สหรัฐฯจะเปลี่ยนไปใช้บินรบ “F-35” เกือบทั้งหมดภายในปี 2020 |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
14 พฤษภาคม 2555 |
|
|
|
|
|
|
เครื่องบินรบรุ่น เอฟ-35ซี ไลท์นิง ทู ซึ่งผลิตโดยบริษัทล็อกฮีดมาร์ติน กำลงทดสอบบินเหนืออ่าว Chesapeake ของสหรัฐฯ (ภาพ: วิกิพีเดีย) |
|
|
เอเอฟพี - กระทรวงกลาโหมสหรัฐมีแผนให้กองทัพอากาศ, กองทัพเรือ และหน่วยนาวิกโยธิน เปลี่ยนไปใช้เครื่องบินรบรุ่น เอฟ-35 เกือบทั้งหมด ภายในสิ้นทศวรรษนี้ เครื่องบินต่อสู้ชนิดเครื่องยนต์เดี่ยว เอฟ-35 ถือเป็นเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 เนื่องจากมีระบบซอฟต์แวร์อันล้ำสมัย บวกกับเทคโนโลยี “สเตลท์” ที่สามารถหลบหลีกเรดาร์ในดินแดนของศัตรูได้ แสนยานุภาพทางทหารของจีนเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯมักใช้เป็นเหตุสนับสนุนการจัดซื้ออากาศยานไฮเทค ขณะที่ปักกิ่งเองก็กำลังซุ่มพัฒนาเครื่องบินรบสเตลท์รุ่นที่ 5 ของตนอยู่เช่นกัน โครงการพัฒนา เอฟ-35 มีเป้าหมายที่จะผลิตเครื่องบินรบสำหรับกองทัพสหรัฐฯจำนวน 2,443 ลำ และอีกหลายร้อยลำสำหรับอีก 8 ชาติที่ร่วมลงทุน รวมถึงลูกค้าอีก 2 ราย คือ ญี่ปุ่น กับ อิสราเอล 8 ประเทศ ที่ร่วมลงขันพัฒนา เอฟ-35 ได้แก่ ออสเตรเลีย, อังกฤษ, แคนาดา, เดนมาร์ก, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์ และตุรกี เอฟ-35 จะผลิตออกมาหลายเวอร์ชันด้วยกัน โดย เอฟ-35เอ จะถูกออกแบบเพื่อใช้ในกองทัพอากาศ แทนที่เครื่องบินโจมตีและทิ้งระเบิด รุ่น เอฟ-16 และ เอฟ-18 และ เอ-10 ธันเดอร์โบลต์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโจมตีภาคพื้นดิน รุ่นที่สองคือ เอฟ-35ซี จะใช้สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบิน โดยจะมาแทนที่รุ่น เอฟ/เอ-18 ที่กองทัพเรือสหรัฐฯใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนรุ่นสุดท้ายคือ เอฟ-35บี ซึ่งสามารถขึ้น-ลงแนวดิ่งได้ จะมาแทนที่ จัมพ์ เจ็ต “แฮร์เรียร์” ที่มีอายุการใช้งานยาวนานแล้ว เนื่องจากทั้ง 3 รุ่นมีส่วนประกอบคล้ายคลึงกันถึง 80% ค่าใช้จ่ายในการผลิตเครื่องบินรบรุ่นนี้จึงคาดว่าจะถูกกว่าโครงการพัฒนาอาวุธที่มีมาก่อน อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ ล็อกฮีด มาร์ติน ได้สัญญาผลิต เอฟ-35 งบประมาณโครงการก็บานปลายเป็น 2 เท่า และต้องเลื่อนกำหนดส่งมอบออกไปจนถึงปี 2020 จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถประจำการในกองทัพสหรัฐฯได้ภายในปีนี้ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง Mach 1.6 หรือราว 1,900 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องบิน เอฟ-35 มีพิสัยเดินทางไกลถึง 1,100 กิโลเมตร เว้นเพียงรุ่น เอฟ-35บี ที่บินต่อเนื่องได้คราวไม่เกิน 800 กิโลเมตร แต่สามารถเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศได้ ระวางบรรทุกระเบิดภายใน เอฟ-35 สามารถบรรจุขีปนาวุธชนิดยิงจากอากาศสู่อากาศได้ 2 ลูก และระเบิดนำวิถีอีก 2 ลูก ส่วนบริเวณปีก 2 ข้างสามารถติดตั้งระเบิดหรือขีปนาวุธได้อีก 4 ลูก
|
|
ความคิดเห็นที่ 1
ยังไม่ทดแทนทั้งหมดมั้งครับเพระเครื่องบางแบบอย่าง A-10 และ F-16 หลายร้อยลำเพิ่งอัพเกรดใ้ห้ใช้งานยาวไปถึงปี 2025
โดยคุณ
Banyat เมื่อวันที่
14/05/2012 12:15:26
ความคิดเห็นที่ 2
น่าจะหมายถึงการทยอยเข้ามาทดแทนมมากกว่าครับ คงใช้เวลาหลายปีกว่าจะทดแทนทั้งหมด แต่ดูจากจำนวนออเดอร์แล้วหาก ทอ เราจะจัดหาจริงคงต้องรอคิวนานเป็นสิบปีเหมือนกันไม่รู้ ทอ จะมีการทบทวนหรือมีแผนสำรองหากโครงการจัดหาล่าช้าเกินไปหรือเปล่า
โดยคุณ
hinnoi เมื่อวันที่
14/05/2012 13:13:06
ความคิดเห็นที่ 3
ตามแผนว่าจะ Full Rate Production ที่ปี 2016 ด้วยความเร็วในการผลิต 1 ลำต่อหนึ่งวัน
แต่ก็ว่าจะเลือนไปจนถึงปี 2020 ถ้าเป็นจริงผมว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ F-35 จะผลิตไม่ถึงจำนวนที่คาดไว้ ยังไงก็ยังหวังให้ยึดตามแผนเดิมครับ
โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่
14/05/2012 13:42:21
ความคิดเห็นที่ 4
อยากได้ มือ2 ที่จะโดนโล๊ะ จากอเมริกาจัง เพราะยังไง เราก็งบน้อย ถ้าเมริกา ยกเลิกการใช้เยอะขนาดนั้น ราคาขาย คงไม่น่าจะแพงมากเกินกำลังเงินเราจะพอ ขอแบ่งซื้อมาได้ ยิ่งช่วงนี้ข้างบ้านเสริมทัพกันเยอะมาก
โดยคุณ thetonkrub เมื่อวันที่
14/05/2012 19:44:42
ความคิดเห็นที่ 5
หวังว่าสักปี 2025 เราคงจะได้เจ้า f-35 ติดธงชาติ กับธงราชนาวี นะครับ
เราจะหล่อไม่หยอกเลย อิอิ 10ปีแปปเดียวเองครับ
โดยคุณ powerboy1412 เมื่อวันที่
15/05/2012 03:09:48
ความคิดเห็นที่ 6
จากหนังสือ แทงโก เล่มประมาณมีนาคมหรือเมษานี่ละครับ มีบทความF-35 อยู่ ในช่วงท้ายๆบทความแสดงไว้ว่า F-35 A,B,C จะเพิ่มตำบลติดอาวุธในลำตัวเข้าไปอีกโดยเพิ่มจาก 2 เป็น 4,3,4 ตามาลำดับครับ
ปล.ถ้าผมเจอหนังสือจะถ่ายมาให้ครับ ตอนนี้อยู่อีกบ้าน
โดยคุณ sqd93 เมื่อวันที่
15/05/2012 09:49:29