กัมพูชา-วานนี้ (21 พ.ค.55 ) เมื่อเวลา 09.00 น. เรือหลวงนราธิราช กองทัพเรือไทย พร้อมกำลังพลหน่วยเรือเยี่ยมเมืองท่าราชอาณาจักรกัมพูชา นำโดย พลเรือตรี ประดิษฐ์ ศิริคุปต์ ผู้บัญชาการ หน่วยเรือเยี่ยมเมืองท่าราชอาณาจักรกัมพูชา ( ผบ.นรกพช. ) ได้เดินทางถึงที่หมาย โดยนำเรือเข้าเทียบยังท่าเทียบเรือสีหนุวิลล์ (กำปงโสม) โดยมี พล.ร.ต.รั๊วะ เวียสนา รองผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือเรียม พร้อมคณะมาให้การต้อนรับ และมอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดี
ต่อมา ทางฝ่ายราชอาณาจักรกัมพูชา ได้จัดเตรียมรถยนต์ จำนวน 4 คัน พร้อมรถนำขบวน ในการนำพาคณะทหารเรือฝ่ายไทย เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ นายประ ศรีดารา รองผู้ว่าราชการจังหวัด พระสีหนุวิลล์ ณ ศาลากลางจังหวัด พระสีหนุ มีคณะทำงาน และผู้ปฏิบัติราชการ มาร่วมให้การต้อนรับ พร้อมพาคณะทหารเรือฝ่ายไทย เข้าพักยังห้องรับรอง เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการพัฒนา และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ระหว่าง 2 ประเทศ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนเดินทางกลับ พลเรือตรี ประดิษฐ์ ศิริคุปต์ ผู้บัญชาการ หน่วยเรือเยี่ยมเมืองท่าราชอาณาจักรกัมพูชา และนายประ ศรีดารา รองผู้ว่าราชการจังหวัด พระสีหนุวิลล์ ได้มอบของที่ระลึกแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังฐานทัพเรือเรียม ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งเรือรบ ของกองทัพเรือราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าเยี่ยมคำนับ พล.ร.ท.อุ๊ก ไซอา ผู้บัญชาการฐานทัพเรือเรียม โดยฝ่ายทหารเรือราชอาณาจักรกัมพูชา ได้จัดแถวทหารกองเกียรติยศ ให้การต้อนรับฝ่ายทหารเรือไทย อย่างสมเกียรติ จากนั้น คณะของ 2 ประเทศ ได้ขึ้นยังห้องรับรอง กองบัญชาการ ฐานทัพเรือเรียม เพื่อเข้าพบปะพูดคุยหารือ และเปลี่ยนความคิดเห็น นำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้า และสานความสัมพันธ์ทางทหาร ที่มีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องมาตั้งแต่ในอดีต
ในการนี้ พล.ร.ท.อุ๊ก ไซอา ผู้บัญชาการฐานทัพเรือเรียม ได้แสดงความห่วงใยพลเมืองของประเทศ ที่เดินทางเข้าไปประกอบอาชีพเป็นแรงงานในประเทศไทย โดยเฉพาะลูกเรือประมง ซึ่งยังมีบางกลุ่มลักลอบเข้าไปเป็นแรงงานอย่างผิดกฏหมาย ทำให้ถูกกดขี่ข่มเหง และถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ด้าน พลเรือตรี ประดิษฐ์ ศิริคุปต์ ผู้บัญชาการ ฯ ได้กล่าวในฐานะทหารเรือไทย ว่าที่ผ่านมากองทัพเรือ ได้มีการตรวจตราน่านน้ำ และดูแลความสงบเรียบร้อยในทะเลไทย พร้อมกำชับให้ผู้ประกอบการเรือประมง ดำเนินการในเรื่องแรงงานต่างด้าวให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งหากตรวจพบว่า มีการให้ที่พักพิง หรือมีแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฏหมาย ก็จะจับกุมดำเนินคดี พร้อมผลักดันแรงงานต่างด้าวกลับคืนสู่ประเทศ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และถูกต้องตามกฏหมาย
สำหรับ สีหนุวิลล์ (อังกฤษ: Sihanoukville ) หรือ กรุงพระสีหนุ (กรงเปรียะฮ์สีหนุ) หรือ กัมปงโสม เป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมมากที่สุดของประเทศกัมพูชา ห่างจาก กรุงพนมเปญ 246 กิโลเมตร ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ มีประชากรประมาณ 200,000 คน มีชายหาดทั้งหมด 5 แห่ง ว่ากันว่าที่สวยที่สุด คือ หาดสุขา และ หาดโอจือเตียล (Occheuteal) เมืองสีหนุวิลล์ ติดอันดับ 8 ในการจัดอันดับ 10 สุดยอดหาดในเอเชีย โดยหนังสือพิมพ์ Sunday Herald Sun ของประเทศออสเตรเลีย
สัตหีบ-วานนี้ (25 พ.ค.55 ) พล.ร.ต.นพดล สุภากร ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ได้เป็นประธานในพิธีสวนสนามยานยนต์ของกำลังพล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ลานสวนสนามหน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ทหารทุกนายได้พร้อมใจออกมาแสดงแสนยานุภาพกำลังรบของหน่วยที่มีความเข็มแข็ง และสมรรถนะขีดความสามารถทั้งด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และกำลังพล โดยมี นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศบาลเมืองสัตหีบ พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ และผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ร่วมให้การต้อนรับ
ซึ่งขบวนสวนสนามยานยนต์มี นาวาเอก ไพศาล มีศรี ผู้บังคับการกรมรักษาฝั่งที่ 1 เป็นผู้บังคับกรมผสม นำทหาร 5 กองพัน กำลังพล จำนวน 548 นาย ยานพาหนะ จำนวน 62 คัน และอาวุธยุทโธปกรณ์ จำนวน 28 กระบอก โดยขบวนยานยนต์ 4 กองพัน ประกอบด้วย กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 1 อากาศจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จาก กรมต่อสู้ยานที่ 1 โดยมีปืนต่อสู้อากาศยาน 37 มิลิเมตร แท่นคู่ จำนวน 8 แท่น และเครื่องควบคุมการยิงไดเร็คเตอร์ 5M1 จำนวน 4 ระบบ กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 2 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จาก กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 โดยมีปืนต่อสู้อากาศยาน 40/70 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องควบคุมการยิงฟลายแคชเชอร์ 2 ระบบ ปืนต่อสู้อากาศยาน 40/60 มิลิเมตร จำนวน 6 กระบอก และอาวุธปล่อยนำวิถีแบบประทับบ่ายิงจำนวน 2 ระบบ กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 3 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จาก กรมรักษาฝั่งที่ 1 ศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และกรมสนับสนุน โดยมีปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้ง 155 มิลลิเมตร จำนวน 6 กระบอก และปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีราบ 130 มิลิเมตร จำนวน 6 กระบอก รถหัวลากชานต่ำ จำนวน 16 คัน กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 4 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จาก ศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดยมีนายเรดาร์ และเรดาร์ตรวจการณ์เคลื่อนที่ บอเอ 550 จำนวน 2 ชุด และกองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 5 เป็นพันสวนสนามวิ่งจัดกำลังพลจากศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
พล.ร.ต.นพดล สุภากร ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ กล่าวว่า การฝึกสวนสนามยานยนต์ถือว่าเป็นการฝึกสวนสนามที่ความสำคัญ เพื่อการแสดงออกถึงความพร้อมของระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่มีไว้ใช้ราชการ และการดูแลบำรุงรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อม และใช้ในราชการได้ตลอดเวลา รวมทั้งเป็นการแสดงถึงศักยภาพของหน่วย โดยหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ถือว่าเป็นหน่วยกำลังรบหลักที่สำคัญหน่วยหนึ่งของกองทัพเรือ จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านองค์วัตถุ องค์บุคคล และองค์ยุทธวิธี ให้อยู่ในสภาวะที่มีความพร้อม และสามารถปฏิบัติงานได้ เพื่อรองรับกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทยในปัจจุบัน และปฏิบัติตามที่หน่วยเหนือสั่งการได้ทันที จึงถือว่าเป็นงานที่มีความยากลำบาก และต้องใช้ความใส่ใจ มานะ และมีความอดทนเป็นอย่างมาก