http://youtu.be/GEapdc1lz5o
ข้อมูลจากข่าว 3 มิติ ทางช่อง 3 ครับดูได้จากลิงค์ครับ
มาตั้งแต่ล๊อดแรกแล้วครับผม...
นี่ผมไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ย ท่าน เสือใหญ่ และ ท่าน Civil2514
โอ้ว!!!
ข้อมูลเกี่นวกับ IRIS-T มากๆเลยครับ ภาษาไทย
http://www.apd5rtaf.org/pdf/IRIS-T.pdf
ฮ่าๆๆ ตามนั้นเลยครับท่าน
นี่ผมกำลังฝันถึงเมทิเออร์ที่ท่าน ผบ. ทอ. กล่าวไว้ในบทความในหนังสือสารคดีอยู่ครับ
ท่านพูกถึงการมีไว้ประจำการในอนาคตอันใกล้
สรุปว่า ซื้อกริเป้น ได้มันทั้ง IRIS-T, เมทิเออร์ และก็ RBS-15 แถมยังใช้ได้กับแอมแรม
และไซด์ไวน์เดอร์ที่มีมีอยู่แล้ว คุ้มจริงๆ ครับดีลนี้
ไม่แปลกใจครับที่เห็นมาเลฯ ขอซื้อ "ไซด์ไวน์เดอร์เอ็กซ์" ให้กับ เอฟ-18ดี ก็เพื่อนบ้านทั้งบนทั้งล่าง
ต่างก็มีของดีไว้ใช้งานแล้ว ตัวเองอยู่เฉยๆ ท่าจะไม่ได้การ ลำพังเครื่องมิกเครื่องซูของตน อาวุธก็มีพอตัวอยู่แล้ว
แต่กับ ฮอร์เน็ตดี มีแต่สแปโรว์ และไซด์ไวน์เดอร์เอ็ม ดูมันจะด้อยกว่าของเพื่อนบ้านมางเหนืออยู่ไม่น้อยครับ
แล้วหมวกคอบร้าละ
เห็นด้วยกับคุณเสือใหญ่ ดีลนี้ทางกองทัพอากาศมองได้ขาด เพราะคุ้มค่ามาก เป็นประโยชน์กับประเทศจริงๆ อาวูธทันสมัย การป้องกันภัยทางอากาศมาเป็นระบบ เมธิเออร์เมื่อพร้อม เราก็สามารถนำเข้าประจำการได้ทันที สามารถปรับปรุงและพัฒนาอาวุธ เครื่องบิน ระบบต่างๆได้เอง
IRIS-T จะมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ถ้ามีหมวก คอบร่า อีกทั้งหมวกประเภทนี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทั่วไปสำหรับเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ไปแล้ว ขนาด F-5T ยังมีหมวกแด้ชใช้งาน โดยส่วนตัวผมมีลางสังหรณ์ที่คิดว่าความเชื่อของผมไม่พลาด
ขอถามในนี้นะครับ ว่า F-5 ณ.ตอนนี้มีรุ่นไหนที่ถือว่าปรับปรุงให้ทันสมัยมากที่สุด ดีและมีประสิทธิภาพในการรบสูงสุด เป็นของประเทศอะไรครับ
F-5T ของเรา ส่วนตัวยังคิดว่าไม่ใช่ ไม่รู้ซิ ^^
ลองไปค้นๆดู เจอที่วิกิ คิดว่าน่าจะเป็นของสิงคโปร์ เห็นบอกว่าติด AIM-120ได้ด้วย
F-5 ถือกำเนิดจากโครงการของบริษัทนอร์ทธรอปที่ทำวิจัยและพัฒนาเครื่องบินขับไล่ที่มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูงภายใต้โครงการ N-156F แม้ว่ากองทัพอากาศสหรัฐจะไม่ได้ให้ความสนใจในเครื่องบินขับไล่ขนาดเล็ก แต่เจ้าหน้าที่ในโครงการช่วยเหลือทางทหารของประธานาธิปดี จอห์น เอฟ เคนเนดี เห็นถึงศักยภาพที่เครื่องบินในโครงการ N-156F ที่จะสามารถเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาที่พันธมิตรของสหรัฐได้จัดหา เครื่องบินขับไล่ประสิทธิภาพสูงที่มีราคาไม่แพง รัฐบาลสหรัฐจึงได้เลือกเครื่องบินในโครงการ N-156F มาพัฒนาจนกลายเป็น F-5A Freedom Fighter ซึ่งถือเป็น F-5 รุ่นแรกของโลก และส่งมอบหรือขายให้กับพันธมิตรชาติต่าง ๆ ทั่วโลก
ต่อมาในช่วงปี 1970 บริษัทนอร์ทธรอปได้รับชัยชนะในโครงการเครื่องบินขับไล่นานาชาติรุ่นปรับปรุง (Improved International Fighter Aircraft) เพื่อทดแทน F-5A โดยกองทัพอากาศสหรัฐกำหนด ชื่อรุ่นเป็น F-5E Tiger II สำหรับรุ่นที่นั่งเดี่ยว และ F-5F Tiger II สำหรับรุ่นสองที่นั่ง โดยมีการปรับปรุงที่สำคัญคือ เพิ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคทางการบินที่ทันสมัย ติดตั้งเรด้าร์แบบ AN/APQ-153 ซึ่งมีระยะตรวจจับราว 25 กิโลเมตร (ในรุ่น A และ B ไม่ได้รับการติดตั้งเรด้าร์) ส่วน F-5F ก็ได้รับการติดตั้งปืนกลแบบ M39 ภายในลำตัว (ในรุ่น B ไม่ได้รับการติดตั้งปืนกล) นอกจากนั้นยังได้พัฒนา RF-5E ที่ติดกล้องถ่ายภาพเพื่อใช้ในภารกิจตรวจการณ์อีกด้วย
F-5 ถือเป็นหนึ่งในเครื่องบินขับไล่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศค่าย ประชาธิปไตย โดยมีผู้ใช้งานเกือบ 20 ประเทศ และมียอดการผลิตสูงกว่า 2 พันลำ ในปัจจุบันยังมีกองทัพอากาศหลายชาติที่ยังประจำการด้วย F-5 อยู่ หลายชาติเลือกที่จะทำการปรับปรุงเครื่องบินของตนที่ยังบินได้เพื่อที่จะยืด อายุการใช้งานออกไปให้นานที่สุด เช่นกองทัพอากาศบราซิลและกองทัพอากาศชิลีได้ว่าจ้างบริษัทอิลบิทของอิสราเอลให้ทำการปรับปรุง F-5E/F ของตนเป็น F-5EM และ F-5E/F Tiger III ตามลำดับ ซึ่งมีความสามารถในการติดตั้งจรวดนำวิถีจากอิสราเอลทั้งดาร์บี้และไพธอน-4 กองทัพอากาศสิงคโปร์ก็ได้ปรับปรุง F-5E/F ของตนโดยเปลี่ยนเรด้าร์ ระบบอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับปีก โดยกำหนดชื่อเป็น F-5S/T ซึ่งมีความสามารถในการใช้จรวดแบบ ไพธอน-4 และ AIM-120 แอมแรม ได้ สำหรับกองทัพอากาศไทยได้ดำเนินการว่าจ้างบริษัทอิลบิทให้ทำการปรับปรุง F-5E/F ในฝูงบิน 211 อุบล ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถติดตั้งจรวดไพธอน-4ได้ โดยกองทัพอากาศไทยกำหนดชื่อเรียกว่า F-5T Tigres
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9F-5