อยากทราบ เกี่ยวกับดาวเทียมครับ
โดยคุณ : soda77
เมื่อวันที่ :
13/06/2012 09:02:42
เจอใน วิกิ
ข้อถกเถียงการถือกรรมสิทธิ์ดาวเทียมและวงโคจร
กิจการดาวเทียมเป็นกิจการสัมปทานที่ได้รับการอนุญาตโดยการทำสัญญาจาก กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ผู้มีสิทธิให้อนุญาตและเพิกถอนสัญญาเรียกคืนสัมปทาน แต่เช่นเดียวกับการถือสัมปทานอื่น ผู้ให้สัมปทาน (หน่วยงานของรัฐ) ไม่สามารถบริหารดาวเทียม คงจะเป็นผู้กำกับและเป็นเจ้าของทรัพย์สินและคลื่นความถี่เท่านั้น แต่เป็นบริษัทผู้ได้รับสัมปทาน ที่บริหารนโยบายการใช้งานดาวเทียมได้เอง หากไม่ขัดกับเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน
เดิมทีบริหารนโยบายการใช้งานดาวเทียม แม้ว่าไม่ใช่โดยหน่วยงานของรัฐ แต่ก็ยังถือว่าโดยบริษัทของชาวไทย (มีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่) แต่เมื่อ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขายหุ้นครั้งใหญ่ สายการบริหารจึงดำเนินการโดยบริษัทของชาวสิงคโปร์ (ชาวสิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่)
อย่างไรก็ตาม มีกระแสความเห็นว่า ยังไม่ใช่การครอบครองโดยเบ็ดเสร็จ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารยังเป็นผู้พิจารณาให้สัมปทาน จึงอาจกล่าวโดยมุมมองที่ต่างกันไปว่า เจ้าของที่แท้จริงยังเป็นคนไทย เพียงแต่ให้ชาวต่างชาติเช่าเพื่อดูแลและใช้งานในธุรกิจ อีกทั้งยังอาจมีวิธียึดคืนสัมปทานได้ ถ้าค้นคว้าได้ว่าผิดสัญญา
ทั้งนี้ ข้อกฎหมายตั้งเงื่อนไข ห้ามมิให้บริษัทที่ชาวต่างชาติถือหุ้นรายใหญ่ในสัมปทาน เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม แต่ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ซึ่งเป็นผู้ถือรายหุ้นใหญ่ใน บริษัท ไทยคม จำกัด) ได้ขายหุ้นให้ บริษัท ซีดาร์ โฮลดิงส์ จำกัด ซึ่งบริษัทนี้ แม้จดทะเบียนในประเทศไทย แต่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิงส์ จำกัด (สรุปให้ง่ายว่า ขณะนี้ บริษัทไทยคม เป็นบริษัทลูกของ บริษัทชินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทซีดาร์โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทเทมาเส็กโฮลดิงส์)
ดังนั้นถ้าพิจารณาโดยเบื้องต้น จึงไม่ขัดกับข้อกฎหมาย เพราะ บริษัทชินคอร์ปอเรชั่นไม่ใช่บริษัทต่างชาติโดยตรง ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (เป็นบริษัทลูกอีกชั้นหนึ่ง) ทั้งนี้ถือเป็นการเลี่ยงโดยอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย ซึ่งถ้าพิจารณาตามสายการบริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จากบริษัทเทมาเส็กโฮลดิงส์ สามารถล็อบบี้และควบคุมการบริหารและดำเนินนโยบายใน กิจการดาวเทียมไทยคม โดยลำดับเป็นทอดๆ
.. ที่อ่านมา อยากถามผู้รู้ว่า ปัจจุบันสิงคโปร์ ยังถือครองดาวเทียมไทยอยู่มั๊ย ถ้ายังถืออยู่ ยังมีสัญญาอีกกี่ปี และจากที่สิงคโปร์ควบคุมการสือสารของไทย
มันจะกระทบความมั่นคงของไทยด้านใหนบ้าง แล้วเป็นไปได้มั๊ยว่าต่อไป จะไม่มีต่างชาติมาควบคุมกิจการภายในของไทยอีก
แล้วถามกลับว่า เจ้าของกระทู้รู้ไหมว่า ดาวเทียมไทยคม นะ มันรุ่นไหน ดาวเทียมไทยคม มันมีหลายรุ่นนะ
ดาวเทียมไทยคม รุ่นเก่า ที่เราให้สิงคโปร์เช่านะ มันยิงขึ้นไปปี 2538 และก็น่าจะหมดอายุการใช้งานของดาวเทียมรุ่นนี้ไปแล้ว น่าจะเป็นรุ่น1 หรือ รุ่น2 นี่แหล่ะ (ถ้าผมจำไม่ผิด)
ดาวเทียม ที่สร้างขึ้น แล้วยิงขึ้นไปสู่วงโคจรอวกาศนอกโลก ส่วนมาก จะมีอายุแค่ 12-15 ปี แล้วก็ต้องสร้างใหม่ แล้วยิงขึ้นไปใหม่อีกครั้ง เพื่อทดแทนตัวเดิม
มันเป็นดาวเทียมเก่าแล้ว ที่เราให้สิงคโปร์เช่า มีอายุใกล้จะถูกยิงกลับมาสู่พื้นโลกเหมือนเดิม และมันก็เป็นเพียงแค่ดาวเทียมสือสารทั่วๆ ไป แล้วทุกวันนี้ ดาวเทียมดวงนั้น ก็หมดอายุการใช้งานไปแล้ว
ยิงขึ้นปี 2538 นี่ ก็ผ่านมาตั้ง 17 ปี แล้ว ปฏิวัติปี 2549 ทำสัญญาเช่าก็น่าจะปี 47-48 ถ้าผมจำไม่ผิดนะ
แล้วถ้าคุณกลัวกระทบความมั่นคงขนาดนั้น กองทัพไทย ให้กองทัพสิงคโปร์มาเช่าพื้นที่และสนามบินอะไรๆ ต่อมากมาย แถมขนอาวุธยุทโธปกรณ์มาไว้ในประเทศเรามากมาย ทำไม สถานที่เหล่านั้น มีความลับของความมั่นคงของชาติยิ่งกว่านี้ ไม่ใช่หรอ
การเข้าไปกว้านซื้อหุ้น และ การเข้าไปซื้อที่ดินของคนต่างชาติ-โดยนายหน้าเป็นคนไทย นี่แหล่ะ คือการรุกกินประเทศแบบใหม่ ไม่เสียเลือดเนี้อในการรบเลย-โรงพยาบาล สถานที่ราชการ ต่างๆ ที่เราภูมิใจกันนักกันหนา ไปดูผู้ถือหุ้น เห็นแล้วคุณจะหนาว
ปล.ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ
เมื่อวันที่
12/06/2012 15:43:58 ท่าน seetha456 ช่วยขยายความได้มั้ยครับ สรุปสถานที่ราชการต่างๆ มีผู้ถือหุ้นด้วยหรือครับ การเข้ามาถือครองที่ดินโดยมีคนไทยเป็นนอมินีมีมานานมากแล้วครับไม่ว่าจะเป็นเกาะต่างๆ หรือชายหาด หรือแม้กระทั่งที่ดินทำการเกษตรล้วนแต่มีการเข้ามาครอบครองของต่างชาติทั้งสิ้น แต่รัฐยังนิ่งเฉยอันนี้ไม่รู้ว่ารู้แล้วแต่นิ่งเฉยหรือไม่รู้กันแน่ ต่างชาติไม่น่ากลัวครับ น่ากลัวสุดๆก็คนไทยใจหนอนนี่แหละครับ
เมื่อวันที่
12/06/2012 19:04:04 ลองหาข้อมูลเองครับ
เมื่อวันที่
13/06/2012 00:03:02 ขอบคุณ ท่าน seetha456
ท่านเล่นตอบซะ ผมรู้สึกหนาวเลยจริงๆ .. งืมม จริงเหมือนที่ท่านว่า ปัจจุบันนี้ ทั้งที่ดิน ทั้งหุ้น ทั้งบริษัทห้างร้าน ตึกสูงๆใหญ่ๆ
ส่วนมากมีต่างชาติเป็นเจ้าของ อย่างเกาะกูด นี่ได้ข่าวว่า เกือบครึ่งเกาะเลยน่ะ
ตอนนี้ กระจ่างเรื่องดาวเทียมแล้ว .. แต่ มากังวลเรื่องการถือครองที่ดินของต่างชาติอีก จะว่าไปแล้ว รัฐบาลยังไม่รู้สึกเดือดร้อน
ฝ่ายความมั่นคงก็ไม่รู้สึกเดือดร้น แล้วเราคนธรรมดาๆจะรู้สึกเดือดร้อนไปทำไม ..
ต่อไปรุ่นลูกหลาน คงต้องขอเช่าที่ทำนาบนแผ่นดินไทยจากเจ้าของที่ดินชาวสิงคโปร์และชาวซาอุ อนาถใจจริงๆ
หรือว่า ยุคทาสในเรือนเบี้ย กำลังจะกลับมา .. แต่มันเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ทาสเป็นคนไทย เจ้านายเป็นต่างชาติ
เมื่อวันที่
13/06/2012 09:02:42