เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (14) ระบุ สหรัฐฯ มียอดขายอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ต่างชาติทะลุ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.58 ล้านล้านบาท) ในรอบปีที่ผ่านมา ถือเป็นสถิติรายได้จากการขายอาวุธที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ สาเหตุสำคัญมาจากข้อตกลงสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ที่มีเข้ามาทั้งจากซาอุดีอาระเบียและญี่ปุ่น
       
       แอนดรูว์ แชพิโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการทางการเมืองและการทหาร เปิดเผยที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยยืนยันว่า ในปีงบประมาณ 2012 ที่สิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน สหรัฐฯ สามารถทำยอดขายอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นวงเงินมากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นรายได้จากการขายอาวุธในระดับ “รัฐบาลต่อรัฐบาล” ที่สูงขึ้นจากปี 2011 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์
       
       นอกเหนือจากการบรรลุข้อตกลงขายเครื่องบินขับไล่จำนวนมากให้กับรัฐบาลซาอุดีอาระเบียและกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นแล้ว ทางการสหรัฐฯ ยังหวังที่จะบรรลุข้อตกลงมูลค่ากว่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (44,107 ล้านบาท) เพื่อขายเฮลิคอปเตอร์แบบ “อาปาเช่” จำนวน 22 ลำให้กับอินเดียอีกด้วย
       
       อย่างไรก็ดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้เผยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่า ในปี 2013 สหรัฐฯ จะสามารถทำยอดขายอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ต่างประเทศได้มากขึ้นกว่านี้อีกหรือไม่ แต่ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะยังคงมองหาช่องทางในการเพิ่มยอดขายสินค้าทางทหารของตนในตลาดสำคัญๆ รวมถึงอินเดีย
       
       ทั้งนี้ มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทโบอิ้ง มีรายได้จากการจำหน่ายฝูงบินขับไล่ “เอฟ-15 เอสเอ” จำนวน 84 ลำ รวมถึงการอัพเกรดฝูงบินดั้งเดิมที่ใช้เครื่องบินขับไล่ “เอฟ-15 เอส” อีก 70 ลำ ให้แก่ซาอุดีอาระเบียคิดเป็นวงเงินสูงถึง 29,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 926,250 ล้านบาท) หรือคิดเป็นรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด ที่สหรัฐฯ ได้จากการขายอาวุธให้แก่ต่างประเทศในปีนี้

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000073439