดีนก็ไม่เอา โอกาสเผชิญหน้าในอนาคตมีสูง และเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีการยุยงจากประเทศภายนอก อย่างที่ท่านสมาชิกได้ตั้งข้อสังเกตไว้ครับ รวมทั้งสถานการณ์และปัจจัยพาไปด้วย
มาเลย์มายุ่งอะไรกะเขาด้วย แต่ไหนแต่ไรไม่เคยทำท่าทีแบบนี้เลย ปกติจะ แบะ แบะ แบะ ..... เพราะพม่าซี้ปึ๊กจีน พอพม่าหมางเมินกันกับจึน มันก็จุ้นทันที หรือเพราะว่าตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไรในทวายเลย เพราะมีแค่ไทยกับสิงคโปร์ที่มีเอี่ยว
ปกติเรื่องนี้จะเป็นปัญหาโดยตรงระหว่างบังคลาเทศกับพม่านี่นา
แต่ก็ดี สร้างศัตรูไว้เยอะๆเถอะพี่มาเลย์ เดี๋ยวสวย.....
ตวามวุ่นวายในเขตพื้นที่ทางตอนใต้ของพม่าทั้งหมด ถ้าเราจบปัญหาภายในและได้คนวางหมากเก่งๆมาจัดการ เราจะยิ่งได้ประโยชน์เข้าไปอีก อยากให้มาเลย์แสดงตัวออกนอกหน้าถลำยิ่งกว่านี้ เดี๋ยวพม่าอาจจะมีปฎิกริยากับพวกแขกมาเลย์นี้เอง
ลองของกับขาใหญ่ในภูมิภาคนี้ถึงสองประเทศพร้อมกัน น่าติดตามครับน่าติดตาม.............
เรื่องมาเลย์โวยเกี่ยวกับเหตุจราจลนี่ผมยังหาตามข่าวไม่เจอครับ
แต่พอไปอ่านข่าวดูแล้ว จะเห็นว่าสาเหตุมาจากน้ำผึ้งหยดเดียวจริงๆ... ปัญหาความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ศาสนา นี่มันน่ากลัวจริงๆนะครับ เช่นเยอรมัน-ยิว ฮูตู-ทุซซี่ในรวันดา จีนฮั่น-อุยกูร์ในจีน มุสลิม-ฮินดูในอินเดีย อุซเบก-คีร์กีซสถาน บางครั้งก็เกิดจากเรื่องเล็กๆ แก้แค้นกันไปกันมา เลยลุกลาม บางเรื่องก็สะสมมานานจนระเบิดออกทันที บางเรื่องก็แค้นฝังหุ่นแบบอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้ ต้องตีกันจนกว่าโลกจะแตก...
อันนี้เป็นภาพเหตุการณ์ขอลงเฉพาะที่ไม่รุนแรงเกินไป
ขอบคุณที่มาจากเว็บ ฅนเครือไท ครับ
ตำรวจพม่า สังเกตอาวุธ นั้นมันปืนไรเฟิลลีเอนฟิลด์ยุคสงครามโลกของอังกฤษนี่หน่า!!
มีเอ็ม16ด้วย
ตร.พร้อมโล่ห์
ตร.จับผู้ก่อเหตุ
ดับเพลิง
ทหารพม่ากับไรเฟิลเมดอินพม่า EMRK2 อะไรนี่ละ
ชาวโรฮิงยา? ถือดาบ?
อันนี้ลีเอนฟิลด์ใหม่หน่อย
เผาๆ
เรื่องมาเลย์นี่ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่เท่าที่สังเกตุดูเวลามีปัญหาข้อขัดแย้งอะไรโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับศาสนาเค้ามักจะออกหน้ามาแรกๆเสมอแต่จะค่อยๆเงียบไปไม่ต่อ ไม่รู้ทำไม
กรณีปัญหาในรัฐยะไข่นี่มีมานานแล้วครับหลักๆจะเกี่ยวกับบังคลาเทศที่ดูอาการคงไม่ต่างจากสามจังหวัดทางใต้เราเท่าไร
ผมคิดว่า รัฐบาลพม่า ก็คงศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการแบ่งแยกดินแดน ของประเทศต่างๆ เช่น ปัญหาสามชายแดนใต้ของไทย
ปัญหาของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมของศรีลังกา ปัญหาชาวอุยกูร์ของจีน .. พม่าเค้าคงศึกษามานานแล้วเหมือนกัน ว่าจะใช้วิธีปราบปรามยังไง
อย่างของไทย ใช้วิธีไม้อ่อนรุนแรงไปกลัวจะละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นวิธีที่แก้ปัญหาที่จะให้สำเร็จทำได้ยากมากๆ พม่าก็คงศึกษาแล้ว
อย่างวิธีของจีน ก็คล้ายๆกับของไทย แต่ ของจีนจะแรงกว่าหน่อย ก็ปราบปรามกบฏอุยกูร์ได้ในระดับหนึ่ง แต่จีนเค้าฉลาดกว่า ตรงที่
เค้าใช้มวลชนชาวจีน เข้าไปแทรกตัวในชุมชนต่างๆของอุยกูร์ จนพวกกบฏรวมตัวกันไม่ติด แถมมาตรการลงโทษของจีนรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิตทันที
ไม่เอามาขึ้นโรงขึ้นศาลให้เสียเวลาเหมือนของไทย.. ส่วน วิธีปราบปรามกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬของศรีลังกา ใช้วิธีรุนแรงเฉียบขาด ขุดไม่ให้เหลือตอ
จนกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมในศรีลังกาแทบสูญพันธ์ .. ผมคิดว่า ทางการพม่า ก็คงจะใช้วิธีเดียวกับศรีลังกา .. เอาแบบขุดรากถอนโคนเลยทีเดียว
สงกรานต์ที่ผ่านมาบังเอิญได้เข้าไปค่ายผู้อพยพอาระกันที่ชายแดน
ความเป็นอยู่ในนั้ันค่อนข้างสบายจากเงินญาติพี่น้องเค้าที่อยู่ในยุโรป
เข้าเรื่องๆชาวอาระกันที่เป็นพุทธค่อนข้างไม่ยอมรับกลุ่มที่เป็นมุสลิมเท่าไหร่ พยายามพร่ำบอกว่ารัฐนี้เป็นของคนพุทธ
แต่ที่เค้าไม่ชอบเลยคือทหารพม่าเพราะเค้าโดนไล่ยิงมาเมื่อหลายปีก่อนจนต้องอพยพมาที่ค่ายนี้
กระทู้ ที่ท่านเคยตั้งไว้ครับ