กองทัพเรือสหรัฐฯเริ่มใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ

กองทัพเรือสหรัฐฯอิงกระแสเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มนำเชื้อเพลิงชีวภาพมาใช้กับเรือรบและเครื่องบินของกองทัพ

เมื่อไม่นานมานี้ กองทัพเรือสหรัฐฯได้ตกลงเซ็นสัญญามูลค่า 12 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 360 ล้านบาทกับบริษัทโซลาไซม์ (Solarzyme) และไดนามิก ฟูเอล (Dynamic Fuel) เพื่อซื้อเชื้อเพลิงชีวภาพจำนวน 450,000 แกลลอน มาใช้กับเรือรบและเครื่องบินของกองทัพบางส่วน ที่จะออกปฏิการบริเวณหมู่เกาะฮาวายในปีหน้า โดยสัญญาซื้อขายครั้งนี้นับเป็นการสั่งซื้อเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีมูลค่าสูง สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ

ทางกองทัพเปิดเผยว่า เชื้อเพลิงชีวภาพดังกล่าว ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ผลิตได้ภายในประเทศจากสาหร่าย ไขมันสัตว์ และน้ำมันเหลือใช้จากการประกอบอาหาร จะถูกผสมกับน้ำมันปิโตรเลียมในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง เพื่อเติมให้กับเรือรบและเครื่องบินบางส่วนที่ใช้พลังงานปิโตรเลียม โดยกล่าวว่าการที่กองทัพฯเลือกใช้เชื้อเพลิงชีวภาพแทนพลังงานที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมชนิดอื่น เนื่องจากเชื้อเพลิงชีวภาพเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ระบบเผาไหม้แบบเดียวกับ น้ำมันปิโตรเลียม ทำให้ไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และเทคโนโลยีของยานพาหนะในกองทัพ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองงบประมาณและเวลาเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงชีวภาพยังคงไม่ใช่แหล่งพลังงานหลักของกองทัพสหรัฐฯ โดยการสั่งซื้อเชื้อเพลิงครั้งนี้ นับเป็นสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 1 ของปริมาณการบริโภคเชื้อเพลิงของกองทัพเรือ ซึ่งมีจำนวนมากถึง 1,260 ล้านแกลลอนต่อปี นอกจากนี้ เรือรบขนาดใหญ่ของสหรัฐฯเกือบทั้งหมด ยังคงใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นหลัก ถึงแม้ว่าทางกองทัพเรือสหรัฐฯจะมีเป้าหมายในการใช้พลังงานหมุนเวียนแทนเชื้อ เพลิงปิโตรเลียม ให้ได้ในสัดส่วนร้อยละ 50 ภายในปี 2563 ก็ตาม

ทั้งนี้ การหันมาใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตได้ภายในประเทศของกองทัพสหรัฐฯในครั้ง นี้ ไม่ได้มาจากเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง คือทางกองทัพต้องการลดการพึ่งพิงเชื้อเพลิงปิโตรเลียม ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งมีสัมพันธภาพไม่ดีนักกับสหรัฐฯ การที่กองทัพของสหรัฐฯหันมาให้ความสำคัญกับการใช้เชื้อเพลิงที่ผลิตได้ใน ประเทศ อย่างเชื้อเพลิงชีวภาพและพลังงานแสงอาทิตย์ จึงไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเสริมสร้างความมั่นคงทางการทหารให้แก่ประเทศได้อีกด้วย

http://news.voicetv.co.th/global/25369.html