หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ย้อนรำลึกสมรภูมิบ้านร่มเกล้า ค้นหาข้อมูลได้ยากจริงๆ รบกวนผู้ที่มีข้อมูลหรือเคยไปรบตอบด้วยนะครับ คนรุ่นหลังหลายคนอยากรู้มาก

โดยคุณ : Athit เมื่อวันที่ : 14/12/2011 17:49:42

      ผ่านมาเกือบ 24 ปี แล้ว ตอนนั้น เดือน กุมภาพันธ์ 2531 ผมยังเรียนอยู่ชั้น อนุบาล 2 อยู่เลย ไม่รู้เรื่องอะไร พอโตมาเรียน นศท. ได้ยินแต่ครูฝึกเล่าให้ฟัง แต่ก็เล่าไม่หมดเหมือนกั๊กเอาไว้ พวกผมกับเพื่อนๆ ก็อยากรู้ เลยต้องมาค้นหาในเน็ต แต่ก็ได้ข้อมูลมาบางส่วน สมรภูมิบ้านร่มเกล้าทหารที่ไปรบเขาบอกว่าไม่ได้แพ้ลาวเพราะสามารถบีบให้ลาวยอมเจรจาได้ แต่ในสายตาของประชาชนคนไทยในขณะนั้นมองว่าทหารไทยเรารบแพ้ลาว ก็เลยอยากทรายที่มาที่ไปของสงครามนี้ โดยเฉพาะการบุกเข้ายึดเนิน 1428 ของทหารไทย เพราะค้นในเน็ตทราบว่าทหารไทยของเราเสียชีวิตไปถึง 147 นาย การปฏิบัติการทางอากาศที่ผิดพลาด วานผู้ที่มีข้อมูลมาแชร์ด้วยนะครับ จะได้เป็นความรู้แก่คนรุ่นหลังต่อไป ขอบคุณครับ (ผ่านมาตั้ง 24 ปี ข้อมูลคงไม่เก็บเป็นความลับนะครับ น่าจะเปิดเผยได้) แล้วตอนนี้เนิน 1428 ดังกล่าว เป็นของไทยหรือของลาว

เนิน 1428 ในปัจุจุบันมองจากประเทศไทย





ความคิดเห็นที่ 1


ไม่แน่ใจว่าท่านจขกท.ได้อ่านในวิกิรึยัง ถ้าอ่านแล้วก็ขออภัยครับ ปล.วิกิใครก็เขียนได้ ถ้าเจอต้องการอ้างอิงนี่ ฟังหูไว้หูก่อนนะครับ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2

ภาพเป็น เนิน 1428 อดีตสมรภูมิรบอันดุเดือดในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า มองจากอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

สมรภูมิบ้านร่มเกล้า
Naun 1428.jpg
เนิน 1428 อดีตสมรภูมิรบอันดุเดือดในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า มองจากอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
วันที่ 1-19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531
สถานที่ Flag of Thailand.svg บ้านร่มเกล้า อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก,

Flag of Laos.svg เมืองบ่อแตน แขวงไซยะบูลี

ผลลัพธ์  
ดินแดน
เปลื่ยน
ไม่มี
คู่สงคราม
Flag of Thailand.svg ไทย Flag of Laos.svg ลาว

Flag of Vietnam.svg เวียดนาม

ผู้บัญชาการ
ชวลิต ยงใจยุทธ ไกสอน พมวิหาร
ความสูญเสีย
   
ความสูญเสีย ~1,000 นาย[1]
หมายเหตุ: จุดเริ่มต้นของการรบคือการส่งกำลังเข้ายึดเนิน 1428 ของฝ่ายลาวในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2530[ต้องการอ้างอิง]

สมรภูมิบ้านร่มเกล้า หรือ ยุทธการบ้านร่มเกล้า[2] เป็นการรบระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว ณ บริเวณบ้านร่มเกล้า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 จากการสู้รบอย่างหนักต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมากทั้งฝ่ายไทยและลาว และนับเป็นการสูญเสียชีวิตทหารมากที่สุดในการรบของไทยเท่าที่เคยมีมา[ต้องการอ้างอิง]

 การรบสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 หลังจากฝ่ายไทยได้ใช้กองทัพอากาศโจมตีเข้าไปในดินแดนลาว 30-40 กิโลเมตร และฝ่ายลาวโดยนายไกสอน พมวิหาร นายกรัฐมนตรี ได้เจรจาขอหยุดยิงเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 และเสนอให้ถอนกำลังของทั้งสองฝ่ายออกจากกันเป็นระยะ 3 กิโลเมตร

เนื้อหา

 [ซ่อน

 

สาเหตุ

สมรภูมิบ้านร่มเกล้าเกิดจากกรณีพิพาทด้านพรมแดนระหว่างไทยกับลาว เนื่องจากยึดถือพรมแดนจากแผนที่คนละฉบับ โดยในปี พ.ศ. 2450 สนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ยึดถือจากผลการสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2430 ได้กำหนดให้แม่น้ำเหืองเป็นเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศส ต่อมาในปี พ.ศ. 2451 เจ้าหน้าที่สำรวจแผนที่ของฝรั่งเศสได้พบว่าแม่น้ำเหืองมีสองสาย[3] จึงได้เขียนแผนที่โดยยึดสายน้ำที่ทำให้ฝรั่งเศสได้ดินแดนมากกว่าเดิม และไม่ได้แจ้งให้รัฐบาลสยามทราบ ต่อมาในช่วงสงครามเวียดนาม กองทัพสหรัฐได้จัดทำแผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศ และได้พบแม่น้ำอีกสายหนึ่ง ชื่อว่า ลำน้ำเหืองป่าหมัน [3] ซึ่งไม่เคยปรากฏในเอกสารสนธิสัญญาระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส มาก่อน

ในปี พ.ศ. 2530 ทางการลาวได้อ้างสิทธิเหนือดินแดนบริเวณบ้านร่มเกล้า และยกกำลังเข้ามายึดพื้นที่บ้านร่มเกล้า ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และเกิดปะทะกับกองกำลังทหารพราน 3405 ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 และยึดเนิน 1428 เป็นที่มั่น[ต้องการอ้างอิง]

 

ยุทธการสอยดาว

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 กองทัพภาคที่ 3 เริ่มส่งกำลังเข้าโจมตีเนิน 1428 โดยใช้กองกำลังทหารราบและทหารม้า โดยการสนับสนุนจากกองทัพอากาศไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากฝ่ายลาวมีชัยภูมิที่ดีกว่า และได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆ จากสหภาพโซเวียตและเวียดนาม[ต้องการอ้างอิง]

 

ยุทธการบ้านร่มเกล้า

จากคำบอกเล่าของทหารที่อยู่แนวหน้า[ต้องการอ้างอิง] ระบุว่าทหารไทยในสมรภูมิบ้านร่มเกล้าต้องรบกับข้าศึกที่มียุทธภูมิดีกว่า มีอำนาจการยิงสนับสนุนต่อเนื่องและรุนแรง ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะแนวกับระเบิด ทหารหลายนายซึ่งผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน กล่าวว่า เป็นการรบที่หนักที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมาในชีวิตการเป็นทหาร[ต้องการอ้างอิง] โดยเฉพาะบริเวณเนิน 1182, 1370, และ 1428

ยุทธการบ้านร่มเกล้า ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 เมื่อ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ผู้บัญชาการทหารบก (ในขณะนั้น) ประกาศจะผลักดันกองกำลังต่างชาติที่เข้ามายึดครองพื้นที่ในเขตไทยทุกรูปแบบด้วยการใช้กำลังทหาร จึงทำให้เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดทหารไทยทั้ง ทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ และทหารพราน ได้รุกตอบโต้ยึดที่มั่นต่างๆ ที่ลาวครองไว้กลับมาได้เป็นส่วนมาก รวมทั้งได้ทำการโอบล้อมบริเวณตีนเนิน 1428 ไว้ได้ แต่ไม่สามารถบุกขึ้นไปถึงยอดเนินซึ่งทหารลาวใช้เป็นฐานต่อต้านได้ ถึงแม้จะใช้กำลังทางอากาศบินโจมตีทิ้งระเบิดอย่างหนักก็ตาม จนทำให้กองทัพอากาศไทยสูญเสียเครื่องบิน เอฟ 5 อี และ โอวี 10 ไปอย่างละ 1 เครื่อง ซึ่งถูกยิงตกด้วยปืนต่อต้านอากาศยาน และจรวดแซม[ต้องการอ้างอิง]

หลังจากที่ทหารลาวสูญเสียที่มั่นต่างๆ ได้รวบรวมกำลังพลเข้ารักษาเนิน 1428 ไว้อย่างเหนียวแน่นโดยมีกำลังรบและกำลังสนับสนุนดังนี้คือ กองพลที่ 1 จำนวน 4 กองพัน พร้อมอาวุธหนักปืนใหญ่ 130 มม. 3 กระบอก ปืน 105 มม. 3 กระบอก รถถังอีก 4 คัน รวมกำลังพล 372 นาย[ต้องการอ้างอิง]

กองพลที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่หลวงพระบาง จำนวน 4 กองพัน เช่นกัน มีกำลังพลกว่า 418 คน สนับสนุนด้วยปืนใหญ่ 130 มม. 3 กระบอก ปืนใหญ่ 105 มม. 3 กระบอก รถถัง 5 คัน ปืน ค. ขนาด 62 และ 82 มม. รวมทั้ง ปตอ. ด้วย นอกจากนี้กองกำลังหลักซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ ไชยบุรี มีปืนใหญ่ 130 มม. 2 กระบอก ปืนใหญ่ขนาด 122 มม. อีก 3 กระบอกรวมทั้งหน่วยจรวดต่อสู้อากาศยานแบบแซม 7[ต้องการอ้างอิง]

ในระยะแรกของการรบนั้น ทหารไทยใช้ทหารม้าและทหารพรานรุกคืบหน้าเข้าสู่บริเวณเนิน 1428 ซึ่งพบกับการต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายลาวอย่างคาดไม่ถึงโดยเฉพาะกับระเบิดและการยิงปืนใหญ่จากลาวอย่างหนาแน่นและต่อเนื่อง ทำให้การรุกคืบหน้าเป็นไปได้ช้าและสูญเสียอย่างมาก ด้วยมีความเสียเปรียบหลายประการ ในขั้นแรกทหารไทยมีความคิดที่จะผลักดันทหารลาวออกจากดินแดนไทยเท่านั้น การรบจึงจำกัดเขตอยู่แต่ในประเทศไทย[ต้องการอ้างอิง] แต่หลังพบว่าการรบในช่วงแรกไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย คณะนายทหารจึงปรับแผนการรบใหม่ โดยใช้กำลังปืนใหญ่ระยะยิงไกลแบบ เอ็ม 198 และปืนใหญ่แบบต่าง ๆ ระดมยิงเข้าไปในดินแดนลาว ที่หมายคือการยิงฐานปืนใหญ่และที่ตั้งกำลังทหาร พร้อมทั้งส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปตัดการส่งกำลังสนับสนุนของฝ่ายลาว จนกระทั่งการสนับสนุนการรบของลาวได้ลดประสิทธิภาพลงไปอย่างมาก[ต้องการอ้างอิง] วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ก็ได้มีการเจรจายุติศึกแยกกำลังของทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกันฝ่ายละ 3 กิโลเมตร[ต้องการอ้างอิง]

 

ข้อสังเกตจากการรบ

  • การรบครั้งนี้ผิดกับการรบเท่าที่ทหารไทยได้เคยผ่านมา ทำให้ต้องระดมกำลังทหารหน่วยต่างๆ เข้าสู่ยุทธบริเวณจำนวนมาก ทั้งจากเหล่าม้า เหล่าราบ เหล่าปืนใหญ่ เหล่าทหารช่างหน่วยรบพิเศษ รวมทั้งการรบนอกแบบที่ต้องใช้ทหารพรานเข้าเกาะฐานที่มั่นของฝ่ายลาวด้วย
  • การส่งกำลังบำรุงของทหารไทยเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเส้นทาง สภาพถนนที่ค่อนข้างแคบและขรุขระ อีกทั้งเป็นทางสูงชันคดเคี้ยว ลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่ค่อนข้างสูงไม่ต่ำกว่า 1000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
  • สาเหตุที่ทหารลาวได้ยึดเนิน 1428 ชนิดหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมถอย เท่าที่ดูจากภูมิประเทศแล้ว เนิน 1428 เป็นเนินบนยอดเขาที่สูงที่สุด สามารถมองเห็นชัยภูมิรอบๆ ได้เป็นอย่างดี และ ผตน. ของลาวจะคอยชี้เป้าให้ปืนใหญ่ยิงถล่มทหารไทยที่กำลังรุกคืบหน้าอยู่เบื้องล่างอย่างได้ผล และที่สำคัญคือ เนิน 1428 นั้นทหารลาวได้ทำบังเกอร์ถาวร (คอนกรีตเสริมเหล็ก) ขุดอุโมงเชื่อมต่อกับรอบฐาน ปรับพื้นที่ ขุดร่องเหลดไว้พร้อมสรรพ เป็นฐานที่มั่นแข็งแรง สามารถทนทานการโจมตีทางอากาศได้อย่างดี อีกทั้งมีการวางกับระเบิด
  • การประเมินค่าขีดความสามารถในการรบของทหารลาว ซึ่งได้รับการฝึกจากเวียตนาม มีสหภาพโซเวียตสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง[ต้องการอ้างอิง] โดยเฉพาะทหารปืนใหญ่ และหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งต้องใช้ฝีมือและเทคโนโลยีเข้าช่วย จึงจะปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การใช้สุนัขสงคราม ตรวจหาทุ่นระเบิด นับว่าเป็นวิธีที่ประหยัดและได้ผลดีที่สุด[ต้องการอ้างอิง] แต่เมื่อถึงสนามรบจริง สุนัขบางตัวกลับเดินหนีสงสัยจะเวียนหัวกลิ่นกำมะถัน จากที่ ทหารลาววางเอาไว้ ทหารไทยจึงช่วยตนเองเอาไม้ไผ่มาทำเครื่องค้นหากับระเบิดไปพลาง ๆ ก่อน เพราะเครื่องตรวจทุ่นระเบิดมีจำนวนจำกัด[ต้องการอ้างอิง]

 

ผลที่ตามมา

ประเทศไทยและประเทศลาวร่วมกันจัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว (JBC) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539[4] เพื่อปักปันพรมแดนซึ่งมีความยาว 1,810 กิโลเมตร ทั้งสองประเทศยังวางแผนที่จะเสร็จสิ้นการปันเขตแม่น้ำโขงซึ่งมีความยาว 1,100 กิโลเมตร ภายในปี พ.ศ. 2553 โดยร้อยละ 96.3 เสร็จสิ้น ระหว่างปี พ.ศ. 2546-2550[5]

 


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 13/12/2011 12:11:17


ความคิดเห็นที่ 2


    อีกอย่างหนึ่งนะครับ ตอนนั้น พี่ชายพาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ไปซื้อของในตลาด แล้วเจ้าของร้านแกเปิดทีวี ช่อง 7 นี้แหละผมจำได้ เห็นภาพทหารไทยนายหนึ่งขาขาดทั้งสองข้างเลย นอนมาในเปล หน้าตาซีดมากๆ พร้อมกับส่งเสียงร้อง สงสัยถ้าจะเหยียบทุ่นระเบิดตอนเข้าตีเนิน 1428 นี้แหละ ยังจำได้ติดตาอยู่เลยภาพนี้

โดยคุณ Athit เมื่อวันที่ 12/12/2011 21:40:50


ความคิดเห็นที่ 3


  เท่าที่จำได้เราเสียF-5ไปหนึ่งลำและกำลังพลพร้อมทั้งยุทโธปกรณ์ไปมากมายรวมทั้งงบประมาณจำนวนมาก ในตอนแรกยุทธวิธีของเราผิดพลาดจึงเกิดการสูญเสียมากหลังจากได้บทเรียนแล้วเราปรับยุทธวิธีใหม่ที่สำคัญคือส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปรบกวนแนวหลังของข้าศึกตัดการส่งกำลังบำรุงจนกระทั่งข้าศึกต้องยอมเจรจาสงบศึก ทหารที่ทำการรบกับเราคือทหารลาวแต่ฝ่ายอำนวยการรบเป็นทหารเวียดนาม,คิวบาและอาจจะมีโซเวียตด้วยจึงทำให้เราเสียหายมาก ถ้าข้อมูลนี้ผิดพลาดก็ขอให้ผู้รู้จริงช่วยแก้ไขด้วยครับ

โดยคุณ oldman เมื่อวันที่ 12/12/2011 22:28:31


ความคิดเห็นที่ 4


ตอบ อย่างมั่นใจ  เราไม่แพ้ครับ เราชนะ

สมรภูมินี้ เป็นอดีตอันแสนรันทด ที่ทหารรุ่นนั้นต้องจดจำ (ยี่สิบสี่ปีที่แล้วผมยังเป็นร้อยโทหนุ่มๆ)

 เป็นบทเรียนราคาแพง สำหรับการรบร่วม และการประสานการปฏิบัติในแนวหน้า/ขอบหน้าที่มั่น 

เป็นภารกิจท่ี่น่าภูมิใจ ของ รพศ.

และเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่ทหารรุ่นใหม่ ควรศึกษา

 

โดยคุณ ฟ้าฟื้น เมื่อวันที่ 12/12/2011 23:10:11


ความคิดเห็นที่ 5


    ยอดความสูญเสียของทหารไทย 147 นาย นี้ เป็นยอดที่จริงหรือเปล่าครับ(เอามาจากในเน็ต) หรือว่ามากกว่านี้ วานผู้รู้ด้วยนะครับ หัวข้อนี้หวังว่าคงจะไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ไทย กับ ลาว ในปัจจุบันนะครับ

โดยคุณ Athit เมื่อวันที่ 12/12/2011 23:12:16


ความคิดเห็นที่ 6


ไม่เคยไป ไม่เคยเห็น เกิดไม่ทัน แต่ได้ยินเขาเล่าให้ฟังว่า สูญเสียยกกองพัน

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 13/12/2011 00:04:22


ความคิดเห็นที่ 7


เรืองของเรือ่งเลยคือ มันก็เหมือนกับกรณีเขาพระวิหารแหละครับ คิอถือแผนที่คนละฉบับกัน ตอนฝรั่งเศสเจ้าเล่ห์หมาล่าดินแดนมาสำรวจเพื่อจัดทำแผนที่สยาม-ฝรั่งเศส ได้เขียนจุดแบ่งเขตระหว่างไทย กับ ฝรั่งเศสไว้ว่าให้ใช้ลำน้ำเหือง เป็นจุดผ่านแดนในทีแรก แต่พอไปสำรวจอีกครั้ง กลับพบว่า ลำน้ำเหืองนั้นแบ่งเป็นสองสาย จึงแก้ไขโดยเอาลำน้ำเหืองที่กินดินแดนไทยมากที่สุดเป็นเส้นอาณาเขต ซึ่งตอนแก้ไขนี้ไม่ได้แจ้งต่อไทย พอหลังจากฝรั่งเศสถอนตัวไปแล้ว ลาวก็ยังใช้แผนที่ของฝรั่งเศสที่ทำกับสยามเหมือนเดิม เหมือกันกับที่เขมรถือแผนที่ของฝรั่งเศสแหละครับ จึงเป็นเหตุให้เกิดการแย่งชิงพื้นที่ที่เรียกว่า บ้านร่มเกล้า อำเภอชาติตระการ จังหวัด พิษุณุโลกขึ้นมา เพราะเมื่อดูแผนที่ของลาว ที่ฝรั่งเศสทำนั้น บ้านร่มเกล้า อยู๋ในอาณาเขตของลาว แต่ถ้ายึดตามแผนที่ของไทย คือยึดลำน้ำเหืองสายใหญ่ บ้านร่มเกล้าอยู่ในเขตไทย เมื่อถามชาวบ้านว่าเป็นคนไทยหรือคนลาว คนพวกนั้นตอบอย่างเสียงดังว่า เป็งคงทาย ชื่อหมู่บ้านก็ภาษาไทย พูดไทย เขียนไทย แล้วจะเป็นคนลาวได้เช่นไร?

เมื่อฝ่ายลาวได้อ้างว่าพื้นที่บ้านร่มเกล้าเป็นของลาว พร้อมทั้งได้เรียกร้องให้ทหารไทยถอนฐานทหารออกไปจากพื้นที่พิพาท แต่ทหารไทยไม่ยอมถอย อีกเล่มนึงเขียนโดยทหารม้า บอกว่าทหารไทยถอนออกมาจากฐานแล้วแต่ทหารลาวกลับเข้าไปยึดฐานแทน  ทำให้เกิดการรบกันขึ้นโดยทหารลาวยึดเนินทั้งสามลูก ที่ติดชายแดนไทยลาวไว้ทั้งหมด ลูกที่ยึดยากที่สุดคือเนิน 1428 คือเป็นเนินที่เรียกว่ามีความสูงชันอย่างมาก และบริเวณจุดบนสุดเป็นที่ตั้งฐานแข็งแรง ชนิดคูเรตเสริมคอนกรีตอย่างดี มีปืนใหญ่ขนาด 105 ม.ม.ตั้งอยู่บนฐาน บนยอดเนินพร้อม ถ้าทหารไทยบุกขึ้นมาทหารลาวก็จะใช้ปืนใหญ่ทั้ง บนฐาน 1428 และ ปืนใหญ่ 130 มม ในเขตแดนลาวระดมยิงใส่ทหารไทย พูดไปคงจะไม่เห็นภาพว่าภมิประเทศที่ทหารไทยต้องเจอ และความสูงชันของเนิน 1428 ขนาดไหน ทหารไทยบอกว่า ทหารลาวไม่ต้องยิงมาหรอก แค่ถือหินคนละก้อน เควี้ยงใส่ทหารไทยทหารไทยก็ตายหัวร้างข้างแตกหมดแล้ว คือมันเกือบ หรือ มากกว่า 45 องศาน่ะครับ ไม่ต้องรบหรอกครับแค่ปืนอย่างเดียวก็เหนื่อยแทบตายแล้ว แถมฝ่ายลาวยังใช้ปืนใหญ่ จรวดลูกยาว อาพีจี ยิงใส่หัวกระบานฝ่ายเราอีก เราจะยิงตอบโต้ก็ลำบากคงยิงได้แต่ M79 และบริเวณ เนิน1428 ส่วนใหญ่จะเป็นป่าไผ่ทำให้ทุกครั้งที่ข้าศึกเข้าโจมตีทหารฝ่ายเรา เราไม่สามารถมองเห็นข้าศึกเพราะว่าด้วยความสูง บวกกับป่าไผ่ ทำให้มองแทบไม่เห็นข้าศึก เรียกได้ว่า ต้องยิงสุ่มเอาตรงที่คิดว่าข้าศึกอยู่ ลำบากมากครับ และตามโคนต้นไม้อย่าได้คิดเข้าไปแอบครับ เพราะข้าศึกจะวางกับระเบิด เอ็มสะตอ หรือปิ่นโต ไว้ เรียกไว้ว่าตั้งแต่ตีนเขา จนถึงรอบฐานของทหารลาว ทหารลาวได้วาง เอ็มสตอ กับปิ่นโตไว้เพียบครับ เป็นพันเป็นหมื่นลูก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าทหารไทยจะขาขาด เพราะฝ่ายลาวได้วางกับระเบิดไว้เยอะมากครับ ส่วนใหญ่ทหารไทย หรือทหารพรานจากกรมทหารพราน 26 จะเหยียบ เอ็มสตอร์ มากกว่า ปิ่นโต ครับ

ต้องชมว่าฝ่ายลาวนั้น ผตน หรือ ผู้ตรวจการณ์หน้าเค้าดีจริงๆครับ เราไปทางไหน อยู่ไหน เค้ารู้หมดครับและบอกพิกัดปืนใหญ่แม่นมากครับ เรียกได้ว่าแทบตกใส่หัวทหารฝั่งเราเลยทีเดียวสุดท้ายของสงคราม ฝั่งเราตอนแรกยึดนโยบายไม่อยากรุกรานเพื่อนบ้าน คือเราเน้นขับไล่ข้าศึกให้ออกไปจากดินแดนฝ่ายเราอย่างเดียว แต่พอเริ่มเห็นความสูญเสียของฝ่ายเราแล้ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ผบ.ทบ.ในสมัยนั้นจึงปรีกษาเสธ ทบ.ทั้งหลายว่าควรจะเร่งเผด็จศึกครั้งนี้โดยเร็วเพื่อลดอัตราสูญเสียของฝ่ายเราด้วยการ ปิดการค้าขายชายแดนทุกด่านเตรียมทหารเพื่อเปิดแนวรบด้านอื่น พร้อมทั้งส่งท่านคุณหญิงพันเครือ ยงใจยุทธ ไปเจรจากับฝ่ายลาวเพราะท่านคุณหญิงพันเครือท่านเป็นคนลาว พร้อมทั้งส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีฐานปืนใหญ่ ฐานทหารลาวลึกเข้าไปในดินแดนลาว พร้อมทั้งส่ง หน่วยรบพิเศษผสมกับหน่วยทหารพรานกรมทหารพราน 26 เดินลัดเลาะตามลำน้ำเหืองเข้าไปเกาะอยู่หลังฐานทหารลาวทางด้านภูเขาฝึ่งที่ติดกับลาวเพื่อทำสงครามจรยุทธดักโจมตีกองสเบียงที่จะส่งขึ้นไปให้กับทหารลาวบนเนิน 1428 พร้อมทั้งเป็นกองตีกระหนาบทหารลาวจากด้านหลังด้วย สุดท้ายฝ่ายลาวเริ่มระส่ำระสายเพราะโดนโจมตีเข้าไปในดินแดนลาว พร้อมทั้งการที่ไทยปิดด่านชายแดนทุดด่านทำให้ประชาชนลาวไม่มีเครื่องอุปโภค บริโภค เดือดร้อนถึงขั้นปล้นสดมแย่งชิงกัน ทำให้ประชาชนลาวเดินขบวนประท้วงรัฐบาล อีกทั้งฝ่ายลาวเห็นว่าทหารไทยเตรียมเปิดสงครามทางด้านอื่นเพื่ม จึงเริ่มขอเจรจากับไทย สุดท้าย ไทยกับลาวก็เจรจากันสำเร็จ โดยทหารไทยขึ้นไปปักธงชาติไทยบนเนิน 1428ได้สำเร็จ และได้ทราบจากทหารลาวบนเนินว่า ทหารลาวก็สูญเสียมากเช่นเดียวกัน ผลการเจรจา ตกลงกันว่า ทหารไทยกับ ลาวจะต้องถอนทหารออกจากบริเวณบ้านร่มเกล้าห่างกัน 10 ก.ม.ทั้งสองฝ่าย จนถึงทุกวันนี้ครับ ก็ไม่มีการขุดคุ้ยปัญหามาพูดคุยกันให้มันเป็นอยู่อย่างนี้เ อาหูไปนาเอาตาไปไร่ ก็ไทยกับลาวก็รักกันดีครับ ส่วนเรื่องที่ทิ้งระเบิดพลาดเป้านั้น เป้นการบอกพิกัดที่ผิดและสภาพภูมิอากาศปิดทำให้เครื่องบินมองไม่เห็นเป้าหมายครับ ทำให้หน่วยทหารม้าลาลายทั้งกองร้อยครับ

สุดท้าย เราชนะๆครับ เพราะเราสามารถบีบให้ทหารลาวเจรจากได้และอีกอย่างทหารเราก็ขึ้นไปปักธงบนเนินได้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเราเป็นฝ่ายคุมเกมส์ได้ ฝ่าย่ลาวเริ่มสูญเสียจนระสับระส่าย ผมว่าถ้าไม่เจรจากันสุดท้ายทหารเราก็ชนะเด็ดขาดครับเพราะหลังๆเราคุมเกมส์ได้ทั้งหมดแล้ว และสุดท้ายเราก็ชนะครับแต่ชนะโดยวิธีเจรจาครับ เพราะเราบีบให้เค้ากลับเข้าดินแดนลาวไปทั้งหมดครับ จึงถือว่าทหารไทยเป็นฝ่ายชนะสงครามนี้ครับ ก่อนตีเนิน 1428 ได้ เนินข้างๆทั้งสองลูกที่ลาวยึดไว้นั้น เราตีคืนได้หมดแล้วนะครับ ดังนั้นหน่วยทหารลาว จึงเหลือแต่บนเนิน 1428 เท่านั้นครับ

ข้อมูลมาจากหนังสือเรื่อง 27 วันควันปืนและซากศพ สมรภูมิร่มเกล้า ของท่านผู้เขียนอดีตทหารพราน กรมทหารพราน 26 ปักธงชัยครับ ลองไปหาซื้ออ่านกันได้นะครับส่วนตัวเลขความสูญเสียไม่ทราบครับเพราะในหนังสือเขียนไว้แต่ว่าฝ่ายลาวเสียหายอย่างหนักครับ ไทยก็เช่นกันครับ

ผมหารูปทุ่นระเบิด เอ็มสตอไม่ได้ครับหาได้แต่ ปิ่นโตครับ หรือ type 72 A ตามรูปแรกเลยครับ รูปที่สองเป็นหน้าปกหนังสือครับหวังว่าคงไม่ใช่การโฆษณาครับ ส่วนรูปที่สามทหารไทยปักธงบนเนิน 1428 วันปักธง พร้อมทั้งตัดหัวทหารลาวโชว์ด้วยครับ 4 เป็นรูปมือระเบิดมือ1 ของกรมทหารพราน26 กำลังประกอบกับระเบิดชนิดลวดสะสะดุด สุดท้ายเป็นรุปทหารพรานเหยียบ เอ็มสตอร์ครับ






โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 13/12/2011 00:10:15


ความคิดเห็นที่ 8


เคยมีอดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย ที่ไปรบ เล่าว่าทหารไทยตายร้อยกว่า ถึงสองร้อย ฝ่ายลาวตายไปห้าร้อย

อันนี้จากคำบอกเล่าของทหารม้า กองร้อยทหารม้ากำลังหมอบในที่กำบังเพื่อรอเข้าตี หลังจากเครื่องบินโจมตีเป้าหมาย แต่อาจจะหมอบอยู่ใกล้เที่หมายมากเกินไปทำให้อาจทำให้ถูกรัศมีของระเบิดที่ทิ้งจากเครื่องบิน

โดยคุณ poisonremain เมื่อวันที่ 13/12/2011 01:01:51


ความคิดเห็นที่ 9


   

โดยคุณ Athit เมื่อวันที่ 13/12/2011 01:09:33


ความคิดเห็นที่ 10


   ขอบคุณมากครับ ถามเพิ่มเติมนิดหนึ่งครับเราจะเอาคลิปจาก youtube ลงในหน้ากระดานนี้ยังไงครับ พอดีเล่นไปเล่นมาเจอคลิปบ้านร่มเกล้าอยู่คลิปหนึ่ง เสียงดนตรีประกอบนี้ฟังแล้วสะเทือนอารมณ์จริงๆ

โดยคุณ Athit เมื่อวันที่ 13/12/2011 01:16:07


ความคิดเห็นที่ 11


คงจะได้อยู่มั่ง ลองดู

www.youtube.com/watch?v=FoOSTUR7GaU

โดยคุณ Athit เมื่อวันที่ 13/12/2011 01:19:42


ความคิดเห็นที่ 12


thank you crub. happy new year in advance.

โดยคุณ manas-jarupa เมื่อวันที่ 13/12/2011 01:31:06


ความคิดเห็นที่ 13


เกือบลืม........

 

ขอบคุณครับ.....

โดยคุณ jaidee เมื่อวันที่ 13/12/2011 03:58:14


ความคิดเห็นที่ 14


ขอบคุณทุกข้อความครับ รู้กระจ่างขึ้นมากครับ จะไปหาหนังสือมาอ่านดู

โดยคุณ jeab2511 เมื่อวันที่ 13/12/2011 05:13:50


ความคิดเห็นที่ 15


มีคนรวบรวมเอาไว้ให้อ่าน ตามลิงค์ข้างล่างครับ

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=14-12-2006&group=2&gblog=5

http://nirvanic.multiply.com/journal/item/4/4     <--  ใช้  Mozilla Firefox อ่าน

โดยคุณ jazz เมื่อวันที่ 13/12/2011 07:43:38


ความคิดเห็นที่ 16


   คุณ champ thai army ทุ่นระเบิดเอ็มสตอที่ทหารไทยโดนที่เนิน 1428 บ้านร่มเกล้าใช่รุ่นนี้หรือเปล่า M-14 กับ  M-14A1 ทำจากสหรัฐ กับ อินเดีย จีนทำลอกแบบเรียก MN 79


โดยคุณ Athit เมื่อวันที่ 13/12/2011 09:13:02


ความคิดเห็นที่ 17


เราเสีย F-5 ไป 1ลำ และ OV-10 อีก1ลำครับ UAV ก็โดนสอยไป 1ลำ ลาวยังไม่เอา MIG-21 ออกปฏิบัติการ แต่มีข่าวว่าเตรียมเช็คเครื่องแล้ว พอดีเจรจา่ซะก่อน ไม่งั้นเราอาจได้เห็นสนามบินวัดไต ในสภาพเรียบเป็นหน้ากลองก็ได้ครับ ป.ล.ถ้ามีใครบอกว่า F-16 เคยออกรบที่ร่มเกล้าและบรรยายเป็นฉากๆ ของการรบอย่าไปเชื่อนะครับเพราะข้อมูลนั้นมันมั่ว และช่วงนั้น F-16 3 ลำแรกยังมาไม่ถึงเมืองไทยครับ

โดยคุณ nick01 เมื่อวันที่ 13/12/2011 09:13:16


ความคิดเห็นที่ 18


โห ไม่นึกว่ารูปจะใหญ่ปานนี้ ขออภัยครับ

เอาเข้าจริงๆ ผมเกิดไม่ทันครับสมรภูมินี้ แต่เท่าที่ฟังมา (อีกแล้ว) เพือนที่เป็นรด.ได้ยินจากครูฝึก (รู้สึกจะเล่ากันหลายที่จริงๆ) ว่าทหารที่บุกขึ้นเนิน เจอกับระเบิดเยอะครับ คือเค้าสอนว่าเจอปืนใหญ่ให้หาที่กำบัง ก็เข้าไปหลบตามต้นไม้ ซึ่งลาวเค้าวางกับระเบิดไว้ครับ แล้วก็ได้ยินว่าลาวรบแบบเวียดนามครับ คือใช้ระบบอุโมงค์ใต้ดิน ขุดรูอยู่แบบเวียดกงรบกับมะกันนั้นละครับ

ปล.ที่กล่าวมาได้ยินเพื่อนเล่ามานานหลายปีมากแล้ว ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยครับ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 13/12/2011 12:16:47


ความคิดเห็นที่ 19


ลองอ่านบทความนี้ดูครับ ท่านได้เหรียญกล้าหาญในสมรภูมิร่มเกล้าด้วย

ผมชอบประโยคนี้ของท่านจริงๆ

ถึงแม้สงคราม "บ้านร่มเกล้า" จะสิ้นสุดลงไปแล้วเกือบ 20 ปี

 แต่คนจำนวนหนึ่งซึ่งมีทัศนคติไม่ดีต่ออาชีพทหารยังคงสบประมาท และดูแคลนบุคคลในเครื่องแบบด้วยการใช้คำพูดเย้ยหยันเป็นทำนองว่า  "ไทยรบแพ้ข้าศึก" ที่บ้านร่มเกล้า เกี่ยวกับเรื่องนี้พันเอกวัฒนชัยนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มจาง ๆ พร้อมกับกล่าวว่า

 "ไม่เคยมีใครมาพูดแบบนี้ใส่หน้าผมนะ แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดมีใครสักคนมาพูดจาอย่างที่ว่า ผมก็คงจะเอากำปั้นยัดปากหมอนั่นสักตูมแน่ ๆ"

 

http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538623449&Ntype=12

โดยคุณ t@nayang เมื่อวันที่ 13/12/2011 20:42:34


ความคิดเห็นที่ 20


จากรูป เนิน1428ลุกไหนครับ ลูกใกล้หรือลูกไกล

โดยคุณ poisonremain เมื่อวันที่ 13/12/2011 21:15:57


ความคิดเห็นที่ 21


ที่ฝ่ายลาวยิงปืนใหญ่แม่น เพราะเขาทดลองระยะยิงทำแผนการยิงเรียบร้อยแทบครอบคลุมทุกตารางนิ้ว(เว่อร์ไป) พอเจอปุ๊บฝ่ายไทปุ๊บยิงหาผลได้เลย 

ผมว่าน่าจะเพราะฝ่ายโซเวียตคิวบาหรือเวียตนามมาเป็นเสธ.ให้เนี่ยแหละ

 

ที่ผมอยากรู้คือ ยุทธวิธีรบแบบ"ป้อมค่าย" หรือ"เกาะติดฐาน" ใครเป็นคนคิดค้น มีใครเคยนำมาใช้ก่อนหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีใครใช้มาก่อนเราอยู่ๆรบแล้วจะแพ้ ก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมามันก็น่าแปลกๆอยู่

 

แต่ก็ต้องยอมรับว่าทหารไทยเจ๋งจริง เพราะเวียดนามก็ใช่ย่อยรบติดๆกันมาหลายสมรภูมิกำหลังผีเข้า

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 13/12/2011 23:25:22


ความคิดเห็นที่ 22


ผมคิดว่าน่าจะเป็นลูกหลังนะ เพราะเป็นเนินที่สูงที่สุดในบรรดาเนินทั้งสามลูก เอ้อ ท่าน Athit  ครับ ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ เอ็มสตอร์ คงจะเป็น  M14 เวอร์ชั่นจีน ส่วนปิ่นโต ก็คงจะเป็น M16 ไม่ใช่ปืนนะครับ แต่เป็นกับระเบิดรุ่น M16 เวอร์ชั่นจีน ทหารพรานบางคนก็เรียก S16  เหอะๆ งงเหมือนกัน เพราะหลักการวางทุ่นระเบิด เค้าจะวาง เอ็ม14 3ลูกต่อ M16 1ลูกเป็นครึ่งวงกลม M16 อยู่ตรงกลาง จุดประสงค์คือ M14 อานุภาพไม่รุนแรง ผู้มาเหยียบจะแค่บาดเจ็บขาขาด แต่คนที่เข้ามาช่วยผู้ที่โดน M14 ก็อาจจะพลาดเหยียบ M16 เข้าซึ่งถ้าโดน M16 ไปเกิดใหม่ทั้งคู่แน่นอนครับ ทหารพรานค่ายปักธงชัย เคยโดนมาแล้วเพราะฟังจากครูทหารพรานเล่าให้ฟังเองกับปากครับ เดินไปอาบน้ำทุกวันหน้าแล้งไม่มีอะไร พอหน้าฝนมาเดินไปอาบน้ำทางเดิม เดินไปเดินมาพวกไปเหยียบ M14 เข้า ทหารพรานอีกคนวิ่งมาช่วยกลับไปเหยียบเอา M16 อีก ครูทหารพรานให้สโลแกนไว้ว่า   "ทหารบกทำ ทหารบกวาง ทหารพรานเหยียบ" 5555+ ตลกร้ายจริงๆ

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 13/12/2011 23:49:31


ความคิดเห็นที่ 23


เสริมบวกตอบท่าน  : toeytei  นะครับ ยุทธวิธีป้อมค่าย ทหารไทยเราเคยใช้ตอนเข้าตีเขาค้อครับ ซึ่งเขาค้อนั้นทหารไทยก็สูญเสียไปเยอะเหมือนกัน เฉพาะเขานี้ลูกเดียวตั้งแต่ตัดถนน จนยึดเนินเขาสูงสุดได้ทหารไทยเสียชีวิตไปร่วม 2400 กว่านาย ใครไปเยี่ยมไปเที่ยวเขาค้อก็เชิญชวนไปเที่ยวไปดูรูปภาพ และประวัติศาสตร์ รายชื่อนายทหาร และอาวุธสงคราม ได้ที่ศูนย์ผ่านศึกเขาค้อ ศูนย์พัฒนาลุ่มน้ำเข็ก ไกล้ๆกับวัดเขาค้อพัฒนาราม ครับ ถึงวัดเขาค้อพัฒนารามก็ไม่ไกลแล้วครับ พวกผมไปสนับสนุนที่นี้อยู่ครับ  ยุทธวิธีป้อมค่ายนี้คือขุดเป็นทางแล้วเข้าเกาะฐานข้าศึกนั้น เราเคยใช้ได้ผลที่เขาค้อ ทำให้เราสามารถตีฐานคอมมิวนีสบนเขาค้อได้เป็นผลสำเร็จครับ 

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 13/12/2011 23:55:28


ความคิดเห็นที่ 24


   อาวุธและยุทโธปกรณ์ของประเทศลาวในปัจุบัน ไม่รู้ว่าจะใช้งานได้สักกี่อย่าง โดยเฉพาะของสหรัฐอเมริกาที่ลาวยึดมาตอนรบกันภายในประเทศลาวในอดีต ซึ่งลาวฝ่ายที่เป็นคอมมิวนิสต์ชนะ  (ลอกเขามาอีกทีหนึ่ง)

Lao Peoples Army

Armor
• PT-76 light amphibious tank Soviet Union - 25 operational
• T-54 and T-55 main battle tank Soviet Union - 30 operational
• T-34/85 (Reserve?)
• BTR-60P Wheeled Amphibious Armored Personnel Carrier Soviet Union - 70 operational
• M113 United States
• BTR-40 Soviet Union
• BTR-152 (30) Soviet Union
• M8 Greyhound (25) United States

Weapons
• Makarov PM semi-automatic pistol Soviet Union
• TT-33 semi-automatic pistol Soviet Union
• CZ70 semi-automatic pistol Czechoslovakia
• AK-47 assault rifle Soviet Union
• AKM assault rifle Soviet Union
• SKS semi automatic carbine Soviet Union
• Type 56 assault rifle Peoples Republic of China
• PPSh41 submachine gun Soviet Union
• MAT-49 submachine gun France
• RPG-2 rocket propelled grenade launcher Soviet Union
• RPG-7 rocket propelled grenade launcher Soviet Union
• Type 69 RPG rocket propelled grenade launcher Peoples Republic of China
• Strela 2 (SA-7) surface to air missile system Soviet Union
• Igla 1 (SA-16) surface to air missile system Russia
• M16A1 assault rifle United States
• M60 machine gun United States
• RPD Light machine gun Soviet Union
• PK Light machine gun Soviet Union
• SG-43 Medium machine gun Soviet Union
• DShK heavy machine gun Soviet Union
• RP-46 Soviet Union

Artillery

Soviet Union PM-41 M1938 82mm mortar
Soviet Union M43 82mm mortar
Soviet Union M1938 107mm mortar
Soviet Union M43 120mm mortar
Soviet Union M43 160mm mortar
Soviet Union M-46 130 mm towed field gun
Soviet Union D-30 122 mm howitzer
United States M101 howitzer (USA)
United States M114 155mm howitzer
United States M116 75mm packgun
United States M1 81mm mortar
United States M-2A1 107mm mortar


Anti-Tank

Soviet Union ZIS-3 76mm gun
Soviet Union B-11 107 mm Recoilless gun
Soviet Union AT-3 Sagger
United States M-40 106 mm Recoilless gun
United States 57mm: M-18/Al
United States 75mm: M-20


Anti-Aircraft

Soviet Union 61-K 37 mm Air defense gun
Soviet Union ZU-23-2 23 mm towed anti-aircraft gun
Soviet Union ZSU-23-4 23 mm self propelled anti-aircraft gun
Soviet Union Lavochkin SA-2 Guideline surface-to-air missile system
Soviet Union Isayev SA-3 Goa surface-to-air missile system
Soviet Union ZPU-1
Soviet Union ZPU-4
Soviet Union S-60 57 mm towed anti-aircraft gun

อันนี้เป็นข้อมูลของอากาศยานที่ใช้งานในกองทัพของของประเทศลาวในปัจจุบัน

Lao Peoples Liberation Army Air Force

Antonov An-24 Coke Soviet Union transport An-24 3
Antonov An-2 Colt Soviet Union utility An-2 10
Yakovlev Yak-40 Codling Soviet Union trainer Yak-40 2
Kamov Ka-32 Helix Soviet Union multirole helicopter Ka-32T 6
Mil Mi-6 Hook Soviet Union utility helicopter Mi-6 1
Mil Mi-8 Hip Soviet Union transport helicopter Mi-8 9
Mil Mi-17 Hip-H Russia transport helicopter Mi-17 12
Harbin Z-9 China utility helicopter Z-9 1

แซด9 1ลำ!! พึ่งทราบว่าเขาไปสอยมาด้วย อีกอย่างที่ถอยใหม่ก็คือ Igla 1 (SA-16) จรวดประทับบ่าต่อสู้อากาศยานจากรัสเซียครับ

 

โดยคุณ Athit เมื่อวันที่ 14/12/2011 01:00:52


ความคิดเห็นที่ 25


ยุทธวิธี เกาะติดฐาน เราใช้มาตั้งแต่สมัยสู้กับ ผกค. แล้วครับ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แม้แต่การรบที่ช่องบกกับเวียดนาม เจอวิธีนี้เข้าไป เวียดนามก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 14/12/2011 03:57:26


ความคิดเห็นที่ 26


สมัยนั้นแถวบ้านผมไม่มีทีวีเลยครับ มีแต่วิทยุ ทานิน 1 เครื่องที่บ้านยาย(ผมอยู่อุบลฯ) ตอนนนั้นผมยังเด็กมากไม่สนใจอะไร มีแต่พวกน้าผู้ชายที่ไปเป็นทหารเกณฑ์เล่าให้ฟังว่าเรารบกับลาว แต่ผมก็ไม่สนใจอะไร และเวลากลางวันจะได้ยินเสียงเครื่องบิน F-5 (สมัยนั้นผมเรียกว่าจรวด) จนผมมาเรียนที่โคราชได้ไปอ่านหนังสือพิมพ์เก่าๆถึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงและก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับบ้านร่มเกล้าชื่อหนังสืออะไรจำไม่ได้ คลับคล้ายคลับคลาว่า วีรบุรุบ้านร่มเกล้า ประมาณนี้  ที่สำคัญมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมจำได้ดีและติดตาคือ(อันนี้ไม่เกี่ยวกับการรบที่บ้านร่มเกล้าแต่อยากเล่าให้ฟัง) ประมาณปี 2526 (อันนี้ผมคิดย้อนจากตอนที่เข้าเรียน ป.1)เป็นช่วงที่ยัง ผกค.อยู่ผมกับพ่อและน้องกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่กระท่อมตอนเที่ยง มีกลุ่มคนประมาณ 5-7คนมีปืนมาด้วยใส่ชุดเหมือนทหาร...เขามาถามพ่อผมว่าทางไปศรีษะเกษ ไปทิศไหน(เขาถามแค่ทิศทาง)พ่อผมบอกไปทิศใต้แล้วมีคนหนึ่งยกปืนขึ้นทำท่าเหมือนจะยิงแล้วพูดว่า อย่าไปบอกใครว่าเห็นพวกเขาถ้าบอกเขาจะกลับมาจัดการให้หมด ผมกลัวมากแต่ก็ไม่ได้ร้องอะไร พอพวกนั้นไปพ่อเรีบยพากลับบ้านแล้วพากันไปอยู่ที่บ้านปู่ซึ่งอยู่อีกอำเถอหนึ่ง บอกก่อนนะครับเมื่อ 24-25 ปีที่แล้วแถวบ้านผมมีแต่ป่ามีแค่ทางเกวียนสำหรับไปมาหาสู่แต่ละหมู่บ้านแล้วกลุ่มบ้านที่ผมอยู่มีอยู่ 3 หลังอยู่กลางป่า แต่เดี๋ยวนี้เหลือแต่ตอกับป่าละเมาะ และบ้านเรือนตรึม มีรถกระบะทุกบ้าน

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 14/12/2011 06:49:44