การที่หน่วยข่าวกรองของ อเมริกา แจ้งให้เราทำการจับกุมผู้ก่อการร้ายที่เข้ามาเพื่อก่อเหตุในไทย จากเหตุการดังกล่าวซึ่งเราอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย(โดนไอ้กันมันบีบ) ทำให้เราลำบากที่จะกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง และที่หลายสำนักข่าวแม้แต่ของต่างประเทศยังบอกว่าเราโดนบีบและอีกอย่างหนึ่งคือ การจับกุมผู้ก่อการร้ายในหลายๆครั้งจะทำกันในทางลับแต่เหตุการที่เกิดขึ้นมันยิ่งสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับสังคมและส่งผลเสียต่อประเทศของเราในหลายๆด้านที่สำคัญคือ การท่องเที่ยว และการลงทุน เรื่องนี้ผมว่าอเมริกาต้องการให้เราจำเป็นต้องเข้าร่วมแบบเต็มตัว และต้องการให้ประเทศของเรากลายเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อภัยการก่อการ้าย
หรือท่านอื่นคิดว่าอย่างไร
ข่าวตามลิ้งค์นี้ยังบอกว่า อเมริกา ยังคงประกาศเตือนภัยก่อการร้ายในไทยต่อไป
ผมพยายามหาคลิปรายการตอบโจทย์ของวันที่ 18 /1/55 แต่หาไม่เจอหรือว่าเขายังไม่โพสต์ลงก็ไม่ทราบ
เพราะในรายการที่ผมได้ดูเขาคุยกันหลายเรื่องโดยเฉพาะได้เชิญผู้ที่เคยทำงานด้านการข่าวมาออกรายการ ท่านมียศ พลโท
กับ อาจารย์ ปณิธาน วัฒนาญากร มาสัมภาษโดยทั้งสองท่านได้พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและผลที่จะตามมาในประเทศไทย
ส่วนลิ้งค์ข้างล่างเป็นคลิปข่าวเมื่อวันที่ 16/1/55 ของทางช่อง3
เพื่อนสมาชิกมีแนวความคิดอย่างไรที่จะไม่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกมากไปกว่าที่เป็นอยู่ครับ
ขนาดเราจับผู้ก่อการร้ายได้แล้ว เค้าก็ยังคงประกาศต่อไป แบบไม่สนใจเราเลย...
กับการท่องเที่ยวคงมีผลแค่ระยะสั้นละครับนักท่องเที่ยวที่มาบ้านเราส่วรใหญ่จะเป็นขาประจำพวกนี้เค้าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอาจจะชะงักนิดหน่อย แต่ปัญหานี่น่าจะเป็นทางฝ่ายพี่เบิ้มขี้ระแวงเค้ามากกว่านะที่ผ่านมาเราก็โดนการแจ้งเตือนประมาณนี้มาหลายรอบแต่ก็ไม่เห็นมีอะไร(หรือว่าฝ่ายมั่นคงเราเก่งหว่าอิๆ)แต่กับพวกที่ไม่มีการแจ้งนี่สิเห็นโดนกันอยู่เรื่อย แม้แต่ในบ้านตัวเองฮ่าๆ
อ้อ อีกอย่างบ้านเรามันประเทศเสรีปล่อยฟรีซะทุกอย่างใครจะเข้าจะออกก็ง่ายเลยโดนมองเป็นแหล่งกบดานหรือซ่องสุมไปซะ ซึ่งจะว่าไปก็ดีอย่างเพราะเกิดเหตุอะไรในประเทศเราๆก็คงมีการเข้มงวดตรวจสอบมากขึ้นทางผู้ก่อการร้ายซะอีกจะเดือดร้อนเพราะจะไปหาประเทศใหนอยู่สบายได้เหมือนบ้านเราละครับทำไปก็คงเหมือนเผาบ้านตัวเองมากกว่า
ผมว่าจริงๆแล้วประเทศเราน่าจะรู้ตัวก่อน อเมริกาอาจช้ากว่าเราก็ได้ หลายๆครั้งเราจึงสามารถป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรงได้ เพียงแต่เราไม่ต้องการสร้างความตระหนกให้กับประชาชน แต่พอเราประสานงานไปที่อเมริกา ด้วยความที่เขาไม่เกรงใจเราและต้องการบีบเราให้เลือกฝ่าย จึงทำอะไรออกไปอย่างโผงผางดังที่เกิดนั่นแหละครับ ผมสังเกตุว่าตั้งแต่เราเริ่มหันไปซื้ออาวุธค่ายอื่น เขาก็เริ่มมีอาการเหวี่ยงๆกับเรา สงสัยต้องสั่งของล้อตใหญ่ง้อเขาเสียละ เอ้าเอาอะไรดี Silent eagle สักฝูงไหมครับ เอาไว้ขู่พวกที่ส่งน้ำเลี้ยงให้โจรใต้ เผื่อแกจะเอาเราออกจาก Terrorism Risk List
ไอ้กัน..รุ่นใหม่...มันไม่เห็นความสำคัญของเราครับ...
มันเห็นแก่ตัวมากๆ ..... สมควรแล้วที่มีศัตรูอยู่ทั่วโลก (แรงไปนิดนะครับ แต่สมควรมากสำหรับ ชนชาติที่เห็นแก่ตัว..ครับ)
มันแจ้งเตือนโดยอ้างประเทศไทย แต่จริงๆ มันแจ้งเตือนทั่วทุกภูมิภาคทั้งเอเซียใต้ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ครับ
โดยสังเกตุ จากข้อมูลของผู้เดินทางจากตะวันออกกลางที่มาฝั่งตัว ในประเทศเรา เป็นเวลานานๆ ที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ
มันสามารถเช็คอาชีพและประวัติย้อนของคนตะวันออกกลางกลับไปได้ครับ จากสถานทูตของมันที่อยู่ในตะวันออกกลางครับ
โดยใช้หลักการง่ายๆ คือสอบข้อมูลย้อนกลับรายบุคคล แล้วเอามาประเมินความหน้าจะเป็นครับ
ถ้าเป็นพวกไม่มีอาชีพมาก่อนตอนอยู่ตะวันออกกลาง และเคยเป็นทหาร หรือฝักใฝ่กลุ่มต่างๆ มันถือว่าชัวร์ ครับ
ตอนนี้มันกำลังผะหวาเพราะพึ่งไปแหย่รังแตนมา ครับ กลัวเขาเอาคืน
ข้อมูลของผู้เดินทางข้ามประเทศทั่วโลกตอนนี้ มีฐานข้อมูลหลักอยู่เพียง 3-4 แหล่งเท่านั้น
การเลือกสัณชาติ เพศและชื่อบุคคล ชาวตะวันออกกลางที่เดินทางออกไปต่างประเทศจึงทำได้ง่ายๆ
ข้อมูลจึงอยู่ในมือของไอ้กันหมด ครับ การควานหาศัตรู หรือคาดว่าเป็นภัยจึงเริ่มจากจุดนี้ครับ
ตอนนี้มีปัญหากับคนอิหร่าน...ก็มุ่งไปที่คนอิหร่าน และพันธมิตรของพวกอิหร่านครับ
แล้วอาสัยหน่วยงานรักษาความปลอดภัย ในท้องถิ่นนั้นๆ ช่วยดูแลเป้าหมายที่สงสัยให้อีกต่อหนึ่ง ครับ
หน่วยงานท้องถิ่นเห็นคนไหนมีพฤติกรรมผิดปกติ หรือมีการไหวตัว ก็จับเลย...
มีเป็นสิบ...โถ จับได้คน สองคนเอง..
ที่เลือกเตือนภัยในประเทศไทย ก็เพราะว่า...(ท่อนนี้เดาเอาเองครับ)
เป้าหมายมันคงมีมากกว่าชาวบ้านอื่นเค้าครับ.. แล้วมันไม่มั่นใจว่า ต.ร. ไทย ตั้งใจดูแลเป้าหมายจริงจังหรือเปล่า
เพราะ ต.ร. มั่วไปช่วยชาวบ้านเรื่องน้ำท่วมมายังไม่หายเหนื่อย..
ต.ร. จึงต้อง Action ออกมาให้สมกับ เบี้ยพิเศษที่ได้รับมายาวนานเท่านั้นเอง ก็ๆ.. ร่วมมือกัน.. นะ..
เรื่องเลยใหญ่โต นักท่องเที่ยวหายหมด (ทำอะไร..ก็ไม่รู้ ไม่รู้จักคิดหน้า คิดหลังให้ดี)
การจับชาวเลบานอน ครั้งนี้ ศัพท์ทางเทคนิค..เรียกว่า "จับปลาในคล้อง" ครับ
น่าจะเป็นแค่ พวกมีหน้าที่จัดซื้อจัดหาเท่านั้นครับ
ปกติการขายส่งปุ๋ย "ยูเรีย" นั้น ผู้ค้าส่งต้องจัดทำรายงานรายชื่อผู้ซื้อให้ตำรวจท้องที่อยู่แล้วครับ
จริงๆ จับเฉยๆ ไม่ออกข่าวก็ได้ครับ เพราะมีทั้งผลดีผลเสีย (แต่เสียมีแยะกว่ามาก)
สาเหตุส่วนหนึ่งผมว่าอาจจะเป็นแอคชั่น การตอบโต้ประเทศไทยที่ให้การ สนับสนุน ปาเลสไตน์ ให้เป็นเอกราช ซึ่งเท่ากับหักหน้า อเมริกา และอเมริกาต้องการโชว์พาว อยากมีอิธิพลแถบ เอเชีย อยู่แล้ว ไทยจึงตกเป็นเหยื่อ อีกส่วนอาจจะท่านทูต ผมไม่ขอออกความเห็น ลองไปค้นประวัติเก่าๆดูจะรู้ว่า ไม่ธรรมดา ไปฟิลิปปินส์มาก็..... งานนี้ถ้าเราไม่ทันเกมส์เขา เสียเปรียบเต็มๆแน่ผมว่า บ้านเมืองเราเลี้ยงตัวจากธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยมูลค่ามหาศาลมาก ใครช่วยวิเคราะห์ต่อทีครับว่าน่าจะมีสาเหตุใดอีกที่ทำให้อเมกาหันมาเล่นงานเรา
ปล.ความคิดส่วนตัวนะครับ
แนวความคิดของผมก็คล้าย คุณ airy นะครับ เหล่านักการเมืองรุ่นใหม่ของอเมริกาได้ลดบทบาทความสำคัญบางอย่างที่เราเคยมีกันมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น และเราก็เริ่มห่างเหินเขาออกมาหลังจากยุคของ จอร์ช บุช ผู้พ่อ สาเหตุที่เราห่างเหินเขาออกมาอาจจะมาจากหลายสาเหตุ เช่นการที่เราเริ่มมีความเป็นชาตินิยมมากขึ้นและความสัมพันธ์ที่เรามีต่อจีนในหลายระดับ ดังนั้นเมื่ออเมริกามองเห็นว่าเราเริ่มจะออกห่างเขามากไปและกระทบต่อผลประโยชน์ของเขา(มัน)ก็เลยพยายามบีบเราให้ทำตามหรือกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่เขา(มัน)ไม่เคยมองตัวเขาเองว่าได้กระทำอะไรลงไปบ้าง สร้างความร้าวฉานไปทุกภูมิภาคเพื่อให้ตัวเอง(มัน)ได้ครอบครองแหล่งพลังงานและทรัพยากร ดูตัวอย่างต่อไปที่อเมริกาจะทำคือ อิหร่านถึงแม้อิหร่านจะทำตัวห่ามๆแต่เขาทำเพราะปกป้องตนเอง เขาอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ นิวเคลียร์ นั่น อมเริกาเองก็มีนิวเคลียร์แต่ชอบอ้างว่ามีเพื่อรัษาสมดุล ไม่ได้มีเพื่อทำสงครามแต่เขา(มัน)ก็ก่อสงครามไปทั่ว สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มที่เป็นมุสลิมหัวรุนแรง(จริงๆแล้วปัญหาเหล่านี้ผมไม่รู้หรอกว่ามันเกิดมาตั้งแต่สมัยไหนใครเป็นคนเริ่ม) และที่ตามคือ พม่า ที่อเมริกาพยามจะเข้าไปมีบทบาททั้งในเรื่องการเมือง การทหาร เศรษฐกิจเพราะเขา(มัน)รู้ดีว่าพม่ายังมีแหล่งทรัพยากรที่สมบูรณ์รอวันที่จะขุดขึ้นมาใช้(ยูเรเนียมหรือเปล่าไม่แน่ใจ)
ส่วนเรื่องการเตือนภัยการก่อการร้ายนี้มันเป็นเกมส์ที่อเมริกา(มัน)ถนัดมากเขาต้องการให้พื้นที่ไหนเป็นเขตอันตรายเขาก็จะหาเหตุแล้วก็ปล่อยข่าว(อย่าลืมว่า CIA บางครั้งก็ทำตัวเป็นผู้สร้างสถานการณ์เองก็อาจจะเป็นได้) การสร้างความหวาดกลัวอเมริกา(มัน)ถนัดมากตั้งแต่ยุคสงครามเย็น
เมื่อคืนผมได้ดูรายการสัมภาษอดีตนายกของประเทศอังกฤษ โทนี แบลร์ ทางช่อง ThaiPBS เขาได้ให้สัมภาษเรื่องต่างที่เขาได้ทำมาและเรื่องทั่วไปไม่มีเรื่องทางการเมือง แล้วเขาให้ทัศนะว่าประเทศไทยเป็นประเทศเปิด และก็เป็นการง่ายที่จะมีกลุ่มเหล่านี้เข้ามาแต่อดีตนายกอังกฤษก็บอกว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่สื่อได้ออกไปเพราะตัวเขาเองก็เดินทางมาในช่วงที่มีเหตุการณ์ และยังได้บอกอีกว่าเราควรทำตัวให้เป็นศูนย์กลางของอาเชียนเพราะทุกประเทศที่มาในภูมิภาคนี้ต้องผ่านประเทศไทย และมีคำถามหนึ่งที่นักข่าวถามว่า หลังจากที่ท่านลงจากตำแหน่งนายกแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรกับตัวท่าน อดีตนายกอังกฤษตอบทันทีว่า ผมมีฐานะดีขึ้นกว่าตอนที่เป็นนายกอีก
ระวังไอ้ที่ส่งเสียงดังนั่นแหละจะล่อเราให้ จัดฉากบึ้มแล้วก็บอกว่า นี่ไงเตือนแล้วเกิดจริงๆด้วย แสบ!
ยิว..กับ..ไอ้กัน...ได้ข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ..นิวเคลียส์ของ..อิหร่าน จาก IAEA ที่เข้าไปตรวจสอบ ครับ
IAEA นี่ก็ คือเด็ก..ในคาถา ของไอ้กัน (ไอ้กัน...คงส่งสัญญาน ให้ยิว...จัดการอีกที)
...สำหรับทูตไอ้กันคนนี้....ผมว่าอีกไม่นานคงแผงฤทธิ...แน่ๆ
ไม่ทะเลอะกับรัฐบาลไทย...ก็คงทะเลอะกับประชาชนคนไทย (คาดการณ์เอาเอง..เรื่องอนาคตที่เป็นไปได้มาก ครับ)
เพราะท่าทางเค้ามีจุดยืนมากๆๆ ครับ แล้วไม่แค่..ธรรมเนียมปฏิบัติ แบบตะวันออกด้วย..ครับ
ดูจากการเริ่มวิจารณ์กฎหมาย บางฉบับของไทยเรา...ถือว่าค่อนข้าง "ออฟไซค์" มาก ทั้งที่เป็นเรื่องภายในของเรา
ไม่รู้จะอยู่ได้ครบเทอมหรือเปล่า...
..นี่ถ้า...ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น....ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในสิ่ง..ที่ได้ทำไป
(ใหญ่โต ดังซะทั่วโลกเลย ตู..ยิ่งหากินไม่ค่อย..ทั่วปาก..ทั่วท้อง..อยู่ด้วย )
นับตั้งแต่มันโจมตีค่าเงินของไทย เมื่อ 10 กว่า ปีก่อน (ความโลภของมัน ทำให้มันทำไปได้..สารพัด)
อีเผือก...ไอ้หมึก...ไอ้เผือก...หน้าไหน...ที่มีหน้าที่เตือนภัย มันคงไม่รับผิดชอบอะไรได้เลย
ก็อยู่ดีไม่ว่าดี...ดันไปฆ่าเขา...ทำอะไรไว้แล้วคิดได้กลัวภัยมาถึงคนของตัวเอง
ฆ่าเขาได้...ตัวเองก็มีสิทธิ ครับ แต่ดันโยน..อึ..มาให้ประเทศอื่น นี่ใช้ไม่ได้ครับ
(ขอโทษ..สุดๆ กับคนไทยทุกคนที่เข้ามาอ่าน ครับ กับสำนวณสุดหยาบคายมากๆ ของผม ครับ)
ผมเป็นศัตรูกับพวกมันตั้งแต่มาโจมตี ค่าเงินไทยแล้วครับ ผมเปลี่ยนทรรศนคติกับประเทศนี้อย่าถาวร แล้วครับ
ตอน 11/11 ผมดูถ่ายทอดเหตุการณ์ ผมสารภาพจริงๆ ครับว่า ผมสับสนในตัวเองมากๆ ครับ คือ
"สงสารคนในเหตุการณ์นั้น ระคนกับความสะใจที่มันโดนของจริงเข้าไป..อีกใจหนึ่งก็สมน้ำหน้ามัน จริงๆ"
....ขอโทษ...กับทุกท่านที่อ่านสำนวณ "อุบาท ของผมไปเต็มๆ" กรุณาอย่าเอาเป็นเยี่ยงหย่างนะ..ครับ
กระทู่นี้...ผมใช้ละบาย ความแค้นส่วนตัวไปมาก...เกินไปแล้ว ครับ
"ขอโทษผู้อ่านทุกท่าน...อีกครั้ง...ครับ " ผมขอหยุดไม่วิจารณ์กระทู่นี้ต่อแล้วครับ
สำหรับท่านอื่นตามสบายครับ...ผมรอดูความคิดเห็นของท่านอยู่ ..ครับ
ไม่เป็นไรครับ...บางครั้งคนเรามันก็มีบ้างครับที่ต้องการระบายออกมา...ท้องผูกนานๆไม่ดีครับเดี๋ยวมะเร็งลำไส้ถามหา...
จริงแล้วผมก็ไม่ค่อยชอบทูตของอเมริกาคนนี้หรอกครับ เพียงแต่ผมไม่มีข้อมูลของที่เคยเป็นทูตที่ ฟิลิปปินล์ ว่าเคยทำ
อะไรไว้บ้าง ขอบอกว่าอยู่ได้ไม่นานครับอย่างครั้งล่าสุดที่วิจารย์เรื่องกฏหมายมาตรา 112 ของเราจนดดนประชาชนไป
ประท้วงหน้าสถานทูต ทูตคนนี้สู้ทูตคนเก่าที่ชื่อ ลาร์ฟ อัลบอย ไม่ได้เลยครับทั้งเรื่องการวางตัวและการดำเนินนโยบาย
แม้แต่ช่วงน้ำท่วมก็แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจ จนประเทศจีนประกาศบริจาคให้เรามากกว่ามันตั้งหลายเท่ามันถึงได้
เต้นออกมาแก้ข่าว และส่งเรื่องให้กองเรือของพวกมันเข้ามาช่วย...
ผมละคนหนึ่งที่ไม่ชอบการกระทำของอเมริกา ถ้าอเมริกาไม่ไประรานใครแล้วจะมีใครมาทำอะไรมันไหม แม้แต่คน
อเมริกันเองยังไม่ค่อยเห็นด้วยเลยไม่งั้นโอบามาจะได้เป็น ปธน. หรือครับ พอเป็นก็รักษาสัญญาโดยถอนทหารจาก
อิรัค แต่กลับจะมีการสร้างแนวรบใหม่ขึ้นเพื่อทดแทน..นั่นคือ แนวรบที่ไกล้ๆ อิรัค เพื่อที่จะได้โอนกำลังง่าย และ
มีฐานปฏิบัติการที่ไกล้
หรือว่าสงครามเย็นรอบใหม่จะมาถึงเราซะแล้วหว่าอย่างนี้คงต้องระวังตัวกันหน่อยไปover actionมากๆจะโดนเหมาเป็นพวกเค้าไปจะโดนร่างแหไปด้วย อยู่เฉยๆว่างๆก็ทะเลาะกันเองก็พอแล้วมั้งอย่าหาเรื่องอีกเลยสาธุ