หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


F22 3 ลำ+ awac ประทะ gripen + เมเทเออร์ Missile วิเคราะห์หน่อยนะครับ

โดยคุณ : securitytot เมื่อวันที่ : 24/12/2013 11:44:52

       

vs

ถามแบบตรงๆเลยน้า หาก f 22  3 ลำ กับเครื่องบิน awac 1 ลำ บุกไทย โดย f22 มีอาวุธติดมาคือ Aim 120  ทั้งสามลำ   มาเจอ กับ jas 39 ของไทยเรา  6 ลำ โดยเราไม่ได้เอาเรด้าห์ ลอยฟ้ามาช่วย แต่เรามี เมเทเออร์ missile แบบ อากาศสู่อากาศ ซึ่งยิงได้กว่า 160 กม จากเยอรมัน และ ตอนประทะกันบนฟ้า f22 อยู่ห่างจาก jas39 ของเรา 300 กม  ว่าแต่ 300 กม ใครเห็นใครก่อน จากอาวุธ และตัวช่วยที่นำมา แล้วใครจะชนะ และจะทำการรบกันยังไง jas39 ของเราต้องทำอย่างไร ถึง จะชนะ ได้ขาดลอย หรือเราต้องปิดเรดาห์ ลำใดลำหนึ่ง หรือ เปิดเรดาห์ทั้งหมด ถ้าเปิดเรดาห์หมด awac ก็จะเห็น คิดแล้วปวดหัว เราจะรบยังไงครับ ถึงจะชนะ f22 3 ลำ ที่ติด Aim 120 แบบอากาศสู่อากาศ แถมมีตัวช่วยอย่าง awac มาด้วย ส่วนเรา เพียว ไม่มีเรดาห์ลอยฟ้า เพียงแต่มี เมเทเออร์ missile ที่ยิงได้ 160 กม วิเคราะห์การรบให้ฟังหน่อยนะครับ





ความคิดเห็นที่ 1


ไม่เจอ F22  เจอแต่ awac ครับ ส่วน F22 ก็ล่องหนไปแล้วรู้ตัวอีกทีก็เจอ Aim 120 แล้วล่ะครับ แต่คิดว่า F22 เค้าคงไม่ติด Aim 120หรอกครับ

โดยคุณ aunna เมื่อวันที่ 16/03/2012 22:20:24


ความคิดเห็นที่ 2


วัดกันที่ลูกยาว สูสีครับ

ทันทีที่ แรพเตอร์ได้ล๊อก เรา และปล่อยหมัดออกไปนั้น

ทางเราก็ตรวจพบสัญญาณล๊อกพร้อมกับเห็นลูกโดดลอยมาทันที่

เราสามารถใช้ ไอริส ที ยิงสกัดไว้ได้

แต่ด้วยความที่ต่อสู้กับเครื่องสเตล ทำไห้ไม่สามารถล๊อกจากระยะไกลได้

ทำไห้เราต้องไช้แฟล์ และไอริสทีเพื่อป้องกันตัวเข้าไปไกล้ไห้อยู่ในระยะที่สามารถล๊อกได้

สุดท้ายจะอยู่ที่ความสามารถของนักบิน แต่ถ้ามองโดยรวมแล้วนั้น

แรพเตอร์สามารถยืนระยะได้นานกว่า ถ้าเราไม่สามารถจัดการในช่วงเวลาการบินของเราได้ เราก็จะกลายเป็นเป้า

แถมแรพเตอร์ยังมีวุเปอครุย สามารถเร่งระดับ ความเร็วสูงโดยไม่ไช้อาฟเตอร์เบิน

อาจทำให้ ไอริสที ตามได้ไม่สะดวก และด้วยการออกแบบ การบินคงจะมีความคล่องตัวสูง

มากกว่า เครื่องปีก 3 เหลี่ยมของเรา ที่ยืนระยะได้น้อยกว่า และความคล่องตัวต่ำ อาจจะกลายเป็นแค่เป้าลอยฟ้าให้ AIM-9X

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 16/03/2012 23:14:57


ความคิดเห็นที่ 3


ท่าน fulcrum37 ไอริส ที สามารถสกัด air to air ใด้เหรอครับที่ความเร็ว 4มัค+(ขอข้อมูลอ้างอิงด้วยนะครับ)

PS-05A ตัวนี้มีข้อมูลออกมาน้อยมาก เลยประเมิณค่อนข้างยาก 

เรด้าห์ไม่ว่าฝ่ายใหนจะเห็นก่อนก็ตาม  อย่างไรซะก็ต้องเข้ามาในระยะของอาวุธ

และถ้าเข้ามาถึงระยะของอาวุธ จะสามารถเห็นและล็อคเป้าใด้ที่ระยะใด...? F-22 มี rcsค่อนข้างต่ำมาก+เทคโนstealth

กว่า JAS-39 จะล็อคเป้าใด้ผมว่า F-22 ส่งแอมแรมมาหลายลูกแล้วล่ะครับ

เดี๋ยวอีกหน่อยAIM-120รุ่นDมาพร้อมๆกับF-35 จะหนาวขึ้นที่ระยะ 180km

ถ้าจะให้วิเคราะห์แผนการบินขนาดนี้คงต้องให้ครูการบิน น้องแจ๊ส มาวางหมากเองเลยล่ะครับ

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 17/03/2012 01:16:43


ความคิดเห็นที่ 4


ผมคงให้น้องหยาดปิดเรดาห์แล้วบินต่ำ น้องอิ๋วไม่ต้องขึ้น ใช้ลิงค์กับเรดาห์ภาคพื้นเอา ตลบหลังสอยเอเวคก่อน แบ่งน้องหยาดให้ล่อเป้าซักสอง สามลำ หานักบินติดหลวงพ่อโกย ที่เหลือเข้าประชิดกับพี่แรป ทีนี้ก็วัดกันที่นักบินละครับ อิๆ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 17/03/2012 02:49:03


ความคิดเห็นที่ 5


http://www.military.com/news/article/f22-woes-continue-to-flummox-air-force.html#.T1Li066SH1k.email

 

อีกบทความครับ แต่เป็น F-15

โดยคุณ janus เมื่อวันที่ 17/03/2012 07:38:18


ความคิดเห็นที่ 6


ดูโจทน์แล้ว F-22 ได้เปรียบหลายประตู เรดาร์ F-22 ก็เหนือกว่า JAS-39C/D แล้วยังมี เอแวค มาด้วยอีก แถม F-22 ยังเป็นเครื่องบินที่เป็นแบบ สเตลท์ ลดการตรวจจับของเรดาร์ ติดหมัดยาวมาด้วย อย่าลืมว่า อัมราม ของ F-22 เป็นรุ่นใหม่ที่ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า และต้องไม่ลืมว่า F-22 มีลิงค์16 ที่ส่งผ่านข้อมูลกับ เอแว็คเหมือนกัน ในขณะที่ JAS-39C/D ติดเมเธเออร์ งานนี้ยากเพราะ เราดาร์ตรวจจับได้ใกล้กว่า F-22 อยู่แล้ว แถมไม่เอา อิรี่อายช่วย เมเธเออร์ นั้นจะยิงก็ต้องให้เครื่องบินฝ่ายตรงข้ามเข้ามาอยู่ในโหมดใช้อาวุธของเรดาร์ก่อนครับ แล้วคุณลักษณะลดการตรจจับของ F-22 นั้นทำให้ JAS-39C/D ตรวจจับได้ยากและอาจจะต้องเข้าไปใกล้อีก JAS-39C/D คงโดนตรวจจับได้ตั้งนานแล้วก่อนที่จะเจอ F-22 ดังนั้น JAS-39C/D น่าจะโดนหมัดยาวลงไปน็อกกันหมด ถ้าหลุดเข้าไปใกล้ได้ ความคล่องแคล่วของ F-22 นั้นปัจจุบันถือว่าคล่องแคล่วกว่า JAS-39C/D ด้วยท่อท้ายปรับได้สอง อัตราเร่งยังดีกว่าด้วย และจรวดแบบ AIM-9x ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า IRIS-T หมวดแบบเล็งยิงเหมือนกัน งานนี้ยากอีกคงต้องอาศัยทักษและไหวพริบสุดๆ สรุปกันตรงๆ JAS-39C/D โดนสอยเรียบ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 17/03/2012 10:27:14


ความคิดเห็นที่ 7


jas39 โดนสอยเรียบเลยหรอครับ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเสียเปรียบขนาดนี้นะครับ แล้วหากต่อไปเวียดนามซื้อ t50 มา เราคงต้องคิดหนัก 

โดยคุณ securitytot เมื่อวันที่ 17/03/2012 12:01:33


ความคิดเห็นที่ 8


fantom  ไปอ่านมา ไม่จากบอด ก็บล็อก ที่ไหนซักแห่ง

ว่า Iris T มันเทียบเท่า ไพท่อน5 หรือ Aim-9x

หันหลังไส่ก็ยิงได้ นั่นหมายถึงว่า ไม่ว่า จะมีอะไรเข้ามาในระยะตรวจจับก็จะมองเห็น

และถ้าล๊อกเป้าได้ ก็สามารถยิงสวนได้เลย แถมการเป็นชอตแรงค์ ที่มีความคล่องตัวและแน่นอนมากกว่า ลูกยาวแล้วด้วย

และผมเข้าใจ ลูกยาวของทางฝั่งเมกามันไม่ได้สเตลด้วย

ถ้าจะมองวัดเทียบระยะ 180 กม. ความเร็ว 4 มัค ยั่นหมายถึง จะมีเวลาตรวจจับได้เกือบ 5 นาที

และถ้ายิงที่สุดระยะ ความเร็วมันก็จะลดลงเรื่อยๆ ก่อนที่จะมาถึง มันคงเหลือจะถึง 3 มั๊ยไม่แน่ใจ

ผมไม่รู้ว่า ไส้ในของ แอมแรมใหม่ทำด้วยอะไร แต่ผมมั่นใจว่า ตัวส่งจรวด จะไม่ไช้แบบหดไปเรื่อยๆ

แต่ตอนที่ไส้จรวดใช้หมด ข้างในจะกลวง ระบบ แอโร่ไดนามิคจะเสีย ความแน่นอนจะน้อยลงไป

F-22 สามารถใส่แอมแรมได้ในท้อง 6 ลูก นั่นหมายถึงว่า จะสามารถโจมตีระยะไกลได้ 6 ครั้ง

และทุกครั้งที่มันจะโจมตี มันจะต้องล๊อกเป้า และเปิดฝา เครื่อง วึ่งเป็นสัญญาณอย่างดีเลย ที่บอกว่าตัวเองอยู่ใหน

ถึงไม่สามารถลีอกจากระยะนั้นได้ แต่อย่างน้อยก็พอจะรู้ว่าเครื่องนี้มาจากใหน และพยายามวิ่งเข้าไปหา

วิธีเดียวที่จะเอาชนะได้คือ ไปอยู่ในระยะที่ไกล้ที่สุด เข้าไปด้านข้างหรือด้านหลังเพื่อล๊อกเป้าถึงจะเป็นสเตล

ตราบใดที่เครื่องยนต์ยังใช้ในพื้นฐานของการชักของลูกสูบ เผาเชื้อเพลิง เกิดการ ปป. พลังงานภายใน

ตามหลักของกลจักร คาโนด นั่นหมายถึงจะมี ส่วนต่างของพลังงาน ความกดอากาศ และความร้อนออกมา

หรือ รอเวลาที่แรพเตอร์ล๊อกเป้าเรา แล้วก็ลีอกเขาคืนในจังหวะนั้น ถ้าอยุในระยะยิง เมทีเออ ผมก็จะยิงสวน

แล้วถ้าคลุกวงในได้ ผมเชื่อว่า ไอ้ที่ขนลูกยาวที่ขนมาของแรพเตอร์ จะมีความแน่นอน น้อยกว่าไอริสที

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 17/03/2012 12:11:29


ความคิดเห็นที่ 9


 

ใครจะไปสู้ได้ล่ะครับ หลายๆอย่างในแรพเตอร์ มันออกแบบมาเพื่อสอยคู่ต่อสู้ทั้ง บ.ยุคนี้และยุคหน้าโดยเฉพาะ โอกาสดีที่สุดคือพยายามเข้าคลุกวงใน แต่โอกาสชนะนั้นอย่างไปหวังให้มาก

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 17/03/2012 12:45:57


ความคิดเห็นที่ 10


โจทย์ยากมากครับที่เราจะชนะได้ ไม่ได้อวย F-22 นะ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะ F-22 แต่ละลำเครื่อง มี AIM120D 6 นัด+ AIM9X 2 นัด+หมวกติดศูนย์เล็ง +AN/AGP77 AESA +ท่อปรับทิศทาง 2 แกน ทำซุปเปอร์ครุยส์ไม่ใช้อาฟเตอร์เบอรเนอร์ ตัวมันเองก็ลดภาคตัดเรดาห์อีก แถมมีเอแวกช่วย อย่าว่าแต่ JAS เลย ต่อให้ SU35 หรือ Typhoon ก็เอาชนะยาก

ถ้าตั้งโจทย์ใหม่ เป็น F-22 /3 ลำ เจอกับ JAS39C/D  4ลำ+Erieye ยังมีโอกาสชนะมากกว่า

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 17/03/2012 13:23:02


ความคิดเห็นที่ 11


ปัญหาที่ทำให้มองผลง่ายๆโดยยังไม่มองที่คุณสมบัติของจรวดที่ใช้ก่อนก็คือ การที่ F-22 มีเรดาร์แบบ AESA ตรวจจับได้ไกลและยังมี เอแว็ค เป็นพี่เลี้ยง แถม F-22 เองก็มีคุณลักษณะลดการตรวจจับ ในขณะที่เราดาร์ของ JAS-39C/D ตรวจจับได้ใกล้กว่า แถมไม่มี อิรี่อาย เข้ามาเป็นพี่เลี้ยง ทำให้ F-22 สามารถที่จะค้นหา JAS-39C/D เจอก่อนที่ JAS-39C/D จะตรวจเจอ F-22 หรือ เอแว็ค ตรวจเจอ JAS-39C/D แล้วส่งข้อมูลและจำนวนให้ F-22 รับทราบและวางแผนโจมตีเรียบร้อยแล้วทั้งๆที่ JAS-39C/D ยังไม่พบ F-22 นั่งคือข้อได้เปรียบของ F-22 ที่มีผลต่อการแพ้ชนะ ทีนี้พอเข้าถึงระยะใกล้พอที่จะปล่อยจรวกทำลายนั้น ก็สามารถที่จะปล่อยจรวดได้ทันทีทั้งๆที่ JAS-39C/D อาจจะเพิ่งตรวจเจอ F-22 แต่ F-22 โจมตีก่อนแล้ว และตามหลักการ การปล่อยจรวดนำวิถีระยะไกลนั้นถ้าจะได้ผลจะนิยมปล่อยทีละสองนัด(เว้นแต่งบน้อยขี้เหนียว)เพื่อเป็นการกันลูกแรกหลบได้ก็เจอลูกที่สอง โดยการพยายามที่จะหลบลูกจรวดยิ่งทำให้โอกาสที่จะปล่อยจรวดตอบโต้ยิ่งยากขึ้นและเสียเวลาในการหลบทำให้โอกาสของ F-22 ยิ่งมีต่อ และเป็นการยากยิ่งที่จะเข้าใกล้ F-22 เพื่อจะด็อกไฟต์ ซึ่งโอกาสที่ JAS-39C/D จะถูกสอบร่วงนั้นมีตั้งแต่ลูกยาวแล้วก็มีความเป็นไปได้สูง

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมไม่ได้มองว่า JAS-39C/D จะไม่เจ๋ง แต่โจทน์ที่เขาให้มามันทำให้ต้องคิดตามนี้

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 17/03/2012 13:37:12


ความคิดเห็นที่ 12


F-4 + aim-7 ที่ว่าแน่ยังแพ้ Mig-21 ที่ใช้ปืนกลอากาศเลยท่าน

เราเป็นอินเซปเตอร์อ่ะนะ ถ้า สมมุต ว่าใช้โลคัลเป็นประเทศไทย ที่มีฐานเรด้าอยุทั่วประเทศ

ทันทีที่ เปิดฝาไต้เครื่อง หรือว่าล๊อคเป้าคนอื่นก็ แทบจะประกาศใส่โทรโข่งแล้วว่า ตรูอยุตงนี้นาา

 

ไปร่ายยาวมาจากพันดิฟแล้วเหมือนกัน ว่า ถ้าใช้โลคอลเป็นอ่าวไทย

แล้วอะไรจะทำไห้ เชื่อว่า Kilo หรื 039 จะมีโอกาศรอดมากกว่า 206 ในอ่าวไทย

 

การหายไปจากจอเรด้าใช่ว่าจะ ทำไห้อยู่ยงคงกระพันนาท่าน

เพราะทันทีที่ตั้งใจจะใช้ดาบ นั่นก็หมายถึงการเปิดโล่ของตัวเอง

 

ก็ไม่ได้หมายความว่า นองหยาดเราเทพขนาด เอาชนะ แรพเตอร์ได้

แต่น้องแกก็มีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากลูกยาวมาในระดับหนึ่ง

และพูดถึงวิธีที่จะสามารถเอาชนะโคตรเครื่องบินได้ครับ ^______^

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 17/03/2012 14:02:49


ความคิดเห็นที่ 13


  ไม่เคยเห็น Anti Air-to-Air Missile ขอข้อมูลด้วยครับ

 

  Forums ทางการทหารต่างประเทศ ผมมองว่ายังเชื่อถือไม่ได้ 100%  เพราะ พวกเขาก็คือคนต่างชาติ ที่ชอบเรื่องอาวุธ เหมือนเราๆ  แล้วตั้งกระทู้ คุยกัน วิเคราห์กันนั่นแหล่ะครับ 

 

   ข้อมูลจากผู้ผลิต จะน่าเชื่อถือมากกว่าครับ

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 17/03/2012 16:35:36


ความคิดเห็นที่ 14


  Amraam  บินตรงเข้ามาด้วยความเร็ว 4Mach  

 IRIS-T ซึ่งเป็นจรวดแบบ Dogfight (WVR)  ซึ่งต้อง ล๊อคเป้าจาก จอ HUD  หรือ หมวกบิน ติดศูนย์เล็ง  จะล๊อคเป้า แล้วยิงสกัดกั้น Amraam ที่บินมาด้วยความเร็วสูงขนาดนั้นคงยาก

  อีกอย่าง IRIS-T  นำวิถีด้วย Infrared   ซึ่งการยิงสกัดกั้นไป  แล้ว ต้องบินไปโดน แถว ท่อไอพ่น ของ Amrram  ใน กรณี ยิงสกัดกั้น จากด้านหน้า  IRIS-T ต้องบิน ไปเฉี่ยว ท่อ Amrram     แต่ Amrram ซึ่งมีความเร็วสูงถึง 4Mach แล้วยังมีขนาดไม่ใหญ่มาก  ยิงโดนนั้นยาก มากครับ(เพราะปกติ มันต้องบินตามจี้ก้นเครื่องบิน ซึ่งเครื่องบินรบ มันใหญ่กว่า BVR เยอะ)

  IRIS-T  ความเร็วสูงสุด 3 Mach   จะบินไล่กวดก็ไม่ทัน  ถึงขนาดนั้นคงพุ่งชนเครื่องบินเราแล้วครับ

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 17/03/2012 16:41:03


ความคิดเห็นที่ 15


   ลำพัง  F-22 มาแบบ ไม่มี AWACS   Gripen เรายังสู้ยากเลย  นี่มากับ AWACS นี่ โอกาสชนะแทบเหลือน้อย

 

   F-22  เรดาร์ ตรวจจับได้ไกลมากครับ ตรวจจับเครื่องบินรบ ที่มี RCS 1.0M^2 ได้ที่ ระยะ 200 กว่า กิโลเมตร

 

   F-22 ลำแรก  ก็คงล๊อคเป้า ยิง Amraam  ทั้ง 6 ลูก   ใส่ Gripen ของเราก่อน  

 

  Gripen ของเรา คงต้องหาวิธีหลบกัน     ระหว่างที่เราหลบนี่ คงต้องหมุนหนี ปล่อย แชฟท์ ปล่อย แฟลล์  คงไม่มีเวลา เอา เรดาร์ หันหัวไปจับพิกัด F-22 ที่ปิดห้องบรรทุกอาวุธ แล้วบินหนีไปในทิศทางอื่นหรอกครับ 

 

   Gripen 6 ลำ อาจจะมี เครื่องที่รอดบ้าง ตกบ้าง  ก็ตั้งตัวใหม่  ค้นหา F-22 กันใหม่    F-22  อีก 2 ลำ ที่มี Amraam เหลืออยู่เต็ม   ก็ยิงซ้ำรอบ 2 แล้วครับ

 

    กว่าจะประครองตัวให้เข้าถึงรนะยะ  Dogfight หรือ WVR  คงยาก ครับ

 

    ความคิดเห็นส่วนตัว น่ะครับ

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 17/03/2012 16:47:24


ความคิดเห็นที่ 16


  ความสามารถ ของ เรดาร์ภาคพื้นดิน ของเรา จะจับ F-22 ได้ที่ระยะไกลขนาดไหนครับ   

 

  ถ้า F-22  เปิดห้องบรรทุกอาวุธ  แล้วทำการจับสัญญาณได้   พอ F-22 ยิงเสร็จ ปิดห้อง บรรทุกอาวุธ  แล้ว หันเครื่องบินหลบ ไปในทิศทางอื่น

 

  เรดาร์ บอกพิกัด ให้ Gripen ลำที่รอดจาก Amraam  บินมาตรงพิกัดสุดท้าย ที่ตรวจเจอ F-22  

 

   ในเวลานั้น F-22  อาจจะไม่อยู่ตรงนั้นแล้วก็ได้น่ะครับ 

 

   แต่ถ้าเกิดสงครามกันจริงๆ  ผมคิดว่า  ฐานเรดาร์ภาคพื้นดิน คงโดน Tomahawk ยิงถล่มไปก่อนแล้วครับ

 

   แต่เจ้าของกระทู้  เขากำหนดมาแค่นี้  เลยยังคง ฐานเรดาร์ภาคพื้นดิน ไว้ก่อน

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 17/03/2012 16:55:07


ความคิดเห็นที่ 17


บางทีผมก็อดสงสัยไม่ได้้ว่าเจ้าแร๊พนี่เค้าสเตลทได้ขนาดใหนจะเจ๋งเหมืออนคำคุยชนิดหายไปจากจอเรตาห์หรือว่ายังอยู่แต่หายากหน่อยประมาณนี้ แต่อย่างน้อยผมคิดว่าf22คงล๊อคเป้าพร้อมกันทีเดียวจริงๆไม่ถึง6เป้าแน่นอนยิ่งเป้าหมายมีขนาดเล็กและปิดเรดาห์มุดเข้าหาอาจบินเกากลุ่มลวงให้เหนเป็นลำเดียวเหมือนพี่ยิวชอบทำหรือ บางทีเราอาจจะจะเอาน้องหยาดไปแอบไว้บนเกาะที่มีถนนพอแทคออฟได้ (บินไปแอบไว้ให้หายไปจากเรดาห์)เอาให้งงเล่น อย่างว่าละครับอาวุธเราด้อยกว่าต้องยอมรับจะไปเปิดหน้าแลกก็ล่วงหมดพอดี อย่างน้อยก็สู้แบบไว้ลายถ้าสอยแร๊พเตอร์ร่วงซักลำนี่คงโก้ทีเดียวฮ่าๆ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 17/03/2012 17:49:59


ความคิดเห็นที่ 18


  มันไม่ได้ Stealth แบบ เรดาร์ จับไม่ได้เลยหรอกครับ

 

 เดี๋ยวนี้เขาจะเปลี่ยน คำ นิยาม ใหม่แล้ว จาก Stealth ไปเป็น  Very Low Observable (VLO) แทนแล้วครับ

  ก็คือไม่ได้เทพ ถึงขนาดจะจับไม่ได้เลย  แต่ จะตรวจจับยาก ยากกว่าเครื่องบินรบ แบบธรรมดา ทั่วไป

 

   กว่าที่เครื่องบินรบ ธรรมดา จะตรวจจับ F-22  ได้ บนจอ เรดาร์  ก็คงต้องเข้าใกล้ มากแล้ว 

 

   เคยอ่านเจอว่า F-16  จะตรวจจับ F-22 บนจอ เรดาร์ ได้ ก็ต้องเข้าสู่ระยะ 10 กิโลเมตร  แล้วครับ     ซึ่งในสงครามจริง  F-22  เขายิงเรา มาแต่ไกลแล้วครับ

 

   อย่าง SU-35   ที่โฆษณา เรดาร์ Irbis-E  ที่แรงๆสามารถ จับเป้าหมาย ที่เป็นเครื่อง Stealth ที่มี RSC 0.0001(จำไม่ได้ว่า 0  4 หรือ 5 ตัว)  ได้ที่ระยะ 90 กิโลเมตร

 

    แต่ในการรบจริง   SU-35  ที่มี RCS 4.0M^2  คงโดน F-22  จตรวจจับได้ ตั้งแต่ระยะ 200 กว่ากิโลเมตร  ก็รอเพียง ขยับเข้าใกล้ระยะยิง Amraam  ซึ่งถ้าเป็น Amraam   รุ่นล่าสุด ที่ยิงได้ 180 กิโลเมตร   มันก็อยู่ไกลเกินกว่าที่ SU-35  จะจับ F-22 ได้อยู่ดีครับ

 

 

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 17/03/2012 18:20:47


ความคิดเห็นที่ 19


สู้ไม่ได้เลยครับ

โดยคุณ ajaydf เมื่อวันที่ 17/03/2012 18:48:04


ความคิดเห็นที่ 20


ถ้าจะวิเคราะห์ตามโจทย์ที่ให้มาแล้วนั้น ก็ตอบง่ายๆสั้นๆเลย ว่า  เสร็จ แร็ฟเตอร์ ครับผม

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 17/03/2012 18:57:33


ความคิดเห็นที่ 21


ผมเทข้าง raptor ชนิดมีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ  ผมเองยังสงสัย และ อยากทราบจากท่านผู้รู้ว่า  อาวุธ BVR เช่น METEOR ที่มีระยะยิง 180 กม. นั้นสามารถยิงได้ ไกลถึง 180 กม.หรือไม่ ในเมื่อเรด้าเครื่องบินสามารถ ตรวจพบเครื่องบินได้ ที่ 120 กม. และยิ่งเป็น RAPTOR แล้วเราจะสามารถตรวจจับได้ในระยะที่เท่าไร   เข้าเรื่องดีกว่าครับ  และ JAS39 CD เมื่อติดอาวุธเต็มพิกัดจะมี ค่าRCSน่าจะมากกว่าปกติ   ทำให้  RAPTOR สามารถตรวจพบในระยะไกล จนสามารถวางแผนและ กำหนดตำแหน่งมุมยิงที่ ได้เปรียบ จนสามารถ สอย JAS39 ทั้งหมดได้ โดยที่ JAS39 ทั้งหมดนั้นอาจจะยังไม่เห็น raptor ในเรด้าสักลำเลยก็ได้ ครับ และระยะยิง ระยะเวลาในการปล่อยอาวุธ ของ raptor รวมทั้งตำแหน่งมุมยิงที่ได้เปรียบ คงจะไม่มากเพียงพอที่จะทำให้ JAS39 สามารถยิงสวน raptor ได้ครับ  ผมเองก็ชอบ JAS39 ครับแต่ความชอบคงไม่สามารถบิดเบือนความจริงได้  คนสายตาสั้น สู้กับคนสายตายาวในที่มืดและมีกล้อง night vision มันจะได้เปรียบยังไงครับ

โดยคุณ PIZZi เมื่อวันที่ 17/03/2012 19:41:53


ความคิดเห็นที่ 22


ก็ อย่างที่ท่านสมาชิก TOP SECRET /MIGGERS /เด็กทะเล วิเคราะห์ข้อมูลมาก็จะตรงกันคือ F-22+AWACS ใด้เปรียบที่ระยะจะโจมตีใด้ก่อน โจทย์ข้อนี้ตั้งใว้ห่างกันเกินไปครับ 

แต่ถ้า ตั้งโจทย์ใหม่ตามท่าน MIGGERS ยังจะมีโอกาสที่น้องแจ๊สจะใด้เข้าทำใด้บ้างครับ

ท่าน PIZZI ระยะอาวุธนำวิถีที่แจ้งตามข้อมูลคือระยะยิงไกลสุดครับ ทั้งนี้จะสั้นจะหรือยาวกว่าระยะที่กำหนด ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆด้วย เช่น ความชื้นสัมพัท/กระแสลม /การไต่เพดานสู่เป้าหมาย ฯลฯ

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 18/03/2012 10:24:01


ความคิดเห็นที่ 23


เห็นด้วยครับว่าจากโจทย์ข้อนี้ Gripen รอดยาก

ส่วนเรื่อง Iris-T สามารถยิงสกัดจรวดได้นั้นมีข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บผู้ผลิตครับ
 

The extraordinary precision allows IRIS-T in conjunction with a radar proximity fuze also intercept enemy missiles

http://www.diehl.com/de/diehl-defence/produkte/lenkflugkoerper/iris-t-familie/iris-t.html


โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 18/03/2012 11:28:46


ความคิดเห็นที่ 24



จรวด SRAAM โดยทั่ว ๆ ไปนั้น มักจะใช้ Laser fuze ซึ่งมีมุมในการทำงานออกไปทางด้านข้างของจรวดและเป็นจุด ๆ  จึงทำได้แค่ยิงสกัดจรวดพวก Cruise Missile ซึ่งไม่เร็วมากได้เท่านั้น  แต่ Radar proximity fuze ของ IRIS-T เข้าใจว่าค้นหาได้กว้างกว่าและน่าจะครอบคลุมรอบ ๆ จรวดมากกว่าครับ Direct Hit จึงสูงกว่าจรวดตัวอื่น ๆ   

ดูแล้วตอนนี้ IRIS-T น่าจะเป็นจรวดรุ่นเดียวในท้องตลาด ที่สามารถยิงสกัดจรวด A2A ได้ครับ 

แต่ผมก็เชื่อว่า มันไม่น่าจะยิงจรวดด้วยกันได้แม่นยำถึง 1:1 เหมือนกรณีเป้าเป็นเครื่องบินหลอกครับ แล้วการจะ lock On จรวดก็ไม่ได้ทำง่าย ๆ  แต่ก็ดีครับมีไว้กันเหนียว   เผื่อเจอคู่ต่อสู้ที่มี BVR ยาว ๆ ก็ยิงสกัดมันซะเลย แล้วค่อยเข้าไปนัวอีกที หึ ๆ 


โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 18/03/2012 11:40:54


ความคิดเห็นที่ 25


ผ๋อมคิดว่า เอาเรดาร์ ที่อยู่ตามชายแดน เมื่อตรวจจับ RAPTOR ได้ ก็ส่งดาต้าให้ JAS

หรือไม่ก็ให้ เรดาร์ที่ชายแดน  ชี้เป้าล๊อกเป้า  ให้ DTI ทำงานแทน กรณีที่ RAPTOR เปิดเรดาร์และไม่สเตลล์

อย่างนี้ JAS จะได้ไม่เหนื่อยมาก...

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 19/03/2012 11:08:55


ความคิดเห็นที่ 26


ท่าน Logieng iris-t สามารถสกัด  BVR ใด้จริงหรือครับ ขอข้อมูลจาก บ.ต้นสังกัดหน่อยครับ

เพราะเท่าที่รับทราบข้อมูลมา มีเพียง ครุยซ์มิสไซล์ ที่สามารถสกัดใด้มีคริปโปรโมท

ส่วนภาพที่เอามาลงนั้น ครุยซ์มิสไซล์อย่างแน่นอน หรือสมาชิกท่านอื่นๆที่ทราบว่า iris-t สามารถ สกัด AIM-120/ AIM-7 /Vympel R-27  อืนๆ ช่วยเอามาลงให้ใด้รับทราบหน่อยครับ


โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 19/03/2012 11:12:06


ความคิดเห็นที่ 27


ลองดูนี้นะครับ  เข้าใจว่าน่าจะเคยอ่านกันแล้ว แต่อาจจะไม่ได้สังเกตกันครับ  บทความชุดนี้ถอดออกมาจาก บนความที่เขียนโดย  น.อ.ไชยวัฒน์ กาศโอสถ อีกทีนะครับซึ่งในปัจจุบันนี้ link pdf ต้นฉบับ Download ไม่ได้แล้วครับ

http://www.thaiarmedforce.com/taf-article/52-outer-article/114-apd5rtaf-iris-t.html

Smart Proximity Fuze ก็มีความจำเป็น เนื่องจากอาวุธนำวิถี IRIS-T มีขีดความสามารถในการสกัดกั้นเป้าหมายได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน AWACS หรือ Tanker Aircraft, เครื่องบินขับไล่ทุกแบบ, เครื่องบินทิ้งระเบิดทุกประเภท, UAV, เฮลิคอปเตอร์รวมทั้งอาวุธนำวิถีด้วยกัน


1. มีระบบ tail controlled , Winged Airframe ที่มีการออกแบบอย่างลงตัวของ Aerodynamics และ Thrust Vector Control เพื่อความสามารถในการ Maneuver ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. ขนาด : ความยาว น้อยกว่า 3 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 127 มิลลิเมตร น้ำหนัก น้อยกว่า 90 กิโลกรัม
3. ความสามารถในการ Direct Hit ได้อย่างแม่นยำ
4. สามารถเลือกเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
5. มีขีดความสามารถในการสกัดกั้นอาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ และ พื้นสู่อากาศ
6. Warhead มีขนาดใหญ่ซึ่งมีค่า Kill Probability สูง
7. อัตราการติดตามเป้าหมายสูง
8. มีระบบ Infrared Seeker ที่ให้ค่า Look Angle ± 90 degrees9. มีระบบ Image Processing ที่มีประสิทธิภาพสูง
10. สามารถใช้งานร่วมกับ Helmet-mounted Cueing
11. มีขีดสามารถความสามารถในการLock-on after Lunch
12. มีขีดสามารถความสามารถในการต่อต้าน IRCM และ DIRCM13. สามารถติดตั้งแทนอาวุธนำวิถีตระกูล Sidewinder ได้    

ปล. รู้แล้วไม่ต้องเอาไปคุยมากก็ดีนะครับ  โดยเฉพาะใน  Board ต่างประเทศ เก็บบ้างอะไรบ้างครับ  

โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 19/03/2012 15:13:29


ความคิดเห็นที่ 28


ผมเล็งๆความสามารถของ E-3A AWACS  เพดานบิน 30000 ฟิต เรดาร์ตรวจจับที่รัศมี 400 กิโลเมตร (น่าจะคลุม 480,000 ตร กม.)จากระดับพื้นดินจนถึงห้วงอากาศระดับสูง

กิจกรรมใดๆ แทบไม่มีหลบรอดสายตาเอแว็คไปได้ ดังนั้นเมื่อประสานกับ F-22 3 เครื่อง ยิงเป้าหมายที่ 120 กม. ขึ้นไปด้วย แอมแรมทั้ง 18 ลูก แล้วไปทำอย่างอื่นต่อตามแบบเครื่องบินครองอากาศ  ผลเป็นอย่างไรให้ เอแว็คเช็คดู ว่าต้องตามซํ้าไหม ^^

โดยคุณ pipat2000 เมื่อวันที่ 19/03/2012 17:13:05


ความคิดเห็นที่ 29


สมมุติว่าเอแว็คเช็คว่ามีเหลือรอด ก็หันหัวไปซํ้าแบบประจัญบานแต่สเตลธ์และปิดเรด้าร์ แต่ดาต้าลิงก์เข้าไปยิงด้วย AIM-9X โฮ่ๆๆๆ อิอิ^^  

โดยคุณ pipat2000 เมื่อวันที่ 19/03/2012 17:24:05


ความคิดเห็นที่ 30


ทีนี้ฝั่งฝูง JAS 6 เครื่อง เมื่อรู้ตัวว่ามีอาวุธนำวิถีวิ่งเข้ามาจำนวนมาก คงไม่ต่อสู้ด้วยไอริชที แต่ดูท่าทางแล้วใส่อ๊าฟเตอร์เบิร์นโกยหนีก่อนดีกว่า เมื่อพ้นระยะแล้ว ค่อยบินกลับมาค้นหา F-22 ใหม่

โดยคุณ pipat2000 เมื่อวันที่ 19/03/2012 17:31:58


ความคิดเห็นที่ 31


จากกระทู็ใน Pantip นะครับ 

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11850018/X11850018.html

พอสรุปเรื่อง Iris-t ได้ดังนี้ครับ


ผู้เขียนคิดว่าคาดว่าสกัดกั้นได้เพียง Cruise Missile  และมี VDO โปรโมทจาก บ.ผู้ผลิต ซึ่งก็น่าจะแสดงว่าทดสอบกับ Cruise Missile  มาจริง ๆ แล้ว
ส่วนการยิงสกัดจรวด A2A หรือ S2A ยังเป็นเพียงแค่คำเครมของบริษัทผู้ผลิตครับ ลองดูเอกสารจากเว็บผู้ผลิตตาม link นี้ก็ได้ครับ  

http://www.diehl.com/fileadmin/diehl-defence/user_upload/flyer/2009_Flyer_IRIS-T_EFA_0509.pdf

ทาง admin TAF ก็เลยน่าจะดัดแปลงข้อมูลเพื่อ ให้ตรงก้บข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิต

ส่วนทำได้จริง ๆ ตามที่ผู้ผลิตคุยไว้หรือเปล่า คงต้องรอการทดสอบจริง ๆ อีกทีครับ  



 


โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 20/03/2012 08:53:09


ความคิดเห็นที่ 32


คุณ logieng

แล้ว IRIST -T แบบ E-A มีรุ่นไหนบ้างครับ กรณีที่จะใช้ยิงสกัดจากภาคพื้น หรือเรือรบครับ

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 20/03/2012 09:21:59


ความคิดเห็นที่ 33


สรุปคุณลักษณะและขีดความสามารถของอาวุธนำวิถีIRIS-T ได้ดังนี้
1. มีระบบ tail controlled, Winged Airframe ที่มีการออกแบบอย่างลงตัวของ Aerodynamics และ
Thrust Vector Control เพื่อความสามารถในการ Maneuver ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. ขนาด : ความยาว น้อยกว่า 3 เมตร
เส้นผ่าศูนย์กลาง 127 มิลลิเมตร
น้ำหนัก น้อยกว่า 90 กิโลกรัม
3. ความสามารถในการ Direct Hit ได้อย่างแม่นยำ
4. สามารถเลือกเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
5. มีขีดความสามารถในการสกัดกั้นอาวุธนำวิถีประเภท Cruise Missile
6. Warhead มีขนาดใหญ่ซึ่งมีค่า Kill Probability สูง
7. อัตราการติดตามเป้าหมายสูง
8. มีระบบ Infrared Seeker ที่ให้ค่า Look Angle ± 90 degrees
9. มีระบบ Image Processing ที่มีประสิทธิภาพสูง
10. สามารถใช้งานร่วมกับ Helmet-mounted Cueing
11. มีขีดสามารถความสามารถในการ Lock-on after Lunch
12. มีขีดสามารถความสามารถในการต่อต้าน IRCM และ DIRCM
13. สามารถติดตั้งแทนอาวุธนำวิถีตระกูล Sidewinder ได้


http://www.apd5rtaf.org/pdf/IRIS-T.pdf

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 20/03/2012 11:10:57


ความคิดเห็นที่ 34


ถ้าเจอกันจริง ๆๆ ก็ จบข่าวโรงเรียน มะกัน

โดยคุณ arcobaleno เมื่อวันที่ 20/03/2012 13:50:29


ความคิดเห็นที่ 35


มี  IRIS-T SL กับ IRIS-T SLS ครับ  แต่เท่าทีทราบคือมีแต่ระบบบนบกครับ ยังไม่มีในเรือ 

http://www.diehl.com/en/diehl-defence/products/guided-missiles/iris-t-guided-missile-family/iris-t-sls.html
http://www.diehl.com/en/diehl-defence/products/guided-missiles/iris-t-guided-missile-family/iris-t-sl.html

โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 20/03/2012 14:17:44


ความคิดเห็นที่ 36


แค่ตัวๆ f-22 ก็ล่อกริพเพนขี้แตกพอดี กริพเพนเรดาร์รัศมีออกจะเล็กครับ สู้ไม่ได้ซักทาง ขนาดกริพเพนสู้กับเครื่องปกติที่ใหญ่กว่าอย่าง ซู หรือเอฟ-15 ยังไม่น่าจะรอดเลย

เรื่องความสเตลธ์ของ f-22 ผมว่าต้องขั้นเทพอยู่บ้างแหละครับ ไม่ได้จะบอกว่าสเตลธ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เดี๋ยวเอาบทความมาให้อ่านดีกว่าครับ จาก http://www.defenseindustrydaily.com/f22-raptor-procurement-events-updated-02908/

 

The F-22A offers full stealth, unlike the F-35 which has a very good radar profile from the front, a less stealthy profile from the sides, and a least stealthy profile from the rear quarter. Note that stealth is not invisibility. It merely shortens the range at which an aircraft can be detected by opponents on the ground or in the air, and makes radar lock for engagements harder to achieve and to keep. The F-22’s stealth level shortens those ranges considerably from all enemy positions, even those that use new VHF radars. See this surprising review from Red Flag “Colonial Flag” 2007, as an Australian exchange pilot offers his impressions:

“I can’t see the [expletive deleted] thing,” said RAAF Squadron Leader Stephen Chappell, exchange F-15 pilot in the 65th Aggressor Squadron. “It won’t let me put a weapons system on it, even when I can see it visually through the canopy. [Flying against the F-22] annoys the hell out of me.”

Note that an EA-18G aircraft has managed a radar-guided missile kill on an F-22 in combat exercises, so it can be done."

แปลอย่างหยาบๆ ละกันนะครับ ไม่ต้องละเมียดละไมมาก เอาแค่เข้าใจพอ

f-22 มีความเสตลธ์รอบด้าน ต่างจาก f-35 ซึ่งด้านหน้าตัดเรดาร์อย่างดี ด้านข้องเสตลธ์น้อยกว่าด้านหน้าเล็กน้อย และด้านท้ายเสตลธ์ต่ำสุด ย้ำว่า เสตลธ์ ไม่ได้แปลว่าล่องหนจริงๆ แต่หมายความเพียงว่าย่นระยะที่จะสามารถโดนตรวจจับ และทำให้การล็อกติดตามเป้าลำบากขี้น เจ้า f-22 ถือว่าลดระยะโดนตรวจจับอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้แต่กับเรดาร์คลื่นความถี่สูงสมัยใหม่ ดังในคำวิจารณ์ของนักบินแลกเปลี่ยนจากทอ.ออสเตรเลีย ในการฝึก "colonial flag" (red flag 2007)

"ผมไม่สามารถเห็น ไอ้ (หมายถึง f-22 แต่โดนเซ็นเซอร์ น่าจะเป็นคำหยาบมั้ง)" น.ต. สตีเฟน แชปเปล นักบิน f-15 แลกเปลียนประจำฝูงบินผู้กราน ที่ 65 (65th aggressor squdron) กล่าว "มันไม่ยอมให้ผมล็อกจรวดใส่ ถึงแม้ว่าผมจะเห็นเคริ้องผ่านคาโน้ปปี้ออกไปด้วยตาเปล่า (บินสู้กับ f-22 แล้ว)ประสาทจะรับประทาน"

* ขออธิบายเพิ่มเติมว่าฝูงบินผู้รุกรานนี้จะเป็นข้าศึกสมมุติไว้ฝึกเกมส์จำลองการรบของสหรัฐเค้า ลายก็จะทายแบบเหมือนของทอ. รัสเซีย โดยฝูง 65 ประจำด้วยเครื่อง f-15 น่าจะเอามาสมมุติเป็น ซู ทั้งหลาย

ของแจกแจงหน่อยว่าเครื่อง ea-18g ลำนึงประสบผลสำเร็จในการสอย f-22 ด้วย มิสไซล์นำวิถีด้วยเรดาร์ ในการซ้อมรบกับ f-22 ก็ตามที่บอกไปแล้วว่าเสตลธ์ไม่ได้เเปลว่าล่องหนจริงๆ (ea-18g เป็นเครื่องสงครามอิเล็กโทรนิกส์)

โม้ต่อ/  f-22 ความจริงก็มีการลดความร้อนหลากหลาย ทั้ง jet-wake และ ไอพ่นเอง ดังนั้นจึงสามารถหลบเลี่ยง ระบบ IRST และจรวด heatseeker ได้ดีกว่าเครื่องทั่วไป และถ้า f-22 มันไม่ได้เจ๋งอะไรมากมาย สหรัฐคงไม่หวงหนักหนาขนาดพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นกับออสเตรเลียก็ไม่ขายให้หรอกครับ

 

 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 20/03/2012 16:09:28


ความคิดเห็นที่ 37


ส่วนของผมว่าต่อด้วยเรื่อง E-3 Sentry ออกปฏิบัติการครั้งแรกในสงครามอ่าวเปอร์เซีย โดยปฏิบัติภารกิจทั้งหมด 400 ครั้งรวม 5,000 ชม. และชี้เป้าให้เครื่องบินของพันธมิตรยิงเครื่องบินของอิรักตกทั้งหมด 38 เครื่องจาก 40 เครื่อง

มันสามารถบินติดต่อกันได้นาน 8 ชม. หรือ 4,000 ไมล์ และสามารถรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ

มี IFF,ESM ควบคุมดูแลการปฎิบัติการทางอากาศส่วนหน้า สามารถตรวจจับ จ่ายข้อมูลเป้าให้เครื่องบินขับไล่ทำการยิงจรวดโดยเครื่องบินขับไล่ไม่จำเป็นต้องเปิดเรด้าร์ของตนเอง ผ่านดาต้าลิงก์

คัดมาจาก http://isaf702.exteen.com/20101114/awacs

 

จับคู่กับเครื่องบินขับไล่สเตลธ์ แบบหลักสูตรหนึ่งของอเมริกัน ชนิดที่ตรวจจับโครตยาก

 

จึงเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ ไร้เทียมทานจริงๆคู่นี้^^

โดยคุณ pipat2000 เมื่อวันที่ 20/03/2012 16:42:29


ความคิดเห็นที่ 38


จริงๆ ต้องบอกว่าฝ่าย F-22 ไงๆเค้าก็ได้เปรียบกว่า Jas-39 ของเราครับ เค้า้ยิงไกลกว่า เร็วกว่า ตรวจจับได้ไกลกว่า แถมยังล่องหนอีก นี้คือความจริงที่เราเห็นๆกันอยู่(ผมไม่คิดว่าเราจะมีอะไรที่เป็นเทคโนโลยี ที่ดีกว่าเค้าอะ) การใช้ยุทธวิธีต่างๆคิดว่า F-22 เค้าก็ใช้ได้เหมือนกัน ถ้าจะสู้แบบชาวบ้านบางระจัน คงหมดฝูงก่อนจะสอย F-22 ตกสักลำนะผมว่า แต่ถ้าใช้ ยุทธวิธีแบบเวียดนามเหนือใช้ คิดว่ายังพอสอย F-22 ตกได้บ้าง นั้นคือ เจอแล้วหนีเข้าพื้นที่ควบคุมครับ(แบบ mig-17,-21 ในสงครามเวียดนาม ที่ต้องสู้กับ F-4) ถ้ายังตามมาก็จัดพวกเข้ารุม ไม่ก็ให้ sam จัดการ เพราะจริงๆเครื่อง mig เค้าเน้นไปที่การโจมตีเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องโจมตีมากกว่า พอต้องมาเจอเครื่องขับไล่เค้าก็หนี จุดสำคัญเลยก็คือ F-4 ดันไปกลัวรูปแบบนี้ซะด้วย จะตามไปเจอ sam สุ่มแน่ๆ(ไทยเรามีไหมละนี้ sam ที่สามารถใช้ได้กับยุทธวิธีแบบนี้) ทำให้เวียดนามเหนือไม่เสียสมดุจในการครองอากาศไป ไม่เช่นนั้น mig คงไม่เหลือซักลำในเวียดนามเหนือแน่


โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 23/03/2012 14:18:14


ความคิดเห็นที่ 39


นี้เป็นคำถามที่ไม่น่าจะตอบจริงๆ เพราะมันเห็นๆกันอยู่ แต่ผมเห็นด้วยกับท่าน potmon น่ะ เพราะถ้าผมเป็นเสนาธิการผมก็จะไม่เอานักบินเราไปเสี่ยงกับเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าไม่มีแผนการรองรับอย่างดี ซึ่งบางครั้งในการรบเราไม่จำเป็นต้องรบกับจุดแข็งที่สุดของศัตรูน่ะครับ รอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมเข้าตีโต้กลับก็ยังไม่สายน่ะครับ

โดยคุณ Odin เมื่อวันที่ 24/12/2013 11:44:52