หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เรือรบของกองทัพเรือจักวรรดิ์ญี่ปุ่นที่ไม่มีวันได้เ ข้าสู่สนามรบ[สาระ] รับรองน่าสนใจครับ

โดยคุณ : Grenadier เมื่อวันที่ : 23/06/2012 13:20:37

มาเจอกระทู้ ”ถามเรื่อง Super Yamato” นี้ไม่เอาความรู้ที่ตัวเองมีมาลงให้หายสง สัยแล้วมันรู้สึกไม่ดีแฮะ งั้นผมขอลงขอมูลของมันก็แล้วกันนะครับ
 
โดย คุณ Vlademir แห่งเว็บ http://www.thaigaming.com/thai-navy-field/
 
และ จากบุรุษที่ไม่เอ่ยนาม จากเว็บ http://sites.google.com/site/rungsirasite2011/tha-ha-nth-har/reuxrb/bthkhwammimichux
 
 




ความคิดเห็นที่ 1


อันนี้เป็นขอมูลแบบแปลนดีไซด์ ของเรือประจันบานรุ้น A-150i ซึ่งถ้าบ้านเราคงเรียกว่า Super Yamato II ของญี่ปุ่นที่ซึ่งเป็นรุ่นเสริมที่จะน้ำมาสร้างแทนรุ ่น A-150 - Super Yamato I แบบแรกติดอาวุธด้วยป้อมปืนหลักขนาด 20 นิ้ว 4แทน แบบแท่นละ2กระบอก 8x20" จำนวน(4x2) ซึ่งจะเพิ่มจำนวนของป้อมปืนเพิ่มจากเดิม3ป้อมเป้น4ป้ อมของคลาสนี้ ในลำที่3และ4 โดยจะลดความเร้วสูงสุดลงจาก30น็อตให้เหลือ27น็อตเท่า กับเรือประจันบานยามาโตะ และนี้คือแบบแปลนที่ถูกต้องที่ถูกเขียนขึ้นเมื่อปี 1941 และถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพเรือกองกำลังป ้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น ครับผม


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 23/04/2012 23:52:45


ความคิดเห็นที่ 2


ถ้าอยากจะให้ใหญ่ขึ้นก็คลิดดูเอานะครับ แล้วก็รูปในตอนแรกของ A-150 นั้นอะนะ แต่มันก็แค่สั้นกว่า A-150i ในแบบแปลนข้างบนไม่กี่100Mเองเพราะมันต้องมีความยาวเ พียวพอที่จะใส่ป้อมปืน20นิ้วป้อมที่4ด้วย แต่ถ้าดูในรูปข้างล่างนะแทบบอกไม่ถูกเลยว่านั้นมันเป ็นเรือประจันบานรุ่นไหนระหว่าง A-150 กับ A-150i


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 23/04/2012 23:53:38


ความคิดเห็นที่ 3


แต่ผมขอเสริมอีกนิดนะครับ ที่มีคนบอกว่าเรือประจันบาน A-150เป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์ชาติเคยคิดท ี่จะสร้างขึ้นนั้นผมขอบอกอย่างเต็มปากว่า ผิด!!! เพราะคนญี่ปุ่น(อีกแล้ว)นั้นไม่ได้จบลงที่แผนการสร้า ง A-150 แต่พวกเขาคิดแผนการที่ใหญ่ยิ่งกว่า ทรงพลังยิงกว่า น่าเกรงยิงกว่า และถ้ามันสร้างเสร็จมันจะนำฝันร้ายมามอบให้แก่กองเรื อและเมืองรอบชายฝั่งของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างแน่นอน ซึ่งแบบแปลนที่ท่านจะได้เห็นนี้แทบไม่มีใครได้เห็นแล ะได้รู้จักตลอดสงครามโลกครั้งที่2มันแทบถูกเก็บเป็นค วามลับจนถึงไม่กี่ปีที่ฝ่ายมานี้มันพึ่งถูกเปิดเผยต่ อสาธารณะชน(เฉพาะชาวญี่ปุ่นเท่านั้น)เมื่อไม่ถึง10ปี ที่ผ่านมานี้(ให้ถูกเลยคือมันถูกเปิดเผยเมือค.ศ.2005 ในวันครบรอบ60ปี)แต่มันกลับแทบไม่ได้รับความสนใจจากส าธารณะชนเพราะมันเหมือนเป็นการตอกลิ้มไปที่จิตใจของช าวญี่ปุ่นที่เจ็บช้ำจากสงครามโลกครั้งที่2ในครั้งนั้ น และสาเหตุที่ทำให้มันแทบไม่เป็นที่รู้จักเลยก็เพราะเ มื่อหลังจากที่มันถูกออกแบบแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1941 เพื่อสานต่อจากเรื่อประจันบานรุ่น A-150 นั้นต่อมาในปีค.ศ.1944 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โครงการได้รับไฟเขียวจากองค์จั กริพรรดิ์นั้น ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่มีผลกระทบอย่างหนัก ต่อโครงการนั้นก็คือ ความพ่ายแพ้ของกองทัพเรือจักรวรรดิ์ที่สมรภูมิแห่งมิ ดเวย์ซึ่งทำให้กองทัพเรือเกิดการคลาดแคลนเรื่อบรรทุก เครื่องบินอย่างหนักและทำให้ โครงการเรือประจันบานแทบทุกโครงการเป็นหมันในทันทีหล ังการวันที่พ่ายแพ้ให้แก่กองทัพเรือสหรัฐในครั้งนั้น ซึ่งนั้นก็รวมถึงโครงการเรือประจันบานยามาโตะลำที่3, 4และ5 โครงการเรือประจันบาน A-150 และโครงการนี้ซึ้งเริ่มต้นไปเพียงแค่การวางฐานรองรับ กระดูกงูขนาดมหึมาเท่านั้นหรือพึ่งเริ่มโครงการไปได้ ไม่ถึง1% ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากเพราะมันอาจมีผลต่อสงค รามอย่างมาก ถ้ามันสร้างเสร็จ
โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 23/04/2012 23:55:45


ความคิดเห็นที่ 4


โครงการเรือประจันบาน A-150 เริ่มต้นแค่เพียงการวางฐานรองรับกระดูกงูขนาดมหึมาเท่านั้นไม่ถึง1%ซึ่งเป็นเรื่อง
ที่น่าเสียดาย เพราะอาจมีผลต่อโฉมหน้าของสงครามเป็นอย่างมาก หากแม้นว่า A-150i ถูกสร้างแล้วเสร็จ


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 23/04/2012 23:57:20


ความคิดเห็นที่ 5


A-150 i


ข้อมูลแบบแปลนดีไซด์ของ เรือประจัญบานรุ่น A-150i ของญี่ปุ่นที่ซึ่งเป็นรุ่นเสริมที่จะนำมาสร้างแทนรุ่นA-150
แบบแรก ติดอาวุธด้วยป้อมปืนหลักขนาด 20 นิ้ว (508 มิลลิเมตร) 4 แท่นๆละ 2 กระบอก ซึ่งจะเพิ่มจำนวนของป้อม
ปืนใหญ่ หลักจากเดิม 3 เป็น 4 ป้อมของคลาสนี้ ในลำที่ 3 และ 4 โดยจะลดความเร็วสูงสุดลงจาก 30 น๊อตให้เหลือ
27 น๊อต เท่ากับ เรือประจัญบานยามาโต และนี้คือแบบแปลน ที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1941 และถูกเก็บรักษาไว้ ที่ พิพิธ
ภัณฑ์กองทัพเรือ กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น


แผนสำหรับการสร้างเรือรบชั้น "ซูเปอร์ ยามาโตะ" ถูกเรียกว่า "Hull Number 798" และ "Hull Number 799"
แต่โครงการถูกปฏิเสธไปในปี พ.ศ. 2485


A planned "Super Yamato" design with 8x20" guns and 12x8" secondaries. I call this a NW since the
design is in a Japanese book on planned designs. Not sure how serious it was. NW?



War Ship 798 and 799 were to be the first Super Yamato class battleships. These were designed in
1941 with construction to begin the following year.The orders were never placed, so any specifications
are rudimentary at best. These ships were also referred to as design A-150.


Specification of the A 150 Super Yamato

Displacement(tons) Standard    70,000 Trials 82,650
Armament                              6x 510 mm or 20"/45 numerous 100mm/65 dual purpose
Speed                                     30 knots

Additional protection was planned and full-scale models of the magazines and handling rooms for the
turrets were constructed. Ballistic tests were conducted on the 510 mm or 20 inch gun with an AP
round that weighed 1.8 ton But no examples of this gun were found after the war

โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:03:03


ความคิดเห็นที่ 6


ชื่อของมันก็คือ IJN Muteki Nippon

มูเทกิ นิปปูน : เรือประจัญบานยักษ์ ระวางขับน้ำปกติ 298,000 ตัน และระวางขับน้ำสูงสุด 355,000 ตัน
จึงทำให้มันเป็น อสูรกายแห่งท้องทะเลโดยแท้จริง ที่จะนำความปราชัยสู่กองเรือฝ่ายสัมพันธมิตร และด้วยเกราะ
ไททาเนียม หุ้มส่วนกราบเรือ หนาถึง 1,000 มม.(40นิ้ว) จึงทำให้ปืนใหญ่ของเรือข้าศึกไม่เป็นที่ระคายเคืองผิวแม้
แต่น้อย พลังขับเคลื่อนอันมหาศาล จากเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นเป็นการเฉพาะ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องยนต์
ของ เรือประจัญบานยามาโต ถึง 3 เท่า จำนวน 6 เครื่อง/ใบพัด สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 40 น็อต 

กองเรือบรรทุกเครื่องบินเคลื่อนที่เร็วอย่าง USS ESSEX (CV-9) ของนาวีสหรัฐฯ คงหนีพ้นการไล่ล่าของเรือยักษ์
ลำนี้ได้ยาก ซึ่งด้วยความเร็วขนาดนี้ มีผลทำให้สามารถหลบหลีก ลูกระเบิด และ ตอร์ปิโด จากเครื่องบินข้าศึกได้
อย่างคล่องแคล่ว ง่ายดาย

และที่สำคัญที่สุดเรือลำนี้ติดอาวุธด้วย
1).ป้อมปืนใหญ่(หลัก)แบบแฝด3จำนวน5ป้อมขนาด 15 x 510 ซม. (20.1 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 45 คาลิเบอร์
2).ป้อมปืนใหญ่(รอง)แบบแฝด2จำนวน34ป้อมขนาด 34 x 127 ซม. (5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
3).ป้อมปืนต่อสู้อากาศยาน(เล็ก)แบบแฝด4จำนวน50ป้อม (ขนาดของเส้นฝ่านศูนย์กลางลำกล้องไม่แน่ใจระหว่าง25ม ม.รุ่นเก่ากับ40มม.รุ่นใหม่)
4).อากาศยานเครื่องบิน ประจันบาน,ทิ้งระเบิด,สิดแนม,ต่อต้านเรือดำน้ำ ทั้งหมดเป็นแบบติดโฟลค มากกว่า20ลำ บนแท่นปล่อยเครื่องบิน2แท่นท้ายเรือและใช้หอคอยวิทยุ ส่วนด้านหลังเก็บศูนย์บรรชาการกองบิน
 
IJN Super Battleship Muteki Nippon 1947 



โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:07:01


ความคิดเห็นที่ 7


โดยร่วมแล้วถ้าดูแบบร่างภาพเดียวแล้วมันไม่ค่อยจะได้ อะไรมาก โดยส่วนมากเราจะมองความแตกต่างไม่ออก แต่พอลองเอา เรือประจัญบาน มูเตะกิ นิปปูน ลำนี้ไปเทียบกับเรือประจัญบาน ยามาโตะแล้วเราจะรู้ได้เลยว่า ถ้าเรือประจัญบานยามาโตะได้รับฉายาอสูรการแห่งท้องทะ เลแล้ว สำหรับ เรือประจัญบาน มูเตะกิ นิปปูน แล้วมันสมควรได้รับฉายาว่าอะไรดีเหอะเหอะเหอะเหอะ


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:08:15


ความคิดเห็นที่ 8


รูปด้านล่างนั้นคือ

เรือประจัญบาน มูเตะกิ นิปปูน (ในรูปด้านบน)
เรือประจัญบาน ยามาโตะ (ในรูปด้านล่าง)

แล้วก็นี่นะของแถมเป็นแบบแปลนที่สร้างแล้วไม่เคยเสร็ จของเรือในคลาสยามาโตะอีก3ลำเป็นลำที่4,5และ6ของคลาส นี้


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:09:35


ความคิดเห็นที่ 9


ลำที่4นั้นถูกดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินเหมือนลำพี่ (ลำที่3)ที่ชื่อว่า ชินาโนะ (IJN Shinano) ส่วนลำนี้ชื่อว่า ฮ่าทูเซะ (IJN Hatsuse) เจ้าตัวนี้ถ้าสร้างออกมาพื้นที่บนดาดฟ้าและโรงเก็บเค รื่องบินจะมีเนื้อที่มากกว่าลำก่อนถึง1/3และมีระบบลิฟที่จะอยู่ด้านกราบเรือทั้งหมดไม่มีอยู่ กลางเรือทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินสามารถขึ้นได้ตล อ ดทั้งการเตรียมนำเครื่องบินขึ้นแกรร่านลงในเวลาเดียว กัน ซึ่งชินาโนะลำก่อนจะเป็นลิฟที่กลางลำเรือและมีลิฟเพี ยง2ตัวเท่านั้นจึงไม่สามารถทำได้เหมือนฮาทูเซะลำนี้แ ละอาวุธต่างรอบกราบเรือจะมากกว่าลำก่อนราว30-40%


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:10:53


ความคิดเห็นที่ 10


ลำที่5นี้ชื่อว่า อิโซ (IJN Ezo) จะพิเศษหน่อยที่มันถูกดัดแปลงแบบไม่เหมือนชาวบ้านซึ่ งมันถูกดัดแปลงให้เป็นผู้สืบทอดของเรือประจัญบานบรรุ ุกเครื่องบิน (Battlecarrier = Battleship + Aircraft carrier)ซึ้งจะเป็นรุ่นที่2ต่อจากเรือประจัญบานบรรทุ กเครื่องบินชั้น อิด (Ise Class Battleship/Battlecarrier) ซึ่งครึ่งลำด้านหน้าจะเหมือนลำพี่ยามาโตะทุกอย่างแต่ ด้านหลังจะเป็นแบบของฮาทูเซะซึ่งเพิ่มเนื้อที่โรงเก็ บและลานบินแล้วจึงเป็นเรือประจัญบานที่บรรทุกเครื่อง บินแบบที่ไม่ใช่โพลคลำแรกของโลกในทันทีที่มันสร้างเส ร็จ ซึ่งมีเครื่องบินในโรงเก็บมากกว่า30ลำด้วยกัน!!!!


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:12:49


ความคิดเห็นที่ 11


สำหรับลำที่6นี้มีชื่อว่า อิชิเซน (IJN Echicen)ซึ้งเรือลำนี้ทำความเร็วได้มากกว่า32น็อต มันจึงจัดอยู่ในชั้นเรือประจัญบานเร็ว(Fast Battleship)และมันถูกคิดมา2กรณี กรณีแรงเพื่อที่จะมาคุ้มกันเรือ บรรทุกเครื่องบินลำใหม่ในคลาสยามาโตะทั้ง2ลำนั้นก็คื อ ชินาโนะ และ ฮาทูเซะ ซึ่งมีความเร็วใกล้เคียงกัน และ กรฯีที่2เพื่อไว้คอยตามล่าและไล่ล่าเรือประจันบานเคล ื่อนที่เร็วชั้นไอโอว่า (Iowa Class Fast Battle ship)แบะเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น เอ็กเส็ก (Essex Class Aircraft Carrier)และไล่ล่าเรือเสบียงของสัมพันธมิตรในทะเลแปซ ิฟิก โดยข้อแตกต่างหลักๆเลยก็คือเรือลำนี้จะมีปล่องควันระ บายความร้อนเพิ่มขึ้นมาอีก1ปล่องเพื่อรองรับเครื่องย นต์อีก2เครื่อง/ใบพัด จาก4เครื่องเป็น6เครื่อง โดยที่มันไม่ต้องลดเกราะลงเลยแม้แต่น้อยจึงขอให้นึกถ ึงเรือยามาโตะจ้าวเดิมใครคราบความเร็วขนาด เรือประจันบานขนาดกระเป๋า ดัชแลน คลาส (Duchland Class Battleship)ซึ่งช่วงต้นของสงครามฝ่ายเยอรมันใช้มันออ กมาสร้างความปั่นป่วยกองเรือเสบียงของฝ่ายพันมิตรที่ ส่งไปช่วยหรือสหราชอาณาจักรเป็นอย่างมาก และสำหรับการต่อกรกับเรือบรรทุกเครื่องบินโดยเฉพาะนั ้น เรือลำนี้ได้เพิ่มจำนวนป้อมปืนต่อสู้้อากาศยานขนาด25 มม. และ40มม. จากปกติของยามาโตะมีทั้งหมด38ป้อมแต่อิชิเซนมี60ป้อม และเพิ่มป้อมปืนแฝด2ขนาด12.7ซม.จาก12ป้อมของยามาโตะแ ละมูซาชิเป็น20ป้อมบนอิชิเซน เพื่อใช้จัดการกับเครื่องบินและใช้มันในการกระหนำยิง ตอนเรื่อแล่นไปตีขนาบข้างเรือข้าศึกซึ่งเป็นกลยุทธที ่กองทัพเรือจักรวรรดิ์ใช้ในการจมเรือบรรทุกเครื่องบิ นข้าศึกได้ดีที่สุดถ้าไม่นับวิธีคามิคาเซ่กับใช้เครื ่องบินทิ้งต่อปิโดของเรือบรรทุกเครื่องบิน และด้วยป้อมปืนหลักขนาด 18.1นิ้วจำนวน9กระบอกเจ้าเดิมกับลำพี่ยามาโตะ อาจทำให้เรือประจัญบานเคลื่อนที่เร็วอย่างไอโอว่าต้อ งหลบลี้หนีภัยกันอุตรุตเมื่อเจ้านี้วิ่งมาหาทักทายสว ัสดีด้วยการประเดิมเปิดซัก6นัดจากด้านหน้าซึ้งด้วยคว ามเร็ว,เกราะและอาวุธขนาดนี้ก็พอจะการันตีได้ว่ามันส ามารถทำหน้าที่ทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายทางกองทัพเรือจักรวรรดิ์ไม่สนใจมันเลยเ นื่องจากว่าในปี1944นั้นพวกเขาต้องการทรัพยากรที่จะน ำไปใช้สร้างเรือบรรทุกเครื่องบินซะมากกว่า จึงทำให้แบบแปลนไม่เคยถึงมือคณะเสนาะการสหพันธ์กองเร ือเลยแม้แต่เฉียดปลายคิ้ว


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:14:03


ความคิดเห็นที่ 12


อ๋อแถมอีกนิดนะครับ นี่คือเรื่อลำที่2ในคลาสที่เป็นลำน้องของเรือประจัญบาน มูเตะกิ นิปปูนถ้าสร้างออกมาแล้วเสร็จงานนี้ชาวญี่ปุ่นคงได้ค รองแชมถึง2ตัวเลยนั้นก็คือได้ เรือประจัญบานใหญ่ที่สุดในโลก และเรือบรรทุกเครื่องบินใหญ่ที่สุดในโลกไปด้วย ถ้าสร้างออกมาได้จริงๆ เมื่อไหร่พันธมิตรก็พันธมิตรเถอะ แถบชายฝั่งนี้อย่าหวังว่าจะเหลือ เหอะเหอะเหอะ

ซึ่งเรื่อลำนี้มีชื่อว่า คริยู (IJN Kiryu) โดยมันจะถูกสร้างขึ้นมาจากโครงเรือของเรือประจัญบาน มูเตะกิ นิปปูน ซึ่งบอกไอ้คำเดียวว่าอภิมหาโคตรใหญ่ ซึ่งเดินเครื่องด้วยเครื่องยนต์แบบของ มูเตกิ นิปปูน จำนวน6เครื่องทำให้มันทำความเร็วได้อาจจะมากกว่า มูเตกิ นิปปูน ที่มีความเร็วมากกว่า40น็อตด้วยซ้ำ และอย่าลืมถึงเกราะป้องกันที่หนาถึง 1000มม. (40นิ้ว) เพราะว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีเกราะหน้าขนาดนี้ม ันไม่เคยมีมาก่อนและ

มันเพียบพร้อมไปด้วย
1).ป้อมปืนใหญ่แบบแฝด2จำนวน14ป้อมขนาด 28 x 127 ซม. (5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
2).ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแบบแฝด4จำนวน46ป้อม (ขนาดของเส้นฝ่านศูนย์กลางลำกล้องไม่แน่ใจระหว่าง25ม ม.รุ่นเก่ากับ40มม.รุ่นใหม่)
3).อากาศยานเครื่องบินประจันบาน,ทิ้งระเบิด,สอดแนม,ต ่อต้านเรือดำน้ำและที่สำคัญเรือลำนี้สามารถบรรทุกผู้ บินเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก Mitsubishi G4M Betty และ Mitsubishi Ki-21 Sally ซึ่งมีขนาดไล่เลี่ยกับ B-24 Liberatorของสหรัฐได้ด้วยจึงทำให้มันเป็นฐานทัพอากาศลอยน้ำเคล ื่อนที่เลยก็ว่าได้!!!



โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:16:10


ความคิดเห็นที่ 13


ถ้ามันไม่เกิดเหตุการณ์ความพ่ายแพ้ที่มิดเวย์ ของกองทัพเรือจักรวรรดิแล้วทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ต ั้งเอาไว้ ทั้ง2ลำจะพร้อมที่จะเข้าร่วมกองเรือจักรวรรดิ์และ เป็นเรือธงในทุกสมรภูมิในปี ค.ศ.1947 โชคดีสำหรับสหรัฐที่เล่นงานเรือบรรทุกเครื่องบินของญ ี่ปุ่นซะอ่วมจนทางกองทัพเรือจักรวรรดิ์ต้องสั่งยกเลิ กแผนการสร้างในปี ค.ศ.1944 ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้ว่ากระดูกงูของโครงเรือขนาดยักษ ์ลำที่2นี้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่!!! ถ้ามันไม่ใช่แบบนั้นละ ถ้าสหรัฐแพ้ที่มิดเวย์ แล้วกองทัพเรือจักรวรรดิ มีงบประมาณมากพอที่จะสร้างมันและมันแล่นออกมาในปี ค.ศ.1947 ละ!! สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับฝ่ายสัมพันมิตรคงเป็นภาพสยองขวั ญสุดจินตนาการ เมื่อเผชิญหน้ากับอภิมหาเรือประจัญบานและเรือบรรทุกเ ครื่องบินขนาดยักษ์ลำนี้ ซึ่งมีการวิจัยและพัฒนาขยายส่วนเก็บเครื่องบินแล้วใน ปี ค.ศ.1944 และมันอาจมีชั้นเก็บเครื่องบินมากถึง 4-6 ชั้น จำนวนเครื่องบินที่ฐานทัพลำนี้จะนำโดยสารไปสู่สมรภูม ิด้วยอาจจะมากกว่า200หรือ300ลำด้วยซ้ำ ซึ่งสหรัฐอาจจะต้องใช้เรือบรรทุกเครื่องบิน เอ้กเส็ก จำนวน 4 ถึง 6 ลำในการใช้เครื่องบินสู้ให้ได้เท่าจำนวนที่อย่างน้อย ที่สหรัฐจะไม่เสียเปรียบ ซึ่งมันจะนำฝันร้ายมามอบให้แกกองทัพพันมิตรร่วมกับลำ พี่ของมัน อย่างที่หายนะพี่ และ วินาศสันตะโลยังต้องเรียกพ่อ อย่างแน่นอน

ส่วนรูปภาพข้างล่างนั้น เป็นการเทียบกันระหว่าง เรื่อบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ นั้นก็คือ
เรือบรรทุกเครื่องบิน คริยู (ในรูปด้านบน)
เรื่อบรรทุกเครื่องบิน ชินาโนะ (ในรูปด้านล่าง)


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:17:20


ความคิดเห็นที่ 14


อันนี้เป้นของแถมครับ อันนี้คือเครื่องบินMitsubishi G4M BettyและMitsubishi Ki-21 Sallyที่จะสามารถนำไปใช้ปฏิบัติ การบนเรือบรรทุกเครื่องบิน คริยูได้

ลำในรูปด้านล่างคือ Mitsubishi G4M Betty



โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:18:24


ความคิดเห็นที่ 15


หากว่าไม่เกิดเหตุการณ์ความพ่ายแพ้ที่ ยุทธภูมิมิดเวย์ ของ กองทัพเรือจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น แผนการสร้างเรือรบทั้ง
สองลำนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินคริยุ(Kiryu) และ เรือประจัญบานมูเทกินิปปอน(Muteki Nippon)คงดำเนินการต่อไป
และแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1947 ซึ่งอาจจะพลิกโฉมหน้า ของสงครามทางทะเลระหว่าง ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา ในอีกรูป
แบบก็ได้  กองทัพเรืออาทิตย์อุทัย สั่งยกเลิกแผนการสร้างเรือรบขนาดยักษ์ทั้งสองลำนี้ ในปี ค.ศ.1944


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:20:29


ความคิดเห็นที่ 16


เมื่อนำ เรือประจัญบานมูเทกินิปปูน มาเทียบขนาดกับ เรือประจัญบานยามาโต แล้วจึงเป็นที่มาของฉายา

"อสูรกายแห่งท้องทะเล"


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:21:46


ความคิดเห็นที่ 17


แล้วท้ายที่สุดผมอขอบคุณ คุณ rungsira2011 จากเว็บ http://wolfsshipyard.mystarship.com/Misc/NeverWeres/japanese.htm
มาด้วยนะที่นี้ ขอบคุณครับ จาก Grenadier

โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:24:31


ความคิดเห็นที่ 18


ขอประทานโทษทีขอรับ รูปแบลบแปลนของ A-150i อันนแรกนั้นมันลืมขยาย ผมเลยทำใหม่ให้ครับ


โดยคุณ Grenadier เมื่อวันที่ 24/04/2012 00:26:18


ความคิดเห็นที่ 19


ขอบคุณสำหรับสาระครับ

มีโครงการอาวุธของฝั่งอักษะมากมายที่ออกแบบไว้แต่สร้างไม่ทัน หรือไม่มีงบทำเพราะถูกถล่มหนัก จึงแพ้สงครามไปเสียก่อน

อาวุธหลายตัวนั้นหากผลิตทันและมีจำนวนมาก อาจทำให้สถานการณ์สงครามในขณะนั้นพลิกโฉมหน้าไปได้เลยทีเดียว

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 24/04/2012 01:28:44


ความคิดเห็นที่ 20


เห็นแล้วนึกถึงหนังเรืองbattle ship ที่พึ่งไปดูมาเรือสมัยนั้นสร้างได้อลังการจริงๆ ถ้ามาสมัยนี้คงเหมือนเต่าอ้วนๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ได้ดี ขอบคุณสำหรับสาระเรื่องราวครับ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 24/04/2012 01:41:47


ความคิดเห็นที่ 21


ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

Kiryu =คิริว (มังกรชนิดหนึ่ง)

Nippon= คนต่างชาติใช้เรียก นิปปอน=ญี่ปุ่น

Nihon  = คนญี่ปุ่นใช้เรียก นิฮ่น =ญี่ปุ่น

Nihonyin =คนญี่ปุ่นใช้เรียก นิฮ่นยิ่น=คนญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นเป็นคนชั่งคิดและเคารพผู้นำ



โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 24/04/2012 09:13:38


ความคิดเห็นที่ 22


ขอบคุณครับ  สาระดีๆครับ (เรื่องที่ไม่เคยรู้ และผมคิดว่าผมควรจะรู้ไว้บ้างถ้าชอบแนวนี้)

โดยคุณ jeab2511 เมื่อวันที่ 24/04/2012 11:19:28


ความคิดเห็นที่ 23


สุดยอดมากๆ เลยคับ

นึกว่ามีแค่  ยามาโต้  ซักอีกที่เป็นอสูรแห่งท้องทะเลแค่ลำเดียวซะอีก

โดยคุณ YamatoJR เมื่อวันที่ 28/04/2012 17:06:11


ความคิดเห็นที่ 24


ยิ่งใหญ่ แต่ไม่ยั่งยืน

โดยคุณ Nora_033 เมื่อวันที่ 23/06/2012 13:20:37