http://thaidefense-news.blogspot.com/2012/01/rdc-in-htms-chaophraya.html
"ภาพการยิงจรวดปราบเรือดำน้ำของ ร.ล.เจ้าพระยา ในการฝึกยุทธวิธีกองเรือฟริเกตที่ 2 เมื่อ วันอังคารที่ 10 ม.ค.55 ประสิทธิภาพยังคงเยี่ยมจริงๆ"
โอ้มันยอดจริงๆ....
ความเห็นส่วนตัวครับ.....ผมว่ามันยังประมาณๆ เล่นเกมท์ หลับตาตีหม้อ...อยู่หรือเปล่าครับ
ยิงไปนะถูกเป้าครับเพราะระยะไม่ไกลมาก....แต่ทำไงเป้ามันจะอยู่ตรงกับที่โซน่าประมาณให้...ละครับ
ถ้าไม่มีเรือจริงขนาดใหญ่ๆ เราจะรู้ค่าความคาดเคลื่อน สำหรับเผื่อการเพิ่มลดได้ยังไงหนอ? ..อยากรู้จริงๆ ครับ
ในแต่ละพื้นที่ของท้องทะเล ค่าการสะท้อนเสียงก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย
โซน่าแต่ละแบบ แต่ละชนิดก็ให้ค่าความคาดเคลื่อนไม่เหมือนกันด้วย ต้องอาศัยโชคช่วยด้วยหรือเปล่าครับ
ท่านผู้ใด...รู้ลึกช่วยอธิบายเป็นวิทยาทานหน่อยก็จะดีมากๆ ครับ
แล้วเรือแต่ละลำมีความสามารถยิงได้ทั้งหมดกี่ชุดครับ (ตรงนี้ถ้าเป็นความลับไม่ต้องก็ได้ครับ ผมพอประมาณได้อยู่บ้าง)
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ขอถามเพิ่มครับ...
ถ้าเจอยุทธวิธี.... เป้าล่อให้ไปเป็นเป้า... เราจะรู้ได้ยังไง.. และจะป้องกันได้ยังไง...ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
อืม ในกรณีจริงๆ จะมีเรือดำน้ำ ลอยมาให้ซัดได้จ่อๆขนาดนี้หรือครับ คงเป็นกรณีเดียวคือเครื่องเจ๊ง และบังเอิญตอร์ปิโดหมดท่อหรือเปล่า
ยิ่งดู ยิ่งเห็นความจำเป็นในการใช้โจรจับโจร เรือดำน้ำตรวจจับเรือดำน้ำ
ไม่งั้นรบกันจริงๆ จะโดนเป่า หงายเงิบหมดกองเรือก่อนจะตรวจเจออ่ะสิ
ปัจจุบันยังไม่มีอาวุธปราบเรือดำน้ำที่ยิงจากเรือสามารถกำจัดเรือดำน้ำได้ในระยะไกลกว่าตอร์ปิโดของเรือดำน้ำ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรือผิวน้ำปัจจุบันต้องมีเฮลิคอปเตอร์ปราบด.ไปกับเรือด้วย เพื่อเพิ่มระยะการค้นหาและทำลาย (ยุทธวิธีจุ่มแซ่บ) เพราะฉะนั้น เรือดำน้ำกับเรือผิวน้ำ ถ้าวัดกันตัวๆ เรือดำน้ำเป็นต่อ
จุดประสงค์ของการต่อเรือฟริเกต คือ ใช้เป็นเรือรบอเนกประสงค์ มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกับกองเรือโจมตี กองเรือปราบเรือดำน้ำ และต่อต้านภัยคุกคามทางอากาศได้ มีขนาดเล็กกว่าเรือพิฆาต แต่ใหญ่กว่าเรือคอร์เวต สำหรับ ทร.ไทย ในการปฏิบัติการจริงมักจะประกอบกำลังเป็นหมู่เรือเฉพาะกิจที่ต้องปฏิบัติการในภารกิจนั้นๆ เช่นการปราบเรือดำน้ำที่ต้องประกอบกำลังเป็นหมู่เรือมากกว่า 1 ลำ เช่น ร่วมกับเรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ เรือฟริเกตอื่นที่ติดตั้งระบบปราบเรือดำน้ำ อากาศยานตรวจจับและชี้เป้า ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนาจในการทำลาย สำหรับเครื่องยิงจรวดปราบเรือดำน้ำดังกล่าว แม้ปัจจุบันจะต้องยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีปราบเรือดำน้ำรุ่นเก่า แต่ก็มิได้หมายความว่าไม่มีประโยชน์ เดฟชาร์จ RDC 1200 ถูกออกแบบมาเพื่อยิงกดดันและปราบเรือดำน้ำในเขตน้ำตื้น ในกรณีที่มีการตรวจจับเป้าได้จะยิงจรวดไปในระยะไกลจากตัวเรือ เพื่อกดดันข้าศึกในระยะไกล ในขณะเดียวกันเมื่อหมู่เรือประกอบกำลังกันกับเรือฟริเกตที่ติดอาวุธแบบเดียวกัน จะเพิ่มอำนาจในการทำลายให้สูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง หรือเรือฟริเกตอื่นที่ติดตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ ก็อาจจะยิงอาวุธปราบเรือดำน้ำแบบอื่นไปช่วยเพิ่มโชคในการทำลาย อาวุธที่คล้ายกับ RDC1200 ก็ยังมี ASROC ที่เป็นการนำตอร์ปิโดมาติดจรวดขับดัน และยิงไปตกในระยะไกล และสลัดจรวดขับดันออกเพื่อปล่อยให้ตอร์ปิโดพุ่งเข้าหาเป้าและนำทางด้วยระบบนำวิถีของตัวมันเอง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า RDC ที่ไม่มีระบบนำวิถี แต่การยิงด้วยเรือเพียงลำเดียวแน่นอนว่าโชคในการทำลายก็จะลดน้อยลงไปเช่นกัน ภาพการฝึกดังกล่าวเป็นเพียงการมุ่งเน้นและหาความชำนาญให้แก่กำลังพลผู้ปฏิบัติงาน สำหรับการบรรจุทดแทนนั้น เรือสามารถบรรจุเพิ่มเติมและยิงซ้ำได้ไม่จำกัดเท่าที่จะสามารถนำพาจรวดดังกล่าวติดไปกับเรือ และบรรจุด้วยพลประจำแท่นยิง แต่เหนือสิ่งอื่นใด..ตำราเรียนในวิชาปราบเรือดำน้ำ จะสอนให้เราพึงระลึกเสมอว่า การปราบเรือดำน้ำเปรียบเสมือนการคลำหาแมวดำในที่มืด และอาวุธปราบเรือดำน้ำที่ดีที่สุดคือการใช้เรือดำน้ำด้วยกันมาปราบ อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่าจะไม่มีตรวจจับและปราบเรือดำน้ำได้ ทหารเรือไทยเราเก่งครับ..(ไม่ได้ชมตัวเองนะ) ครูฝึกอเมริกันมักอยากลองภูมิให้เราหา เราก็หาเจอเสมอ เก่งจริงๆ เลยเรา อ้อ..ใครที่ไม่เคยออกทะเล ไม่เคยปฏิบัติงานในทะเล แต่มักพูดว่า อ่าวไทยตั้น ไม่เหมาะกับเรือดำน้ำ ดำไปเดี๋ยวติดเลนติดโคลน หาเรือเจอง่าย ให้ศึกษาได้จาก ทร.สหรัฐฯ และมิตรประเทศครับ เขาชำนาญในการปฏิบัติงานด้วยเรือดำน้ำขนาดใหญ่ในอ่าวไทยมาแล้ว เราหาเขาเจอไม่ใช่เพราะลักษณะภูมิศาสตร์ครับ แต่ด้วยเทคโนโลยีและการฝึกฝนที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพวกเขาเหล่านั้นแหละ รวมถึงการประยุกต์และพัฒนายุทธวิธีของเราเอง
สงสัยมาตั้งแต่ ม.4 - -" ว่ามันใช้การยังไง เห็นกับตาตัวเองแล้ว 5555+
ชอบเสียงทหารที่อยู่บนเรือครับ ยังกะเชียร์บอล
มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะปรับระบบนี้มาใช้บนดินครับ ลดขนาดลงมาใช้เป็นอาวุธป้องกันฐาน เวลาถูกตีก็ยิงถล่มพื้นที่ต้องสงสัยเลย โดยทหารเราไปต้องเสี่ยงออกไปปะทะ พื้นที่สังหารก็ 20 กว้าง *25 ลึก เมตร หรือปรับลดได้ เป็น 10*20 เมตร ใช้กระสุนลูกปราย หรือลูกดอกก็แล้วแต่สะดวก น่าจะช่วยป้องกันฐานเวลาถูกตีได้พอสมควร
ขอบคุณ..สำหรับคำอธิบายของทุกท่าน ครับ