โครงการ SLEP ของเรือชั้น Kasturi

หลังจาก โครงการ SLEP ของเรือชั้น Kasturi เสร็จสิ้น จะเห็นลักษณะของ เรือรบหลัก กองทัพเรือมาเลเซีย ตามแผ่นภาพ

แผ่นภาพ กรณี โครงการจัดหาของ กองทัพเรือมาเลเซีย เสร็จสิ้น

1. Gowind "Combat" Class จำนวน 6 ลำ ซึ่งน่าจะเป็นแบบเรือชั้น Full Anti Submarine

2. เรือดำน้ำชั้น สคอร์ปิเน่ เพิ่มเติม อีก 2 ลำ

3. อากาศยานตรวจการณ์ทางทะเล จำนวน 4 ลำ ทดแทนของเดิม

ในความส่วนตัว จะทำให้ กองทัพเรือมาเลเซีย มีกองเรือต่อต้านเรือดำน้ำ เป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค ASEAN

ลืมแผ่นภาพครับ

แผ่นภาพ คุณลักษณะการรบ 3 มิติ ในปัจจุบัน

แผ่นภาพการรบ คุณลักษณะ 3 มิติ ในอนาคต

มาเลเซีย มีงบซื้อสิครับ  .. หวยมาเลย์ ออกวันเว้นวัน ชาวบ้านสามชายแดนใต้ บวกกับ สงสขลา สตูล เป็น 5 จังหวัด

ซื้อหวยมาเลย์ทั้งนั้นแหละครับ เงินหวยเข้าประเทศมาเลย์ วันนึงหลายล้านบาท เดือนนึงๆก็หลายร้อยล้าน

สินค้าหลายๆอย่าง มาเลย์ก็ส่งมาขายในไทย แต่ สินค้าไทยกว่าจะส่งขายมาเลย์ได้ต้องตรวจสอบหลายขั้นตอน

เหมือนเป็นการกีดกันซะด้วยซ้ำ รถมาเลย์ก็มาตีตลาดบ้านเรา  ธุรกิจการบินโลว์คอส เค้าก็มายึดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สัญญาณทีวี ก็ส่งสัญญาณซะแรงข้ามมาฝั่งไทยหลายกิโลเมตร .. พวกสนับสนุนก่อการร้ายชายแดนใต้ ชาวบ้านรู้ๆอยู่ว่าใคร

ในฐานะที่ผมเป็นคนในสามชายแดนได้ ขอบอกเลยว่า ประเทศนี้ไม่เคยมีความคิดในแง่ดีกับประเทศเราเลย

ขนาดนักฟุบอล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เค้ายังกีดกันไม่ให้ไปค้าแข้งเลย แต่ .. แปลกมาก ขนาดโดนกีดกันขนาดนี้

พวกนี้ ก็ยังบูชาประเทศมาเลย์ ยิ่งกว่าประเทศตัวเองเลย  ...

"พวกนี้" หมายถึงใครหรอครับ อีกอย่างนะครับเวปนี้ ในความตั่งใจของ แอดมิน คือให้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ด้าน เทคโนโลยี ทางทหาร ครับ ไม่ได้มีไว้ บูชาใครต่อใคร

ถ้าคิดในแง่ดีมันก็ไม่ได้กระทบกับเราเลยนี้ครับ เพราะบ้านเราไม่มีเรือดำน้ำ คิดแบบง่ายๆ(แบบผมคิด)งบ ทร.เค้าทุ่มให้ ต่อสู่เรือผิวน้ำ 60 เปอร์ได้มั่ง อากาศ 20 เปอร์ ใต้น้ำ 20 เปอร์  เราก็มาเน้นเรือผิวน้ำกับอากาศยานได้ร้อยเปอร์เซ็น คิดดูแล้วก็เอาศักยภาพตามเม็ดเงินของ ทร.เค้ากับทร.เรา มาตีกันได้ 80 ต่อ 100 เราได้เปรียบหละมั่งนะ ส่วนมาเลย์เค้าจะมีงบมาจากไหน กลุ่มอนุรักษ์นิยมก็ฟังไว้บ้างนะครับ ถึงจะไม่ใช้เป็นเรื่องเทคโน แต่ก็ไม่ใช้จะไม่มีสาระนะครับ(อย่างเรื่องห่วยมาเลย์ผมก็พึ่งรู้เนี่ย) คิดว่าเจ้าของบอร์ดเค้าก็เปิดโอกาสให้คุยกันด้วยเหตุผลทุกเรื่องนั้นแหละ(เห็นของไว้เรื่องเดียวคือเรื่องการเมือง) เห็นชอบเขียนกันจังประโยคอ้างแอดมินเนี่ย

ในความเห็นส่วนตัว การพัฒนาการต่อต้านเรือดำน้ำ ของ กองทัพเรือมาเลเซีย คงมองไปที่ ศักยภาพของ เรือดำน้ำ จีน เป็นหลัก ครับ....

ซึ่งการวางเป้าหมาย การต่อต้าน กองทัพเรือที่มีขนาดใหญ่ เช่น จีน...ถ้า เขาคิดว่า การพัฒนาจะสามารถพอจะครอบคลุม และคุ้มครองผลประโยชน์ในทะเลได้ในอนาคต...

ประเทศอื่น ๆ หรือ ประเทศเพื่อนบ้าน...ถ้าเกิดจะมีความขัดแย้งขึ้น...ก็คงอยู่ในความสามารถที่อาจจะข้ามขั้นตรงนั้นไปแล้วครับ....

ในกรณีที่ กองทัพเรือมาเลเซีย สามารถทำได้สำเร็จ ก่อน...ก็จะมีประสบการณ์ในเรื่องสงครามใต้น้ำ ก่อน และ มีความชำนาญสะสมที่มากกว่า....

ความขัดแย้งที่ มาเลเซีย ต้อง เผชิญ กับ สงครามใต้น้ำ มากที่สุด คือ การรักษาผลประโยชน์ และคุ้มครองเส้นทางเดินเรือ จากความขัดแย้งในบริเวณ หมู่เกาะ สแปชรี่ย์...

ซึ่ง อาจจะเป็นการกระทบ กระทั่ง ระหว่าง เวียดนาม กับ จีน หรือ ฟิลิปปินส์ กับ จีน...อาจจะไม่ใช่ ระหว่าง มาเลเซีย กับ จีน....

แต่ มาเลเซีย ในฐานะที่จะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งข้างต้น....ก็ต้องมี ศักยภาพ ในการระงับ หรือ ยับยั้ง หรือ ตักเตือน ไม่ให้ความคุกคาม เกินเลย มาถึง ผลประโยชน์ของ มาเลเซีย ได้เช่นกันครับ...

และด้วยหลัก สมดุลย์ ของ ภูมิภาค เมื่อประเทศเพื่อนบ้าน มีการพัฒนากองกำลังทางเรือ ที่มีศักยภาพมากขึ้น...ไทย ก็คงหลีกเลี่ยงไม่พ้น ต้องสร้างสมดุลย์ ไม่ให้ห่างกันเกินไปครับ...ถ้า จีน เกิดความขัดแย้งกับ เวียดนาม และ หรือ ฟิลิปปินส์ และ หรือ มาเลเซีย ก็จะมีผลกระทบต่อ อ่าวไทย โดยตรง...

ไทย เอง ก็ต้องปรับตัวเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ ที่อาจจะเกิดความผิดพลาดจากความขัดแย้ง ไม่ว่าจาก จีน หรือ เวียดนาม หรือ ฟิลิปปินส์ หรือ มาเลเซีย มาทำลายเรือรบ หรือ เรือพาณิชย์ ที่มาใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจของท่าเรือไทย ด้วยความเข้่าใจผิด...หรือ เพื่อสร้างความได้เปรียบของสงคราม โดยมาใช้ น่านน้ำในทะเลไทย...

กองเรือของ มาเลเซีย ต้องมีการติดตั้ง ระบบพิสูจน์ฝ่าย เพิ่มเติม เนื่องจากในภูมิภาคนี้ มีผู้ใช้ Su-30 นอกจาก มาเลเซีย ก็จะมี เวียดนาม อินโดนีเซีย และ J-15 บนเรือบรรทุกเครื่องบินของจีน...

มาเลเซีย ก็ต้องมีระบบพิสูจน์ ว่า Su-30 ที่ตรวจจับได้นั้น ไม่ใช่ บ.ของตนเอง หรือ ของเพื่อนบ้าน ที่ไม่ใช่คู่สงคราม...ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจ ใช้อาวุธ มีความรวดเร็วและจะสร้างความได้เปรียบมากขึ้น...

แผ่นภาพ โครงข่าย การต่อต้านเรือดำน้ำ กรณี มาเลเซีย สามารถจัดหาเรือรบ และ เรือดำน้ำ ได้ครบตามต้องการ (ในการ คาดเดา น่ะครับ)

กองเรือรบผิวน้ำ มีสมรรถนะต่อต้านเรือดำน้ำ

Link Y Mk 2 Communication

ปัจจุบัน

Lekiu Class

Kasturi Class

Laksamana Class

อนาคต

Gowind Class

TUUM6 Under Water Communication

ปัจจุบัน

Kasturi Class

อนาคต

Gowind Class

Sonar & Torpedo

ปัจจุบัน

Lekiu Class

Kasturi Class

Laksamana Class

อนาคต

Sonar, Towed Array & Torpedo

Gowind "Combat" Class

แบ่งเป็น 2 หมวดเรือ

น่าอิจฉามาเลย์เขานะครับ ทัพเรืออยากได้อะไรเขาก็ได้ไม่มีใครมาขัดหรือมาบอกให้ใช้อันโน้นอันนี้ดีกว่า เป็นตัวของตัวเอง ส่วนตัวผมชอบอากาศนาวีของเขามาก CN-235, SUPER LYNK, AS550

เพิ่มเติมอีกสักรูปครับ

ส่วนตัวชอบอากาศนาวีของมาเลย์นะครับ อีกอย่างเขาเป็นตัวของตัวเองดีไม่มีทัพอื่นมาบอกว่าใช้อันนี้ดีอันโน้นดี

ท่าน speci

ผมคิดว่า รัฐบาล กับ กองทัพ เขามอง ภัยคุกคาม ต่อ ประเทศ ของเขา ในมุมมองเดียวกัน มากกว่าครับ....

รัฐบาล จึงสนองตอบต่อความต้องการ...โดยมีข้อปัญหาอย่างเดียว ในการจัดหาคือ เรื่อง การคอร์รัปชั่น การจัดหาอาวุธ ที่ต้องแก้ไข....

ไม่มองว่า คนในประเทศตัวเอง เป็น ศัตรู ด้วย...แยกแยะ การเมือง กับ ความมั่นคง ออกจากกัน....

ในขณะที่ประเทศไทย ปัญหา ครบทุกอย่าง...ทั้ง การเมือง และ ความมั่นคง ที่ไม่แยกออกจากกัน มองภัยคุกคามว่ามาทั้งจาก ประเทศเพื่อนบ้าน และพลเมือง่ในประเทศของตัวเอง...และปัญหา การคอร์รัปชั่น การจัดหาอาวุธ...

สำหรับ ประเทศไทย คงต้องอาศัย เวลา อย่างเดียวครับ...

เห็นด้วยกับท่าน juldas ครับ

แต่ผมว่าประเทศไทยไม่ใช่แค่ต้องอาศัย เวลา อย่างเดียว แต่ต้องอาศัยคนรุ่นใหม่ด้วย

     ขอถอนหายใจแบบใจหายครับ......เฮ้ออออ........

ทางมาเลย์ทุ่มกับการพัฒนาการด้านสงครามเรือดำน้ำเต็มที่    มีเพื่อนบ้านอีกเจ้าที่กำลังวิ่งไล่ตาม  นั่นคือ เวียตนาม   ทั้งเรือดำน้ำ  6 ลำ   เรือ ASW อีก 6   เดี๋ยวก็คงมีเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำแบบใหม่และฮ.ประจำเรือรวมทั้งระบบสื่อสารและบัญชาการ   ดูแล้วเขาคิดว่าจะสามารถเผชิญหน้ากับจีนได้ด้วยสงครามเรือดำน้ำ    เพราะกองเรือบรรทุกบ. คงสู้กันไม่ไหว   และมีค่าใช้จ่ายมหาศาล    เวียตนามอาจจะไม่จำเป็นสำหรับเรือบรรทุกบ.   เพราะหมู่เกาะเจ้าปัญหาอยู่หน้าบ้านพอดี  SU 30 MK2 บินไปกลับสบายๆอยู่แล้ว    แต่ทร.มาเลย์อาจจะต้องการมากกว่า    แต่ค่าใช้จ่ายของกองเรือบรรทุกบ.มหาศาล  

    สงครามกองเรือดำน้ำแก้ยากกว่า    แต่อำนาจทำลายล้างจากกองเรือบรรทุกบ.ก็สูงมากกว่าด้วยครับ    เรือบรรทุกบ.อันทรงพลังอาจจะพลาดถูกเรือดำน้ำเล็ดลอดเข้ามาจมเอาง่ายๆ    ดูท่าทางเวียตนามจะเริ่มเข้าใจว่าทำไมทร.มาเลย์ถึงทุ่มให้กับกองเรือดำน้ำ

   ทร.ไทยเราจะเอาไงครับ   กองเรือดำน้ำและขีดความสามารถทำสงครามเรือดำน้ำคงถูกจำกัดไปอีกอย่างน้อยก็ 5 ปี ล่ะครับ     แต่ทร.ไทยมีเรือบรรทุกบ.อยู่   และตอนนี้ก็กำลังพัฒนาระบบการป้องกันเป็นชั้นๆให้กองเรืออยู่    ไม่สนใจที่จะพัฒนาให้เราโดดเด่นในเรือกองเรือบรรทุกบ.ในแบบที่เพื่อนบ้านหนาวๆร้อนๆกันมั่งหรือครับ   

   แบบว่าถ้าใครพูดถึงขีดความสามารถทางทหารของภูมิภาคนี้   เรื่องกองเรือดำน้ำ   ก็ต้องยกให้ทร.มาเลย์     แต่ถ้าจะคิดถึงอำนาจของกองเรือบรรทุกบ.  ก็ต้องนึกถึงกองทัพเรือเราเป็นอันดับแรก   อะไรเทือกนั้น

เรียนท่าน  juldas  ผมเองก็ไม่อยากมองว่า พลเมืองในประเทศเป็นภัยคุกคาม  แต่ ดูจากเหตุการณ์ข้างล่าง ..

สรุปสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตัวเลขที่น่าใจหาย นับตั้งแต่มกราคม 2547 - ธันวาคม 2554 รวม96 เดือน

มีเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น 12,604 ครั้ง แยกเป็นเหตุความมั่นคง (ก่อการร้าย ก่อความไม่สงบ) จำนวน 8,094 ครั้ง

มีผู้เสียชีวิตทุกฝ่ายนับถึงสิ้นปี 2554 จำนวน 5,243 รายแยกเป็น ทหาร 351 นาย , ตำรวจ 280 นาย ,ครูและบุคลากรการศึกษา 148 ราย ,

พระภิกษุ 7 รูป ประชาชนทั่วไป 4,215 ราย , คนร้าย 242 ราย  .. ยอดรวมผู้บาดเจ็บทุกฝ่าย 8,941 ราย

แยกเป็น ทหาร 1,712 นาย , ตำรวจ 1,173 นาย , ครูและบุคลากรการศึกษา 144 ราย , พระภิกษุ 23 รูป , ประชาชนทั่วไป 5,855 ราย , คนร้าย 34 ราย

มีเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งสิ้น 4,455 คน และสตรีหม้าย 2,295 คน

เหตุที่เกิดขึ้น เหตุยิงด้วยอาวุธปืน 6,834 ครั้ง วางระเบิด 2,265 ครั้ง วางเพลิง 1,489 ครั้ง อื่นๆ เช่น ทำร้าย ฆ่าตัดคอ ปล้น ก่อกวน ทำลายธงชาติ

จับตัวประกัน รวม 2,016 ครั้ง ปืนถูกปล้น 1.6 พันกระบอก ตามยึดคืนได้ไม่ถึง 500 กระบอก .... เหตุการณ์หลังปี 54 อีก ยังไม่นับ

แถม บางเหตุการณ์ตกสำรวจที่นักข่าวเข้าไม่ถึงก็มีอีกเยอะ เหตุการณ์ในสงขลา สตูล ยังไม่เอามาคิด

ดังนั้น .. โดยส่วนตัว ผมไม่กลัวภัยคุกคามจากต่างประเทศ เพราะเรายืนคนละด้าน สาดกระสุนใส่กัน ถือว่า แฟร์ๆ แต่ ภัยคุกคามจากพลเมืองในประเทศ

น่ากลัวที่สุด เพราะ โจรบางคนเป็นพ่อค้าขายผลไม้ ขายผัก ขายปลา วันดีคืนดี ก็หยิบอาวุธออกมาไล่ฆ่าชาวบ้าน พอฆ่าเสร็จ ก็กลับไปเป็นพ่อค้าเหมือนเดิม

ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเจ้าหน้าที่มาจับ ก็ไม่มีหลักฐานมัดตัว ปฏิเสธลูกเดียว เดี๋ยวก็มีทั้งทนาย ทั้งชาวบ้านมากดดัน จนรอดอยู่ดี

ถ้าเจ้าหน้าที่ใช้ไม้เข็งตามเก็บ  ก็ยิ่งเข้าทาง ได้เงินไป 7 ล้าน ไปเลี้ยงลูกหลานขึ้นมาเป็นโจร เจนเนอเรชั่นรุ่นต่อไป ...  จบ

โลกนี้เป็นดั่งฝูงสัตว์  มีชราเป็นสิ่งต้อนไป................................. รอ อย่างเดียวครับ

การให้ความสำคัญของ เรือดำน้ำ ที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ระหว่าง กองทัพ กับ รัฐบาล

เหรียญที่ระลึก และฉลองในคราวเดียวกันกับ ครบรอบ 75 ปี กองทัพเรือมาเลเซีย

มูลค่าเหรียญ 10 ริงกิต แต่ราคาซื้อขายใน อีเบย์ มากกว่า 120 เหรียญสหรัฐ

แสตมป์ ที่จะเน้นให้น้ำหนักกับ เรือดำน้ำ ในโอกาส ฉลองครบรอบ 75 ปี เช่นเดียวกันครับ