ก็ดูหมาะสมกับเรือจักรีฯ นะครับ โดยเฉพาะแฮริเออร์ของอิตาลีทำภารกิจ Air-to-Air ได้ด้วย

เพราะมีเรดาร์ AN/APG-65 ใช้แอมแรมได้

เพียงแต่ว่าพอมีใครทราบไหมครับว่าอิตาลีจะปลด เอวี-8บี ของตนเมื่อไหร่ ซึ่งก็น่าจะขึ้นอยู่กับว่า

เค้าจะได้ เอฟ-35 บี มาทดแทนเมื่อไหร่ และเมื่อถึงตอนนั้น สภาพของ เอวี-8บี จะเป็นอย่างไร

จะมีอะไหล่ให้ได้ใช้อีกนานไหม

ปัญหาเรื่องซื้อของมือสองมาใช้ หลักๆ ก็จะมีเรื่องเหลืออายุการใช้งานอีกนานเท่าไหร่และจะมีอะไหล่

ให้ใช้ได้กี่ปี ทอ. เองถึงเปลี่ยนแนวคิดในการจัดหา บ. ว่าควรจะเป็นของใหม่มือหนึ่งเท่านั้น ทร. ก็คง

อยากทำอย่างนั้นเช่นกัน ก็คงต้องดูเป็นกรณีไปครับ อย่างเช่น อู-206เอ ปรับสภาพแล้วใช้ได้อีก 10 ปี

แบตเตอร์รีหมดสภาพ ก็สามารถเปลี่ยนใหม่ใช้ได้อีกสิบปี เหล็กตัวเรือมีอายุไม่จำกัด (นาน) อย่างนี้ถือ

เป็นของที่น่าใช้ครับ ( แต่ไม่ได้ใช้ )

ปัญหาคือเขาคิดจะขายมั้ย

ดั่งเช่นท่าน ecos ว่า..

อิตาลีมี 18และอัพเกรด ไปเป็นHarrier II  เช่นเดียวกับสหรัฐแล้วด้วยในช่วงครึ่งหลังอายุการใช้งาน

รวมทั้ง GR-7-->GR-9[24/60](ของอังกฤษ)

ที่มองคือจำนวนที่น้อย อาจจะสำรองเป็น บ.ฝึกหรือสำรองพร้อมรบมากกว่า(ถ้าF-35Bเริ่มส่งมอบ) ขณะนี้เหลือถึง18ลำรึป่าวก็ไม่ทราบ

ส่วนของอังกฤษ ก็เ้น้นไปกับการโจมตีภาคพื้นดินเป็นสำคัญ(ไม่ค่อยเหมาะสมกับภาระกิจ คุ้มครองพื้นที่อ่าวไทย)

อาวุธสำหรับภาระกิจ aim-9 / aim-120 / aim-7 / sea eagle

ที่ เหมาะก็มีของสหรัฐ กับอิตาลีนี่ล่ะครับ แต่สหรัฐน่าจะมี%ที่สูงกว่า ในระยะ5-10ปีนี้อาจจะเห็น Harrier II  จอดตากแดดตากลมในทะเลทรายอริโซน่าดั่งเช่น F-16 ก็เป็นใด้

สหรัฐ เห็นข่าวว่าเหมาซื้อของอังกฤษทั้งหมด  เลยคิดว่าคงจะขายอยาก เพราเเขายังต้องการใช้อยู่