เรื่องมีอยู่ว่า เมือ 2-3 วันดูข่าว กัมพูชา เพิ่มจะเพิ่มมูลค่าการสงออกับจีน
เป็นไปได้ที่จีนจะขาย เครื่องบินรบให้ กัมพูชา
ผมคิดว่า อนาคต(ในความคิดผมคิดว่าในไม่เกิน10-15ปี) กัมพูชา น่าจะมีเครื่้องบินรบ ของจีน อย่าง J10 J15 ประจำการเป็นแน่แท้
ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นตามแนวชายแดน อีก เกิดกัมพูชา มี J15 F-5T เรา จะ ทำหน้าที่ Interceptor ไหวหรอครับ เอาแค่ J10 นี้ก็ขนลุกแล้ว
เพิ่มมูลค่าการส่งออก..หรือนำเข้า
เขมร ส่งอะไรออกใด้บ้าง...? หลักๆมาจากการท่องเที่ยว
ส่วนจีนมีสินค้ามากมายที่เขมรต้องการ เพื่อการพัฒนาประชากรและประเทศ
งปประมาณทางทหารแต่ละปีเท่าไหร่และจะเพิ่มใด้เท่าไหร่...?
ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง/บำรุงรักษา/ บ.รบแต่ละลำ เท่าไหร่ ถ้าใด้จะซื้อใด้กี่ลำ ...?
แล้วทัพอากาศเรามีน้อยหรืออย่างไร...?
ดูจากงบประมาณกลาโหมของกัมพูชาซึ่งมีแค่ประมาณ 300 ล้าน USD ต่อปี เข้าใจว่าการซื้อ J-15 คงเป็นไปไม่ได้เลยครับ
ผมมองว่าโอกาสเป็นไปได้ที่สุดก็คงเป็น J-10 กับ FC-1(แต่ก็ยังยากอยู่) พร้อมกับจรวด BVR ซึ่งถ้า F-5T ปรับปรุงใหม่ให้ติด BVR ได้ก็เชื่อว่าสู้ได้สบาย ๆ ครับ อีกทั้งมีเครื่องบินมีจรวดดี ๆ แต่ไม่มีการฝึกที่ดีก็ยากที่จะชนะในสงครามจริง ๆ นะครับ อีกทั้งระบบการฝึกของ ทอ. ไทยดีอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคนี้นะครับ
กัมพูชาคงเน้นจรวดต่อสู้อากาศมากกว่าครับ
เรื่องเครื่องบินรบคงนานหน่อย
เหมือนเวียดนามไงครับจรวดมีเยอะ
เครื่องบินพึ่งทยอยซื้อช่วงหลังเพื่อแทนของเดิมที่เก่า
ไม่ได้ดูถูกนะครับต่อให้เขาซื้อต้องซื้อกี่ลำใช้เวลาฝึกกี่ปี
สนามบินมีกี่สนามโรงเก็บโรงซ่อม+ช่างอีกไม่ต่ำกว่า20ปีจะทันไทย
ซึ่งตอนนั้นไทยคงมีF-35และนักบินขับไล่คงบินกันเหนืองยาน ฮ่าๆๆ
ตามความเห็นของผมนะครับ การเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันมากกว่าและสินค้าที่กัมพูชาส่งออกก็คงหนีไม่พ้นสินค้าทางการเกษตรเช่นข้าว แต่พวกผลไม้คงสู้จีนได้ และน่าจะเป็นทางกัมพูชามากกว่าที่จะนำเข้าจากจีนมากกว่าครับ เช่นสินค้าอิเลคทรอนิคเป็นต้น(ไม่ใช่ต้นมะขามนะครับอิอิ)
ส่วนเรื่องการจัดหาเครื่องบินรบของ ทอ.กัมพูชา นั้นตอนนี้ยังไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ใน 2-3 ปีนี้แน่นอนครับ เพราะเขามั่นใจในระบบป้องกันภัยทางอากาศของเขา 55+ พูดเล่นนะครับ เพราะเขายังขาดงบประมาณอีกมาก(แต่ไม่แน่ถ้ามันโกงเราได้บ่อน้ำมันไป)หรือถ้าเป็นไปได้ก็น่าจะเป็นเครื่องจากจีนมีเปอร์เซ็นต์สูง เช่น FC-1 J-10 หรืออาจจะเป็นเครื่องประเภท ฝึก/โจมตีเบา อย่าง L-15 หรือ K-8
หรือถึงแม้กัมพูชานำเครื่องบินรบมาประจำการ แต่ก็ไม่ได้หมายความเขาจะมีความพร้อมรบในเวลาอันสั้นแน่นอนครับ
ถึงวันนั้นกองทัพไทยคงมีDTIที่นำวิถีเเละขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ทระยะยิงเกิน 180 km.เเล้วเเน่นอน ยิงถล่มสนามบินซะเลย..ดูซิว่า J-10หรือ J-15 จะไปลงที่ไหนเพราะมันไม่มีความสามารถเหมือน Jas-39 ของเราที่ลงบนถนนหลวงได้.
เราคงสามารถครองอากาศเหนือน่านฟ้าเขมรได้เบ็ดเสร็จ เพราะเขมีมีแค่จรวดต่อสู้อากาศยานระดับต่ำเท่านั้นซึ่งระยะยิงในความสูงไม่น่าเกินกว่า 3 กิโลเมตรแต่ในขณะที่ F-16 บินได้สูงถึง 15 กิโลเมตรสามารถทิ้งระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ทุกจุดยุทธศาสตร์ได้ราบคาบ
แล้วกองทัพเขมรมีศักยภาพแค่ไหนในการทำสงครามอิเล็กโทรนิคส์ รวมถึงมาตรการต่อต้านการรบกวนทางอิเล็กโทรนิคส์ ถ้าเป็นแบบนี้ระบบตรวจจับทางอากาศของเขมรจะเป็นอัมพาตทั้งหมดหาก f-16 บินเข้าไปพร้อมด้วย jamming pod
เขมรคงไม่มีโอกาสที่จะยิงจรวดได้ซักนัดกว่าจะรู้ตัวว่าถูกรุกล้ำน่านฟ้าระเบิดคงลงหัวไปเรียบร้อย
ดูจากงบประมาณกลาโหมของกัมพูชาตอนนี้คงลำบากแต่ภายในอนาคตอันใกล้ไม่แน่นะ เพราะมีการเพิ่มงบกลาโหมตลอด คาดว่าขั้นต้นคงจะเป็นเครื่องบินฝึกขับไล่/โจมตีเบา K-8 ตามด้วย F-7 เป็นอย่างน้อยหรูหน่อยก็ FC-1 อย่างละ 1 ฝูงเป็นอย่างต่ำ (อย่าลืมว่าพี่จีนชอบให้และขายในราคามิตรภาพนะครับ)ส่วนความพร้อมรบถ้าพี่จีนช่วยก็ไม่แน่
เชื่อว่ากัมพูชาอาจจะขอบริจากเครื่องมือ 2 จากจีน ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็น K-8 และเครื่อง F-7 ส่วนที่จะทันสมัยกว่านี้คงยากครับ
ทักษะของนักบิน น่าจะสำคัญพอๆกับเครื่องบินนะครับ
ไทยเรา เครื่องบินก็ดีพอสมควร+นักบิน ประสบการณ์และการฝึกที่สูง ผมว่า เขมร ตามยากครับ
ถ้าเขมรไม่ฟลุ๊คเรื่องน้ำมันนอกเหนือจากข้อพิพาท ผมว่าคงอีกไม่ต่ำกว่า 20 ปีครับ เพราะทั้งด้านกำลังพลและอุปกรณ์ คงต้องเริ่มตั้งแต่ 1 ใหม่หมด
ถ้าจีนจะให้เครื่องบินจริง อย่างมากก็คงต้องเป็นมือ 2 แต่จีนก็อย่าลืมว่าเราก็ยังมีปัญหากับเขมรอยู่ จะบริจาคหรือให้อะไรเขมร ก็ควรคิดให้หนักๆ
สำหรับผมแล้วคิดว่า จีนเห็นคุณค่าของประเทศเราพอๆกับเขมรครับ แต่คนละด้านกันเท่านั้น
สำหรับไทย จีนหน้าจะมองเราไปในทางความมั่นคงและเศรฐกิจเป็นหลัก
ซึ่งในด้านความมั่นคง คงจะไม่พ้นเป็นไม้กันสหรัฐให้กับจีนเป็นแน่แท้ ซึ่งจีนจะค่อยแบ่งปันเทคโนโลยีให้กับเรา ช่วยพัฒนาเกี่ยวกับระบบอาวุธต่าง (มีอะไรบ้างตอนนี้คงยังบอกไม่ได้) เพื่อที่จะทำให้ไทยได้เห็นความจริงใจของจีนที่จะทำให้ไทยเหลียวมามอกจีนว่า "เออเรายังมีจีนที่ยังค่อนช่วยเราอยู่นะ เราไม่ได้มีแค่ สหรัฐ หรือ กลุ่มนาโต้อย่างเดียวที่เป็นมิตร" อีกอยากคือข้อดีที่เราไม่ซื้ออาวุธแค่ของสหรัฐเพียงอย่างเดียวก็เพื่อที่จะไม่เป็นการผูกขาดกับสหรัฐมากเกินไป เดี๋ยวเค้าจะเห็นเราเป็นของตายซ่ะเปล่าๆ
ในด้านเศรษฐกิจ คงหนี้ไม่พ้นระบบ Logistic ที่ไทยสามารถกระจายสินค้าของจีนออกไปได้ทั้ง อันดามัน อ่าวไทย และ Southeast Asia ตอนใต้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับเขมร จีนจะเน้นไปที่เศรษฐกิจซ่ะเป็นส่วนใหญ่
ในด้านความมั่นคง จากลักษณะที่ตั้งของเขมร จีนคงไม่ได้มองเขมรเป็นไม้กันสหรัฐเท่าไร ด้างกองทัพ จีนบริจาคอย่างมากก็แค่เสื้อผ้า ยานพาหนะต่างๆ แต่ถ้าจีนจะบริจาคเครื่องบิน ผมว่าเรื่องใหญ่เลยและ แต่ผมว่าจีนไม่ให้ฟรีๆหรอก
ในด้านการลงทุน จีนจะมองไปที่การลงทุนและช่วยเหลือบริจาคสิ่งของต่างๆ ร่วมทั้งยังอาจจะหวังที่จะมีส่วนแบ่งจากการขุดเจาะน้ำมันให้กับเขมรในอนาคตอีกด้วยครับ
ความคิดผมก็ประมาณนี้ครับ ท่านใดมีทัศนคติอื่นที่แตกต่าง มาแชร์ด้วยกันนะครับ อยากรู้การมีอิทธิพลของจีนที่ส่งผลถึงประเทศเราอ่ะครับ ในทุกด้านอ่ะครับ
ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม???
ผมไม่กลัวที่จีน จะเพิ่มความสัมพันธ์กับเขมร ผมกลับชอบซะอีก
เพราะ จีนยิ่งมีอิทธิพลมากต่อเขมร แน่นอนบทบาทของเวียดนาม
ในเขมร ก็คงจะลดน้อยถอยลงด้วย ถ้าเรามีปัญหาอะไรกับเขมร
จะได้ช่วยกระแอม หน่อย ว่าอย่ามากๆ ฮาๆๆๆ
ผมคิดว่ายังไงซะ จีนก็ดีต่อไทย
การที่พยายามจะเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคนี้มากๆเพื่อคานอำนาจกับไอ้กันนั้น มันก็มีทั้งดีและไม่ดีล่ะครับ ที่ดีคือกวามร่วมือทางด้านการทหาร การพัฒนาทางด้านระบบการขนส่งซึ่งจีนได้วางแผนเชื่อมต่อระบบขนส่งผ่านถูมิภาคนี้ออกสู่ทะเล แต่ที่ไม่ดีคือถ้าประเทศในภูมิภาคนี้ยังรวมตัวกันแบบหลวมๆอยู่สินค้าจากจีนจะตีตลาดในภูมิภาคนี้แตกกระจายแน่นอน หรืออิทธิพลทางด้านการทหารของจีนอาจจะครอบงำภูมิภาคนี้ก็ได้บางครั้งผลประโยชน์อาจจะมีการเปลี่ยนแปรง หรือเปลี่ยนขั้วก็ได้ถ้าไอ้กันมันยังทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้อยู่อย่างนี้ ถึงแม้เราจะบอกว่าเราจะเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 ก็ตาม ข้อตกลงต่างเราพร้อมแค่ไหนที่จะไม่มีปัญหาในการดำเนินการ จีนจะอาศัยความได้เปรียบตรงที่ อ้างได้ว่าเราคือคนเอเชียด้วยกันแล้วใยเราต้องไปให้ความสำคัญกับคนที่มาจากภูมิภาคอื่นมากกว่าภูมิภาคตนเอง ก็เป็นได้
ส่วนเรื่องการพํฒนาการทางด้านกองทัพของประเทศในภูมิภาคนี้ยังมีการเสริมสร้างกองทัพกันอย่างเต็มที่ แสดงว่าการหวาดระแวงซึ่งกันและกันยังมีอยู่
เพิ่มมูลค่าทางการค้าหมายรวมถึงทั้งการนำเข้าและส่งออก
ประเด็นคือใดๆ ก็ตามที่ทำให้เขมรมีเงินไปซื้อเครื่องบิน
ฉะนั้น อย่าไปดูว่านำเข้าส่งออกมากแค่ไหน อันนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงรายได้ของเขมรซะทีเดียว
นำเข้าน้ำมันเพราะไม่มีโรงกลั่นเอง ขนาดเศรษฐกิจโตมากแค่ไหน ก็ขาดดุลจากการนำเข้าพลังงานมากเท่านั้น
สินค้าส่งออกของเขมรจากนี้ไปจะเป็นยางพารากับมันสัมปะหลังที่จีน สิงค์โปร์ มาเลเซีย ไปลงทุนไว้มหาศาล
อันนี้ไม่แน่ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะได้รายได้จากภาษีอากรมากแค่ไหน
ผมมองว่า ถ้าเขมรจะมีเงินซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่เข้ามาพื้นฟูกองทัพอาการของตน เงินน่าจะมาจากสองแหล่ง
คือหนึ่ง เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากจีน แลกกับสารพัดที่จีนต้องการ สองจากสัปทานปิโตรเลี่ยมในอ่าวไทย และยิ่งถ้า
ตกลงกับไทยได้ในแหล่งพื้นที่ทับซ้อน คนเขมรรวยอื้อซ่าแน่ ( หมายถึงคนเขมรที่ชื่อฮุนเซนนน...นะครับ)
เครื่องบิยมือสองจากจีนไม่น่าจะนะครับ เนื่องด้วยสภาพเครื่องใช้แล้วของจีนไม่น่าจะแจ่มแบบเครื่องของ
ฝรั่งตะวันตกที่เอามาปรับปรุงเอามาม๊อดสักหน่อยก็ใช้งานต่อได้แล้ว ถ้าจะซื่อก็น่าจะเป็นเครื่องใหม่อย่าง
เค-แปด เอาไว้ฝึก กับ เอฟซี-หนึ่ง นั้นแหละครับ เหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะจีนก็ต้องคอยถ่วงดุลทางทหาร
ในบริเวณนี้ไม่ให้กระทบกับไทยมากเกินไป อีกทั้งถ้าให้เดาใจฮุนเซน ผมฟันธงว่าเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
ดีกว่าเอามาละลายกับอาวุธราคาแพง แค่พอมีไว้ขู่บ๊อกๆ และประชาสัมพันธ์หลอกคนของตัวเองก็พอแล้วครับ...
ล่าสุดในที่ประอาเซียนกัมพูชาถูกฟิลิปปินส์ตั้งคำถามในจุดยืนเพราะกัมพูชาพยายามผลักดันให้จีนเข้ามาร่วม ในการแก้ปัณหาเกี่ยวกับหมู่เกาสแปรดลีย์ ในกลุ่มอาเซียน
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000042692
ตามนิสัยเค้าละครับฆ่าน้อง ฟ้องขาย ขายเพื่อน
ไม่เห็นน่าห่วงเลยครับเขมรน่ะไม่มีอะไรมาสู้เราหรอกที่น่าห่วงก็ผู้ไม่ประสงค์ออกนามมากกว่าทางใต้เรานู่นนานๆไปถ้าการเมืองเราเป็นอย่างนี้ประเทศเราอ่อนแอลงไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ได้เห็นทาสแท้กันแน่ๆตอนนี้ถ้าพูดตามตรงอาวุธยุทธโธปกรณ์เราสู้เค้าไม่ได้เลยแล้วอีกอย่างถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างตีมอร์เราก็จะต้องเผชิญสงครามกองโจรผมว่าวันนั้นมีน้ำตาร่วงกันแน่ถ้าบ้านเมืองเรายังเป็นอย่างนี้นะน่าห่วงจริงๆ
สำหรับเครื่องบินในอนาคตของ กัมพูชา ส่วนตัวก็เชื่อว่าคงมาจากจีนครับ ส่วนจำนำเงินจากไหนซื้อได้อย่างไร อันนั้นเชื่อว่านอกจากสินค้าแล้วก็จากการช่วยเหลือเรื่องเงินกู้จากจีนนั่นแหละครับ ส่วนเครื่องบินที่ กัมพูชา อาจจะจัดหาไม่น่าจะเป็น F-7 แต่น่าจะเป็น FC-1 มากที่สุด