รู้สึกว่าจะติดได้ตั้งแต่ Block 20 เป็นต้นไปครับ ของเรา Block 15 ไม่น่าจะติดตั้งได้

ได้ข่าวว่า F-16 MLU เทียบได้กับ f-16 block 50 นะครับ ส่วนตัวคิดว่าติดได้นะครับ

ส่วนตัวไม่ทราบหรอกนะครับ  ตั้งแต่แรกคงไม่มีแพ็คเก็ตชุดนี้มาและก็คงไม่มี อาจเกี่ยวกับภารกิจการใช้งาน

เพราะถ้าเพิ่มช็อตโค้ด /ระบบติดตั้ง/อาวุธ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มตามมา

(คิดเห็นส่วนตัว)

ผมเห็นว่า มันขึ้นกับว่าฟังก์ชันการใช้จรวดโจมตีเรือผิวน้ำเป็นฟังก์ชันมาตรฐานของเครื่อง หรือฟังก์เสริม เพราะถ้าเป็นฟังกืชันมาตรฐานของเครื่องเวลาซื้อก็จะมีมาให้เลย ส่วนคนใช้จะใช้หรือเปล่า (หรืออาจไม่รู้ว่ามีก็ได้)  จะไม่ใช้แล้วขอคนขายลดราคาเค้าก็คงไม่ลดให้หรืออาจ Inactive program นั้นไป (ก็คนใช้เค้าไม่อยากใช้น่ะ)  แต่ถ้าเป็นฟังกืชันเสริมที่ขอขายเสนอเพิ่มแล้วเราอยากได้ก็ต้องจ่ายเพ่ิม ราคาก็แพงมากๆครับ

F-16 บ้านเราทำแค่สองภารกิจ อากาศสู่อากาศกาศและอากาศสู่พื้น ถ้า MLU แล้วสามาถทำภารกิจโจมตีผิวน้ำด้วยด้วยก็จะดีมาก

แต่ตอนนี้ jas-39 C/D ของไทยเราก็ทำได้หมดสามภารกิจ

ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้เดาใจกองทัพ  คิดว่าน่าจะมอบภาระกิจนี้ให้ Gripenมากกว่านะครับ เพราะจรวดก็มีแล้ว ระบบก็พร้อมใช้งาน  ไม่ต้องซื้อฮาร์พูนมาให้ซ้ำซ้อนเปลืองงบไปเปล่าๆ

F-16MLU ของเราจริง ๆ ถ้า Upgrades เรดาห์จาก APG-66 เป็น APG-68(V)2 หรือ 9 นั้น น่าจะสามารถใช้ได้ครับ

แต่คงไม่ได้ใช้เพราะภารกิจ F-16 เราเน้นไปทางขับไล่/สกัดกั้น/โจมตี มากกว่าส่วนต่อต้านเรือรบนั้นผมว่า JAS-39 เอาไปกิน(ด้วยRBS-15)

พิมพ์ซะยาว......หายหมดเลย T.T เซ็ง

สรุปเลยละกันนะ

โครงสร้างของ F-16 A/B  สามารถรองรับ Harpoon ได้สบาย  ๆ  โดย Station 7 กับ 3 สามารถรับน้ำหนักอาวุธได้สูงสุด 3000 lbs แต่ปกติจะติดแค่ MK-84 ขนาด 2000 lbs ส่วน Harpoon หนักสุดเพียง 800 lbs  แต่ที่ Block 15 OCU ไม่มีใครติดเพราะไม่มีคนใช้ USAF เองตอนนั้นก็ไม่ใช้ Harpoon คนใช้ต้องเสียเงินค่า Integrate ระบบเอง + กับระบบคอมของ Block 15 เก่าเกินไป ส่วนที่ยอมจ่ายเงินเองนั้นก็คือ F-16 A/B Block 20 ของ Taiwan นั้นเองครับ สำหรับพวกรุ่นหลัง  ๆ สามารถติดได้หมดขึ้นอยู่กับว่าจะซื้อจรวดมาใช้หรือเปล่าเท่านั้นครับ 

สมัยก่อน ทอ. คงมองว่าใช้ AGM-65 แทนไปก่อนได้ครับ  เพราะเรือในสมัยก่อนระบบป้องกันตัวต่าง ๆ ระยะยิงไม่ไกลมากเหมือนในปัจจุบันนะ

ส่วน F-16 403 MLU ติด Harpoon ได้แน่นอนครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ทอ. จะซื้อมาใช้หรือไม่  โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้ 50/50 เพราะปัจจุบัน Harpoon รุ่นใหม่ ๆ เป็น Stand-Off Missile ที่ยิงได้ทั้งเรือและเป้าหมายบนบกแล้วซึ่งทำให้น่าสนใจขึ้นมากครับ

F-16 C Block 40 กับ SLAM-ER  กำหนด Test เสร็จปี 2012 ครับ 

403เน้นโจมตีภาคพื้นดินเป็นหลักผมว่าน่าจะจัดหาAGM88HARMมาดีกว่า(ถ้าไอ้กันยอมขาย)ส่วนโจมตีเรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของน้องยาสละกัน

แหมะ................. ฮาร์ม  เล่นของหนักเลย...............ตัวนี้มะกันคงไม่ขายให้หรอกครับ..............คือนอกจากมองในแค่ของสมดุลย์แล้ว ก็เป็นที่ครั่นคร้ามของชาวบ้านอยู่ไม่น้อยเชียวหล่ะ เพราะอาวุธพันนี้ มันประกาศตัวเองโดยโจ๋งครึ่มอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นฝ่ายรุกเพื่อสถาปนา...............

ผมมองว่า ฝูง ๔๐๓ แม้ จะได้รับการอัพเกรทระบบเอวิโอนิคส์ โดยเฉพาะให้มีอำนาจการรบในอากาศระยะพ้นสายตา แต่ก็คงยังไม่ทิ้งภารกิจหลักเดิมคือการโจมตีขัดขวางทางอากาศ อาวุธระยะยิงไกลพ้นสายตาจะมีส่วนช่วยในการเอาตัวรอดจากการถูกสกัดกั้นด้วยเครื่องบินรบ................ ระบบเอวิโอนิคส์ใหม่ คงถูกใช้เพื่อรองรับระบบนำร่องการบินและเล็งเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ ซึ่งมองว่าจะยังเป้นสายพันธุ์เดิม เราอาจได้เห็นไวเพ่อร์ติดกระเปาะเดินอากาศและเล็งเป้ามายแบบใหม่ๆซึ่งสามารถนำร่องและเล็งยิงเป้าหมายได้ในเวลากลางคืนร้อยเปอร์เซนต์  ระเบิดนำร่องด้วยดาวเทียมประเภทเจแดมเป็นอาวุธที่น่าสนใจมากในเวลานี้ เพราะเจ้านี่ไม่กลัวเมฆหมอก ในคืนเดือนมืดฟ้าปิดด้วยเมฆลอยต่ำ เจแดมสามารถปักหัวเข้าเป้าได้  ............... ที่สำคัญคือระบบดาต้าร์ลิ้งค์ ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสำคัญยิ่งในการรบยุคใหม่   ได้เท่าที่พูดมานี้ก็สวยหรูส่งเข้าประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สได้แล้ว  ............... ฮาร์พูน นี่คงไม่จำเป็นกระมัง ติดตั้งซอฟท์แวร์ฮาร์ดแวร์เปลืองสะตุ้งสะตังค์เปล่าๆ อย้างที่ว่า ปล่อยน้องย้าสเค้าเหอะ เพราะภารกิจนี้ หล่อนแหล่มดีจริงๆ..............................

ประมาณนี้ ได้รึเปล่า................ ประมาณนี้ ได้รึเปล่า....................

ตัวบนเป็น ๕๒ ของตุรกี     ตัวนี้เป็น ๕/๑จ ม็อด ของนอรเวย์.............. จริงๆ เอ กะ ซี วัดกันที่ ๒๕ ลงมา ............. ซี เอ ดูง่ายๆ ดูที่โคนหาง ของเอ จะฟีบๆ ซี จะป่องๆ(โอ้นโต้น)

F-16 Installation

Integration of the AGM-84 with the F-16 required two main changes: (i) addition of Harpoon-specific weapon control algorithms to the Stores Management System, and (ii) development of an interface adapter kit. The interface adaptor is basically an electronic component that converts weapons control instructions from the F-16 Stores Management System into instructions that can be interpreted by the weapon (Harpoon in this case).

The work started during Operation Desert Storm on Korea-based USAF Block 30G aircraft. Two factors complicated the actual development of the interface adaptor and algorithms. First of all, the "heavy stations" (hardpoints 3 and 7, capable of carrying a heavy weapon such as the Harpoon) did not offer access to the 1553 data bus. Second, there were some initial software problems with the jet as well. To circumvent the limitations, the AGM-65 Maverick interface was re-used initially. The Maverick interface did not require the F-16 SMS to do anything extra, as all control software was in the adapter kit. Weapon modes and targeting were all selected on the video provided in lieu of the normal Maverick video.

As the Storm wound down, USAF lost interest and the initial effort was cancelled. The project was picked up again later when foreign F-16 customers expressed interest in the Harpoon. By that time, the software problems had been solved and the Harpoon was properly integrated. The AGM-84 Harpoon was officially cleared on the F-16 on August 11th, 1994.

All recent F-16 aircraft (block 20, 30/32, 40/42, 50/52, and 60) can be made Harpoon-capable. It requires the installation of the interface adapter, plus installation of system software that supports the Harpoon.

...........

Operational Use

Only a limited number of F-16 customers use the Harpoon on their F-16s:

• Chile: The FAChs block 52 aircraft have Harpoon capability, but no missiles have been ordered
• Egypt: EAF Block 40 aircraft have Harpoon capability, no missile purchase yet
• Greece: HAF F-16 Block 52 aircraft armed with AGM-84 Harpoons were test-flown at Edwards AFB
• Israel: The IDF/AF is very likely to have Harpoon capability, but this is unconfirmed
• Oman: The RAFO purchased 20 missiles for its F-16 Block 50 fleet
• South Korea: The RoKAF Block 52 aircraft are Harpoon-capable, no confirmed missile purchase
• Taiwan: The RoCAF purchased 54 missiles for its F-16 Block 20 aircraft
• Turkey: The TUAF purchased 50 Harpoon missiles for their CCIP-upgraded F-16 Block 50 aircraft
• United Arab Emirates: The UAEAFs block 60 aircraft are Harpoon capable, and 52 missiles were purchased at the time of the Block 60 deal
• USA: Although the USAF was briefly interested in using the Harpoon on their F-16s during Operation Desert Storm and started the integration work, they lost interest when Desert Storm wound down. Not an operational customer

Armament

Little is known about the weapons inventory of Thai F-16s. Standard air-to-air armament is the AIM-9 Sidewinder . In 1995, the RTAF acquired a number of Python 3 missiles, followed by AIM-120 AMRAAM missiles in 2003. In the air-to-ground role standard equipment is made up of Mk. 82 and Mk. 84 bombs possibly supplemented with a number of AGM-65 missiles.

MLU

In October of 2010 the Thai government decided to give the 18 airframes that are operational within 403 sqn the MLU update. These airframes are the youngest airframes in the Thai inventory and are effectively the last block 15 airframes that were build (in 1996). The contract totals up to $700 million and spans over a 3 year period starting in 2011. This will extend the aircrafts life up to 2025.

...