BNS Bangabandhu
เป็นเรือรบที่สั่งซื้อจาก เกาหลีใต้ มูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นราคาในการจัดหาในครั้งแรก โดยยังไม่ได้มีการ Mod.
โดยเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการ Mod. ใหม่ โดย Thale รวมถึงมีการจัดหา ฮ.ประจำเรือ AW-109 มาจำนวน 2 ลำ
รวมถึง มีการฝึกร่วมกับ ทร.สหรัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกำลังพลเรือ
ทร.บังคลาเทศ กำลังปรับตัว เพื่อให้ ทัดเทียม กับประเทศเพื่อนบ้าน มากขึ้น
BNS Bangabandhu
ก่อนหน้านี้ ก็มีประจำการด้วยเรือ มือสอง จากประเทศจีน ซึ่งเป็นเรือชั้น เจียงหู รุ่นเดียวกับ ทร.พม่า
BNS Osman
และใน อนาคต ประมาณปี 2014
จะมีเรือรบ ประจำการเพิ่มใหม่อีก จำนวน 2 ลำ เป็นเรือ มือสอง ชั้น เจียงเว่ย I จาก ประเทศจีน เช่นกัน
ผม เดาว่า น่าจะเป็น หมายเลข 539 และ 540 ของ จีน
และน่าจะมีการปรับเปลี่ยน AAW เป็น FM-90N เช่นเดียวกับ BNS Bangabandhu
ทร. บังคลาเทศ และ ทร. พม่า เคยมีการกระทบ กระทั่ง กันใน น่านน้ำ ที่มีการ ปะทะ ด้วย เรือรบ กันมาแล้ว...
ในขณะที่ จีน ก็มีผลประโยชน์อยู่กับ พม่า ในเรื่อง ท่อส่งก๊าซ...
และในขณะเดียวกัน จีน ก็ขาย เรือรบ ให้กับ ทั้ง 2 ฝ่าย...
ก็เลยทำให้ สงสัยว่า จีน วางแผนใน บริเวณ อันดามัน นี้อย่างไร...
หรือ จีน จะใช้ การ control หรือ แผ่อิทธิพล ในลักษณะ การควบคุมอาวุธ ของทั้ง 2 ฝ่าย...
ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย คงไม่ใช้ อาวุธ จีน มาทำลายผลประโยชน์ของ จีน ที่อาจจะมีอยู่ในบริเวณ ที่มีความขัดแย้ง...
และจากการซื้อเรือชั้น เจียงเว่ย I มือสอง จาก จีน อีกจำนวน 2 ลำ...
ในอนาคต ผมคาดว่า ทร.บังคลาเทศ ก็น่าจะจัดหา ฮ. Z-9 จากจีน มาเพิ่มเติม ด้วยเช่นกัน...
เราก็คงจะได้เห็น ทร. พม่า เร่งการประจำการเรือรบ ที่มีภาพความทันสมัย ตามมาติด ๆ ด้วยเช่นกัน...
ประเทศแถบๆนี้มีเรือชั้นเจียงหูเยอะเลยแฮะ ... ไทยก็เรือชั้นเจ้าพระยา 4ลำ ... พม่า ... บังคลาเทศอีก ... จีนนี่ก็ลูกค้าเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ... ถ้าต้องมา่ยิงกันเองนี่คงจะสูสีกันน่าดู ต้องดูว่าใครจะ MODมาเจ๋งกว่ากัน
ชื่อชั้นเรือรบ ของ จีน จะแยกเป็น
เรือฟริเกต (FF) จะนำหน้าชั้นเรือ ด้วย เจียง xxx เช่น เจียง-หู เจียง-เว่ย
เรือพิฆาต (DD) จะนำหน้าชั้นเรือ ด้วย ลู xxx เช่น ลู-ด้า ลู-ฮู
ในความเห็นของผม ถ้าให้ เดา...
การ Control ของ จีน ในภูมิภาคนี้ (รวมถึง ไทย)
พยายามให้ คู่สงคราม ประจำการอาวุธ จาก จีน ให้มากที่สุด...
และถ้าเกิด สงคราม ของประเทศคู่สงคราม ที่ จีน มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ
...ก็ให้มีการสู้กัน จนอาวุธ หมดคลัง...โดย จีน จะไม่ สนับสนุนเพิ่มเติม...
แล้ว จีน จะเป็น คนกลาง มา ไกล่เกลี่ย ปัญหา และ แบ่งสรร ผลประโยชน์...
เป้าหมาย คือ รอเวลาการเกิดสงครามใหญ่ ๆ แค่ ครั้งเดียว...
เรือชั้นนี้ของบังคลาเทศเป็นรุ่นพี่ของ DW-3000H นี่ครับจำได้ พอทำการติดตั้งระบบอาวุธครบถ้วนก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แหมถ้าทร.ไทยได้ DW-3000H มาจริง ก็ไม่ได้กิ๊กก๊อกเน๊อะ
บังคลาเทศเริ่มปรับตัวจากการที่พม่าขยายกองเรือ Blue navy น่ะครับ แต่น่าสังเกตว่า พม่าพยายามขยายกองเรือเป็นเวลาเดียวกับตีตัวออกห่างจากจีน เหมืนรับรู้ว่าจีนต้องขอวางฐานทัพในแผ่นดินตนแน่ๆ เพราะจีนเร่งขยายกองเรือบรรทุกบ.และเรือดำน้ำนิวเคลียร์โจมตีแบบใหม่ๆ ซึ่งต้องตามมาด้วยการหาฐานทัพส่วนหน้าเพื่อวางกำลังในโพ้นทะเล(แบบตะวันตก) แต่การมีกองทัพต่างชาติอยู่ในประเทศ(ยิ่งถ้าติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วยแล้ว) จะเท่ากับว่าเอาปืนจ่อหัวเจ้าของประเทศเลย พม่านี่มันไวจริงๆ
เนื่องจากต้องตีตัวออกห่าง ดังนั้นถ้าต้องมีเรื่องกับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกับเราที่รัฐบาลซีกอีกด้านนิยมจีนมากกว่า และเพิ่มความสัมพันธืกับจีนจนออกหน้าขนาดนี้ อาจจะถูกทอดทิ้งเอาง่ายๆ ไม่แปลกที่พม่าต้องพยายามขยายกองเรือเพื่อป้องกันเขตภาคใต้ และบ่อน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนกับบังคลาเทศ(ยังดีที่น้ำมันบ่อใหญ่นี้ไปทับซ้อนกับบังคลาเทศ ไม่งั้นเราปวดหัวแน่ๆ)
และพม่าพยายามถ่วงดุลอำนาจของจีนที่มีเหนือตนอย่างล้นหลามลง ด้วยการเพิ่งลงนามร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคีกับอินเดีย และเพิ่มระดับความร่วมมือทางทหารกับอินเดียมากยิ่งขึ้น ป้องกันต้วว่าวันข้างหน้าอาจจะกลายเป็นหมาหัวเน่าสำหรับจีนได้ ไวเป็นปรอทจริงๆ
บังคลาเทศกับพม่า ก็เหมือนไทยกับเขมร จีนขายอาวุธซะมันส์มือ
แค่ต่างตรงที่ไทยเราถ้าไม่เร่งจริงๆไม่หาเพิ่มจากจีน ถ้าซื้อจริงๆคือเอามาแกะถ่ายเทคโนโลยีให้เป็นแบบเรา ไม่ซื้ออย่างเดียวผูกขาดเหมือนที่เราทำDTI-1 นั้นแล
จีนพยายามให้เพื่อนบ้านเล็กๆใช้อาวุธของตนก็เพื่อทำการควบคุมเพื่อนบ้านเหล่านั้น เหมือนๆที่อเมริกาเคยทำน่ะครับป๋า ป๋าวิเคราะห์ถูกต้องแล้วครับ พม่าเพิ่งลงนามร่วมมือทางเศรษฐกิจ 28 ฉบับรวดกับอินเดีย และเปิดรับรับทุนจากตะวันตกอย่างเต็มที่ เพื่อลดอิทธิพลในด้านเศรษฐกิจกับจีนที่เรียกได้ว่าแทบจะผูกขาด และการที่เพิ่มระดับร่วมมือกับอินเดียในด้านทางทหารด้วย ก็เพื่อเป็นการถ่วงดุลจีน ถ้าจีนแบนการสนับสนุนระบบอาวุธ และก็ไม่ได้ไว้ใจชาติตะวันตกเลย คอยดูครับอาวุธอินเดียได้แจ้งเกิดในพม่าแบบเป็นรูปธรรมในเวลาไม่นานนักแน่ๆ
และพม่าก็ไม่ต้องกังวลว่าอินเดียจะขอพื้นที่เพื่อใช้เป็นฐานทัพส่วนหน้า เพราะอินเดียครอบครองหมู่เกาะอันดามันที่ติดกับทะเลอันดามันของไทยและพม่าอยู่แล้ว (แต่ห่างไกลอินเดียเป็นพันๆกิโล อยู่แค่หน้าบ้านเราเอง ได้มาเพราะอังกฤษแท้ๆเลย ไม่งั้นเป็นของเรา)
ดูจากข่าวๆที่เพื่อนๆลง แม้แต่เวียตนามก็เพิ่มความร่วมมือทางทหารกับอินเดียมากขึ้น เพราะแม้ว่าจะใช้อาวุธจากรัสเซีย แต่รัสเซียกับจีนก็เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมากเพราะต้องร่วมกันต้านตะวันตก ดังนั้นคราวจำเป็น รัสเซียอาจจะเลือกจีนมากกว่าเวียตนามก็เป็นได้ กันไว้ดีกว่าแก้.........ความร่วมมือและอาวุธจากอินเดียจึงจำเป็น
อินเดียเริ่มแทรกตัวเข้ามาในภูมิภาคนี้ได้แล้วครับ........................
ส่วนเราล่ะทำเช่นไร
การพึ่งพาตนเองด้านระบบอาวุธต่างๆจึงจำเป็นที่สุดครับ ดีใจที่ DTI ได้รับงบสนับสนุนเท่าๆเดิมเลย เป็นการปรับตัวที่ยั่งยืนที่สุดครับ
ส่วนระบบอาวุธที่สลับซับซ้อนมากๆคงต้องพึ่งตะวันตกต่อไปเพื่อถ่วงดุลกับจีน อาวุธพื้นๆใช้ของจีนไปก็ได้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะพึ่งพาระบบอาวุธที่พัฒนาสร้างด้วยตนเองให้มากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็ทำการส่งออกไปด้วยเลยยิ่งดี แบบเกาหลีใต้
มองๆดูแล้วไทยเหมือนเด็กที่มองวัยรุ่นบ้านอื่นๆรอบๆตัวมีปัญหากัน
สิ่งที่หลายชาติทำกับจีนถือว่าถูกแล้วหากจะงัดกับมหาอำนาจ ก็ต้องใช้มหาอำนาจด้วยกัน ยิ่งที่มหาอำนาจที่คานกันเองอย่างอินเดีย-จีน
ซึ่งมองเล่นๆ เวียดนามพึ่งอินเดีย โดยที่ทั้งสองเจ้านั้นก็ต้องพึ่งการสนับสนุนอาวุธจากรัสเซีย อินเดียแบ่งการค้าอาวุธรัสเซีย80ตะวันตก20 ในขณะที่จีนเริ่มตั้งตัวได้ใช้วิถของตัวเองพึ่งรัสเซียให้น้อยลง แต่จีนก็มีส่วนค้าอาวุธกับรัสเซียอยู่ดี
ส่วนกรณีพม่า ถึงจะใช้อาวุธจีนก็เถอะ แต่หากมีการค้ามีรายได้ที่ดีก็สามารถซื้ออาวุธจากอินเดียหรือรัสเซียได้เต็มที่ เพราะอาวุธที่มีโดยเฉพาะประสิทธิภาพสูงๆนั้นมาจากจีนไม่กี่อย่าง อย่างที่เรารู้ๆกันว่าพม่าจัดหารถถังT-72จากค่ายโซเวียต ระบบแซมจากรัสเซีย รวมถึงรถเกราะจากยูเครน ส่วนเรือรบก็มีไม่กี่ลำ ท.อ. เครื่องบินของดีจริงๆก็มาจากรัสเซีย ซึ่งมองดูแล้วก็แปลกๆเพราะจีนก็มีให้เหมือนกันแต่ราคาถูกกว่าทำไมพม่าไม่จัดหา ซึงก็เหมือนพม่าเตรียมตัวหนีจากจีนแต่เนิ่ีนๆแล้ว
สรุปเลยจุดสูงสุดคือรัสเซียที่ได้กับได้ โดยใช้2ยักษ์คืออินเดียกับจีนคานกันเอง และร่วมกับจีนคานอเมริกาอีกทีนึง
ส่วนไทยเราถ้าจัดการซื้ออาวุธดีๆแบบไหนใช้จีน รัสเซียได้ก็ซื้อมา ส่วนไหนใช้ตะวันตกก็ว่าไป พัฒนาอยู่ก็อย่าเก็บเอามาใช้ ทีนี้เราก็ไม่ต้องอิงใคร ไม่ต้องกลัวใครจะทิ้ง นั้นล่ะครับ
เห็นด้วยกับท่าน MIG31
อาวุธหลายๆอย่าง เราต้องเริ่มผลิตด้วยตัวเอง ไม่ต้องอะไรมาก แค่ ปืน TAVOR 21 ผมว่าทุกชิ้นส่วนเราสามารถผลิตเองได้
ไม่เชื่อ ลองเอาไปโยนให้พวกโรงกลึงธรรมดาๆ แกะออกมา แล้วให้เขากลึงออกมา ผมว่า มันทำได้ 100% แต่ความแม่นยำไม่รับประกัน
ถ้าจะผลิตเองจริงๆ รายละเอียดต้องสูงกว่านี้
อย่าง DTI ผมสนับสนุนสุดตัว และอยากให้โครงการนี้ มีการสอบแข่งขันเข้าไป จะได้มีคนที่เก่งจริงๆอยู่ในกลุ่มพัฒนา เพราะ DTI เฟสแรก
ที่เห็นในคลิป เวลาเอารถอีกคันมาบรรจุกระสุน ผมดูแล้ว มัน LOW TECH ยังไงไม่รู้ ( น่าจะออกมาดีกว่านี้ )
DTI เฟสสอง อยู่ในช่วงพัฒนา ยังไม่มีภาพหลุดออกมาให้เห็น ... แต่ DTI เฟสสาม ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ คิดว่าน่าจะติดเรด้าร์
ล็อกเป้าตามพิกัด และ ต้องไปสู่ระดับ พิสัยกลาง ถึงขั้นพิสัยไกล
ส่วน BM 21 ผมคิดว่า มันมีข้อดีเยอะ คือ ยิงได้ทีละมากๆ ถ้าเราเอามาก็อบปี้ แล้วดัดแปลงโน่นนิด นี่หน่อย ตามมันสมองคนไทย ผมว่า แจ่มแน่ๆ
ถึงมันจะยิงมั่วๆ แต่ สาดไปเยอะๆ เป็นหร่าฝน ข้าศึกก็ไม่รู้จะวิ่งไปทางใหนเหมือนกัน ยิ่งถ้าเราผลิตลูกกระสุนเองได้ ยิ่งไม่ต้องกลัวเปลือง
มี BM 21 ( ไทยทำ ) ซัก 200 คัน ยิงไปเลย เป็นแสนลูก ทั้งวันทั้งคืน ข้าศึกก็โงหัวไม่ขึ้นแหละครับ
ถ้าไทย อยากเดิน นโยบายทางทหาร แบบเป็น กลาง ในภูมิถาคนี้ และต้องการ เป็น ผู้นำ ทางทหารของกลุ่ม ส่วนตัวผมบอกได้เลยครับ ว่า ลืมจีนไปซะ ลืมไปได้เลย ต้องเป็น ไทย+สวีเดน เต็มรูปแบบครับ ทร/ทอ/ทบ ความรุ้+ความร่วมมือ+การซื้อขาย แบบนี้ไปถึงฝันแน่ๆ
ปล.ขนาดกองทัพก็ต้อง เปลี่ยนนะครับเรื่อง งบ ประมาณ ต้อง ทร/ทอ/ทบ สัดส่วน 34/33/33 จากเดิมนี้ ดู เหมือนจะ ออก แนว ทบ 50/ทร+ทอ 50 ไม่ใช่ก็ใล้เคียง
ปล.2 เพิ่ม งบทางทหาร ด้วย ไม่ใช้ว่า สุตร 34/33/33 ผม นี้ จากงบก้อนเท่าเดิม นะครับ ไม่ งั้น ทบ. เราแย่ แน่ๆ ลดขนาด ทบ.นิดหน่อย ไปประจำกับ ทร/และ ทอ ส่วนงบประมาณ สมมุต ทั้งหมด จากเดิม 100 เพิ่ม มาเป็น 160 แบบนี้ เปอร์ เซน ที่ลดลง ของ ทบ.ไม่กระทบอะไร นะครับ เป้น ลักษณ ว่า ทร.ทอ. จะได้ เพิ่ม
ปล.3 แล้ว แบบนี้ เรือดีๆ + บินดีๆ จะหนีหายไปไหน ขอบพระคุณอย่างสุง ครับผม