หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


การเตรียมพร้อมของ ทอ. สำหรับการปลดประจำการเครื่องบินรบ

โดยคุณ : Skywalker เมื่อวันที่ : 20/12/2011 09:15:08

พอดีได้อ่านบล็อกของคุณโยมาครับ โดยเป็นแผนข้อมูลอากาศยานที่ ทอ. ที่จะปลดประจำการ ข้อมูลตามนี้เลย...

กำหนดการปลดประจำการของเครื่องบินแต่ละแบบของทอ.ครับ

- F-5T อุบล อย่างน้อย ๆ ปี 2560 - 2563
- F-16ADF ฝูง 102 จะหมดอายุก่อนชาวบ้านเขาครับ ถ้าคำนวณว่าใช้เครื่องราว 200 ชั่วโมงต่อปี ปี 2565 - 2570 ก็ต้องบ๊ายบายแล้ว
- F-16 ฝูง 103 จะตามไปราว ๆ ปี 2575 - 2580
- F-16 ฝูง 403 เป็นฝูงสุดท้ายที่จะปลดในปี 2583
- Alphajet นั้นตอนซื้อมาจากเยอรมันเท่าที่จำได้เยอรมันใช้ไปแค่ 1,000 ชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ตัวเครื่องมีอายุยืนยาวถึง 10,000 ชั่วโมง ดังนั้นผมว่าอีกนานกว่าจะไปครับ ถ้าคำนวณดูยังใช้ได้อีกเกือบ 30 ปี ก็คือปลดในปี 2583
- AU-23A ยังไม่มีกำหนดปลดเลยครับ ยิงยาว ๆ ๆ
- L-39ZA/ART มีอายุราว 6,000 ชั่วโมง คิดว่าใช้ต่อปีราว 200 ชั่วโมง จะอยู่ไปถึงปี 2567
- UH-1H อีกไม่เกิน 5 ปีก็ต้องปลดแล้วครับ
- HS-748 อีก 2 -3 ปีก็จะปลดทั้งหมด
- C-130 ปีนี้มีอายุ 30 ปี แต่ตามข้อมูลที่มีคือ C-130 มีชั่วโมง 60,000 ชั่วโมงก่อนโครงสร้างจะเสียหรือ 40,000 ชั่วโมงก่อนจะเกิดการผุ ถ้าคิดว่าปี ๆ นึง C-130 บินทุกวัน แล้วมีชั่วโมงปี ๆ หนึ่งราว 1,000 ชั่วโมง อีกไม่เกิน 10 ปีทอ.ก็ต้องทำอะไรสักอย่างกับ C-130 แล้วครับ
- PC-9 มีอายุราว 12,000 ชั่วโมง
- CT-4 ไม่มีข้อมูลเหมือนกัน





ความคิดเห็นที่ 1


ผมว่า  C-130นี้น่าจะเริ่มโครงการจัดหาได้แล้วนะครับ  วันนึงผมเห็นพระเอกคนนี้บินกันแทบจะไม่ได้พักในจำนวน12ลำนี้ ผมว่าไม่พอกับการใช้งานภายในประเทศตอนนี้หรอกครับ ในความคิดของผม น่าจะอยู่16ลำ   ในตอนนี้ที่ผม สนใจก็จะมีC-130J   C-130NG   A400M  และที่ชอบมากที่สุดก็คือC-2 Kawasaki อันนี้ผมชอบเป็นการส่วนตัว เพราะได้ข่าวมาว่า ญี่ปุ่นช่วงนี้ก็เริ่มจะหาทาง ส่งออกอาวุธของตนเองเหมือนกัน  

ส่วนเครื่องบินขับไล่นั้น  F-16ADF L-39  F-5T  นี้ในใจจริง ผมอยากให้กองทัพอากาศหางบซักส่วนนึงไปร่วมกับโครงการFS2020 ของSAAB ไหนๆก็แล้ว มีน้องjas-39อยู่เป็นเพื่อน        จะหารุ่นน้องอีกสักรุ่นมันจะเป็นไรไปอ่ะครับอีกอย่างในการจัดหาอะไหร่จะได้ง่ายขึ้นด้วย(ในความคิดของผมนะ)  เพราะช่วงนี้ค่าตัวของเจ้าF-35ก็แพงขึ้นเลื่อยๆ ไม่รู้จะเข้าสายการผลิตเมื่อไหร่

โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 14/12/2011 11:14:36


ความคิดเห็นที่ 2


จากที่อ่านข้อมูลมา ก็คิดว่าภายใน 5-10 ปีต่อจากนี้ไป อากาศยานที่น่าจะปลดประจำการ ก็มี

F-5T ฝูง 211,F-16ADF ฝูง 102,L-39ZA/ART,UH-1H,HS-748

นั้นหมายถึงฝูงบินขับไล่ 2 ฝูงบินหลัก ที่ต้องเตรียมการจัดหา ซึ่งทั้ง F-5 และ F-16 ADF ระยะเวลาปลดน่าจะใกล้เคียงกันมาก

นั้นหมายถึงการจัดหาฝูงบินขับไล่ใหม่ 2 ฝูง จะลงเอยที่เครื่องบินรบแบบใดนั้น ไม่ทราบได้

แล้วก็ L-39 นั้นหมายถึงทั้งฝูง 401 และ 411 ที่เป็นฝูงฝึกขับไล่ 1 ฝูง และฝูงบินโจมตี/ขับไล่ อีก 1 ฝูง

ที่สำคัญคงจะเป็นฝูงบิน 401 ซึ่งเป็นฝูงฝึกนักบินก่อนที่จะไปบินกับเครื่องบินขับไล่หลักของ ทอ. ซึ่งตรงนี้สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องจัดหาเครื่องใหม่มาประจำการ

รวมถึงฝูง 411 ซึ่งเป็นฝูงขับไล่/โจมตี ซึ่งประจำการพร้อมกับ 401 ตรงนี้จะใช้เงินอีกมหาศาลหากต้องซื้อเครื่องใหม่อีก

มาถึงม้าเงินหลักของ ทอ. UH-1H ที่ประจำการมานานเหลือเกิน คุณโยบอกว่าอีก 5 ปีก็ต้องปลด งั้นนี้คงจะเป็นโครงการแรกในการจัดหาเลย

เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหลักของ ทอ. ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าจะไปลงเอยที่ ฮ.แบบใด แต่แบบที่จะมาแทน ก็คงต้องเข้าประจำการในฝูง 203 นี้ประมาณ 20 ลำ

เพื่อทดแทนฮิวอี้เก่าทั้งหมด

ส่วน HS-748 ซึ่งเป็นเครื่องลำเลียงคิดว่าไม่มีปัญหา คงเอา Saab340 รุ่นลำเลียงแทนกันได้

แล้วก็ C-130 ที่ประจำการมากว่า 30 ปี คุณโยบอกว่าไม่เกิน 10 ปี คงต้องร่างแผนหาเครื่องทดแทนกันแล้ว ซึ่งก็ต้องจำนวนไม่น้อยกว่า 12 ลำ

จากที่เห็นว่า C-130 ทำงานหนักมากและทำงานทุกวัน เป็นไปได้ไหมครับ ที่อาจจะเป็น C-17 ที่เข้ามาแทน C-130 ถึงจะใหญ่กว่า แต่ท่าดูนาน ๆ

ผมคิดว่าคุ้มค่ากว่าครับ

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 14/12/2011 04:45:23


ความคิดเห็นที่ 3


อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ เพื่อน ๆ สมาชิกบอร์ทคิดเห็นอย่างไรบ้างกับการที่ ทอ. ต้องรับงานหนักในการเตรียมตัวที่จะซื้อเครื่องบินใหม่นี้

เรื่องหาคัดเครื่องบินที่จะเข้ามาประจำการคงไม่ยากเท่าไร แต่พูดถึงเงินที่ต้องเตรียมจ่ายนี้ซิครับ น้ำตาแทบไหล T^T

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 14/12/2011 04:47:11


ความคิดเห็นที่ 4


ผมว่า เอฟ-สิบหก ฝูงหนึ่งศูนย์สอง จะไปก่อนเพื่อนนะครับ ตามติดด้วย ไทกริส ฝูงสองหนึ่งหนึ่ง

ในภายไม่เกินสิบปีนับจากนี้ เนื่องจากอายุจะมากกว่าเพื่อน ระบบต่างๆ ก็ไม่ได้รับการปรับปรุงให้

ทันยุคทันสมัย อะไหล่มันก็จะไม่มีให้ซื้อนะครับ เปรียบเหมือนตอนนี้ให้ไปหาแผ่นวินโดร์เก้าห้า

ในพันทิพย์ ทั้งหายากและถ้ามีก็ราคาแพง กลายเป็นของสะสมไปซะ

 

ถัดไปจะน่าเป็น เอฟ-สิบหก ฝูงหนึ่งศูนย์สาม แต่ให้จับตามอง เอ-เจ็ต ไว้ด้วยนะครับ หากไม่มี

อะไหล่ให้ซื้อหรือ ทอ. ต้องรัดเข็ดขัดจนหน้าเขียว อาจต้องปลดในเร็ววันนี้ด้วยครับ

 

แอฟโร่ ได้ เอทีอาร์ มาแทนแล้วไงครับ บล. สำหรับลำเลียงผู้โดยสารไม่น่าเป็นห่วงครับ

 

ที่เหลือต่างหากที่น่าจับตามองว่า ทอ. จะจัดสรรงบประมาณอย่างไร ต้องทำแผนระยะกี่ปี จึงจะจัดหา บ.

หรือ ฮ. เข้ามาทดแทนได้ครบอัตรา เผลอๆ อาจต้องมีการปรับโครงสร้างกำลังรบกันใหม่เพื่อให้เล็กกระชับ

และใช้งบประมาณน้อยลง...

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 14/12/2011 05:55:14


ความคิดเห็นที่ 5


สงสัยเสี่ยเขากำลังทำรีเสิร์ชรุ่นเครื่องบินที่จะเสนอถ้า ทอ.มีโครงการหรือเปล่า55+ แซวนะครับ

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 14/12/2011 06:53:39


ความคิดเห็นที่ 6


โครงการที่สำคัญจริง ๆ ตอนนี้ซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้คงจะเป็น จัดหาเฮลิคอปเตอร์แทน UH-1H

ที่ต้องทำภารกิจลำเลียง-อเนกประสงค์ จะเป็นไปได้ไหมครับถ้าจะเป็น UH-60 แต่ ฮ.ลำเลียงที่จะมาแทนนี้ก็จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 16 ลำ

จากฝูง UH-1H ของ 203 ที่มีอยู่ 19 ลำ เพื่อประจำการอยู่ในฝู 203 รวมทั้งเป็นฝูงบินแยกไปประจำการในกองบินต่าง ๆ อีก

หลังจบโครงการเฮลิคอปเตอร์ได้ ก็คงเจอกับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่แทน F-5T และอาจรวมถึง F-16ADF ด้วยในอนาคต

ผมคิดว่าดีน่ะครับ หากจะปรับลดเครื่องบินขับไล่มาเหลือฝูงล่ะ 16 ลำ เพราะยังไงก็ถือเป็นอัตราความพร้อมรบขั้นที่ยังพอรับได้

แต่จะปลดทีเดียวถึง 2 ฝูงบิน ดังนั้นจะเป็นงบประมาณที่สูงมากที่เราต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่

ซึ่งจะต้องดูแผนความต้องการของ ทอ. ต่อไป ว่าต้องการเครื่องบินแบบใด

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 14/12/2011 11:12:57


ความคิดเห็นที่ 7


โครงการจัดหาเยอะมาก แต่งบประมาณที่จะนำมาใช้ในการจัดหาไม่เพียงพอ  เป็นเช่นนี้F-35คงจะมาประจำการที่ประเทศเรายากซะแล้ว  พอจะมีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่านี้มั่ยครับ



โดยคุณ thanakon เมื่อวันที่ 14/12/2011 09:39:43


ความคิดเห็นที่ 8


โครงการที่สำคัญจริง ๆ ตอนนี้ซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้คงจะเป็น จัดหาเฮลิคอปเตอร์แทน UH-1H

ที่ต้องทำภารกิจลำเลียง-อเนกประสงค์ จะเป็นไปได้ไหมครับถ้าจะเป็น UH-60 แต่ ฮ.ลำเลียงที่จะมาแทนนี้ก็จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 16 ลำ

จากฝูง UH-1H ของ 203 ที่มีอยู่ 19 ลำ เพื่อประจำการอยู่ในฝู 203 รวมทั้งเป็นฝูงบินแยกไปประจำการในกองบินต่าง ๆ อีก

หลังจบโครงการเฮลิคอปเตอร์ได้ ก็คงเจอกับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่แทน F-5T และอาจรวมถึง F-16ADF ด้วยในอนาคต

ผมคิดว่าดีน่ะครับ หากจะปรับลดเครื่องบินขับไล่มาเหลือฝูงล่ะ 16 ลำ เพราะยังไงก็ถือเป็นอัตราความพร้อมรบขั้นที่ยังพอรับได้

แต่จะปลดทีเดียวถึง 2 ฝูงบิน ดังนั้นจะเป็นงบประมาณที่สูงมากที่เราต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่

ซึ่งจะต้องดูแผนความต้องการของ ทอ. ต่อไป ว่าต้องการเครื่องบินแบบใด

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 14/12/2011 11:16:29


ความคิดเห็นที่ 9


ฮ.ลำเลียงที่จะมาแทน UH-1H คือUH-60 กับ mi17v5 ซึ่งทบ.ได้ทยอยซื้อมาแล้ว คราวละ 3 ลำ ในส่วนของ mi17v5 ถ้าใช้งานดีอาจจะมีการจัดหาเพิ่ม สำหรับUH-60 นั้นความต้องการอยู่ที่ 33 ลำตอนนี้มี 7 ลำ อนุมัติหาสุดเพิ่มอีก 3 เป็น 10 ลำ ใช้เป็นฮ.ลำเลียงและอาจมีรุ่นติดอาวุธด้วย

โดยคุณ worapon เมื่อวันที่ 15/12/2011 00:53:23


ความคิดเห็นที่ 10


คุณ worapon ครับ ผมหมายถึงเฮลิคอปเตอร์ ของ ทอ.ครับ

สำหรับ ทบ. คงมีแผนชัดเจนแล้วในการจัดหา UH-60 ทั้งรุ่น L และ M มาแทน UH-1H

ส่วนของ ทอ. นั้น ยังไม่ทรายเลยครับว่าจะเอาแบบใดมาแทน UH-1H ของฝูงบิน 203

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 15/12/2011 03:18:26


ความคิดเห็นที่ 11


55 นานๆโพสทีปล่อยนกกระจอกเทศตัวเบอเร่อเลย กะว่าจะมีส่วนรวมซะหน่อย อ่านหนังสือไม่จบซะงั้น ต้องกลับเข้าโหมดเดิม read only ต้องขออภัยท่านสมาชิก

ถือว่าดูโฆษณาก็แล้วกันนะครับ

โดยคุณ worapon เมื่อวันที่ 15/12/2011 04:02:48


ความคิดเห็นที่ 12


ไม่เป็นไรคร้าบ ๆ ^^ แสดงความคิดเห็นหน่อยก็ได้ ผมอยากรู้ความคิดของทุกท่านเหมือนกัน

เพราะว่าโครงการนี้จัดหาอากาศยานของ ทอ. นี้สำคัญจริง ๆ ครับ

โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 15/12/2011 04:47:12


ความคิดเห็นที่ 13


เหอๆ..ถ้าอย่างนั้นก็ขอสัก 1 คห.ละกันครับด้นสดๆเลยไม่มีสคริป....(....โอ๊ะโย๊โย๋)....

อย่างที่หลายท่านว่ามาอย่างไรเราก็ต้องมองไปที่เครื่องบินยุคที่ 5 แน่นอนอยู่แล้วที่จะมาแทนในส่วนของเครื่องบินขับไล่/โจมตี ถึงแม้ปัจจัยเรื่องราคาต่อหน่วยและงปประมาณที่จำกัด อย่างที่ท่าน สกายวอร์คเกอร์ ว่าไว้เราต้องจัดหาเครื่องที่เข้าประจำการถึง 2 ฝูงบิน ในระยะเวลาที่ไกล้เคียงกันมาก แต่สำหรับในความคิดของผมแล้วการที่ ทอ.จะพิจารณาเลือกเครื่องบินแบบ? ยุคที? นั้นคือความจำเป็นและความต้องการในภาระกิจที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละกองบิน เช่นกองบิน21(กองบินบ้านเกิด)ที่แน่ๆเหลือเวลาอีกไม่นานก็ต้อง ซายโญนาระ แล้ว นิละครับต้องคิดให้หนักแล้วว่าจะทำอย่างไร(อันนี้ทาง ทอ.คิดไว้นานแล้ว)เพื่ออุดช่องว่าง ในส่วนตัวผมต่อให้เป็นเครื่องบินยุคที่ 4.5++ ก็น่าจะพอสำหรับสถานการณ์แบบนี้ครับ โดยผมเน้นไปที่ของเก่าเจ้าเดิมที่เราพึ่งไปถอยมาอย่างน้อยมันน่าจะง่ายที่สุดและเร็วที่สุดเพราะเราจะได้ต่อเนื่องในโครงการอื่นๆ และยังจะสามารถขอเข้าร่วมกับเขาในการพัฒนา ถึงแม่เราจะไม่สามารถสร้างได้แต่เราได้รู้เทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น เมื่อเราได้มาตามความต้องการและภาระกิจที่ต้องรับผิดชอบแล้ว ที่นี้เราก็มาว่าต่อด้วยเครื่องยุคที่ 5 ถึงตอนนั้นราคาคงจะถูกลง(แต่ก็ไม่ต่ำกว่า 100ล้าน$)และอาจมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นหรือเราอาจจะได้เครื่องบินยุคที่ 5+ ก็ได้ ส่วนเพื่อบ้านทางใต้เราก็ให้เขามีไปก่อนก็ได้เพราะเขารวยและเขายังมีปัญหากับพี่บิ๊กอีก อย่างไรก็อาเวียนด้วยกันคงไม่ตาเขียวใส่กันหรอกถ้าไม้กวนเท้าเกินไป(แรงไปไหมนิ55+)

เอาแค่นี้ครับคิดไม่ออกแล้ว

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 15/12/2011 08:03:30


ความคิดเห็นที่ 14


H-92 ปะทะ UH-60(70) ค่ายเดียวกันปะทะค่ายเดียวกัน ดูจากสถานการณ์รอบตัวแล้ว คงจะยืดอายุการใช้งาน UH-1H ต่อไปจนกว่าของจะหมด รึผมมองโลกในแง่ร้ายเกินไปนะ เพราะต้องคงกำลังรบหลักของกองทัพอากาศให้สมดุลย์ไว้ก่อน(เครื่องบินรบ)

โดยคุณ Xmode เมื่อวันที่ 15/12/2011 10:15:45


ความคิดเห็นที่ 15


ท่าได้ จิงๆ ขอ F35 สัก2 ฝูงก็พอ ท่าแพง เกิน  ที่ เหลือก็ FS2020 + gripen 

โดยคุณ cananac11 เมื่อวันที่ 15/12/2011 12:38:28


ความคิดเห็นที่ 16


F35 นั้นแพงจริงครับแพงจนน่ากลัว ส่วนFS2020 ของสวีเดนนั้นไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร งั้นหวยออกกริพเพนทั้งฝูง102กับ211 เลย555+
โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 17/12/2011 04:38:12


ความคิดเห็นที่ 17


ผมว่าบ.ไอพ่นจองผ้าป่าสวีเดนต่อดีกว่า แจก แถม ถ่ายทอด ทุนเรียนอีก เห็นอาวุธหลายๆอย่างของไวกิ้งผมว่าก็ okนะครับ บ.ปีกหมุนผมว่าดูเจ้าอื่นบ้างก็ดีนะครับ(นึกไม่ออกว่าจะซื้อใครเหมือนกัน)เหยี่ยวดำเหยี่ยวกลางคืนแพงได้ใจจริงๆ(ใจผมนะเห็นเบลรุ่นวีนอม ที่นาวิกพี่กันปรับปรุงจากรุ่นเก่าก็หน้าตาดีแต่ผมไม่รู้รายละเอียดเลยครับ) หรือเกาหลีใต้ก็หน้าสนนะ หรือใจเย็นรอซามูไรแก้กฎหมายเสร็จก่อน(ขอโทษเพื่อนสมาชิกท่านอื่น ผมว่า ฮ.ของโปแลนท์หน้าตาเหมือนปลากด แต่ปลากดแดดเดียวทอดผมชอบกินอร่อยดีครับ)

โดยคุณ jeab2511 เมื่อวันที่ 17/12/2011 10:26:49


ความคิดเห็นที่ 18


มองข้างเหมือนฮ. พูม่า ขนาดย่อส่วน 

55+ส่วนท่านข้างบนปลากดแดดเดียวนี่ต้องตัดหัวด้วยไหมครับ...เพราะปลาพวกนี้หัวมันแข็งโดยฉะเพาะพวกตัวใหญ่ๆ55+

ทาง TFC น่าจะจัดทริปไปเที่ยวนะครับ...แบบเที่ยวตกปลาที่อ่างเก็บน้ำแก่งกระจานประมาณนี้

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 17/12/2011 22:01:14


ความคิดเห็นที่ 19


ผมมีประเด็นที่อยากจะพูดถึงครับ คือ บ. รบมัลคิโรว์ นับวันราคาก็ยิ่งแพงขึ้น เทคโนโลยีสูงขึ้น การจัดหายากขึ้น

ด้วยปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศและเศรษฐกิจของประเทศ จำนวนจัดหาก็น้อยลงเรื่อยๆ ทอ. ต้องใช้งบประมาณ

เป็นจำนวนมากจนกระทบกับการบริหารจัดการด้านอื่นๆ ของ ทอ. เช่น สวัสดิการของกำลังพล และการจปรับปรุง

กำลังรบด้านอื่นๆ

 

คำถามคือ เราจะต้องวิ่งตามเทคโนโลยีไปอีกนานขนาดไหน ตอนนี้เราตั้งเป้าเป็นกองทัพอากาศดิจิตอล เรามีฝูง

บ. รบมัลติโรล์ ยุค 4.5 แล้ว และเรากำลังมองไปที่ บ. รบ ยุคที่ 5 เอฟ-35 และหมายมั่นว่าจะต้องมีให้ได้ภายใน

สิบห้าถึงยี่สิบปีข้างหน้า ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้งบประมาณอีกมหาศาลและกับจำนวนที่น้อยลง ไม่ทราบว่า 1 ฝูง

ของ เอฟ-35 ของเรา จะมีจำนวนเท่าไหร่ และจะได้ทั้งหมดกี่ฝูง

 

ส่วนตัวมีความคิดว่า เพื่อให้ดำรงไว้ซึ่งความพร้อมรบ รับมือได้กับภัยคุกคามรอบบ้านทุกทิศทางในอนาคต ทอ.

ควรจัดหา บ. รบมัลติโรล์ ขั้นเทพ เอาไว้ที่โคราชจำนวน 1 ฝูงเต็ม 18-25 ลำ จะเป็น บ. แบบใดก็แล้วแต่

เช่น ที-50 ของรัสเซีย ( อันนี้เชียร์ส่วนตัว ) ออฟชั่นครบ อาวุธเพียบ ที่เหลืออีก 4 ฝูง กลับสู่สามัญครับ

ไม่ต้องเทพแต่เอาอยู่ เช่น กริเป้น+อีรีอายส์ หรือ เอฟ-16 เอ็มแอลยู ฝูงละ 16-18 ลำ จะซื้อของเก่ามา

ปรับปรุงหรือของใหม่ก็ว่ากันไป ขออย่าให้กระทบการงบประมาณของ ทอ. จนเกินตัวไปก็พอ มองว่าฝูงบิน

ขับไล่อาจต้องให้เหลือแค่สามด้วยซ้ำ คือที่โคราช ตาคลี แล้วก็สุราษฎร์ฯ ส่วนที่เชียงใหม่ อุดรฯ อุบลฯ ก็ให้

เป็นฐานของฝูงลาดตระเวณโจมตีเบาไป ใช้เครื่องเทอร์โบพร๊อพดีๆ อย่างซูเปอร์ทูคาโน หรือ บ. ที่ ทอ.

พัฒนาขึ้นมาใช้เองในอนาคตก็พอครับ

 

และหลังจากหมดยุคของ บ. รบ ยุค 4.5-5 แล้ว ทอ. จะเดินไปทางไหน ?

 

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 17/12/2011 23:42:46


ความคิดเห็นที่ 20


ถ้ามองอย่างที่ ท่านพี่เสือใหญ่ ว่าถ้าไม่อยากให้กระทบต่อระบบสวัสดิการทางกำลังพลแนวทางที่ว่าก้น่าจะเป็นไปได้ที่ทีการลดจำนวนฝูงบินขับใล่ให้เหลือ 3 ฝูง แต่จำนวนเครื่องที่ประจำการใน 3 ฝูงนั้นอย่างน้อยต้องเป็นเครื่องในยุค 4.5+ สักสองฝูงก็น่าจะโอเคครับ เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วจำนวนเครื่องที่ประจำการต้องมีการเพิ่มเป็นต่อฝูงน่าจะอยู่ที่ 24ลำ เมือ่รวม 2 ฝูงเป็น 48 ลำ แล้วเรามาพัฒนาระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางเพื่อเสริมให้กับเครื่องบินขับไล่ 2 ฝูง ส่วนอีก1ฝูงนั้นถ้าจะเป็นเครื่องบินยุคที่ 5 เมื่อเปรียบเทียบราคาระหว่าง F-35 กับ T-50 แล้วก็มีความเป็นไปได้ทั้งสอง โอเคว่าเจ้าF-35 มันเทพจริงครับแต่ถ้าเราต้องรอคิวอีก 15-20 ปีถึงตอนนั้นเราคงต้องไล่ตามอย่างเดียวและห่างออกจากเพื่อนบ้านบางประเทศขึ้นเรื่อย หรือบางท่านอาจจะบอกว่าลองดูของสวีเดนเป็นไง อย่าลืมว่ามันยังเป็นแค่โครงการยังไม่มีการสร้างเครื่องต้นแบบเลย(ยกเว้นต้นแบบ RC) แต่ถ้าอย่างที่ท่านพี่เสือใหญ่ว่าเจ้า T-50 ก็ไม่ขี้เหร่นะครับมันอาจจะเปลืองน้ำมันไปหน่อยอย่างน้อยก็น่าจะทำให้เราเพิ่มประสิทธิภาพการรบเพิ่มขึ้น ระยะทำการมากขึ้น จริงๆแล้วผมไม่ค่อยสนับสนุน F-35 เท่าไหร่ครับเพราะบางครั้งของดีเกินไปมันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้มันได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะเจ้าของมันขี้หวง อีกอย่าง T-50 ไม่ใช่ รัสเซีย ทำคนเดียวมีอินเดียซึ่งพูดง่ายๆว่าเป็นเจ้าแห่งซอฟแวย์

 จากที่ร่ายยาวมาถ้าจำเป็นต้องการลดจำนวนฝูงบินขับไล่และแปลงฝูงบินขับไล่เป็นฝูงบินโจมตีเบาก็ต้องพัฒนาระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มครับ และฝูงบินโจมตีเบาก็ต้องเป็นเครื่องบินที่เป็นเครื่องบินที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เทอร์โบแฟน น่าจะดีที่สุดครับ แนวทางนี้ก็น่าจะทำให้เราดำรงความพร้อมรบได้ดีที่สุดก็ได้ครับกับงบประมาณที่จำกัด

ท่านอื่นว่าอยางไรครับมาแชร์กันดู  ห้ามเล่นแชร์นะเดี๋ยวท้าวเบี้ยว55+

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 18/12/2011 07:28:51


ความคิดเห็นที่ 21


ผมเห็นด้วยกับ คุณเสือใหญ่กับคุณALPHA001 แต่ผมว่าลืมF-35ไปเลย(เราไม่ได้ใช้ในเวลา30ปีนี้แน่)ในเวลานั้นผมว่ามีอีกหลายโครงการน่าจะแล้วเสร็จ รวมถึงชาติอื่นๆด้วย ของรัสเซียอย่าจับเลยครับ(ส่วนตัวคิดว่าทำขายไม่ค่อยดีครับ)  ปัญหาหลักๆของ ทอ.คืองบที่จะ(จะ)ได้ในการจัดซื้อและการแก้ปัญหามากกว่าครับ (G222 ผู้ผลิตปิดบริษัท ทำไม่เราไม่ทำอะไรที่ดีกว่า จอดครับ พอดาโกต้าเปลี่ยนเครื่องปรับโครงสร้าง เห็นบินกันอยู่ใช้งานมากี่สิบปีผมยังจำไม่ได้เลย(30-40ปีแล้วมั้ง))

โดยคุณ jeab2511 เมื่อวันที่ 18/12/2011 10:33:32


ความคิดเห็นที่ 22


ต่อหน่อยครับเรื่องฝูงฝึกก่อนไปบินเครื่องบินขับไล่ ตอนนี้ใช้ L-39 แต่ไม่นานก็ต้องปลด งัันถ้าสมมุติว่าเราจะรวมกับฝูงPC9 แล้วซื้อเครื่อง PC21 แทน เคยอ่านเจอเห็นว่าสิงคโปร์ใช้ด้วย เพราะว่าะบบเหมือน บ.ขับไล่ ทัั้งกลาสค็อกพิท ยกเว้นแค่ใช้เครื่องใบพัดเท่านั้นเอง
โดยคุณ Skywalker เมื่อวันที่ 18/12/2011 19:52:54


ความคิดเห็นที่ 23


ที่ผมมองไปที่ T-50 สำหรับเป็นฝูงขั้นเทพของเรา วางไว้ที่โคราช เพราะมันเป็น บ.รบ ยุคที่ 5

ซึ่งถ้าเพื่อนบ้านรอบๆ เราจะเริ่มจัดหา บ.รบ ยุคที่ 5 มาใช้ ก็คงไม่พ้นตัวนี้แน่นอนครับ ฝูงเดียว

จบ ไม่ต้องเอแวค รัศมีทำการจากโคราชครอบคลุมทั้งประเทศ ลงทุนทีเดียว 18-25 ลำ แล้ว

ก็หวังว่าอายุเครื่องยนต์และโครงสร้างจะถูกปรับปรุงแล้วให้มีอายุการใช้งานยาวขึ้น ก่อนการซ่อม

ใหญ่แต่ละครั้ง

 

ฝูงขับไล่ที่เหลืออีก 2-4 ฝูง ก็ใช้ บ.รบ ยุคที่ 4 และ 4.5 ไป

 

ส่วนเรื่อง บผ. Lead-In ถ้าจะให้ประหยัดและลดแบบ บ. ลง แนะให้ใช้ PC-9 สำหรับ

 

1. ฝึกศิษย์การบินขั้นมัธยม 

2. เป็น บข.ฝ. Lead-In โดยม๊อดเป็นกลาสคอกพิท สำหรับเพื่อไปบิน กริเป้น และ เอฟ-16

    เอ็มแอลยู ส่วนที่จะไปบิน เอฟ-5 เอฟ-16 ก็ใช้ แอล-39 แซดเอ เหมือนเดิม

3. ใช้เป็น บ. โจมตีเบา - โคลสแอร์ซัพพอร์ต แผนแบบ เอที-6

 

ตระกูลเดียวครอบคลุมสามภารกิจเลย อะไหล่บางส่วนใช้ร่วมกันได้ 

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 19/12/2011 05:02:24


ความคิดเห็นที่ 24


 

ถ้าสมมุติว่าแนวความคิดของท่านพี่ เสือใหญ่ เกิดเป็นจริงขึ้นมาและมีการนำไปใช้จริง สิ่งที่ผมอยากเห็นคือน่าจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างเครื่องบินเครื่องยนต์เทอร์โบพร็อพ และเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน คือจัดหาเครื่องเครื่องบินใบพัดจำนวนหนึ่งและจัดหาเครื่องบินไอพ่นอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อดำรงค์ขีดความสามารถทางด้านการรบความรวดเร็วและการเอาตัวรอดในสนามรบของเครื่องบินแต่ละแบบ

อย่างที่ตอนนี้ทางอเมริกาได้เลือกเครื่องบินในโครงการ LAAR เรียบร้อยและกำลังทดสอบการติดตั้งอาวุธ เช่น ระเบิด GBU-12 เพฟเวย์ 2 และ GBU-58 และทดสอบการวางกำลัง โดยเลือกแบบแผนของเครื่อง T-6 Texan2 เหนือคู่แข่งหลายรายด้วยเหตุผลทารงด้านการส่งกำลังบำรุงและความคุ้นเคย ส่วนคู่แข่งที่ไม่ได้รับเลือกอีก2รายกลับได้รับการสั่งซื้อจากกองทัพต่างประเทศคือ AT-802 กองทัพอากาศ UAE สั่งซื้อ 10 ลำ และAC-208 เซสน่าครารวาล ทอ.อิรัค 3เครื่อง และ เลบานอน 1 เครื่อง

และถ้าแนวความคิดนี้เกิดขึ้นจริง(อีกละ55+)ก็มีเครื่องที่คิดว่าน่าสนใจไม่แพ้เครื่องบินแบบอื่นคือ เอาแบบเทอร์โบแฟนก่อน คือ YAK-130( ถ้าเราจะเอาT-50 PAK-PA มาเป็นเครื่องบินขั้นเทพของเรา)ก็ต้องใช้เครื่องบินที่มีถิ่นกำเนิดเหมือนกัน และสมรรถนะก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเครื่องบินแบบอื่น ทั้งน้ำหนักบรรทุกและความเร็วความคล่องตัว อีกอย่างราคาน่าจะเป็นที่น่าสนใจครับ(หรือบางท่านมองไปที่ L-15 ของจีน) ต่อมาก็เครื่องเทอร์โบพร็อพ แน่นอนหลายท่านก็ชอบ เจ้า นกแก้วแห่งบราซิล(ซุปเปอร์ทูคาโน) แต่ก็มีเครื่องอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยครับคือ เครื่องบิน AHRLAC บางท่านอาจเคยได้ยินหรือไม่เคยได้ยิน มันเป็นเครื่องบินที่พัฒนาโดยบริษัท Aerosud ของแอฟริกาใต้ แผนแบบคล้ายเครื่องบินตรวจการแบบ O-2 คือเครื่องบนต์อยู่ด้านหลัง ลำตังทรงกระเปาะ ซึ่งอยู่ระหวางการพัฒนาและมีกำหนดที่จะเข้าสายการผลิตคือต้นปี 2556 และราคาน่าจะต่ำกว่า 10 ล้าน$ ถ้าเทียบกับตัวอื่นที่ 12-15 ล้าน$ ผมว่าทาง ทอ. ทร. และทบ. น่าจะลองศึกษาเครื่องแบบนี้ดูครับน่าสนใจดีครับ หรือเราอาจขอเข้าร่วมพัฒนากับเขาได้ และมองในด้านที่เรามีเครื่องบินขับไล่แบบเดียวกัน ที่สำคัญคือมันใช้เครื่องยนต์ของ แพรท&วิทนีย์ ที่เราคุ้นเคย และทางบริษัทเขายังบอกว่ามันสามารถสู้รบแบบ BVR ได้ด้วย มีตำบลติดอาวุธใต้ปีก 6 แห่ง(ผมมองเห็นแค่ 4 แห่ง อีกสองน่าจะใต้ลำตัว) ติดตั้งปืน 20 mm. ผมว่าเอามาล่ารถถังแทน ฮ.ได้เลยครับ

มองไปมองมาเครื่องบินใบพัดที่หลายคนมองว่าเป็นสิ่งที่ล้าสมัยไปแล้วกลับกำลังเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพราะว่าสงครามมันเกิดขึ้นในวงจำกัด และเป็นการก่อการร้ายมากขึ้นการที่จะใช้เครื่องบินที่สมรรถนะสูงมากๆไปทำภารกิจมันก็สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

เป็นแนวความคิดน่าสนใจครับ

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 19/12/2011 22:15:09