หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เครื่องบินฝึกก้าวหน้าอย่าง L-39 สามารถใช้เป็น บ.ขับไล่เมื่อจำเป็นได้มั้ยครับ

โดยคุณ : intelligent เมื่อวันที่ : 04/02/2012 18:48:48

สมรรถนะของบ.ฝึกขับไล่ หากเราอัพเกรด avionics ให้ใช้ อวป. BVR โดยอาศัย ERYEYE เป็นตา จะมีประสิทธิภาพเท่า บ.ขับไล่แท้ๆได้ในระดับไหนครับ อย่างเกาหลีใต้เขาก็ยังใช้ T-50 ซึ่งเป็น บ.ฝึก ดัดแปลงเป็น บ.ขับไล่เอนกประสงค์ได้ ส่วนเรื่องความเร็วของ L-39 จะอยู่ที่ 1 มัค ซึ่งความเร็วนี้ไม่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการรบทางอากาศ โดยมีบทพิสูจน์จากฟอล์กแลนด์มาแล้ว เมื่อ harrier ของ อังกฤษสามารถเอาชนะ mirage ซึ่งเร็วกว่า 2 เท่าได้





ความคิดเห็นที่ 1


ถ้าหากจะอัพเกรด L-39 ให้เป็นเครื่องขับไล่อเนกประสงค์ขนาดแท้นั้น คิดว่าอาจจะยากเลยครับ คงจะไปเทียบกับเครื่องอย่าง T-50 ไม่ได้

ดูรูปร่างแล้ว T-50 นี้ไม่น่าเป็นเครื่องฝึกด้วยซ้ำ ผมว่ามันน้อง ๆ เครื่องบินขับไล่เลยครับ

ถึงจะอัพเกรด L-39 แล้วผมว่าก็คงได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องจาก L-39 นั้นตัวเล็กมาก และบรรทุกอาวุธติดตัวไปได้ไม่เยอะด้วย

ส่วนเรื่องความเร็วนั้น คิดว่าถึงจะเอา L-39 ไปด็อกไฟต์กับเครื่องบินขับไล่ขนาดแท้แล้วล่ะก็ L-39 อาจจะกลายเป็นหมูให้กินเลยล่ะครับ

สมัยนี้ซัดกันไกล ๆ ตั้งแต่ยังมองไม่เห็นเลย ดังนั้น L-39 เราเสียเปรียบสูงครับ

ในเว็บ TFC ก็เคยมีวิจารณ์มวยคู่นี้อยู่ครับ L-39 VS. Mig29 ลองไปอ่านมันส์ ๆ ได้

http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=5768

แล้วก็ ของเสี่ยโย

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=04-02-2008&group=1&gblog=71

 

 

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 30/01/2012 13:07:58


ความคิดเห็นที่ 2


บทสรุปก็คือ บินหนี สวดมนต์ แล้วยื่นหนังสือประท้วง!!!!

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 30/01/2012 13:08:46


ความคิดเห็นที่ 3


ผมคิดว่านะครับไม่ได้มันก็ต้องได้แหละครับเมื่อถึงคราวคับขันหรือจนตรอก มันมีสองอย่างถ้าเจอเหตุการณ์อย่างว่าจะหนีแล้วโดนยิงตก หรือจะลองสู้ซักตั้งแค่นั้นแหละครับ แต่ตามหลักความเป็นจริงหรือหลักนิยมแล้วเค้าไม่เอาไปแลกหมัะกับเตรื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงจริงๆหรอกครับ เพราะความเร็ว ความคล่อตัวในการหลบหลีกขีดจำกัดฯลฯ ถึงแม้จะอัฟเกรดให้สามารถใช่ bvr แล้วก็เถอะครับ  ซึ่งอันที่จริงเครื่อง L39 ของเราก็อัฟเกรดให้สามารถใช้AIM9 ได้เพื่อใช้ป้องกันตัวเองอยู่แล้ว ผมว่านะมันเหมาะกับการใช้กับการใช้ในภารกิจ สนับสนุนทางอากาศโดยไกล้ชิดมากกว่านะครับ แล้วเราเอาเงินที่จะอัฟระบบให้สามารถใช้ bvr ได้นั้น เก็บเงินไว้ถอยเครื่องบินขับไล่จริงๆมาเลยดีกว่าตรับ 

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 30/01/2012 13:13:58


ความคิดเห็นที่ 4


ตอนนี้เราสามารถสร้างเครื่องบินใบพัดเครื่อง เทอร์โบพร็อพได้แล้ว ไม่รู้ฝันไกลหรือเปล่าอยากจะให้ ทอ.ใช้วิศวกรรมย้อนกลับกับ F-5 จังเลยครับ เหมือนอิหร่านทำ เราอาจใช้เครื่องยนต์เดี่ยวตัวเดียวกับ Jas 39 มีแพนหางดิ่ง 2 ตัว ใช้ BVR ได้ 

โดยคุณ intelligent เมื่อวันที่ 30/01/2012 13:24:20


ความคิดเห็นที่ 5


ได้ครับ อย่างน้อยๆก็ติด อวป อากาศ สู่ อากาศได้

ประสิทธิภาพอาจไม่เทียบเท่าแบบพันแท้แต่ก็นะ นักบินไทยเทพอยู่แล้ว

ต่อเสาไวเลสไห้ไช้เรดาจากภาคพื้นได้ ก็น่าจะใช้งานได้ระดับหนึ่งละมั้ง

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 30/01/2012 20:20:25


ความคิดเห็นที่ 6


เอาไว้ฝึกดีกว่าคับขนาดF86กับmigเ17มันยังคางเหลืองเลย

โดยคุณ skudetto เมื่อวันที่ 30/01/2012 21:09:47


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าไม่นับ BVR ก็น่าจะได้นะครับ

ขึ้นไปแล้ว..นักบินเราคงไม่หนีหลบฉากหรอกครับ..คงมีวิธีล่อเสือได้บ้าง

 

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 30/01/2012 22:27:44


ความคิดเห็นที่ 8


    พอจะเข้าใจแนวคิดของท่านเจ้าของกระทู้แล้วครับว่าต้องการแบบไหน   คือ  อยากให้พัฒนาเครื่องฝึกที่ออกจะเป็นแนวๆๆเครื่องขับไล่ (ต้องบอกว่าออกแบบเครื่องขับไล่ขนาดเล็กมาเป็นเครื่องฝึก)  

    ตัวอย่างที่เห็นเป็นตัวเป็นตนคือ  T-50 ของเกาหลี

    ตัวอย่างที่ดีมากแต่ไม่ได้เกิด  คือ  S-54 ของซูคอย 

ผมมองว่าท่านเจ้าของกระทู้คงมองว่า  ให้พัฒนาเครื่องฝึก LIFT ขนาด 4 ตัน  และสามารถนำมาใช้เป็น multirol ขนาดเล็กราคาถูกประสิทธิภาพน่าประทับใจ   นำมาใช้ในการสนับสนุนทหารราบหรือภาระกิจ CAS นั่นเอง   ถึงคราวสงครามเมื่อกำลังทางอากาศที่เป็นเครื่องบินขับไล่หลักขาดแคลน  เครื่องรุ่นนี้ก็สามารถนำมาใช้ในฐานะเครื่องบินขับไล่โจมตีเบาที่สามารถใช้ BVR ได้อย่างมีประสิทธิภาพใช่ไหมครับ

 

   เป็นคอนเซ็ปต์ของ T-50 และ S-54 จริงๆครับ  

จริงๆแล้วในการแข่งขันเครื่องฝึกทั้ง 4 แบบของทอ.รัสเซียนี่  มี S-54  yak-UTS(yak-130)  M-200  Mig-AT นั้น   S-54 มีสมรรถนะสูงที่สุดในเครื่องทั้ง 4 แบบ   ประสิทธิภาพระดับเครื่องขับไล่เบาชั้นดี   แต่ดันออกแบบไม่ตรงตามความต้องการของทอ.รัสเซีย   ก็เลยแพ้ครับ  

   ทางเจ้าของกระทู้เลยเสนอให้ก็อปแล้วเพิ่มประสิทธิภาพของ L-39 ด้วยเหตุผลนี้สินะครับ    ผมว่าถ้าอย่างนั้นขอซื้อแบบหรือร่วมมือพัฒนากับทางซูคอยดีกว่า    เพราะเครื่อง S-54 นี่น่าจะมีประสิทธิภาพทางการบินดีกว่า T-50 ด้วยซ้ำ

  มีภาพประกอบของ S-54 ครับ   T-50 เห็นมาเยอะแล้ว 




โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2012 00:00:24


ความคิดเห็นที่ 9


    ประสิทธิภาพของ S-54 และ T-50 นี่สูงเพียงพอที่จะสอยทั้ง F-16 และ Jas-39 ครับ   เห็นเขาว่าความคล่องแคล่วระดับ  SU-30     แต่ทางรัสเซัยเขาไม่ได้ต้องการเครื่องแบบนี้ครับ   เขาต้องการเครื่องแบบ Yak-130  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2012 00:03:23


ความคิดเห็นที่ 10


   จะว่าไปแล้ว  แนวคิดนี้ก้น่าจะเหมาะกับประเทศขนาดกลางอย่างประเทศไทยเรานะครับ     เพราะเครื่องบินขับไล่หลักเดี๋ยวนี้ราคานั้นสูงมากเลยทีเดียว   จะซื้อให้ครบฝูงนี่แพงสุดกู่  ยิงเครื่องสเตลธ์นี่เลิกพูดเลย     ผมว่าเครื่องขับไล่เบาชั้นดีราคาประหยัดนี่น่าจะเหมาะสมในฐานะ อินเตอร์เซปเตอร์  และ CAS เครื่องฝึก LIFT     แล้วภาระกิจขับไล่ตรองอากาศกับโจมตีทางลึกนั้นโยนให้เครื่อง strike fighter อย่าง SU-30  F-15 se ไป   

 

   S-54  ใช้เครื่องยนต์ AL-31  สามารถติดตั้งเรด้าร์ spare(สะกดถูกหรือเปล่า แปลว่าง้าว)    ยิงทั้ง R-73  R-77   อาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้นแบบต่างๆ  กระเปาะชี้เป้า   และสถาปัตยกรรมแบบ กลาสค็อคพิค

   ถ้าซื้อแบบจากซูคอยก็คงต้องให้ช่วยพัฒนาให้สามารถใช้งานกับเรด้าณืพวก กริปโฟ  APG-67  EL-2032  เครื่องยนต์ของแพรตแอนด์วิทนี่ย์ หรือ เครื่องของ GE    เครื่องโรสรอยด์     ใช้งานร่วมกับกระเปาะชี้เป้าและระบบอาวุธแบบที่เรามีอยู่   

   งานนี้ถ้าทำจริงๆ  คงต้องไปทำตลาดขายชนกับ Yak-130 กับ T-50 แหง๋ๆ  55555  ฝันไกลดีนะครับ    จริงแล้วเทคโนโลยีปัจจุบันรองรับได้ครับ   การเงินเราถ้าจะเอาจริงๆก็บอกว่าได้ครับ   TAI ก็มี     ที่เหลือคือความตั้งใจจริงของทั้งกองทัพและรัฐบาล(ยังคุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่เลย555)     ผมว่าถ้าทำได้    ราคาน่าจะอยู่แถวๆ 25-30 ล้านเหรียญน่ะครับ  

 

    S-54 นี่เครื่องดีมากๆตัวหนึ่งของโลกเลยครับ    เสียดายจริงๆ       

 

มีรุ่นใช้งานบนเรือบรรทุกบ.ด้วย   ซูคอยใช้ชื่อว่า S-56  เป็นเครื่อง Multi roll ขนาดเบาใช้งานบนเรือบรรทุกบ.เบาได้    แต่ลงบนจักรีไม่ได้นะครับ   ยกเว้นจะปรับปรุง  



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2012 00:29:03


ความคิดเห็นที่ 11


อยากเชียร์ L-159 อ่ะ

ได้ข่าวว่า เคป๊อป เขากั๊กเทคโนโลยีแบบโคตรๆ

เรด้าก็กั๊กให้ดัดแปลงก็ไม่ได้ เอามาแทน L-39 เราใช้เป็นแค่ บฝ-บจ

การเลือกใช้ จรวด IRIS-T ก็เป็นการแหวกตัวออกมาจากการเป็นลูกไล่ของมะกัน

แถมติดตั้งดาต้าลิ้งได้ ถึง ไม่มีขีดความสามารถแบบ BVR แต่ก็สามารถมองเห็นได้ก่อน

ซึ่งต่างจากของเกาหลีที่ ห้ามปรับปรุง ดัดแปง ถึงจะ เร็วกว่า คล่องตัวกว่า แต่สายตาสั้น

ผมว่าก็ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นะ แถมราคาถูกกว่าด้วย สิบกว่าล้านเหรียญ(12-18 อ้างอิงวิกิ)

ถ้าซ์้อ 2 ฝูง 36 ลำ ตีราคา+ออปชั่นอะหลั่ย เป็นซัก 18ล้านก่วา ก็ 650 ล้านเหรียญ

สองหมื่นกว่าล้าน งบ 7000 ล้าน ผูก 3 ปี น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดนะ

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 31/01/2012 00:53:39


ความคิดเห็นที่ 12


คุณ  neosiamese2  เข้าใจแนวคิดถูกแล้วครับ ผมอยากให้ ทอ.ใช้เครื่องบินรบที่มีพื้นฐานเป็นได้ทั้งเครื่องบินฝึกชั้นสูง เครื่องบินขับไล่โจมตี

ผมมองว่าตอนนี้ F-5 ก็สามารถเป็นตัวอย่างได้ดีของเครื่องบินแนวนี้ครับ เราใช้ F-5 มานานเกือบ 50 ปี เป็นเครื่องบินที่ซับซ้อนน้อย ราคาประหยัด ผมไม่รู้ว่าจะสามารถ re engineering F-5 ได้หรือไม่ เหมือนที่เรากำลังสราง บ.ทอ.6 แต่ปรับปรุง avionics ให้ใช้ bvr ได้ เราสร้าง F-5 2 ที่นั่ง ระบบ avionics ระดับเดียวกับ L-39 alpha jet ใช้สำหรับฝึกขั้นสูง ส่วนฝูงขับไล่หลัก 5 ฝูงก็ใช้ ที่นั่งเดี่ยว ระบบ avionics ชั้นสูง ใช้เครื่องบินน้อยแบบเพื่อง่ายต่อการส่งกำลังบำรุง พึ่งพาตัวเองเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคง

โดยคุณ intelligent เมื่อวันที่ 31/01/2012 01:26:47


ความคิดเห็นที่ 13


    ต้องบอกว่าแนวคิดของท่าน intelligent ก็แนวคิดเดียวกับผมล่ะครับ    ใจจริงชอบ S-54 มากกว่า T-50 ครับ   ตอนแรกๆที่ทราบข่าวว่าทอ.รัสเซียแสดงความต้องการเครื่องฝึกขั้นสูง   ก็มองไปที่ MIG-AT  เพราะไม่ค่อยทราบข้อมูลของทาง S-54    แต่พอเห็นแผนแบบและแนวคิดแล้วผมก็ปิ๊งครับ   ว่าเหมาะกับประเทศไทยเรา  (แต่ไม่เหมาะกับทางรัสเซีย..เลยไม่ได้เกิด555)    

   จะเห็นว่าในกระทู้ที่ผ่านๆมาผมจะเชียร์  T-50 ออกนอกหน้า    เพราะเป็นเครื่องแบบเดียวที่ถูกผลิตออกมาจริง    และเป็นแนวคิดที่ผมอยากให้กองทัพอากาศเราใช้จริงๆ   คือ 

           เครื่อง  LIFT และ ภาระกิจ CAS ให้ใช้เครื่องแบบนี้  ไม่ต้องติดตั้งระบบเรด้าร์  แต่อาจจะติดตั้ง  FLIR ที่จมูกแทน   สามารถใช้ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์  อาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้นแบบต่างๆ  และจรวดแบบ AIM-9  หรือ  ไพธ่อน 4-5   เครื่องฝึก 2 ฝูง  เครื่อง CAS 2 ฝูง

          เครื่องขับไล่สกัดกั้น/โจมตี   อันนี้ติดตั้งระบบเรด้าร์  ยิง BVR และ ไพธ่อน 5  AIM-9x  IRIS-T    2-3 ฝูง

         เครื่อง strike fighter  ทำหน้าที่ขับไล่ครองอากาศ / โจมตีทางลึก   คงต้องซื้อเขาคุ้มกว่า  สัก 2-3 ฝูง

      ทร.  จัดหาทดแทนเครื่อง A-7 และ แฮร์ริเออร์  แต่คงต้องปรับปรุงจักรีนฤเบศล่ะครับ  งานช้าง 

 

 ที่คิดแบบนี้เพราะต้องการให้เราลดแบบเครื่องบินรบลงและมีจำนวนมากๆพอที่จะสามารถเปิดสายการผลิตได้น่ะครับ     บางท่านอาจจะไม่เห็นด้วยเพราะประสิทธิภาพเกินความต้องการสำหรับเครื่องฝึกและ CAS  แต่อยากให้มองภาพรวมมากกว่า    และจริงๆแล้ว  Yak-130 และ M-346 เองก็มีแผนพัฒนาให้ประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น  จนต้องบอกว่ามันเกินความต้องการของทอ. แน่ๆ   yak-130 จะเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้กำลังสูงปรีดยังกะเครื่องขับไล่เพื่อให้มีความเร็วเหนือเสียง     มีออปชั่นติดตั้งระบบเรด้าร์และระบบดาต้าร์ลิงค์  สามารรถใช้  A-2-A missle ระยะใกล้แบบก้าวหน้าได้    อีกสิบปีข้างหน้ายังไงซะเครื่องพวกนี้ก็พัฒนาจนเกินความต้องการของทอ.อยู่ดีแลหล่ะครับ   

    ทอ.มาเลย์เองก็เพิ่งแสดงความต้องการ  Yak-130  18-24 เครื่องเพื่อทดแทน    Hawk-100 ซีรีย์   เห็นว่าอุปการณ์บางอย่างจะโมดิฟายด์แบบ SU-30 MKM  อีก    คงต้องการสเปกเดิ้นสุดๆอีกน่ะแหล่ะ     แล้วเราก็ต้องดิ้นตามเขาอีก   ตามหลังทุกที    แบบนี้แย่นะครับ   ผมว่าวางแผนระยะยาวแล้วลองเป็นผู้นำแนวคิดบ้างจะดีกว่า  

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2012 04:13:54


ความคิดเห็นที่ 14


   จะเห็นว่าแนวคิดผมทั้งเครื่องฝึก LIFT  เครื่อง CAS  เครื่องขับไล่สกัดกั้นโจมตี   เครื่องที่ทร.ใช้ทั้งขับไล่โจมตี   ใช้เครื่องแบบเดียวกันหมด   เพื่อให้มีจำนวนมากพอที่จะสามารถทำการเปิดสายการผลิตได้ (ก็ไม่น้อยกว่า 120-150 เครื่อง)   แม้ว่าแผนแบบเครื่องอาจจะต้องซื้อจากเขา 

   T-50 เรื่องมากเพราะทางอเมริกาบีบทางเกาหลีอย่างหนักครับ   เพราะกระทบโดยตรงต่อ F-16 

   ส่วน L-159 ยังไม่มีใครใช้  

  ถ้าจะเริ่มเองใหม่หมด   ก็ต้อง T-50 หรือ M-346/yak-130   หรือ  S-54  โดยขอพัฒนาแบบร่วมกับทางซูคอยเพื่อผลิตและทำการตลาดร่วมกัน

  ถ้าตั้งใจจริงก็น่าจะทำได้ครับ   ขนาดทร.ไม่มีกะตังค์มากมายอะไร   แต่มีความตั้งใจจริงๆจังๆ  ยังมาได้ไกลขนาดนี้แล้วล่ะครับ  อะไรที่ว่าเป็นไปไม่ได้ทร.เชาก็ทำให้ดูแล้วนะครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2012 04:46:27


ความคิดเห็นที่ 15


ส่วนตัวขอเสนอตัวเลือกอีกตัวหนึ่ง EADS Mako/HEAT  ตัวนี้หน้าจะซื้อลิขสิทธิ์ มาผลิตเอง ไหนๆโครงการเยอรมันเขาพับไปแล้ว มาตราฐาน nato แบบไม่ต้องโม

 

 

 

 

 

 

ชอบรุ่นนี้เป็นการส่วนตัว

โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 31/01/2012 05:05:12


ความคิดเห็นที่ 16


ภาพจำลองขึ้น-ลงบนเรือบรรทุกเครื่องบิน

http://studiotomochan.web.fc2.com/remako.html

Specifications จาก http://en.wikipedia.org/wiki/EADS_Mako/HEAT

General characteristics

Performance

Armament

  • Guns: 1x 27 mm gun
  • Hardpoints: 7 with a capacity of 4.500 kg
  • Rockets: 4 pods
  • Missiles: 4x AIM-9, IRIS-T or ASRAAM, AMRAAM, FMRAAM or Mica, 5x AGM-65 Maverick, 2x anti-ship missile
  • Bombs: Up to 12x Mk.82, 8x Mk.83, 4x GBU 16, or 3x GBU 24
โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 31/01/2012 05:54:33


ความคิดเห็นที่ 17


แนวความความคิดนี้น่าสนใจดีครับถ้าเราสามารถที่จะพัฒนาในส่วนนี้ได้ เราก็จะมีสิ่งที่เราต้องการและเหมาะกับเราครับ

อย่างรุ่นที่ท่าน neosiamese2   นำมาเสนอตัวนี้ผมเคยอ่านมาบ้างเล็กน้อยครับ เรื่องสมรรถนะทางการบินของมัน การันตีด้วยผู้พัฒนาอย่างบริษัท ซูคอย ในความคิดของผมมันเป็นเครื่องบินรุ่น ซู 30 เครื่องยนต์เดี่ยวมากกว่าครับ

ส่วนการจัดกำลังทางอกาศนั้นผมว่าทาง ทอ.เขามีแนวทางอยู่แล้วว่าจะจัดอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับงบประมาณที่จำกัดแบบนี้ครับ แต่ถ้าจะจัดแบบที่ว่า เราจำเป็นต้องมีเครื่องบินขับไล่ครองอากาศ/โจมตีทางลึกอย่างน้อย 1ฝูง (18ลำ) ฝูงบิน ขับไล่สกัดกั้น 3 ฝูง(ฝูงละ 18 ลำ) และที่เหลือคือฝูงบิน ฝึก/โจมตีเบา 2-3 ฝูง ครับ ถึงมันจะเป็นการเพิ่มฝูงบินก็ตาม

มาเลย์เขามาทางนี้แล้วเขาก็คงอยากเดินในแนวทางเดิมครับเพื่อลดแบบเครื่องบิน ในอนาคตไม่แน่นะครับเราอาจจะไม่เห็นเครื่องบิน ของอเมริกาหรือนาโตในมาเลย์ก็ได้ครับเราอาจจะเห็นเครื่องบินลูกครึ่งก็เป็นได้ ถ้าเกิดรัฐบาลของมาเลย์ใจปั้มขอความร่วมมือจากรัสเซียถ่ายทอดเทคโนโลยีและขอพัฒนาร่วม โดยเปิดโรงงานประกอบเครื่องบินที่มาเลย์ละก็ เราก็อาจจะได้แต่แหงนหน้ามอง ทางที่ดีครับเราต้องเจรจากับทางสวีเดนอย่างจริงจังในเรื่องการขอถ่ายทอดเทคโนโลยีและร่วมพัฒนา ถึงเราจะงบน้อยก็ต้องทำ

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 31/01/2012 07:12:14


ความคิดเห็นที่ 18


    อ๊ะ!.....จริงของท่านหลวงอาวุธวิเศษ   เครื่องรุ่นนี้เจ๋งมากๆครับ   เซมิเสตลธ์ด้วยครับ   หน้าตัดเรด้าร์ต่ำกว่า Jas-39  ซะอีกลืมไปได้ไง  

   ผมกลัวว่ามาเลย์จะทำแบบที่ท่าน ALPHA001พูด    เพราะทางนั้นเขาเคยเปรยๆมาก่อนว่าอยากจะเป็นการซ่อมและประกอบเครืื่องเมดอินรัสเซียอยู่   ถ้าเขาซื้อ  yak-130 โมดิฟายจริงขึ้นมา   โครงการเครื่องบินขับไล่อีกฝูงก็อาจจะเป็น SU-30 MKM ฝูงที่สอง     ความเป็นไปได้ที่เขาจะรื้อหรือเดินเครื่องโครงการก็มีความเป็นไปได้สูงขึ้น    ถ้าไม่โดนเวียตนามตัดหน้าไปก่อน 

    ผมว่าถึงเวลาที่พวกเราต้องกล้าๆคิดกล้าทำแล้วครับ   ไม่งั้นคงต้องกลายเป็นผู้ตามในเวลาไม่นานแน่ๆ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2012 08:38:03


ความคิดเห็นที่ 19


เครื่องบิน L-39ZA/ART นั้นมีสมรรถนะทางการบินค่อนข้างต่ำ น้ำหนักบรรทุกไม่มาก ถ้าจะอัพมาใช้ในภารกิจขับไล่เบาก็คงจะไม่ดีสักท่าไหร่ สำหรับโจมตีสนับสนุนทางอากาศน่าจะเวิร์คที่สุดครับ สำหรับ L-159 นั้นจัดว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาที่ เช็ค ปรับปรุงขึ้นมาจากเครื่องบินฝึกแบบ L-59 ซึ่งมีเป็นน้องสาวของ L-39 แต่มีสมรรถนะสูงกว่า L-39 พี่สาว อีกทั้ง L-59 และ L-159 ยังเป็นมาตรฐานนาโต้โดยกำเนิดเนื่องจาก เช็ค ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้ แต่ปัจจุบันนอกจาก กองทัพอากาศเช็ค แล้วยังไม่มีใครจัดหาใช้งานเลย อีกทั้งกองทัพอากาศเช็คเองก็ยังจัดหา JAS-39 ไปใช้งานเสียอีกด้วย(ในการฝึกร่วมนาโต้ JAS-39 ของเช็คชนะการแข่งขันด้วยนะ) ทีนี้มองมาที่กองทัพอากาศไทยเราครับว่าหากต้องการเครื่องบินขับไล่เบานั้นส่วนตัวมองว่า เอาแค่ JAS-39C/D นั่นดีกว่าอย่าให้เบากว่านี้จนใกล้ๆเครื่องบินฝึกเลยครับ ถ้าเอาขนาดแบบนั้นจัดหาเป็นเครื่องบินโจมตีสนับสนุนมทางอากาศอย่างใกล้ชิดดีกว่า สำหรับเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาเดี๋ยวไปเจอของหนักก็ต้องหลบออกมาแล้วต้องปล่อยของเจ๋งขึ้นต่อกรอีก หรือหลบมาไม่ทันกับโดนสอยซะอีกนั่น เพราะปัจจุบันเครื่องบินขับไล่ทั้งหลายแหล่ที่เขามีกันมันฮาร์ดคอร์ตั้งแต่ระยะไกลยันระยะสายตากันเกือยทั้งนั้น จะกลายว่าเอาเด็ก ม.ต้นไปชนสาวมหาลัย ยังไงนมก็เล็กกว่าอยู่ดี เอ้ย ขอโทษ นอกประเด็นไปหน่อยครับ...แหะๆ เออเนอะ สรุปว่า เครื่องบินฝึกก็คือฝึกครับ มันถูกออกแบบมาให้ประหยัด ราคาต่ำ สมรรถนะไม่ต้องสูงมาก สำหรับฝึกนักบินเพื่อก้าวไปสู่เครื่องบินขับไล่ขนานแท้ จะทำมากกว่าฝึกได้ก็คือโจมตีสนับสนุน สำหรับเครื่องบินขับไล่มันต้องเจ๋งพอที่จะสยบเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามได้ทันทีไม่ใช่แค่ถ่วงเวลา อูยยย..ยาววุ้ย

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 01/02/2012 01:52:54


ความคิดเห็นที่ 20


โอ้วสุดยอดเลย Sukoi มีแนวคิด ทำหนึ่งเครื่องยนต์ด้วย แบบที่ผมคิดไว้ว่าจะทำเลย แบบถ้าเรานำ Su-27 มาผสมพันธุ์ กับ F-16 มันต้องเป็นเครื่องบินที่ใช่สำหรับบ้านเราแน่นอน

คือ ถ้า ทอ. เราสั่งเปลี่ยนสเปกเครื่อง แบบที่ ทบ. สั่งเปลี่ยนสเปก T-84 ได้นะ

อยากให้ใช่เครื่อง AL เอารุ่น 41F-1S ได้ยิ่งดีแรงขับเยอะๆ มี Thurt vectoring ด้วย รุ่นหลังๆคงไม่น่าซดน้ำมันแล้วหละ

ยืดตัวลำขยายถังน้ำมัน เอาให้พอๆกับ F-16

เพิ่มพื้นที่ปีกเอาเยอะๆ รางอาวุธสัก 8 ความเร็วไม่ต้องถึงสองมัคก็ได้ 1.5up พอ เรดาห์แรงๆแบบเดิม

อะไหล่เอาแบบใช้ร่วมกับ su-27,30 ได้ จะได้ไม่มีปัญหาว่าประเทศผู้ผลิตบ่มีประจำการ หาอะไหล่ยาก

มันจะสุดยอดมากเลย ถ้าทำนี้ผมว่าดังเป็นพลุแตกแน่นอน เพราะเท่ากับตัดค่าบำรุงรักษาไปกว่าครึ่งเลย

โดยคุณ markrura เมื่อวันที่ 04/02/2012 07:48:50