หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ข้อมูลใหม่ : เวียดนามเสือซุ่มตัวจริง ซ่อน Su ป้ายแดง 20-30 ลำ

โดยคุณ : top4 เมื่อวันที่ : 03/02/2012 11:48:43

ข้อมูลใหม่: เวียดนามเสือซุ่มตัวจริง ซ่อน Su ป้ายแดง 20-30 ลำ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2555 00:53 น.    

 

เจ้าหมายเลข 8531 ลำนี้คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะเป็นจ่าฝูงบินนำหน้าเสมอเมื่อขึ้นจากฐานทัพอากาศฟานราง ในภาคกลางตอนล่างเวียดนาม เป็น SU-30MK2 หนึ่งใน 4 ลำแรกที่ได้รับมอบในปี 2547 หมายเลขซีรีส์นี้ไปด้วนลงที่ 8534 หรือลำที่ 4 ในลอตเดียวกัน แต่สัปดาห์ต้นเดือน ม.ค.นี้สื่อกลาโหมในรัสเซียได้เผยแพร่ภาพ Su-30 ลอตใหม่อีก 8 ลำ เป็น MK2V ที่มีหมายเลขตั้งแต่ 8535 ขึ้นไปจนถึง 8542 ซึ่งเมื่อรวมากับ 4 ลำแรกก็จะเป็น 12 แต่นักวิเคราะห์ในรัสเซียกล่าวว่า เวียดนามได้รับมอบไปมากกว่านั้น จนถึงสิ้นปีอาจจะได้ไปแล้ว 20-30 ลำ ซึ่งหมายความว่าหมายเลขประจำเครื่องจะต้องวิ่งขึ้นไปจนถึง 8560 หรือ 8570 หรือกว่านั้น ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงเวียดนามซ่อนเครื่องบินรบจำนวนที่เหลือเอาไว้ที่แห่งใด? หรือทั้งหมดคือความลับทางทหาร.
       
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- บรรดาผู้รู้เรื่องดีในรัสเซียยังคงขัดแย้งกันเกี่ยวกับจำนวนเครื่องบินรบที่กองทัพอากาศได้รับส่งมอบจากผู้ผลิตในรัสเซีย ตัวเลขจากบางแหล่งบอกว่า จนถึงสิ้นปี 2554 เวียดนามได้รับไปแล้วทั้งหมด 16 ลำ ขณะที่อีกหลายแหล่งระบุว่ามี 20 ลำ เป็นอย่างน้อย และกำลังจะส่งมอบอีกลอตหนึ่งในปีนี้
       
       หากตัวเลขเหล่านี้ถูกต้องก็เป็นปริศนาว่า เวียดนามทำอย่างไรกับเครื่องบินรบใหม่ป้ายแดงเหล่านี้ หรือ เก็บไว้ที่ใดจึงปิดเป็นความลับได้มิดชิดขนาดนี้
       
       แต่ไม่ว่าจะกี่ลำก็ตาม นายแอนตัน เชร์นอฟ (Anton Chernov) นักวิเคราะห์การเมืองด้านกลาโหมในรัสเซียกล่าวว่า Su-30MK2V ที่ซูคอยผลิตตามความต้องการของเวียดนาม ปัจจุบันเป็นเครื่องบินรบทันสมัยที่สุดในเอเชีย เหนือกว่ารุ่นที่จำหน่ายให้จีนและมาเลเซียก่อนหน้านี้
       
       นายเชร์นอฟได้อ้างข้อมูลของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเกี่ยวกับระบบควบคุมและระบบอาวุธที่ติดตั้งให้กับ Su-30MK2 ภายใต้รหัส "V" ของเวียดนาม มีความแตกต่างจาก Su-30MK2 ที่จำหน่ายให้กับประเทศอื่นๆ ก่อนหน้านี้ รวมทั้ง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ แอลจีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบควบคุมการบิน ระบบนำร่อง รวมทั้งระบบต่อต้านการรบกวนด้วยถี่สูงของฝ่ายข้าศึก ที่เรียกกันว่าระบบต่อต้านการรบกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ECM (Electronic Countermeasure)
       
       "โดยติดตั้งระบบที่ก้าวหน้าต่างๆ เหล่านี้ กองทัพอากาศเวียดนามจึงได้รับ Su-30 รุ่นที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย" นายเชร์คอฟ เขียนลงในเว็บไซต์ข่าวกลาโหมรัสเซียในวันอังคาร 31 ม.ค.นี้
       
       ถึงแม้ค่ายนาโต้จะจัดให้ Su-27 หรือ "แฟล็งเคอร์" (Flanker) อยู่ในระดับเดียวกับ F-15 ของค่ายสหรัฐฯ แต่ Su-30 หรือ "แฟล็งเคอร์-จี" ที่พัฒนามาเป็นแบบ 2 ที่นั่ง กับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ให้ความเร็วมากกว่าเดิม ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทันสมัย และติดตั้งอาวุธร้ายแรงต่างๆ ได้มากกว่าเท่าตัว จึงทำให้ Su-30 เป็นเครื่องรบอีกรุ่นหนึ่งโดยสิ้นเชิง
       
       แล้วในตอนนี้เวียดนามมีกี่ลำกันแน่?
       
       ถึงแม้จะมีรายงานหลากหลายเกี่ยวกับการซื้ออาวุธของกองทัพเวียดนาม ในนั้นก็ยังมีความลับมากมายเช่นกัน เป็นเรื่องยากที่จะรู้ข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด นอกเสียจากจะต้องจ้างสายลับหรือจ้างหน่วยจารกรรมล้วงความลับให้เป็นเรื่องเป็นราว
       
       นายเชร์คอฟอ้างข้อมูลของกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า เวียดนามแสดงความสนใจจะซื้อ Su-30 เพิ่มอีก 30 ลำ หลังจากส่งมอบครบทั้ง 12 ลำที่เซ็นซื้อในปี 2553 และถ้าหากซื้อเต็มจำนวนดังที่กล่าวมาแล้ว กองทัพอากาศเวียดนามก็จะมีเครื่องบินรบแบบต่างๆ ประจำการอยู่ทั้งหมด 253 ลำ
       
       จีนเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ซื้อ Su-27 จำนวน 27 ลำในปี 2535 ปีถัดมาเวียดนามทุ่มเงิน 200 ล้านดอลลาร์ซื้อ Su-27SK แบบที่นั่งเดี่ยว 5 ลำ กับ Su-27UBK แบบ 2 ที่นั่ง หรือ แฟล็งเคอร์-ซี (Flanker C) 1 ลำ โดยได้รับมอบทั้งหมดในวันที่ 5 เม.ย.2538 เป็น "ซู" รุ่นใหม่ 6 ลำแรกของเวียดนาม ต่อมาเดือน ธ.ค.2539 ก็ได้รับมอบ Su27SK อีก 2 ลำ กับ Su-27UBK อีก 4 ลำ

        2


ภาพตรงจากด้านหน้า ด้านบนและด้านข้าง ของ Su-30MK กับระบบอาวุธประจำกายที่หลากหลาย ซึ่งรุ่นที่ผลิตให้เวียดนามยังมีระบบจรวดต่อต้านเรือดำน้ำพ่วงเข้าไปด้วย รหัส MK2V บ่งบอกว่าเป็นรุ่นเฉพาะที่สร้างให้กับเวียดนาม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็น Su-30 รุ่นก้าวหน้าที่สุด ทันสมัยที่สุดในเอเชียปัจจุบัน.
        3
       สื่อกลาโหมของจีนเสนอข้อมูลลึกยิ่งกว่านั้น..
       
       หนังสือพิมพ์ของกระทรวงกลาโหมจีนระบุว่า วันที่ 12 พ.ค.2539 เวียดนามเซ็นซื้อ Su-27 อีกลอตหนึ่งเป็น SK จำนวน 2 ลำ กับ UBK อีก 4 ลำ และ วันที่ 10 ม.ค.2540 บริษัทผู้จัดจำหน่ายอาวุธและอากาศยานของกระทรวงกลาโหมรัสเซียคือ Komsomolsk Russia ได้ส่งมอบ Su-27SK ให้เวียดนาม 2 ลำ ซึ่งเวียดนามส่งไปประจำที่กองบิน 935
       
       อย่างไรก็ตามการส่งมอบลอตที่ 2 มีปัญหา Su-27UBK จำนวน 2 ลำ ที่กำลังนำส่งไปให้เวียดนามเสียหายย่อยยับ เนื่องจากเครื่องบินลำเลียงขนส่ง An-124 เกิดขัดข้องและตกลง เพียงไม่นานหลังบินขึ้นจากสนามบินเออร์คุตซ์
       
       ทั้ง 2 ลำ ที่เสียหายติดหมายเลข 8524 กับ 8525 ซึ่งต่อมาวันที่ 6 พ.ค.2541 รัสเซียจึงได้ส่งให้เวียดนามอีก 2 ลำ เป็น Su27PU หมายเลข 8526 กับ 8527
       
       รายงานของสื่อจีนดูจะไม่ผิดพลาด เพราะหากดูจากซีรีส์ที่ใช้เป็นหมายเลขเครื่องบินรบ Su-27 ในเวียดนาม ก็จะพบว่ามี 2 หมายเลข ขาดหายไปจากระบบคือ 8524 และ 8525
       
       สัปดาห์ต้นเดือน ม.ค.นี้ สื่อกลาโหมในรัสเซียนำภาพ Su-27 และ Su-30 กองทัพอากาศเวียดนามออกเผยแพร่หลายลำ ซึ่งมีทั้งหมายเลข 600+ สำหรับ Su-27 รุ่นแรกๆ และ 582+ สำหรับ SU-27UBK คือ 5820, 8521, 8522, 8523 และ 8526, 5827, 8528 กับ 8529 จากนั้นจึงข้ามไป Su-30MK2 กับ MK2V ทั้งหมด
       .....................
       
       ตามรายงานของสื่อในรัสเซีย เวียดนามเริ่มซื้อ SU-30 ในปี 2546 โดยวันที่ 11 พ.ค.เซ็นซื้อ 4 ลำ เป็น MK2 เครื่องบินรบอเนกประสงค์ 2 ที่นั่ง สำหรับนักบินและพลปืนซึ่งทำหน้าที่บังคับอาวุธต่างๆ และ มีการปรับปรุงระบบสื่อสารใหม่ ต่อมาเดือน พ.ย.2547 เวียดนามก็ได้รับมอบครบทั้ง 4 ลำ
       
       ทั้ง 4 ลำ คือ หมายเลข 8531, 8532, 8533 และ 8534 ประจำการที่ฐานทัพอ่างกามแรง (คัมราน) เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะมีภาพเผยแพร่อยู่บ่อยๆ
       
       ต่อมาเดือน ม.ค.2552 เวียดนามเซ็นซื้อ Su-30 อีก 8 ลำ เป็น "MK2V" ทั้งหมด ซึ่งอักษร V บ่งบอกการเป็นรุ่นจำเพาะของเวียดนามซึ่งติดตั้งระบบต่างๆ รวมทั้งระบบอาวุธ เน้นการโจมตีและป้องกันทางทะเลเป็นหลัก (เช่นเดียวกับ MK2I ของอินเดีย และ MK2M ของมาเลเซียที่ติดตั้งอุปกรณ์แตกต่างกันไป ตามวัตถุประสงค์)

        4


สองลำในภาพข้างบนเป็นเจ้าหมายเลข 8534 กับ 8542 คือลำสุดท้ายของลอตที่ 1 กับ ลำสุดท้ายของลอตที่ 2 รวมเป็น 12 ลำ และนี่คือจำนวนที่มีการเปิดเผยผ่านสื่อ แต่ที่ผู้เชี่ยวชาญในรัสเซียบอกว่าจนถึงสิ้นปี 2554 เวียดนามได้รับไปแล้ว 16 ลำ ไม่ใช่ 12 ขณะที่แหล่งข่าวอีกหลายแหล่งบอกว่า จำนวนที่ส่งมอบอยู่ระหว่าง 20-30 ลำทีเดียว แต่เวียดนามปิดเรื่องนี้อย่างมิดชิด รวมทั้ง 8 ลำที่ได้รับกลางปีที่แล้ว และไม่เคยเป็นข่าวมาก่อน การส่งมอบดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดกับจีนกำลังพุ่งสูง.
        5
       
       ตามรายงานของสำนักข่าวในรัสเซียก่อนหน้านี้ บริษัทผู้ผลิตได้ส่งมอบ SU-30MK2V ที่เซ็นซื้อในปี 2552 ให้เวียดนาม ในช่วงกลางปี 2554 แบ่งเป็น 2 ลอตๆ ละ 4 ลำ นั่นคือช่วงที่กำลังตึงเครียดกับจีนและไม่เคยมีรายงานเรื่องการส่งมอบเครื่องบินทั้ง 8 ลำมาก่อน
       
       ต่อมาในเดือน ธ.ค. ก่อนสิ้นปีไม่กี่วันรัสเซียส่งมอบอีก 4 ลำ เป็นลอตที่สั่งซื้อในปี 2553 ซึ่งทำให้เวียดนามมีเครื่องบินรบทันสมัยรุ่นนี้เป็นทั้งหมด 16 ลำ
       
       อย่างไรก็ตาม นายเชร์คอฟได้อ้างแหล่งข่าวกลาโหมในรัสเซียหลายคนซึ่งยืนยันว่า จนถึงสิ้นปี 2554 เวียดนามได้รับมอบ Su30-MK2 กับ Su-30MK2V ไปแล้วระหว่าง 20-30 ลำ ไม่ใช่ 16
       
       ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ผู้บริหารของซูคอยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์เมื่อต้นปีนี้ระบุว่า เวียดนามมีแผนจัดซื้อ Su-30 ทั้งหมด 44 ลำ หรือ "3 ฝูง +++" ภายในปี 2558
       
       แต่สำนักข่าวกลาโหมในญี่ปุ่นได้รายงานในช่วงปลายปีที่แล้ว อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในบริษัทซูคอยที่ระบุว่าผู้ผลิตได้เสนอให้เวียดนามเปลี่ยนจาก Su-30 เป็น Su-35 แทนในลอตที่เหลือ เพื่อให้มีเครื่องบินรบทันสมัยล้ำยุค หรือ "ยุคที่ 4" ไว้ประจำการ
       
       ยังไม่มีผู้ใดทราบการตัดสินใจของเวียดนามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตลอดจนข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องบินรบที่ได้รับมอบแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับอาวุธกับการกลาโหมยังเป็นความลับอยู่เสมอ.




ความคิดเห็นที่ 1


ท่าเป็น เรื่องจิง.....  ไทยเราควร จัดซื้อ F15 F35  Typhoon  มาถ่วงเวียดนามบ้างนะสัก1-2ฝูง(เพิ่มกองบิน โจมตีทางลึก+ครองอากาศ)  ถึงเราจะไม่ได้รบกับเวียดนาม  แต่การมีเครื่องบินเชิงลุก มาก อาจเพิ่มการ ละแวง ให้เรา ด้วยเลยนะเนีย


 

โดยคุณ cananac11 เมื่อวันที่ 31/01/2012 14:37:01


ความคิดเห็นที่ 2


   เห็นตอนเราจะซื้อ SU-30 MKT เห็นสื่อนี้มันด่าแล้วด่าอีกว่ากระจอก   พอเป็นเวียตนามซื้อกลับชอบว่าเลอเลิศเอาไงแน่  ดีหรือไม่ไดี   ผมน่ะขาเชียร์ SU-30 แฟนตัวจริงคนหนึ่งเช่นกันครับ

   ยังยืนยันความคิดเดิมครับว่าถ้าเวียตนามจัดหาอาวุธราคาแพงมหาศาลแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ   เงินที่จะต้องใช้ในการพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจและพลังทางอุตสาหกรรมก็จะยิ่งช้าลงไปเรื่อยๆ   เพราะเป็นการจัดหาโดยแทบจะไม่มีผลตอบแทนในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี  รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมประเภทนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศเลย   ถ้าจะให้กองทัพเราจัดหาอาวุธด้วยรูปแบบอย่างนี้เช่นกัน  ขอบายดีกว่าครับ

 

  ถ้ายึดโมเดลแบบเกาหลีใต้  ไต้หวัน   แบบนั้น OK. ครับ  เยึ่ยมกว่า  ขายอาวุธได้เงินอีกด้วย   แถมยังมีโครงสร้างทางอุตสาหกรรมสำหรับการพัฒนาไปตามความต้องการของตนด้วย 

   ถ้ามานั่งอิจฉาเวียตนามด้วยข่าวแบบนี้   ผมว่าเรามาเริ่มโครงการพัฒนาเครื่องบินที่จะมาทดแทนทั้ง ALPHAJET  L-39 A-7  กันจะดีกว่า    จะซื้อแบบเขา จะร่วมมือกับบริษัทผลิตอาวุธชั้นนำก็ได้   TAI มีแล้ว   โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ก็พร้อมสำหรับการเพิ่มขีดความสามารถเพื่อผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน   โรงงานถลุงอลูมิเนี่ยมก็มี   เหลือแค่ว่าจะทุ่มเททำกันจริงๆหรือเปล่าเท่านั้นแหล่ะครับ   

  จะเลือกเอาเครื่องแบบไหนดีล่ะ    จากข่าวนี้   ถ้าเวียตนามจัดหา SU-30 คือ ความน่าภาคภูมิใจนักหนา   งั้นเราก็มาร่วมมือกับซูคอยผลิตและทำตลาด S-54 หรือ ลูกSU-30 น่ะเองดีกว่าไหมเจ๋งกว่าเยอะ   เพราะขายได้ด้วยอุตสาหกรรมอากาศยานของเราจะได้ก้าวกระโดด  

   หรือจะเอา Yak-130/M346 ๙ื้อสิทธิบัตรมาทำเองเลยดี  โมเองได้ดังใจ

   หรือจะเอา T-50 ก็ไม่เลว  ลูก F-16  พ่ออเมริกัน แม้เกาหลี

  หรือจะเอา MAKO 2000 ก็ดีจะได้มีลูกครึ่งไทย-เยอรมันใช้งาน   แถมทำตลาดขายโดยร่วมมือกับทางเยอรมันก็ไม่เลว

         ถ้าทำได้แบบนี้  เวียตนามจะซื้อสัก 100 เครื่องก็ชั่งหัวเขาสิครับ   แบบนั้นรัสเซียรวย  เวียตนามจน   จะเอาแบบเขาหรือ   แค่ค่าน้ำมันก็แทบล่มจมแล้วล่ะครับ      ผลิตเองใช้เอง จ้างงานคนในประเทศ  ยามสงครามมีใช้ไม่ขาดแคลนลูกหลานมีงานเงินดีทำ  แถมขายส่งออกได้  เอาเงินเข้าประเทศ  ทำให้อุตสาหกรรมก้าวกระโดดทันชาติพัฒนาแล้วจะไม่ดีกว่าบ้างหรือครับ 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2012 20:37:05


ความคิดเห็นที่ 3


แร็งส์! ครับ ท่านneosiamese2  (55+ ขอวิบัติสักคำเถอะ)

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 31/01/2012 21:20:17


ความคิดเห็นที่ 4


ขอกด like ด้วยคนครับ +100 เลย รอบบ้านเราจัดกันหนัก ๆ ทั้งนั้น ไม่มีใครรับประกันได้หรอกว่าเราจะฟาดปากกับข้างบ้านที่ไหนและเมื่อไหร่

 

โดยคุณ su50 เมื่อวันที่ 31/01/2012 23:52:35


ความคิดเห็นที่ 5


ผมมีปัญหากับคำว่า "การถ่ายทอดเทคโนโลยี" ไอ้ประโยคนี้มันเหมือนกับกรณี DTI-1 กับตัวต้นแบบ WS-1B ของจีนหรือเปล่า หรือจีนเค้าสนับสนุนโดยให้ลิขสิทธิ์ แก่เราและช่วยเหลือในการผลิตและสร้างโรงงานเลย แบบให้เปล่า หรือเป็นการวิจัยรวมกันแบบต่อยอด(อันนี้ทำขายไม่ได้ใช้มะ) หรือเป็นการซื้อลิขสิทธิ์ต่อหน่วยจำนวน คือจริงๆเห็นชอบใช้ไอ้ประโยค "การถ่ายทอดเทคโนโลยี" มาเป็นออฟชั่นเสริมตลอด ได้รับ source code บ้าง สร้างโรงงานบ้าง อบรมบ้าง แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าเราสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง เราสามารถ ทำซ้ำ ดัดแปลง จำหน่ายจ่ายแจก หรือผ่าท่อ ปาดเบาะ เปลี่ยนโช๊คเปลี่ยนไฟ ได้หรือเปล่า กับอาวุธที่เราซื้อมาพร้อมคำโปรโมทนี้ เพราะไอ้ประโยคนี้มันมีส่วนในการตัดสินใจซื้ออาวุธของเราหลายอย่างมาก แต่ยังไม่เห็นมีอันไหนดูเป็นชิ้นเป็นอันเลย หรือบ้านเรายังมีเทคโนโลยีไม่เพียงพอ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะมาให้ความสำคัญกับการ "การ ถ่ายทอดเทคโนโลยี" เป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจทำไม ทั้งที่อาวุธที่ใช้เทคโนโลยีน้อยๆอย่างอาวุธประจำกาย ชุดอุปกรณ์ต่างๆของทหารราบเรายังนำเข้าอยู่เลย หรือพวกยานเกราะต่างๆ(เสรีชัยขายได้อีกคันกันถ้าเทียบกับรถที่เรานำเข้า) ทั้งหมดนี้ไม่ได้จะเทียบ jas-39 กับ Su-30 หลอกนะคิดดูแหละกัน

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 01/02/2012 01:27:40


ความคิดเห็นที่ 6


แถวบ้านเราก็แข่งกันสะสมอาวุธไม่แพ้ประเทศในภูมิภาคอื่นแต่อย่างใด

ยิ่งประเทศสังคมนิยมแล้ว การสะสมอาวุธยิ่งไม่แปลก ภัยคุกคามของเวียดนามก็คือจีน ยิ่งต้องสะสมเยอะ อีกประเทศก็พม่าที่มีรัฐบาลทหารเค้ายิ่งซุ่มของไว้เพียบ ยิ่งพม่ามีนิวเคลียร์ ก็ต้องยิ่งอาวุธป้องกันประเทศดีๆเต็มไปหมด

แต่ผมว่าทุกประเทศก็มีของซุ่มไว้หมดละครับ แม้แต่ไทยเราเองด้วยละเหอะๆ แต่พม่ากับเวียดนามน่าจะซุ่มได้ลึกลับกว่า

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 01/02/2012 04:11:34


ความคิดเห็นที่ 7


อาจไม่เกี่ยวกับเนื้อข่าว แต่ขอชมว่า หลังๆ ผจก ทำข่าวเรื่องทำนองนี้โอเคขึ้นบ้างครับ รายละเอียดในสาระสำคัญไม่ผิดแบบเมื่อก่อนที่หลุดมาว่า "Su-30 อืด สู้ตระกูล F ไม่ได้" ให้โห่ฮากัน

โดยคุณ Johnny_Thunders เมื่อวันที่ 01/02/2012 06:58:03


ความคิดเห็นที่ 8


กดให้คะแนนคุณ neosiamese2   ไป2รอบแล้ว ไม่ยักกระดิกเลยแฮะ

 

ผมเป็นพวกคลั่งชาติหน่ะ ^ ^

โดยคุณ E_mail เมื่อวันที่ 01/02/2012 12:54:12


ความคิดเห็นที่ 9


ซื้อมาเยอะ ๆ เลย ครับ VN  เงินเฟ้อจะได้สูงปรี๊ดๆ  ล่าสุดไปกดเงินดอง ต้องเตรียมไปเป้นล้าน !

โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 03/02/2012 00:48:43