เครียด! อังกฤษ-ฝรั่งเศส ส่งเรือรบมุ่งเข้าฮอร์มุซ (ไอเอ็นเอ็น)
กระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลง เรือรบอังกฤษประสานความร่วมมือกับเรือรบฝรั่งเศส กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ช่องแคบฮอร์มุซ เตรียมตอบโต้โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน
กระทรวงกลาโหมของอังกฤ แถลงว่า เรือรบของอังกฤษและฝรั่งเศส ได้เข้าร่วมสมทบกับกองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐอเมริกา ในช่องแคบฮอร์มุซ โดยเรือรบหลวงของอังกฤษและเรือรบฝรั่งเศส ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ แล่นผ่านน่านน้ำที่บริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งอิหร่าน ขู่ปิดช่องแคบดังกล่าว เพื่อตอบโต้ที่ประเทศตะวันตก กำลังเดินหน้าดำเนินมาตรการคว่ำบาตรอีกระลอกต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงว่า การที่กองเรือรบนานาชาติแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ เป็นการตอกย้ำของประชาคมโลก ในการดำรงไว้ซึ่งสิทธิในการแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และการที่อังกฤษเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนความมั่นคงในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย
ทั้งนี้ อังกฤษ ได้ส่งเรือรบเข้ามาลาดตระเวนในอ่าวเปอร์เซีย ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 ขณะที่ ช่องแคบฮอร์มุซ เป็นเส้นทางการลำเลียงน้ำมันที่สำคัญของโลก
ที่มา http://hilight.kapook.com/view/66830
อ่านข่าวนี้แล้วผมนึกถึงสมัยก่อน วิกฤตการณ์ครองสุเอซ กรณีคล้ายๆกันคือ อียิปต์เอาคลองสุเอซเป็นสมบัติของชาติ อังกฤษกับฝรั่งเศส (หนึ่งในผู่ร่วมออกเงินขุดสร้าง) ก็ไม่พอใจ ส่งกองกำลังบุก ผสมโรงกับยิวด้วย แต่โดนมะกันกับสหภาพโซเวียตกดดันต้องยอมถอย
แต่กรณีนี้ผมว่ามะกันไม่กดดันหรอก ยิ้มแก้มปริมากกว่า แต่รัสเซียคงเหมือนเดิมคือ กดดันแน่ๆครับท่าน
เพิ่มเติมข่าวครับ จากผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000010287
อียูมีมติระงับนำเข้าน้ำมันอิหร่านเรือรบUS-พันธมิตรเข้าฮอร์มุซ
ภาพ เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ 2 ลำ คือ จอห์น ซี สเตนนิส (ซ้าย) และ อับราฮัม ลินคอล์น (ขวา) สับเปลี่ยนหน้าที่รับผิดชอบกันที่บริเวณทะเลอาราเบีย ดังในภาพนี้ซึ่งกองทัพเรืออเมริกันนำออกเผยแพร่โดยระบุว่าถ่ายในวันวันพฤหัสบดี(19)ที่ผ่านมา จากนั้น อับราฮัม ลินคอล์น พร้อมเรือรบคุ้มกัน ตลอดจนเรือรบอังกฤษและฝรั่งเศส ได้แล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ และเข้าสู่อ่าวเปอร์เซียแล้ว เป็นการท้าทายอิหร่านซึ่งก่อนหน้านี้ข่มขู่จะปิดช่องแคบสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
เอเอฟพี/เอเจนซี - สหภาพยุโรป(อียู)มีมติในวันจันทร์(23) ห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ตลอดจนบังคับใช้การลงโทษคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เท่ากับเข้าร่วมกับสหรัฐฯในมาตรการรอบใหม่ซึ่งมุ่ง เพิ่มแรงกดดันให้เตหะรานยุติโครงการนิวเคลียร์และกลับสู่โต๊ะเจรจา ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง กองเรือรบอเมริกัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ก็เคลื่อนขบวนผ่านช่องแคบฮอร์มุซ เข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย ทั้งนี้หลังจากเตหะรานข่มขู่ที่จะปิดช่องทางเดินเรือยุทธศาสตร์นี้
รัฐมนตรีต่างประเทศ วิลเลียม เฮก ของอังกฤษ กล่าวว่า มติของอียูคราวนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยจะเพิ่มความเข้มแข็งขึ้นอีกมากให้แก่บรรดามาตรการลงโทษคว่ำบาตรอิหร่านทั้งหลาย
ทั้งนี้ภายหลังการเจรจาต่อรองกันอย่างทรหดมาหลายสัปดาห์เกี่ยวกับจังหวะเวลาและเงื่อนไขของการห้ามน้ำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน บรรดาเอกอัครราชทูตจาก 27 ชาติสมาชิกอียู ก็บรรลุข้อตกลงทางการเมืองในการหารือช่วงเช้าวันจันทร์ ซึ่งจะส่งต่อให้ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอียูประกาศอย่างเป็นทางการภายในวันเดียวกันนี้
ข้อตกลงนี้ระบุให้ระงับการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านทันที แต่ให้ค่อยๆ ยุติสัญญาที่มีอยู่จากนี้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอียูยังมีแผนคว่ำบาตรธนาคารกลางของอิหร่าน ตลอดจนผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมี และทองคำของอิหร่านอีกด้วย
ที่ผ่านมา อียูอายัดทรัพย์สินบริษัท 433 แห่งและบุคคล 133 ราย ตลอดจนถึงจำกัดการค้าและการลงทุนในอุตสาหกรรมก๊าซและน้ำมัน มาตรการในคราวนี้จึงเป็นการขยับการลงโทษคว่ำบาตรให้แรงขึ้น รวมทั้งคาดกันว่า ยังจะมีการห้ามขายทองคำ เพชร และโลหะมีค่าให้แก่อิหร่าน ตลอดจนห้ามส่งเหรียญกษาปณ์และธนบัตรที่ผลิตใหม่ให้แก่ประเทศนั้น
ช่วง 10 เดือนแรกของปีที่แล้ว อียูนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้อียูเป็นตลาดสำคัญของเตหะราน เช่นเดียวกับอินเดียและจีน โดยปักกิ่งนั้นปฏิเสธการกดดันจากวอชิงตันซึ่งต้องการตัดรายได้จากน้ำมันของอิหร่าน
เมื่อเข้าร่วมการคว่ำบาตรเช่นนี้ อียูจึงต้องหาซัปพลายเออร์ใหม่ที่สามารถจัดหาน้ำมันให้ได้ในราคาที่ดึงดูดใจเมื่อเทียบกับราคาของอิหร่าน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อกับซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ยังมีความหวังสูงที่ลิเบียจะผลิตน้ำมันเพิ่มได้เร็วๆ นี้
น้ำมันจากอิหร่านนั้นคิดเป็น 34.2% ของน้ำมันนำเข้าทั้งหมดของกรีซ, 14.9% ของสเปน และ 12.4% ของอิตาลีในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา แต่ความที่ทั้งสามชาติกำลังประสบปัญหาหนักทางการเงิน การเจรจาเพื่อคว่ำบาตรอิหร่านจึงล่าช้าออกไป เนื่องจากตกลงกันไม่ได้เรื่องเส้นตายที่ผู้นำเข้าจะยุติสัญญาซื้อขายที่มีอยู่ โดยอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีนั้นต้องการให้คว่ำบาตรโดยสิ้นเชิงภายใน 3 เดือน
ประเด็นในการหารือยังรวมถึงคำขอของอิตาลีเพื่ออนุญาตให้บริษัทอิหร่านจ่ายหนี้ด้วยน้ำมันดิบแทนเงินต่อไป ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่บางคนตีความว่า เตหะรานมีน้ำมันดิบขายน้อยลง
ขณะที่การคว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่านนั้น ยังจะมีการอนุญาตให้แบงก์ชาติแห่งนี้ดำเนินการธุรกรรมการค้าบางส่วน และรับประกันว่าจะไม่มีอุปสรรคขัดขวางการชำระหนี้ของอิหร่านต่อยุโรป
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22) นาวาเอกจอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงที่กรุงวอชิงตันว่า เรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์น ได้เสร็จสิ้นการแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซเตามปกติ โดยทำได้ตามกำหนดการ และเวลานี้กำลงอยู่ในอ่าวเปอร์เซียแล้ว
เรือรบยักษ์ของสหรัฐฯลำนี้สามารถบรรทุกเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์สูงสุด 80 ลำ ออกเดินทางโดยมีเรือลาดตระเวนติดอาวุธนำวิถียูเอสเอส เคป เซนต์จอร์จ และเรือพิฆาต 2 ลำ คอยคุ้มกัน
ก่อนหน้านั้น กระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงว่า เรือฟรีเกต 1 ลำของราชนาวีอังกฤษ และเรือรบอีก 1 ลำของฝรั่งเศส ได้เข้าร่วมกับกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์น ในการแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซคราวนี้
แม้บ่อยครั้งที่เรือรบของชาติพันธมิตรนาโต้จะร่วมซ้อมรบกับสหรัฐฯ แต่การปรากฏตัวของเรือรบฝรั่งเศสและอังกฤษครั้งนี้เห็นชัดว่ามีจุดประสงค์เพื่อส่งสาส์นถึงเตหะรานว่า ตะวันตกจะทำทุกอย่างเพื่อให้ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันสำคัญของโลก เปิดใช้การได้ตลอดเวลา
ที่ผ่านมา ผู้นำทางทหารและการเมืองของอิหร่านเตือนหลายครั้งว่า เตหะรานอาจปิดช่องแคบดังกล่าวหากถูกคว่ำบาตรน้ำมัน รวมทั้งจะตอบโต้หากสหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินกลับมาประจำการบริเวณช่องแคบนี้
ทางฝ่ายอเมริกัน เป็นต้นว่า รัฐมนตรีกลาโหมลีออน แพเนตตา ก็ยืนกรานมาตลอดว่า การปิดช่องแคบฮอร์มุซจะถูกถือว่าเป็นการล้ำเส้นอันตราย
นับจากนั้น อิหร่านพยายามผ่อนคลายสถานการณ์ลง โดยสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ อาลี อัคบาร์ ซาเลห์ กล่าวว่า เตหะรานไม่เคยพยายามปิดช่องแคบดังกล่าวแต่อย่างใด
สรุปเป็นสเตปก็คือ
1.ไม่นำเข้าน้ำมัน
2.ปล้น ....
มุกเดิมก็คืออิหร่านมี WMD (อาวุธทำลายล้างสูง) แบบที่อิรักเคยโดนมาแล้ว แต่อิรักไม่มี แต่อิหร่านมีจริงๆนะจะบอกให้
แถม
อันนี้ไม่รู้จะเกี่ยวกับดีล ยัค130 หรือไม่
"จีซีซี" จ่อถอนผู้สังเกตการณ์ออกจากซีเรีย-กดดัน “รัสเซีย” เลิกหนุนอัสซาด
เอเอฟพี - กลุ่มประเทศในอ่าวอาหรับเตรียมถอนผู้สังเกตการณ์ความขัดแย้งออกจากซีเรียตามอย่างซาอุดีอาระเบีย หนังสือพิมพ์คูเวตฉบับหนึ่งรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูต วันนี้(24)
สมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ(จีซีซี) จะส่งคณะผู้แทนระดับสูงไปยังรัสเซีย เพื่อผลักดันให้มอสโกหยุดสนับสนุนประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียอีกด้วย หนังสือพิมพ์ อัล-กอบาส ของคูเวต ระบุ
รายงานเผยว่า จีซีซี มีแผนจะถอนผู้สังเกตการณ์ทั้งหมดออกจากซีเรีย เนื่องจากไม่ต้องการให้พวกเขาอยู่เป็นพยานรู้เห็นรัฐบาลอัสซาดก่ออาชญากรรมต่อพลเรือน
สื่อดังกล่าวอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบุว่า ซีเรียกำลังใช้ผู้สังเกตการณ์เป็นเครื่องมือสกัดกั้นทางออกของวิกฤตครั้งนี้
หนังสือพิมพ์ อัล-กอบาส และ อัล-ซียัสซาห์ รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจีซีซีทั้ง 6 ชาติ ซึ่งได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, บาห์เรน, คูเวต, โอมาน, กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่งมีการประชุมที่กรุงไคโร หลังการประชุมของสันนิบาตอาหรับสิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์(22) และตัดสินใจว่าจะถอนผู้สังเกตการณ์ออกจากซีเรีย
ทั้งนี้ รายงานไม่ระบุว่า ผู้สังเกตการณ์อาหรับจะเดินทางออกจากซีเรียเมื่อใด
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในกลุ่มจีซีซี ตัดสินใจถอนเจ้าหน้าที่ออกจากคณะผู้สังเกตการณ์ความขัดแย้งของสันนิบาตอาหรับ ตั้งแต่วันเสาร์(21) โดยเจ้าชายสะอูด อัล-ไฟซอล รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ ให้เหตุผลว่า รัฐบาลซีเรียไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลงยุติความขัดแย้งที่สันนิบาตอาหรับเสนอไปแม้แต่ข้อเดียว
ที่มา http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000010701
แถมอีกอัน
แกนนำนาวิกฯ มะกันสังหารหมู่ฮาดิธา รับสารภาพ-แต่ต้องโทษนอนคุกแค่ 3 เดือน
ภาพ ภาพบันทึกหลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ สังหารชายอิรัก 5 คน กลางถนนในเมืองฮาดิธาของอิรัก และพลเรือนทั้งเด็กเล็ก หญิงชาย อีก 19 ศพ ในหมู่บ้านข้างเคียง เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2005 เพื่อแก้แค้นให้กับเพื่อนทหารนายหนึ่งที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด
ภาพ จ่าสิบตรี แฟรงก์ วูเตริช
เอเอฟพี - นาวิกโยธินสหรัฐฯ ผู้ถูกดำเนินคดีสังหารพลเรือนอิรัก 24 ราย โดยศาลทหารในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยอมรับสารภาพในความผิดฐานละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทำให้เขาพ้นจากข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท และต้องโทษสูงสุดจำคุกเพียง 3 เดือนเท่านั้น |
|||||
ผู้ต้องหารับสารภาพความผิด 1 กระทง กรณีการละเลยการปฏิบัติหน้าที่โดยประมาท และจะได้รับการพิจารณาโทษในวันนี้ (24) โจ คอปเพล โฆษกของค่ายทหารเพนเดลตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย แถลง นอกจากนี้ แฟรงก์ วูเตริช อาจถูกลดลำดับยศเป็นพลทหาร และอาจถูกตัดเงินเดือน 2 ใน 3 เป็นเวลา 3 เดือน ขณะเดียวกัน โฆษกค่ายเพนเดลตันย้ำว่า วูเตริชยอมรับความผิดที่สั่งการนาวิกโยธินผู้ใต้บังคับบัญชา 7 นาย จนนำไปสู่การสังหารหมู่พลเรือนอิรัก “จ่าสิบตรีวูเตริชยอมรับว่า เขาออกคำสั่ง ‘ยิงก่อน ถามทีหลัง’ หรือยิงโดยไม่ต้องลังเล” โฆษกโจ คอปเพล แถลง ทั้งนี้ เหตุการณ์ในวันนั้น เริ่มจากมีคนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณถนนในเมืองฮาดิธา ทางตะวันออกของอิรัก คร่าชีวิตทหารสหรัฐฯ 1 นาย ต่อมา จ.ส.ต.วูเตริชนำกำลังเข้าตามล่ากลุ่มหัวรุนแรงเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง กระทั่งได้สังหารพลเรือนทั้งเด็ก ผู้หญิง และผู้ชายภายในหมู่บ้านรวม 19 ราย ส่วนอีก 5 ศพ เป็นผู้ชายอิรักที่ถูกสั่งให้ลงจากรถยนต์ และถูกยิงเสียชีวิตกลางถนน ในจำนวนเหยื่อทั้งหมด ยังรวมถึงผู้หญิงและเด็ก 10 ชีวิต ซึ่งถูกยิงในระยะเผาขน โดยมี 6 ศพ ถูกสังหารในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ถูกยิงที่ศีรษะ ก่อนหน้านี้ นาวิกโยธินทั้ง 7 นายที่รับคำสั่งจากวูเตริช ล้วนหลุดพ้นข้อกล่าวหา ก่อให้เกิดความโกรธแค้นในอิรัก ขณะที่ทางการกรุงแบกแดดพยายามเรียกร้องให้สหรัฐฯ ส่งตัวทหารทั้ง 8 นาย ขึ้นศาลอิรักมาโดยตลอด ก่อนที่กองทัพอเมริกันถอนกำลังออกจากอิรักช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คำแถลงจากศาลทหารในค่ายเพนเดลตันระบุว่า ผู้พิพากษากำลังพิจารณาโทษ โดยโทษสูงสุดที่จ่าสิบตรี แฟรงก์ วูเตริช จะได้รับ คือ จำคุก 3 เดือน ตัดเงินเดือน 2 ใน 3 เป็นเวลา 3 เดือน และลดลำดับยศเป็น อี-1 หรือระดับพลทหาร เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกล่าวหาอื่นๆ โฆษกค่ายทหารเพนเดลตันตอบว่า “เงื่อนไขส่วนหนึ่งในการรับสารภาพ คือ ผู้ต้องหาจะพ้นผิดจากข้อกล่าวหาอื่นๆ” |
ที่มา http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000010572
ขยับกันทีไร ตูใช้น้ำมันแพงทู้กกกกกที เซ็งเป็ด............... หลังจากไอ้กันบุกอิรัคสองกระทอก จากนั้นน้ำมันก็แพงขึ้นๆระยับ.............. ดังนี้ ขอให้เราทุกตนภาคภูมิใจว่า เราเองมีส่วนหนับหนุน ธุรกิจอาวุธ ......................... คือระเบิดทุกลูก โตมาฮอว์คทุกดุ้น ที่พระเดชพระคุณท่านประเคนใส่ ที่สุดก็มารีดเอาจากค่าน้ำมันที่ท่านๆเดิมใส่ถังลิตรละเกือบห้าสิบบาทนั่นแหล่ะ........................... ฮู้ ภูมิใจ เจงๆ ที่มีส่วนสนับสนุนไอ้ชั่วมันฆ่าคน.....................
เตรียมตัวรับราคาน้ำมันแพงอีกรอบ
ช่วงนี้ ฝรั่งเศส ออกโรงบ่อยจัง
ยุทธการล่าบ่อน้ำมัน ดีว่าผมติดแก๊ซแล้ว(แต่มันก็จะขึ้นอีกละ)สรุปซวยทั้งขึ้นทั้งล่องเวงกรรม
ทองก็แพงน้ำมันแพงค่าแงถูกอิๆ บ่นๆๆๆๆๆๆๆ
แก้ๆ ค่าแรง ครับ
แล้วอิหร่านจะปิดช่องแคบนั้นเมื่อไหร่ละเนี่ย เขาคว่ำบาตรแล้วนิน่า
เขากำลังโปรโมทอาวุธนะครับ ถ้าขายราฟาลไม่ได้ก็ปิดสายการผลิต
มาอัฟเดตข่าวกันครับ ตอนนี้บิ๊ก3ของเราก็ได้ขู่ต่อ
3 ผู้นำโลกเตือนอิหร่าน ยุติโครงการนิวเคลียร์
3ผู้นำโลกเตือนอิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ (ไอเอ็นเอ็น)
อังกฤษ ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เตือน อิหร่าน ให้ยุติโครงการนิวเคลียร์
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ได้เตือนระหว่างการออกแถลงการณ์ร่วมกับ นายกรัฐมนตรี แองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีและประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า อังกฤษจะไม่ยอมรับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิหร่าน อาจจะเผชิญการถูกโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจ เว้นแต่ว่า อิหร่าน จะยอมละทิ้งความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์โดยทันที ขณะที่ความตึงเครียดทางทหาร ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้นำทั้ง 3 ระบุว่า ไม่ได้ต้องการมีปัญหาขัดแย้งกับประชาชนชาวอิหร่าน แต่ผู้นำของอิหร่าน ล้มเหลวในการฟื้นฟูความเชื่อถือจากนานาชาติ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติ ซึ่งพวกเขาไม่อาจยอมรับอิหร่านในเรื่องการมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองได้
การออกแถลงการณ์ร่วมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากแพ็คเกจคว่ำบาตรอย่างไม่คาดฝันของสหภาพยุโรป หรือ อียู ที่ถูกออกแบบมา เพื่อเล่นงานเศรษฐกิจอิหร่าน ที่รวมทั้งการห้ามนำเข้าน้ำมันอิหร่านไปยังยุโรป ขณะที่อิหร่าน ได้ตอบโต้ด้วยคำเตือนเช่นกัน โดยเฉพาะการประกาศว่าจะปิดทางเข้าช่องแคบฮอร์มุซอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่า เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของอิหร่าน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเส้นทางการขนส่งน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย และทำให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้น โดย สหรัฐ ได้เตือนอิหร่านว่า การปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ โดยเฉพาะเรือบรรทุกน้ำมัน โดยเป็น 1 ใน 5 ของเส้นทางออกน้ำมันของโลก อาจจุดชนวนให้เกิดการตอบโต้ทางทหารที่รุนแรงจากชาติตะวันตก และสิ่งที่ตอกย้ำคำเตือนของสหรัฐ คือ การที่เรือรบของอังกฤษ สหรัฐ และฝรั่งเศส จำนวน 6 ลำ ได้เดินทางสู่ช่องแคบฮอร์มุซ
ที่มา http://hilight.kapook.com/view/66830
สรุปว่า
1.เกิดสงคราม เราก็น้ำมันแพง
2.อิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ ส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียไม่ได้ เราก็น้ำมันแพง
สรุปยังไงชาวโลกก็ซวยสุดเพราะน้ำมันแพง เวรกรรมจริงๆ
อ้าว พึ่งมาอ่านละเอียด ไหงเยอรมันเตือนด้วยละ ทีแรกนึกว่ามะกันนะนั้น สรุปโจทย์เพิ่มแล้วสินะเนี่ย..
อันนี้ข่าวจากผู้จัดการครับ
ภาพ ร้านค้าในอิหร่านที่ยังค้าขายตามปกติ แม้มีความตึงเครียดกับชาติตะวันตก ที่ล่าสุดสหภาพยุโรปลงมติเห็นชอบมาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านที่หลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอิหร่าน
อิหร่านเย้ยอียูคว่ำบาตรภาคพลังงานไร้ผล เตือนทำราคาน้ำมันพุ่ง
เอเอฟพี - เหล่าส.ส.และเจ้าหน้าที่ของอิหร่านเมื่อวันจันทร์(23) ชี้การตัดสินใจของสหภาพยุโรปที่เตรียมออกมาตรการห้ามน้ำเข้าน้ำมันของเตหะรานจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของพวกเขา และในทางตรงข้ามก็รังแต่จะดันราคาน้ำมันโลกให้พุ่งสูงขึ้นไปอีก
มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันต่ออิหร่านมีประโยชน์กับแค่เพียงนักการเมืองอเมริกันและยุโรปบางคน แต่มันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อเศรษฐกิจของอิหร่าน" อาลี อัดยานี คณะกรรมาธิการพลังงานของรัฐสภาอิหร่านบอกกับสำนักข่าวฟาร์สนิวส์
อัดยานีบอกต่อว่าแม้มีการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวแต่อิหร่านก็จะยังคงส่งออกน้ำมันไปยังประเทศอื่นๆได้อยู่ดี และมาตรการใหม่นี้ก็รังแต่จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
ส่วนฮัสซัน ชาบันปัวร์ คณะกรรมาธิการอีกคนระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรของยุโรปนี้เป็นแค่ "แผนโฆษณาชวนเชื่อ" เท่านั้น และชี้ว่าซาอุดีอาเบียมิอาจชดเชยปริมาณน้ำมันจำนวนมากที่อิหร่านส่งออกไปยังยุโรปได้ทั้งหมด
ขณะที่อาลี ฟัลลาเฮียน อดีตรัฐมนตรีข่าวกรองของอิหร่านบอกกับสำนักข่าวฟาร์สนิวส์ว่าวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรใหม่ของอียูคือการหยุดส่งออกน้ำมันไปยังยุโรปเสียก่อนที่ชาติสมาชิกอียูจะหาแหล่งน้ำมันทางเลือกอื่นแทนน้ำมันของพวกเขาได้
เมื่อวันจันทร์(23) ชาติสมาชิกอียูลงมติอย่างไม่คาดหมายเห็นชอบบังคับใช้มาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันของอิหร่านเพื่อกดดันเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และเรียกร้องให้เตหะรานกลับคืนสู่โต๊ะเจรจา
เจ้าหน้าที่ทูตในกรุงบรัสเซลส์บอกกับเอเอฟพีว่าข้อตกลงนี้ระบุให้ระงับการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านทันที แต่ให้ค่อยๆ ยุติสัญญาที่มีอยู่จากนี้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอียูยังมีแผนคว่ำบาตรธนาคารกลางของอิหร่าน ตลอดจนผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมี และทองคำของอิหร่านอีกด้วย
ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000010347
มาแล้วครับมาตรการคว่ำบาตร แบบเดียวกับที่ทำกับอิรักก่อนบุก
ส่วนนี่ข่าวขำๆ คลายเครียดครับ
นิตยสารผู้ดีเผลอลงรูปทหารโชว์ “ดุ้น” อ้างเข้าใจผิดนึกว่านิ้ว
ภาพ ถ้อยแถลงขออภัยจากนิตยสาร เรดิโอ ไทม์ส หลังลงรูปนาวิกโยธินอังกฤษโชว์อวัยวะเพศแบบไม่ได้เซ็นเซอร์ลงฉบับสัปดาห์นี้ โดยอ้างว่าเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่ปรากฎคือ "นิ้วมือ"
เอเจนซี - นิตยสารรายการทีวีอังกฤษ เรดิโอ ไทม์ส ต้องรีบแถลงขออภัย หลังตีพิมพ์ภาพหมู่นาวิกโยธินโดยไม่ทันสังเกตว่า ทหารคนหนึ่งกำลังเปิดเผย “อาวุธลับ” ออกมาอย่างโจ่งแจ้ง
เจ้าหน้าที่สำนักพิมพ์ปล่อยให้ภาพถูกเผยแพร่ลง เรดิโอ ไทม์ส ฉบับสัปดาห์นี้โดยไม่เซ็นเซอร์ เนื่องจากคิดว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็น “นิ้วมือ” แม้จากภาพจะเห็นได้ชัดเจนว่า แขน 2 ข้างของทหารรายนี้วางแนบอยู่กับลำตัวก็ตาม
ทหารคนดังกล่าวเป็นหนึ่งในนาวิกโยธิน 42 นายที่ยืนเรียงแถวเพื่อถ่ายรูปโปรโมตสารคดีชุด “นาวิกโยธินอังกฤษ: ภารกิจในอัฟกานิสถาน” ซึ่งจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5
เรดิโอ ไทม์ส ลงข้อความขออภัยบนเว็บไซต์ โดยแนบรูปที่ผ่านการเซ็นเซอร์ด้วยเครื่องหมายกากบาทสีแดงเอาไว้ด้วย
“เรดิโอ ไทม์ส ขออภัยที่ลงภาพอันไม่เหมาะสมโดยความประมาทเลินเล่อ” เบ็น เพรสตัน บรรณาธิการ เรดิโอ ไทม์ส เผย
“เราทราบภายหลังว่า ในรูปหมู่นาวิกโยธิน 42 นายจากหน่วยคอมมานโดที่ดูปกติธรรมดา และถูกเผยแพร่ลงนิตยสาร เรดิโอ ไทม์ส รวมถึงสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เพื่อโฆษณาสารคดีชุด “นาวิกโยธินอังกฤษ: ภารกิจในอัฟกานิสถาน” นั้น มีทหารนายหนึ่งกำลังเล่นตลกอยู่”
“ทหารซึ่งไม่ทราบชื่อนายนี้สวมกางเกงขาสั้นเช่นเดียวกับทหารคนอื่นๆ แต่เมื่อพิจารณาดูใกล้ๆจึงเห็นว่า สิ่งที่เราคิดว่าเป็นนิ้วของเขานั้น อันที่จริงเป็นอวัยวะอีกส่วนในร่างกาย”
“เราได้ปรับแต่งภาพด้านบนแล้ว ทว่านิตยสารฉบับวันที่ 28 มกราคม ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายวันนี้ในราคา 1.40 ปอนด์ ตกไปถึงมือสื่อมวลชนก่อนที่เราจะสังเกตเห็นความผิดพลาด”
ขณะที่การเล่นพิเรนทร์ครั้งนี้คงทำให้ทหารคนดังกล่าวกลายเป็นดาวดังในหมู่นาวิกโยธินทั้ง 42 นาย แต่สำหรับ เรดิโอ ไทม์ส คงต้องอับอายไปอีกพักใหญ่ และใช้ความระมัดระวังยิ่งขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อจะตีพิมพ์รูปทหาร
ที่มา http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000011065
ก็ไม่เข้าใจว่าพี่แกไม่รู้ตัวหรือไร เค้าถ่ายรูปแท้ๆยังโชว์ สงสัยอากาศมันร้อนจัด เหอะๆ
ถ้าเค้าไม่กลัว เค้าก็ปิดไปแล้ว อันนี้รูปการปิดช่องแคบ...
ลำพัง อเมริกา เจ้าเดียวก็หนัก แล้ว นี้ยังแถม 3 เสือ ยุโรบอีก (อังกฤษ ฝรั่งเศส และ เยอรมัน) แถมอีก 1 เทพ อิสราเอล ถ้าจัดกันจริงๆ อิหร่านก็แหลกกันคราวนี้แหละ เสร็จจากนี่ ก็คงไป กิ้วๆ แถว ซีเรีย ตามแผนที่ว่าต้องทำให้ ชาติแถบตะวันออกกลางอ่อนแอ จับกลุ่มกันไม่ติด ส่วนพี่หมี กับพยามังกร ก็ทำได้แค่ค้านนั้นแหละ ครับ
ปล.ชอบนะครับกับความคิดที่ว่า อิแอบ เศษฝรั่ง เพราะผมก็คิดเหมือนกัน กัมพูชา กับ ลาวบาง ส่วน อิแอบมาเอาไป เอาไปก็ไม่รู้จักพอขอแล้วขออีก แถมทำแผนที่วางยาไว้อีก 555+ คนอยุ่ก็เลยทะเลาะกันต่อไป
ที่ผมเรียก ว่า อีเเอบ มันชอบมาเเอบ เอาเเผนดินเราไป เเถม ทำเเผนที่กำมะลอ ไม่หาคำอะไร ดี ยุดหลังๆยังจะซ๋าอีก วิ่งหาเรื่อง สิทธิมนุษยชนซังกะบ๋วย NGO = โง่
ทั้งหมดมันเเค่อยากได้น้ำมันเเละทรัพยากรเอาทำธุระกิจไร้สาระต่างๆ (ไอเเพด ไอไฟร เห่อเป็นสาวก Apple หลอกของมันดีที่ได้เสียตังมากกว่าไร้สิ้นดี ค.ค.ส.ต)
เเต่ รูปข้างที่ นันคือลับที่เเรงที่สุดโลก 55555
เเก้ไข คำ พิมส์ตกคำไป ครับผมตาลาย
ไอ้รูปข้างบนที่โชว์อยู่ นันคืออาวุธลับที่ร้านเเรงที่สุดโลก
อย่าปิดช่องแคบเลย เด่วจ้าวโลกไม่มีใช้....
นำใจไมตรีของอดีตนักล่าอาณานิคม(อังกฤษ,ฝรั่งเศส)กับน้องที่แปลงร่างได้อย่างอเมริกา ช่างประเสริฐนัก
มีอะไรก็ประเคนใส่ตะวันออกกลาง...สงสารเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ที่กลายเป็นแหล่งทดลองอาวุธ และแบ่งทรัพยากรไปจากพวกเขา..
เห็น ชัยภูมิ ทำเลดี นึกว่าจะเดินเรือเข้าช่องแคบ............................... ที่ไหนได้ ตกทะเลไม่เห็นฝั่ง ............. กลายกับ เป็นช่องกว้าง น้ำเฉาะเฉะ สาหร่ายขึ้นแซมปะการังดำมิดหมี ...........................
คุณกบบรรยายจนเห็นภาพเลย ^__^