ZBD-2000/ZBD-05/ZTD-05/ZLT-05 ตระกูลนี้อยากได้มาใช้มาก ๆ ครับ เร็วดีบนบก 65กม/ชม ในน้ำ 45 กม/ชม เร็วพอ ๆ กับเรือเลยครับ
ถ้า นย. หรือ ทร. ได้มาซัก 2 กองพันนี่ทหารราบข้างบ้านเราคงหลอนพิลึก อย่าว่าแต่ทหารราบเลย ปืนใหญ่ 105 ก็กวาดรถถังแถบนี้ได้หมด
รู้สึกว่า คราวนี้ ชุดสนามของ ทร. จะดูดีกว่าของ จีน อีกนะเนี้ย แต่คราวนี้มีการนำZBD-2000/ZBD-05/ZTD-05/ZLT-05 มาสะด้วย ครั้งต่อไป คงจะนำอุปกรณ์มามากกว่านี้ นะเนี้ย
คือผมสังเกตเห็นว่า สายที่ห้อยพาดคอทหารไทยนี้ใช่สายของกระติกน้ำแบบสะพายรึเปล่าคับ ผู้รู้ช่วยบอกด้วยคับ
(ขอบคุณล่วงน่าคับ)
ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ชุดพรางของจีนมันหลอนๆสายตายังไงไม่รู้ จึงขอเรียนถามว่า พรางฟ้านี้จะใส่ในการปฎิบัติการในสพาพแวดล้อมอย่างไงครับ ขอบคุณครับ
นย.เริ่มใช้เวสEnhanced Tactical Load-Bearing Vest(ETLBV)มาได้ซักพักแล้วครับ คงจใช้แทนสายโยงบ่าแบบALICEทั้งหมด ใช้คู่กับเป้น้ำแบบสะพายหลังแทนกระติกน้ำแบบเก่า
เวส หรือ chest rig ในภาพที่ นย. ใส่กันคือหลวงแจงเลยหรอครับ
ในขณะที่หมู่เกาะสแปร๊ดลี่ยังอึมครึม ก็ดูเหมือนว่าเรากำลังจะเลือกข้างใน ความขัดแย้งครั้งใหม่แล้ว[รึป่าว]
ก็ดีอุ่นเครื่องกับลูกพี่ให้ครบ แต่ของจีนทั้งทหาร รถเกราะสีสันหวานแหววมาก แบบนี้ต้องเฉดม่วงกะชมพูและโลโก้คิตตี้
ที่สังเกตเห็น ชุดสนามก็มีเปลี่ยนแปลงนิดนึงนะครับ มีกระเป๋าเพิ่มตรงแขนเสื้อด้วย
อยากเห็นทั้งชุดเลยจริงๆ
ชอบตรงสายรัดคาง ดูกระชับดีนะครับ
ใน http://www.thaiarmedforce.com/distribution/viewtopic.php?f=6&t=2238&start=135 กำลังพูดถึงเจ้า ZBD-2000
ก็ดันไปเห็นในคลิปนี้ http://www.youtube.com/watch?v=aK7qey6-VTc แต่เอะใจตรงอาวุธปล่อยดังภาพข้างล่าง มันใช่อาวุธปล่อยเอาไว้ทำลายทุ่นระเบิดหรือเปล่าครับนั้น
ถ้ารถ zdb มันวิ่งในน้ำเร็วขนาดนั้นก็แข่งกับเรือสิครับ
ใช้ระบบขับเคลื่อนอะไร ใครรู้บ้าง
เป็นจรวดต่อต้านรถถังHJ-73(AT-3)เมดอินไชน่าครับ
AT 3 เจ้านี้ ผลงานไม่เบา... หงายมาเยอะ แล้ว....
รูปลักษณ์มันช่างน่ารังเกียจจริงๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบันยังใช้ประจำการอยู่ ในวิกิบอกว่า เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1961 รวมๆอายุตอนนี้ ก้อ 50 ปี มีอายุมากกว่าเพื่อนคลาสเดียวกันอย่าง tow (bgm-71) ถึง 10ปี เพราะจรวดทั้ง2แบบนี้ ใช้หลักการนำวิถีเดียวกัน
Wire and radio-guided SACLOS
แบบ ส่งผ่านทางสัญญาณวิทยุและสายไฟ การนำวิถีทำจากอุปกรณ์เล็งยิงล้วนๆ กล่าวคือพลยิงจะต้องเล็งผ่านกล้องโดยบังคับให้กากบาทที่เห็นในศูนย์กล้อง ทาบอยู่ที่เป้า เมื่อจรวดถูกปล่อยออกไปพลุที่ท้ายจรวดจะถูกจุดขึ้นเพื่อให้อุปกรณ์รับภาพใน กล้องเล็งจับได้ คอมพิวเตอร์จะคำนวณระยะห่างของแสงจากพลุท้ายจรวดจากตำแหน่งของกากบาทที่ ทาบอยู่บนเป้า (กากบาทเป็นภาพที่พลยิงเห็นแต่ไม่ได้มีแสงหรือคลื่นอะไรถูกส่องไปที่เป้า) แล้วจึงส่งสัญญาณผ่านเส้นลวดที่ถูกโรยออกจากกระสวยในตัวจรวดเพื่อบังคับครีบ บนจรวดให้เบนจรวดกลับเข้าสู่ตำแหน่งของกากบาทไปตลอดจนกระทบเป้า
( ขออนุญาตินำบทความมาจากคุณ Banyat ในกระทู้ http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=16195&topic=%C3%D0%BA%BA%B9%D3%C7%D4%B6%D5%A2%CD%A7%A8%C3%C7%B4%B5%E8%CD%CA%D9%E9%C3%B6%B6%D1%A7
ผมว่ามันเป็นอาวุธที่อมตะจริงๆ ^^ สามารถติดตั้งบนยานเกราะต่างๆ หรือแม้แต่ อากาศยานปีกหมุน
** ผมว่ามันดีอยู่อย่างหนึ่งนั้นคือผู้ยิง กับตัวจรวดอยู่ห่างกันได้ ตัวผู้ยิงสามารถหลบซ่อนได้ เพียงแค่ให้กล้องส่องเป้าเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะถูกยานเกราะยิงสวนมาทางตัวจรวด http://www.youtube.com/watch?v=VW19TgaVcJg
ขอแก้ไข ครับ ก็อปผิดครับผม ขออภัย( มันเข้าไปแก้ยังไงหรอครับ )
ขอแก้ตรงระบบควบคุมน่ะครับ แก้เป็น
MCLOS หรือ Manual Command to Line of Sight เป็นการควบคุม(นำวิถี)เจเนอเรชั่นแรก ๆ ของจรวดนำวิถีโดยการใช้การควบคุมทิศทางยังทำโดยคนทั้งหมดผ่านทางจอยสติ๊ก หรือเครื่องควบคุมแบบอื่น โดยการส่งสัญญาณจากเครื่องควบคุมที่ส่งต่อไปยังตัวจรวดนั้นก็จะผ่านสายไฟโดย ตรง ส่วนการเล็งเป้าของพลยิงนั้นก็จะมองผ่านกล้อง periscope ไปที่ท้ายจรวดซึ่งติดตั้งพลุส่องแสงขนาดเล็ก(ไฟติดที่ตูดแบบเดียวกับกระสุน ส่องวิถี) ระบบนำวิถีแบบนี้มาใช้มาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว อย่างจรวด X-4 และ Hs 293 ของเยอรมัน แต่ที่ดังที่สุดคงไม่พ้น AT-3 Sagger ไปได้