การสู้รบที่เนิน ๙๖๓๑ ทหารไทย vs ทหารพม่า + ทหารว้าแดง
ชาย แดนไทย-พม่า มีโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งระหว่างกันได้ง่าย อย่างที่ทราบกันดีว่า มีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารพม่ากลุ่มต่างๆ เคลื่อนไหวตามแนวชายแดนไทย-พม่าอยู่ ส่วนทางการไทยก็หนักใจกับปัญหาการค้ายาเสพติดที่มีโรงงานผลิตยาอยู่ใกล้ชาย แดนไทย-พม่า เช่นกัน นอกจากนั้นเวลารัฐบาลทหารพม่ายกกำลังเข้าปราบปรามกลุ่มชนส่วนน้อยที่ต่อต้าน รัฐบาล ก็จะมีปัญหาการอพยพหลบภัยสงครามข้ามเข้ามาสู่ชายแดนไทย เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นประจำ แต่ที่ลุกลามใหญ่โตจนเกิดการปะทะกันระหว่างกำลังทหารของสองประเทศนั้นเกิด ขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๔
ทหาร รัฐบาลพม่า ได้รับคำสั่งให้สนับสนุนกองทหารว้า ของ United Wa State Army (UWSA) ในการสู้รบกับกลุ่มกบฏรัฐฉาน (Shan State Army, SSA) ปัญหาก็คือ การเข้าตีกองกำลังรัฐฉานตรงๆ นั้น ยากที่จะเข้าตีได้ เพราะกองทัพรัฐฉานมีฐานที่มั่นอยู่ในชัยภูมิที่ได้เปรียบ อีกทางหนึ่งที่ง่ายกว่าคือ ตีโอบหลัง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า กองทัพรัฐฉานมีกองกำลังอยู่ชิดชายแดนไทย การตีโอบหลังต้องผ่านชายแดนไทยเข้ามา จุดยุทธศาสตร์ตรงบริเวณนี้คือ ฐานทหารพรานบนเนิน ๙๖๓๑ ซึ่งอยู่บนยอดเขาบริเวณบ้านปางนุ่น กิ่งอำเภอแม่ฟ้าหลวง ลึกเข้าไปในชายแดนไทย ๑ กม. ใกล้ๆ กันคือ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่มั่นแห่งนี้มีทหารพรานประจำการอยู่ ๒๐ นาย ภารกิจหลักของฐานแห่งนี้คือ การสกัดการขนยาเสพติดข้ามแดน ฝ่ายพม่ามีกำลังอยู่บริเวณนั้น ๙๐๐ นาย เสริมด้วย ทหารว้าอีก ๖๐๐ นาย
เย็น วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ทหารพม่า ๒๐๐ นายเข้าโจมตีฐานทหารพรานแห่งนี้ ฝ่ายทหารพรานได้สังหารทหารพม่าได้ ๑๔ นาย บาดเจ็บอีกราว ๓๐ นาย หลังปะทะกันได้ ๔ ชั่วโมง ฝ่ายทหารพรานเสียชีวิต ๒ นาย(ภายหลังพบว่า หนึ่งในสองที่คาดว่าตายนั้นยังไม่ตาย) บาดเจ็บอีก ๑๑ นาย กระสุนเริ่มร่อยหรอลง จึงขออนุญาตถอนกำลังพร้อมกับนำผู้บาดเจ็บเสียชีวิตออกมาด้วย เนิน ๙๖๓๑ ตกอยู่ใต้การยึดครองของทหารพม่า ซึ่งยิงไล่หลังทหารพราน ฝ่ายไทยหลังได้รับรายงานได้ส่งกำลังจากกรมทหารม้าที่ ๓ กองพลทหารม้าที่ ๑ เข้าไปช่วยทันที ในชั้นแรกคือ ช่วยทหารพรานออกมาก่อน เพราะตอนนั้นมืดแล้ว ยังไม่ทราบกำลังที่แท้จริงของพม่าว่ามีเท่าไหร่ จึงได้แต่ตรึงกำลังไว้ก่อนไม่ให้มีการรุกล้ำเข้ามามากกว่านี้
วัน ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ กรมทหารม้าที่ ๓ ได้รับการเสริมกำลังจากรถสายพานลำเลียงพล M-113A-3 หนึ่งกองร้อย และรถถัง M-60A-3 อีกหนึ่งกองร้อย ทั้งหมดอยู่ภายใต้การบัญชาการของร้อยเอก สงกรานต์ นิลพันธุ์ นอกจากนี้ทางด้านอำเภอแม่สาย ได้มีการเสริมกำลังเช่นกัน ทหารไทยพร้อมด้วยกำลังเสริมได้เข้าตีชิงฐาน บนเนิน ๙๖๓๑ คืน อย่างไม่ยากเย็นนัก ทหารพม่าถอนกำลังกลับข้ามชายแดนไป ทิ้งศพพรรคพวกไว้ ๑๗ ศพ และผู้บาดเจ็บอีก ๖๐ คน ในขณะที่กำลังฝ่ายไทยบาดเจ็บ ๗ นาย
เช้า วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ทหารพม่า ๓ กรม สนับสนุนด้วยรถถัง T-69 ที่ได้รับมาจากจีน และปืนใหญ่ เข้าโจมตีอำเภอแม่สาย ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยรถถัง M-60A3 และเครื่องบินขับไล่ F-5 ที่บินมาจากสนามบินเชียงใหม่ ที่ใช้ลูกระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ (LGB) นอกจากนั้นฝ่ายไทยยังมีปืนอัตตาจร ๑๕๕ มม. แบบ M-109 และปืนใหญ่กลางระยะยิงไกลมากอย่าง GCN-55 (ยิงได้ไกลถึง ๔๕ กม.) ทำให้ฝ่ายพม่าได้รับความเสียหายอย่างมาก เครื่องบินของไทยยังทำการโจมตีหน่วยส่งกำลังบำรุงของพม่าด้วย
ขณะ ที่ ทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอยู่นั้น ฮ. UH-1H ของทอ. ถูกยิงจากภาคพื้นดินตกบริเวณเขตอำเภอแม่อาย ขณะกำลังบินสนับสนุนเสบียง นักบินนำเครื่องร่อนลงฉุกเฉินได้สำเร็จ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
เวลา ๑๙๓๐ ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง (ไทยกับพม่า) แต่ยังมีเสียงการปะทะกันทางฝั่งพม่า เนื่องจากฝ่ายพม่านำกำลังเสริมจากเก็งตุง มายังท่าขี้เหล็ก และปะทะกับกองทัพรัฐฉานของเจ้ายอดศึก
ปืน ใหญ่ทั้งสองฝ่ายดวลข้ามชาย แดนกัน และมีการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศไทย ที่ใช้เชียงใหม่เป็นฐานบินสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ และถือว่าเป็นปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ระหว่างวันที่ ๑๐ ถึง ๑๒ กุมภาพันธ์ เครื่องบินขับไล่ของไทยทำการบินรบกว่า ๗๐ เที่ยวบิน รวมทั้งการโจมตีด้วยลูกระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ต่อฐานปืนใหญ่ของพม่าที่ตั้ง ฐานอยู่ในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในท่าขี้เหล็ก ปฏิบัติการครั้งนี้ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ F-5F หนึ่งเครื่องและเครื่องบินขับไล่ F-5E อีก ๓ เครื่อง เครื่องบิน F-5F ติดกระเปาะ WSO ที่ผลิตในอิสราเอล ทำหน้าที่ชี้เป้า ส่วน F-5E อีก ๓ เครื่อง บินเข้าหาเป้าหมายจากทิศทางที่ต่างกัน เข้าโจมตีด้วยระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ ขนาด ๒,๐๐๐ ปอนด์ ๖ ลูก ลูกระเบิดเข้าสู่เป้าหมายทุกลูก ปืนต่อสู้อากาศยานของพม่ายิงขึ้นมาสกัดกั้นอย่างเบาบาง และไม่มีเครื่องบินของไทยเครื่องใดได้รับความเสียหาย
ไม่มีเครื่องบินกองทัพอากาศพม่าออกปฏิบัติการ
เครื่อง บินขับไล่ F-5E/F ของไทยได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยในต้นปี ๒๕๓๓ โดยติดตั้งระบบนำร่องของ Litton และเสริมความแข็งแรงของไพล่อนกลางลำตัว ให้สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง ๑,๕๐๐ กก., และไพล่อนใต้ปิดด้านในรับน้ำหนักได้ถึง ๑,๐๐๐ กก./ด้านนอกรับน้ำหนักได้ ๕๐๐ กก. ระหว่างปฏิบัติการ F-5E แต่ละเครื่องบรรทุกลูกระเบิด LGB ๒ ลูก
ไม่ มีเครื่องบินของกองทัพอากาศพม่าออกปฏิบัติในช่วงที่มีการปะทะกันนี้ เพราะเครื่องบินขับไล่ F-7 ถูกส่งไปปรับปรุงที่อิสราเอล ในข้อเท็จจริงช่วงนั้น ผู้นำทหารพม่าได้สั่งการให้หน่วยบิน F-7 สามหน่วยกระจายกำลังออกไป ซึ่งจะทำให้มีเครื่องบินขับไล่ F-7 ๓๐ เครื่องที่พร้อมปะทะกับฝ่ายไทย อย่างไรก็ตาม มีเพียง ๖ เครื่องที่ประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Kengtung ที่อยู่ห่างจากท่าขี้เหล็กไปทางเหนือราว ๑๕๐ กม. ระยะทางบินขนาดนี้ ทำให้เครื่องบินขับไล่ F-7 ที่ติดอาวุธเต็มที่ หนักเกินกว่าที่จะทำการรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงไม่มีวี่แววที่เครื่องบินขับไล่ F-7 จะมาสกัดกั้นเครื่องบิน F-5 ของไทย เครื่องบินของกองทัพอากาศพม่าที่เหลือได้แก่ เครื่องบินฝึกขั้นสูงแบบ PC-7 ๑๗ เครื่อง, PC-9 ๔ เครื่อง และเครื่องบินฝึก G-4 Super Galeb อีก ๔ เครื่อง มีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่บินได้ เครื่องบินโจมตี A-5M ยิ่งมีสภาพต่ำยิ่งกว่าเครื่องบิน F-7 เสียอีก
การ ป้องกันภัยทางอากาศของพม่ามีการซื้อจรวดต่อสู้อากาศยาน SA-16 จากบุลกาเรีย, MiG-29 จากรัสเซีย ข่าวกรองรายงานว่า MiG-29 ที่พม่าซื้อไปเป็นเครื่องที่อิรัคสั่งซื้อแต่ยังไม่ส่งมอบ เมื่อพิจารณาจากข่าวที่รายงานว่า นักบินพม่าได้รับการฝึกบินที่อินเดีย ซึ่งคาดว่าการเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ช่างเครื่อง คงจะต้องรับการฝึกจากอินเดียเช่นกัน
การ ปะทะกันของทั้งสองฝ่ายจบลง ด้วยการเจรจา โดยทั้งสองฝ่ายต่างเสริมกำลัง ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ฝ่ายไทยมีกำลังของกองพลทหารม้าที่ ๑ และส่วนแยกของกองพลทหารม้าที่ ๒ ที่มีรถถัง M-41, รถถัง Stingray และยานเกราะ V-150 วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ทอ.ส่ง F-16 ไปเสริมกำลังที่ฐานบินเชียงใหม่ ทำหน้าที่บินลาดตระเวนรบตามแนวชายแดน วันที่ ๑๐ พฤษภาคม F-16 ของไทยโจมตีเป้าหมายที่ Kyauket ในเขตรัฐฉาน ทางการพม่าได้ประท้วงทางการไทยในกรณีดังกล่าว
บท สรุป – หลังเหตุการณ์ที่เนิน ๙๖๓๑ ทางฝ่ายไทยยังคงส่งทหารพรานไปประจำการเช่นเดิม ส่วนทางฝ่ายพม่าไม่มีการวางกำลังด้านนี้อีก ทหารพม่าเสียชีวิต ๘๐ นาย, ฝ่ายไทยเสียชีวิต ๑ นาย บาดเจ็บ ๓๗ นาย พลเรือนเสียชีวิต ๓ คน บาดเจ็บ ๗ คน ทางการไทยระบุว่า มีผู้หญิง ๒ คนเสียชีวิตจากปืนใหญ่ของพม่าที่ยิงถล่มเข้ามาที่แม่สาย ร้อยเอก สงกรานต์ นิลพันธ์ กล่าวในเวลาต่อมาว่า ทหารพม่าเสียชีวิตเกือบ ๑๐๐ นาย แต่ถูกนำกลับไประหว่างการถอนกำลัง แต่ทหารไทยยังพบศพทหารพม่า ๓ นาย บนเนิน ๙๖๓๑ ทางด้านพม่า, พันเอก Kyaw Thein นายทหารการข่าว ยืนยันว่า ทางฝ่ายพม่าเสียทหารไป ๑๒ นาย บาดเจ็บ ๑๕ นาย แต่ยอดนี้เป็นการปะทะกับทหารไทยใหญ่ ไม่ใช่จากการปะทะกับทหารไทย
สรุปเเบบ ย่อ
เป็นช่วงต้นๆที่ทักษิณเข้ามาเป็นนายกสมัยแรก
จะเขียนอะไรให้ดูง่ายๆนะ
ว้าสร้างเมืองยอนเพื่อทำโรงงานยาบ้าส่งขายไทยพม่ายุว้าให้ตีไทย
ไทยตีว้าคืนพร้อมทั้งมีการฝึกรบหลังแนวข้าศึก(ข่าวตอนนั้น)โรงงานยาบ้าเมืองยอนโดนถล่มยับ
เป็นจุดเริ่มของการปราบปรามยาเสพติดในยุคนั้น(ทักษิณ 1)พม่าได้เมืองยอนและลดทอนกำลังของว้าไทยได้ถล่มโรงงานยาบ้าซะเละสรุป วิน-วิน ทั้งคู่ทั้งไทยและพม่าใครที่จะว่าลากเข้าการเมืองไม่สน
แต่ถ้าไม่มีน้าแม้ว เพื่อน พ้อง น้อง พี่ ของผมติดยาบ้ากันไม่หยุดแน่
ใครอยากเสวนาเรื่องนี้เชิญ(หลายคนคงยังเด็กอยู่ตอนนั้น)อ่ะบอกอีกหน่อย
จุดรวมพลจุดหนึ่งอยู่ที่กรมรพศ.5แม่ริม
สนามหน้ากรมถ้าใครเคยผ่านจะเห็นว่ากว้างมาก(เกือบๆ5สนามบอล)
แต่ตอนนั้นเต็มหมดทั้งยานเกราะ ปืนใหญ่และรถรบต่างๆ
ถ้าตามข่าวได้จะมีข่าวพร้อมภาพวิดีโอที่กองพันของSSAขึ้นตีฐานของว้า
ทหารSSAหนึ่งกองพันตีฐานว้าระดับกรมแตกภายในสองชั่วโมง
จนผบ.ของว้าบางคนออกมาบอกว่าเป็นกองพันปีศาจ
กองพันนั้นมาเตรียมความพร้อมที่ค่ายตชด.แห่งหนึ่งในภาคเหนือ
แต่...
กองพันนั้นไม่ได้ข้ามชายแดนมาจากSSA
กองพันนั้นออกมาจากกรมที่มีชื่อเล่นว่า Rattan Wood
จากเว็บ
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/09/X8315375/X8315375.html
แต่เหตุการนี้ได้มีการปิดข่าวใช่ไหมครับ ประชาชนทั่วไปรู้แต่มีการปะทะกัน แต่ไม่ทราบรายละเอียดและความเสียหายใช่หรือป่าวครับ
หน้าจะปิดข่าวครับ กว่าจะหาได้ก็เเย่เเล้ว ที่หน้าสนคือหน่วย ฉก.90นี้ละ
บทความถูกบิดเบือนนิดนึงมั้งผมว่า
เหมือนว่าตอนนั้น CIA มีใบสั่งให้ไทยทลายยาบ้าที่พม่า ซึ่งตอนนั้น ผบ.ทบ.ก็ลุยเองโดยไม่มีคำสั่งจากรัฐบาล
เนื่องจากตอนนั้นน่าจะทำกันเป็นช่วง อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้รัฐบาล ไม่ค่อยได้ข่าวคราวเคลื่อนใหว ของกองทัพ
แล้วทหารไทยไม่ได้ขอประสานกับทางพม่าแต่กับ เข้าไปตีเอาเองเลย
เหมือนได้ยินข่าวว่า การรุกครั้งนั้น ตีกองกำลังระดับกองพลของพม่าแตก
และมีนายทหารชั้นสูงของพม่าเสียชีวิตด้วย หลังการโจมตีพม่าค่อนข้างงอลเรา
และเหมือนกับว่าจะเอาคืน ไทยก็เลยให้เงินกู้ จำนวนมากแก่พม่า แล้วก็เด้ง ผบ.ทบ.ตอนนั้น
ถ้าจะเปรียบก็เหมือนกับ สมมุตว่า ภาคไต้เรามี ผู้ก่อการร้าย แล้วมีบางประเทศที่ระแวงเรา
เกิดเข้ามากำจัดผู้ก่อการร้ายในประเทศของเราโดยไม่ได้ประสาน แล้วอ้างว่าผู้ก่อการร้ายที่บ้านเราเป็นภัยคุกคามต่อเขา
แถมยังโจมตีสร้างความเสยหายให้ ผมว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นะ
อ้าว มีรูปผมได้ลงด้วยแหะ รูป C-130 ปล่อยพลร่ม ><
มาจากบทความPANTIP เเล้วมารูปจากเว็บthaifighterclubทีนี้ละครับมาเเต่งให้เข้าเรื่องเนื้อ กะเอาอ่านสนุกๆเท่าละครับกระทู้ในเว็บโพสจังครับ
http://board.postjung.com/578073.html
เหตุการณ์ข้างต้นที่ PROTOTYPE กล่าวนั้นผมก็คิดว่าจริงเพราะได้ยินทหารพูดกันอยู่เรื่องคือว่า มีการระดมพลที่จะบุกเมืองยอนจริงเเต่นายกในสมัยนั้น(ทักษิณ)ระงับการปฏิบัติการเสียก่อนการเข้าโจมตีเพราะกลัวเรื่องผลกระทบหลายๆด้าน จุดรวมพลไม่ได้มีที่เดียว เเต่จุดอื่นเอาไว้ตีหลอกทหารพม่าให้ออกห่างจุดปฏิบัติการจริง
คุณ กลับสู่สามัญ
ผมเคยได้จากนายทหาร กรม ทหาร ที่สระบุรี บอกว่าตอนนันมีการเตรียม บุกเมืองยอน เเต่โดนห้ามไม่บุก เเต่ เคยได้ยินกองกำลัง ลึกลับบุก ละลายค่ายทหารพม่ากับหว้าเเดง 5-6 ฐาน หน้าจะหน่วย ฉก.90เเน่ ๆก็รู้ว่ามีเเต่ พวกระดับโคตรคนจริงๆ มารวมกัน
เท่าที่ทราบ มีการเสริมกำลังกันยกใหญ่ ผมขับรถผ่านในเส้นพหลโยธิน รถบรรทุกรถถังและยานเกราะ ขับกันยาวเหยียด แซงโครตลำบาก แต่ก็อุ่นใจว่าทหารและยุทโธปกรณ์ของเราพร้อมรบ แถมยังมีf-16 บินข้ามหัวไปมา ที่ตัวอำเภอแม่สาย ได้ยินเสียงแล้วอุ่นใจอย่างประหลาด
มีเรื่องตลกเล่ากันว่า ทหารบอกประชาชนว่ามาซ้อมรับกับเมกาแถวๆนี้ แต่ตอนซ้อมใช้กระสุนจริง ซัลโวข้ามชายแดนไปตกฝั่งพม่าโน้น ผมได้ยินแล้วยังขำไม่หาย
ขอบคุณน้องเจ้าของกระทู้ที่ลงบทความทบทวนความจำกันนะครับ จำได้ว่าตอนที่ได้ยินข่าวผมก็เข้าไปสอบถามคนใกล้ชิดเรื่องสภาพการรบ รู้ว่าปะทะกันหนักและทางเราดึงฝูงบิน 211 ไปที่เชียงใหม่และฝูงบิน F-16 จากกองบิน1 โคราชระดมกำลังกันมาที่กองบิน4 เห็นว่าจะตะลุยกันสุดๆ เล่นสนามบินหลายแห่งในพม่า ผมล่ะซีดเลย สั่งขายหุ้นหมดพอร์ต แต่ข่าวการรบถูกปิดเป็นความลับประชาชนรู้แค่ว่ามีกรกระทบกระทั่งกันเล็กๆน้อยๆแบบว่าปะทะกันตามชายแดนแบบนิดหน่อย เท่าที่ทราบตอนนั้นต่างฝ่ายต่างตรึงกำลังกันตลอดแนวชายแดน
จากเหตุการครั้งนั้นพม่ามีบทเรียนที่เจ็บแสบจึงทำการปรับปรุงกองทัพกันขนานใหญ่ที่เราก็ต้องหันไปมองเหมือนกัน
ว่าจะพูดมากกว่านี้ ไม่พูดดีกว่าเน๊อะ
เหตุการณ์ช่วงนั้น ผมก็ได้ยินข่าวมาเหมือนกัน ว่าทหารพม่าถูกกองพันปีศาจโจมตี โดยใช้กล้องมองกลางคืน ทำให้ทหารพม่าเสียหายหนัก
ส่วนการซ้อมรบ ข่าวก็ออกว่าซ้อมรบมีการระดมพลกันครั้งใหญ่(ใหญ่มาก)ทางพื้นที่ภาคเหนือ นี่ก็เป็นสาเหตุให้ ผบ. ทบ. โดน นายกฯ สั่งเด่ง
และก็อาจจะเป็นฉนวนเล็กๆรุกลามมาถึวเหตุการบ้านเมืองเราในตอนนี้ (ผมคิดเองนะ)
อีกอย่าง จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าเรามีญาติสนิทอยู่เหมือนกัน คือ SSA ของ เจ้ายอดศึก
ปล. ท่านประยุทธ น่าจะระดมผลซ้อมรบครั้งใหญ่แถวพื้นที่อีสานใต้บ้างนะ (อันนี้ผมก็คิดเอง)
ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกในไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเองจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง เฮ้อๆๆๆ
คุณ poisonremain
ผมเองก็อยากให้ไปมีฝึกครั้งเเถวชายเเดนเจ้าวุ้นเส้นนัน ตอนนันเจอเเค่ ซีซ่า 155 กับ ป 105 กับป.155ไปเละโจ็ก
fulcrum37.....
CIA letter to broker, and then priminister not know this mission.
"over action" dolla!!!!dolla!!!!dolla!!!!!
เดาไม่ผิดหรอกครับท่าน poisonremain นี่แหล่ะปฐมบทเรื่องยาวที่มาจนถึงตอนนี้ ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวเข้าการเมือง
ติดใจนิดนึงครับ เนิน 9631 นี่มีเหรอ.....เพราะเนินจะใช้ตัวเลขจากระดับน้ำทะเลเป็นการบอกชื่อเนิน อาจจะผิดพลาดเรื่องข้อมูลกันได้นะครับ
เอฟ-สิบหก ของเราได้ออกศึกจริงๆ จังๆ ก็ครั้งนั้นแหละครับ
สุดยอด นบ. ที่คุณก็รู้ว่าใคร เคยโฉบลงไปทอยระเบิดลงเมืองยอนมาแล้ว แถมด้วย ปญอ. อีกหลายชุด
โอเวอร์แอคหรือไม่ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่านาทีนั้น ถ้าไม่ทุบเอาแรงๆ ความเสียหายฝั่งเราจะมากกว่าที่เป็นข่าว
ฝากไว้ให้คิดกันครับ เพื่อนบ้านทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกต่างก็มีประสบการณ์โดนเราทุบแรงๆ
บาดเจ็บล้มตายไปเยอะ ยุทโธปกรณ์เสียหายไปก็มาก น่าจะได้ประสบการณ์นำไปปรับปรุงแผน
ยุทธการ ระบบอาวุธ และการฝึกศึกษา เพื่อจะตอบโต้เราได้สมน้ำสมเนื้อมากขึ้นหากเกิดเหตุการณ์
ความขัดแย้งถึงขั้นใช้กำลังกันขึ้นอีก อยากให้ทหารของเราดำรงไว้ซึ่งความได้เปรียบ เร่งการพัฒนา
กำลังพล อาวุธ การฝึกต่างๆ และแผนการรบต่างๆ ให้ล้ำหน้า อย่าให้เพื่อนบ้านไล่ทันหรือแซงหน้าได้
ไม่งั้นรั้วทั้งสองด้านไม่สงบแน่ ขนาดเราเหนือกว่าเค้ายังไม่ค่อยจะเกรงใจ ด้วยอาจจะคิดว่าเรามีฝ่าย
การเมืองคอยปรามอยู่
หมัดหนักไว้ก่อน การทูตจะได้เปรียบ
5555 ..... ท่านเสือใหญ่กล่าวได้โดนใจครับ ถ้าเราไม่เหนือกว่าไว้ล่ะก็ความเกรงใจไม่มี ตะวันออก ตะวันตก ทั้งมา-ม่า ทั้ง เข-มอร รู้ดีเลยครับ เหลือก็แต่ มันฝรั่ง-เลย์ ทางใต้นี่ล่ะครับที่ยังไม่โดนทุบ เพราะทางเขาถือดีว่าระบบอาวุธดีทันสมัย และน้ำมันอยู่ในกำมือของเพื่อนๆเขา ผมถึงสนับสนุน Jas-39 เฟส3 พร้อมด้วยอีรีย์ ลำที่สาม และ เรือดำน้ำ แต่ตอนนี้เรายังไม่พร้อมรอให้เรื่องภายในจบแล้วเดียวมีทุบมันฝรั่งดังกร๊อบกรอบ.........
มีช้างติดเกราะที่เป็นยางรถยนต์ ข้างบนติดปืน ค. บุกขึ้นไปละลายฐาน ด้วย วงเหล้าเขาคุยกันอ่ะ
ท่านโรนินคร้าบ ผมกดlike ให้พี่เสือใหญ่ได้ตรงไหนคร้าบ...
55+ถ้างั้นเวลาผมมีปัญหากับเพื่อนบ้านข้างที่มันชอบเอามาสุนัขมาอึหน้าบ้านผม ผมคงต้องจัดการด้วยกองอึสุนัขที่ใหญ่กว่าที่หน้าบ้านมันบ้าง 55+
^_^ .. ขำๆนะครับอย่าซีเรียส..เอาจริงล่ะ..^_^
เหตุการตอนนั้นผมยังจำได้ผมเห็นภาพจากช่องหลายสีเขาเอามาลง..มีภาพที่รถลำเลียงพลM-113 สาดปืนกล.50ไปที่เนินและตามด้วยปืน ค.(ไม่ทราบขนาด)และยังเห็นรถถัง M-60 เคลื่อนตัวเข้าไป..แล้วภาพก็ตัดเหลือแต่คำบรรยาย..หลังจากนั้นผมพยายามหาข้อมูลการปฏิบัติการครั้งนั้นจากหนังสือ สมรภูมิ และอื่นๆก็ไม่มีเพราะผมได้ยินทหารเขาพูดกันว่ามันยังไม่จบ...ผมว่าเรื่องนี้หลายคนอาจจะลืมเลือนไปแล้ว
แนวรบฝั่งตะวันตกยังคงมีได้เสมอครับ ปกติทหารหรือประชาชนตามแนวชายแดนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันครับ แต่ระดับสูงมีปัญหายังไม่จบอะไรก็เกิดขึ้นได้ ช่วงนี้ดูความสัมพันระดับสูงเริ่มที่จะดีขึ้นครับ
ผมเคยไปชายแดนแถวปิล็อกซึ่งเป็นพื้นที่ติดพม่า ตรงแนวท่อก๊าซที่เขตไทยพม่าจะมีเนินหนึ่งที่มีธงชาติไทยอยู่คู่กับธงชาติพม่า จะมีฐานทหารพม่าตั้งอยู่ติดกับถนนฝั่งไทย ผมไปเฉไฉคุยกับชาวพม่าเพื่อซื้อ กุ้ง ปลาที่เอามาจากพม่าตรงหน้าฐานทหารพม่าที่ขายตรงหน้าฐานของเขา ทุกคนมีอัธยาศัยดีต่อกันครับ ทหารพม่าก็เล่นตะกร้อแถวๆนั้นทุกคนคุยกันได้อย่างสนิทสนม
เคยดูข่าว เห็น รถ V150 ติดปืน ค 120 กำลังยิงใส่ พม่า ครับ
ที่ขำๆ กว่านั้น เพื่อน ไปเล่นพนันฝั่ง ท่าขี้เหล็ก โทรมาบอกว่า ยิงกันตลอดเลย
ถามกลับว่าอยู่ไหน บอกว่า ยกเตียง เอาฟูกมากัน้นไว้ที่หน้าต่างครับ
แต่ ไม่แน่ใจข้อมุลว่า เอา m60 ออกไปลุยด้วยจริงหรือเปล่าเพราะภูมิประเทศแถวนั้น ไม่น่าจะเหมาะกับรถถังครับ
สรุปรบใหญ่เลยเหรอครับเนี่ย ผมอยู่เชียงใหม่ ถึงว่าสิตอนนั้นยังจำได้ว่ารถติดสี่แยกไฟแดงอยู่
กำลังจะไฟเขียวอยู่จราจรก็ออกมากันไม่ให้รถผ่าน เพราะมีรถบรรทุกยีเอ็มซีหลายคันมา เคลื่อนขบวนผ่านไป คิดว่าคงไปรบกะพม่าที่ชายแดนนี่ละ
แล้วก็ช่วงๆนั้น มีรถฮัมวี่ รถบรรทุกทหารวิ่งไปวิ่งมาตลอดเลยครับ
ก็คิดว่าคงแค่ไปเฝ้าระวังชายแดนตามข่าว ที่ว่าพม่าปะทะกับชนกลุ่มน้อย ที่ไหนได้เราใส่ซะเต็มเลยเรอะ เหอะๆ
รบกับเขมรที่ผ่านมาผมก็ว่ากองทัพปิดข่าวได้ดี ภาพมีหลุดออกมาน้อยมากๆ
ฮ่ะๆๆๆ ไม่ต้องกดไลค์ให้ผมหรอกครับท่านเด็กทะเล แค่ระบายความในใจเท่านั้น
ใจจริงอยากให้ ทอ. ไปเข็น ซู-30/35 มาสักฝูงนะครับ คือให้มี บ. มัลติโรล์ ระดับซูพีเรียเอาไว้รักษาสมดุลกำลังรบทางอากาศกับเพื่อนบ้านไว้บ้าง ลำพัง เอฟ-5 ม๊อด, เอฟ-16 ม๊อด, กริเป้น เพือนๆ เค้ากลัวกันที่ไหนครับ
แบบว่าจัดกำลังทางอากาศเป็นสามระดับ
ระดับเทพ ซูพีเรีย เอาไว้ครองอากาศหรือโจมตีทางลึก ซู330/35 หรือ เอฟ-15อี หนึ่งฝูงเต็มๆ 18 ตัวก็พอ อาวุธครบมือ วางไว้ที่โคราชฝูง 102
ระดับอัศวินสารพัดประโยชน์ เอฟ-16 เอ็มแอลยู 2 ฝูงๆ ละ 18 ลำ วางไว้ที่ตาคลีฝูง 403 และที่โคราชฝูง 103
บวกกับ กริเป้น/อีรี่อายส์ 2 ฝูงๆ ละ 18 ลำ วางไว้ที่สุราษฎร์ฯ ฝูง 701 และที่ตาคลีฝูง 401
ระดับม้างานทั่วไป เอาไว้บินลาดตระเวณทั่วไปและโจมตีเบา 4 ฝูงเลย ฝูงละ 18 ตัว ซูเปอร์ทูคาโน วางไว้ที่เชียงใหม่ฝูง 411 อุดรฯ ฝูง 231 อุบลฯ ฝูง 211 และ และประจวบฯ 531
ได้ขนาดนี้ รับรองไม่มีใครกล้าแหยมกับเราแน่ แต่ต้องแลกกับงบประมาณมหาศาล แถมรับรองว่าจะต้องมีนักการเมืองมาขอเอี่ยวผลประโยชน์ในการจัดซื้อด้วย เห็นที่ความฝันผมคงไม่มีทางเป็นจริงได้แน่นอน...
ขอบคุณ ความเเนว คิด ของทุกท่าน จริงๆ