หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ซาอุดิอาระเบียเตรียมจัดหา F-15 ใหม่จำนวน 84 เครื่อง พร้อมอัพเกรดเครื่องเก่า 70 กว่าเครื่อง

โดยคุณ : Fsas เมื่อวันที่ : 05/01/2012 11:13:43

HONOLULU — The sale of $30 billion worth of F-15SA fighter jets to Saudi Arabia has been finalized, the Obama administration said Thursday, boosting the military strength of a key U.S. ally in the Middle East to help counter Iran.

Under the agreement, the U.S. will send Saudi Arabia 84 new fighter jets and upgrades for 70 more. Production of the aircraft, which will be manufactured by Boeing Co., will support 50,000 jobs and have a $3.5 billion annual economic impact in the U.S., the White House said.

The sale is part of a larger U.S. effort to realign its defense policies in the Persian Gulf to keep Iran in check. The announcement came as U.S. officials weighed a fresh threat from Tehran, which warned this week it could disrupt traffic through the Strait of Hormuz, a vital Persian Gulf oil transport route, if Washington levies new sanctions targeting Iran’s crude exports.

Administration officials said the timing of Thursday’s announcement was not tied to the new threat from Tehran. But they did make clear that the fighter jet sale would help Saudi Arabia counter potential troubles with Iran.

“This sale will send a strong message to countries in the region that the United States is committed to stability in the Gulf and broader Middle East,” said U.S. Assistant Secretary of State Andrew Shapiro. “It will enhance Saudi Arabia’s ability to deter and defend against external threats to its sovereignty.”

The fighter jet sale is part of a larger 10-year, $60 billion arms deal with Saudi Arabia that also includes helicopters, a broad array of missiles, bombs and delivery systems, as well as radar warning systems and night-vision goggles. Congress gave the deal the go-ahead about a year ago.

The plan initially raised concerns from pro-Israeli lawmakers, but U.S. officials reassured Congress that Israel’s military edge would not be undercut by the sale. Additionally, there is now broad agreement among Israel, the Gulf Arab states and the West that Iran poses a significant and unpredictable threat.

Saudi Arabia and Iran are bitter regional rivals. Tensions between them were further stoked earlier this year after the U.S. accused Iran of plotting to assassinate the Saudi ambassador to the U.S. in Washington.

Saudi Arabia is already the most militarily advanced of the Arab Gulf states, one of the richest countries in the world, and central to American policy in the Middle East. It is also vital to U.S. energy security, with Saudi Arabia ranking as the third-largest source of U.S. oil imports.

But relations between the U.S. and Saudi Arabia grew frosty earlier this year, as the allies found themselves at odds during the protests that swept through the Arab world. The Obama administration angered the Saudis by pulling support from former Egyptian leader Hosni Mubarak, a longtime ally of both countries. And the U.S. bristled when Saudi Arabia sent troops into Bahrain to quell protests there.

The White House announced the agreement with Saudi Arabia from Hawaii, where President Barack Obama is vacationing.

 

http://www.washingtonpost.com/national/us-finalizes-deal-to-sell-f-15s-to-saudi-arabia-part-of-effort-to-contain-threats-from-iran/2011/12/29/gIQAKixdOP_story.html





ความคิดเห็นที่ 1


นี้แหละ โทษของสงคราม ( เปลืองเงิน ) ตอนนี้ ชาติตะวันออกกลาง ยังมีเงินจากการ ขายน้ำมันอยู่

แต่ในอนาคตอันไกล้ พลังงาน ทางเลือกเช่น ไฮโดรเจน หรือ ฟิวชั่น จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

แถมเป็นพลังงานสะอาด เมื่อวันนั้นมากถึง ชาติตะวันออกกลางคงคิดได้ว่า เราจะทะเลาะกันไปทำไม

และทฤษฏี E ( oil ) = MONEY  คงหมดไป

โดยคุณ general เมื่อวันที่ 30/12/2011 03:10:07


ความคิดเห็นที่ 2


แน่นนอนว่า  ต้องจ้าง นักบินอเมริกัน ไปบินด้วย 

โดยคุณ mambo เมื่อวันที่ 30/12/2011 05:05:39


ความคิดเห็นที่ 3


เจ้าชายชาวตะวันออกกลางทั้งหลาย ยังคงภาคภูมิใจในการขึ้นนิตยสารฟอร์บ ที่บอกว่าใครรวยเท่าไหร่ และยังคงสร้างชื่อเสียงด้วยการทุ่มเงินซื้อทีมฟุตบอลเพื่อโปรโมทตัวเองมากกว่าลงทุนที่ยั่งยืน

โดยคุณ rachatagot เมื่อวันที่ 30/12/2011 08:42:27


ความคิดเห็นที่ 4


ธรรมดาครับ รวยๆใช้ชีวิตแบบสบายสุดๆ ก็ต้องกลัวถูกยึดประเทศเหมือนคูเวตโดนอิรัคยึด ตอนนั้นคูเวตรวยอย่างเดียวแต่ไม่มีรถถังซักคันหรือมีเครื่องบินรบน้อยมาก ตอนนี้ลองไปดูซิครับซื้อM1มาเพียบ ไหนจะเครื่องบินรบอีกเป็นฝูง+แพทริออต ซาอุฯซื้อขนาดนี้ใครจะบุกหรือคิดจะรบด้วยก็ต้องคิดหนักหน่อยล่ะครับ แค่เจอF-15รุ่นใหม่กว่า150 เครื่อง+ไต้ฝุ่นที่กำลังตามมา (เผลอๆอิสราเอลแจมด้วยอีก เห็นจ้องๆอยู่ช่วงนี้) อันนี้แค่คิดแบบง่ายๆนะครับ

โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 30/12/2011 10:27:29


ความคิดเห็นที่ 5


ขออภัยครับ พิมพ์ตกไปที่อิสราเอลจ้องๆอยู่คืออิหร่านที่ขู่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซครับ เพราะพี่แกพูดเหลือเกินว่าจะลบประเทศอิสราเอลออกจากแผ่นที่โลก และบอกว่าเรื่องคนยิวถูกนาซีฆ่าเป็นล้านๆเปงเรื่องที่อิสราเอลแต่งขึ้นมาครับ

โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 30/12/2011 10:31:38


ความคิดเห็นที่ 6


ซาอุ เป็นชาติอาหรับ ที่เป็นพันธมิตรกะชาติตะวันตก นะครับ

ซาอุ เขาคิดโครงการระยะไกล มากกว่าสิ่งที่พวกคุณเห็นเสียอีก พวกเขาคิดว่า ถ้าน้ำมันหมดจากประเทศของเขา เขาจะพึ่งอะไรในอนาคต ดังนั้น โครงการในอนาคต จึงถูกดำเนินการมานานแล้ว

ไปดูที่ประเทศเพื่อนบ้านสิ พวกคุณรู้เหมือนเปล่าว่า ไม่ว่าจะเป็นพม่า-ลาว-เขมร-เวียดนาม ซาอุ เข้าไปเช่าพื่นที่ทำเกษตรกรรมเป็น 100,000ๆ ไร่ หรือ มากกว่านั้น เพื่อทำการเกษตรปลอดสารพิษและได้มาตฐาน ป้อนเข้าประเทศตัวเอง และก็บอกกะประเทศพวกนั้นว่า ถ้าผลิตอาหารการกินได้ เขายินดีรับซื้อ

ซาอุ เคยหอบเงินมาขอไทย ลงทุนด้านการเกษตร แต่ไทยนิ่งเฉย, ซาอุ เลยหอบเงินหลายหมื่นหลายแสนล้านดอลล่า ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่พื้นดิน-อุดมสมบูรณ์กว่าไทย เช่าพื่นที่ในราคาถูก (โครงการเหล่านี้ คือโครงการที่รองรับในอนาคต ที่จะรองรับ หากน้ำมันในซาอุหมด และโครงการ ก็ดำเนินงานมาช้านานแล้ว ผลิตอาหารเข้าไปป้อนซาอุนานแล้ว) และอีกหลายๆ โครงการที่ซาอุเตรียมรับไว้ในอนาคต แต่ละโครงการ ล้วนมีเงินทุนจำนวนมหาศาลสนับสนุนเป็นแสนๆ ล้านดอลล่า หรือ มีมากกว่านั้นเสียอีก

เพราะฉะนั้น ถึงแม้น้ำมันจะหมด ซาอุ ก็ไม่ตายง่ายๆ หรอก

ชาติตะวันตก ยังต้องเพิ่งซาอุเล้ย แม้แต่เมกา ก็ยังต้องขายอาวุธให้ซาอุ เพื่อเอาเงินตราเข้าประเทศตัวเอง ควรจะหันประเด็นไปที่ว่า ชาติตะวันตก จะขย้ำอิหร่านเมื่อไรต่างหาก

โลกยังต้องใช้น้ำมันในปริมาณมหาศาล ก่อนที่โลกจะเลิกใช้น้ำมัน ซาอุ คงขายน้ำมันหมดไปทั้งประเทศแล้วมั้ง ส่วนพลังงานทางเลือก มันยังมีจำนวนน้อย น้อยมาก เมื่อเทียบกะความต้องการการบริโภคพลังงานของโลกทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ก็ยังเป็นสิ่งที่โลกต้องการเสมอๆ ยิ่งมหาอำนาจอย่างเมกาและจีน ยิ่งต้องการพลังงานมหาศาลในการบริโภคต่อวัน พวกนี้ ก็ยังจำเป็นอยู่เสมอ

สงสารแต่ประเทศไทย นี่แหละ ที่ดันไปมีเรื่องกะหัวโจกของชาติอาหรับ 57 ประเทศ เพราะซาอุ ก็คือลูกพี่ใหญ่ของชาติอาหรับ 57 ประเทศ

 

โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 31/12/2011 00:11:10


ความคิดเห็นที่ 7


US ขายบินขับไล่ “เอฟ-15” ให้ซาอุฯ 84 ลำ หวังเสริมแสนยานุภาพ-ข่มอิหร่าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2554 10:09 น.


สหรัฐฯ เปิดเผยถึงการขาย เอฟ-15 ฝูงใหม่ให้กับซาอุดีอาระเบีย 84 ลำ ขณะที่อิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ
       เอเอฟพี - สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (29) กรณีสัญญาขายยุทโธปกรณ์ให้กองทัพซาอุดีอาระเบีย มูลค่าเกือบ 30,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 จำนวนถึง 84 ลำ นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญต่อสถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซีย ขณะที่อิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางสัญจรสำคัญของเรือเดินสมุทรบรรทุกน้ำมัน หากถูกชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการลงโทษต่อเศรษฐกิจเพิ่มเติม กรณีโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์
       
       สัญญาซื้อขายยุทโธปกรณ์มูลค่า 29,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 930,000 ล้านบาท) ฉบับนี้ มีการลงนามกันตั้งแต่วันเสาร์ (24) ที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ ตกลงขายเครื่องบินขับไล่ โบอิ้ง เอฟ-15 เอสเอ 84 ลำ พร้อมเครื่องกระสุน อะไหล่สำรอง และจะช่วยยกเครื่องฝูงบินเอฟ-15 เดิมของซาอุดีอาระเบียอีก 70 ลำ ประกอบกับโครงการฝึกอบรบ และซ่อมบำรุง เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผย
       
       “การซื้อขายครั้งนี้จะส่งข้อความที่ชัดเจนถึงประเทศต่างๆ รอบอ่าวเปอร์เซียว่า สหรัฐฯ พร้อมเข้าสร้างเสถียรภาพในอ่าวเปอร์เซีย และชายแดนตะวันออกกลาง” แอนดรูว์ ชาพิโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกลาโหม แถลงข่าวในกรุงวอชิงตัน

       “ฝูงบินเอฟ-15 จะเพิ่มแสนยานุภาพของซาอุดีอาระเบีย ในการขัดขวางและปกป้องการคุกคามเอกราชของประเทศจากภายนอก”
       
       สัญญาฉบับนี้ได้รับการเปิดเผยครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2010 และเป็นเพียงส่วนหนึ่งในโครงการขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบียมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท)
       
       นอกจากนี้ จอช เอียร์เนสต์ รองโฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่า สัญญากับกรุงริยาดฉบับนี้จะช่วยสร้างงานให้ชาวอเมริกันมากกว่า 50,000 ตำแหน่ง ขณะประเทศกำลังมีปัญหาอัตราการว่างงานสูง และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจราว 3,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 100,000 ล้านบาท) ต่อปี
       
       ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ รองประธานาธิบดีโมฮัมหมัด เรซา ราฮิมี แห่งอิหร่าน เพิ่งประกาศเตือนโลกว่า “จะไม่มีน้ำมันแม้แต่หยดเดียวผ่านช่องแคบฮอร์มุซ” ช่องทางเดินเรือออกจากอ่าวเปอร์เซีย หากชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการลงโทษเศรษฐกิจอิหร่านเพิ่มเติม กรณีโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่า กรุงเตหะรานลอบพัฒนาอาวุธ
       
       อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า อิหร่านเองก็ไม่ต้องการใช้วิธีดังกล่าว เนื่องจากช่องแคบฮอร์มุซเป็นช่องทางการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเช่นกัน
       
       แอนดรูว์ ชาพิโร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบีย เพื่อตอบโต้ท่าทีคุกคามอย่างชัดเจนของอิหร่าน
       
       “ซาอุดีอาระเบียมีปัญหาเรื่องความมั่นคงบริเวณชายแดน อีกทั้งการคุกคามในอ่าวเปอร์เซีย และที่ชัดเจน คือ ซาอุดีอาระเบียกำลังเผชิญหน้ากับอิหร่าน”
       
       ขณะเดียวกัน เจมส์ มิลเลอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า ฝูงบินเอฟ-15 ดังกล่าว “จะเป็นอากาศยานที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในฝูงบินรบของกองทัพซาอุดีอาระเบีย ... เอฟ-15 รุ่นนี้สามารถทำศึกได้ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืน ในทุกสภาพอากาศ ด้วยเครื่องกระสุนนำวิถีความแม่นยำสูง”
       
       ที่สำคัญ มิลเลอร์เปิดเผยว่า ด้วยระบบการสื่อสารระหว่างเครื่องเอฟ-15 นักบินสหรัฐฯ และนักบินซาอุฯ สามารถประสานงานบนน่านฟ้าเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
       
       ทั้งนี้ การส่งมอบเครื่องบินชุดแรกจะมีขึ้นช่วงต้นปี 2015 ขณะที่สหรัฐฯ จะเข้าพัฒนาฝูงบิน เอฟ-15 เดิมที่ซาอุดีอาระเบียมีอยู่แล้ว ช่วงปี 2014 ส่วนเงินก้อนแรก กรุงริยาดจะจ่ายให้ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000166330

 

โดยคุณ kaypui42 เมื่อวันที่ 31/12/2011 07:46:55


ความคิดเห็นที่ 8


ขอความรู้หน่อยครับ คุณ seetha456 สงสารประเทศไทยเนี่ยแหละที่ไปมีเรื่องกะหัวโจกของชาติอาหรับ เราไปมีเรื่องกับเขาเมื่อไหร่ครับ และมันเรื่องอะไรครับ

โดยคุณ juk เมื่อวันที่ 03/01/2012 22:55:29


ความคิดเห็นที่ 9


"เพชรซาอุ"

โดยคุณ shifty เมื่อวันที่ 03/01/2012 23:23:18


ความคิดเห็นที่ 10


คดี เพชรซาอุ ครับ

โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 04/01/2012 04:55:04


ความคิดเห็นที่ 11


อมตะ..แห่งการโจรกรรม..และป็น..คดีอมตะนิรันด์การ..และเป็นความอับอายของทั้ง 2 ประเทศ

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 04/01/2012 07:09:21


ความคิดเห็นที่ 12


อ๋อครับเรื่องนี้เอง เรื่องนี้เป็นข่าวดังมากตอนนั้นผมยังเด็กไม่สนใจอะไร จำได้แต่ว่าคนไทยไปทำงานที่นั้นแล้วขโมยเพชรมา แต่ในเรื่องความสัมพันธ์นี่ทำให้สองประเทศไม่ถูกกันเลยเหรอครับ.....โอ้

โดยคุณ juk เมื่อวันที่ 05/01/2012 00:13:43