หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


โครงการ KDX-2A ของเกาหลี

โดยคุณ : neosiamese2 เมื่อวันที่ : 16/02/2012 07:00:07

ช่วงนี้ทางเกาหลีใต้ทุ่มเทให้กับโครงการ FFX batch-1  อยู่   แต่หลังจากจบใน batch-1 จำนวน 6 ลำแรกแล้ว   เกาหลีใต้จะเริ่มโครงการ KDX-2A  ซึ่งจะเป็นการพัฒนาเรือพิฆาต KDX-2 ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นครับ   โดยจะมีประสิทธิภาพอยู่ตรงกลางระหว่าง  KDX-2 กับ KDX-3  และทร.เกาหลีใต้ต้องการ 6 ลำเพื่อมาเสริม KDX-2  batch-1 ที่มีอยู่ 6 ลำ   ซึ่งตอนนี้มีแนวคิดอยู่ 4 แนวทางดังนี้

แนวทางที่ 1

    ปรับปรุงโดยใช้ระบบอำนวยการรบ  AGIS ชุดเล็ก  กับระบบเรด้าร์ SPY-1F  และยังคงใช้จรวด SM-2 block 3A  และ ESSM อยู่ต่อไป    ซึ่งแนวทางนี้ทร.เกาหลีใต้สนใจมากที่สุดครับ     เพราะประสิทธิภาพดีขึ้นมากแต่ก็ไม่เท่า KDX-3     โดยเฉพาะเรด้าร์  เฟสอะเรย์     แต่ท่าทีของอเมริกาไม่อยากถ่ายทอดให้   ขายน่ะยินดีขายให้ครับแต่ความรู้และเทคนิคไม่อยากให้      ยิ่งช่วงนี้อเมริกาแสดงท่าทีไม่ค่อยชอบนักที่เกาหลีใต้บุกตลาดค้าอาวุธอย่างหนัก  ซึ่งกระทบโดยตรงต่อตลาดค้าอาวุธของอเมริกาเป็นอย่างมาก   และการที่อเมริกาขาย SM-3 ABM ให้ญี่ปุ่นแต่ไม่ยอมขายให้เกาหลีใต้   ซึ่งเป็นเหตุให้เกาหลีใต้งอนแล้วไปร่วมมือกับรัสเซียผลิต KM-SAM หรือ S-400 เวอร์ชั่นเกาหลี    เพื่อต้องการเทคโนโลยีเรด้าร์ เฟสอะเรย์ 

แนวทางที่ 2

        ปรับปรุงโดยใช้ระบบอำนวยการรบของตนเองและระบบ KM-SAM  chelomae-2  เรด้าร์เฟสอะเรย์ที่ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากรัสเซีย  XDE-540K   แต่ประสิทธิภาพของลูกจรวดที่ได้แบบมาจาก 9M96E และ R-77 รุ่น พื้นสู่อากาศนั้นประสิทธิภาพยังไม่น่าประทับใจนัก    เพราะมีระยะยิงเพียงแค่ 40 กม. เท่านั้น  ซึ่งทางเกาหลีใต้วางแผนจะปรับปรุงให้มีระยะยิงไกลขึ้นเป็น 100-150 กม   และลดขนาดของจรวดให้มีน้ำหนักเบาลงซึ่งปัจจุบันหนักกว่า 400 กิโลกรัม   ซึ่งหนักกว่า ESSM แต่ระยะยิงแค่ 40 กม  ในขณะที่ ESSM  หนักประมาณ 250-260 กิโลกรัมแต่มีระยะยิงไกล 55 กม   

   แต่ลุกจรวดของ Chelomae-2 เป็นระบบแบบ hit-to-kill  แบบ แพรทิออต เพค 3 และ SM-3   ไม่ใช่เฉียดระเบิด     ซึ่งระบบแบบนี้ให้ผลต่อการทำลายสูงกว่า     แม่นกว่าว่าง่ายๆ  

   แต่ดูแล้วแนวคิดที่2นี้กลับจะทำให้ลดประสิทธิภาพของ KDX-2 ลงด้วยซ้ำครับ   เพราะยังไงก็ไม่ดีไปกว่า SM-2 block 3A  เลย   เพราะเทคโนโลยีที่มีอยู่ไม่เพียงพอ (อีกแล้วเหมือนประเทศไหนหว๋า)






ความคิดเห็นที่ 1


แนวทางที่ 3

       ใช้ระบบอำนวยการรบเอจีสชุดใหญ่และเรด้าร์ SPY-1D     แต่ประสิทธิภาพก็จะไปติดกับ KDX-3 และอเมริกาก็ไม่ขาย SM-3 ให้อยู่ดี   และทางเลือกนี้แพงมากจนยากที่จะทำตลาดลูกค้าต่างประเทศ   ซึ่งทางเกาหลีใต้และอเมริกากำลังเสนอระบบเอจีสชุดเล็กและ KDX-2A เป็นทางเลือกให้ทร.อินเดียอยู่ในโครงการเรือฟรีเกตเสตธ์ชุดใหม่     ความเป็นไปได้มีน้อยครับ

แนวทางที่ 4

      ใช้ระบบ APAR ของยุโรป    และคงต้องขอการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีจากฝั่งยุโรปด้วย   ซึ่งทางเกาหลีเอาระบบนี้มาเป็นทางเลือกเผื่อคุยกับอเมริกาไม่รู้เรื่อง    ซึ่งประสิทธิภาพน่าจะพอๆกับระบบเอจีส เล็ก   แต่ KDX-2A คงต้องไปใช้ ASTER-30 มั๊ง    เลยต้องอยู่ในสภาพเป็นรองเอจีสชุดเล็ก   เพราะจะทำให้ชุดทร.เกาหลีมีระบบจรวดและอำนวยการรบมากแบบเกินไป   แต่ถ้าปรับปรุงให้ใช้อาวุธร่วมกันได้ก็น่าจะทำได้ไม่ยากเกินไปนัก   นับว่าเป็นถ้าเลือกสำรองที่น่าสนใจสำหรับเกาหลีใต้

 

โครงการ KDX-2A น่าจะเริ่มราวๆปี 2020 – 2025    ซึ่งต้องรอให้ FFX batch-1 เรียบร้อยก่อน    ก็ต้องขอบอกเลยว่าคนเกาหลีใต้นี่มันดิ้นรนจริงๆ    เทคโนโลยีระบบเรด้าร์  ระบบอำนวยการรบ   ระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน  เป็นรองทั้งอเมริกา  รัสเซีย  อิสราเอล  จีน และญี่ปุ่น  

      ส่วนทางเรา   กว่าจะถึงเวลานั้นเรามาลุ้นว่าทร.ไทยของเราออกเรือฟรีเกตชุดแรกเองหรือไม่ครับ   ถ้าเป็นเรือที่ใช้ระบบเอจีสชุดเล็กได้  ไม่ว่าจะ Kหรือ F นี่จะเป็นการก้าวกระโดดครั้งแรกของทร.เราบ้าง   ฝันๆๆๆๆๆๆฝัน   ได้แต่เพ้อๆๆๆๆ…………………….

 



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 11/02/2012 12:20:53


ความคิดเห็นที่ 2


เราน่าจะมีความร่วมมือวิจัยอาวุธกับหลายๆประเทศนะครับ เกาหลีใต้ดิ้นรนจริงๆ

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 12/02/2012 08:35:54


ความคิดเห็นที่ 3


คุ้นๆว่าร่วมมือกับRATHEON ด้วยใช่ไหมครับ

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 13/02/2012 10:04:37


ความคิดเห็นที่ 4


ไทยเราน่าจะลองขยายเเบบจากเรือopvดูนะครับ  ไม่น่าจะเกินความสามารถส่วนระบบต่างๆก็ใช้ของสวีเดน เอาซัก 3600 ตันดูก่อน เพราะ ร.ล.กระบี่ก็เกือบ 2000ตันเเล้ว....

โดยคุณ กลับสู่สามัญ เมื่อวันที่ 13/02/2012 10:32:02