ถ้าเรามี A10 คุณคิดว่าเพื่อนบ้านรู้สึกยังงัย...ไม่สนใจจัดหาบ้างหรือเอาไว้ต่อย เจ้า T..55555
ไอ้ที่ใช้ในอัฟกัน-อิรัก คงบินมากจนแทบไม่เหลือชั่วโมงแล้วมั้ง เด๋วก็เหมือน A-7 หรือแฮริเออ
แต่ อยากได้ลง 23 ซัก 16 ตัวจัง ^^
IMO: ปัญหาว่าสมมุติว่าได้ตัวนี้แล้ว เค๊าจะให้เราใช้เฮลไฟร์ มาเวอริค CBU-89 บ้างรึเปล่า หรือขายให้แต่ต้องขอใช้งานก่อนเอาออกจากคลัง
ปัจจุบันแนวคิดเรื่องเครื่องบินไล่ล่ารถถังเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เพราะมีการพัฒนาเรื่องจรวดต่อสู้อากาศยานประทับบ่า หรือแซมต่างๆ กลายเป็นใช้การทิ้งระเบิดนำวิถีจากเครื่องบินขับไล่ขเบาโดยกระเปาะชี้เป้าจากระยะสูงและห่างมากกว่า ปลอดภัยต่อนักบินมากกว่า และได้ผล 100% เหมือนกัน
เบื่อจริงๆเรื่องว่าต้องขอก่อนแล้วถึงให้เอาออกจากคลัง ......... พูดกันต่อๆไปโดยไม่รู้ความจริง
ผมยอมรับว่าไม่รู้จริงๆครับ ฟังๆมาก็คิดว่าจริง
อันนี้ล่าสุด
วันที่ 8 มี.ค. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ความพร้อมของไทยสู่เส้นทางอาเซียน 2015” โดยมี ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน แสดงปาฐกถา “นับถอยหลังการเปิดอาเซียนกองทัพไทยควรเตรียมรับอย่างไร” และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี แสดงปาฐกถา “ศักยภาพกองทัพไทยก้าวไกลไปสู่อาเซียน” นอกจากนี้ยังมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และผู้แทนเหล่าทัพเข้าร่วมรับฟังการปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ด้วย
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งตนคิดว่าการศึกษามีความสำคัญที่สุดที่จะทำให้บุคลากรมีศักยภาพ โดยเริ่มจากการพัฒนาเยาวชนเพื่อให้เตรียมรับความพร้อมที่กำลังจะเผชิญต่อไป สิ่งแรกที่เราต้องเตรียมความพร้อม คือ การพูดภาษาอังกฤษ การจะทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการสื่อสารนั้นก็คือภาษา และหากเราพูดภาษาอังกฤษได้ก็เป็นการสร้างให้เห็นถึงความใส่ใจของเราด้วย เราต้องคิดว่าเราจะทำอย่างไรที่จะสามารถปฏิบัติการได้ 24 ชั่วโมง รวมทั้งยุทโธปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบา คล่องแคล่ว สะดวกแก่การปฏิบัติงาน รวมทั้งมีอาวุธที่รวดเร็ว เช่น จรวด เพื่อจะได้ไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากเราทำการวิจัยก็จะสามารถทำให้ค้นพบบุคลากรที่มีความสามารถ หากเราสามารถขีดความสามารถตรงนี้ขึ้นมาได้ เราก็จะเป็นกองทัพที่ได้รับการยอมรับ และมีความพร้อมในการทำงานในทุกๆพื้นที่ และทุกๆสถานการณ์อย่างดีมากยิ่งขึ้น อยากฝากให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุดและทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า
“ในเรื่องการพัฒนา เราต้องยืนอยู่บนขาของเราให้มากที่สุด และอย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจจนหายใจเองไม่ได้ ในอดีตเราเคยเผชิญกับปัญหาเหล่านี้มากมาย กองทัพอากาศเคยวาดภาพว่าจะมีจรวดแอมแรม ซึ่งเราก็ได้ซื้อจริง แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ต้องเก็บเอาไว้ในที่แห่งหนึ่ง ถ้าใช้ก็ต้องขออนุญาติเขา ซึ่งเรามีอาวุธที่เราต้องการแต่ถูกควบคุม ส่วนกองทัพบก ช่วงที่ผ่านมา อยากซ่อม ฮ.แต่เขาบอกว่าเขาไม่มีชิ้นส่วนและอะไหล่เพราะเอาไปใช้ ในสถานที่อื่น และไม่มี ฮ.ใช้ นี่คือสิ่งที่เราคิดว่าเราทำตามขั้นตอนต่างๆ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ปัจจัยด้านอื่นๆ รวมทั้งด้านการเมืองจะเป็นตัวเชื่อมโยงและจะมีผลกระทบต่อการทำงานของพวกเรา ถ้าเป็นไปได้ต่อไปในอนาคต เราต้องหาทางลดผลกระทบต่างๆ ที่จะมาถึงเราให้เหลือน้อยลงให้มากที่สุด การพัฒนาของกองทัพต้องทำจากหน่วยทหารขนาดเล็กไปก่อนจนถึงหน่วยใหญ่ ก่อนหน้านี้เราเคยผลิตยุทโธปกรณ์ อยากให้มีการรื้อฟื้น และต้องพัฒนาระบบการสื่อสารโดยจะต้องให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยทหารขนาดเล็กจนถึงกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งที่ผ่านมาในเหตุการณ์ช่วยเหลือคนไทยจากเหตุการณ์เผาสถานทูต ถือได้ว่าระบบการติดต่อสื่อของกองทัพอากาศมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบดาตาลิงก์ ที่กองทัพเรือยังไม่มีในขณะนั้น แต่ตอนนี้เริ่มมีการพัฒนามากขึ้นจะเหลือแต่ในส่วนกองทัพบกที่ต้องมีการเชื่อมโยงระบบนี้โดยทั้งหมดเป็นการเตรียมของเรา ที่ไม่ใช่แค่ภารกิจการป้องกันภายในประเทศแต่ต้องรองรับการไปทำงานนอกประเทศ”พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
ขอรายละเอียดข่าวหน่อยครับ
ถ้าได้มาจุดจบน่าจะเหมือน A7 คอร์แซ แน่นอน... คงได้ใช้ไม่เกิน 5-6 ปี
แต่ได้มาก็ดีกว่าไม่ได้ มานะครับ... 5 ปีก็ยังดี (แต่ราคาต้อง สมดุลกับอายุการใช้งาน)
จัดไปเลยครับ ซัก 20 ก็คงพอ
อามราม อาจจะใช่เรื่องต้องขอใช้ แต่ขอยืนยัน(แบบไม่มีหลักฐาน )ว่าเก็บอยู่ในไทยอย่างปลอดภัยและไม่ได้อยู่ที่สิงคโปร์
ส่วนอาวุธอื่นนั้น ไม่จำเป็นต้องขอก่อนถึงจะยิงได้ เหตุการณ์ก่อนๆหน้านี้ที่ทอ.เคยใช้ระเบิดนำวิถีนั้น ก็ไม่เคยได้ยินว่าทอ.ต้องขออนุญาตก่อน เพราะอาวุธพวกนี้ไม่เกี่ยวกับสมดุลในภูมิภาคและไม่ใช่อาวุธทันสมัยอะไรมากมายนัก
การเอาอาวุธระดับสูงอย่างอามราม มาใช้ตรรกะเดียวกันกับ มาเวอริค หรือ ระเบิดCBU ซึ่งจัดเป็นอาวุธชั้นสองในกองทัพสหรัฐ จึงไม่ถูกต้อง
ครับหลวงพี่ icy_CMU ผมจำสับสนระหว่างมาเวอริคกับแอมแรม ขอโทษเรื่องข้อมูล ตอนนั้นในบอร์ดพูดกันว่าไม่กล้าใช้มาเวอริคเพราะมันแพง เผลอๆแพงกว่ารถถัง(T-55) รึเปล่าครับ
เรามี AGM-65 ตั้งแต่ F-16 ฝูงแรกๆแล้วครับ ลองไปหาภาพเก่าๆสมัยเพิ่มรับมอบดู
ตัวอย่าง อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ตามลายแทงเลยครับ
ขอแชรรูปครับจาก เครดิต http://thaidefense-news.blogspot.com/2010/12/rtaf-f-16-gallery-3.html
ข่าวปลดเครื่องบิน น่าจะมาจากฐานทัพอากาศสหรัฐ(ฝูงบินที่ 81 กองบินที่ 52 )ในเยอรมันครับ
http://warthognews.blogspot.com/2012/02/81st-fighter-squadron-have-been.html
เริ่มมีผล 2013 เหตุผลคือ การตัดงบประมาณกองทัพ ตามนโยบาย ปธน.โอบามา
ตัดที่ปลดจะเป็นอากาศยาน 286 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่ 123 ลำ อื่นๆ 133 ลำ สอดแนม/ช่วยชีวิต 30 ลำ
ในส่วนของบินขับไล่ ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย A-10 Thunderbolt II 102 ลำ ของฝูงบินที่ 81 ซึ่งจะทำให้ในคลังเก็บจะมี A-10 อยู่ 246 ลำ
ดังนั้นไม่ใช่เรื่องอายุการใช้งานที่มีเหลือเฟือ
จากข้างบน จากมี 348 ลำ ลดลง 102 ลำ คงเหลือ 246 ลำ ก็ยังดูเหมือนว่าเยอะอยู่ดี
ถ้าเรื่องจริง ไทย น่าจะ ซื้อมือสอง ชัก ฝูง นะครับ