คือปีนี้ ผมจบ ม.3 ผมวางแผนอนาคตไว้ว่า ฝันอยากเป็น ตะหาร ครับผม
โดยวางแผนแล้วว่าจะไปสอบ เป็น นร. ทหาร คือสอบเข้าเตรียมทหาร และสอบเข้าเป็นจ่าอากาศ
ถ้า นายสิบ ทบ. กับ จ่า ทร. รับม.3 ก็จะไปสอบนะ ครับ ฮ่าๆๆ
คือว่าผม ก็เตรียมตัว พร้อมอ่านหนังสือ มาตั้งแต่ต้นปี ฟิตไว้ตั้งแต่ปลายเทอม
ไอ้ที่หวัง ว่าจะ หนะ คือ จ่าอากาศครับ แล้วจะสอบจ่าอากาศเนี่ย
มันมีให้เลือกก่อนสอบนะสิ 1.ช่างอากาศ 2.สื่อสาร 3.สรรพวุธ
ใครก็ได้ ช่วยแนะแนวผม ที ใจจริงๆก็อยากเรียน สรรพวุธแล้วไปเรียน EOD
แต่มาคิดดูอีกที เฮ้อ ช่างอากาศ สื่อสาร จบออกมาก็สามารถไปทำงานต่อ สนามบินได้ แล้วสรรพวุธหละ จะมีหน้าที่อะไรในสนามบิน
แล้วอีกอย่าง เรื่องเงินเดือนทหาร เนี่ย ได้เงินเดือน ได้ สตาร์ท 8200 แล้ว ยังมีค่าอะไรเพิ่มอีกไหมครับ เช่นถ้าผมอยู่หน่วยช่างอากาศยาน
ขอบคุณทุกคน ที่ช่วยตอบนะครับ เพราะ ผมคิดว่าการเลือก ครั้งนี้ อาจหมายถึงการ เลือกชีวิตในอนาคตของผม ครับ
โอโห สุดยอด เลยครับ
ผม ทหาร พราน พอละ 555+
ถ้าจบ ม.3 ไปสอบเตรียมทหาร ถ้าสอบผ่านแล้วได้เข้าเรียนเตรียมทหาร 3 ปีแล้วจึงแยกไปเรียนโรงเรียนนายร้อย จปร.(ทบ.) โรงเรียนนายเรือ(ทร.) โรงเรียนนายเรืออากาศ(ทอ.) และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แล้วแต่ใครเลือกอะไรไว้ หลังจากจบพวกนี้แล้วจะได้พระราชทานยศเป็น นายทหารหรือตำรวจชั้นสัญญาบัตร
ส่วน นักรียนนายสิบ(ทบ.) นักเรียนจ่านายเรือ(ทร.) และนักเรียนจ่าอากาศ(ทอ.) หรือจะนักเรียนพลตำรวจ นั้นจะรับนักเรียนที่จบชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า เช่น ปวช. เข้าสอบเรียนครับ เรียนจบออกมาเป็นนายทหารชั้นประทวน
ทีนี้ถ้าหากว่าอยากเป็น ท.ทหารอดทน นั้น จบ ม.3 ก็ไปสอบเตรียมทหารในส่วนของเหล่าใดก็เลือกไปครับเพื่อจะได้เป็นนายร้อย ถ้าไม่ได้แต่ เอาชั้นประทวนก็ยังดี ก็เรียน ม.ปลายหรือสายอาชีวะให้จบ ม.6 หรือ ปวช. แล้วไปสอบนักเรียนนายสิบ นักเรียนจ่านายเรือ หรือ นักเรียนจ่าอากาศ เมืรอเรียนจะได้ยศชั้นประทวน คือ นายสิบ จ่านายเรือ หรือ จ่าอากาศ นั่นครับ ก็ขอให้โชคดีนะครับ แต่ถ้าไม่ติดก็ขอให้สู้ต่อในปีถัดไปครับ
คือปีนี้ ผมจบ ม.3 ผมวางแผนอนาคตไว้ว่า ฝันอยากเป็น ตะหาร ครับผม
โดยวางแผนแล้วว่าจะไปสอบ เป็น นร. ทหาร คือสอบเข้าเตรียมทหาร และสอบเข้าเป็นจ่าอากาศ
วางแผนดีครับ
ถ้า นายสิบ ทบ. กับ จ่า ทร. รับม.3 ก็จะไปสอบนะ ครับ ฮ่าๆๆ
ไม่สนใจ นชท.บ้างรึครับ
คือว่าผม ก็เตรียมตัว พร้อมอ่านหนังสือ มาตั้งแต่ต้นปี ฟิตไว้ตั้งแต่ปลายเทอม
เยี่ยมครับเตรียมตัวดีก็มีชัยครับ แต่ต้องเตรียมใจตอนเป็นนักเรียนด้วยนะครับ โรงเรียนทหารไม่โหดครับ แต่เหนื่อยมาก ผมว่าข้อนี้ท่านก็รู้อยู่เต็มอกแล้วล่ะ 5 55+
ไอ้ที่หวัง ว่าจะ หนะ คือ จ่าอากาศครับ แล้วจะสอบจ่าอากาศเนี่ย
ดีครับ
มันมีให้เลือกก่อนสอบนะสิ 1.ช่างอากาศ 2.สื่อสาร 3.สรรพวุธ
เป็นเหล่าหลักน่ะครับ ช่างอากาศไว้ซ่อมเครื่องบิน สื่อสารเครื่องบินขาดไม่ได้ สรรพาวุธออกแนวหน่วยรบ แต่จะเจียระไนเข้าไปอีก คงยาวครับ มันหลากหน้าที่มาก ถึงแม้ว่าจะมี 3 เหล่า (วันนี้เวลาไม่พอ)
ใครก็ได้ ช่วยแนะแนวผม ที ใจจริงๆก็อยากเรียน สรรพวุธแล้วไปเรียน EOD
EOD ก็เฉพาะเหล่าสรรพาวุธเท่านั้น มีค่าเครื่องหมายความสามารถเมื่อถูกบรรจุลงตำแหน่งที่ถูกต้อง
แต่มาคิดดูอีกที เฮ้อ ช่างอากาศ สื่อสาร จบออกมาก็สามารถไปทำงานต่อ สนามบินได้ แล้วสรรพวุธหละ จะมีหน้าที่อะไรในสนามบิน
ส่วนมากเป็นช่างอากาศนะครับที่อัตราสมองไหลออกจากกองทัพมากกว่าสื่อสาร แต่ทำงานเหนื่อยกว่าสื่อสาร สื่อสารจะหนักไปทางอุปกรณ์เสริมซะส่วนใหญ่ แต่เทคโนโลยีเป็นเรื่องใหญ่ที่ สองเหล่านี้จะต้องตามให้ทันครับ
แล้วอีกอย่าง เรื่องเงินเดือนทหาร เนี่ย ได้เงินเดือน ได้ สตาร์ท 8200 แล้ว ยังมีค่าอะไรเพิ่มอีกไหมครับ เช่นถ้าผมอยู่หน่วยช่างอากาศยาน
มีครับ แล้วแต่นโยบายรัฐครับ ทหารอากาศไม่เคยช้าเรื่องเงินๆ ทองๆ ครับ
ขอบคุณทุกคน ที่ช่วยตอบนะครับ เพราะ ผมคิดว่าการเลือก ครั้งนี้ อาจหมายถึงการ เลือกชีวิตในอนาคตของผม ครับ
ถ้าหวังจะก้าวหน้าในจนถึงชั้นสัญญาบัตรต้องรออายุครบ 40 ปี ก่อนนะครับ ณ ขณะนี้ นี่คือข้อเสียที่สุดซึ้งนะครับ แต่นโยบายอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่ก็อายุ 40 มานานแล้ว ถ้าอยากสอบติดสัญญาบัตรไวๆ ต้องเบียดบุคคลภายนอกเข้ามาครับ หมายถึง ทอ.จะเปิดเหล่าที่ไม่ได้ผลิตที่มีคุณวุฒิตรงตามตำแหน่งที่ต้องการครับ 2 ปีที่แล้ว มี จ.อ. สอบติด ว่าที่ ร.ต. ก็มีมาแล้วนะครับ แต่ต้องมีคุณวุฒิตามที่กำหนด หมายถึงไปเรียนต่อเพิ่มเติม ในสาขาที่ตรงต่อคุณสมบัติที่กองทัพกำหนด มาถึงตรงนี้ ก็ขอให้วางแผนดีๆ ครับ เราอาจจะไม่ได้เป็นทหารกันไปจนถึงเกษียณอายุราชการหรอกครับ เดี๋ยวก็เพื่อน/พี่/น้อง ที่ออกไปก่อนก็มาชวนออกไปตาม.
มีอีกเยอะครับ แต่พิมพ์มากไปคงไม่ดี 5 55+ จขกท.จะเสียกำลังใจเอา สงสัยลองถามอีกก็ได้ครับ แนะนำได้จะแนะนำครับ
ขอบคุณ ทุกคำตอบเลยนะครับ ทั้ง ท่านเด็กทะเล และ พี่ Xmode ที่ช่วยให้คำแนะนำผม ตั้งแต่กระทู้แรกที่ผมถามไป
คือ ตอนนี้ผม อยากรู้ว่าถ้า เราเลือก สรรพวุธ เรียน EOD ต่อ จบมา งานงอกเหมือน ทบ. ตร. เขาไหมครับ
แล้วคือ ถ้าตอนนี้ผมเลือก สรรพวุธ มีโอกาส เลือกแค่ครั้งเดียวก่อนสอบใช่ไหมครับไม่ใช่ว่าพอเราเข้าไปได้จะมีการเลือกอีกทีไม่มีแล้ว ใช่ไหมครับ ?????
พี่ๆ ช่วยเล่า ประสบการณ์ที่ประทับใจ ในโรงเรียนทหารให้ ฟังด้วยก็ดีนะครับ ขอบคุณครับผม
ขอบคุณ ทุกคำตอบเลยนะครับ ทั้ง ท่านเด็กทะเล และ พี่ Xmode ที่ช่วยให้คำแนะนำผม ตั้งแต่กระทู้แรกที่ผมถามไป ถามเรื่อง นจอ. |
5 55+ ผมลืมไปแล้วนะเนี๊ยะว่าเคยให้คำแนะนำอะไรให้สมาชิกใน TFC ไปบ้าง ส่วนใหญ่จะปล่อยไก่ ไร้สาระซะเยอะ... อาจจะมีส่วนน้อยมากที่พอจะเป็นประโยชน์บ้าง แต่ก็ภูมิใจนะครับที่เนื้อหาบางส่วนเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก เหอๆๆ
คือ ตอนนี้ผม อยากรู้ว่าถ้า เราเลือก สรรพวุธ เรียน EOD ต่อ จบมา งานงอกเหมือน ทบ. ตร. เขาไหมครับ |
ตอนนี้หลักสูตรการฝึก EOD ของ ทอ.มีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ครับ ประหนึ่งเหมือนกันว่าเราจะไปรบกันเลยล่ะ แต่ดีกรีความเข้มข้นยังเป็นรองหลักสูตรการรบในหลักสูตรโดยตรงอยู่นะครับ เริ่มแรก จำได้ว่ารุ่นแรกๆ นั่งเรียนกันธรรมดาๆ ฝึกประกอบระเบิด ถอดระเบิด เรียนรู้พฤติกรรมระเบิด และอะไรก็ตามแต่ที่มันทำให้ระเบิดได้ (เพื่อนของเพื่อนอีกทีนะครับที่เล่าให้ฟัง) หลังๆ มามียืดเส้นยืดสาย เสียเหงื่อ อดข้าวอดน้ำกันเลยทีเดียว เพราะผู้ใหญ่ในกองทัพและผู้มีประสบการณ์เร่งเห็นแล้วว่า EOD ถ้าไม่มีความรู้ในการเอาตัวรอดในสถานการณ์การรบแล้วก็ไม่มีค่าและจะเป็นตัวถ่วงชุดปฏิบัติการไปโดยปริยาย ยิ่งตอนนี้ตกเป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามไปเรียบร้อยแล้ว เป็นการพัฒนาหลักสูตรไปในทางที่ดีครับ
ส่วนงานงอกนั้น เข้าใจว่า EODของ ทบ.และ ตร. ต้องเผชิญกับสถานการณ์จริงๆ เยอะใช้ไม๊ครับ ส่วนของ ทอ.ในกองกำลัง ฉก.๙ ก็มี EOD ครับ งานจะไม่งอกได้ยังไง เพียงแต่การจัดชุดของ ทอ.ในการปฏิบัติงานภารกิจเล็กๆ และพื้นที่รับผิดชอบนั้นมีขอบเขตไม่กว้างขวาง คือ ไม่ครอบคลุมพื้นที่อันตรายทั้งหมดครับ ขยายอีกนิดก็คือ สร้างความมั่นคงสูงสุดให้กับฐานปฏิบัติการบินครับ ไม่บอกสถานที่แต่หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วครับ
แล้วคือ ถ้าตอนนี้ผมเลือก สรรพาวุธ มีโอกาส เลือกแค่ครั้งเดียวก่อนสอบใช่ไหมครับไม่ใช่ว่าพอเราเข้าไปได้จะมีการเลือกอีกทีไม่มีแล้ว ใช่ไหมครับ ????? |
เลือกเหล่านี่ ครั้งเดียวเท่านั้นครับ เปลี่ยนเหล่าได้ครับแต่เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่มีใครเค้าจะอยากทำให้เราหรอกครับ ยกเว้นเสียแต่ว่าเราไปเรียนหลักสูตรที่เข้ากำลังต้องการกำลังพล เราก็ได้ย้ายไปเข้าบรรจุครับ แต่เหล่าก็ไม่เปลี่ยนแปลงนะครับ ยกตัวอย่าเช่น เป็นพี่คนหนึ่งจอ นจอ.เหล่าสารบรรณ (แต่ก่อนมีนะครับ) จบ หลักสูตร จนท.การข่าวXXX ของ กรมข่าวทหารอากาศ ย้ายไปบรรจุในตำแหน่ง อารักขาบุคคลสำคัญ ไปแล้ว เหตุเพราะ เบื่องานสารบรรณ เพื่อนของน้องที่ทำงานก็เหล่าสารบรรณ จบ ปฏิบัติการพิเศษรุ่น X จากเดิมทำงานสารบรรณ ตอนนี้ บรรจุเข้า หน่วยงานหนึ่งใน หน่วยบัญชาการอากาศโยธินไปแล้ว ^^ ส่วนผมเองเหล่า สื่อสาร จบ จนท.สื่อสารประจำอากาศยานมา แต่ไม่มีค่าตอบแทนพิเศษ(ค่าปีก) เพิ่มให้นะครับ เพราะไม่ได้บรรจุในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานบนอากาศ แต่ทุกวันนี้ก็ทำงานกับอากาศยานครับ มันก็น่าน้อยใจเนอะ จะย้ายไปหาปีกได้เงินยังไม่ให้ไป เพราะไม่มีคนทำงาน จุ๊ๆๆ ขออภัยที่บ่นนอกเรื่องครับ เหอๆๆ
พี่ๆ ช่วยเล่า ประสบการณ์ที่ประทับใจ ในโรงเรียนทหารให้ ฟังด้วยก็ดีนะครับ ขอบคุณครับผม |
โดยส่วนตัวของผมนะครับประทับใจตรงที่เรามีเพื่อนๆ เพิ่มขึ้น ได้รู้ได้เห็นอะไรๆ ที่ทำให้เราต้องทำในสิ่งที่ดีเข้าไว้ รู้จักความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ที่เรามี ทำให้เรามีความพร้อมในระดับหนึ่งจะสามารถเอาตัวรอดได้ในการดำเนินชีวิตของเราครับ ส่วนเรื่องความหลัง...มันเยอะมาก ขอสงวนไว้นะครับ เพราะเกรงว่า ถ่ายทอดไปแล้วจะตีความกันไปผิดจากเจตนารมณ์ของผู้ถ่ายทอดนะครับ เอาเป็นว่า ชีวิตนักเรียนทหารมันสนุกกว่าตอนเข้ามารับราชการครับ ลองถามคนใกล้ตัวดูครับ ว่าอยากจะกลับไปเรียนกันใหม่บ้างไม๊ เหอๆๆ
สมาชิกท่านใดมีข้อสงสัยหรือมีข้อคิดเห็นประการใด ผมยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ ^____^
Xmode ณ TFC.org