หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เกาหลีใต้จะเริ่มสายการผลิต FA-50 ในปี 2013

โดยคุณ : neosiamese2 เมื่อวันที่ : 23/01/2012 09:23:24

S. Korea to mass-produce armed version of trainer jet starting in 2013 SEOUL, Nov. 4 (Yonhap) -- South Korea will begin mass production of an armed model of its supersonic trainer jet starting in 2013, the state procurement agency said Friday. The Defense Acquisition Program Administration (DAPA) said it will finalize a deal within this year so that the first armed version of the T-50 trainer jet, dubbed the FA-50, will be delivered to the Air Force by August 2013. Sources said up to 60 FA-50 jets will be produced by 2016. FA-50s are designed to fill the void left by outdated Air Force fighters, such as the A-37 and F-5. Officials say the multirole FA-50 is comparable to KF-16 aircraft. Separately, the DAPA said it will select the winner of its project to acquire 60 fifth-generation fighter jets in October next year, after posting a public notice of the invitation to bid in January and reviewing proposals in June. Candidates for the 8.29 trillion won (US$7.46 billion) project have been narrowed down to four models: the F-15SE Silent Eagle by Boeing, F-35 Lightning II by Lockheed Martin, Eurofighter Typhoon by the European Aeronautic Defense and Space Company (EADS) and the T-50 PAK-FA by Russian firm Sukhoi. "We will weigh in all factors, such as performance, costs, suitability with our military deployment and technology transfer," a DAPA official said. "We will make a decision that is in the best interest of the country." He said the Air Force will continue to review whether to make internal weapons carriage a requirement for the candidates. A fighter jets ability to load weapons internally away from enemy eyes is considered an important part of its stealth capabilities. Meanwhile, the DAPA said it will also select the winners of bids for AH-X attack helicopters and maritime helicopters in October next year. http://english.yonhapnews.co.kr/national/2011/11/04/53/0301000000AEN20111104008100315F.HTML สำนักโครงการจัดหาด้านกลาโหมของเกาหลีใต้(DAPA)ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดหา FA-50 ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นขับไล่โจมตีของ บ.ฝึกไอพ่น T-50 โดยเครื่องแรกจะส่งมอบให้กองทัพอากากาศเกาหลีใต้ในเดือนสิงหาคมปี 2013 และจะเปิดสายการผลิตในจำนวน 60ลำจนถึงปี 2016 FA-50 จะเข้าประจำการแทน บ.ขับไล่ และ บ.โจมตีรุ่นเก่าของกองทัพอากาศเกาหลีใต้หลายแบบเช่น F-5 และ A-37 ตัวเลือกแบบ บ.ขับไล่ใหม่ของเกาหลีใต้มูลค่า $7.46 Billion ก็แคบลงเหลือ4แบบคือ F-15SE, F-35, Typhoon และ T-50 PAK-FA และ DAPA จะเลือกผู้ชนะในการแข่งขันโครงการจัดหา ฮ.โจมตี AH-X และ ฮ.ใช้งานทางทะเลในเดือนตุลาคมปีหน้าด้วยครับ เครดิตจากเวปบล็อคของท่าน AAth1 สมาชิกระดับปรมจารย์ของ TFC เราครับ




ความคิดเห็นที่ 1


     A-50 นี่สามารถใช้อาวุธทุกชนิดที่ F-16 50/52 ใช้ได้ครับ    ต้องบอกว่าเครื่องรุ่นนี้เป็นเครื่องรบแท้ๆที่ไม่ได้พัฒนามาจากเครื่องฝึก   น่าสนใจถ้าต้องมาแทน alpha jet และฝูงโจมตีที่ขาดไป 1 ฝูง   สามารถติดตั้งกระเปาะต่างๆเพื่อบินเจาะระบบป้องกันภัยทางอากาศได้    ราคาพอๆกับ M-346 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/01/2012 00:57:49


ความคิดเห็นที่ 2


เอาไปเปรียบ อัลฟ่าเจ็ต รู้สึกจะตีราคาต่ำไปหน่อย.................แท้จริงต้องบอกว่าเทียบได้กับ เอฟ-๑๖ ในบทบาท ขัดขวางทางอากาศ ........................... ผมเชื่อว่า ตราบใดที่เรายังมี เฟ-๑๖ สามฝูง หรืออาจจะเพิ่มอีกฝูงในอนาคต   เอ-๕๐ คงเกิดในไทยยาก เพราะมันเกินความต้องการและเกินราคาค่างวดไปแล้ว สำหรับภารกิจโจมตีสนับสนุนการรบโดยใกล้ชิด ต้องเป็นเครื่องบินราคาถูก เครื่องน้ำหนักเบาความเร็วต่ำกว่าเสียง ใช้ระบบนำร่องพื้นฐานปราศจากเรดาร์ ซึ่งดัดแปลงมาจากเครื่องบินฝึกก้าวหน้าคือคำตอบ................... แต่จะว่าไม่มีทางเลยก็ว่าใช่   ทางเดียวที่จะเป็นได้คือ การนำมาทดแทน ไทกรีส ฝง ๒๑๑   แต่ในใจลึกๆสำหรับผม ฝูงนี้ ทอ.อาจย้าย โอซียู/เอ็มแอลยู ๔๐๒ มาไว้ แล้วทดแทนด้วย ขับไล่โจมตีทางลึก ประเภทสองเครื่องยนต์  เพราะทุกอย่างเราคบแล้ว ไม่ว่าเป็น อิเตอร์เซปเต้อร์เขี้ยวเล็บแหลมคม  โจมตีขัดขวางกลางวัล กลางคืน  โจมตีหนับหนุนการรบ  ขาดก็คือ โจมตีทางลึก ลึกจริงๆ ประเภทเจาะเข้าไปดุ่ยๆไม่พึ่งใคร  แบกไปโลดทั้งดัมพ์บอมบ์ สมาร์ทบอมบ์  จรวดป้องกันตัวเอง ยิงไกล ยิงไกล้ ยิงตรงยิงเฉีง ยิงข้ามไหล่ ยิงพาดบ่า(อย่างหลังนี่มีป่าวไม่รู้)  ที่สำคัญ เรดาร์ต้องมหากาฬ  กับราคามหาโหด เบื้องต้น รับไปก่อน หกลำ .................. ลูกรักลูกชังอยู่แล้วนี่...................ทำมัยจะขอไม่ได้ จิงมั๊ย.................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 19/01/2012 08:14:13


ความคิดเห็นที่ 3


คลิปนี้ให้ดู   ไอ้พวกยิงข้ามบ่าได้นี่มันน่ากลังจริงๆ    ไซด์ไวน์เดอร์-เอกซ์  แอดเดอร์   ไพธ่อน-๕  มันน่ากลัวจริงๆ...................น่าดีใจที่เราเองก็มีจรวดในคลาสนี้ ติดกับน้องนางเอวบางร่างน้อย ฝูง ๗๑๑ ....................   จริงๆแล้ว มีความเห็นว่า ในภารกิจอินเตอร์เซปต์  อำราม กินขาด  ไม่มีอาวุธอะไรในยุคนี้เหมาะกับอินเตอร์เซปเตอร์เท่ากับ จรวดบีวีอาร์ประเภท แอคถีฟโฮมมิ่งอีกแล้ว............................  แต่ไอ้พวกพาดบ่า เอ้ย ข้ามบ่าเนี่ย เหมะกับพวกนักเจาะ คือพวกบินต่ำเจาะเข้าไปโจมตีทางลึก    การบินเพดานบินต่ำเรียดดิน อาวุธยิงใกล้มีโอกาสได้ใช้มาก(ถ้าไม่ถูกลุคดาวน์ชู้ตดาวน์ก่อน)  .................. ที่เห็น ก็เจ้าต่อของเพื่อนบ้าน  แม้จะมีบีวีอาร์ เซมิแอคตีฟ แต่ที่สุดก็เลือกที่จะใช้เจ้าไซ้ไวเดอร์เอ็กซ.................... เห็นมั๊ยหล่ะ เห็นมั๊ยหล่ะ  บินต่ำเรีดน้าเข้าโจตีกองเรือ  ใครเข้าไปสกัด ก็จะเจอลูกตบม้วนหลังเข้าก้านคอเหมือนในคลิป..................

http://www.youtube.com/watch?v=nWG2PkwKiaQ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 19/01/2012 08:29:46


ความคิดเห็นที่ 4


ถึงตรงนี้ฟันธง...................... คู่ตบน้องหยาด คือน้องแตน.........................  น้องแตนแอบย่องมาแย่งผัว  น้องหยาดเลยสวมบทนางเสือออกไปพิทักษ์สิทธิ................. เลยเกิดการราวี ตบกันบนท้องฟ้าอันดามัน   .............. ใครจะชนะจะแพ้ไม่รู้  ที่รู้ไอ้ทึ่มมันฟาดสอง ล่อทั้งนางเอกทั้งนางร้าย   เอ้า .........เป็นละครช่องสามไป...............

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 19/01/2012 08:45:06


ความคิดเห็นที่ 5


แล้วคุณ กบ คิดว่า เครื่องโจมตีทางลึก รุ่นไหนที่จะได้เกิดในบ้านเราหรอครับ แล้วต้องรออีกกี่ปีหรอครับ T-T อยากเห็นเป็นบุญตาก่อนตาย

โดยคุณ kapooknet200 เมื่อวันที่ 19/01/2012 09:30:23


ความคิดเห็นที่ 6


ในภารกิจโจมตีทางลึก ขอให้ลืมเรื่องคุณสมบัติการล่องหนไปเลย................. ทั้งสองอย่างนี้มันสวนทางกัน.................... ในด้านเทคโนโลยี่ปัจจุบัน คงไม่มีชาติใดออกแบบเครื่องบินขับไล่ล่องหน ซึ่งสามารถบรรทุกเอาระเบิดหนักกว่าสิบตัน เข้าไปใส่ไว้ในท้องขณะบินได้............. อีกอย่าง ระบบนำร่องอันทันสมัย สามารถบินต่ำได้เรียดพื้นในเวลากลางคืน จะสามารถชดเชยจุดอ่อนการตกเป็นเป้าเรดาร์ได้...................... เพราะฉนั้น ขอทำความเข้าใจ กับพี่น้อง  เรือ่งสองเครื่องยนต์ ติดอาวุธหนักของผม (แหะ เน้นว่าของผมเลย เพราะในเวป รู้สึกปลื้มกับอินเตอร์เซปเท่อร์เหลือเกิน)   อย่าได้เอาไปปะปนกับเรื่องของ สุดยอดน้ำหนักเบาล่องหน เอฟ-๓๕ ซึ่งรับความคาดหมายว่าจะเป็นขวัญใจเราในอนาคต   คือทั้งสองอันนี้ มันคนละเรื่องเดียวกัน..............................

มะกัน ทะยอยปลด เอฟ-๑๕ ซี ออก เพื่อเปิดทางให้แรปเท่อร์ ในบทบาทครองอากาศ  แต่ เจ้าเอฟ-๒๒ ก็จะยังปฏิบัติงานคู่กับ เอฟ-๑๕ อี ซึ่งเจ้าอินทรีย์ ก็ยังเป็นเครื่องบินขัดขวางทางลึก อีกตราบนานแสนนาน ...................... คุณสมบัติของเจ้าทางลึก ต้องมีระบบนำร่องที่ดีเยี่ยม เรดาร์มหากาฬ อาวุธ อ-อ มหาปลัย อ-พ มหาวินาศสันตโร  ที่สำคัญต้องบินไกลและ นน.บรรทุกเยอะ   ช้อยซ์ คือ  ต่อ อี    สไตรค์อีเกิ้ล (เอฟ-๑๕ เอสเอ็ม(สยาม))   และ ซู-๓๐  นอกจากนี้ ยังมี  ต่อดี  และเจ้า ทอเนโดไอดีเอส  มือสอง อันนี้สำหรับนักนิยมคลาสสิค

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 19/01/2012 21:21:06


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าอย่างนั้นเอาแบบความเห็นส่วนตัวบ้างครับ

ผมมองแบบนี้ครับ อินเตอร์เซปเตอร์เรามีพอแล้วล่ะ เอาแบบบินไกล บินทน ขนได้เยอะ สักฝูงจะเป็นไรเลิกได้หรือยังกับความคิดเก่าๆว่าเราไม่รุกรานใคร การป้องปรามที่ดีที่สุดคือต้องมีสิ่งที่ไปได้ไกล ไปแล้วราบเป็นหน้ากลอง ไปแล้วกดระบบป้องกันถัยของฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เงยหัวได้ หรือมีแล้วก็จะพูดอะไรก็ง่าย อย่างที่ ท่าน เสือใหญุ่ พูดไว้  จำไม่ได้T_T แต่ประมาณว่า อาวุธหนัก แล้วการทูตจะตามมา

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 19/01/2012 21:42:05


ความคิดเห็นที่ 8


ผมเขียนไว้อย่างนี้ครับคุณ ALPHA001

 

ฝากไว้ให้คิดกันครับ เพื่อนบ้านทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกต่างก็มีประสบการณ์โดนเราทุบแรงๆ

บาดเจ็บล้มตายไปเยอะ ยุทโธปกรณ์เสียหายไปก็มาก น่าจะได้ประสบการณ์นำไปปรับปรุงแผน

ยุทธการ ระบบอาวุธ และการฝึกศึกษาของตน เพื่อจะตอบโต้เราได้สมน้ำสมเนื้อมากขึ้นหากเกิดเหตุการณ์

ความขัดแย้งถึงขั้นใช้กำลังกันขึ้นอีก

 

จึงอยากให้ทหารของเราดำรงไว้ซึ่งความได้เปรียบ เร่งการพัฒนากำลังพล อาวุธ การฝึกต่างๆ และแผนการรบ

ต่างๆ ให้ล้ำหน้าอยู่เสมอ อย่าให้เพื่อนบ้านไล่ทันหรือแซงหน้าได้ ไม่งั้นรั้วทั้งสองด้านไม่สงบแน่ ขนาดเราเหนือ

กว่าเค้ายังไม่ค่อยจะเกรงใจ ด้วยอาจจะคิดว่าเรามีฝ่ายการเมืองคอยปรามอยู่

 

หมัดหนักไว้ก่อน การทูตจะได้เปรียบ

 

อีกความเห็นที่เคยโพส สนับสนุนแนวคิดคุณกบอ๊บๆๆๆ

 

ใจจริงอยากให้ ทอ. ไปเข็น ซู30/35 มาสักฝูงนะครับ คือให้มี บ. มัลติโรล์ระดับซูพีเรียเอาไว้รักษาสมดุลกำลังทางอากาศรบกับเพื่อนบ้านไว้บ้าง ลำพัง เอฟ-5 ม๊อด, เอฟ-16 ม๊อด, กริเป้น เพื่อนๆ เค้ากลัวกันที่ไหนครับ

 

แบบว่าจัดการกำลังทางอากาศเป็นสามระดับ

 

ระดับเทพ ซูพีเรีย แบบว่าไว้ครองอากาศหรือโจมตีทางลึก ซู30/35 หรือ เอฟ-15อี หนึ่งฝูงเต็มๆ 18 ตัวก็พอ อาวุธครบมือ วางไว้ที่โคราชฝูง 102

ระดับอัศวินสารพัดประโยชน์ เอฟข16 เอ็มแอลยู 2 ฝูงๆ ละ 18 ลำ วางไว้ที่ตาคลีฝูง 403 และโคราชฝูง 103

บวกกับกริเป้น/อีรี่อายส์ 2 ฝูงๆ ละ 18 ลำ วางไว้ที่สุราษฎร์ฯ ฝูง 701 และที่ตาคลีฝูง 401

ระดับม้างานทั่วไป เอาไว้บินลาดตระเวณและโจมตีเบา 4 ฝูงเลย ฝูงละ 18 ตัว ซูเปอร์ทูคาโน วางไว้ที่เชียงใหม่ฝูง 411 อุดรฯ ฝูง 231 อุบลฯ ฝูง 211 และประจวบฯ ฝูง 531

 

ถ้าได้ขนาดนี้รับรองไม่มีใครแหยมกับเราแน่ แต่ต้องแลกกับงบประมาณมหาศาล แถมรับรองว่าจะต้องมีนักการเมืองมาขอเอี่ยวผลประโยชน์ในการจัดซื้อด้วย เห็นทีความฝันผมคงไม่มีทางเป็นจริงได้แน่นอน...


 


 


โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 20/01/2012 02:12:18


ความคิดเห็นที่ 9


ขอบคุณครับ ท่าน เสือใหญ่

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 20/01/2012 02:15:37


ความคิดเห็นที่ 10


ท่านกบพูดถูกใจผมมาก อิอิ+

อยากได้อยู่เหมือนกัน เครื่องขับไล่ครองอากาศแบบสองเครื่องยนต์

บ้านเรามีเครื่องแบบป้องกันขั้นเทพแล้ว ได้แบบ เชิงรุกบ้างคงดีไม่น้อย

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 20/01/2012 02:38:40


ความคิดเห็นที่ 11


โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยกับ พี่เสือใหญ่ สำหรับการที่กกองทัพอากาศเราควรจะมีเครื่องบิน ขับไล่ครองอากาศ/โจมตีทางลึก ขนาดใหญ่ไว้ประจำการ ซึ่งถ้าหากตัวเลือกมี F-15E กับ SU-30MK นั้น ถ้าหากว่ามองที่การบุณาการเกี่ยวกับอาวุธแล้ว F-15E น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดครับ แต่ถ้าคุยเรื่องราคาแล้ว SU-30MK นั้นใช้ได้ทีเดียว แต่ว่าราคานั้นแน่นอนว่ามีการเมืองเข้ามาเอี่ยวด้วยจริงๆจนไปๆมาๆกลายเป็นหนังชีวิตคล้ายเรือ ส. ของกองทัพเรือ แบบคราวที่แล้วอีกแน่นอน

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 20/01/2012 04:20:11


ความคิดเห็นที่ 12


ผมเห็นด้วยเหมือนกันครับ เพราะที่ติดตามในฐานะเป็นแฟนคลับคุณกบมานาน จำได้ว่าคุณกบ เชียร์ Su-30 มาก และผมก็เคยตั้งกระทู้ให้เปรียบเทียบระหว่างRafale
กับ SU-30 ในตอนนั้นผมเลือก Su-30 คุณกบให้เหตุประกอบที่ดีมากกับ Su-30   แต่ถ้าจะมองกับสภาวะในปัจจุบันแล้ว อย่างที่พี่เสือใหญ่ กับคุณกบ บอก ทอ.ยังขนาดบ.ขนาดใหญ่ครองอากาศอยู่ครับ  แต่ถ้าจะให้ผมเชียร์ (เลือก) ผมมองไปที่ F-15 หรือไม่ก็ Eurofighter Typhoon ครับ เหตุผลคงไม่ยกมาประกอบละครับ เอาห้วนๆง่ายๆแบบนี้ละกัน ^_^

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 20/01/2012 07:25:40


ความคิดเห็นที่ 13


ส่วนตัวผมอยากได้โมเดลนี้นะ เอา T-50 มาแทน L-39 ...... T/A-50 หรือ F/A-50 มาแทน Alpha Jet แล้วก็ไปเอาเจ้า Super Hornet

มาขับไล่ครองอากาศ+โจมตีทางลึก เพราะว่าอย่างน้อยๆอาวุธกับอะไหล่เครื่องยนต์บางชิ้นก็สามารถหยิบยืมกันได้

แต่ก็ไม่แน่ว่าสำหรับ ขับไล่ครองอากาศ+โจมตีทางลึก ท่าน รมต.คนใหม่ ท่านอาจจะยังอยากได้ SU-30 อยู่เหมือนเดิม

โดยคุณ shifty เมื่อวันที่ 20/01/2012 08:47:00


ความคิดเห็นที่ 14


เห็นด้วยกับแนวคิดที่ไทยควรมีบินรบแบบสองเครื่องยนต์ไว้ใช้งาน ถ้าเลือกได้ขอเป็น F-15  (ด้วยพลังศรัทธาล้วนๆเหตุผลที่ทำไมไม่เลือก SU จึงโดนปัดตกหมด lol) 

โดยคุณ For_All_Mankind เมื่อวันที่ 20/01/2012 11:18:47


ความคิดเห็นที่ 15


ก็ไม่ยากนี่ครับ เปลี่ยนจากเฟส 3 กริฟเฟน เป็น Su-30/35 ซัก 6-4 ลำ แทน(จะโดนแฟนๆน้องกริฟด่าเปล่าหว่า)


โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 20/01/2012 17:13:23


ความคิดเห็นที่ 16


ถ้าเรามีความจำเป็นต้องจัดหาเครื่องบินรบประเภทโจมตีทางลึกมาใช้งาน ก่อนอื่นควรจะเอากริฟเพ่นให้ครบ 16 หรือ 18 ลำ ครับเพื่อดำรงขีดความสมารถทางการรบที่เต็มฝูง 12 ลำผมว่ายังน้อยไปครับ มันเหมือนองค์กรที่ต้องการคน 16-18 คน แต่กลับมีคนทำงานแค่ 12 คน มันเหนื่อยครับ

และถ้าเราคำนึงถึงจำนวนการจัดหาแน่นอนครับเครื่องฝั่งยุโรปหรืออเมริการาคาแพงโคตะระ ต่อให้เป็นมือสองก็ตามและอาจได้มาจำนวนน้อย 5-6 ลำ ไม่พอครับ ถ้าจะให้ดีจัดหนักไปเลยครับถ้าจะเอาจริงๆในส่วนตัวอยากให้มอง SU-35 BM มากกว่า SU-30 MKI(T) เพราะอะไรพราะว่าใหม่กว่าครับเทคโนโลยีต่างๆอาจจะคล้ายคลึงกับ F-22 ด้วยซ้ำที่สำคัญถ้าเราต้องการให้มันตรวจจับพวก ซ่อนพลางได้ ก็เลือก เรดาห์ ไอบิส-อี ติดมาด้วย ราคาของSU-35 น่าจะถูกกว่า F-15 E หรือ EF-2000 ส่วน ราฟาล ไม่เอาครับ แพงมากแถมเจ้าของมัน แสบไม่ใช่น้อย

http://www.youtube.com/watch?v=O5WnXH0kYns&feature=endscreen&NR=1

 

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 20/01/2012 22:57:45


ความคิดเห็นที่ 17


ผมก็คิดว่าเราน่าจะจัดหา Gripen ให้ครบ 18 ลำ +อาวุธโจมตีพิสัยไกล TAURAS ให้ครบก่อน แล้วจึงค่อยจัดหาบ. โจมตีทางลึก (ส่วนตัวให้เป็น SU34 มากกว่าSU30 มันเป็นความชอบส่วนตัวตรับ )

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 21/01/2012 00:47:57


ความคิดเห็นที่ 18


ถ้าพิจารณาตามภาระกิจของเครื่องที่ทอ. ต้องการแบบนี้ืืื F/A-50 ก็คงจะไม่ได้เกิดจริงๆครับในทอ.ไทย ส่วน M-346 ก็อาจจะแป๊กไปด้วยเนื่องจากราคาที่แพงพอๆกับ F/A-50 ดังนั้นตัวเต็งตามสเปกก็เหลือหนึ่งเดียว Yak-130 เนื่องด้วยสเปกใกล้กันกับ M-346 แต่ราคาต่างกันโลด 27 ล้านเหรียญ กับ 15 ล้านเหรียญ น่าจะออกมาแนวเดียวกับ L-39 คือ ระบบบางอย่างใช้ของอิสราเอลเพื่อให้ใช้งานร่วมกันกับเครื่อข่ายต่างๆที่ได้ลงทุนไว้ แหมถ้าโมดิฟายจนสามารถใช้ มาเวอร์ริค SBL และ IRIST ได้ละก็สุดยอดแล้ว ในความคิดเห็นผม น่าจะมีเครื่องสกัดกั้นอีกสัก 2 ฝูงประจำที่กองบิน 4 และกองบิน 1 นอกจากกองบิน 7 เป็น 3 ฝูงบินสกัดกั้น ส่วนตัวที่มาแทน F-16 มาสารพัดประโยชน์ แนะนำเครื่องโจมตีทางลึก SU-35 ครับ ผมขาเชียร์น้องSU-30 คนเดิม เอามา 3 ฝูง ประจำกองบิน 7 4 1 ตามลำดับ ส่วนเครื่องเสตลธ์ รอไปก่อนก็แล้วกัน Yak-130 ก็เอามาเป็นเครื่องโจมตีเบาประจำ 5 ฝูงไปเลย 2 ฝูงไว้ฝึก 3 ฝูงไว้รบ
โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 22/01/2012 22:23:25