หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


จากเหตุระเบิดภาคใต้ ขอถามว่าประเทศไทยควรมีระบบการระบุยานพาหนะใหม่หรือไม่ ถ้ามีเราจะช่วยผลักดันอย่างไรได้บ้าง

โดยคุณ : nok43 เมื่อวันที่ : 04/04/2012 21:49:00

คือสงสัยครับว่ารถยนต์ที่โดนขโมยไปตั้งแต่ปี 2554 ไม่สามารถตรวจเจอได้เลยหรือ ผมเชื่อว่าการจะผ่านเข้าตัวเหมืองหาดใหญ่ได้ต้องผ่านด่านอย่างน้อย ด่านสองด่านแต่เจ้าหน้าที่กลับไม่สามารถระบุได้ ซึ่งน่าจะมาจากการเปลี่ยนรูปประพันธ์ หรือไม่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามาถจำได้ว่ารถคันนี้โดนขโมย ซึ่งระบบป้ายทะเบียนนั้นเปลี่ยนแปลงง่ายถอดง่าย ปลอมแปลงง่าย ตำรวจมีทะเบียบบ้ายแต่ต้องกรอกข้อมูลก่อน ซึ่งเป็นการเสียเวลา ดังนั้นผมว่าควรมีระบบใหม่ที่ปลอมแปลงยากขึ้น พวก QR Code หรือ RFID เพื่อช่วยระบุตัวตน โดยติดเป็นส่วนหนึ่งของรถไปเลย เวลาขับผ่านด่านก็แค่สแกน หรือตรวจตัวส่งสัญญาณก็ระบุได้แล้ว อาจไม่ต้องระบุว่าของใครถ้าป้องกันความเป็นส่วนตัวแต่ถ้า โดนแจ้งขโมยหรือสูญหายสัญญาณก็ดังได้เลย อย่างนี้น่าจะช่วยเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นนะครับ ท่านอื่นๆมีความเห็นยังไงบ้างครับ





ความคิดเห็นที่ 1


QR Code / RFID  มันก็ปลอมได้เหมือนเดิมครับ  ไม่ต่าง 

โดยคุณ hs3mmq เมื่อวันที่ 02/04/2012 13:44:39


ความคิดเห็นที่ 2


มีทางแก้ไขระบบการตรวจสอบและป้องกันได้ครับ  โดยการบันทึกภาพนิ่งด้วยกล้อง 3 ตัว ครับ

ตัวที่ 1 บันทึกใบหน้าคนขับรถ    ติดตั้งในมุมที่เห็นหน้าคนขับ (โดยอาจต้องเปิดกระจกลงทุกครั้ง

มุมนี้ห้างในกรุงเทพบางแห่งก็เคยมี  แต่เค้าได้ยกเลิกไปหมดแล้วครับ)

ตัวที่ 2 บันทึกเลขทะเบียนหน้ารถ  (มุมนี้ด่านบางแห่งในต่างจังหวัดก็มีอยู่แล้วครับ แต่เน้นถ่ายเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบรวมๆ)

และตัวที่ 3 บันทึกภาพรถทั้งคัน  (มุมนี้ห้างในกรุงเทพก็เคยมีอยู่แล้วครับ  ยกเลิกไปหมดแล้วเหมือนกัน)

แล้วเซฟลงไฟร์ดรถที่ผ่านด่านทุกคันครับ  รวมทั้งด่านเข้าออกห้างทุกแห่งครับ  ควรทำมานานแล้วครับ

โดยเซฟคู่กันทั้ง 3 รูปเป็นภาพเดียวเลย  รถคันไหนก่อเหตุ ก็จะได้เห็นหน้าคนขับด้วย ครับ

ไม่ได้เสียทรัพยากรอะไรมาก  และควรเก็บภาพที่บันทึกไว้ตลอดไปครับ ต้นทุนก็ต่ำ

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 02/04/2012 18:10:39


ความคิดเห็นที่ 3


การเซฟไฟร์ดที่เป็นภาพเคลื่อนไหว  เก็บไว้ 60 วัน  แล้วลบทิ้งแบบเดิมนั้น ทำให้มีข้อจำกัดในการค้นหาข้อมูลค่อนข้างมาก

เรื่องการตรวจสอบเอกสารประจำตัวรถ  ถ้าไม่เป็นระบบ Online ก็ไม่มีประโยชน์ อะไร  ปลอมได้ง่าย

ทั้งทะเบียนรถ และหนังสือคู่มือรถ  เสียเวลาในการตรวจสอบนาน แล้วก็ไม่รู้ว่าของจริงหรือเปล่าอีกด้วย

เอกสารส่วนใหญ่ใช้สำเนาให้ตรวจกันทั้งนั้น  อีกอย่างคนขับบางส่วนก็ไม่ใช่เจ้าของรถ เพราะเป็นรถของผู้ประกอบการค้า

ซึ่งคู่มือรถตัวจริงจะเก็บไว้ที่ บริษัท 

ที่สำคัญรถที่แจ้งหายนั้นนะ...หายจริงหรือเปล่า  หรือเจตนาหาย...

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 02/04/2012 18:28:32


ความคิดเห็นที่ 4


QR Code / RFID ผมงงมันจะปลอมยังไง รหัส code มันได้ชุดเดียว และต้องลงบันทึกลงระบบ ถ้ามีการใช้ code ซ้ำกันมันจะ ERRO ผมขอเสนอให้ออกเป็นกฎหมายและระเบียบบังคับ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นบ้างแต่ความปลอดภัยต้องงมาก่อยิ่งในยุคก่อการร้าย(นักรบขี้ยา)ด้วยแล้ว

 

 

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 02/04/2012 18:36:19


ความคิดเห็นที่ 5


RFID  เห็นด้วยครับ...ค่อยๆพัฒนา ค่อยๆเพิ่มจุด ค่อยๆเพิ่มฐานข้อมูลเดี๋ยวก็ดีเอง

(รถและมอเตอร์ไซค์ผมทำ RFID ปีที่แล้ว...แต่ก็ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเอง)

ค่าใช้จ่าย ยกภาระให้ประชาชนรับผิดชอบหรือรัฐจะรัฐผิดชอบ

ที่สำคัญ.....อยู่ที่ จนท. ครับ หากเจอที่ไม่ติด rfid จะมีดำเนินการหรือไม่

เฉกเช่นรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่ต่อภาษี แล้วรับเงินค่าปรับทั้งบนดินหรือ....ก็แค่นั้น 

โดยคุณ jaidee เมื่อวันที่ 02/04/2012 19:09:53


ความคิดเห็นที่ 6


ระบบออนไลน์น่าสนใจนะครับ อย่างตำรวจอังกฤษ (ถ้าจำไม่ผิด) จะมีเครื่องแฮนด์เฮลด์สำหรับค้นฐานข้อมูลเพือเช็คเวลาเจอรถต้องสงสัยหรือจับคนกระทำผิดได้ เพื่อเทียบประวัติ 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 03/04/2012 08:14:54


ความคิดเห็นที่ 7


ไม่ยาก คับ ง่ายกว่าปลอมบัตรเครดิตซะอีก 

ตามหลักมันต้องมีเครื่องอ่าน  ถูกไหมคับ ดังนั้น มันก็ต้องมีเครื่องเขียน 

แล้ว จะเขียนอะไรเข้าไป หรือเอา ค่าของรถที่ไม่ได้แจ้งหายมาใส่ งี้เรียบร้อยเลย เช่น ผมเอาเครื่องอ่านไปอ่านรถของใครๆที่รุ่นเดียวกันสีเดียวกัน ซึ่งจอดตามที่ต่าง ๆ แล้วเอาค่าที่อ่านได้ มาใส่เครื่องเขียน นำ rf มาแปะ + ทำป้ายปลอม ก็จบ  

 เทคโนโลยีมันปลอมแปลงกันง่ายครับ   ขนาดบัตรประชาชน บัตรเครดิตยังปลอมได้   

 

ในทางกลับกัน  รัฐลงทุนมากมายกับเครื่องตรวจ เครื่องสแกน อบรมบุคลากร สารพัด ถ้าเจอการปลอมแปลงเข้าไป ผลที่ได้คือจะเสียเปล่า 

 

สแกนม่านตาไปเลยดีไหม ??? ผ่านด่าน ลดกระจก ลงมาส่องกันหน่อย แบบนี้ปลอมยาก แต่ก็ยังปลอมได้ 

สแกนลายนิ้วมือ ดีไหม   ???  ผ่านด่าน ลดกระจก แปะนิ้วสักหน่อย แบบนี้ปลอมยาก แต่ก็ยังปลอมได้ 

ถ่ายรูป เปรียบเทียบโดยใช้ software เขาก็ไปศัลกรรม    ก็ยังปลอมได้   ประเทศที่เคร่งกับการตรวจก็จะใช้ software ในการเปรียบเทียบที่มีคุณภาพ 

 

ท้ายนี้  ผมว่า เอาทุกข้อที่กล่าวมา รวมกัน เพื่อตรวจสอบจะดีที่สุด เพราะทำแค่ทางเดียว คงไม่พอ 

โดยคุณ hs3mmq เมื่อวันที่ 03/04/2012 10:32:16


ความคิดเห็นที่ 8


จรยุทธ์ครับ คลาสสิกดี ตั้งด่านตรวจค้นไปเรื่อยๆ อิงกฏหมายก็ใช้ ตร. อิง.พรก.ก็ใช้ทหาร เน้นเฉพาะรถที่มีพฤติกรรมนต้องสงสัยว่ามีวัตถุระเบิดหรืออาวุธที่เจ้าพนักงานออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ครับ เราอย่าไปพึ่งพาเทคโนโลยีให้มากไปครับ ผู้ก่อการยังใช้วิธิการเดิมๆ เสมอ คือ ใช้ยานพาหนะขนวัตถุระเบิดมาจอดทิ้งไว้ ยังไม่เคยเห็นผู้ก่อการคนไหน ระเบิดพลีชีพตนเอง(นอกจากพลาดท่าเอง) หรือออกมาประกาศว่าข้านี่แหล่ะเป็นคนทำ และ ในเขตย่านเศรษฐกิจยังไม่เคยมีการฝังระเบิดหรือวางระเบิดโดยวิธีการอื่นๆ ครับ(รึว่ามีหว่า...?)

โดยคุณ Xmode เมื่อวันที่ 03/04/2012 12:07:14


ความคิดเห็นที่ 9


แต่ผมว่า RFIDมันก็ไม่น่าปลอมง่ายนะครับ เพราะบางหน่วยงานก็ใช้เป็นเอกสารสำคัญเหมือนกันเช่นระบบ E Passport หรือทะเบียนคนไข้ แบบถูกอาจปลอมง่ายแบบแพงก็น่าจะยากขึ้น ถึงแม้ว่าเป้าหมายหลักคือระบบ logistic แต่ถ้าประยุคต์ใช้เช่น การใช้ตัวผนึกพิเศษบนตัวถังไม่ให้เอาออกได้เหมือน พวกป้ายทะเบียน หรือถ้าจะเอาออกต้องใช้เครื่องมือหนักหรือเครื่องมือพิเศษไม่งั้นจะทิ้งรอย เป็นหลักฐาน ได้ว่ามีความพยายามเปลี่ยนแปลงสภาพรถ ซึ่งถ้าใช้ประกอบกับระบบอื่นน่าจะช่วยตรวจสอบได้มากขึ้น อันนี้แค่เป็นไอเดียนะครับ ใครมีความเห็นอะไรบ้าง ลองเสนอดูได้หรือมีระบบอื่นๆที่น่าสนใจก็ ขอรับฟังครับ

โดยคุณ nok43 เมื่อวันที่ 03/04/2012 18:30:48


ความคิดเห็นที่ 10


เมื่อก่อนเคยทำเรื่อง  ลงทะเบียนรถ ทั้งหมดในพื้นที่  มีสติ๊กเกอร์ติด โดยแยกสี แยกประเภทไว้   ตัวสติ๊กเกอร์อาจปลอมกันได้ แต่ที่ได้คือฐานข้อมูล  และก็ผลักดันส่งให้กรมขนส่งฯ ดำเนินการต่อ   มา  ณ  ปัจจุบันก็ไม่รู้เป็นอย่างไรต่อ

 

ถ้าทำระบบอะไรสักอย่างเพื่อให้ง่ายในการตรวจสอบยานพาหนะ  เชือว่า  ไม่เพียงแต่ ผกร. เท่านั้นที่มีผลเสีย  กลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่ก็ต้องหนาวๆร้อนๆไปด้วย และก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า  ระบบดังกล่าวไม่มีทางได้เกิดแน่ๆ

ถ้า   ลดจุดตรวจถาวรลง แล้วเอาเฉพาะที่คุมปมคมนาคมจริงๆเท่านั้น  แล้วเพิ่มจำนวนคนต่อจุดตรวจให้สามารถตรวจละเอียด ตลอด 24 ชั่วโมงได้จริงๆ

ถ้า   หลังตรวจละเอียด 24 ชั่วโมงโดยไม่เว้นสักคันแล้ว   ปชช. จะยอมต่อแถวรถติดเพื่อรอตรวจทุกวันโดยไม่ ด่า จนท. ได้หรือไม่  ผู้ประกอบการ ที่มีรถขนส่งจะยอมให้ตรวจระวางสินค้า โดย ไม่อ้างว่า  หากสินค้าเสียหายจะฟ้องเอาผิด

ก็ไม่รู้ว่ามันจะดีขึ้นหรือเปล่า  เหอะๆๆๆ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 03/04/2012 20:37:19


ความคิดเห็นที่ 11


เพิ่ม

 

ระบบ rfid   ทำงานง่ายได้รวดเร็ว  เป็นเครื่องมือช่วยได้มากแน่นอนครับ แค่วิ่งผ่านๆก็เสร็จเจ้าเครื่องมือนี้แล้ว  ลองแอบไปติดตั้งตามแยกต่างๆ.....หรือถนนสายหลัก.....จะเห็นข้อมูลการใช้ยานพาหนะภาพรวมเลยครับ

 

สุดท้ายก็ต้องใช้คนนี้หละครับวิเคราะห์ความน่าจะเป็นในรถต้องสงสัยอีกครั้ง.......

โดยคุณ jaidee เมื่อวันที่ 04/04/2012 10:49:00