ท่านเคยสงสัยมั๊ย.................. ขณะที่มะกันเดินเครื่องพัฒนาเรือบินรบยุคที่ห้า แบบฟลูลสเต้ลท์เออเบลิตี้ แต่ไหง ชาติยุโรป ยังคงเดินหน้าพัฒนาเรือบินรบยุคที่สี่ขนานกันไป ทั้งราฟาลและ ยูโรไต้ฝุ่น  .......... หรืออีกกรณี  โครงการพัฒนาอลังการแร้ปเตอร์แล้วเสร็จ ที่ เอฟ-๑๕ อี ก็ยังดำเนินการในสายการผลิตเป็นล่ำเป็นสัน..................................  ทีนี้ชัดเจนหรือยัง ...................สองภาพนี้ไขกระจ่างแจ้งแดงแจ๋............ เอฟ-๑๖ มิก-๒๙ ซู-๓๐ กริเป้น ไต้ฝุ่น ราฟาล ยังทำมาหากินได้อีกนานแสนนาน  ยากที่พวกสเตวท์เหล่านี้จะลบรอยลงอย่างสนิท....................... ผมไม่เถียง  ในภารกิจ อินเตอร์เซปทชั่น ที่ไม่ไกลจากฐานบิน   พวกพระกาฬเหล่านี้ คือพยัคร้ายซุ่มเงียบยากที่ใครต่กร ด้วยคุณสมบัติล่องหน.....................แต่......................... คราใดที่ต้องครองอากาศไกลไปในทิศทางลึก  แม้ภายนอกลำตัวไม่มีอาวุธติด แต่ด้วยขีดจำกัดทางกายภาพ เจ้าล่องหนก็ยังต้องกระเตงถังน้ำมัน บินวนร่อนเหนือบริเวณเป้าหมาย  ................. คุณสมบัติล่องหนหายไปแล้วครึ่ง........................  เช่นเดียวกัน  ในสถานะเครื่องบินพหุบทบาท  ภารกิจโจมตีขัดขวาง แน่นอนที่สุด ระเบิดจรวดหลายสิบตัน ไม่มีทางยัดใส่ในท้อง มันจะต้องห้อยต่องแต่งอยู่ข้างนอก ก็อีกแหล่ะ  คราวนี้ คุณสมบัติเสต้วท์อาจหายมากกว่าครึ่ง...........................................  บางที หากไม่พิจารณาให้ดี  คำว่าล่องหนก็เหมือนกับแหกตา..................................... นี่เป็นคำตอบว่า ขณะที่อเมริกาพัฒนาไฟเตอร์สเต้วท์  แต่ฝรั่งเศส ยุโรป รัสเซีย ก็เฉยๆกับเทคโนโลยี่นี้....................... ส่วน ที-๕๐ และ สเต้วท์จีน  อาจเป็นการพัฒนาในเชิงสัญลักษณ์    คือ กึงทำได้ มูก็ทำได้ ........................ แต่กระดูกสันหลังของพวกเขาเหล่านั้น ก็ยังเป็นเครื่องบินธรรมดาๆ ที่ไม่เน้นเรื่องล่องหน

ไม่ซ่อนใต้ลำตัวเหมือนแรพเตอร์หรอเนี่ย...
คุณสมบัติล่องหนจะลดลงไม๊อ่า...เหลี่ยมเพิ่มมาพอควร
แต่คงชดเชยด้วยเรดาร์+อาวุธพิสัยไกลได้มั้ง...เจอก่อนยิงก่อน...

load ใต้ท้องได้ครับ

แบ้สก็ติดกับไพลอนข้างนอกได้ด้วย

  จากความเห็นพี่กบ   ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เขาอาจจะก้าวข้าม เครื่องบินรบยุคที่ 5 ไปสู่ยุคที่ 6 เลยก็ได้ครับ 

 เพราะมีโครงการร่วม ระหว่าง Dassault และ BAE System  ในการสร้าง UCAV  ตอนแรกคิดว่าจะเอามาใช้ เสริม พวกกำลังทางอากาศหลัก อย่างเครื่องบินที่ใช้คนขับ  แต่เขาจะเอามาทดแทน RAFALE และ Typhoon ด้วยนี่สิครับ  และฝรั่งเศส และ อังกฤษ ไม่มีโครงการที่จะสร้างเครื่องบินรบยุคที่ 5 ใช้เองด้วย 

  หรือว่า กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค UCAV  กันแล้วเนี่ย

  F-35  ถึงจะบรรทุก จรวดภายนอกลำตัว ผมก็ยังคิดว่า มันก็ยังมีคุณสมบัติ Semi-Stealth อยู่ครับ ถึงจะไม่ Full Stealth แบบตอนบรรทุกอาวุธในลำตัว

 เพราะว่า Rafale และ Typhoon   บรรทุกอาวุธภายนอกลำตัว  ก็ยังเป็น Semi-Stealth ได้

 และ อาวุธพวก จรวด BVR และ WVR(Dogfight Missile)  เดี๋ยวนี้มันก็ลด RCS แล้วด้วย  ผมว่า F-35 ถ้าบรรทุก แค่จรวด Air-to-Air อย่างเดียว ก็ยังตรวจจับได้ยากอยู่ครับ

  แต่ถ้าเป็น หิ้วถังน้ำมันใบใหญ่ๆ หรือ  ระเบิด Air-to-Ground พวก GBU ละก็  คงจะพอๆกับ Rafale และ Typhoon แน่ๆครับ เรื่อง RCS

Dassault, BAE To Work On Unmanned Fighter Jet Project - Report

French maker of business and fighter jets Dassault Aviation SA (>> DASSAULT AVIATION) and U.K. aerospace company BAE Systems PLC (>> BAE Systems plc) will start working on a joint prototype of an unmanned fighter jet to be ready in 2020, French newspaper Les Echos reported Thursday, citing sources close to the situation.

French President Nicolas Sarkozy and U.K. Prime Minister David Cameron will announce the project Friday after an official meeting, the newspaper said.

The project will have an investment of a few tens of millions of euros, according to the report. The new stealth jet would eventually replace both the Rafale and Eurofighter, Les Echos said.

Officials at Dassault or Sarkozys office weren immediately available to comment.

Newspaper Web site: http://www.lesechos.fr

ที่มา : http://www.4-traders.com/DASSAULT-AVIATION-5215/news/Dassault-BAE-To-Work-On-Unmanned-Fighter-Jet-Project-Report-14026470/

ตอบ ท่าน KOKO ครับ

 ถึงจะบรรทุกอาวุธภายนอกลำตัว นับเฉพาะจรวด BVR (AIM-120 Amraam)  กับ จรวด WVR ( AIM-9X Sidwinder)   โดยที่ไม่ได้หิ้วถังเชื้อเพลิงใบใหญ่ๆ หรือระเบิด Air-to-Ground ไปด้วย

  เครื่องมันก็มี คุณลักษณะแบบ Semi-Stealth อยู่ครับ  

  ผมว่า ยังไง ก็ยังตรวจจับได้ยากกว่า JAS-39 GRIPEN , RAFALE , TYPHOON ครับ    เพราะคุณลักษณะเครื่อง ที่ออกแบบมา ลดการสะท้อน เรดาร์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ

 F-35  จะบรรทุกอาวุธภายนอกลำตัวก็ต่อเมือสามารถครองอากาศได้แล้วครับ ซึ่งตอนนั้นไม่จำเป็นต้อง Full Stealth แล้ว

 F-35  จะFull Stealth ในภารกิจ SEAD หรือทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศข้าศึกจนง่อยพระรามไปเรียบร้อย ลองจินตนาการดูนะครับอยู่ๆระเบิดหล่นใส่หัวตูม จับอะไรไม่ได้เลย จะป้องกันยังงัย

ชาติยุโรป ผมมองว่าที่ยังไม่ทำอาจเพราะลงทุนเองอาจแพง ซื้อกับอเมริกาก็ได้ ซึ่งหลายชาติในยุโรปก็ซื้อ หรืออาจจะยังไม่จำเป็นกับภัยคุกคาม  ณ ตอนนี้ผมยังมองไม่เห็นว่าใครจะล้มชาตินาโต้ได้เลย

หวังใจว่า อิหร่านคงไม่ใช่ที่ทดสอบ ขั้นสูงในรูปแบบสงครามจริงหรอกนะครับ

ที่จริงแล้วF-22 พัฒนาปรับเปลี่ยนเพิ่มรูปแบบภาระกิจยังจะน่าใช้มากกว่า ขนาดรูปทรงพอๆกับ PAK FA

แต่ถ้าพูดถึงรูปทรงที่ชอบแล้ว ยังหลงใหล YF-23 อยู่เสมอ

ก็จริงครับ.................เห็นด้วย

ตอบคุณ สเป็คซี่  ................ ถูกต้องครับ ................นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมทัพฟ้ามะกันจึงปลด เอฟ-๑๑๗ ออกจากการใช้งาน  นั่นก็คือ เปิดช่องทางให้เจ้า เอฟ-๓๕ ได้เกิด........................ ถ้าพิจราณา ห้วงของการโจมตี (ผมเคยได้เขียนไว้หลายตอนมาก) จะเห็นว่า การครองอากาศ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะขนเครื่องบินไปบินว่อนกันได้ .......................... ถ้าดูจากแพทเทิ่ลของเมกา จะเห็นว่า เมื่อก่อนจะเริ่มด้วยเจ้า เอฟ-๔ ไวล์วีเซ่ว และชไรค์ ภารกิจจัดการฐานเรดาร์ และตามด้วย เอฟ-ตองหนึ่ง จนบรรยากาศราบรื่นดี พญาอินทรีย์ กับพยาเหยี่ยวจะมารับช่วงต่อ.................. ในสงคราอ่าว อาวุธใหม่เมีการพัฒนา จนมาถึงยุคสเต้วท์  คลื่นโจมตีระลอกแรกเกิดขึ้นด้วยการมุดทะลุเงียบเชียบของเจ้าเหยี่ยวดำ เอฟ-๑๑๗ เสริมด้วยการโจมตีจากจรวดร่อน โตมาฮอว์ค บินมาจากทะเล   หลังจากข้าศึกถูกกระแทกด้วยหมัดเหวี่ยงทีเผลอ  ไวล์วีเซ่ว และจรวด ฮารม กับเหล่าอินทรีย์ สไตร์คอีเกิ้ลก็จะตามเก็บสแปร์.............................. เหล่านี้จะเห็นว่า บทบาทของการใช้การล่องหนจะมีในช่วงแรกๆ     หลังจากนั้น คงไม่จำเป็นแล้วหล่ะครับ  คือถ้าว่ากันตามจำนวนจัดหาแล้ว  มะกันอาจไม่ต้องจัดหนักขนาดนำเจ้า เอฟ-๑๑๗ เข้าแทนครบจำนวน เอฟ-๑๖ ดอกครับ    เอาแค่เท่าๆกับ เอฟ-๑๑๗ ที่ปลดไปก็พอแล้ว........................

แก้ไขครับ....................      นำเจ้า เอฟ-๓๕ เข้าแทนครบจำนวน เอฟ-๑๖ ดอกครับ    เอาแค่เท่าๆกับ เอฟ-๑๑๗ ที่ปลดไปก็พอแล้ว.