หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สิงคโปร์ก้าวหน้าเป็นผู้ส่งออก “อาวุธ” สู่ตลาดโลก

โดยคุณ : kaypui42 เมื่อวันที่ : 21/03/2012 03:13:22

 

รถสายพานลำเลียงพล “บรองโก” ความภูมิใจของสิงคโปร์ ทั้งนี้ เครือบริษัท เอสที เอนจิเนียริง ติดอันดับ 49 ของโลก และเป็นหนึ่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติด 100 อันดับแรก
       เอเอฟพี - สิงคโปร์ เจ้าของภาพลักษณ์มือสะอาดและผู้ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กำลังไต่อันดับโลกในตลาดอุตสาหกรรมอาวุธ ด้วยการค้ากำไรจากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ซึ่งได้ยกระดับกองทัพสิงคโปร์ที่มีงบประมาณอุดหนุนอู้ฟู่
       
       สิงคโปร์กำลังขยายตลาดยุทโธปกรณ์และระบบป้องกันไปสู่ระดับโลก โดยได้ส่งออกสินค้าตั้งแต่ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ (เอพีซี) ไปจนถึงอาวุธปืนและเครื่องกระสุนนานาชนิด
       
       เอสที เอนจิเนียริง บริษัทแม่ของ เอสที คิเนติกส์ ที่เคยพัวพันคดีคอร์รัปชันสัญญาขายปืนครกให้กองทัพอินเดียเมื่อปี 2009 กลายเป็นบริษัทค้าอาวุธแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติด 100 อันดับแรกของสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (เอสไอพีอาร์ไอ) ซึ่งเปิดเผยอันดับผู้ผลิตอาวุธโลกเมื่อเดือนที่แล้ว
       
       บริษัท เอสที เอนจิเนียริง ซึ่งมีหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ในมือของ เทมาเส็กโฮลดิงส์ เป็นกำลังหลักของอุตสาหกรรมการทหารในสิงคโปร์ พร้อมทั้งอ้างตนเป็นหนึ่งในผู้ค้ากระสุนขนาด 40 มม. รวมถึงอาวุธพกพา เช่น เครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติขนาด 40 มม. แถวหน้าของโลก
       
       ในมหกรรมอากาศยาน “สิงคโปร์ แอร์โชว์” เมื่อเดือนที่แล้ว เอสที เอนจิเนียริง ยังเป็นผู้จัดแสดงสินค้ารายใหญ่ที่สุดในงาน โดยหนึ่งในสินค้าของบริษัทเครือนี้คือรถสายพานลำเลียงพล “บรองโก” รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งทหารอังกฤษสั่งเข้าประจำการในอัฟกานิสถาน
       
       รถสายพานลำเลียงพล บรองโก จำนวน 115 คัน เข้าประจำการในอัฟกานิสถานครั้งแรกเมื่อปี 2010 นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของ เอสที เอนจิเนียริง หลังจากบรองโกได้ชื่อว่าเป็นรถลำเลียงพลสำหรับทหารตะวันตกคันแรกที่ผลิตโดย บริษัทอาวุธในเอเชีย
       
       นอกเหนือจากอังกฤษ เอสที เอนจิเนียริง ยังส่งออกอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารให้กับประเทศอื่นๆ อีกมากมาย แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายชื่อลูกค้า อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม รายงานว่า สิงคโปร์ได้ส่งออกยุทโธปกรณ์ให้กับอินโดนีเซีย ชาด ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบราซิล ซึ่งทำเงินราว 1,750 ล้านดอลลาร์ เฉพาะในปี 2010 ปีเดียว
       
       เอสที เอนจิเนียริง ยังเป็นคู่ค้ารายสำคัญของกองทัพสิงคโปร์ (เอสเอเอฟ) ซึ่งมีงบประมาณด้านกลาโหมสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมีการตั้งงบทหารประจำปี 2012 ไว้สูงถึง 9,680 ล้านดอลลาร์
       
       สิงคโปร์มีความทะเยอทะยานด้านการทหารอันแรงกล้า ตั้งแต่แยกตัวออกจากมาเลเซียเมื่อปี 1965 โดยได้รับคำแนะนำเบื้องต้นจากอิสราเอล
       
       อย่างไรก็ตาม การค้าอาวุธคิดเป็นกำไรเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ จากรายรับทั้งหมดของ เอสที เอนจิเนียริง ซึ่งยังมีกิจการด้านอากาศยาน อุตสาหกรรมการเดินเรือ และงานด้านวิศวกรรม โดยมีบริษัทสาขามากกว่า 100 แห่ง ใน 23 ประเทศ ทั่วโลก
       
       นอกจากนี้ เอสที แอโรสเปซ ซึ่งเป็นบริษัทด้านอากาศยานในเครือ เอสที เอนจิเนียริง ยังเป็นผู้รับดูแล ซ่อมแซม และยกเครื่องอากาศยานเอกชน ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000034874





ความคิดเห็นที่ 1


ของเราถ้าสนับสนุนหน่อยก็ไปได้ไกลครับอย่างชัยเสรีเนี่ย

 

ของสิงคโปร์ต้องเสียตลาดใหญ่อย่างอินเดียไปอย่างน่าเสียดายครับเพราะคอรัปชั่นนั่นแหละ ไม่งั้นอันดับอาจจะสูงกว่านี้ก็ได้

โดยคุณ Banyat เมื่อวันที่ 20/03/2012 09:06:16


ความคิดเห็นที่ 2


เจ้าตัวนี้ (หรือแวริเอชั่นอื่นๆ) ที่เรามี เห็นภาพติดหล่มอีตอนที่น้ำท่วมบ้านท่วมเมืองเรา

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 20/03/2012 16:13:22