ใช้กระทู้นี้หรือเปล่าครับ >>>>คลิก<<<<

ได้รับเมล์แล้วครับ...พอดีอาทิตย์ที่ผ่านมา งานเยอะ ม๊ากกกกกกกกกกกกกกก....เลยยังไม่ได้ส่งไปให้ครับ...เดี๋ยวขอค้นหาก่อนครับ...และกะว่าจะทำ อัพเดท ให้ครับ....

อยากได้ของไทยน่ะครับ คล้ายๆแบบลิ๊งคุณ spookyเลย จำได้ว่ามีการเเจกเเจงเรือชั้นต่างๆ ไปตามกองเรือทั้ง3 น่ะครับ 

เมลอะไรหรอครับ = =.

อ่อ...สงสัยจะคงอีกท่านหนึ่ง ล่ะมั๊งครับ...เห็นเมล์ขอไฟล์ กองเรือฟริเกต น่ะครับ...

งั้นกระทู้นี้ ผมโพส ก่อนการปรับปรุงใหม่ ก่อนน่ะครับ...

ว่าจะเติม ร.ล.กระบี่ กับ ร.ล.อ่างทอง ลำที่ 3 และ ต.994-996 ตัดภาพ ต.11-13 ออกด้วยครับ...

ภาพเปรียบเทียบ การจัดหา เรือของ กองทัพไทย ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กับ กองเรือปัจจุบัน

ตามแผนจัดหา 9 ปี เมื่อปี 2549 จะมีการทดแทน และเปรียบเทียบกับปัจจุบัน

ขอบคุณมากครับ เอ่อ ถ้าคุณ juldas ว่าง รบกวนทำแผนผัง เเบ่งเรือออกเป็น เขต3 เขตรับผิดชอบ ลืมไปเเล้วว่าเขาเรียกว่าอะไรน่ะครับ  เหมือนกองเรือภาคที่ 1-3ประมาณนี้น่ะครับ  ผมค่อนข้างสนใจฝั่งอันดามัน เพราะว่าพม่ามีการปรับปรุงกองเรือค่อนข้างมาก เลยอยากทราบว่าไทยเราจะปรับปรุงกองเรือฝั่งนั้นมากน้อยเเค่ไหน เเต่ก็เป็นทะเลเปิดค่อนข้างควบคุมยาก  

แต่เเค่นี้ก็ขอบคุณมากเเล้วนะครับ 

กองเรือยุทธการ จะหมุนเวียนเรือมาปฏิบัติการในทัพเรือภาค 1-3 ตามแผนของ ทร.

การบอกจำนวนเรือ ชนิดเรือ ที่ปฏิบัติการอยู่ในทัพเรือภาค ในบอร์ดสาธารณะ อาจไม่เหมาะสมนะครับ

จำได้ว่า เคยมีแผนภาพหรือคนโพสการ ประจำการเรือค่อนข้างละเอียดเลยครับ

เเละยังไงก็สามารถย้ายได้ตลอดเวลาอยู่เเล้วครับ จะจอดกันทั้งที ซ่อนคงยากครับ

เรื่องการประจำเรือแบ่งเป็นภาค นั้น ทำไม่ได้น่ะครับ...แม้แต่ในหลาย ๆ ประเทศครับ...เขาจะหมุนเวียนเรือไปเรื่อย ๆ....ข้อมูลที่ปรากฎจะแสดงเพียงว่า กองเรืออะไร มีเรืออะไรประจำการเท่านั้นครับ...ซึ่ง การประกอบกองเรือ ก็จะหมุนเวียนกันไปครับ...ไม่ได้เฉพาะเจาะจง ครับ ว่าเรือลำนี้ ต้องประจำภาคใด ภาคหนึ่ง ครับ....

เรื่องความพร้อมรบของเรือ...คือ การที่เราได้เห็นเรือสามารถอวดธง หรือ ลงในสื่อต่าง ๆ ถ้าสังเกตุดี ๆ จะเห็นความพร้อมรบของเรือครับ...

การที่เราได้เห็น กองเรือฟริเกตที่ 2 ทำการฝึกทำการรบ ได้ครบทุกลำ เมื่อเร็ว ๆ นี้....ก็น่าจะแสดงถึงความพร้อมรบของเรือ ที่สามารถจะประกอบกองเรือในหลาย ๆ ชั้น ไปประจำทุกภาคเรือได้ครับ...

ส่วนทางฝั่ง อันดามัน ไม่ได้มีเฉพาะ กองทัพเรือพม่า ครับ...ฝั่งด้านนั้น จะประกอบทั้ง กองทัพเรืออินโดนีเซีย กองทัพเรือมาเลเซีย กองทัพเรืออินเดีย ที่น่านน้ำ ไทย จะติดกัน...ซึ่งการจัดกำลังทางเรือของ พม่า ก็เพื่อรองรับน่านน้ำที่ติดทั้ง อินโดนีเซีย อินเดีย และ ไทย รวมถึง บังคลาเทศ ที่มีปะทะกันประปราย....

การพัฒนาทางเรือของ พม่า เป็นเรื่องปกติ ครับ...ถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีน่านน้ำติดกับพม่า ไม่ได้มองเฉพาะ ไทย เท่านั้น ครับ...เช่นเดียวกับ ไทย ที่จะมีการพัฒนาปรับตัว ตามปรเะเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง อินโดฯ มาเลเซีย พม่า กัมพูชา สิงคโปร์ และ เวียดนาม ที่มีน่านน้ำติดกัน...เพื่อความสมดุลย์ ทั้ง 2 ฝ่าย...

    จากการที่ทร.แห้วเรือดำน้ำทั้งชุดนี้   เงินที่เตรียมไว้ก็น่าจะสามารถต่อเรือ OPV ใหม่ได้เพิ่มอีกสัก 3 ลำ   ก็ OK ถึงจะกร่อย    แต่ทร.บอกว่าต้องการชั้นนี้ 6 ลำนี่ครับ   

    ช้าเร็วเรือดำน้ำก็ต้องมีอยู่ดี   เพราะถ้าพม่าและเขมรเกิดจัดหาจริงๆ   เราก็ต้องซื้อแน่ๆ    

    ป๋าครับ   ดูจาก Chart ของป๋านี่   เรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศทั้งสองลำนี่จะเป็นโครงการทดแทนเรือชั้น Knox ไปซะงั้นหรือครับ   เพราะโครงการนี้แต่เดิมไม่ได้มีความมุ่งหมายทดแทนเรือชั้น Knox เลยนี่ครับ   เพราะภาระกิจไม่เฉียดกันเลย    และเรือชั้น Knox กว่าจะปลดก็อีกหลายปีดีดักอยู่    และการที่ทร.มาเลย์เพิ่มจำนวนเรือฟรีเกตขึ้นเป็น 10 ลำในช่วงปี 2018-2020  และการที่พม่าเพิ่มจำนวนเรือฟรีเกตขึ้นและในอนาคตมีแผนจะต่อเพิ่มขึ้นอีกเป็น 7-8 ลำ      นี่เราคงต้องมีจำนวนเรือฟรีเกตไม่น้อยไปกว่าพวกเขานะครับ   

   ในความคิดของผม  ผมว่าทร.คงจะมีโครงการต่างหากที่จะทดแทนเรือฟรีเกตชั้น Knox ทั้งสองลำในภาระกิจปราบเรือดำน้ำโดยเฉพาะ     เพราะเป็นภาระกิจคนละชนิดกันเลยในการคุ้มกันกองเรือ    คู่หนึ่งดูฟ้า  อีกคู่หนึ่งดูใต้น้ำ   6 ลำที่เหลือทำหน้าที่ยิงเรือผิวน้ำร่วมกับอากาศยานประจำจักกรี  

    เพราะเรือชั้นนเรศวรแม้จะปรับปรุงใหม่แล้ว   การป้องกันภัยทางอากาศก็แค่ป้องกันเฉพาะจุดเท่านั้น   ส่วนการต่อตีเรือดำน้ำก็มีขีดจำกัด   ไม่มีทั้งระบบ ASROC ระบบโซน่าร์ลากท้ายชั้นดีี   โซน่าร์ประจำเรือก็มีขีดความสามารถจำกัด    โดยรวมแล้วเรือชั้นนเรศวรเป็นได้แค่เรือฟรีเกตอเนกประสงค์เท่านั้น  

   ผมว่ายังไงทร.ก็คงต้องการแยกกัน  ป้องกันภัยทางอากาศหนึ่งคู่   ต่อต้านเรือดำน้ำหนึ่งคู่

ตามความต้องการของ ทร. ทั้งสิ้น 6 ลำ ครับ ซึ่งหมายถึงรวมกับเรือชั้น ปัตตานี จำนวน 2 ลำ ด้วยครับ...

ตามแผนจัดหา 9 ปี ในอดีต คือ จัดหาอีก จำนวน 4 ลำ ครับ...

สำหรับเรือชั้นพุทธฯ แต่เดิมจะปลดระวางในระยะอันใกล้นี้ครับ...แต่เนื่องจาก ทร. ยังติดปัญหาเรื่องจัดหาเรือดำน้ำ จึงต้องขยายระยะเวลาออกไปครับ....

ตามที่ผมเคยให้ความเห็นไว้ครับว่า...

เรือชั้นพุทธฯ นี้ ทร. จัดหามาเพื่อ ทดแทน เรือดำน้ำ ครับ...แต่เดิมจะจัดหา จำนวน 4 ลำ แต่ถูกวิกฤติเศรษฐกิจก่อนครับ...เรือจัดหามาได้เพียง 1 ลำ...และ ทร.สหรัฐ ช่วยเหลืออีก จำนวน 1 ลำ....

ดังนั้น ถ้า ทร. สามารถจัดหา เรือดำน้ำมาได้ตามแผน...เรือดำน้ำ จะมาทดแทน เรือชั้นพุทธฯ ครับ...และในความเห็นผม อาจจะมาทดแทน หมวดเรือที่ 2 ของ กองเรือฟริเกตที่ 1 ครับ...

ดังนั้น เรือฟริเกต สมรรถนะสูง จำนวน 2 ลำ จะรบได้ 3 มิติ เช่นเดียวกับเรือชั้น นเรศวร ครับ...

แต่ถ้าในกรณี ทร. ยังติดขัดในเรื่องของเรือดำน้ำ อยู่...และยังติดขัดในเรื่อง เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ด้วย...

ผมมองแนวโน้มของ ทร. คือ

1. การจัดหา เรือฟริเกตชั้น OHP FFG-7 Class มือสอง จาก สหรัฐ จำนวน 4 ลำ หรือ จาก ออสเตรเลีย (ถ้ามีโครงการจำหน่าย) โดยเน้นภาระกิจ ต่อต้านเรือดำน้ำ เพื่อทดแทนเรือชั้นพุทธฯ และทดแทน เรือดำน้ำ

2. การจัดหาเพิ่มเติม เรือชั้น กระบี่ จากโครงการเดิม จำนวน 4 ลำ อาจจะขยายเป็น 8 ลำ คือ เพิ่มเติมอีก จำนวน 4 ลำ เพื่อทดแทนเรือฟริเกตสมรรถนะสูง โดยพัฒนาไปสู การติดตั้ง ระบบ VLS ระบบโซนาร์ตรวจจับใต้น้ำ และอาจจะขยายแบบ ติดตั้งโรงเก็บ เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นระยะจัดหาของโครงการ ครบรวม 8 ลำ ก็จะประมาณปี 2568 ซึ่งจะใกล้เคียงกับ อายุของ เรือชั้นรัตนโกสินทร์ ที่จะมีอายุประมาณ 40 ปี น่าจะถึงเวลาปลดประจำการแล้ว...

ภาพกองเรือ กรณี ที่ไม่สามารถจัดหา เรือดำน้ำ ประจำการได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า.....

ซึ่งผมมองว่า การพลาดการาจัดหา เรือดำน้ำ ครั้งนี้ของ ทร. โอกาสครั้งต่อไปของ ทร. จะเป็นช่วงปี 1963...

แผ่นภาพในความเห็นผม...ถ้า กองทัพเรือ สามารถจัดหาเรือได้ตามแผนเดิม และเสร็จสิ้นภายในปี 2559

ตามแผ่นภาพข้างต้น หลังจากถ้า ทร. สามารถจัดหาได้ครบตามแผนในปี 2559 หลังจากปี 2564  อายุประจำการของ ร.ล.เจ้าพระยา และบางปะกง ก็จะมีประมาณ 30 ปี ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำ ไม่ได้มีการอัพเกรด และ Refit เรือแต่อย่างใด จึงจะปลดประจำการในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

ทร. น่าจะมีการขยายแบบเรือ ตกก. สำหรับติดตั้งโรงเก็บ ฮ. สำหรับภาระกิจ ปราบปรามโจรสลัด นอกอาณาเขต ที่ต้อง นำ ฮ. ไปพร้อมกับเรือ จึงน่าจะมีการสร้างเพิ่มอีก อย่างน้อย 2 ลำ

และ ร.ล.ปัตตานี และนราธิวาส น่าจะมีการอัพเกรด และติดตั้งระบบอาวุธเพิ่มเติม เพื่อทดแทน ร.ล.เจ้าพระยา และ บางปะกง โดยเรือชั้น ปัตตานี ซึ่งอยู่ในช่วงครึ่งอายุใช้งานพอดี คือ ประมาณ 15 ปี

จึงออกมาเป็นแผ่นภาพในความเห็นผม ครับ...

เห็นแผ่นภาพราชนาวีในอดีตเทียบกับโครงการในอนาคตของคุณJudlus  นึกถึงชื่อของเรือฟริเกตสมรรถนะสูง 2 ลำ ที่ทร.จะจัดหาว่าจะใช้ชื่อหลวงในอดีตเช่น  ร.ล.ศรีอยุธยา, ร.ล.ธนบุรี , ร.ล.ท่าจีน, ร.ล.ประแส หรือ ร.ล. พระร่วง หรือไม่  หรือจะเริ่มใช้ชื่อเรือหลวง ต่อจากเรือฟริเกตชุด ร.ล.พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ครับ เช่น ร.ล.พระนั่งเกล้า และร.ล.พระจอมเกล้า

ดูคุณลักษณะเรือแล้ว น่าจะจัดเป็น เรือ Destroyer ตามระเบียบของกองทัพเรือไทย ครับ

ซึ่งจะตั้งชื่อตาม บรรดาศักดิ์ หรือ ชื่อสกุล ของบุคคลที่เป็นวีรบุรุษของชาติ ครับ

ชื่อ เรือหลวง ก็น่าจะเป็นชื่อของบุคคลสำคัญของชาติครับ

ตามความเห็นของผมนะครับ

เรือฟริเกตสมรรถนะสูง  น่าจะตั้งชื่อ ตามบุคคลสำคัญ หรือ ชื่อสกุล

อาจจะใช้ชื่อ ร.ล.ปิ่นเกล้า (ลำที่ 2)  ร.ล.อาภากรณ์

ถ้า สมมติ จัดหาเรือ OHP FFG-7 Class มาจำนวน 4 ลำ

อาจจะใช้ชื่อ ร.ล.พระบรมไตรโลกนาถ  ร.ล.พระจอมเกล้า ร.ล.พระจุลจอมเกล้า ร.ล.พระมงกุฎเกล้า

หรือ อาจจะใช้ชื่อ ร.ล.ประแส (ลำที่ 3)  ร.ล.ท่าจีน (ลำที่ 2)  ร.ล.แม่กลอง (ลำที่ 2) ร.ล.ตรัง (แม่น้ำตรัง)

   ผมว่าในระยะ 5 ปีนี้เรือดำน้ำก็ยังคงไม่ได้เกิดแน่ๆครับ   พอเดาๆได้แล้วว่าใครเบรคโครงการเพราะเหลือไม่กี่คน   ดังนั้นแผนภาพที่มีเรือดำน้ำคงยังต้องรอไปก่อน  

   เมื่อเรือดำน้ำยังต้องรอไปก่อน   ถ้าเรือชั้น Knox ทั้งสองลำจัดหามาเพื่อรอเรือดำน้ำไปก่อน   ดังนั้นเมื่อไม่มีเรือดำน้ำผมจึงคิดว่า

1.  เห็นด้วยที่ว่าทร.ต้องอับเกรดเรือชั้นปัตตานีทั้งสองลำขึ้นมาทดแทนเรือชั้นเจ้าพระยาสองลำที่ไม่ได้อับเกรด   และต่อเรือ OPV แบบกระบี่เพิ่มอีก 2 ลำเพื่อทดแทนเรือชั้นปัตตานีที่ถูกโยกย้ายไป   กองเรือฟรีเกตที่2 ก็ยังคงมีเรือประจำการเท่าเดิมคือ 6 ลำ

2. ผมว่าทร. ไม่น่าจะปลื้มกับเรือเก่าชั้นเปอร์รี่นัก   เพราะค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการสูงมาก   เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ดีเซล (ไม่รู้ว่าพอปลดมาเป็น OHP แล้วมีการเปลี่ยนแปลงระบบเครื่องยนต์หรือเปล่า)  ดังนั้นมีแนวโน้มสูงที่ทร. อาจจะขยายแบบเรือชั้นกระบี่ให้ได้ราวๆ 3000 ตัน  แล้วทำการต่อ 4 ลำ มากกว่า     2 ลำเพื่อทดแทนเรือเก่าชั้น Knox อีก 2 ลำเพื่อทดแทนเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ   ถ้ามีการติดตั้งระบบอาวุธแตกต่างกันตามภาระกิจ   ราคาเรือน่าจะเฉลี่ยลำละ 8,000 ล้านบาท   4 ลำก็ประมาณ 32,000 ล้านบาท   ซึ่งเป็นราคาของโครงการเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศเดิม

    ราคาเรือขนาดนี้ถ้าต่อในประเทศอาจจะสามารถติดตั้งระบบอำนวยการรบแบบรวมการที่ด้อยกว่าระบบเอจีสได้   โดยสามารถยิง SM-2 หรือ Aster-30ได้  ประสิทธิภาพสูงพอที่จะป้องกันกองเรือจากการโจมตีทางอากาศได้ดีกว่า ESSM ที่ป้องกันเฉพาะจุด  

3. ถ้าเมื่อเรือชั้นสุโขทัยต้องปลดออกจากกองเรือฟรีเกตที่1  แผนแบบเรือที่ขยายแบบจาก OPV ชั้นกระบี่   ก็ยังน่าจะสามารถต่อเข้ามาเพื่อทดแทนได้   แบบนี้น่าปลื้มกว่าครับ 

   โอ้วววใ...... พิมพ์แทบตาย  เวลาส่งหายหมด

    มิน่าล่ะจากคลิปการต่อเรือชั้นกระบี่ของทร.  บอกว่าต้องการเรือชั้นนี้ 6 ลำ   แสดงว่าจะโยกย้ายเรือชั้นปัตตานี 2 ลำไปทดแทนเรือฟรีเกตชั้นเจ้าพระยา 2 ลำที่ไม่ได้ upgrade

    ถ้าปัตตานีต้องไปทดแทนเรือชั้นเจ้าพระยา   คงต้องปรับปรุงให้ได้ใกล้เคียงเรือฟรีเกตชั้นนเรศวรและเรือฟรีเกตชั้นลิเกียว 4 ลำ   ชั้น Gowind 6 ลำ    เพราะเรือเหล่านั้นสามารถยิง ESSM เพื่อป้องกันภัยทางอากาศเฉพาะจุดได้ดี    เป็นไปได้ว่าเรือชั้นปัตตานีต้องปลดปืน 76 มม. ออกไป   แล้วติดตั้ง VLS Mk-48/56 2 แท่น 24 ท่อยิงแทน   ถึงจะพอวัดกันได้    

    ส่วนเรือฟรีเกตที่ขยายแบบจากเรือชั้นกระบี่   อาจจะต้องมาทดแทนทั้งเรือชั้น Knox  ทดแทนเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ  และทดแทนเรือชั้นสุโขทัย    จำนวน 6 ลำ   แบบนี้เข้าท่าครับ   เพราะจะได้ลดแบบเรือลง  ลดระบบอาวุธและระบบตรวจจับลง   มีเรือขนาดใหญ่ 12 ลำ   รับมือกับมาเลย์ไหวครับ

   ขออภัยครับ   ต้องเปลี่ยนจากเรือชั้นสุโขทัยมาเป็นเรือชั้นรัตนโกสินทร์  

re คุณ neosiamses2 

ทำไมถึงควรจะเอาชั้นปัตตานีไปทดแทนเรือขั้นเจ้าพระยาที่ไม่ได้อัพเกรดครับ ทำไม ไม่อัพเกรดเจ้าชั้นพระยาไปให้หมด เพราะถ้าจะเอาปัตตานีไปทดแทนก็ต้องอัพเกรดกันยกระบบเลย

อายุอานามก็ไม่ต่างกันมากมาย  หรือเป็นเพราะชนปัตตานีมีโรงเก็บฮ.? ก็มีเหตุผลอยู่ แต่ผมว่าจากไซส์เรือ ยัด sam เข้าไปได้เต็มที่ก็16 ลูก 

แล้วการถอดปืนเรือหลักผมว่าก็ไม่ควร เรือรบอย่างงน้อยก็ควรจะมีปืนใหญ่ไว้ ใช้ยิงสนับสนุนจิปาถะ(ฮา)

ส่วนตัวคิดว่าแนวทางของทร.จะเป็นแบบนี้ครับ ( ในเมื่อไม่มีท่าทางจะได้รับการอนุมัติเรื่องเรือดำน้ำ )

1. ทร. จะจัดหาเรือฟรีเกตสมรรถนะสูง 4 ลำ จากต่างประเทศ เป็นไปได้สูงว่าจะจัดหาจากเกาหลีใต้ หรือสปจ. ครับ ( ตามโครงการเดิม 2 ลำ + อีก 2 ลำ เพื่อทดแทนเรือฟริเกตชุดพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก )

2. ปรับปรุงเรือโอพีวี ชุดปัตตานี ตามแผนเพิ่มขีดความสามารถเดิม งบประมาณน่าจะได้รับอนุมัติไปแล้วครับ ( คาดว่ายังจะประจำการในกองเรือตรวจอ่าวเหมือนเดิมครับ )

3. อาจมีการแก้ไขแบบเรือโอพีวี ชุดกระบี่ ในลำต่อๆไป ให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น

4. ร.ล.เจ้าพระยาและร.ล.บางประกง น่าจะยังไม่ปลดประจำการเร็ววันนี้นะครับ อย่างน้อยน่าจะอีก 10-15 ปี ( กองอาวุธปล่อยนำวิถี กรมสรรพวุธทหารเรือ มีการวิจัยทดลองและพัฒนาเรื่องดินขับและส่วนประกอบต่างๆของอวป.C-801  ซึ่งทร.น่าจะใช้ C-801 คู่กับเรือชุดนี้จนกว่าจะปลดประจำการครับ )

5. ส่วนร.ล.ตากสิน ร.ล.นเรศวร ร.ล.กระบุรี และร.ล.สายบุรี คงปรับปรุงตามแผนเดินครับ

6. ต่อเรือ LPD ลำที่ 2

7. จัดหา ฮ.Lynx เพิ่ม 2 ลำตามดครงการ รวมถึงปรับปรุงขีดความสามารถฮ.Lynx 2 ลำแรกตามแผน

...........................

ส่วนเรือชุดรัตนโกสินทร์ คงไม่ปลดในเร็ววันนี้ครับ เชื่อว่าอีกอย่างน้อย 15-20 ปี เป็นอย่างน้อย ลงจะปลดหลังเรือชุดพุทธยอดฟ้าฯ ชุดตาปี มากกว่าครับ ตอนนี้มาลุ้นดีกว่าครับว่า ทร.จะจัดหา อวป.Aspida 2000 มาใช้แทน Aspida เดิมหรือไม่ครับ

 สำหรับเรือเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ผมเชื่อว่าทร.จะจัดหา 4 ลำแน่นนอนครับ ( ถ้าได้รับอนุมัติ ) เพราะจากการที่ท่านผบ.ทร.ท่านปัจจุบันกล่าวเมื่อ 2 -3 วันก่อน ท่านว่า

" เรือโอพีวีเราต้องการ 9 ลำแต่ตอนนี้เรามี 6 ลำ เรือฟรีเกตสมรรถนะสูงเรามีความต้องการ 4 ลำ แต่เรามี 2 ลำซึ่งเป็นเรือที่เก่าแล้วสมควรจัดผามาทดแทน"

  ที่มา: http://www.dailynews.co.th/politics/20345

 ในความหมายของท่าน ไม่แน่ใจว่า 2 ลำที่มี หมายถึงเรือชุดพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกหรือไม่ ถ้าใช่ ก็มีแนวโน้มว่าทร.ต้องการจัดหา เรือฟริเกตสมรรถนะสูง 4 ลำครับ

   ท่าน toeytei ครับผมเอามาจากแผนภาพของป๋าเขาน่ะครับ   จะเห็นว่าในแผนภาพของป๋าเขาไม่มีเรือหลวงเจ้าพระสองลำอยู่   แต่มีเรือชั้นปัตตานีวางไว้แทน   เรือชั้นปัตตานีก็ถูกแผนแบบให้เป็นเรือฟรีเกตได้เมื่อจำเป็นครับ   และเรือก็เพิ่งต่อมาไม่กี่ปีเอง    แต่ที่ผมเสนอว่าถ้าจะต้องปลดเรือชั้นเจ้าพระยาสองลำออกแล้วเอาเรือชั้นปัตตานีเข้าไปแทนที่นั้น   ก็ต้องคำนึงถึงเพื่อนบ้านด้วยว่ากองเรือของเขาเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน   ต้องยอมรับว่าถ้ามาเลย์เดินตามแผนงานที่วางไว้ได้ทั้งหมด    เรือฟรีเกตทั้ง 10 ลำของเขาจะสามารถยิง ESSM ได้ทุกลำ     ถ้าจะเอาปัตตานีมาทดแทนเรือชั้นเจ้าพระยา   ก็ควรอย่างยิ่งที่ต้องปรับปรุงเเรือชั้นปัตตานียกแผงเลย   ไม่งั้นก็ต้องต่อเรือใหม่  

   ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับท่าน  chelsea  อืมมม ผบทร. บอกว่าเรามีเรือ OPV แล้ว 6 ต้องการอีก 3 เป็รการยืนยันไปในตัวว่าต้องต่อเรือชั้นกระบี่อีก 3 ลำ   ส่วนเรือชั้นปัตตานีคงต้องประจำการในกองเรือตรวจอ่าวในฐานะเรือ OPV ต่อไป   ป๋าจูลคงต้องแก้แผนภาพแล้วล่ะครับ  

 ผบ.ทร. ย้ำอีกว่าเราต้องการเรือฟรีเกตใหม่ 4 ลำ   เรามีแล้ว 2 แต่เก่าแล้วต้องหามาทดแทน   ผมไม่แน่ใจว่าเรือฟรีเกตเก่า 2 ลำประสิทธิภาพสูงที่ว่านั้นเป็นเรือชั้นนเรศวรหรือเรือชั้น Knox กันแน่    แต่พูดแบบนี้แสดงว่าถ้าเรือดำน้ำฉันจะไม่ได้    ฉันต้องขอเรือฟรีเกตใหม่ 4 ลำแทนละกัน     เรือ  Knox ทั้งสองลำคงต้องไปแล้วล่ะ   และต้องมีเรือใหม่มาเพิ่มอีก 2 ลำเป็น 4        ลุ้นกันครับ ...... แต่อยากให้ต่อเองในประเทศทั้ง 4 ลำ   จะซื้อแบบเขามาก็ได้ครับ

   ป๋าจูลคงต้องแก้แผนภาพใหม่ซะแล้ว

ตามแผ่นภาพที่อธิบาย ที่ผมมองในความเห็นที่ว่า เรือชั้น ปัตตานี น่าจะมาทดแทน เรือชั้น เจ้าพระยา จำนวน 2 ลำ ขออธิบายตามแผ่นภาพ ตามนี้ครับ

ขอบคุณมากๆอ่านแล้วเข้าใจง่ายดีครับ