หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


โครงการ อัพเกรด เรดาร์ AESA ของ สิงคโปร์ กับ F-16C/D Block 52

โดยคุณ : TOP SECRET เมื่อวันที่ : 18/02/2012 00:43:53

 

Singapore: AESA Radar Competition Heats Up

SINGAPORE — A competition pitting Northrop Grumman against Raytheon to supply Active Electronically Scanning Array (AESA) radars for retrofits for F-16 fighter upgrade programs in South Korea and Taiwan is heating up at the Singapore Airshow.

Northrop received official permission from the U.S. government to submit proposals to sell the Scalable Agile Beam Radar (SABR) to South Korea for 135 KF-16C/D Block 52 fighters and to Taiwan for 146 F-16A/B Block 20 fighters. The SABR is facing off against the Raytheon Advanced Combat Radar (RACR), which received an export license in 2008.

A DSP-5 export license was issued in January, said Joseph Ensor, Northrop’s ISR and Targeting Systems vice president and general manager. The license allows for the release of technical information and other data to a foreign country. The DSP-5, authorized by the U.S. State Department, is the first step in the Foreign Military Sales (FMS) program managed by the U.S. Defense Security Cooperation Agency (DSCA).

“You can’t provide a proposal without a DSP-5 license, but within the DSP-5 there are provisos that limit the release of some sensitive data,” said Raytheon’s Jim Hvizd, vice president of International Strategy and Business Development. The U.S. Congress, under FMS guidelines, must then approve the sale before going forward.

“We look at it pragmatically that we fully comply with U.S. regulations,” Hvizd said. “We had a license to take it to South Korea to demonstrate.”

In some ways, Raytheon’s possession of a DSP-5 since 2008 has given it advantages over Northrop. In addition, Raytheon’s earlier AESA radar, the APG-63(V)2, is the only AESA radar to have been equipped on Lockheed’s F-16 Falcon, as well as Boeing’s F-15 Eagle and F/A-18 Hornet.

“Our users have already used our earlier AESA radars in combat, which has added capability to RACR,” Hvizd said.

Singapore was the first to get an AESA radar, the APG-63(V)3, for the F-15SG. Hvizd said that radar is being offered on the F-15 for South Korea’s FX-3 competition.

The winner of either of these competitions could create a “winner take all” effect for later competitions in both the international and U.S. markets, Ensor said.

“I do believe the first competitions will give the winner more confidence,” Hvizd said.

The stakes could be high with the Feb. 10 issuance by the U.S. Air Force of a request for information (RFI) on AESA retrofits.

 

  ที่มา : http://www.defensenews.com/article/20120216/DEFREG03/302160002/Singapore-AESA-Radar-Competition-Heats-Up?odyssey=tab|topnews|text|FRONTPAGE

 

   ก็คร่าวๆ  ก็มี เรดาร์ AESA ของ บริษัท Northrop Grumman ก็เสนอ SABR ( Scalable Agile Beam Radar ) ซึ่งเป็น เรดาร์ แบบ AESA ให้กับ สิงคโปร์

     และก็มีของ บริษัท Raytheon  เสนอ  Raytheon Advance Combat Radar (RACR)  ซึ่งเป็นแบบ AESA เช่นกัน  ในโครงการ อัพเกรด F-16 ของ สิงคโปร์

     แต่ไม่มีชื่อ เรดาร์ ของบริษัท Elta ของ อิสราเอล เข้าร่วมประกวดด้วยครับ

 

  ทั้ง Northrop Grumman และ Raytheon ต่างก็ทำ เรดาร์ เครื่องบินได้ดีทั้งคุ๋ครับ

 

   แต่ก็อยากรู้ข้อมูลทางเทคนิคของ เรดาร์ ทั้ง 2 แบบจังครับ ว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน พิสัยกวาดจับไกลกว่ากัน  ล็อคเป้าหมายได้พร้อมกันกี่เป้าหมาย

 





ความคิดเห็นที่ 1


เท่าที่อ่านดู มันเป็นการอัพเกรดของ ทอ.เกาหลีใต้ F-16 C/D กับ ทอ.ไตหวัน สำหรับ F-16 A/B โดยเป็นข่าวจากงาน สิงคโปร์ แอร์โชว์ หรือเปล่าครับ ?

A competition pitting Northrop Grumman against Raytheon to supply Active Electronically Scanning Array (AESA) radars for retrofits for F-16 fighter upgrade programs in South Korea and Taiwan is heating up at the Singapore Airshow

ไม่ใช่การอัพเกรดของ F-16 ของ สิงคโปร์...โดย สิงคโปร์ เป็นลูกค้ารายแรกที่ติดตั้ง เรดาร์ AESA แบบ APG-63(V)3 สำหรับ F-15 SG

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/02/2012 08:24:34


ความคิดเห็นที่ 2


พูดถึงเฉพาะตัว Radar นะครับ

Northrop Grumman SABR ( Scalable Agile Beam Radar ) กับ Raytheon Advance Combat Radar (RACR)  ทั้งคู่ต่างก็เป็น AESA เทคโนโลยีเหมือนกันครับ  เข้าใจว่า Function การทำงานและระยะตรวจจับน่าจะพอ ๆ กัน  รวมไปถึงพอ ๆ กับ AN/APG-68(V9) ของ F-16 MLUของเราด้วยครับคือ Max Range อยู่ที่ประมาณ 200 Km เพียงแค่ทั้ง 2 รุ่นสามารถทำงานได้เร็วกว่ามาก และทำงาน Mode A/A และ A/G ได้พร้อม ๆ กัน  หรือทำงานข้ามไปมาระหว่างTrack while scan(TWS) <-> Extended Range Search(ERS) ได้อย่างรวดเร็ว  นอกนั้นก็เป็นเรื่อง  Mean Time Between Failure ที่สูงกว่า Radar ธรรมทั่ว ๆ ไป ซึ่งจะทำให้การดูแลรักษาน้อยลงไปด้วยครับ

ข้อมูลของ APG-68(V9) ครับ  
http://www.es.northropgrumman.com/solutions/apg68/assets/APG68.pdf

โดยคุณ Logieng เมื่อวันที่ 17/02/2012 10:12:54


ความคิดเห็นที่ 3


เสียดาย MLU เรา เหมือนมันไม่สุด เลยได้ APG-68(V)9 มา

โดยคุณ shifty เมื่อวันที่ 17/02/2012 10:21:27


ความคิดเห็นที่ 4


  ขอบคุณครับ ป๋าจู ผมอ่านข้ามไปจริงๆ  เห็นรายชื่อ 2 ประเทศนั้น นึกว่าเป็นประเทศ ที่ได้รับเสนอ โครงการ อัพเกรดด้วย

 แต่ที่น่าสนใจก็คือ F-16A/B Block 20 ของ ทอ.ไต้หวัน ก็สามารถ อัพเกรดใส่ เรดาร์ AESA ได้  

ถ้าไม่มองเรื่องราคา F-16A/B Block 15 OCU  ก็น่าจะสามารถ อัพเกรด ใส่ได้ (หรือเปล่า) ครับ

  แต่แค่ อัพเกรดใส่ AN/APG-68(V)9 ก็หรูแล้วครับ ตอนนี้

 

  ต้องรอดูด้วยว่า โครงการ อัพเกรด ของ อเมริกา ที่จะอัพเกรด เรดาร์ AESA ให้กับ F-16 ที่ยังประจำการอยู๋ในกองทัพ เขาจะเลือกแบบ เรดาร์ จากบริษัทใด ครับ

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 17/02/2012 13:43:53